สมาชิก

ธิดาพญายม

ตอนที่ 14

ขณะที่ทายาททั้งสี่ซึ่งนำโดยนาชะพากันเดินทางมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบใหม่ จู่ๆนาชะหายออกจากกลุ่มเพื่อหาทางสัมผัสพลังของณัชชาที่คิดว่าน่าจะยังติดตามกันมา แต่ทายาททั้งสี่ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะทราบดีว่านาชะต้องกลับมาหาพวกตนแน่

ไกรยุทธ์ในฐานะพี่ใหญ่นำทางน้องๆเดินทางต่อจนกระทั่งไปเจอชายหาดร้างไร้ผู้คน มีแต่กองทรายรูปหมู่บ้าน ชวนให้สงสัยว่าใครกันมาทำไว้ และถ้ามีคนก่อกองทรายทำไมถึงไม่มีรอยเท้าเลยสักนิด

ทุกคนกราดสายตาสำรวจรอบทิศแล้วมาหยุดที่กองทรายอีกครั้ง ปรากฏว่าปิงปองและไกรยุทธ์เห็นหุ่นที่อยู่ในบ้านเดินไปมา ก่อนทั้งหมดจะโดนลำแสงจากกองทรายดึงหายวูบไป รู้สึกตัวกันอีกทีก็พบว่ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

“เรามาอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง”

“ท่าทางไม่ดี ทุกคนเกาะติดกันไว้”

“แล้วพี่นาชะจะหาเราเจอได้ยังไงเนี่ย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ที่ไหนมีความรักที่นั่นมีพี่นาชะ” ปิงปองกระซิบกับบีมพลางพยักพเยิดไปทางคู่รักไกรยุทธ์และนาฬิกา

เมื่อเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้านเจอป้าคนหนึ่ง ทุกคนพยายามสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านแต่ไม่ได้คำตอบใดๆ และท่าทางป้าก็ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าที่ควร

เวลาเดียวกันนั้น นาชะปรากฏตัวที่ชายหาด เมื่อไม่เห็นทายาททั้งสี่ก็บ่นอุบว่าเจอเมื่อไหร่จะตีซะให้เข็ด

“เอ๊ะ รอยเท้านี่...พวกนั้นเดินไปถึงไหนกันแน่” นาชะบ่นพลางกราดสายตาไปมามองบนท้องฟ้าแล้วพึมพำออกมาอย่างโล่งใจ “อย่างน้อยยังไม่มีสาวกของอาคิน”

ooooooo

ที่รังของอาคิน...เทพอัคราลืมตาจากสมาธิ บอกลูกชายว่าตนต้องกลับไปที่ร่างของตนอย่างน้อยหนึ่งวัน

“เกิดอะไรขึ้นท่านพ่อ”

“ข้าต้องเสริมพลังจากร่างจริงของข้า ระหว่างนี้ส่งสาวกของเจ้าออกไปตามหาพวกองค์หญิงณัชชาชิงแผนที่ตามหาพวกทายาทให้ได้”

“แล้วพวกตำรวจ”

“จัดการพวกมันตามแผนที่วางไว้ เราจะเอาภูตดำจากคุกนิลกาลเป็นกำลังก่อสงคราม ใช้โลกมนุษย์เป็นฐานบัญชาการ เอาพวกมนุษย์เป็นทาสรับใช้เรา”

“รับคำสั่งท่านพ่อ” อาคินก้มศีรษะทำความเคารพ พอเงยหน้าขึ้นเทพอัคราก็หายไปแล้ว

หลังรับคำสั่งจากบิดาแล้ว อาคินส่งสองพ่อมดยามินกับกาตงไปตามหาคณะของณัชชาโดยหลอกว่าพวกเธอฆ่าสองแม่มด แต่รายแรกที่สองพ่อมดเจอคือปาระนังกับราเชน สองฝ่ายปะทะฝีมือกันครู่หนึ่งก่อนที่อาคินจะปรากฏตัวพร้อมภูตสังหาร

“พวกเจ้าทั้งสองถอยไปก่อน”

ยามินกับกาตงถอยห่างออกมาตามคำสั่งของอาคิน

“ท่านอาคินคงเสียเวลาเปล่า ทายาทไม่ได้อยู่ที่นี่” ปาระนังยิ้มเยาะ

“ที่สำคัญคือแผนที่...อีกอย่างกำจัดท่านสองคนก็ถือว่าไม่เสียหาย”

“ท่านอาคิน ท่านบอกพวกนี้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนกำจัดแม่มดสาวันนา”

“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร” อาคินรีบตวาดราเชนเพราะกลัวจะพูดความจริงที่เขาเองเป็นคนฆ่าสาวันนา “เจ้าสองคนไปได้ ตามหาพวกทายาทให้พบ”

ยามินกับกาตงจ้องอาคินอึดใจเหมือนลังเล แต่แล้วก็คว้าไม้กวาดขี่ออกไป

อาคินกับภูตสังหารฟาดฟันกับราเชนและปาระนังอย่างดุเดือด เวลาผ่านไปฝ่ายราเชนเริ่มเสียเปรียบและเกือบพลาดท่าถ้าณัชชาไม่ปรากฏตัวได้ทันเวลา

“ท่านราเชน ท่านธิดา...รีบไป”

ราเชนประคองปาระนังพุ่งลอยตัวออกไปโดยมีเสียงตะโกนของณัชชาไล่หลังเตือนให้ระวังภูตสังหาร

“เราไม่หลงกลส่งภูตสังหารตามล่าพวกนั้นหรอก ภูตสังหารต้องอยู่ที่นี่จัดการกับองค์หญิง”

“ที่แท้ท่านกลัวเรานี่เอง”

“แต่ตอนนี้ท่านต้องกลัวเรา ลำพังท่านไม่มีทางต้านเราได้”

“ลืมผมเสียแล้วหรือครับเทพอาคิน” เอกภพส่งเสียงมาก่อนตัว...เข้ามายืนคู่ณัชชาพร้อมอาวุธปืน

“มีท่านสองคนก็ยังไม่พอมือเรา”

“ก็ลองดู” พูดจบณัชชาพุ่งตัวเข้าไปพร้อมใช้ดาบฟาดฟัน อาคินตั้งรับได้ดี แต่ก็โดนเอกภพสาดกระสุนซ้ำจนเซไปเหมือนกัน “แบบนี้ท่านคิดว่ายังไง พอมือท่านหรือเปล่า”

เทพอาคินยิ้มเยือกเย็น ตั้งดาบตรงหน้าแล้วเร่งพลัง ควันดำค่อยๆปรากฏขึ้นรอบตัวเทพอาคิน ทันใดนั้นลูกธนูเพลิงสามสี่ดอกพุ่งออกมาจากแนวป่าเข้าปักร่างอาคินจนไฟลุกท่วม เอกภพกับณัชชาฉวยโอกาสนี้หายแวบไปพร้อมกัน ทิ้งความโกรธแค้นไว้ให้อาคินที่พยายามดับไฟให้ตัวเองอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะสำเร็จ

ooooooo

นาชะติดตามพวกทายาทมาถึงหมู่บ้านจนได้ และไม่นานทุกคนก็ต้องผจญภัยกับผีดิบสาวกของอาคิน ก่อนจะพากันหลบเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งแล้วช่วยกันวิเคราะห์เส้นทางจุดนัดพบแห่งใหม่ที่ผุดขึ้นในแผนที่

“นี่ไง หมู่บ้านเพิ่งปรากฏอยู่ในแผนที่มีเส้นลากไปจนถึงจุดนัดพบ แบบนี้เรายังมีหวัง”

“มีหวังยังไงครับ ผมไม่เข้าใจ”

“ฟังนะ ถ้าไม่มีหมู่บ้านอยู่ในแผนที่ก็แสดงว่าเราหลงหลุดโลก การที่มีหมู่บ้านอยู่ในแผนที่  หมายความว่าเรามาถูกทาง หมู่บ้านนี้เป็นด่านที่องครักษ์ทั้งสี่วางไว้”

“เจอด่านผีดิบแบบนี้ ปิงปองเลือกเอาหลงทางดีกว่า”

“มีด่านให้เข้ามา มีความหมายดีอีกอย่างหนึ่งก็คือต้องมีทางให้ออกไป”

“ทางออกต้องอยู่ที่ไหนซักแห่ง”

“ในแผนที่ไม่ได้บอกอะไรไว้เหรอครับ”

นาฬิกาพิจารณาแผนที่อีกครั้งอย่างละเอียด “มีรูปคล้ายแสงส่องออกไปจากหมู่บ้านขึ้นไปหาพระอาทิตย์ แทนที่จะเป็นแสงจากพระอาทิตย์ลงมาที่หมู่บ้าน”

“นั่นคือปริศนาที่เราต้องแก้ เพื่อหาทางออกไปจากที่นี่” นาชะสรุป...ขณะที่คนอื่นๆมองหน้ากันเคร่งเครียดเพราะด้านนอกสาวกผีดิบของอาคินยังเดินขวักไขว่ไม่ยอมไปไหน

“แปลกมาก บางอย่างไม่ลงตัว” นาฬิกาบ่นพึมพำ

“พี่นาฬิกาคิดอะไรอยู่บอกกันมั่งก็ได้นะครับ” บีมเสนอหน้า

“คือ...ทุกครั้งที่ต้องผ่านด่านหรือหมู่บ้าน เราต้องช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นจากสาวกของเทพอาคิน”

“แต่คราวนี้คงไม่ใช่มั้ง ไม่เห็นมีชาวบ้านให้ช่วยเหลือ เจอแต่ผีสาวกของอาคินเต็มๆ”

“หรือว่าชาวบ้านถูกพวกมันจับไปไว้ที่ไหนสักแห่ง”

“อย่างนี้เราต้องออกไปลุยพวกมันให้หมดแล้วหาชาวบ้านให้พบหรือไงครับ”

“อาจเป็นหนทางเดียวที่จะพาเราออกไปจากที่นี่” นาฬิกากล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

ไกรยุทธ์แอบมองออกไปนอกบ้านอีกครั้งก็ยังเห็นสาวกของอาคินเดินวนเวียน

“เฮ้อ...พวกมันไม่ยอมไปไหนเลยจริงๆ”

“แบบนี้ก็ต้องลุยแล้วครับ” บีมพูดโพล่ง แต่ปิงปองทำท่าสยองพลางบอกว่าน่าสงสัยทำไมพวกมันไม่กล้าบุกเข้ามาในบ้าน

“หรือมีอะไรในบ้านนี้ที่ทำให้พวกมันกลัว ลองช่วยกันคิดซิ”

“จะว่าเป็นตัวบ้านก็ไม่ใช่ ไม่มีหิ้งพระ ไม่มีเสาตกน้ำมัน”

“โห...พี่นาฬิกาน่ะ ปิงปองอุตส่าห์ไม่พูดแล้วเชียว มีเสาตกน้ำมันก็ต้องมีผีน่ะสิ”

“เป็นครั้งแรกที่พี่ผ่านไปไหนไม่ได้ มนตร์ของเทพอัครามีพลังเกินคาดจริงๆ”

นาชะบ่นอย่างหนักใจสุดๆ แต่แล้วนาฬิกากลับพูดโพล่งขึ้นมาจนทุกคนแตกตื่น

“ใช่แล้ว! นาฬิการู้แล้วว่าจะช่วยชาวบ้านยังไง”

ooooooo

ทางด้านณัชชากับเอกภพที่สกัดอาคินแล้วหนีไปสมทบกับราเชนและปาระนัง...ทุกคนโชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย แต่ก็จะประมาทอาคินอีกไม่ได้

“ขอบคุณองค์หญิงที่มาช่วยพวกเราได้ทันเวลา”

“เราเองก็ต้องขอบคุณท่านราเชนกับท่านธิดาที่ซุ่มคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ”

“นั่นนะสิครับ ถ้าไม่ได้ลูกธนูไฟของท่านราเชน ผมกับองค์หญิงต้องแย่แน่ๆ”

“เราเห็นว่าเทพอาคินไม่ได้ส่งภูตสังหารออกมาตามล่าพวกเรา...คิดอยู่ว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง”

“ท่านราเชนมีความสามารถคาดการณ์ได้แม่นยำ” ณัชชาชื่นชม

“คาดไม่ถึงว่าเทพอาคินจะประมาท ปล่อยให้ลูกธนูผ่านเข้าไปถึงตัว”

“เทพอาคินไม่ได้ประมาทหรอกท่านราเชน แต่ตอนที่เทพอาคินใช้พลังเรียกภูตสังหารชั่วแวบเดียวกลับมีจุดอ่อนที่เปิดให้ลูกธนูผ่านเข้าไปได้”

“องค์หญิงหมายความว่า...ถ้าเราใช้เวลาช่วงนี้จู่โจมเทพอาคินก็สามารถทำลายเทพอาคินได้”

“ทำลายคงยาก เพราะเทพอาคินถอดหัวใจเก็บไว้ที่ภูตสังหารทั้งเก้า แต่อย่างน้อยก็พอที่จะทำให้เราหนีรอด”

“มีอีกเรื่องหนึ่งของเทพอาคินที่ปาระนังสังเกต ภูตสังหารของเทพอาคินหายไปหนึ่งตัว”

“จริงด้วย...เก่งมากน้องปาระนัง” ราเชนน้ำเสียงตื่นเต้น

ณัชชาฟังแล้วคาดเดาได้ทันทีว่าอาคินซ่อนหัวใจไว้กับภูตสังหารตัวที่หายไป เอกภพก็คิดเช่นเดียวกัน ราเชนเพิ่งนึกได้ว่าก่อนหน้าที่อาคินจะปรากฏตัวมีสองพ่อมดมารุกราน ณัชชายิ่งไม่ไว้ใจบอกทุกคนว่าเราต้องคอยประกบทายาทให้ใกล้มากกว่าเดิม โดยจับคู่แยกกันเดินทางเหมือนเดิม...

เวลานั้นกลุ่มของทายาทและนาชะยังอยู่ในบ้านลึกลับด้วยความหวาดระแวงผีดิบที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอก แต่แล้วนาฬิกากับไกรยุทธ์คิดได้ว่าผีดิบพวกนั้นคือชาวบ้านที่รอความช่วยเหลือจากเรา เพราะทุกครั้งที่เจอหมู่บ้านต้องมีการช่วยเหลือ

“แล้วปริศนาล่ะ ตีความออกหรือยัง”

“ผมว่าไม่ใช่เรื่องซับซ้อน คือแสงจากหมู่บ้านออกไปยังพระอาทิตย์แทนที่แสงจากพระอาทิตย์จะลงมายังหมู่บ้าน ลองคิดดูว่าเพราะอะไร”

“เพราะว่ามีกำแพงกั้นอยู่...ที่แท้คนพวกนี้ถูกขังอยู่ในกำแพงเหมือนกับเรา”

“สรุปคนพวกนี้มาเพื่อให้เราพังกำแพง ไม่ได้มาขัดขวางเรา”

“น่าจะเป็นอย่างงั้น”

เมื่อได้ข้อสรุปเช่นนั้นแล้ว บีมจึงต้องใช้วิชาพรางตัว ที่ร่ำเรียนจากชายผมขาวออกไปสนทนากับผีดิบ ครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาบอกทุกคนในกลุ่มว่าพวกนั้นคือชาวบ้านที่ถูกมนตร์ครอบงำให้เป็นผีดิบอย่างที่ไกรยุทธ์คาดการณ์ ซึ่งเขารอความช่วยเหลืออยู่จริงๆ

ทุกคนระดมสมองหาทางทลายกำแพงที่มองไม่เห็นโดยใช้อาวุธทุกชนิดที่แต่ละมีคนจนสำเร็จลงได้ ชาวบ้านต่างไชโยโห่ร้องที่กลับมาเป็นมนุษย์อย่างเดิม ส่วนกลุ่มของทายาทก็อันตรธานไปโผล่ในป่าที่มีนกการ้องระงม ให้อดคิดไม่ได้ว่าอาจเป็นสาวกของอาคิน

ผิดคาด นกกาพวกนั้นไม่ใช่สาวกของอาคิน แต่พอตกกลางคืนกลับมีผีดิบมาอาละวาด นี่ต่างหากที่ใช่ ทำให้ทุกคนต้องวิ่งหนีกันตลอดคืนโดยไม่มีนาชะร่วมทีม เพราะเธอขอตัวไปสำรวจพื้นที่ตั้งแต่เมื่อเย็นป่านนี้ยังไม่กลับมา

เช้าขึ้น ณัชชาและเอกภพเดินทางมาเห็นกองฟืนที่มอดไหม้และมีรอยเท้าเต็มไปหมด จึงมั่นใจว่าพวกทายาทพักที่นี่เมื่อคืน

“เราเร่งฝีเท้าอาจจะไปได้ทัน”

“ไม่จำเป็น ทิ้งระยะห่างแบบนี้จะดีกว่า”

“ผมเกรงว่าจะหาทายาทพบไม่ทันการณ์ ยามที่ทายาทได้รับอันตราย”

“ทายาทตอนนี้มีฝีมือขึ้นมาก เชื่อว่าสามารถต้านพวกมันได้ระยะหนึ่ง”

เอกภพนิ่งไปอย่างยอมรับในความคิดของณัชชา...

ทางด้านราเชนกับปาระนังก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรให้ตื่นเต้น แม้จะสังเกตเห็นฝูงอีกาบินว่อน แต่เชื่อว่าทายาททุกคนยังปลอดภัยไม่มีใครเจอเทพอาคิน

ooooooo

ไกรยุทธ์พาน้องๆเคลื่อนตัวไปตามพุ่มไม้น้อยใหญ่จนกระทั่งมั่นใจว่าพ้นสาวกของอาคินแล้วจึงหยุดพัก พร้อมกันนี้ก็สำรวจแผนที่ดูอีกครั้ง

“ผ่านป่านี่ไปก็จะถึงด่านสองขุนเขาใหญ่ หลังจากนั้นก็จะถึงจุดนัดพบตามแผนที่”

“เส้นทางยังไม่จางลง แสดงว่าเราทำเวลาได้ดี”

“เราพักตรงนี้ได้นานหน่อย”

“ก็ดีค่ะ เผื่อรอพี่นาชะด้วย”

“ใครบ่นถึงเรา” นาชะส่งเสียงก่อนปรากฏ– ตัว...ทายาททั้งสี่ดีใจ แต่บีมอดครวญไม่ได้ว่าทำไมพี่นาชะไปนานจัง ปิงปองกลับบอกว่าดีแล้วที่ไม่อยู่ เพราะเมื่อคืนพวกตนเจอสาวกเทพอาคินวิ่งกันตับแลบเลย

“พอจะสัมผัสพี่ณัชชาบ้างหรือเปล่าครับ” ไกร–ยุทธ์ถาม

“พี่รู้สึกว่าองค์หญิงอยู่ไม่ห่างจากเรา พี่พอสัมผัสพลังได้บ้าง”

“งั้นเรารออยู่ที่นี่ดีไหม”

“ก็ดี...พี่จะลองแวบไปตรวจดู”

กามเทพนาชะหายตัวไปอีกครั้ง และสามารถจับพลังของณัชชาได้อย่างรวดเร็ว บินโฉบลงมายืนตรงหน้าองค์หญิงกับผู้กองเอกภพ

“สวัสดีครับคุณนาชะ”

“ผู้กองดูแลองค์หญิงดีหรือเปล่าคะ” นาชะถามยิ้มๆมีเลศนัย เลยโดนณัชชาถลึงตาดุใส่

“นาชะ...เจ้าอย่าเหลวไหล ทายาทเป็นอย่างไรบ้าง เราเห็นร่องรอยสาวกของเทพอาคิน”

“ทุกคนปลอดภัยดีเพคะ อยู่ข้างหน้านี้เอง นาชะบอกว่าองค์หญิงอยู่ใกล้ๆ ทุกคนดีใจรอองค์หญิงอยู่เพคะ”

“เจ้าบอกทายาททุกคนว่าเดินทางตามลำพังจะปลอดภัยกว่า พวกเราจะคอยคุมอยู่ใกล้ๆ”

“อ้าว...ทำไมเป็นอย่างงั้น”

“องค์หญิงเชื่อว่าเทพอัคราสามารถสัมผัสพลังของทุกคนได้ ยกเว้นทายาท”

“อ๋อ...เข้าใจแล้วเพคะ” จบคำนาชะก็แวบหายไป แต่หารู้ไม่เธอยังซ่อนตัวบนต้นไม้ แล้วแอบโปรยละอองแห่งความรักใส่ณัชชาก่อนจะจากไปจริงๆ

เอกภพเป็นงงเมื่ออยู่ๆณัชชาทำตาหวานใส่และจู่โจมเข้ามาหอมแก้มเขาซ้ายขวา แถมยังทำท่าจะจูบปากถ้าเขาไม่ดีดนิ้วขึ้นมาเสียก่อน

ณัชชาสะดุ้งรู้สึกตัว กะพริบตาแล้วจ้องหน้าเอกภพอย่างงุนงง “คุณทำอะไร บอกมา...คุณคิดจะทำอะไร”

“เปล่าครับ แต่องค์หญิงกำลังจะจูบผม”

“ฉันเนี่ยเหรอ”

“ครับ องค์หญิงหอมผมไปสองฟอดแล้ว”

ณัชชาถอยออกห่างอย่างอารมณ์เสีย อึดใจก็นึกออก กราดสายตาไปรอบๆ สั่งนาชะให้ออกมาเดี๋ยวนี้

“ผมว่าคุณนาชะเผ่นไปไกลแล้วครับ”

เอกภพยิ้มกริ่ม ทำเอาณัชชาไม่แน่ใจว่าเมื่อสักครู่ เขาทำอะไรเธอหรือเปล่า

“ผมแค่ดีดนิ้ว องค์หญิงก็รู้สึกตัว”

“ทำไม...”

“ผมไม่ชอบจูบใครโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ณัชชาพอใจในคำตอบ...เป็นฝ่ายเดินเข้าหาและอนุญาตให้เขาจูบ เอกภพเลยตอบสนองอย่างดูดดื่ม

ooooooo

นาชะกลับมายังกลุ่มทายาททั้งสี่และบอกเล่าว่าองค์หญิงณัชชาต้องการให้พวกเราเดินทางตามลำพังเพื่อความปลอดภัยจากเทพอาคิน

“งั้นเราก็ลุยต่อได้เลย” ว่าแล้วไกรยุทธ์นำทางทุกคนไป แต่ผ่านไปสักพักรู้สึกผิดปกติ ป่าบริเวณนี้มืดมากทั้งที่เป็นกลางวัน อีกทั้งมีเสียงอีการ้องแว่วมาแต่ไกล ทุกคนระวังตัวแจ นำอาวุธออกมาป้องกันตัวและสามารถฝ่าเขตป่าลึกลับนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

ทายาททั้งสี่กระโดดโลดเต้นดีใจกันใหญ่ นาชะพลอยนึกสนุก โปรยละอองสีชมพูกระจายครอบคลุมไปทั่ว ทำให้ทายาทสองคู่ตกอยู่ในห้วงรักอย่างมีความสุข

แต่ผ่านไปไม่นาน นาชะสัมผัสพลังของเทพอาคินได้ เช่นเดียวกับณัชชาที่อยู่อีกด้าน เธอเร่งเอกภพเดินทางต่อ โดยมีราเชนกับปาระนังโผล่มาสมทบ...

นาชะระบุว่าเพราะพลังขวานคู่ของไกรยุทธ์กับนาฬิกาทำให้เทพอาคินจับทิศทางพวกเราได้ จึงเร่งทุกคนต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด แต่ทั้งหมดไปได้ไม่
ไกลก็ต้องหยุดชะงักเมื่ออาคินปรากฏตัวพร้อมสองพ่อมดยามินกับกาตง

“ที่แท้เสียงพลังดังก้องป่ามาจากฝีมือของพวกทายาทนี่เอง” อาคินแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด

นาชะกางมือกวาดบีมและปิงปองไว้ทางด้านหลัง ขณะที่ไกรยุทธ์และนาฬิกาสะบัดมือควงขวานเตรียมพร้อม

“พี่นาชะพาบีมกับปิงปองหนีไป”

นาชะทำตามที่ไกรยุทธ์บอก ให้สองคนนั้นใช้วิชาพรางตัวแล้วหายไปด้วยกันโดยมีผงสีชมพูคลุมร่าง อาคินเห็นดังนั้นรีบสั่งให้ยามินกับกาตงตามไป ทางนี้ตนจัดการเอง แต่ไม่ง่ายอย่างใจคิดเพราะไกรยุทธ์กับนาฬิกามีขวานคู่ที่ใช้ได้ทั้งต่อสู้และสามารถทำให้พวกเขาหายตัวไปต่อหน้าต่อตาอาคิน

ooooooo

ธิดาพญายม

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด