ตอนที่ 21
ดุจแพรถูกเอาไปขังไว้ในห้องเดียวกับดวงแข เธอถูกดวงแขที่เสียสติคุกคามอย่างน่ากลัวตลอดเวลาแต่ทำอะไรเธอไม่ได้เพราะติดโซ่ที่ล่ามเท้าอยู่
นอกจากดวงแขจะเสียสติร้องหวาดกลัวตลอดเวลาอย่างน่าเวทนาแล้ว เธอยังถูกโหงวสั่งลูกน้องให้กระหนาบ เธอไม่ให้เอะอะโวยวาย เธอจึงถูกทุบตีอย่างทารุณ
“แย่หน่อยนะคุณหนูที่ต้องมาอยู่กับนังบ้าในนี้” โหงวเอ่ยกับดุจแพร
“หยุดเถอะ อย่าไปทำร้ายเธอเลย เขาสติไม่ดี เขาไม่รู้เรื่องหรอก” ดุจแพรขอร้องด้วยความสงสารดวงแข
โหงวหัวเราะบอกเธอว่าห่วงตัวเองดีกว่า เน้นย้ำว่า
“ถ้าไม่อยากเห็นพ่อตัวเองถูกมานพปิดบัญชี คุณหนูควรคิดถึงข้อเสนอของมานพ”
“ไม่!! ฉันไม่มีวันยอมให้คนเลวๆอย่างมันมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”
โหงวหว่านล้อมว่าตนได้คุยกับมานพแล้วว่ากับผู้หญิงดีๆก็ควรจะต้องให้เกียรติไม่ควรทำระยำไม่เห็นค่า เมื่อชอบเธอก็ควรจะจัดการทุกอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราว
“ฝันไปเถอะว่าฉันจะยอมแต่งงานกับมัน”
“ก็ตามใจนะครับ...ตอนนี้คุณหนูอาจจะยังหยิ่งจองหอง แต่หลังจากพรุ่งนี้พอมานพมันเอาศพพ่อคุณมาให้ดู คุณหนูจะต้องเสียใจที่ทำเรื่องง่ายๆให้กลายเป็น เรื่องยาก” พูดแล้วโหงวหันไปสั่งลูกน้องที่ทุบตบตีดวงแข “พอแล้ว”
ลูกน้องโหงวหยุดและเดินออกไปกับโหงว ทิ้งให้ดวงแขนอนขดตัวกลมร้องครวญครางน่าเวทนา ดุจแพรทั้งสงสารดวงแขและเครียดเรื่องของตัวเอง
โหงวออกมาเจอมานพ เขาปรี่เข้ามาถาม “ว่าไง” โหงวบอกให้ใจเย็นๆตนกล่อมให้แล้วแต่ควรให้เวลาเธอตัดสินใจ เพราะการบังคับยังไงก็สู้ให้เธอเต็มใจไม่ได้
“ได้ครับเตี่ย...งั้นผมไปเตรียมเปิดศึกใหญ่กับพวกมันแล้วกัน” มานพเดินออกไปอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ
ระหว่างนั้นลูกน้องที่โหงวให้ไปซ้อมดวงแขคลำที่เอวตัวเองวุ่นวาย พอโหงวถามว่าหาอะไรก็ปดว่าเปล่า
ที่แท้ปืนของมันถูกดวงแขเอาไปตอนที่มันไปทำร้ายเธอ และดวงแขก็เอาปืนนั้นออกมาจ่อขู่จะยิงดุจแพรแต่จู่ๆ ก็ลดปืนลง มองปืนทั้งหัวเราะและร้องไห้ พร่ำแต่จะฆ่าพวกเลวๆตายให้หมด...
ooooooo
หยกไปหากิ่งเหมยที่ดาดฟ้า เธอถามว่ามีเรื่องอะไร หรือทำไมเสี่ยตงจึงต้องรีบให้เขาพาดุจแพรกลับไป
“คุณแพรตกเป็นเป้าปองร้าย เสี่ยก็เลยรีบให้ฉันพากลับไป” กิ่งเหมยถามว่าแล้วดุจแพรปลอดภัยหรือเปล่า “ปลอดภัยสิ ตอนนี้คุณแพรอยู่กับเสี่ยตงและกำลังเตรียมจะบินไปต่างประเทศแล้ว”
หยกพูดให้เธอสบายใจแล้วกอดหยอกล้อเปลี่ยนความสนใจ กิ่งเหมยเขินบอกให้ปล่อย หยกอ้อนขอกอดไว้อย่างนี้สักพักได้ไหม เธอยอมให้กอดแค่นับหนึ่งถึงสิบ แล้วก็เริ่มนับเร็วจี๋
กิ่งเหมยแกล้งนับรัวจนครบสิบ แต่หยกก็ยังกอดเธอไว้นิ่งเหมือนต้องการซึมซับความรักต่อกันให้มากที่สุด...
ระหว่างนั้น อ่างกับสลึงหิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาเพราะหยกชวนให้มาทำสุกี้กินกัน ส้มเช้งร้องเรียกทั้งสองแต่ไม่มีเสียงตอบ ถามกันว่าหายไปไหน สลึงทำหน้ากรุ้มกริ่ม บอกว่า “อยู่ข้างนอก...”
ทั้งสามพากันไปแอบดูหันหัวเราะกันคิกคัก แต่พอมองไปอีกทีก็มองหน้ากันอึ้งเพราะหยกกับกิ่งเหมยหายไปแล้ว...
หยกพากิ่งเหมยไปซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ ให้เธอกอดเขาไว้แล้วขี่รถออกไปอย่างสวยงาม...
ooooooo
คืนนี้ เล้งเข้าไปในห้องบูชาบรรพบุรุษ เขายืนมองภาพถ่ายของบรรพบุรุษและคนในตระกูลที่จากไปด้วยแววตามุ่งมั่น ก่อนคุกเข่าลงจุดธูปกราบไหว้...
ธงรบมาเจอนนท์ ถามว่าเจ้าสัวไปไหน พอรู้ว่าเข้า ไปกราบไหว้บรรพบุรุษและทุกคนที่หลั่งเลือดไปเพื่อตระกูลมังกรวารี ธงรบก็คาดการณ์ได้ว่า “แสดงว่าเจ้าสัวรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพรุ่งนี้”
“ถ้าแกรู้แล้วแกก็ควรไปเตรียมตัว” นนท์เตือน
“ไม่ต้องเตือนฉันหรอก ไอ้ฉันมันตัวคนเดียว... แกนั่นแหละที่ควรจะไปบอกลูกน้องของเจ้าสัวทุกคนว่า คืนนี้ควรกลับไปอยู่กับลูกเมีย กลับไปตักตวงความสุขไว้ให้มากที่สุด เพราะพอพรุ่งนี้มาถึง โชคอาจจะไม่เข้าข้างให้ได้กลับไปเจอคนรักอีก”
ธงรบตบบ่านนท์มองหน้ากัน นนท์พยักหน้าเห็นด้วย แต่พอธงรบเดินไปจะขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่ มือถือก็ดังขึ้น เขามองโทรศัพท์สีหน้าแปลกใจก่อนรับสาย
“ครับ...ผมธงรบ...โรงพยาบาลเหรอครับ...”
ooooooo
หยกพากิ่งเหมยซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตามถนนเหมือนจะซึมซับความสุขจากเวลาที่ยังเหลืออยู่ให้ เต็มอิ่ม...
แม้กิ่งเหมยจะมองไม่เห็น แต่หยกก็พาเธอไปจุดพลุที่ริมน้ำ จนถูก รปภ.มาไล่ว่าห้ามจุดพลุตรงนี้ หยกเลยพากิ่งเหมยวิ่งหนีออกมา
เมื่อพากิ่งเหมยกลับมาถึงตรอกศาลเจ้า หยกถาม
ว่าคืนนี้สนุกไหม ปรากฏว่ากิ่งเหมยซบกับหลังเขาหลับ
ไปแล้ว หยกจึงต้องอุ้มเธอเข้าบ้าน พาไปนอนที่เตียง กุมมือเธอไว้ นั่งมองเหมือนจะให้ดวงหน้านี้ตราตรึงในหัวใจตลอดไป...
“หยก...ฉันอยากมองเห็นหน้าเธออีกครั้งจังเลย” กิ่งเหมยละเมอออกมา
หยกก้มลงหอมหน้าผากเธอเบาๆ กระซิบบอกอย่างมีความหวังว่า...
“ฝันของเธอต้องเป็นจริงสักวันแน่นอนกิ่งเหมย...และวันที่เธอลืมตาขึ้นมาเห็นได้อีกครั้ง ฉันจะอยู่ตรงหน้าเธอ เพื่อให้เธอเห็นเป็นคนแรก...”
ooooooo
ที่บ้านเสี่ยตง...เสี่ยบรรจุกระสุนปืนใส่แมกกาซีน ทีละนัด...ทีละนัด ส่วนตาก็มองที่ภาพถ่ายของตัวเองกับดุจแพรอย่างปวดร้าว...
เก่งเข้ามารายงานว่า “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับเสี่ย ผมได้พวกที่พร้อมจะลุยกับเรามาเพิ่มด้วย อาจจะไม่มาก แต่ฝีมือมันก็ช่วยเราได้เยอะ”
“แล้วไอ้หยกล่ะ...มันรับปากฉันแล้ว ถ้ามันไม่โผล่มาฉันจะตามไปยิงกบาลมันก่อน”
“ผมเป็นลูกผู้ชายพอ รับปากใครแล้วก็ต้องคำนั้น” หยกโผล่มาพอดี เสี่ยมองหยกยิ้มพอใจ ไสปืนบนโต๊ะไถลไปตรงหน้า หยกหยิบปืนขึ้นมองหน้าเสี่ยสีหน้าจริงจัง เสี่ยยิ้มพอใจ พูดอย่างมั่นใจ...
“ถ้าได้แกลุยไปกับฉันด้วย...ฉันถึงมั่นใจว่าพวกมันต้องโดนฉันถล่มให้ราบเป็นหน้ากลอง”
เวลาเดียวกัน...ที่คฤหาสน์เล้ง เล้งหยิบหยกเลือดมังกรครึ่งชิ้นที่ได้มาจากคมทวนขึ้นมองแน่วนิ่ง พูดกับหยกชิ้นนั้น
“พราวแสง...หยกชิ้นนี้อยู่ติดตัวเธอมาตลอดจนเธอหมดลมหายใจ นั่นหมายความว่า ลึกๆแล้วเธอก็ยังไม่ลืมฉัน...ฉันหวังว่า เธอจะเป็นกำลังใจให้ฉันยุติปัญหานี้ให้ได้ แต่ถ้าฉันทำพลาดขึ้นมา...ฉันก็จะตามไปอยู่กับเธอที่ปรโลก...”
พูดแล้วเล้งเอาหยกเลือดมังกรชิ้นนั้นสวมคอเป็นขวัญกำลังใจ ส่วนอีกครึ่งชิ้นนั้น เก็บอยู่ในลิ้นชัก
“คนของเราพร้อมแล้วครับเจ้าสัว” นนท์เข้ามาบอก มีธงรบตามมาติดๆ
เล้งหยิบปืนสอดไว้ในเสื้อสูท เดินเข้าไปหาธงรบ บอกเขาว่า
“นี่เป็นการจบปัญหาของฉันกับมานพ ถ้าหมวดจะถอนตัวเพราะไม่อยากเสี่ยง ผมก็ไม่ว่าอะไร”
“ผมทำงานรับใช้เจ้าสัว ถ้าเจ้าสัวคิดจะลุย ผมก็ต้องลุยด้วยอยู่แล้ว”
“งั้นหมวดคงต้องระวังตัวเองด้วย เพราะงานนี้ต้องพึ่งฝีมือตัวเองกันทุกคน”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมเอาตัวรอดได้แน่”
เล้งพยักหน้าแล้วเดินออกไปกับนนท์ ธงรบมองตาม เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง...
ก่อนที่จะมาพบเล้ง ธงรบไปเยี่ยมสมิงที่โรงพยา-บาล รู้จากหมอว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้สมิงเริ่มมีการ
ตอบสนองขึ้นบ้างแต่เป็นช่วงสั้นๆแล้วอาการก็กลับเหมือนเดิมอีก
ธงรบถามว่า ตนยังพอมีความหวังอยู่หรือเปล่า หมอมองหน้าเขาพูดอย่างหนักใจ...
“หมอตอบคุณได้ยากจริงๆครับ ผู้การเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ผมเองก็อยากให้มีปาฏิหาริย์”
“ครับ...ผมเข้าใจ บางทีเราก็พึ่งอะไรไม่ได้นอกจากต้องพึ่งปาฏิหาริย์ งั้นถ้าผมจะขออยู่กับผู้การสักครู่ได้ไหมครับ”
เมื่อหมอออกไป ธงรบเข้าไปยืนข้างเตียง เขามองสมิงผู้เป็นอาอย่างหนักใจ เอ่ยกับอาที่นอนนิ่ง...
“ผมรู้ว่าคนอย่างอา ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ และคิดว่าอากำลังสู้เพื่อที่จะได้กลับมา แต่นี่มันนานเกินไปแล้วนะครับอา...ถ้าอาไม่กลับมาช่วยผมกับไอ้หยก งานนี้เราคงได้เจอกันอีกทีก็บนสวรรค์โน่น...”
ธงรบก้มลงพูดข้างหูผู้เป็นอาว่า...
“ที่ผมรับปากอาไว้ ผมคงต้องขอโทษด้วย ผมไม่อยากให้ไอ้หยกมันหมดอนาคต ผมจะแก้แค้นพวกมันให้อา และจะปลดแอกไอ้หยกให้พ้นจากวังวนของพวกอาชญากรเลวๆพวกนี้เสียที”
พูดแล้วถอยออกมายืนมองสมิงแน่วนิ่งก่อนเดินออกไป
ooooooo
ที่ลานตู้คอนเทนเนอร์...เล้งเดินนำหน้าทุกคนก้าวออกไปยืนอย่างพญามังกร ประกาศเตือนสติทุกคน...
“ฟังฉันให้ดี ฉันรู้ว่าพวกเราหลายคนมีความแค้นที่เห็นพวกเราโดนฆ่ากันไปต่อหน้าต่อตา แต่ความแค้นที่มาพร้อมกับความกระหายอยากจะตอบโต้ มันไม่ได้ช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่จะทำให้เลือดนองพื้นอย่างไม่จำเป็น จงมีสติและรอคำสั่งจากฉัน!!”
ทุกคนเฮรอรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง ธงรบเดินเข้าไปพูดกับเล้งเบาๆ
“เจ้าสัวครับ...พวกมันนัดเจ้าสัวมาที่นี่ ผมว่าจะทำให้เราตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ ผมอยากไปสำรวจดูแถวนี้หน่อย”
เมื่อเล้งพยักหน้า ธงรบเดินไปปีนขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่สูงสุด สามารถมองเห็นทุกคนด้านล่างได้ชัดเจน เขาลงมือประกอบปืนสไนเปอร์ติดลำกล้องอย่างใจเย็น ประกอบเสร็จ เขาเล็งผ่านลำกล้องกวาดไปทั่วเช็กความพร้อมก่อนจะหยุดเป้าในลำกล้องที่เล้ง!
ooooooo
เสี่ยตงนำกำลังมาจอดรถหน้าเล้านจ์ ส่งสัญญาณมือให้เก่งกับลูกน้องอ้อมเข้าไปทางหนึ่ง ส่วนหยกไปอีกทาง
“ช่วยลูกสาวฉันออกมาให้ได้ ถ้าพวกมันคิดจะสู้ก็ยัดลูกปืนใส่กบาลมันให้หมด” เสี่ยสั่งหยก
“เสี่ยรออยู่ข้างนอกนี่แหละ เดี๋ยวผมจะพาคุณแพรออกมาเอง”
“ขอบใจแกมากไอ้หยก” เสี่ยตงยิ้มร้ายที่จะได้เล่นงานพวกพยัคฆ์เมฆาและชิงตัวดุจแพรกลับมา
ขณะหยกลอบเข้าไปในเล้านจ์นั้น มือถือสั่นขึ้น หยกหยิบขึ้นดูเป็นเบอร์ของธงรบ
“แกอยู่ไหนแล้วไอ้หยก” ธงรบถามขณะที่ตัวเองยังประจำอยู่ที่เดิม
“ผมมากับเสี่ยตงกำลังหาทางช่วยคุณแพรอยู่ครับ แล้วทางหมวดล่ะครับ”
“อีกไม่นานพวกมันต้องได้เผชิญหน้ากันแน่ ถ้าแกช่วยคุณแพรได้แล้วก็รีบพาคุณแพรหนีไปเสีย แล้วปล่อยให้ไอ้ตงมาลุยกับพวกมันที่นี่” หยกนิ่งไปก่อนถามว่าหมวดคิดจะทำอะไร “ถ้าไอ้พวกตัวใหญ่ๆตายพร้อมกันทีเดียว ก็เท่ากับฉันได้แก้แค้นให้ผู้การและช่วยปลดแอกแกให้เป็นอิสระจากวงจรอุบาทว์พวกนี้เสียทีไง”
หยกชะงัก แต่พอจะถามต่อธงรบก็ตัดสายไปแล้ว หยกใจไม่ดีไม่อยากให้ธงรบทำแบบนั้น แต่ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นในเล้านจ์ เก่งกับลูกน้องยิงต่อสู้กับลูกน้องพยัคฆ์เมฆาที่รู้ตัวว่าถูกบุก
หยกรีบวิ่งเข้าไปตามเสียงที่ปะทะกัน ถูกลูกน้องพยัคฆ์เมฆาคนหนึ่งโผล่มาเล่นงาน ถูกหยกใช้เชิงมวยจัดการมันได้ไม่ยาก อีกคนโผล่มาพร้อมมีดสั้น หยกเกือบพลาด ดีแต่เก่งโผล่มาช่วย ร้องบอกหยกว่า
“ฉันรับมือพวกมันทางนี้เอง แกรีบเข้าไปตามหาคุณหนู”
ooooooo
กิ่งเหมยสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องกับหยก เพราะพระที่วัดเตือนว่าดวงของหยกกำลังมีเคราะห์ เล่าให้ส้มเช้งกับคมทวนที่ไปเพิ่งกลับจากวัดด้วยกันฟังว่า
“เหมยสงสัยหยกตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ดูเขาอารมณ์ดี แล้วก็อยากเอาใจจนผิดสังเกต” ส้มเช้งติงว่าหยกก็เอาใจเธอแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “แต่หยกพูดกับฉันแปลกๆ จริงๆนะ...เมื่อคืน...หยกทำเหมือนกับว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกันจะไม่มีอีกแล้ว”
คมทวนนิ่งคิด บอกกิ่งเหมยว่าหยกคงอ้อนให้เธอสงสารเท่านั้น แต่ตัวเองกลับกังวลจนเอ่ยปากฝากส้มเช้งให้ดูแลกิ่งเหมยแล้วออกจากบ้านไปด้วยความเป็นห่วงหยก
ที่เล้านจ์...หยกตามหาดุจแพรไปตามห้องต่างๆ ถูกลูกน้องพยัคฆ์เมฆาลอบยิงแต่ก็หลบทันและเล่นงานมันจนสลบ ส่วนอีกคนถือมีดโถมเข้าเล่นงาน หยกพลาดท่าถูกมันแทงเข้าที่สีข้างอย่างจัง แม้จะบาดเจ็บแต่หยกก็เล่นงานมันสลบ เอามืออุดบาดแผลที่สีข้าง รีบออกตามหาดุจแพรต่อไป
ในห้องพักที่ขังดุจแพรกับดวงแข ดวงแขกำลังคลั่งยกปืนเล็งไปรอบๆ ประกาศจะฆ่าผู้ชายเลวๆทุกคน บางครั้งเล็งมาทางดุจแพร พอเธอตกใจกลัว ดวงแขบอกว่าตนไม่ฆ่าผู้หญิง ดุจแพรทำใจกล้าเอ่ยขอปืนสัญญาว่าจะพาเธอหนี ขณะดวงแขจะส่งปืนให้ ลูกน้องพยัคฆ์เมฆาคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาบอกเธอว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วต้องรีบหนี พลางเข้าฉุดเธอ
ดุจแพรไม่ยอมไปกับมันเลยถูกมันชกจนจุก แล้วจะลากเธอออกไป ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ลูกน้องพยัคฆ์เมฆาคนนั้นสะดุ้งเฮือกเลือดทะลักออกกลางหลัง
ฝีมือดวงแขนั่นเอง! ยิงแล้วเธอระเบิดหัวเราะ “ตาย...ผู้ชายชั่วๆต้องตายให้หมด...ฮ่าๆๆ” แล้วเดินเข้าไปจ่อยิงมันซ้ำจนตาย
ประตูห้องเปิดอยู่ ดุจแพรตัดสินใจวิ่งออกไป มีมือหนึ่งยื่นมาแตะไหล่จนเธอผวาเฮือก หันไปกลายเป็นหยก เธอโผกอดเขาดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หยกกอดเธอไว้ปลอบ...
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับคุณแพร...คุณปลอดภัยแล้ว”
ooooooo
เสี่ยตงกำลังสำแดงสมญานาม “หมาบ้าตง” บุกถล่มเล้านจ์จนเละเทะ ลูกน้องพยัคฆ์เมฆาคนหนึ่งถูกลากคอมา เสี่ยตงจ้องจิกอย่างดุร้าย
“เจ้านายของพวกลื้อมันประมาทคนอย่างไอ้หมาบ้าตงเกินไป อย่าคิดว่าอั๊วลอบกัดไม่เป็น เพราะนี่แหละคืองานถนัดที่ทำให้อั๊วขึ้นมายิ่งใหญ่ได้เว้ย!” สิ้นเสียงก็ยิงแสกหน้ามันตายคาที่ เสี่ยหัวเราะอย่างบ้าคลั่งถาม “แล้วลูกสาวฉันล่ะ”
พอดีหยกพาดุจแพรเข้ามา สองพ่อลูกโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ หยกยืนหน้าซีดเพราะบาดเจ็บและเสียเลือด มาก แต่พยายามไม่ให้ใครรู้
เสี่ยถามดุจแพรว่าพวกมันทำอะไรหรือเปล่า เธอบอกว่าเปล่าแต่ถูกขู่ว่าถ้าไม่ยอมแต่งงานกับมัน มันจะฆ่าป๋าและทุกคนที่ตนรู้จักให้หมด
“อย่างมันก็ดีแต่ขู่เท่านั้นแหละ เพราะมันจะต้องตายด้วยน้ำมือป๋าก่อน” เสี่ยคำราม หยกติงว่าตอนนี้เสี่ยควรรีบพาดุจแพรไปในที่ปลอดภัยก่อน กลับถูกตวาด “แกไม่ต้องมาห้ามฉันหรอกไอ้หยก นี่มันโอกาสดีครั้งเดียวที่ฉันจะได้ตลบหลังจัดการกับพวกมัน”
ดุจแพรทวงสัญญาที่เสี่ยบอกว่าจะเลิกเป็นมาเฟีย เธอขอร้องให้เสี่ยเลิกเสีย เสี่ยมองหน้าลูกสาวบอกว่า
“ป๋าขอโทษนะ...ทางเดียวที่จะทำให้ป๋าเลิกเป็นมาเฟียได้ คือตายเท่านั้น!” แล้วหันสั่งลูกน้อง “พาคุณหนูกลับไป”
ลูกน้องตรงเข้าจับแขนดุจแพรไว้ทันที เธอก็ยังพร่ำวอนขอร้องให้เสี่ยหยุด อย่าทำแบบนี้อีกเลย เสี่ยสั่งลูกน้องเหมือนทนฟังเสียงอ้อนวอนของดุจแพรไม่ได้ว่า “รีบๆพาลูกสาวฉันไปเสียทีสิเว้ย”
ดุจแพรถูกพาขึ้นรถออกไปทันที หยกยังยืนเอามือกุมสีข้างที่บาดเจ็บ เดินเข้าไปคว้าแขนเสี่ย...
“เสี่ย...ผมเตือนเสี่ยจริงๆนะ เสี่ยไม่ควรจะไปที่นั่น...ถ้าเสี่ยไปที่นั่น จุดจบของเสี่ยคือตายอย่างเดียว”
“วันนี้ฉันกราบไหว้เทพเจ้ามาแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องตายมันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันกลัวอีกต่อไป แต่การไม่ได้แก้แค้นต่างหากที่ทำให้ฉันอับอายฟ้าดิน” เสี่ยแกะมือหยกออก หันไปพยักหน้ากับเก่ง เก่งชักปืนจ่อหยกขู่
“แกรับปากเสี่ยว่าจะช่วยถล่มพวกมัน ถ้าแกขี้ขลาด แกก็ไม่คู่ควรกับการเป็นมาเฟียอีกต่อไปแล้วไอ้หยก!”
หยกจ้องหน้าเสี่ย ย้อนถามอย่างตัดสินใจแล้วว่า “ถ้าผมจะบอกเสี่ยว่าผมไม่ใช่มาเฟียและไม่เคยคิดจะเป็นมาเฟียด้วย เสี่ยจะเชื่อรึเปล่า”
เสี่ยชะงักจ้องหยกอย่างสงสัย หยกอาศัยจังหวะนั้นแย่งปืนจากเก่งแล้วจ่อปืนใส่ ทุบต้นคอทีเดียวเก่งก็สิ้นฤทธิ์ เสี่ยชักปืนออกมาแต่ช้าไปแล้ว หยกเล็งปืนไปที่เสี่ยสั่งให้ทิ้งปืน เสี่ยพลาดท่าโยนปืนทิ้ง ถามอย่างเจ็บใจ
“แกเป็นบ้าอะไรของแกวะไอ้หยก หรือว่าแกคิดร่วมมือกับพวกมันทรยศหักหลังฉัน”
“ถ้าจะบอกว่าผมหักหลังเสี่ยล่ะก็...ใช่ครับ แต่ผมไม่ได้ร่วมมือกับพวกมาเฟีย...ผมปล่อยให้เสี่ยตายไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่เพราะกิ่งเหมยเป็นสายเลือดของเสี่ย แต่เพราะโทษของเสี่ยคือการต้องไปชดใช้กรรมในคุก”
“ไอ้หยก...อย่าบอกนะว่าที่จริงแล้วแกเป็น!!...”
“ครับเสี่ย...ผมเป็นตำรวจ” พูดจบก็ใช้ปืนตบหน้าเสี่ย ทุบต้นคอทีเดียวเสี่ยก็สลบ จากนั้นจัดการใส่กุญแจมือเอาไปขังไว้ที่ตึกร้างที่มีตาข่ายกั้นไว้ แล้วโทร.หาธงรบ
“ว่าไงหยก...ช่วยคุณดุจแพรได้แล้วใช่ไหม” พอหยกบอกว่าดุจแพรปลอดภัย ธงรบเร่ง “งั้นแกปล่อยไอ้เสี่ยตงมาลุยกับพวกมันที่นี่ ฉันจะจัดการจบชีวิตชั่วๆ ของพวกมันให้หมดทีเดียว”
“คงไม่ได้หรอกครับหมวด เพราะเรายังเป็นตำรวจ เรายังต้องเคารพกฎหมายอยู่ครับ ตอนนี้เสี่ยตงรู้ความจริงแล้วว่าผมเป็นใคร เราควรจะปล่อยให้กฎหมายจัดการพวกเขา”
“ไอ้หยก...ถ้าผู้การไม่ฟื้นขึ้นมา แกกับฉันก็คือคนไม่มีตัวตน ถ้าไม่ใช้วิธีของฉันจัดการกับพวกมัน แกจะไม่ได้กลับไปหากิ่งเหมย”
“ไม่ครับ...การจะชนะความเลวต้องเอาชนะด้วยความดีไม่ใช่ต้องเลวเหมือนกับมัน ทำเหมือนกับมัน แล้วอ้างว่าคือการทำดี”
ธงรบหัวเสียหนักที่หยกไม่เล่นด้วยกับวิธีของตน เป็นเวลาที่พวกมานพขับรถมาในบริเวณลานเก็บตู้คอน–เทนเนอร์ ธงรบหันไปเห็น บอกหยกว่า “เสียใจด้วยนะหยก พวกมันมาแล้ว นี่คือวิธีการจัดการกับพวกมันของฉัน แกอย่ามายุ่ง!!”
พูดจบธงรบกดตัดสายเลย หยกพยายามโทร.กลับแต่ธงรบไม่รับสาย เขาตัดสินใจวิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์บิดไปทันที
ooooooo
รถของมานพมาจอดตรงหน้าเล้ง มานพก้าวลงจากรถในมาดมาเฟียเนี้ยบพร้อมกับโหงว สองฝ่ายจ้องกันตาไม่กะพริบ ชาญกระซิบบอกมานพว่าคนของเราโทร.จากเลานจ์บอกว่าเสี่ยตงบุกไปชิงตัวดุจแพรไปแล้ว
มานพหัวเสียแต่โหงวบอกช่างมันจัดการกับเล้งให้เสร็จก่อน การตามล่าเสี่ยตงแค่นี้เรื่องขี้ผง
การเผชิญหน้ากันสองฝ่ายเป็นไปอย่างตึงเครียด มานพกับโหงวเยาะเย้ยเล้งว่า ตอนนี้พยัคฆ์เมฆายิ่งใหญ่กว่ามังกรวารีของเขาแล้ว เล้งมองผ่านมานพไปยังพวกลูกน้องที่มากกว่าฝ่ายตนเยอะ พูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า
“ฉันไม่ปฏิเสธว่าคนอย่างแกมันเจ้าเล่ห์จนสร้างให้มานพกลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกได้ แต่ก็อย่างที่ฉันเตือนแกนั่นแหละมานพ วงการนี้มันเหมือนขุมนรก ถ้าไม่รีบปีนขึ้นมาแกก็ต้องทนอยู่ในนรกไปตลอดชีวิต”
“หึๆๆ ฮ่าๆๆ” มานพหัวเราะเยาะ สั่งลูกน้อง “เฮ้ยพวกเรา ได้ยินไหม เจ้าสัวเล้งแห่งมังกรวารี พญามังกรที่ยิ่งใหญ่เกิดรักตัวกลัวตายอยากจะปีนขึ้นจากขุมนรก ต้องมาเจรจากับพยัคฆ์หน้าใหม่อย่างฉัน ฟังแล้วมันทุเรศไหมวะ ฮ่าๆๆ”
ระหว่างนั้น ธงรบอยู่บนคอนเทนเนอร์สูง เล็งปืนไปมาระหว่างเล้งกับมานพ สุดท้ายหยุดที่มานพฐานทำให้สมิงต้องโคม่า และทำให้หมวดณรงค์ต้องตาย พึมพำ “ฉันจะแก้แค้นให้พวกเขาเอง”
แต่จังหวะไม่อำนวย เพราะระหว่างที่เล้งกับมานพยืนเจรจากันอยู่นั้นมีลูกน้องทั้งสองฝ่ายขวางทางปืนอยู่
มานพเยาะเย้ยเล้งว่ากลัวตนจนขี้ขึ้นสมอง เล้งอดกลั้น เตือนสติเขาว่า
“ในสมองฉันไม่มีคำว่ากลัว มีแต่คำว่าสามัญสำนึก ที่ฉันมาพบแกวันนี้เพราะไม่ต้องการให้มีการนองเลือดเกิดขึ้นกับทั้งคนของฉันและคนของแกด้วย เราทุกคนต่างก็มีคนรักรออยู่ที่บ้าน ฉันถึงไม่อยากให้มีใครต้องมาตายเพื่อตอบสนองความบ้าอำนาจของคนคนเดียว”
โหงวรีบสะกิดมานพให้จัดการเล้งเสีย ก่อนที่เล้งจะปลุกระดมคนของพวกตนให้ฟังจนคล้อยตาม มานพขยับเข้าหา เล้งก็ก้าวเข้าประจันหน้า แต่ธงรบก็ยังยิงไม่ได้เพราะยังมีคนขวางทางปืนอยู่
มานพเสนอว่าเมื่อเล้งมาเจรจาตนก็จะเจรจา แต่ขึ้นอยู่กับข้อเสนอของเล้ง ตนรู้ว่าเล้งยังมีอยู่มากที่ยกหุ้นให้ตนเป็นเพียงส่วนน้อยนิด ผยองถึงกับบอกให้เล้งยกหุ้นให้ตนอีกและก้มกราบเท้ายอมให้พยัคฆ์เมฆาเหยียบมังกร ตนก็จะทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง
“ไอ้มานพ...แกมันไอ้ทรพี” นนท์ทนไม่ได้สะอึกออกไปด่า เล้งเรียกให้หยุด แล้วถามมานพว่า ถ้าตนทำตามที่เสนอมาแล้วรับปากว่าจะหยุดใช่ไหม
“ถ้าพญามังกรอย่างแกกล้ากราบเท้าฉันละก็...ฉันก็กล้ารับปากแกเหมือนกัน”
เล้งตัดสินใจก้าวเข้าหามานพ นนท์กับลูกน้องตกใจร้องห้าม แต่เล้งยังเดินเข้าหา มานพระแวงเลยขยับถอย ทางปืนเปิด ธงรบแตะไกปืนพร้อมยิงมานพทันที
แต่เป็นจังหวะที่แสงอาทิตย์สะท้อนลำกล้องปืนของธงรบลงมาโดนหน้าโหงวพอดี โหงวแหงนมองตะโกนบอก
“มานพ...หลบไป...ไอ้เล้งมันเล่นสกปรก”
“ไอ้เล้ง! ฆ่าพวกมันให้หมด!!” มานพตะโกนลั่น
เท่านั้นเอง ลูกน้องทั้งสองฝ่ายที่พร้อมตะลุมบอนกันอยู่แล้วก็ถาโถมเข้าหากัน เล้งกับนนท์เห็นมานพกำลังจะหนีเลยไล่ตาม ทิ้งให้ลูกน้องห้ำหั่นกันเลือดนอง...
ooooooo
เมื่อดุจแพรกลับมาถึงห้องนอน ป้าจั่นบอกให้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียป้าเตรียมกระเป๋าสัมภาระไว้ให้แล้ว พร้อมจะส่งคุณหนูไปสนามบินทันที เพราะเสี่ยสั่งไว้ว่าคุณหนูจะอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วถ้าเกิดเสี่ยเป็นอะไรจะไม่มีใครปกป้องคุณหนู
ดุจแพรถามอย่างใจหายว่า “ถ้าป๋าสั่งป้าไว้แบบนี้แสดงว่า...”
“ค่ะ...เสี่ยพร้อมจะสู้ตายและอาจจะไม่ได้กลับมาหาคุณหนูอีก”
ดุจแพรทรุดนั่งที่เตียงน้ำตาคลอ ครู่หนึ่งเธอไปหากิ่งเหมยที่ตรอกศาลเจ้า เป็นเวลาที่กิ่งเหมยกำลังจุดธูปเทียนไหว้เทพเจ้าขอพรให้หยกปลอดภัย ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้เกิดกับตนแทนเถิด...
กิ่งเหมยแปลกใจมากที่ดุจแพรมาหาทั้งที่หยกเพิ่งบอกว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศแล้ว กิ่งเหมยเป็นห่วงหยกขึ้นมา
“แสดงว่าหยกโกหกฉัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมหยกต้องโกหกฉันด้วย...เกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับหยกใช่ไหม??”
กิ่งเหมยบีบแขนดุจแพรอย่างร้อนใจ เป็นห่วงหยกมาก...
ooooooo
ที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ ลูกน้องสองแก๊งกำลังห้ำหั่นกันด้วยมีดดาบอย่างชุลมุน หยกขี่มอเตอร์ไซค์มาถึง ลูกน้องพยัคฆ์เมฆาหันมาเห็นก็กลุ้มรุมกันเข้าเล่นงานเขา หยกกำราบพวกมันได้ไม่ยาก แต่เพราะบาดแผลเลือดออกมากทำให้เขาอ่อนกำลังลงทุกทีจนพลาดท่าถูกพวกมันกระชากลงจากรถเงื้อดาบจะฟัน
“ปัง!” เสียงปืนดังขึ้น คนเงื้อดาบจะฟันหยกหงายผลึ่งตายคาที่ หยกหันมองไปทางต้นเสียง เป็นธงรบนั่นเอง!
หยกลุกขึ้นจะไปหา ถูกธงรบยิงปืนลงพื้นดักหน้าไว้ หยกตะโกน...
“หมวด!! อย่าทำอย่างนั้นนะหมวด” แล้วพยายามเดินตามไปห้าม เจอธงรบถือปืนตามหาเล้งกับมานพ หยกบอกว่าตนไม่ยอมให้เขาใช้วิธีนี้กับมาเฟียเด็ดขาด คนทำผิดกฎหมายก็ต้องใช้กฎหมายลงโทษ
ธงรบบอกว่าตนไม่มีความหวังอีกแล้วเพราะตนไม่เชื่อว่าสมิงจะรอด
“แต่ผมยังมีความหวังเพราะผู้การกับผมคิดเหมือนกันมาตลอด พวกเราต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในการทำความดี แม้ตัวจะต้องตายเพราะทำความดีแต่ศรัทธานั้นก็ต้องอยู่ต่อไป” หยกพยายามหว่านล้อมจนธงรบท่าทีอ่อนลง...
ooooooo
ส่วนอีกด้านหนึ่งของลานคอนเทนเนอร์ เล้งกับนนท์ไล่ตามมานพไปแต่ไม่เจอตัว นนท์เห็นสภาพไม่น่าไว้ใจจึงเข้ามาคอยระวังให้เล้ง แต่ลูกน้องเล้งคนหนึ่งก็ถูกพวกชาญแอบมาใช้มีดกระซวกกลางหลังตายคาที่
เล้งหันขวับไป เห็นมานพกับลูกน้องและโหงว ดาหน้าเข้ามาเอาปืนเล็งใส่แล้ว
“หึๆ...กล้ามากนะเล้ง คนที่กล้าเรียกตัวเองว่าใช้คุณธรรมปกครองคน แต่พอถึงเวลาจนตรอกมันก็ใช้วิธีสกปรกเหมือนกันนั่นแหละเว้ย” โหงวหัวเราะเยาะ
เล้งบอกว่าตนไม่ได้สั่งให้ใครไปลอบยิงมานพ ถูกมานพตวาดว่า “ก็เห็นอยู่ทนโท่อย่ามาปากแข็งหน่อยเลย”
“ถ้าฉันจะหมาลอบกัดแกล่ะก็ ป่านนี้แกมีจุดจบไม่ต่างจากแม่แกแล้วมานพ” เล้งตะโกนสวนไป
“ไอ้เล้ง...จุดจบของแกอยู่ในมือฉันต่างหากเว้ย” มานพเอานิ้วแตะไกปืน แต่ปืนทุกกระบอกของพวกเล้งก็จ่อไปที่มานพแล้ว โหงวเตือนมานพให้ใจเย็นๆ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ได้เป็นใจให้เรา มานพหันขวับตวาด “จะกลัวทำไม มันต่างหากที่ต้องกลัวเรา ตอนนี้มันก็แค่มังกรที่กำลังจะสิ้นลาย”
มานพไม่ฟังโหงว ซ้ำพูดให้เจ็บใจว่าที่ตนยอมเรียกโหงวว่าเตี่ยเพราะอยากให้คิดว่าตนกตัญญู แต่ที่จริงตนอยากถ่มน้ำลายใส่หน้าทุกครั้งที่มาจ้ำจี้จ้ำไชสั่งตนเหมือนเป็นไอ้โง่คนหนึ่ง
“แก...แกมันไอ้ทรพี!” โหงวชี้หน้าด่าเสียงสั่นอย่างโกรธจัด
“อย่ามาว่าฉันทรพีหน่อยเลย...ขนาดแกทำงานให้ตระกูลของไอ้เล้ง แกยังกล้าหักหลัง แล้วฉันจะไว้ใจได้ไงว่าแกจะไม่หักหลังฉัน หึๆๆแต่จะว่าไป ก็ต้องขอบใจแกที่ช่วยสั่งสอนให้ฉันรู้จักเล่ห์เหลี่ยมทันคน และรู้ว่าต้องใช้ไม้เด็ดจัดการกับไอ้เล้งยังไง”
มานพถ่อยสถุลถึงขั้นถีบโหงวไปล้มลงตรงหน้าเล้ง แล้วร้องท้าอย่างบ้าระห่ำ
“เอาสิไอ้เล้ง ปากกระบอกปืนของแกจะเล็งมาที่ฉันหรือจะเล็งไปที่มัน เพราะมันไม่ใช่เหรอที่ทำให้ลูกเมียของแกต้องตาย โอกาสแก้แค้นที่แกรอคอยมาทั้งชีวิตอยู่ตรงหน้าแกแล้วไง ปืนก็อยู่ในมือแก จะรออะไรอยู่ล่ะไอ้เล้ง”
เล้งลังเล จะลั่นไกใส่ใครก่อน??
“คิดให้ดีเลยไอ้เล้ง ถ้าระเบิดเสียงปืนนัดแรกด้วยการยิงใส่ฉัน พวกฉันก็จะถล่มพวกแกเละ แกก็จะหมดสิทธิ์ได้จัดการกับศัตรูที่ฆ่าลูกเมียแก คิดให้ดีไอ้เล้ง ฮ่าๆๆ”
ระหว่างนั้นนนท์เตือนเล้งอย่าหลงกลมันส่วนเล้งก็กำลังคิดเครียด เพราะถ้ายิงโหงวก่อนก็เปิดโอกาสให้มานพยิงตน แต่ถ้ายิงมานพก่อนตัวเองก็ไม่รอดเหมือนกัน
มานพยังตะโกนยั่วยุไม่หยุด โหงวกำลังเข้าตาจนหาทางเอาตัวรอด ต่อรองว่าเรื่องระหว่างตนกับเล้งเราไปตกลงกันทีหลังได้ ไว้ชีวิตตนไปก่อนแล้วค่อยไปจัดการมานพทีหลัง ไม่อย่างนั้นได้ตายกันหมดแน่
“หุบปากไปซะไอ้โหงว แกฆ่าลูกเมียฉัน ฆ่าพราวแสง ทำลายตระกูลของฉันด้วยความเลวทรามต่ำช้าของแก แกไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!” เล้งหันปากกระบอกปืนใส่โหงวทันที
พริบตานั้น มานพยื่นกระบอกปืนจ่อหัวเล้งทันทีเช่นกัน ทุกคนชะงักอึ้ง ในสถานการณ์วิกฤตินี้ไม่มีใครกล้าขยับ
“ฉันนับถึงสามเมื่อไหร่ หนี้แค้นของแกกับไอ้โหงวที่รอวันสะสางมาเป็นสิบๆปีก็จะจบลง ส่วนแกก็จะได้ตามไปอยู่กับคนในตระกูลของแกในปรโลก ไปบอกทุกคนว่าแกแก้แค้นสำเร็จแล้ว...หนึ่ง...สอง”
“บึ้มมมมม!!” เสียงระเบิดกัมปนาทขึ้น ฝีมือธงรบนั่นเอง หมวดโยนระเบิดใส่เบนความสนใจแล้วเขากับหยกก็วิ่งเข้าไปยิงกราดใส่พวกมานพจนพวกมันหนีกันกระเจิง
ชาญเร่งมานพให้รีบไปจากที่นี่ มานพหันยิงใส่หยกกับธงรบก่อนถอยไปกับชาญและลูกน้อง เล้งหันมาเห็นโหงวกำลังตะเกียกตะกายหนี สั่งนนท์กับลูกน้องให้ตามไปจัดการมานพ ส่วนตนจะตามโหงวไปเอง
ธงรบหันถามหยกอย่างเป็นห่วงว่าไหวอยู่นะ หยกรับคำหันมองไปทางที่เล้งไล่ตามโหงวไป...
ooooooo
เล้งถูกโหงวตลบหลัง โผล่มาเอามีดจ่อคอ เล้งกำใบมีดแน่นจนเลือดโชกมือก่อนใช้ศอกกระทุ้งโหงวจนจุก บิดมือจนมีดหลุดกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบในพริบตา
พอตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโหงวก็เล่นลูกไม้ขอโทษทุกเรื่องที่ผ่านมา อย่าทำอะไรตนเลย ขอให้ตนได้ไถ่โทษ ล่อใจเล้งว่าตนรู้จักมานพดีจะช่วยเล่นงานให้เอง เห็นเล้งไม่แยแส ย้ำแต่ว่าความผิดของเขาไม่สมควรได้รับการยกโทษ จึงเสนอเงื่อนไขสุดท้ายว่า
“แต่อั๊วรู้ความลับเรื่องสายเลือดที่แท้จริงของลื้อนะไอ้เล้ง!!” พอเล้งสนใจ โหงวอ่อยต่อ “ลูกชายแท้ๆของลื้อไงไอ้เล้ง สายเลือดมังกรวารีของลื้อมันยังไม่ตาย อั๊วรู้ว่า มันเป็นใคร เขายังมีชีวิตอยู่ อั๊วตามสืบเรื่องนี้มาจนรู้แล้ว ตอนที่ลื้ออาการหนักอยู่ที่โรงพยาบาล อั๊วแอบเอา DNA ของลื้อกับมันไปตรวจ แล้วผลก็ออกมายืนยันว่า มันเป็นสายเลือดคนสุดท้ายของมังกรวารีจริงๆ”
เล้งไม่เชื่อ โหงวท้าฆ่าตนให้ตายไปพร้อมกับความจริง นั้นเลย ส่วนสายเลือดของเขาก็จะถูกมานพตามล่าต่อไป
อ่อยต่ออย่างมีความหวังว่า “แต่ถ้าลื้อไว้ชีวิตอั๊ว มังกรวารีของลื้อก็จะมีผู้สืบสกุล”
“คำพูดของไอ้จิ้งจอกเฒ่าอย่างแกไม่มีค่าอะไรกับฉันอีกแล้ว” เล้งเตรียมปาดคอโหงว
“หยุดนะครับเจ้าสัว หน้าที่ตัดสินความผิดคนอื่นไม่ใช่หน้าที่คุณ” หยกมาถึงพอดีเขาร้องห้าม เล้งชะงัก จังหวะนั้นโหงวตัดสินใจบอกความจริงว่า
“สายเลือดของลื้อที่เหลืออยู่ ก็คือไอ้หยก!”
โหงวพูดให้เล้งหันไปสนใจหยกแล้ววิ่งหนีไป เล้งจะตาม แต่ต้องชะงักเมื่อหยกหมดแรงล้มลง เล้งเห็นเลือดชุ่มที่สีข้างหยก เขาผวาร้องเรียก “หยก...หยก...เธอตายไม่ได้นะ อยู่กับฉันสิหยก...เธอห้ามตายนะหยก...”
เมื่อพาหยกไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าแผลที่ถูกแทงมาไม่ค่อยลึกมากและโชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเขาเสียเลือดมาก ตอนนี้ต้องให้เลือดก่อน ปัญหาใหญ่คือเลือดกรุ๊ปเนกาทีฟที่ตรงกับหยกนั้นที่โรงพยาบาลไม่เหลือเลย
“งั้นหมอช่วยเอาเลือดผมไปตรวจได้ไหมครับ บางทีถ้าโชคชะตาไม่กลั่นแกล้งผม ผมอาจจะช่วยชีวิตเขาได้” เล้งเสนอ
ooooooo
ที่ตรอกศาลเจ้า ดุจแพรยังเฝ้าปลอบใจกิ่งเหมยและร่ำลากันอยู่ ระหว่างนั้นเอง มีคนของเสี่ยตงมาที่ศาลเจ้า บอกว่าเสี่ยให้มาตามดุจแพรและกิ่งเหมยไปหา เพราะเสี่ยต้องการคุยกับกิ่งเหมยด้วย กิ่งเหมยจะไม่ยอมไป ลูกน้องเสี่ยรับรองว่าเธอจะปลอดภัย
เสี่ยตงนั่งอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน เสี่ยมองกุญแจมือที่หยกล็อกเขาไว้ที่ตึกร้างบนโต๊ะพูดอย่างเจ็บใจว่า
“ถ้าคิดว่ากุญแจมือแค่นี้แกจะขังฉันไว้ได้ละก็...แกคิดผิดแล้วไอ้หยก!!”
พอดีดุจแพรกับกิ่งเหมยมาถึง เสี่ยบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับกิ่งเหมย ส่วนดุจแพรรถมารอรับไปสนามบินแล้ว
กิ่งเหมยถามเสี่ยว่าให้ตนมาเพราะมีเรื่องเกี่ยวกับหยกใช่ไหม เสี่ยรับว่าใช่เลยต้องพาเธอมาที่นี่
“หมายความว่ายังไง แพรไม่เข้าใจ หยกอยู่ไหนกันแน่คะป๋า” ดุจแพรร้อนใจ
“ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหน ถ้ากิ่งเหมยอยู่กับฉัน มันก็ต้องดิ้นรนมาเพื่อให้ฉันจัดการกับมัน...” กิ่งเหมยตกใจถามว่าหยกทำอะไรหรือ “มันทรยศหักหลังฉัน ปลอมตัวเข้ามาทำงานจนฉันไว้ใจเพื่อที่วันนี้มันจะลากคอฉันเข้าคุกไง” แล้วเสี่ยก็เน้นเสียงอย่างเจ็บใจว่า “ไอ้หยกมันเป็นสายให้ตำรวจ มันหลอกฉันมาตลอด!!”
ooooooo
หลังจากหยกได้เลือดจากเล้งแล้ว อาการของเขาดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังไม่ได้สติ เล้งติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อรู้ว่าหยกปลอดภัยแล้วก็โล่งใจ ขอบคุณหมอที่ช่วยชีวิตเขาไว้
“เพราะเลือดของเจ้าสัวต่างหากล่ะครับที่ช่วยเขาไว้ได้ ถือว่าโชคดีที่กรุ๊ปเลือดตรงกัน เลยสามารถให้เลือดกันได้ โอกาสแบบนี้หาไม่ใช่ง่ายๆเลยครับ”
“ครับหมอ...ผมไม่อยากเห็นคนดีๆต้องตาย และที่สำคัญ...ผมยังมีเรื่องคาใจกับเขาอยู่อีก” เล้งคิดถึงคำพูดของโหงวที่บอกว่าถ้าไว้ชีวิตตน มังกรวารีก็จะมีผู้สืบสกุล เล้งตัดสินใจบอกหมอว่า “ผมอยากให้หมอช่วยเอาเลือดผมกับเขาไปตรวจ DNA ให้หน่อย ขอด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
“ตรวจ DNA? เจ้าสัวอยากให้ผมตรวจหาอะไร?”
“ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นสายเลือดของผมจริงรึเปล่า” พูดแล้วเล้งเดินไปที่เตียงหยก ถอดสร้อยห้อยหยกเลือดมังกรครึ่งชิ้นออกมากำแน่น...มองหน้าหยกอย่างพินิจพิจารณา...
ooooooo
มานพเรียกชาญมาสรุปความสูญเสียจากการปะทะกับเล้งและเสี่ยตง ชาญรายงานว่า ปะทะกับเล้ง เสียไปหลายสิบ แล้วยังพวกที่โดนเล้งตลบหลังช่วยดุจแพรออกไปอีก
“โธ่เว้ย!ทำงานยังไงวะ แกไปดูให้ฉันเลยนะไอ้ชาญ ไอ้พวกไหนที่มันไม่มีฝีมือก็ตะเพิดมันไปให้หมด แล้วคัดเอาพวกมือดีๆมาเสริม มันอยากได้เท่าไหร่ฉันจ่ายไม่อั้น”
พอชาญรับคำจะออกไป มานพเรียกไว้ถามว่าโหงวโดนเล้งจัดการไปหรือยัง พอรู้ว่าโหงวหนีรอดไปได้เขาสั่ง
“ไอ้จิ้งจอกเฒ่าอย่างมัน จะปล่อยให้รอดไปไม่ได้เด็ดขาด ส่งคนไปตามล่าแล้วเก็บมันเสีย!” ชาญรับคำออกไป
มานพหัวเสียหนักที่แผนการวันนี้พลาดไปหมดทุกอย่าง พึมพำอย่างอาฆาต “ถึงวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างฉัน แต่วันอื่นๆก็ยังเป็นวันของฉันอยู่ พวกแกทุกคนที่คิดขัดขวางฉัน จงเตรียมรับการแก้แค้นจากฉันได้เลย!”
ooooooo
เมื่อรู้สถานการณ์ที่เป็นจริงแล้ว ดุจแพรไม่ยอมเดินทางไปต่างประเทศ กิ่งเหมยจึงขอให้เธอช่วยพาไปพบเสี่ย เพื่อขอร้องเรื่องหยก
“ครั้งนี้คงไม่ได้แล้วล่ะกิ่งเหมย ป๋าโกรธมากที่โดนหยกหักหลังแฝงตัวมาเป็นสายสืบเพื่อจับป๋า ยังไงป๋าก็คงไม่ไว้ชีวิตหยก”
“ใช่” เสียงเสี่ยแทรกเข้ามา “พูดถูกแล้วยัยแพร เพราะคนอย่างป๋ายอมตายดีกว่ายอมถูกจับ”
กิ่งเหมยท้าว่าถ้าจะฆ่าหยกก็ให้ฆ่าตนด้วย เสี่ยเดินมาจับบ่าเธอบอกว่าตนไม่ฆ่าสายเลือดตัวเอง แต่จัดการหยกเสร็จเมื่อไหร่ก็จะส่งเธอกับดุจแพรไปอยู่ต่างประเทศ กิ่งเหมยปัดมือเสี่ยออกอย่างรังเกียจ พูดอย่างผิดหวังว่า ตนยอมรับว่าเขาเป็นพ่อก็หวังว่าจะทำให้เขาเป็นมนุษย์ขึ้นมาบ้าง แต่ตนคิดผิด หัวใจเขายังเป็นได้แค่เดรัจฉาน
“เพียะ!” เสี่ยตบหน้าเธอฉาดใหญ่จนดุจแพรตกใจถามว่าทำกับกิ่งเหมยแบบนี้ได้ยังไง เสี่ยตวาดว่าตนเป็นพ่อมีสิทธิ์ทำได้ ปรามดุจแพรว่าถ้าเธอยังขวางไม่ฟังคำสั่งก็จะโดนแบบนี้อีกคน!
แต่พอดุจแพรยื่นหน้าเข้าไปท้าให้ตบ เสี่ยยกมือขึ้นจะตบแล้วชะงักลดมือลง หันไปลากกิ่งเหมยออกไป ดุจแพรจะตามก็ถูกเก่งขวางไว้
ooooooo
กิ่งเหมยถูกลูกน้องเสี่ยตงเอาตัวไปตั้งแต่เมื่อวานยังไม่กลับ ส้มเช้งร้อนใจ เล่าให้คมทวนฟังว่าหยกหายไปคนหนึ่งแล้วตอนนี้กิ่งเหมยยังหายไปอีก คมทวนตกใจบอกส้มเช้งก่อนรีบออกจากบ้านไปว่า
“ข้าว่ามันชักจะยังไงๆแล้ว เอ็งไม่ต้องห่วงนะ รออยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้าจะไปดูเอง”
แต่คมทวนเดินไปถึงกลางตรอกศาลเจ้า ก็เจอเล้งเดินสวนเข้ามา เขาถามอย่างไม่พอใจ “ไอ้เล้ง...นี่แกอีกแล้วเหรอ”
“ฉันมีธุระต้องคุยกับแก” คมทวนถามว่าธุระอะไรก็ไหนว่าจะไม่เหยียบมาที่นี่อีก “ใช่! ฉันรับปากกับแกไว้เพราะแกทำให้ฉันเชื่อว่านายหยกคือลูกชายของแกกับพราวแสง แต่ในเมื่อสิ่งที่ฉันรู้มามันไม่ใช่อย่างที่แกบอก ฉันถึงต้องมาหาความจริง!!”
“ความจริงอะไรของแก” คมทวนใจไม่ดี
“ก็ความจริงที่ว่า...หยกคือลูกชายของฉันที่เกิดกับพราวแสง!!” เล้งพูดใส่หน้าอย่างไม่พอใจ
คมทวนชะงักหน้าเสีย แต่ไม่อยากให้เรื่องลุกลามจึงหาทางเลี่ยงจากเล้ง ทำหน้าขึงขังยืนยันว่า
“ไอ้หยกเป็นลูกชายของฉัน เพราะฉะนั้นไม่มีความจริงอะไรที่มากกว่านั้นเว้ยไอ้เล้ง”
พูดแล้วคมทวนวิ่งหนี เล้งตะโกนเรียกแล้ววิ่งไล่ตาม ลูกน้องเล้งบ้างวิ่งไล่ตาม บ้างวิ่งไปดักจนต้องวางมวยกัน แม้คมทวนจะเล่นงานคนที่มาดักได้แต่ก็ไปต่อไม่ได้เพราะถูกพวกเล้งดักไว้หมด จึงหันไปบอกเล้งอีกครั้งว่าตนไม่มีความจริงอะไรมากกว่านั้นแล้ว ยังจะตามมาทำไมอีก
เล้งบอกว่าตนให้หมอตรวจ DNA ของตนกับหยกแล้วกำลังรอผลอยู่ บอกคมทวนให้เล่าความจริงทั้งหมดมาดีกว่า ทำให้คมทวนยิ่งตกใจแต่ยังปากแข็งย้อนว่า
“ได้ยินมาว่าแกถูกลูกชายตัวเองหักหลัง งั้นถ้าแกคิดจะหาทายาทมาสืบสกุลก็ไปหาเอาที่อื่น อย่ามายุ่งกับ ลูกชายฉัน” เล้งยืนยันมั่นใจว่าหยกเป็นสายเลือดตน “ต่อให้ไอ้หยกเป็นสายเลือดแกจริงๆ ฉันก็ไม่มีวันยกมันให้แก!”
“ทำไมแกถึงต้องกีดกันฉันกับลูกด้วย”
“แกไม่รู้ตัวเหรอไอ้เล้ง พราวแสงเกือบตายเพราะถูกศัตรูของแกยิง ชีวิตแกวนเวียนอยู่กับการแก้แค้น เลือดและความตาย แล้วมันจะมีพ่อคนไหนที่อยากเห็นลูกตัวเองเอาชีวิตไปฝากไว้กับพวกมาเฟีย”
คำพูดนี้ ทำให้เล้งชะงัก ฉุกคิดขึ้นมาได้ บอกคมทวนว่า “งั้นฉันก็เข้าใจแล้วว่าตอนนั้นพราวแสงจะบอกอะไรฉัน”
“ถ้าแกเข้าใจพราวแสง แกก็ต้องปล่อยไอ้หยกไป อย่าดึงมันให้ต้องลงไปเกลือกกลั้วกับโลกมาเฟียสกปรกของแก วิญญาณของพราวแสงจะได้ตายอย่างสงบ”
“แต่ฉันปล่อยหยกไปไม่ได้ ตอนนี้หยกกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาช่วยฉันเอาไว้จากพวกพยัคฆ์เมฆา พวก มันกำลังหมายหัวเขาอยู่”
ระหว่างนั้น นนท์โทร.เข้ามือถือ รายงานว่า “นาย หยกหนีไปจากโรงพยาบาลแล้วครับเจ้าสัว”
ooooooo
ความจริงคือ ธงรบไปเยี่ยมหยกที่โรงพยาบาล หยกรู้สึกตัวขึ้นมาถามว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ธงรบบอกว่าเล้งช่วยชีวิตเขาไว้
หยกถามธงรบว่าเรื่องเสี่ยตงที่ตนบอกเขาไว้ล่ะ ธงรบบอกว่าไปดูแล้วไม่เจอ คาดว่าเสี่ยตงคงหนีไปแล้ว หยกบอกหมวดว่าเวลานี้เสี่ยตงรู้สถานะที่แท้จริงของตนแล้ว ย้ำว่า “ผมรู้ว่าเขาจะเล่นงานผมยังไง”
แล้วหยกก็หนีออกไปได้โดยเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าของธงรบหลบไป เมื่อนนท์เข้าไปอีกทีเจอธงรบนอนอยู่บนเตียงคนไข้ นนท์ถามว่า “แล้วนายหยกอยู่ไหน”
“ไอ้หยกมันมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ มันฝากขอบใจ เจ้าสัวด้วยที่ช่วยชีวิตมันไว้” พูดแล้วธงรบเดินกวนๆออกไป นนท์จึงรีบโทร.บอกเล้ง เล้งถามว่าแล้วหยกหนีไปไหน?
นนท์เล่าว่า ธงรบบอกว่า หยกกำลังมีปัญหากับเสี่ยตงต้องรีบไปช่วยกิ่งเหมย เล้งจะไปตาม นนท์รีบบอกว่า
“ผมได้ข่าวไม่ค่อยดีมา อยากเตือนเจ้าสัวไว้ก่อน ผมได้ยินมาว่ามานพกำลังรวบรวมคนเพิ่ม เตรียมจะกวาดล้างทุกคนที่ขวางทางมัน ใครทำอะไรกับมันไว้มันจะเอาคืนให้หมด เจ้าสัวควรระวังตัวด้วย”
ฟังนนท์แล้ว เล้งหันไปบอกคมทวนว่า “คนของฉันบอกว่ากิ่งเหมยกำลังเดือดร้อน หยกกำลังตามไปช่วย” ก็พอดีสลึงกับอ่างวิ่งหน้าตั้งมาบอกคมทวนว่า เห็นมีพวกนักเลงโผล่มาจากไหนไม่รู้เต็มตรอกไปหมด
“ไอ้พวกพยัคฆ์เมฆาแน่...มันบุกมาที่นี่เพื่อกวาดล้างคนที่เกี่ยวข้องกับหยก” เล้งรีบเดินอ้าวย้อนตามทางที่สลึงกับอ่างวิ่งมา คมทวนรีบตามเล้งไป
“อ้าว...พี่คมทวน รอพวกฉันด้วยยยย...” อ่างร้องถามพลางวิ่งย็อกแย็กตามไป
ooooooo
เล้งไปถึงเห็นชาญกับพวกพยัคฆ์เมฆากำลังหาเรื่องกับชาวบ้าน เล้งตะโกนให้หยุด
“พาพวกแกไปให้พ้นจากที่นี่ให้หมด แล้วกลับไปบอกไอ้มานพว่าถ้าแกมาแตะต้องคนในตรอกศาลเจ้าอีก มันกับฉันได้เจอกันอีกแน่”
ชาญไม่สนใจพาลูกน้องลุยเข้ามา อ่างบอกคมทวนว่าพวกมันซัดกันนัวเลย เราอย่าไปยุ่งเลยดีกว่า
“ไม่ยุ่งได้ไงวะ พวกเราต้องปกป้องบ้านของเราไว้สิเว้ย จะปล่อยให้มาเฟียมาปกป้องเราได้ไง ข้าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณพวกมัน” คมทวนปรี่เข้าไปช่วยลุยกับชาญและลูกน้อง แต่พลาดท่าเลยถอยมาหันหลังชนกันกับเล้ง
คมทวนไม่อยากให้เล้งมายุ่งกับชาวตรอกศาลเจ้า แต่เมื่อถูกพวกพยัคฆ์เมฆากรูกันเข้ามาจึงต้องหันหลังพิงกันสู้กับศัตรูร่วมกัน...
พวกพยัคฆ์เมฆาถูกคมทวน เล้ง อ่างกับสลึงและพวกเล่นงานจนเริ่มถอยหนี คมทวนลากลูกน้องพยัคฆ์เมฆาคนหนึ่งออกมาซัดไม่ยั้ง เล้งบอกให้พอได้แล้วแค่สั่งสอนก็พอ คมทวนกระชากมันขึ้นมาจ้องหน้าตะเพิด
“ไสหัวเอ็งไปให้พ้นจากถิ่นข้า...ถ้าเจอพวกเอ็งอีกครั้งเดียว เอ็งได้ลงไปนอนจมอยู่ก้นแม่น้ำแน่ ไป!!”
“เมื่อกี้ขอบใจแกมากนะ” เล้งมาจับบ่าคมทวนเอ่ย คมทวนมองหน้าแล้วปัดมือออก พูดอย่างไม่ญาติดีด้วยว่า
“ที่ฉันช่วยแกเพราะแกช่วยปกป้องบ้านของไอ้หยก แกเข้าใจใช่ไหมว่าที่นี่คือบ้านของไอ้หยก บ้านที่มันโตมากับฉันที่เป็นพ่อมัน!!” คมทวนจิกย้ำจริงจัง ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันนิ่ง...
ooooooo
เสี่ยพากิ่งเหมยไปที่สนามกีฬาร้าง ผลักเธอไปกลางสนาม กิ่งเหมยขอร้องอย่าทำอย่างนี้เลย เสี่ยแข็งกร้าวใส่ว่าจะไม่สนใจคำร้องขออะไรจากเธออีกแล้ว ต่อให้กราบเท้าตนเป็นพันครั้ง ตนก็จะไม่ไว้ชีวิตหยก
“คุณเคียดแค้นที่หยกปลอมตัวมาเป็นสายสืบเพื่อจับคุณเข้าคุก แล้วทำไมคุณไม่คิดบ้างว่านี่เป็นการช่วยเหลือคุณ บางทีหยกอยากจับคุณส่งเข้าคุกเพราะเขาอาจจะไม่อยากเห็นคุณต้องถูกฆ่าตายอย่างมาเฟียคนอื่นๆ”
ระหว่างที่กิ่งเหมยพยายามหว่านล้อมเสี่ยตงไม่ให้ฆ่าหยกนั่นเอง ลูกน้องคนหนึ่งมารายงานว่าหยกมาแล้ว เสี่ยผลักกิ่งเหมยออกไป เธอยืนตัวสั่นอยู่กลางสนาม หยกมาเห็นเขาถลาไปหา กิ่งเหมยร้องห้ามเตือนเขาว่า พวกมันกำลังรอฆ่าเขาอยู่ให้รีบไปเสียไม่ต้องห่วงตน
“ฉันไม่กลัว และเธอก็ต้องไม่กลัวด้วย เพราะฉันจะอยู่ตรงนี้ จะสู้เพื่อเธอ!!”
เสี่ยตงปรากฏตัวออกมา ถามเย้ยหยกว่าจะต่อสู้เพื่อลูกสาวตนหรือ หยกบอกว่ากิ่งเหมยไม่เกี่ยวให้ปล่อยเธอไปเสียแล้วเราค่อยมาตัดสินกันว่าใครจะเป็นคนสมควรรอด
หยกอยู่ในฐานะเป็นรอง เสี่ยตงบอกว่าถ้าไม่อยากให้กิ่งเหมยเป็นอะไรก็ต้องรับการสั่งสอนจากตน แล้วสั่งให้ใส่กุญแจมือที่เก่งโยนไปให้ พอหยกใส่กุญแจมือตัวเอง เสี่ยสั่งเก่งให้กระทืบหยกให้ดู ตนอยากเห็นคนเนรคุณเจ็บปวด
ที่หน้าสนามกีฬาร้าง ลูกน้องมานพขับรถมาจอดบอกว่า
“ที่นี่แหละครับนาย อยู่ทั้งไอ้เสี่ยตง ทั้งไอ้หยก”
“ไปได้แล้ว...” มานพยิ้มร้าย สั่งเหี้ยม “เก็บกวาดพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือก้อนกรวดแม้แต่ก้อนเดียวให้มาตำเท้าฉันอีก!”
ooooooo










