ตอนที่ 15
นาชะพาบีมกับปิงปองหนีไปถึงทางตันที่หน้าผา ยามินกับกาตงตามมาทัน พร้อมกันนั้นเทพอัคราก็ปรากฏตัวและใช้พลังทำให้ทั้งสามคนขยับตัวไม่ได้
“พวกเจ้าคุมตัวสามคนนั่นไว้”
ยามินกับกาตงปฏิบัติตามคำสั่งเทพอัครา แต่ร่างของทั้งคู่กลับกระเด็นออกมาเพราะฤทธิ์เดชขวานคู่ของไกรยุทธ์และ นาฬิกา สองพ่อมดรู้แน่ว่าพวกตนสู้ไม่ได้จึงแวบหายไปอย่างรวดเร็ว
เทพอัคราลำพองใจว่าคราวนี้พวกทายาทหนีไม่รอดแน่ แต่แล้วณัชชากับเอกภพโผล่มาทันเวลาและเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ณัชชาเกรงทายาทจะเป็นอันตรายจึงให้เอกภพพาพวกเขาหนีไปก่อน ส่วนเธอต่อกรกับเทพอัครา และเทพอาคินที่ตามมาสมทบ สองเทพรวมพลังทำให้ณัชชาเกือบพลาดท่าเสียทีถ้าไม่ได้เจ้าป่ามาช่วยไว้ ส่วนราเชนกับปาระนังที่ตามมาทันก็ร่วมด้วยช่วยกัน จนที่สุดเทพอัครากับเทพอาคินก็พ่ายแพ้ถอยหนีไป
นาชะ บีม และปิงปองถูกเทพอาคินดูดพลังทำให้ร่างกายอ่อนแอจึงต้องพักฟื้นร่างกายแล้วค่อยเดินทางต่อ
“ใกล้ถึงจุดหมาย เทพอัครายิ่งระดมพวกสาวกของพวกมัน อันตรายยิ่งมากเป็นทวีคูณ” ณัชชาเอ่ยอย่างหนักใจ
“สามคนนั่นอาการหนักแค่ไหนเพคะองค์หญิง”
“เทพอัคราไม่ได้คิดทำร้ายสามคนนั่น ทุกคนยังปลอดภัยดี เพียงแค่อ่อนพลังลงไปเท่านั้น”
“เราจะเดินทางกันยังไงครับ คงปล่อยให้ทายาทเดินทางตามลำพังไม่ได้แล้ว”
“ฉัน กับผู้กองจะหาทางดึงความสนใจของเทพอาคินและเทพอัคราเพื่อให้เวลาทายาทได้พัก ผ่อนให้เต็มที่ หลังจากนั้นท่านราเชนกับท่านธิดาค่อยพาทายาทเดินทางไปยังจุดนัดพบ”
“เผชิญหน้ากับเทพอัคราอันตรายเกินไปนะเพคะ” ปาระนังทักท้วง
“เราไม่มีทางเลือกอื่น เราต้องล่อเทพอัคราให้ติดพันอยู่กับเราสองคน”
“แล้ว ถ้าเกิดว่าเทพอัครากับเทพอาคินไปโผล่ทางด้านท่านราเชนกับทายาทล่ะครับ คงจะต้านไม่ไหวแน่ มีทางไหนที่จะส่งสัญญาณถึงกันได้ไหมครับ ประมาณว่ากดปุ๊บถึงปั๊บ ไม่ต้องรอคุณนาชะ”
“พอมีอยู่วิธีหนึ่ง...”
“มนตร์ ผนวกศาสตราวุธ” ราเชนพูดโพล่งอย่างนึกได้ ปาระนังเชื่อว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล แต่เอกภพไม่เข้าใจถามว่ามันคืออะไร ณัชชาจึงขยายความ
“เอาอาวุธประจำกายของทุกคนมาผนวกกันเมื่อถึงยามคับขัน ใช้อาวุธส่งสัญญาณเราก็จะจับตำแหน่งทุกคนได้”
ทุกคนนำอาวุธประจำตัวออกมายืนประจันหน้า รวมทั้งไกรยุทธ์และนาฬิกาด้วย
“เอาละ ทุกคนตั้งสมาธิให้นิ่ง อย่างอื่นเราจัดการเอง”
ทั้งหมดหลับตาทำสมาธิ อึดใจก็มีรังสีสะท้อนขึ้นมาจากดาบพิชิตมารครอบคลุมอาวุธของทุกคน แล้วค่อยๆลดลงจนเป็นปกติในที่สุด
“ต่อไปนี้ยามคับขันแค่ยกอาวุธขึ้นมาดาบพิชิตมารจะเตือนเราและจับตำแหน่งทุกคนได้ทันที”
ฟังณัชชาแล้วทุกคนค่อยเบาใจ จากนั้นทั้งหมดหารือกันต่อเรื่องแผนที่การเดินทาง
“ตามแผนที่...สองขุนเขาใหญ่คือจุดที่เราจะพบกัน...ท่านราเชนกับท่านธิดา ฝากทายาทด้วย”
“องค์หญิงอย่าได้กังวล” ราเชนพูดแข็งขัน
“เรา จะใช้พลังของเราอำพรางพลังของท่านราเชนและท่านธิดาให้มากที่สุด...มาผู้กอง นับตั้งแต่นี้เราจะเดินทางด้วยพลังของฉัน” ณัชชายื่นมือให้เอกภพจับแล้วหายวับไปพร้อมกัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง นาชะรู้สึกตัวก่อนบีมและปิงปอง ทั้งสามจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นาฬิกาจึงเล่าให้ฟังว่าพวกเขาถูกพลังของเทพอัคราทำร้าย ปาระนังเห็นว่าสองทายาทยังไม่แข็งแรงเหมือนนาชะจึงตัดสินใจว่า
“ระยะทางยังอีกไกล ทายาทยังไม่แข็งแรงพอ เราต้องพาไปหลบในที่ปลอดภัย”
“ท่านธิดาจะพาทายาทไปหลบที่ไหนหรือคะ” นาชะสงสัย
“เราจะเข้าประตูกลออกนอกเส้นทางหลบไปยังที่ที่พลังของเราแข็งแกร่งที่สุด”
ทุกคนจับมือกันก่อนหลับตาทำสมาธิตามที่ปาระนังบอก ไม่นานนักร่างพวกเขาก็หมุนติ้วไปปรากฏที่ชายหาดหมู่บ้านชาวเล ทายาททั้งสี่และนาชะตื่นเต้นกันใหญ่
“เย้...พลังที่แข็งแกร่งของพี่ปาระนังก็คือใกล้น้ำนี่เอง”
“ท่านธิดาชาญฉลาด เทพอัคราต้องคิดหนักถ้าจะโผล่มาที่นี่”
“ถ้ามาก็เจอเจ้าสมุทรเต็มๆ”
ทุกคนยิ้มแย้มแล้วพากันไปหาที่พัก เจอกระท่อมหลังหนึ่งเหมาะเหม็งเพราะอยู่ห่างไกลผู้คน ราเชนให้พวกผู้หญิงกับบีมเข้าไปพักผ่อน ส่วนตัวเองและไกรยุทธ์ดูแลความปลอดภัยอยู่ข้างนอก
“พี่ราเชนคิดว่าเทพอัคราจะมาที่นี่ไหมครับ”
“พี่ว่าไม่หรอก เทพอัคราคงไม่อยากสร้างปัญหากับหนึ่งในโลกทั้งสี่ จนกว่าจะได้กุญแจคุกนิลกาลอยู่ในมือ บวกกับพลังขององค์หญิงที่คอยช่วยอำพรางพลังของเราที่อยู่ที่นี่คงช่วยให้เราพ้นพวกมันได้ระยะหนึ่ง”
สองหนุ่มยุติบทสนทนาเมื่อนาชะก้าวออกมาจากกระท่อม บอกว่าคืนนี้ท่านธิดาต้องการให้ทายาททุกคนผสานกำลังกัน...
ooooooo
ณัชชากับเอกภพใช้พลังในการเดินทางด้วยการเหาะเหินผ่านทิวไม้ไปเรื่อย จนกระทั่งกำลังจะผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ณัชชาสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านจึงแวะลงมาแต่กลายเป็นว่าเห็นผู้คนร้องรำทำเพลงเป็นขบวน
“ดูเหมือนว่าชาวบ้านจะเฮฮาปาร์ตี้มากกว่าจะเดือดร้อนนะครับ”
“เราเข้าไปดูกันดีกว่า”
ณัชชาเดินลิ่วเข้าไปใกล้ขบวนโดยมีเอกภพเดินตามหลัง ชาวบ้านทุกคนไม่มีใครสนใจ ร้องรำทำเพลงกันไปเรื่อยก่อนจะหยุดลงเมื่อณัชชาส่งเสียงถาม
“ทำอะไรกันอยู่จ๊ะ”
“เรากำลังทำพิธีแห่นางแมวอยู่”
คำตอบของชายชาวบ้านทำให้ณัชชานิ่วหน้าไม่เข้าใจ เอกภพจึงยื่นหน้าเข้ามากระซิบหยอกล้อใกล้ๆเธอ
“เป็นนางฟ้าไม่รู้จักพิธีแห่นางแมวเหรอครับ”
“ฉันมัวแต่ปราบเทพชั่ว ไม่ถนัดเรื่องร้องรำทำเพลง” เธอกระซิบตอบพลางค้อนเอกภพอย่างเคืองๆ ชายหนุ่มอมยิ้มขำๆ บอกว่าแห่นางแมวคือพิธีขอฝน “แสดงว่าเดือดร้อนใช่ไหมล่ะ”
“ครับ องค์หญิงสัมผัสได้ถูกต้องแล้วครับ...แห้งแล้งขาดน้ำครับ”
“ขาดน้ำเหรอ ฉันจัดการเอง” ณัชชาเงยหน้ามองท้องฟ้าเรียกหาพระพิรุณ
ชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องตลกหัวเราะกันคิกคัก แต่แล้วหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงฟ้าครืนๆ ฝนเทกระหน่ำลงมาในพริบตา...
ooooooo
ที่หน้ากระท่อมชายหาด ราเชนหารือปาระนังเรื่องที่จะให้ทายาททุกคนผสานกำลังในคืนนี้
“ปิงปองกับบีมอาการหนักพอสมควร ถ้าไม่ผสานพลังรักษาเกรงว่ายากที่จะเดินทางได้ถึงจุดหมาย”
“การผสานกำลังอาจทำให้เทพอัครารู้ว่าเราอยู่ที่นี่”
“แต่เราไม่มีทางเลือก อย่างน้อยเราอยู่ใกล้ทะเล ยังไงก็พอที่จะต้านได้บ้าง”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ทันใดนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าเพื่อนของตนจมน้ำไม่หายใจ ปาระนังกับราเชนรีบตามเด็กไปทันที แล้วพบว่าแม่กำลังกอดลูกชายร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ
“ลูกแม่...ช่วยลูกฉันด้วย ฉันมีลูกอยู่คนเดียว ลูกฉันไม่หายใจ”
“ขอให้ฉันดูเด็กหน่อยซิ” ปาระนังเข้ามาแตะต้องเนื้อตัวเด็กครู่หนึ่งก่อนบอกว่าเด็กคนนี้มีเคราะห์อันเกิดมาจากการกระทำของพ่อ
“ทำอะไรจ๊ะ พ่อเด็กก็แค่ออกไปจับปลาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“เฮ้ย...พ่อไอ้เปี๊ยกมา” เสียงเด็กคนหนึ่งตะโกนบอก ทุกคนหันไปมองชายฉกรรจ์ที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น พอรู้ว่าลูกชายจมน้ำตาย เขาตบหน้าเมียตัวเองด้วยความโมโหที่ไม่ดูแลลูก แล้วทำท่าจะซ้ำอีกทีถ้าราเชนไม่เข้ามาขวาง
“ถอยไป เอ็งอย่ามายุ่งเรื่องของข้า”
พ่อเด็กชกราเชนแต่พลาด แถมถูกราเชนตบเปรี้ยงเดียวกระเด็นไปทรุดอยู่ตรงหน้าปาระนังที่อุ้มเด็ก
“เด็กคนนี้ต้องรับเคราะห์เพราะเจ้า เจ้าใช้ระเบิดหาปลา ทำลายปะการัง ทำลายชีวิตในทะเลด้วยความเห็นแก่ตัว”
“เฮ้ย...พูดอะไรวะ เอาลูกข้ามา”
“ลูกของข้า...ข้าเตือนเอ็งแล้วเรื่องทำผิดต่อเจ้าทะเล เอ็งไม่เชื่อข้า ทำให้ลูกข้าต้องตาย”
“เหลวไหล ใครๆก็ทำกันทั้งนั้น ไอ้เปี๊ยกมันจมน้ำตายเองไม่เกี่ยวกับข้า”
สองผัวเมียทุ่มเถียงกันไปมา ราเชนทนไม่ไหวสั่งฝ่ายชายให้หุบปากเดี๋ยวนี้ และจงฟังว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
“ข้าจะช่วยลูกเจ้า แต่เจ้าต้องรับปากสัญญาว่าจะเลิกทำผิด”
“ข้าไม่สน ข้าไม่เลิกเว้ย”
“เจ้าเลือกเอาว่าจะเอาชีวิตลูกหรือชีวิตสามี”
แม่เด็กตอบปาระนังโดยไม่ต้องไตร่ตรองว่าเธอเลือกลูกชาย ปาระนังจึงอุ้มเด็กเดินลงไปสัมผัสน้ำทะเลขอความช่วยเหลือจากท่านปู่ให้ไว้ชีวิตเด็กคนนี้ เมื่อเธอกลับขึ้นมาก็พบว่าเด็กรู้สึกตัว แต่พ่อเด็กกลายเป็นศพจมน้ำอยู่อีกทางอย่างไม่น่าเชื่อ!
ooooooo
ตกกลางคืน ปาระนังให้ทายาททั้งสี่นั่งล้อมวงจับมือประสานกันเพื่อผสานกำลังรักษาอาการของบีมและปิงปอง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สำเร็จลุล่วงจนราเชนอดชมปาระนังไม่ได้
“ความคิดของท่านธิดาถูกต้องอีกแล้ว ดูเหมือนว่าบีมกับปิงปองจะมีพลังสมบูรณ์ก่อนรุ่งเช้า”
“หวังว่าคงเป็นเช่นนั้น”
แต่ไม่ทันถึงตอนเช้ามีค้างคาวสาวกของอาคินปรากฏให้เห็น ราเชน ปาระนัง และนาชะต่างระแวดระวังภัยให้ทายาทเป็นอย่างดี
“ขืนติดพันแบบนี้พวกมันต้องเข้าถึงตัวทายาทหรือไม่เทพอาคินต้องโผล่มา”
“พี่จัดการพวกมันเอง” ราเชนจัดการกับฝูงค้างคาวด้วยเปลวไฟแต่ไม่สำเร็จ “เทพอัคราทำให้พวกมันมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า”
ฝูงค้างคาวกลายร่างใหญ่เท่าคนพุ่งเข้าใส่พวกราเชนและอาจทำให้ทายาททั้งสี่ออกจากสมาธิได้ถ้าเจ้าสมุทรไม่มาช่วย ปาระนังดีใจมาก ขอบคุณท่านปู่ที่ช่วยจัดการสาวกของอาคินอย่างราบคาบ...
เช้าขึ้น ทุกคนเตรียมตัวเดินทางต่อ บีมกับปิงปองแข็งแรงเป็นปกติเบ่งกล้ามโชว์กันใหญ่
“เอาละ...ทุกคนเตรียมพร้อม เราจะข้ามประตูกลกลับสู่เส้นทางเดิม”
หลานสาวเจ้าสมุทรอย่างปาระนังพาทุกคนเดินทางกลับสู่เส้นทางเดิมด้วยเวลาอันน้อยนิด...ทั้งหมดเดินออกมาจากราวป่า จนกระทั่งถึงลานเล็กๆแห่งหนึ่ง ราเชนให้หยุดพักได้ตามอัธยาศัยโดยเขาจะคอยระวังภัยเดินสำรวจรอบๆบริเวณ
ปาระนังผละไปอีกทาง ส่วนนาชะนั่งจับกลุ่มพวกทายาทพูดคุยกันด้วยเรื่องเทพอัครา
“เทพอัคราแหกกฎสวรรค์ ทำร้ายกามเทพแบบนี้ต้องเจอดี”
“เจอดียังไงเหรอพี่นาชะ กามเทพไม่ทำร้ายใครไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ถ้ากามเทพไม่ให้ความรักละก็จะรู้สึก”
“ยังไงเหรอพี่นาชะ”
“ความรักไม่ใช่แค่หนุ่มสาว พ่อกับลูก แม่กับลูกนับเหมือนกัน ลองคิดดูถ้าครอบครัวไม่มีความรักจะเลวร้ายแค่ไหน”
“หมายความว่าเทพอัครากับเทพอาคินอาจกลายเป็นศัตรูกันก็ได้ยังงั้นเหรอคะ”
“ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูหรอก แค่ไม่มีความรักต่อกันก็แย่แล้ว”
ทายาททั้งสี่พยักหน้าเห็นด้วย ปาระนังกับราเชนเห็นว่าพักเหนื่อยกันพอสมควรแล้วจึงเข้ามาบอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมเดินทางต่อ...
ooooooo
ในระหว่างเดินทางด้วยกันตามลำพัง เอกภพกับณัชชาคิดเห็นตรงกันว่าพวกตนควรบุกไปถล่มรังของอาคินเพื่อสร้างความวุ่นวายให้สองเทพพ่อลูกแล้วพวกทายาทจะได้เดินทางกันอย่างปลอดภัยโดยไม่มีใครคอยติดตามก่อกวนสักระยะหนึ่ง
การจู่โจมของณัชชากับเอกภพได้รับความร่วมมือจากเจนศักดิ์และเพื่อนร่วมอาชีพอีกจำนวนหนึ่ง ในขณะที่อาคินมีภูตสังหารแถมยังปลุกผีพวกนายอำนาจขึ้นมา รับมือ สองฝ่ายต่อสู้กันค่อนข้างยาวนานและลุกลามออกไปนอกสถานที่ สุดท้ายณัชชากับเอกภพเป็นรองและอาจบาดเจ็บหนักถ้าไม่ได้เจนศักดิ์เอาแก๊สน้ำตามาช่วยสกัด
เอกภพบอกให้ณัชชากลั้นหายใจแล้วพากันหายตัวไปท่ามกลางความโกลาหลและแก๊สน้ำตาที่ตลบอบอวลทั่วบริเวณ เทพอาคินถึงกับสำลักไอออกมาแถมยังถูกเทพอัคราดุด่าที่พ่ายต่อองค์หญิงณัชชาอย่างไม่เป็นท่า
อาคินได้แต่นิ่งเงียบเพราะเป็นเรื่องจริง ส่วนเจนศักดิ์กับเพื่อนๆที่ซุ่มดูผลงานอยู่มุมหนึ่งถึงกับหัวเราะกันอย่างสะใจที่พวกเทพไม่รู้จักแก๊สน้ำตาถึงได้สูดเข้าไปจนไอค่อกแค่ก










