สมาชิก

ต้มยำลำซิ่ง

ตอนที่ 16

เจ๊จี่หอยเดินฟูมฟายออกมาส่งสองหนุ่มที่รถ

“ไม่นึกเลยว่ายายรุ้งเนื้อแท้มันจะเป็นวันทอง กากีขนาดนี้ คุณทูนคะ ตัดใจจากมันเถอะค่ะ นางคนนี้ไม่มีค่าพอที่คุณจะไปรักมันหรอก”

“พี่รุ้งสั่งให้ปรางเลิกคบกับคุณทรด้วย แต่ไม่มีวันที่ปรางจะเลิกรักคุณหรอกค่ะ” มะปรางเสริม

อินทรยิ้มปลื้มโอบมะปรางไว้ เจ๊จี่หอยอิจฉาเข้ามาแทรกกลางพลางฝากฝังให้อินทรช่วยดูแลทูนอินทร์ด้วย เพราะท่าทางจะบาดเจ็บสาหัส

อินทรรับคำ สองสาวเดินแยกออกไป ชายหนุ่มหันมามองพี่ชาย แต่ทูนอินทร์กลับถามหาแหวนที่

รุ้งระวีคืนให้ แล้วชวนกันกลับไร่อินสรวง

“พี่ทูน เป็นไรรึเปล่าครับ ดูเงียบๆไป”

“ฉันสบายดี” ทูนอินทร์ตอบนิ่งๆ แล้วเดินไปขึ้นรถ

อินทรมองตาม ่กอนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป

ขณะที่สองพี่น้องเดินทางกลับไร่ อิทธิก็พารุ้งระวีออกมาแถลงข่าวงานวิวาห์ที่จะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า แถมทำหวานดึงรุ้งระวีมาหอมโชว์นักข่าว

เจ๊จี่หอยเข้ามาเห็นพอดี นางไม่พอใจมากหันมาบอกมะปรางว่า จะไปอ้วก แล้วเดินหน้าเชิดออกไปมะปรางรีบตามติด แต่เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเจ๊จวงปลอบใจจุ๊บแจงว่า จะหาเสี่ยคนใหม่มาช่วยดามใจ ในขณะที่อาชากับขวัญข้าวก็เม้าท์กับนักข่าวอีกกลุ่มว่า รุ้งระวีท้อง แต่อิทธิไม่ยอมให้ทำแท้งเลยขอรับเป็นพ่อเด็กเอง

บ่ายวันนั้น ฟ้าใสกรีดร้องลั่นห้อง เมื่อเห็นอิทธิกับรุ้งระวีให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในจอทีวี เรื่องงานวิวาห์ของทั้งคู่ เธอเรียกให้จ๊ะจ๋าต่อเบอร์ถึงอิทธิ

จ๊ะจ๋าตกใจกลัวรีบต่อโทรศัพท์ แต่สายไม่ว่าง ฟ้าใสโกรธมากบอกจ๊ะจ๋าว่า จะบุกไปหาอิทธิเพราะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

“จะมีประโยชน์อะไรล่ะคะพี่ฟ้า ยังไงคุณอิทเขาก็ต้องเลือกพี่รุ้งเป็นอันดับแรกอยู่ดี” จ๊ะจ๋าเตือนสติ

ฟ้าใสชะงักไปนิด ก่อนเดินกลับไปอาละวาดในห้องนอน จ๊ะจ๋าได้โอกาสมาแอบโทร.รายงานเสี่ยดำรง

ในตอนเย็น อินทรกลับมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เมธ บักหนาน และบักคูนฟัง สามหนุ่มสงสารและเห็นใจทูนอินทร์มากจึงจะไปปลอบใจ แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทูนอินทร์เป่าหวูดเพลงต้มยำลำซิ่งด้วยลีลา คึกคัก สนุกสนาน

“เอ๊ะ ทำไมเล่นเพลงนี้ มันชักยังไงๆนะ ไปดูใจหน่อยไหม” เมธหันมาชวนอินทรกับสองคู่หู

สี่หนุ่มมาหาทูนอินทร์ที่เพิงแสงจันทร์ เห็นเขากำลังเป่าหวูดท่าทางครึ้มอกครึ้มใจ มีกล่องแหวนวางอยู่ข้างตัว พร้อมของว่างและเครื่องดื่ม

“หรือเสียใจซ้ำซากจนเพี้ยนไปแล้วครับ” บักหนาน กระซิบถามเจ้านาย

เมธใจคอไม่ดีเข้ามาปลอบใจ “ทูน พี่เข้าใจนะว่าทูนเจ็บ แต่อย่ามาจมอยู่กับอดีตเลยนะ เหล้ามันก็ไม่ช่วย หรอก”

“ถ้ามันเจ็บนักนะนาย อย่าไปเก็บของเก่าๆของยายตัวแสบให้รกบ้าน เอาไปทิ้งให้หมดเลยนาย โดยเฉพาะแหวนวงนี้ อย่าไปเสียดาย เอาฝังดินไปเลย” บักคูนกับบักหนานทำท่าปากล่องแหวน

“อย่าปานะโว้ย แหวนนี่ของต้นตระกูล” ทูนอินทร์กระโดดเข้าแย่ง แล้วหันมาถามทุกคน “แล้วมันเรื่องอะไรกันครับ มาบอกผมเจ็บ เจิบ อะไรกัน”

“อ้าว ไม่ได้เจ็บเรื่องที่ยายรุ้งมันทรยศแกหรอกเหรอ”

“เปล่า...ไม่ได้เจ็บอะไรสักนิด อีกอย่างรุ้งไม่ได้ทรยศผมสักหน่อย”

“อะไรนะครับพี่ ไม่ทรยศ ทั้งๆที่เขาตัดขาดพี่ขนาดนั้น”

“นั่นมันละครบทหนึ่งโว้ย คนอย่างรุ้งนี่เขาเรียกว่าเหนือเมฆ” ทูนอินทร์ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์เฉลยความจริงว่า ตอนที่เข้าไปบีบคอรุ้งระวี เธอแอบกระซิบบอกแผนการกับเขา เพราะต้องการหลอกให้อิทธิตายใจ

ทุกคนพากันสนเท่ห์ร้องถามว่า ในกล่องแหวนมีอะไร ทูนอินทร์เปิดกล่องแหวนหยิบกระดาษที่ซ่อนอยู่ออกมา ส่งให้พวกเมธอ่าน

ข้อความในกระดาษเขียนด้วยลายมือรุ้งระวีบอกว่า แม่ถูกจับเป็นตัวประกัน ให้ไปที่ร้านอาน้ำอ้อยอำเภอวัดโบสถ์ ปราจีน และมีเบอร์มือถือด้วย

“โอ้โฮ...คุณรุ้งนี่เก่งจริงๆ นี่แสดงว่าพี่รุ้งยังรักพี่ทูนเหมือนเดิม ดีใจด้วยพี่”

“เราต้องหาทางช่วยแม่แสงหล้าก่อนเลยครับ” ทูนอินทร์บอกกับเมธ

เมธพยักหน้าบอกว่า จะรีบติดต่อสารวัตรเด่นชัยที่กองปราบ เพราะงานนี้ต้องจัดใหญ่ แล้วรีบกดมือถือทันที

ooooooo

วันงานวิวาห์อิทธิกับรุ้งระวี แขกมาร่วมงานคับคั่ง

เจ๊จี่หอยกับมะปรางออกมาช่วยต้อนรับแขกอย่างไม่เต็มใจนัก เช่นเดียวกับพวกเจ๊จวงที่จำใจมาร่วมงานอย่างเสียไม่ได้ แต่ยังไม่วายปากดีเข้ามาแดกดันเจ๊จี่หอยกับมะปราง จึงโดนเจ๊สวนกลับว่า ระวังตัวเองให้ดีก่อน เพราะรุ้งระวีกำลังจะขึ้นมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยของบริษัท พวกเจ๊จวงอาจโดนกำจัดได้ง่ายๆ

ทุกคนเริ่มตระหนักรีบปรับเปลี่ยนท่าทีเข้าไปทำดีกับรุ้งระวี เพราะกลัวไม่มีที่อยู่

ด้านรุ้งระวี เธอกำลังกลุ้ม เมื่อได้ยินอิทธิบอกว่า จะพาไปฮันนีมูนที่ยุโรปและออกเดินทางในคืนนี้ เพราะผิดแผนที่ตกลงไว้กับทูนอินทร์ จึงคิดหาทางส่งข่าวให้ชายหนุ่มรู้

เจ๊จี่หอยเดินหน้าเชิดเข้ามาพอดี รุ้งระวีร้องเรียกขอร้องให้เจ๊ช่วยเธอด้วย แต่กลับโดนตวาด

“ไม่ต้องพูด ฉันไม่ช่วยอะไรเธอทั้งนั้น ที่เข้ามานี่ เพราะฉันจะมาจ่ายเงินให้ช่างหน้าช่างผม หายหัวไปไหนแล้ว”

“พี่หอย อย่าเข้าใจผิดซีคะ ที่รุ้งทำไปทั้งหมด มันคือละครฉากหนึ่งเพื่อหลอกนายอิทธิให้ตายใจค่ะ”

“อุ๊ย...เจ้าแม่ละครเล่นเนียนจริงนะ เดี๋ยวเล่นนางร้ายเรยา เดี๋ยวแป๊บๆ เป็นนางดีอรุณประไพ ไม่ต้อง ฉันไม่เชื่อว่าหล่อนดี เรยานั่นแหละคือตัวจริง หล่อนร้ายสุดขั้วชั่วสุดเท้า แล้วไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ไม่ขอนับญาติกัน ต่อไปเรียกฉันว่านายธงชาติ ชื่อจริงฉันไม่มีหอยอีกต่อไป” เจ๊จี่หอยใส่เป็นชุด

เวลาเดียวกันนั้น อินทรปลอมตัวเป็นนักข่าวเดินเข้ามาในงานเพื่อจะส่งข่าวให้รุ้งระวี มะปรางเดินผ่านมาและจำอินทรได้จึงรีบพาไปหารุ้งระวีที่ห้องแต่งตัว

เจ๊จี่หอยที่กำลังอารมณ์เสียหันมาเห็นมะปรางเดินเข้ามาก็รีบกำชับ

“ยายปราง มาก็ดีแล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องรับใช้แม่เรยา เอ๊ย แม่รุ้งระวีอีกแล้ว ให้คุณอิทหาคนปรนนิบัติให้ใหม่ เอ๊ะ พาใครมาด้วย หล่อนี่”

อินทรถอดแว่นออก เจ๊เห็นแล้วก็แทบลมใส่ร้องถามว่า ทำไม

“มาช่วยพี่รุ้งน่ะซีครับ” อินทรอมยิ้ม

“หา มาช่วยทำไม มันเป็นนางร้ายไปแล้ว” เจ๊จี่หอยเป็นงงหันมามองเห็นมะปราง

รุ้งระวีรีบถามหาทูนอินทร์ อินทรว่า สารวัตรเด่นชัยกับทูนอินทร์บุกไปที่เซฟเฮาส์แล้ว เจ๊จี่หอยฟังแล้วขยับจะถาม แต่รุ้งระวีเอ่ยขึ้น

“ต้องช่วยแม่ออกมาให้ได้ในวันนี้นะ เพราะนายอิทธิบังคับให้พี่ไปฮันนีมูนกับมันที่ยุโรป เดินทางคืนนี้”

“งั้นผมติดต่อพี่ทูนก่อน” อินทรแยกไปโทรศัพท์

เจ๊จี่หอยรีบยิงคำถาม “นี่มันเรื่องอะไร ช่วยแม่ คืออะไร คุณทูนทำอะไร รุ้งกับคุณทูนติดต่อกันเหรอ”

“ค่ะ รุ้งเล่นละครตบตาทุกคน แต่รุ้งกับคุณทูนรู้กันแล้ว บอกพี่หอยแล้วก็ไม่ฟังเลย”

“ยายรุ้ง ตกลงไม่ใช่นางร้ายแล้วนะ”

“ยังเป็นนางเอกแสนดีอยู่ค่ะ” รุ้งระวียืนยัน

เจ๊จี่หอยกับมะปรางดีใจเข้ามากอดรุ้งระวี

ขณะอินทรโทร.บอกทูนอินทร์ว่า รุ้งระวีจะออกเดินทางคืนนี้ ทำให้เขาต้องคิดหนัก เพราะกลัวกลับไปช่วยคนรักไม่ทัน

ooooooo

ฟ้าใสจำใจมาร่วมงานวิวาห์ของอิทธิกับรุ้ง-ระวี เพราะเสี่ยดำรงบังคับ และมีจ๊ะจ๋ากับสมุนร่างยักษ์อีกสองคนของเสี่ยติดตามมาด้วย

อิทธิเห็นเสี่ยดำรงเข้ามาในงาน ก็รีบออกไปต้อนรับ แต่ต้องสะอึก เมื่อได้ยินเสี่ยเปรยว่า ไอ้พวกที่ชอบขโมยศิลปินคนอื่นไปเข้าสังกัดตัว มันเลวมาก ต้องกำจัดให้หมดวงการ แล้วพลันได้ยินเสียงฮือฮาดังมาจากประตูห้อง ทั้งหมดหันไปมอง

รุ้งระวีเดินเข้ามา อิทธิเข้าไปรับรุ้งระวีแล้วเดินควงแขนมาไหว้แขกผู้ใหญ่จากนั้นก็พาไปขึ้นเวที ฟ้าใสมองตามด้วยความริษยาเป็นที่สุด

ขณะที่คู่บ่าวสาวกล่าวทักทายแขกอยู่บนเวที ทูนอินทร์กำลังเร่งให้สารวัตรเด่นชัยบุกเข้าไปจัดการกับคำรณและลูกน้องเพื่อช่วยแสงหล้าเพราะกลัวไม่ทันเวลา แต่สารวัตรขอเวลาอีกชั่วโมง เพราะต้องรอกำลังเสริมก่อน

ส่วนรุ้งระวีเธอกลัวว่าทูนอินทร์จะกลับมาช่วยไม่ทัน และอาจไม่ได้พบหน้าแม่อีก จึงแอบอ้อนขอให้อิทธิพาแม่มาก่อนออกเดินทาง

“ฮื้อ มันจะวุ่นวายไปเปล่าๆ แม่คุณอยู่ที่ปราจีนนะ”

“ปราจีนไม่ไกลนี่คะ ให้เดินทางมาตอนนี้เลย แม่จะได้มาแสดงความยินดีกับเรา”

“แล้วถ้าท่านไม่เห็นชอบด้วย”

“อะไรที่เป็นความสุขของรุ้ง ท่านต้องเห็นชอบด้วยอยู่แล้วค่ะ นะคะ แม่มาเห็นรุ้งแต่งงาน ต้องดีใจมากๆ แล้ว...อีกอย่างรุ้งกลัวนายคำรณมันเป็นคนโหดเหี้ยมมากนะคะ มันอาจทำร้ายแม่รุ้งอีกก็ได้ รุ้งอยากให้แม่มาอยู่ในความดูแลของนายคม นายเดช คนของคุณอิทมากกว่า” รุ้งระวีทำฉอเลาะ

“เอางั้นก็ได้ ผมจะให้แม่ลงมากรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้เลย”

“ขอบคุณค่ะคุณอิท รักคุณอิทจังเลย” รุ้งระวีหอมแก้มอิทธิซ้ายขวา

แขกในงานเฮลั่น นักข่าวถ่ายรูปกันพึ่บพั่บ อิทธิยิ้มหน้าบานแล้วเดินแยกออกมา พยักหน้าให้คมกับเดชตามมาด้วย

ทั้งสามเดินมาถึงมุมลับตา อิทธิหยิบโทรศัพท์มากดโทร.หาคำรณ สั่งให้ฆ่าปิดปากแสงหล้าได้เลย คมกับเดชได้ยินก็ตะลึง ส่วนคำรณรีบรับคำเพราะรอเวลานี้มานานแล้ว

“กำจัดศพมันให้สิ้นซาก เหมือนว่ามันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกนี้” อิทธิกำชับแล้วกดวางสาย

“นายครับ จะฆ่าเลยเหรอครับ” คมกับเดชรีบถาม

“ต้องฆ่า นังแม่มันนี่แหละตัวแสบ ปล่อยมันไว้ มันเล่นงานเราแน่ๆ ทั้งเรื่องที่เราลักพาตัวมัน ซ้อมมันรวมถึงเรื่องที่ไอ้คำรณพยายามฆ่ามันด้วย อีกอย่างนังแม่อาจจะกล่อมรุ้งให้กลับไปคืนดีกับไอ้ทูน แล้วกลับมาเล่นงานเราด้วยก็ได้”

“แล้วถ้าคุณรุ้งรู้เข้าละครับ”

“รุ้งจะรู้เมื่อกลับจากฮันนีมูน ตอนนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือกแล้ว”

“แล้วที่นายสัญญาว่าจะให้คุณรุ้งได้เจอแม่คืนนี้ละครับ”

“พวกแกอ้างให้ตรงกันว่านังแม่มันป่วยมาไม่ได้ ฉันจะรีบพารุ้งไปขึ้นเครื่องทำตามนี้” อิทธิบอกแผนการแล้วเดินกลับเข้างาน

คมกับเดชหน้าเสียจำใจทำตามคำสั่งเพราะไม่มีทางเลือก

ooooooo

คำรณเดินแสยะยิ้มเข้ามาหาแสงหล้าที่กินข้าวอยู่อย่างอ่อนเพลียเต็มที

“อิ่มแล้วหรือยัง พอ ไม่ต้องกินแล้ว” คำรณปัดจานกระเด็น

“แกจะบ้าเหรอ แกจองล้างจองผลาญฉันมาทั้งชีวิตแล้ว แกต้องการอะไรอีก”

“ต้องการให้แกมีความสุขไง ไปกับฉัน ไปหาลูกสาวแก ตอนนี้นังรุ้งมันกำลังเข้าพิธีแต่งงานกับนายอิทธิ” คำรณกระชากแสงหล้าให้ลุกขึ้น

“อะไรนะ รุ้งแต่งงานกับนายอิทธิ”

“ช่าย...จัดพิธีใหญ่โต มันกำลังมีความสุขเชียวละ ข้าจะพาแกไปหามัน เพื่อแสดงความยินดีไง”

“แกพูดจริงนะ”

“จริงซีวะ ไป ไปกับข้า” คำรณดึงแสงหล้าออกไปทางป่าด้านหลังเซฟเฮาส์

แสงหล้าชักเอะใจเอ่ยถาม “ทำไมไม่พาฉันขึ้นรถ เดินเข้ามาในป่านี่ทำไม”

“เออน่า ทางรถอยู่ไม่ไกลหรอก รถจอดรอแกอยู่แล้ว” คำรณตวาดแล้วลากแสงหล้าเข้าป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ

เป็นเวลาเดียวกับที่กำลังเสริมมาถึงพอดี สารวัตรเด่นชัยให้สัญญาณบุก ตำรวจกรูเข้าจัดการกับลูกน้องคำรณ ไม่นานนักพวกมันก็ถูกจับได้ทั้งหมด แต่ไม่พบแสงหล้ากับคำรณ

“ไอ้คำมันต้องพาแม่แสงหล้าหลบไปแน่ๆเลยครับ” ทูนอินทร์มั่นใจ

“หมวด กระจายกำลังเข้าไปในป่า มันไปได้ไม่ไกลหรอก” สารวัตรเด่นชัยสั่ง

เหล่าลูกน้องรับคำแล้วแยกย้ายกันออกติดตาม

เวลาต่อมา คำรณพาแสงหล้ามาถึงริมลำธาร มันสั่งให้แสงหล้านั่งพัก แล้วแอบหยิบมีดที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมา

“แกบอกมาไอ้คำ แกจะพาฉันไปไหน แกไม่ได้พาฉันไปหารุ้งที่กรุงเทพฯหรอก ใช่ไหม” แสงหล้ารู้ตัวแอบหยิบหินเก็บไว้ในมือ

“ไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นความต้องการของฉันอยู่แล้วที่แกไม่มีวันได้เจอลูกอีก แม้แต่ศพของแกนังรุ้งมันก็ไม่มีวันได้เห็น เพราะนายอิทธิสั่งให้จัดการศพของแกอย่างไร้ร่องรอย” คำรณโชว์มีดในมือ

แสงหล้าถอยลงไปถึงชายน้ำ คำรณทะยานเข้าใส่ แสงหล้ากรีดร้องแล้ววิ่งลงไปในลำธาร

ทูนอินทร์ที่ออกติดตามได้ยินเสียงแสงหล้า เขารีบวิ่งไปหา เป็นเวลาเดียวกับที่คำรณเข้ารวบร่างแสงหล้าได้ ทั้งสองล้มไปในลำธาร คำรณได้โอกาสแทงเข้าที่แขนแสงหล้า ส่วนแสงหล้าก็เอาหินทุบไปที่หัวของคำรณ แล้ววิ่งขึ้นฝั่ง คำรณโกรธจัดตามไปตะครุบตัวแล้วเงื้อมีดขึ้นสุดแขน

“ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ” คำรณจะจ้วงแทง

แสงหล้าหลับตายอมรับความตาย เสียงปืนระเบิดขึ้น มีดในมือของคำรณลอยคว้าง คำรณผงะล้มไป

ทูนอินทร์เดินข้ามลำธารมาพร้อมกับปืนในมือ คำรณพยายามจะถอยหนีจึงถูกชายหนุ่มเตะลงไปกอง แล้วเข้าประคองแสงหล้า

“แม่แสงครับ เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่เป็นไรค่ะ แผลแค่ถากๆเท่านั้นเอง รุ้งล่ะ แม่อยากเจอรุ้ง”

“ครับแม่ ผมจะพาแม่ไปหารุ้งเดี๋ยวนี้”

“ขอบคุณค่ะคุณทูน” แสงหล้าสะอื้น

“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ แม่ปลอดภัยแล้ว” ทูนอินทร์กอดแสงหล้าไว้

กลุ่มตำรวจนำโดยสารวัตรเด่นชัยวิ่งเข้ามา

“ไอ้คำรณ...แกเจอกับฉันอีกแล้วนะ คราวนี้คงถูกขังลืมว่ะ จับมันไป” สารวัตรหันไปพยักหน้ากับลูกน้อง

ตำรวจนายหนึ่งเข้าใส่กุญแจมือคำรณที่มือยังเลือดโชก แหกปากร้องครางอย่างเจ็บปวด

ooooooo

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา รุ้งระวียืนส่งแขกอยู่หน้างาน ฟ้าใสเดินกรีดกรายเข้ามาหาเรื่องด้วยอาการมึนๆ นักร้องสาวไม่อยากมีเรื่องจึงจะเดินหนี แต่ฟ้าใสยึดแขนไว้พร้อมเปิดฉาก

“ไม่ต้องมาหลบหน้าฉัน นังหน้าด้าน”

“นี่เธอ มีมารยาทหน่อยนะ คนทั้งงานมองเราอยู่” รุ้งระวีเตือน

“อ้าว มียางอายเหมือนกันเหรอ นึกว่าหน้าด้านไม่กลัวคนนินทา”

“ฉันหน้าด้านยังไงไม่ทราบ”

“อ้าว...ก็อยู่กินกับนายทูนอยู่ดีๆ วันรุ่งขึ้นยอมมาเป็นเมียนายอิทธิเข้าเสียแล้ว เขาลือกันแซดว่าหล่อนมันกากีตัวจริง”

“ที่พูดเนี่ย อิจฉาใช่ไหม เพราะหล่อนคว้านายอิทธิมาเป็นสามีไม่ได้ตามแผน”

“แกพูดอะไร ไปเอามาจากไหนว่าฉันกับนายอิทธิ...”

“เรื่องที่เธอยอมเอาตัวเข้าแลก หลับนอนกับนายอิทธิเหมือนอีตัวข้างถนนน่ะ ฉันรู้หมดแล้ว” รุ้ง–ระวีตอกกลับ แล้วหันไปเรียกเจ๊จี่หอย “พี่หอยคะ เชิญหน่อยค่ะ คือคุณฟ้าใสเขาอยากรู้ว่าใครปล่อยข่าวเรื่องที่เขานอนกับคุณอิทเพื่อหวังจะย้ายค่ายน่ะ”

“นังหอย แกรู้ด้วยเหรอ แกรู้มาจากใคร” ฟ้าใส ตะลึง

“ก็ยายจ๊ะ...เออ...ไม่ใช่ซี คนปล่อยข่าวน่ะ น่าจะเป็นคนที่ร่วมเสพสุขกับเธอนั่นแหละ ลองไปถามเขาดูนะ เพราะเรื่องของเธอเขาเอามาเม้าท์กันทั้งทวิต เฟซบุ๊ก ใช้ทั้งวอทแอพพ์” เจ๊ตัวแสบเข้าแผน

“นายอิทธิ” ฟ้าใสโกรธจัดสะบัดหน้าเดินหนีไป

รุ้งระวีเป็นงง ถามเจ๊จี่หอย “ทำไมไม่บอกไปล่ะคะพี่หอย ว่ามาจากยายจ๊ะจ๋า”

“ไม่ได้ พี่จะยุให้มันตีกัน เอ...คุณทรกับยายจ๋าอยู่ไหนเนี่ย” เจ๊จี่หอยมองหา

“ด้านนู้นค่ะ” รุ้งระวีชี้ไปที่มุมห้อง เห็นอินทร มะปราง และจ๊ะจ๋ายืนคุยกับเสี่ยดำรง

“เรื่องต้องการจ๊ะจ๋าไปเข้าสังกัดน่ะ ฉันไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ยังอยากให้จ๋าช่วยสืบเรื่องฟ้าใสให้อีกหน่อย ฉันอยากได้หลักฐานมัดตัวแน่นกว่านี้” เสี่ยบอกกับจ๊ะจ๋าและอินทร

“ได้ค่ะเสี่ย” จ๊ะจ๋ารีบรับปาก แล้วเจ๊จี่หอยก็เข้ามากระซิบบอกอินทร

ชายหนุ่มยิ้มพอใจรีบรายงานเสี่ยดำรง “ได้เรื่องแล้วครับเสี่ย ฟ้าใสกำลังไปหานายอิทธิที่ห้องแต่งตัวครับ”

เสี่ยดำรงหน้าเครียดหันไปพยักหน้าเรียกสมุนให้ไปด้วยกัน

ด้านอิทธิ เขากำลังโวยวายใส่คมและเดชอยู่ในห้องแต่งตัว เพราะป่านนี้แล้วยังติดต่อคำรณกับลูกน้องไม่ได้เลย คมกับเดชว่า คำรณอาจกำลังจัดการกับศพของแสงหล้าอยู่ก็เป็นได้

ประตูห้องเปิดออก ฟ้าใสเดินเข้ามาตบหน้าอิทธิ พลางต่อว่าที่เอาเรื่องเธอนอนกับเขาไปเล่าให้ใครต่อใครฟัง

อิทธิยืนงงปฏิเสธว่าไม่เคยบอกใคร และที่หน้าห้องเสี่ยดำรงกับลูกน้องก็ยืนฟังเรื่องราวอยู่

“นึกว่าฉันโง่เหรอ แกหลอกให้ฉันนอนกับแกทำเป็นสัญญาว่าจะพาฉันเข้าสังกัดที่แท้ก็คว้านังรุ้งมาเป็นเมียให้มันเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัท เห็นฉันเป็นตัวตลกงั้นเหรอไอ้เลว” ฟ้าใสจะเข้าตบตีอิทธิแต่คมกับเดชดึงตัวไว้

“อย่ามั่ว ฉันไม่ได้หลอกให้เธอนอนกับฉัน เธอเสนอตัวเอง นึกเหรอว่าฉันพิศวาสแกถึงกับจะดึงแกมาเข้าสังกัด ในเมื่อฉันมีรุ้งอยู่แล้วทั้งสาวทั้งสวยเสียง ก็ดีกว่าแกหลายเท่าโธ่...นึกถึงสังขารตัวเองบ้าง นังแก่” อิทธิด่าประจาน

“ไอ้บ้า ไอ้บัดซบ ในเมื่อไม่ต้องการฉัน แกปล่อยข่าวออกไปทำไม ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงป๋าดำรงแกตาย”

“บอกแล้วไง ฉันไม่ได้ปล่อยข่าว” ขาดคำประตูห้องก็เปิดออก ทั้งหมดหันไปมอง

เสี่ยดำรงกับสมุนก้าวเข้ามา “ไม่ต้องห่วงเรื่องข่าว เพราะตอนนี้ฉันรู้หมดแล้ว เดี๋ยวนี้ เวลานี้ จากปากของจำเลยทั้งคู่”

“ป๋าขา ฟังก่อนนะคะ ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ มันมาหาฟ้าที่ห้องมอมเหล้าฟ้า แล้วมันก็ข่มขืนฟ้าด้วยค่ะ” ฟ้าใสรีบแต่งเรื่อง

“ไม่จริงนะครับเสี่ย นังนี่เสนอตัวให้ผมเอง ถ้าฉันข่มขืนแล้วทำไมแกถึงมีสติขอย้ายค่ายไปอยู่กับฉันล่ะ” อิทธิโต้กลับ

“ว่าไง” ดำรงจ้องฟ้าใสนิ่ง

ฟ้าใสหน้าเจื่อนไม่มีคำอธิบาย

เสี่ยดำรงตบหน้าฟ้าใสฉาดใหญ่ “ถ้าอยากย้ายค่าย ฉันไม่ว่าสักนิด ขอให้มาพูดกันดีๆ แต่ทำอย่างนี้มันคือทรยศกัน เพราะเธอนอกใจฉัน” เสี่ยดำรงผละจากฟ้าใสมาที่อิทธิ “มันอยากไปอยู่ค่ายนาย นายรับไปเลย เพราะฉันไล่มันออกแล้ว”

“เสียใจครับ ผมไม่รับของเหลือเดน”

“แต่นายก็นอนกับมันนะ”

“เสี่ยครับ มันเสนอให้ ผมก็สนองหวังว่าเสี่ยคงไม่ถือ”

“แต่อั๊วถือว่ะ” เสี่ยพุ่งหมัดเข้าท้องอิทธิเต็มๆแล้วชกสวนปลายคาง

อิทธิล้มหงายไปกับพื้นทั้งตัว คมและเดชจะเข้าช่วยแต่สมุนเสี่ยชักปืนออกมาขวาง

“เฮ้ย...ช่วยให้เจ้าบ่าวมันรู้รสชาติการลอบเล่นชู้สักหน่อยว่า โทษมันขนาดไหน” เสี่ยดำรงสั่ง

สองสมุนเข้ามาเตะอิทธิไม่เลี้ยง อิทธิร้องโหยหวน คมกับเดชได้แต่ยืนมองช่วยอะไรเจ้านายไม่ได้

“ลาละ ฟ้าใสผู้ไร้สังกัด” เสี่ยดำรงหันมาสั่งลาฟ้าใสที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความกลัว แล้วเดินจากไป

ooooooo

ต้มยำลำซิ่ง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด