ตอนที่ 1
ชุมชนบริเวณตรอกศาลเจ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวชุมชนที่อยู่กันมายาวนาน ต่างดำรงชีวิตตามวิถี ของตน ลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่าเติบโตมาด้วยกันในชุมชน แม้ไม่ใช่ญาติ ก็ผูกพันกันเหมือนญาติ
หยกกับกิ่งเหมยรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไรต่างไม่เคยคิด เพราะโตมาด้วยกันนับแต่จำความได้ จนแก้ผ้ากระโดดน้ำด้วยกัน กระทั่งวันนี้...หยกเป็นนักเรียนนายร้อย ส่วนกิ่งเหมยเป็นวัยรุ่นน่ารักแต่ดุ กร้านกับชีวิตในชุมชน
หยกอยู่กับคมทวนอดีตนักมวยขาเป๋ที่ผันมาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะมวยไทยเล็กๆริมแม่น้ำ หยกเรียกคมทวนว่าพ่อ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารากตัวเองมาจากไหน ใครเป็นพ่อ? ใครเป็นแม่? ส่วนกิ่งเหมยก็กำพร้าอยู่กับอาม่าผู้ดูแลศาลเจ้าและขายน้ำเต้าหู้เลี้ยงตัวและหลาน แม้จะโตมาด้วยกันอายุไล่เลี่ยกัน แต่หยกก็ดูแลปกป้องกิ่งเหมยเหมือนน้องคนหนึ่งของตัวเอง
คมทวนเลี้ยงหยกมาในค่ายมวย มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะให้หยกเป็นตำรวจ แต่ก็ผิดหวังเสียใจเมื่อเห็นหยกมีเรื่องกับกิจจาและลูกน้องที่มาเรียกค่าคุ้มครองจากอาม่า เมื่อไม่ได้ก็ทำลายข้าวของและทำร้ายอาม่า หยกกับคมทวนมีปากเสียงกันรุนแรง เพราะคมทวนกลัวหยกจะเรียนไม่จบ ไม่ได้เป็นตำรวจ เมื่อหยกชี้แจงก็หาว่าเถียง ไม่เชื่อฟังตน
“ที่เอ็งไม่ฟังข้าแล้วเพราะเอ็งโกรธที่ข้าสั่งไม่ให้เอ็งตามหาพ่อแท้ๆของเอ็งใช่ไหม!!” คมทวนไล่หยกไปให้พ้น ถ้าไม่คิดจะทำให้ตนสบายใจ “เอ็งจะไปหัวหก ก้นขวิดที่ไหนก็เรื่องของเอ็ง ข้ามันเลี้ยงเอ็งมาได้แต่ตัว”
หยกเข้าไปคุกเข่าพนมมือเบื้องหน้าคมทวน เอ่ยน้ำตาซึม
“ถึงในตัวฉันจะไม่มีเลือดของพ่อแม้แต่หยดเดียว แต่ฉันก็มีพ่อเป็นพ่ออยู่แค่คนเดียว ฉันสัญญาว่าฉันจะเป็นตำรวจเพื่อให้พ่อภูมิใจให้ได้” หยกกราบแทบเท้าคมทวน จากไปทั้งน้ำตา
คมทวนยืนนิ่งขึง แต่พอหยกเดินจากไป ก็มองตามน้ำตาเอ่อ...
ooooooo
ที่ท่าเรือ...
เจ้าสัวเล้ง กระวนกระวายใจอยู่กับดวงแข รอคอยมานพที่เจ้าสัวส่งไปเรียนเมืองนอกและเดินทางกลับมาวันนี้ แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นมานพมา เจ้าสัวเล้งร้อนใจจนดวงแขติงว่าร้อนใจอยากเจอลูกยิ่งกว่าตนเสียอีก
“ใช่...ฉันใจร้อน แต่ที่ฉันส่งมานพไปเรียนเพราะอนาคตมันต้องแบกภาระธุรกิจของฉัน กลับมาคราวนี้ฉันจะให้มันเริ่มงานเลยทันที”
“แต่คุณให้มานพเรียนตั้งหลายอย่าง อยู่โน่นก็มีแต่เรียน น่าจะให้เขาเที่ยวพักผ่อนก่อน”
“ถ้าฉันเลี้ยงลูกเหมือนเธอ ตอนที่ธุรกิจของตระกูลฉันพังไม่เหลืออะไร ฉันก็คงกลับมายิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ไม่ได้ คงได้แต่นอนกอดขี้เถ้าคนตายไปแล้ว”
ระหว่างนั้น นนท์หัวหน้าการ์ดเข้ามากระซิบอะไร กับเจ้าสัว เจ้าสัวชักสีหน้าหันคว้าแขนดวงแขบีบอย่างแรงตะคอกถาม “ลูกชายฉันหายหัวไปไหน...บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะดวงแข!”
ที่แท้มานพลงจากเครื่องก็ไปมั่วสุมเสพยา มั่วเซ็กซ์กับลูกหลานไฮโซหญิงชายที่คอนโดหรู จนกระทั่งชาญลูกน้องของเขามาบอกว่า “คุณนพครับ...ท่านรู้เรื่องคุณนพแล้วนะครับ”
“งั้นก็หมายความว่าหมดเวลาสนุกของฉันแล้ว น่ะสิ...เซ็งว่ะ” มานพบ่นหงุดหงิด
ooooooo
วันนี้ ดุจแพร ลูกสาวเสี่ยตง เสี่ยนักธุรกิจราตรีชื่อดัง แต่เสี่ยตงปกปิดไม่ให้ดุจแพรรู้ธุรกิจและเบื้องหลังของตน เลี้ยงดูปรนเปรอเธอเยี่ยงลูกเศรษฐีทั้งหลาย วันนี้เธอมาซื้อคอนโดที่นี่เพื่อเก็งกำไร เจอมานพควงสาวคู่ขาในลิฟต์ เธอมองทั้งคู่อย่างรังเกียจที่มั่วกันไม่เลือกแม้แต่ในลิฟต์ จนเธอทนไม่ได้กระแอมเตือน แอบด่า “โรคจิต”
มานพนัวเนียซุกไซ้กับสาวคู่ขาแต่แอบพอใจดุจแพร ส่งสาวคู่ขาแล้วถามชาญว่าเห็นผู้หญิงที่เพิ่งออกจากลิฟต์เมื่อครู่นี้ไหม สั่งชาญให้สืบดูว่าเป็นใคร พูดหื่นๆว่า “สวยถูกใจฉันว่ะ”
เวลาเดียวกันนั้น เจ้าสัวเล้งโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง เค้นถามดวงแขว่าลูกชายตนหายหัวไปไหน ดวงแขย้อนถามว่าตนจะรู้ได้ยังไงในเมื่ออยู่ด้วยกันตรงนี้ตลอด เจ้าสัวหัวเสีย ด่าดวงแขว่าเอาแต่โอ๋ตามใจลูกจนเสียคน ดวงแขรับรองว่าลูกไม่เสียคนแน่ คงหนีเที่ยวไปตามวัย พอเที่ยวเบื่อก็กลับมาช่วยงานแน่
“ลูกฉันมันต้องเป็นมังกร มันจะต้องทำให้ตระกูลมังกรวารีของฉันยิ่งใหญ่ แต่ถ้ามันทำตัวได้แค่กิ้งกือ ฉันก็จะไม่เอามันไว้”
“คุณกล้าพอจะตัดเขาออกจากชีวิตคุณได้เหรอคะ ในเมื่อมานพคือสายเลือดมังกรวารีคนเดียวที่เหลือของคุณ”
ดวงแขถามอย่างเป็นต่อ เจ้าสัวชะงักคลายมือที่บีบแขนเธอ มองไปที่ท่าเรือมูลค่านับพันล้านของเขาเบื้องหน้า...
ooooooo
เมื่อ 20 ปีก่อน...ในงานเลี้ยงแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการท่าเรือ SIAM BAY โดย Red Dragon Group” ที่โรงแรมหรู งานนี้เมียเล้งพาลูกชายพาวัย 8 ขวบจอมซนมาด้วย ลูกซนจนเมียเล้งจะพาขึ้นไปบนห้อง เล้งโบกมือห้าม...
“ไม่ต้อง...ให้อยู่ในงานนี้แหละ ฉันอยากให้ลูกชายฉันเห็นความยิ่งใหญ่ที่ฉันกำลังจะสร้างขึ้น” เล้งลูบหัวลูกบอก “อย่าซนนะอาตี๋ สิ่งที่จะเห็นต่อไปนี้ มันจะเป็นของลื้อในอนาคต”
พอเมียเล้งพาลูกชายเลี่ยงไป ดวงแขก็เฉิดฉายเข้ามาในงาน เล้งไม่พอใจลากดวงแขไปที่มุมลับตาถามว่ามาทำไม สั่งแล้วใช่ไหมว่าอย่าโผล่หน้ามาให้เมียตนเห็น
ดวงแขเป็นเมียเก็บของเล้ง เธอพูดอย่างไม่สะดุ้งสะเทือนว่าเมียเขาไม่รู้จักตน และตนก็อยากมาดูความสำเร็จที่เขาภาคภูมิใจ จะได้กลับไปเล่าให้มานพฟังว่าพ่อเขาเก่งมากแค่ไหน
ขณะนั้นเอง โหงว ที่เล้งเรียกว่าเฮียโหงวมือขวาคนสนิทของเตี่ยเขาเดินมา เล้งบอกเฮียโหงวให้เอาดวงแขที่โหงวส่งมาปรนเปรอเขาออกไปอย่าให้มาเกะกะในงาน โหงวขอว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆอย่าลงไม้ลงมือกันเลย
“เฮียโหงว!! พ่อผมตายไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องฟังคำแนะนำของเฮียอีก เฮียนั่นแหละที่ต้องฟังคำสั่งผมอย่างเดียว พาดวงแขออกไป”
โหงวเก็บความไม่พอใจ จำต้องทำตามคำสั่งของเล้ง
แต่ไม่ทันที่เล้งจะกล่าวเปิดงาน เสียงปืนก็รัวก้องขึ้น แขกในงานแตกตื่น กลุ่มมือปืนสวมหมวกไอ้โม่งบุกเข้ามายิงกราด เล้งเห็นลูกถูกยิง ซ้ำเมียที่กอดลูกไว้ก็ถูกยิงตายไปอีกคน เล้งกระโดดลงมาจะช่วย ถูกมือปืนเล็งใส่ อีกคนแทงเข้าหัวไหล่เขาเลือดโกรก พราวแสงสาวเสิร์ฟมาเห็นเธอคว้าขวดแชมเปญฟาดหัวมือปืนจนมันเสียหลักแล้วเธอก็พาเล้งหนีออกไป
เล้งหันมองลูกเมียที่ถูกยิงตายแค้นอกแทบระเบิด เขาถูกพราวแสงพาหนีไปที่ลานจอดรถ โหงววิ่งตามตะโกนเรียก พราวแสงถามว่าคนนี้จะช่วยเขาได้ไหม เล้งบอกว่าเขาคือคนที่จะฆ่าตน พราวแสงจึงพาเล้งขึ้นรถกระบะที่เจ้าของเสียบกุญแจคาไว้ ขับพาเล้งหนีไป ท่ามกลางสายตาโหงวที่มองตามอย่างเจ็บใจที่ฆ่าเล้งไม่สำเร็จ
ooooooo
พราวแสงพาเล้งมาพักที่เรือนแพอันเป็นบ้านพักของเธอ เธอบอกเขาว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของพ่อแม่ตนที่ตายไปแล้ว รับรองปลอดภัยแน่ เล้งถามว่าเธอชื่ออะไร พอเธอบอกว่าชื่อพราวแสง เล้งทวนชื่อเธอเบาๆก่อนหมดสติไป
พราวแสงปฐมพยาบาลจนเล้งแข็งแรงขึ้น แล้ววันหนึ่งเขาก็หายไป เธอตามไปเจอเขาที่สถานก่อสร้างท่าเรือ เห็นโหงวกำลังบัญชาการสร้างท่าเรือราวกับเป็นเจ้าของ เล้งฆ่าลูกน้องโหงวหมายบุกไปฆ่าโหงวแก้แค้นให้ลูกเมีย พราวแสงมาห้ามทัน ถามเขาว่า “ถ้าเลือดเปื้อนมือคุณแล้ว คุณจะกลับไปเป็นคนเดิมได้อีกหรือ ให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้เถอะ”
“สมบัติทุกอย่างเป็นของตระกูลผม ถ้าปล่อยให้คนเลวอย่างมันเอาไปแล้วผมจะมากราบไหว้บรรพบุรุษได้ยังไง”
เล้งผลักพราวแสงแล้วยิงโหงวทันที แต่ยิงพลาดไปถูกที่ขา ลูกน้องโหงวยิงสวนมาถูกต้นแขนพราวแสง เล้งตกใจรีบพาพราวแสงหนีไป
กลับมาถึงเรือนแพริมน้ำ เล้งรู้สึกผิดที่ทำให้พราวแสงบาดเจ็บ เขาขอโทษ สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด ความอาทรห่วงใยกันในยามตกอยู่ในภยันตราย ทำให้ต่างเห็นใจ เข้าใจกันจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
วันหนึ่ง เล้งเห็นพราวแสงยืนเหม่ออยู่ เข้าไปหาเห็นแววตาเธอกังวล เล้งบอกเธอด้วยความรักว่า
“พราวแสง...ถ้าเธอกลัวเรื่องอนาคตของเรา ฉันสัญญาว่าจะไม่เป็นแบบนั้น ทันทีที่เราล่องไปถึงนครสวรรค์ ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเตี่ย อิทธิพลของเขาจะช่วยปกป้องเราและช่วยให้ฉันกอบกู้สมบัติของตระกูลกลับมาได้”
พราวแสงถามว่าการล้างแค้นจะจบลงหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่พูดความกังวลใจออกมา เล้งปลอบว่าเธอไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เธอเป็นหนึ่งในคนของตระกูลตน ตนจะปกป้องเธอด้วยชีวิต แล้วเล้งก็เอาสร้อยหยกรูปมังกรสีแดงสมบัติประจำตระกูลมาสวมให้เธอ
“หยกมังกรวารี สมบัติประจำตระกูลฉัน จะพิสูจน์ให้เห็นว่าชีวิตเธอมีค่าที่สุดสำหรับฉัน”
พราวแสงกำหยกมังกรวารีไว้ในมือ ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้น พราวแสงสะดุ้งเฮือก เลือดซึมออกมาจากทรวงอก เล้งมองไปที่ฝั่งเห็นลูกน้องโหงวใช้ปืนติดลำกล้องกำลังเล็งมา
“ไม่ต้องห่วงฉัน...คุณต้องมีชีวิตรอดต่อไป” พราวแสงผลักเล้งออก เล้งไม่ยอมบอกว่าเราต้องไปด้วยกัน “ฉันอยู่กับความอาฆาตแค้นของคุณไม่ไหวหรอก” สิ้นเสียง ปืนคำรามขึ้นอีกหนึ่งนัด ร่างพราวแสงร่วงลงน้ำทันที เสียงปืนรัวมาอีก เล้งกระโดดลงน้ำเพื่อช่วยพราวแสง แต่หาเธอไม่เจอแล้ว...เขาได้แต่เรียกหาเธอ คร่ำครวญอย่างปวดร้าวไปทั่วคุ้งน้ำ...
ooooooo
ด้วยความคดในข้องอในกระดูกของดวงแข เธอเป็นคนนำหลักฐานการจ้างวานฆ่าเล้งของโหงวมอบแก่ตำรวจ ทำให้โหงวถูกจับฐานจ้างวานฆ่า ปิดปากโหงวที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต
ก่อนหน้านี้ ดวงแขพามานพไปอยู่คฤหาสน์ของเล้งที่โหงวไปยึดครองอยู่ โหงวตวาดอย่างอารมณ์เสียว่าทำไมไม่รอให้แน่ใจก่อนว่าเล้งตายจริงๆค่อยมา ดวงแขตกใจถามว่าเล้งยังไม่ตายหรือ ถ้าเล้งรอดกลับมารู้ความจริงว่ามานพเป็นลูกโหงวไม่ใช่ลูกเขา มีหวังเล้งฆ่าตนแน่
“หุบปากซะดวงแข!! ฉันบอกเธอแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก ความลับเรื่องตานพจะต้องมีแค่เธอกับฉันเท่านั้นที่รู้ ยิ่งตอนนี้ไอ้เล้งมันไม่เหลือทายาทมังกรของมันอีกแล้ว ตานพยิ่งเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของเรา”
เมื่อดวงแขพามานพมาบอกเล้งว่าเป็นลูกของเขา เล้งกอดมานพไว้พูดด้วยความภูมิใจว่า
“ขอบคุณบรรพบุรุษที่ทำให้ฉันยังเหลือสายเลือดมังกรอยู่”
แต่ 20 ปีผ่านไป ณ วันนี้ เล้งพูดอย่างผิดหวังเจ็บปวดว่า
“ถึงมานพจะเป็นสายเลือดคนเดียวที่เหลือของฉัน แต่ถ้ามันยังทำตัวไม่รักดี ก็อย่าหวังว่าฉันจะยกสมบัติที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อฉันให้มันไปผลาญเล่น”
เล้งหุนหันกลับไปแล้ว ดวงแขจิกตามองเล้งพึมพำอย่างเจ็บใจ
“ตานพนะตานพ ฉันอุตส่าห์ทำเพื่อแกคนเดียวแท้ๆ...โธ่เอ๊ย....”
ooooooo
หยกเสียใจ ไปขลุกอยู่ในศาลเจ้านั่งดูมังกรในศาลแล้วก้มดูหยกแดงรูปมังกรที่ห้อยคอติดตัวมาแต่เกิดอย่างคิดหนัก จนกิ่งเหมยมาบอกว่าจะปิด
ศาลเจ้าแล้ว กิ่งเหมยพยายามพูดปลอบใจแต่ในภาวะนี้หยกคิดไม่ตก รับไม่ได้
เมื่อหยกออกจากศาลเจ้า ลูกน้องกิจชัยที่ซุ่มอยู่ก็กรูกันเข้ามาจับกิ่งเหมยที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้พวกมัน และทำร้ายอาม่าจนบาดเจ็บ ส้มเช้งมาช่วยอาม่าและโทร.บอกหยก หยกไปเอาอาวุธและอุปกรณ์ที่ร้านมอเตอร์ไซค์ของอ่างกับสลึงสองพี่น้องแล้วบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปร้านสนุ้กเกอร์ที่พวกกิจชัยมั่วสุมเพื่อช่วยกิ่งเหมย
หยกต่อสู้กับพวกกิจชัยทำขวดน้ำมันที่เอามาแตกน้ำมันเจิ่งนอง หยกสั่งให้มันเอาตัวกิ่งเหมยมา พลางชูไฟแช็กจะจุดถ้ามันขัดขืน พวกกิจชัยจึงยอมปล่อย
กิ่งเหมย พอหยกพากิ่งเหมยออกมา กิจชัยคำรามตามหลัง
“ไอ้หยก อย่าคิดว่าวันนี้มึงจะรอด ตามไปจัดการมัน”
แต่พวกมันก็ถูกหยกเอาน้ำมันราดจุดไฟสกัด บอกกิ่งเหมยให้รีบหนีไปตนจะสกัดมันไว้ที่นี่ กิ่งเหมย
กลับถึงบ้านไม่นานหยกก็ตามมา เขาพูดให้กำลังใจทุกคนว่าต่อไปนี้พวกกิจชัยจะไม่กล้ามาแหยมกับเราอีกแล้ว แต่ทั้งตัวเขาและกิ่งเหมยต่างรู้แก่ใจดีว่าเรื่องไม่จบง่ายแน่ๆ
เพียงวันรุ่งขึ้น คมทวนก็ถือหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าววางเพลิงเผาอาคารมาถามว่าเป็นฝีมือหยกใช่ไหม ด่าหยกว่าไม่รักดี ตนจะให้เป็นตำรวจแต่กลับใช้ศาลเตี้ยจัดการปัญหา
“พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ผมก็พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ”
“แกจะรับผิดชอบด้วยอะไร ลำพังตัวเองตอนนี้มีอะไรบ้าง เรียนก็ยังไม่จบ อย่างเดียวที่มีค่าสำหรับแกที่สุดก็คืออนาคตที่แม่แกหวังเอาไว้ แต่แกกำลังจะทำลายด้วยมือแกเอง”
คมทวนพลั้งปากเรื่องแม่ของหยก ทำให้เขาสนใจขึ้นมาทันที ถามว่าแม่ต้องการให้ตนเป็นตำรวจหรือ ทำไมแม่ถึงอยากให้ตนเป็นตำรวจ มันเกี่ยวอะไรกับชาติกำเนิดของตนด้วย พยายามจะให้คมทวนเล่าเรื่องของตนให้ฟัง แกตัดบทว่า
“ฉันไม่มีอะไรจะเล่า รู้ไว้อย่างเดียวก็พอว่าแม่แกเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด เขารักและเสียสละทุกอย่างก็เพื่อแก เพราะฉะนั้นในเมื่อเขาฝากให้ฉันดูแลแก ฉันก็ต้องทำให้ได้อย่างที่เขาต้องการ”
ขณะกำลังคุยกับคมทวนอย่างตึงเครียดนั่นเอง กิ่งเหมยวิ่งหน้าตาตื่นตกใจมาบอกว่า
“หยก...แย่แล้ว ตำรวจ...มีตำรวจมาที่นี่ เขาจะมาจับเธอ!”
แม้คมทวนจะกำลังโมโหหยก แต่พอหยกตกอยู่ในภาวะคับขัน และกิ่งเหมยขอร้องให้ช่วย คมทวนตอบทันทีว่า
“ฉันรับปากแม่แกไว้ว่าจะดูแลไม่ให้แกเป็นอะไร ฉันก็ต้องทำให้ได้...ไปกับฉัน!!” คมทวนจับมือหยกลากออกไป เมื่อตำรวจมาจึงไม่เจอหยก ถามกิ่งเหมย เธอบอกว่าหยกไม่อยู่ ตำรวจเข้าไปค้นในห้องเจอรูปถ่ายหยกในชุดนักเรียนนายร้อยตำรวจจึงเอาออกมา กิ่งเหมยขอร้องว่าหยกไม่ได้ทำผิดอะไร ปล่อยเขาไปเถอะ
“เพิ่งจะหนีไป...ตามให้ทัน” ตำรวจที่นำกำลังมาสั่ง
ตำรวจตามคมทวนและหยกไปทันกันที่ใต้ทางด่วน คมทวนบอกให้หยกหนีไป ตนจะกันตำรวจไว้เอง หยกไม่ยอมหนีจะขอยอมรับผิดอย่างองอาจให้สมกับที่พ่อเคยสอนตนมาตลอด ก็พอดีตำรวจบุกมาถึง จับหยกใส่กุญแจมือนำตัวไป หยกมองหน้าพ่อน้ำตาอาบหน้า
“หยก...” คมทวนครางออกมาน้ำตาไหลพรากเช่นกัน...
ooooooo
เสี่ยตงที่ประกอบธุรกิจค้าผู้หญิง แค้นใจเมื่อหญิงสาวที่ลูกน้องหามาหายไปหมด เขาเชื่อว่าลูกน้องคนหนึ่งเป็นคนเอาหญิงสาวเหล่านั้นไปขายให้ที่อื่น เสี่ยตงยิงชายคนนั้นตายแล้วโยนปืนให้กิจชัย สั่งให้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย
ที่แท้ชายที่ถูกเสี่ยตงยิงตายเป็นสายของตำรวจที่แทรกเข้าไปฝังตัวทำงานในแก๊งมาเฟียของเสี่ยตง ผู้การสมิงรู้ข่าวถึงกับเครียดหนัก
ไม่นานนักผู้การสมิงก็ได้รับไฟล์ใบหน้าและข้อมูลนักเรียนนายร้อยหลายคนส่งมาให้พิจารณา ในนั้นมีหยกรวมอยู่ด้วยคนหนึ่ง ผู้การสมิงหยุดดูที่รูปหยกอย่างสนใจ เขาโทร.คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า
“ฉันสนใจคนนี้ ประวัติน่าสนใจมาก ฉันอยากเจอเขา...ว่าไงนะ...มีปัญหาเหรอ ปัญหาอะไร?”
ฟังปลายสายเล่าแล้ว ผู้การสมิงยิ่งสนใจหยก... ไม่กี่อึดใจ ผู้การก็ไปถึงสถานีตำรวจที่ควบคุมตัวหยก ขอคุยส่วนตัวกับเขา ผู้การบอกหยกว่าตนอยากรู้จักเขามากกว่าประวัติในนี้ พลางยื่นแฟ้มประวัติของหยกให้ดู หยกถามว่าเอาประวัติตนมาจากไหน
“ไม่ต้องตกใจ ถึงตอนนี้คุณจะไม่ใช่นักเรียนตำรวจอีกแล้ว เพราะคดีที่คุณทำผิดกฎหมายจะทำให้คุณติดคุก แต่ถ้าคุณทำให้ผมเชื่อได้ว่าเราสามารถร่วมงานกันได้ ผมนี่แหละที่จะช่วยให้คุณยังมีเกียรติยศของผู้รักษากฎหมายอยู่”
หยกนึกถึงที่คมทวนบอกว่าแม่ต้องการให้เขาเป็นตำรวจ เขาบอกผู้การทันทีว่า
“ถ้าคุณช่วยให้ผมได้เกียรติยศนั้นคืนได้จริงๆ ผมจะเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีวิตผมให้ฟัง”
เมื่อผู้การสมิงยิ้มรับ หยกจึงเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง...จากนั้นถามว่าจะบอกได้หรือยังว่าจะให้ตนทำงานอะไร ผู้การสมิงจึงเอารูปตำรวจที่ถูกเสี่ยตงฆ่าเผานั่งยางให้ดู บอกว่านี่คือตำรวจที่ตนส่งเป็นสายแฝงในแก๊งอาชญากรกลุ่มหนึ่ง เขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ 1 ปีที่ตนส่งเขาไปทำงานต้องคว้าน้ำเหลว
หยกถามว่าต้องการให้ตนเป็นสายแทนคนนี้ใช่ไหม ผู้การพยักหน้า ย้ำว่า “งานนี้เสี่ยงมาก ผมต้องการคนที่เอาตัวรอดได้ และคนที่พร้อมจะยอมแลกได้ทุกอย่างแม้แต่...อนาคตตัวเอง” พูดแล้วเห็นหยกนิ่งไป ผู้การให้เวลาเขาไปคิดตัดสินใจอีกที ย้ำอย่างตรงไปตรงมาว่า
“เพราะถ้าคุณรับงานนี้ คุณก็จะถอยหลังกลับอีกไม่ได้ จะมีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าคุณทำงานให้ตำรวจ เมื่อคุณก้าวเข้าไปหาพวกมัน คุณจะต้องเป็นอาชญากร ทางรอดจึงมีสองทาง คือ เอาชนะพวกมันให้ได้ หรือไม่ก็...” ผู้การชี้ให้ดูรูปสายคนเก่าที่ถูกฆ่าเผานั่งยาง “เอาล่ะ...ผมให้เวลาคุณตัดสินใจดูก่อนก็แล้วกัน”
“ถ้าผมรับงานนี้ คุณจะรับปากผมเรื่องนึงได้ไหม”
“เธอต้องการให้ฉันช่วยอะไร?” ผู้การมองหน้าหยกอย่างสงสัย
ooooooo
เพื่อให้มานพได้มรดกจากเล้ง ดวงแขให้มานพไปขอโทษเขาและยอมรับผิดทุกอย่าง สัญญาว่าจะไม่ทำตัวเหลวไหลอีก เล้งตบหน้ามานพจนเลือดกบปาก บอกว่าขอโทษตนคนเดียวไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ทำให้ตนเสียใจคนเดียว ลากมานพไปที่หน้าเรือสำเภาจำลองจับคุกเข่าลง สั่งให้ขอโทษบรรพบุรุษด้วย
มานพเก็บความไม่พอใจไว้ในอก เล่นละครด้วยการคุกเข่าเอาหน้าผากโขกพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า เล้งบอกให้พอเขาก็ยังไม่หยุด จนเล้งเข้าไปจับตัวดึงไปกอดไว้
“พ่อสั่งให้หยุด พอได้แล้ว พ่อยกโทษให้แก แกคือสายเลือดคนสุดท้ายของตระกูล เพราะฉะนั้นแกจะต้องไม่เป็นอะไร อย่าให้เลือดของแกไหลออกมาโดยเปล่าประโยชน์อีก จำไว้นะมานพ”
“ครับพ่อ” มานพรับคำน้ำตาคลอ กอดเล้งไว้แน่นอย่างซึ้งใจ แต่แอบยิ้มพอใจที่เล่นละครตบตาเล้งได้สำเร็จ!
ooooooo










