สมาชิก

เงาพราย

ตอนที่ 11

“แต่​ฉัน​ไม่​อยาก​คุย​กับ​แก แล้ว​ก็​ไม่​อยาก​มอง​หน้า​แก​ด้วย ฉัน​เกลียด​แก ได้ยิน​ไหม ฉัน​เกลียด​แก”

“จะ​ไม่​แรง​ไป​หน่อย​เหรอ​จ๊ะ​หนู ใน​เมื่อ​คุณ​ตั้น​เขา​มา​ขอโทษ​แล้ว หนู​ก็​น่า​จะ​ให้โอกาส​พี่​เขา​บ้า​งนะ” สร้อย​ทิพย์​แนะนำ

“พิม​ไม่​ใช่​คน​ใจอ่อน​อย่าง​คุณ​ป้า​นะ​คะ คุณ​ป้า​ไม่​เจอ​อย่าง​พิม คุณ​ป้า​ก็​พูด​ได้​สิ​คะ” พิมพ์พัส​ตรา​วี​น​แหลก​แล้ว​หัน​ไป​พูด​เสียง​ดัง​ใส่​ประตู  “เรื่อง​ที่​ซวย​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ของ​พิมก็​คือ​ได้​มา​เจอ​กับ​แก​นั่นแหละ ไอ้​ผี​บ้า ไป​ให้​พ้น”

ศักยะ​ยืน​ซึม ไม่​คิด​ว่า​ผู้หญิง​ที่​ตน​รัก​และ​ทุ่มเท​ทุก​อย่าง​เพื่อ​ให้​ได้​มา​จะ​ไร้​เยื่อใย​กับ​ตน​ได้​ขนาด​นี้ เขา​เดิน​คอตก​ลง​มา​ข้าง​ล่าง​เจอ​รัชต์​กับ​เ​รน​ยืนรอ​อยู่

“คุณ​พิม​ไม่​ยอม​ออก​มา​เจอ​เหรอ​คะ” เ​รน​ทัก

“เขา​คง​เกลียด​ผม​มาก ช่าง​เถอะ ตอน​นี้​ผม​ไม่​หวัง​อะไร​อีก​แล้ว ขอ​ให้​แม่​ปลอดภัย​ก็​พอ” ศักยะ​เดิน​ซึมๆจะ​ออก​ไป

“เดี๋ยว​ตั้น ฉัน​มี​เรื่อง​สงสัย​อยู่​เรื่อง​หนึ่ง แก​จะ​ตอบ​ฉัน​ได้​ไหม ฉัน​เคย​ทำร้าย​อะไร​แก​เหรอ แก​ถึง​ได้​โกรธ​แค้น​ฉัน​นัก ถึง​ขนาด​ต้อง​ทำลาย​ฐานะ​ฉัน แย่ง​พิม​ไป แล้ว​ยัง​กลั่นแกล้ง​ฉัน​ทุก​อย่าง จน​ทุก​วัน​นี้ ฉัน​เหลือ​ศูนย์​ต้อง​เริ่ม​ต้น​ใหม่ ถาม​จริงๆ เถอะ​ตั้น ฉัน​เคย​ทำ​อะไร​ผิด​ต่อ​แก ฉัน​ไม่​รู้ตัว​เลย” รัชต์​เอ่ย

ศักยะ​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​ละอาย​ใจ เพราะ​หา​ข้อ​เสีย​ของ​รัชต์ ​ไม่ได้​จริงๆ เขา​ตอบ​ว่า “แก​ไม่​เคย​ทำร้าย​ฉัน​หรอก​รัชต์ แต่​ แก​มัน​เพอร์เฟกต์​เกินไป แก​มี​พร้อม​ทุก​อย่าง ใครๆก็​พา​กัน​ยกย่อง จน​ไม่​มี​ใคร​เห็น​หัว​ฉัน​ซัก​คน ​แม้แต่​เพื่อน​นักเรียน​ด้วย​กันก็​มอง​ข้าม​หัว​ฉัน​ตลอด ​แก​ไม่​เข้าใจ​หรอก​ว่า​ไอ้​ขี้​แพ้​อย่าง​ฉัน มัน​เจ็บปวด​ขนาด​ไหน”

“ไม่​มี​ใคร​ดูถูก​แก​ได้​หรอก ถ้า​แก​รู้จัก​นับถือ​ตัว​เอง ทุก​วัน​นี้ ฉัน​ก็​ไม่​เหลือ​อะไร นอกจาก​สมอง​กับ​สอง​มือ แต่​ฉัน​เชื่อ​มั่น​ว่า​ถ้า​ฉัน​ยัง​นับถือ​ตัว​เอง​อยู่ ก็​ไม่​มี​วัน​ที่​ใคร​จะ​มา​ทำให้​ฉัน​รู้สึก​ต่ำต้อย​น้อยหน้า​ลง​ไป​ได้”

“ถูก​ของ​แก ฉัน​น่า​จะ​คิด​ได้​แต่​แรก จะ​ได้​ไม่​ต้องทำร้าย​คน​อื่น ที่สุด​ก็​กลาย​เป็น​ทำร้าย​ตัว​เอง” ศักยะ​เหลือบ​มองหน้าเรน​หมด​แรง​จะ​พูด​ต่อ​จึง​เดิน​เลี่ยง​ออก​ไป

รัชต์​และ​เ​รน​มอง​ตาม​ภาวนา​ให้​ศักยะ​กลับ​ตัว​กลับ​ใจ​ได้​จริงๆ

ศักยะ​มา​ที่​ต้นมะขาม​เพื่อ​เจรจา​กับ​พราย แต่​พรายไม่ยอม​ออก​มา​พบ เพราะ​ยิ่ง​ศักยะ​ทรมาน​กระวนกระวาย​เท่า​ไหร่มันก็ยิ่ง​พอใจ เป็น​เวลา​เดียว​กับ​ที่​เ​รน​และ​รัชต์​เข้า​มา​คุย​กับ​ตา​เลิศ​ใน​ห้อง​พระ เพราะ​รัชต์​สงสัย​ว่า พราย​สามารถ​ทำร้ายคนได้อยู่แล้ว ทำไม​ต้อง​มา​ทำ​งาน​ให้​ศักยะ เพื่อ​เอาชีวิต​คน​เป็น​สิ่ง​ตอบแทน

“ใช่ ตา​เอง​ก็​สงสัย​ข้อ​นี้​อยู่​เหมือน​กัน ตา​ว่า ไอ้​ผี​พราย​มัน​ยอม​รับ​ใช้​ตั้น​ด้วย​เหตุผล​อื่น​มาก​กว่า แล้ว​ถ้า​ดู​กัน​จริงๆ เหมือน​ตั้น​ตกเป็น​ทาส​ของ​มัน​ด้วย​ซ้ำ” ตา​เลิศ​ครุ่นคิด

“งั้น​มัน​ทำ​ไป​ทำไม​ล่ะ​คะ​ตา ถึง​ได้​พี่​ตั้น​เป็น​ทาส​ก็​ไม่​เห็น​ว่า​จะ​ได้​ประโยชน์​ตรง​ไหน​เลย มี​แต่​วุ่นวาย​ยิ่ง​ขึ้นต้องมา​คอย​ทำ​ตาม​ความต้องการ​ของ​พี่​ตั้น​อีก” เรน​แปลก​ใจ

“ตา​ก็​ไม่​เข้าใจ​เหมือน​กัน ตอน​นี้​ที่​ตา​คิด​ได้​ก็​คือมันต้อง​มี​ความ​แค้น​อะไร​ซัก​อย่าง​กับ​ตั้น หรือ​ไม่​ก็​กับ​ครอบครัว​เราทั้ง​สอง​ตระกูล เพราะ​มัน​เอง​ก็​พยายาม​ทำร้าย​ตา​กับเรนเหมือนกัน”

“ความ​แค้น​เหรอ​ครับ ขอโทษ​นะ​ครับ​คุณ​ตา ครอบครัว​คุณ​ตา​เคย​มี​ศัตรู​ที่ไหน​ไหม​ครับ”

“ตัว​ตา​เอง​ก็​ไม่​เคย​มี​ศัตรู​ที่ไหน​นะ แต่​เท่า​ที่​ฟัง​พี่​ลพ​เล่า​เกี่ยว​กับ​เจ้า​ผี​พราย​ตน​นี้ ก็​ไม่​เห็น​ทาง​ไหนที่​จะ​เชื่อมโยงมา​ถึง​ความ​อาฆาต​แค้น​กับ​พวก​เรา​ได้​เลย เพราะเดิมทีมันเคย อาละวาด​ทำร้าย​คน​อยู่​ที่​เกาะ​ทาง​ใต้ จน​กระ​ทั่ง​เสด็จในกรมฯ​ท่าน​ไป​ราชการ​ที่​นั่น” ตา​เลิศ​นึกถึง​เรื่องราว​ใน​อดีต​ที่​ตน​เคย​ได้ยิน​ได้​ฟัง​มา

ooooooo

เมื่อ​เก้า​สิบกว่า​ปี​ก่อน เสด็จในกรม​ทำ​พิธี​ปราบ​และ​ขัง​โหง​พราย​ไว้​ใน​ผอบ​แก้ว จาก​นั้น​ก็​ประทานให้​ชัด​เพื่อ​เอา​ไว้​คุ้มกัน​ภัย ลพ​ที่​อยู่​ใน​เหตุการณ์​ทักท้วง​ด้วย​กลัว​ชัด​จะ​โดน​พราย​เล่น​งาน แต่​เสด็จฯ​ยืนยัน​ว่า วิชา​ชัด​แก่กล้า​เข้า​ขั้น พอ​จะ​คุม​ได้​ไม่​เป็น​ภัย ​แล้ว​หัน​มา​รับสั่ง​กับ​ชัด

“แต่​เอ็ง​ต้อง​สัญญา​กับ​ข้า​มา​ข้อ​หนึ่ง​ก่อน​ว่า เอ็ง​ต้อง​ไม่​ขอ​สิ่ง​ใด​จาก​มันเกิน​กว่า​วาสนา​ที่​เอ็ง​มี จำ​ไว้​นะ อย่า​โลภ​ให้​เกิน​บุญ​วาสนา มิฉะนั้น มัน​จะ​ย้อน​กลับ​มา​ทำลาย​เอ็ง” สิ้น​เสียง​กำชับ ก็​มีเสียง​ฟ้า​ฝน​ร้อง​ครืนๆตาม​มา

จาก​นั้น​ชัด​ก็​มี​พราย​ช่วย​คุ้มกัน​ภัย แต่​เขา​กลับ​ไม่​รู้สึก​ดี​เลย เพราะ​กลัว​ว่า​สัก​วัน​จะ​ควบคุม​มัน​ไม่​อยู่

วัน​หนึ่ง​ลพ​มา​หาชัด​ที่​บ้าน และ​ได้ยิน​เสียง​ชัด​ตะโกนสั่ง​มา​จาก​ใน​ดง​กล้วย​ให้​รอ​อยู่​ข้าง​นอก​ก่อนอย่า​เพิ่ง​เข้า​มา ลพแปลกใจ​เพราะ​จู่ๆลม​ก็​พัด​แรง​ขึ้น​เรื่อยๆ ท้องฟ้า​มืดครึ้ม​ฉับพลัน แต่​เพียง​ไม่​นาน​ท้องฟ้า​ก็​สว่าง ลม​สงบ​เหมือน​ไม่​เคย​เกิด​อะไร​ขึ้น​มา​ก่อน

“เข้า​มา​ได้​แล้ว​พ่อ​ลพ” ชัด​ตะโกน​เรียก

ลพ​เดิน​เข้าไป​ใน​ดง​กล้วย​ด้วย​ท่าทาง​หวาด​กลัว เห็น​ชัด​กำลัง​ตั้งโต๊ะ​ทำ​พิธี มี​พาน​บายศรี กะโหลก​ผี​ตายโหง ​ผอบ​แก้ว และ​ดอกไม้​ธูป​เทียน​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​จึง​เอ่ย​ถาม “นี่​พ่อ​ชัด​ทำ​อะไร​น่ะ”

“ฉัน​ทำ​พิธี​สะกด​ไอ้​โหง​พราย​มัน ไอ้​โหง​พราย​มัน​ก็​เหมือน​มีด ยิ่ง​ใช้​มัน​มาก​เท่าใด ก็​เหมือน​ยิ่ง​ลับ​ให้​มัน​คม​มาก​ขึ้น​เท่านั้น ฉัน​เกรง​ว่า​ผอบ​แก้ว​จะ​ขัง​มัน​ไว้​ไม่​อยู่​แล้ว ต้อง​ใช้​กะโหลก​ผี​ตายโหง​สะกด​มัน​ซ้ำ​อีก​ที”

“แล้ว​จะ​สะกด​มัน​อยู่​แน่​หรือ​พ่อ​ชัด ถ้า​วุ่นวาย​ขนาด​นั้น ก็​เอา​มัน​ไป​ถ่วง​น้ำ​ไม่​ดี​รึ​พ่อ​ชัด จะ​ได้​สิ้น​เรื่อง​สิ้น​ราว​กัน​ไป”

“เสียดาย” ชัด​ถอน​ใจ ก่อน​จะ​ไหว้​จบ​หัว แล้ว​หยิบ​กะโหลก​ผี​ตายโหง​ขึ้น​วาง​ทับ​ผอบ​แก้ว​อีก​ที

“ยัง​ไง​พ่อ​ชัด​ก็​อย่า​ลืม​รับสั่ง​ของ​เสด็จ​ก็​แล้วกัน”

“ไม่​ลืม​ดอก​พ่อ​ลพ ฉัน​จะ​ไม่​ขอ​อะไร​จาก​ไอ้​โหง​พราย​เกิน​กว่า​วาสนา​ของ​ฉัน หรือ​ไม่​ฉัน​ก็​จะ​ไม่​ขอ​อะไร​จาก​มัน​อีก​เลย มัน​จะ​ได้​ไม่​หลุด​ออก​มา​ทำร้าย​ใคร​ได้​อีก” ชัด​ก้ม​มอง​กะโหลก​ผี​ตายโหง​ที่​วาง​ทับ​ผอบ​แก้ว​เอา​ไว้

สาย​วัน​ต่อ​มา ลพ​พา​เลิศ​น้อง​ชาย​ใน​วัย​สิบ​ขวบ​มา​หา​ชัด​ที่​บ้าน​อีก​ครั้ง สอง​พี่น้อง​เห็น​ชัด​กำลัง​ดู​โถ​ลายคราม​ที่​เพิ่ง​ได้​มา​ด้วย​สีหน้า​พึง​พอใจ เพราะ​เป็น​โถ​ใส่​กระดูก​ผี​ตาย​ท้อง​กลม​ที่​จะ​นำ​มา​ทำ​พิธี​สะกด​ไอ้​โหง​พราย ชัด​หัน​มา​คุย​กับ​ล​พ อ​ย่าง​มั่นใจ “ทีนี้​ก็​เหลือ​แต่​รอ​อาถรรพณ์​ฤกษ์ ฉัน​จะ​ได้​ทำ​พิธี​ปลุกเสก คราว​นี้ อย่า​ว่า​แต่​ไอ้​โหง​พราย​ตัว​เดียว​เลย ต่อ​ให้​มี​สิบ​ตัว​ฉัน​ก็​สะกด​มัน​อยู่”

“เอ่อ แล้ว​นี่​เมีย​กับ​ลูก​พ่อ​ชัด​อยู่​หรือ​เปล่า​ล่ะ” ลพ​มอง​หา

“ไป​ทำบุญ​ที่​วัด มี​อะไร​หรือ”

“ฉัน​มี​เรื่อง​กลุ้มใจ อยาก​จะ​ชวน​พ่อ​ชัด​ไป​ด้วยกัน​สัก​หน่อย” ลพ​สีหน้า​หนักใจ พลาง​บอก​เล่า​เรื่องราว​ของ​อ้น​นักเลง​หัวไม้ ลูก​ชาย​คหบดี​ใหญ่​ที่​เจ้านาย​ของ​ลพ​เกรงใจ เพราะ​อ้น​บอก​ว่า​อยาก​เป็น​ทหาร​เรือ เจ้านาย​จึง​บังคับ​ให้​ลพ​รับ​อ้น​มา​เป็น​ลูกน้อง ทำให้​ลพ​อึดอัด​ใจ​เป็น​ที่สุด​ด้วย​กลัว​ว่า ถ้า​อ้น​มี​ยศ​มี​อำนาจ​ขึ้น​มา​ชาว​บ้าน​ตา​ดำ​ๆจะ​เดือดร้อน​ไป​มาก​กว่า​นี้

“ฉัน​เลย​อยาก​ให้​พ่อ​ชัด​ช่วย​หา​ทางออก​ให้​ฉัน​หน่อย ทำ​อย่างไร​ถึง​จะ​ปฏิเสธ​นาย​อ้น​ได้โดย​ไม่​ต้อง​หมางใจ​กัน” ลพ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ

ชัด​นิ่ง​คิด​อยู่​ครู่​หนึ่ง​ก็​ส่ง​ยิ้ม​แบบ​มี​แผน​ เอ่ย​ว่า “ฉัน​พอ​มี​ทาง​แล้ว​ล่ะ​พ่อ​ลพ”

ooooooo

กลางดึก​คืน​นั้น​ชัด​นัด​ให้​ลพ​พา​อ้น​กับ​ลูกน้อง​ที่​อยาก​เป็น​ทหาร​เรือ​มา​พบ​ตน​ที่​ดง​กล้วย​หลัง​บ้าน เพื่อ​ทดสอบ​ความ​กล้า​หาญ เขา​บอก​กับ​อ้น​และ​ลูกน้อง​ว่า

“ทหาร​เรือ​ต้อง​ทำ​ศึกสงคราม​กับ​ข้าศึก ยิ่ง​ตอน​ออก​เรือ คืบ​ก็​ทะเล​ศอก​ก็​ทะเล เพราะฉะนั้น ต้อง​มี​ความ​กล้า​เป็น​เลิศ คน​ขี้ขลาด​ไม่​มี​วัน​จะ​เป็น​ทหาร​เรือ​ได้​หรอก ใน​ดง​กล้วย มี​โต๊ะ​อยู่ตัว​หนึ่ง บน​โต๊ะ​มี​กะโหลก​ผี​ตายโหง​วาง​อยู่ พร้อม​กับ​กระดาษ​ดินสอ ถ้า​ใคร​คิด​ว่า​ตัว​เอง​กล้า​หาญ​จริง​ก็​ขอ​ให้​เดิน​เข้าไป​ใน​ดง​กล้วย​เพียง​คน​เดียว แล้ว​เขียน​ชื่อตัว​เอง​ลง​บน​กระดาษ ถ้า​ทำได้​ก็​ถือว่า​สอบ​ผ่าน”

อ้น​กับ​ลูกน้อง​หน้าซีด​เพราะ​ถึง​จะ​เป็น​อันธพาล​แต่​ก็​กลัว​ผี

“ถ้า​เรื่อง​เพียงนี้​ยัง​กลัว ก็​เป็น​ทหาร​เรือ​ไม่ได้​หรอก​นะ เกิด​ศึกสงคราม​ขึ้น​มา​จริงๆมี​หวัง​กลัว​หด​อยู่​ใน​กระดอง” ลพ​สบประมาท

อ้น​เจ็บใจ​ตะคอก​สั่ง​ลูกน้อง​ที่​ชื่อ​แก่น​ให้​เข้าไป​ก่อน แต่​แก่น​ก้าว​ขา​ไม่​ออก เพราะ​เสียง​หมา​หอน​ดัง​แว่ว​มา อ้น​กลัว​เสีย​ฟอร์ม​จึง​กัดฟัน​เดิน​เข้า​ดง​กล้วย​ไป​ทั้งๆที่​กลัว​แทบ​ขาดใจ เสียง​หมา​หอน​โหยหวน​ดัง​ขึ้น​อีก อ้น​กลัว​จับใจ แต่​ความ​กลัว​เสีย​ฟอร์ม​มี​มาก​กว่า จึง​หลับ​หู​หลับตา​วิ่ง​ฝ่า​ดง​กล้วย​เข้าไป จน​สะดุด​ล้ม​ลง พอ​ลุก​ขึ้น​ก็​เห็น​กะโหลก​ผี​ตายโหง​บน​โต๊ะ​เข้า​เต็มๆ ห่าง​เพียง​แค่​ฝ่า​มือ​กั้น​เท่านั้น อ้น​ตกใจ​สุดๆร้อง​ลั่น แล้ว​ถีบตัว​ถอย​ห่าง เขา​นั่ง​ช็อก​อยู่​ครู่​หนึ่ง และ​เมื่อ​ตั้ง​สติ​ได้​ก็​รีบ​เดิน​ไป​ที่​โต๊ะ​แล้ว​หยิบ​ดินสอ​ขึ้น​มา​เขียน​ชื่อตัว​เอง​บน​กระดาษ​อย่าง​รวดเร็ว

เมื่อ​เขียน​ชื่อ​เสร็จ​อ้น​ก็​มอง​ไป​รอบๆเห็น​ทุก​อย่าง​สงบ​เงียบ​ไม่​มี​อะไร​จึง​ย่าม​ใจ​คิด​ว่า ชัด​กับ​ลพ​ต้องการ​ขู่​จึง​จะ​เอา​คืน “คิด​จะ​หลอก​ให้​กู​กลัว​ล่ะ​สิ อย่าง​นี้​มัน​ต้อง​หักหน้า​กัน​เสีย​หน่อย​แล้ว” อ้น​หยิบ​กะโหลก​ผี​ตายโหง​ขึ้น​มา​แล้ว​ถือ​เดิน​ออก​จาก​ดง​กล้วย​ด้วย​สีหน้า​กระหยิ่ม​ยิ้มย่อง พราย​ที่​อยู่​ใน​ผอบ​แก้ว​บน​โต๊ะ​กรีด​ร้อง​โหยหวน​ด้วย​ความ​ดีใจ​ที่​หลุดพ้น​เป็น​อิสระ

ชัด​กับ​ลพ​ที่​รอ​อยู่​เห็น​อ้น​หาย​ไป​นาน ก็​เข้าใจ​ว่า​คง​เปลี่ยนใจ​ไม่​อยาก​เป็น​ทหาร​เรือ​แล้ว แต่​เพียง​ครู่​เดียว​อ้น​ก็​เดิน​ออก​มา​พร้อม​กับ​ชู​หัว​กะโหลก​ขึ้น​อวด​ลูกน้อง ชัด​ตกใจ​สุดขีด​รีบ​ดึง​หัว​กะโหลก​มา​พลาง​ตวาด​ลั่น

“ไปเอาออกมาทำไม ฉันบอกให้แค่เขียนชื่อ ทำไมถึงทำเกินคำสั่ง”

“เรื่องแค่นี้อย่าตีโพยตีพายนักเลยน่าพี่ชัด พี่เป็นต้นคิดเรื่องนี้ พอฉันทำได้ก็ไม่พอใจ กลัวเสียหน้าล่ะสิ” อ้นพาลพร้อมกับดึงหัวกะโหลกกลับไป

“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกพ่ออ้น พ่อชัดเขาเป็นคนมีระเบียบ ไม่ชอบให้ใครทำขาดทำเกินคำสั่งเท่านั้นเอง” ลพรีบไกล่เกลี่ย

อ้นตาขวางมองหน้าชัด ก่อนจะหันไปชวนลูกน้องไปดื่มฉลอง ชัดหน้าเครียดมองตาม แล้วหันกลับไปมองที่ดงกล้วยภาวนาว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงมากไปกว่านี้ เขารีบชวนลพไปที่ห้องพระเพื่อนั่งสมาธิดูว่าพรายหลุดออกไปหรือยัง

ooooooo

ลพที่นั่งรออยู่เห็นชัดลืมตาออกจากสมาธิก็รีบถามเรื่องพราย ชัดพยักหน้ารับสีหน้าหนักใจ เพราะพรายหลุดออกไปแล้ว ลพนึกโทษตัวเองที่หาเรื่องมาให้ชัด ชัดส่ายหน้าบอกว่าเป็นความผิดของเขาเองที่ประมาทอ้นเกินไปแล้วสั่งให้ลพไปรั้งพวกอ้นให้ค้างคืนที่บ้านก่อน เพราะกลัวโหงพรายจะตามไปเล่นงาน

“ได้พ่อชัด เดี๋ยวฉันจัดการให้” ลพรับปาก

“ฉันจะร่ายอาคมขังมันไว้ในเขตบ้านก่อนแล้วค่อยหาทางจับมันอีกที”

“แล้วโหงพราย มันจะไม่เปลี่ยนมาทำร้ายคนในบ้านพ่อชัดแทนรึ”

“เมียฉันพาลูกไปค้างบ้านแม่หลายวันแล้ว ช่วงนี้คงเบาใจไปได้ ส่วนพวกนั้นพ่อลพต้องให้อยู่รวมกันไว้ อย่าให้อยู่คนเดียว รุ่งสางเมื่อไหร่ค่อยให้กลับออกไป แค่นี้ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว”

“ทำไมต้องอยู่รวมกันล่ะพ่อชัด”

“ไอ้โหงพรายมันกลัวอำนาจจิตของคน ถ้าอยู่กันหลายคน พลังของมันจะลดลง จากที่ฆ่าคนได้ ก็อาจจะทำได้แค่ผลักให้ล้มหรือไม่ก็เข้าสิงเท่านั้นเอง”

“งั้นฉันรีบไปรั้งพวกนายอ้นไว้ก่อนนะพ่อชัด” ลพรีบออกจากห้องไป

ชัดหันไปมองพระพุทธรูปในห้อง ก่อนจะขัดสมาธิ หลับตาสำรวมจิตต่อ

ลพออกไปตามอ้นกับลูกน้องให้มากินเหล้าต่อที่บ้านชัดและหลอกมอมเหล้าทุกคนเพื่อไม่ให้ออกไปไหนอีก ไม่นานนักอ้นกับลูกน้องก็พากันเมากลิ้งนอนหลับสนิท ลพโล่งใจขอขึ้นไปงีบเอาแรงบ้าง แต่เมื่อลพเดินลับตาไป อ้นก็ลืมตาโพลงตื่นขึ้นทันทีเพราะถูกพรายสิง เขาลุกขึ้นยืนในมือมีกะโหลกผีตายโหงติดมาด้วย

“จะไปไหนน่ะพี่ กลับบ้านหรือ” ลูกน้องสะลืมสะลือเอ่ยถาม

“ใช่ กลับบ้าน” อ้นตอบเสียงแข็งเดินถือหัวกะโหลกออกไปจากบ้านหน้าตาเฉย

นับจากวันนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นอ้นอีกเลย ลพร้อนใจมากเพราะไม่รู้จะไปตามอ้นที่ไหน เขาต้องรอจนกระทั่งชัดกลับจากราชการจึงมาปรึกษาเรื่องอ้น เพราะกลัวจะถูกโหงพรายเล่นงาน แต่ชัดว่าโหงพรายไปเกิดแล้ว ไม่น่าจะทำร้ายใครได้อีก

“ฉันเองก็มืดแปดด้านไปหมด แต่ถ้าพ่อชัดยืนยันว่าไอ้โหงพรายมันไปผุดไปเกิดแล้ว ก็คงเกิดเรื่องอย่างอื่นขึ้นกับนายอ้นแล้วล่ะ” สีหน้าลพดูค้างคาใจ

ชัดเป็นกังวลเพราะสัญชาตญาณบอกว่าได้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นแล้ว เขารีบชวนลพกลับไปที่บ้านเพื่อทำพิธี  ไม่นานนักชัดกับลพก็ได้กลิ่นเหม็นลอยออกมาจากดงกล้วย ชัดชวนลพเข้าไปดู เห็นโต๊ะที่ตั้งพิธีสะกดพรายมีกะโหลกผีตายโหงวางทับผอบแก้วอยู่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน

“นี่มันกะโหลกผีตายโหงนี่ ฉันจำได้ว่านายอ้นเอาออกมาด้วย แล้วมันกลับมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ลพแปลกใจ

“ฝีมือไอ้โหงพรายแน่ มันตั้งใจจะเย้ยฉันก่อนที่มันจะไปเกิด พ่อลพ เดินไปดูที่หลังโต๊ะที ถ้าฉันคิดไม่ผิด อ้นคงจะอยู่ที่หลังโต๊ะนั่นแหละ” ชัดพนมมือ หลับตา สำรวมจิต ท่องคาถา

ลพเดินไปที่หลังโต๊ะ เห็นศพอ้นนอนคว่ำหน้าส่งกลิ่นเน่าเหม็นกระจายคลุ้งทั่วไปหมด

ooooooo

“เรื่องที่ตารู้ก็มีเท่านี้แหละ ตาถึงบอกไงว่าจนแล้วจนรอดตาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าพรายนั่นถึงได้ตามจองล้างจองผลาญพวกเรานัก” ตาเลิศมองหน้ารัชต์กับเรน

“มันก็แปลกจริงๆนะคะ พรายมันไปผุดไปเกิดแล้วนี่นา” เรนหันมาคุยกับรัชต์

“หรือว่าคุณปู่ชัดเข้าใจผิด จริงๆแล้วเจ้าพรายนั่นมันยังอยู่ ไม่ได้ไปผุดไปเกิด”

“เป็นไปไม่ได้หรอก พี่ชัดมีตบะเหนือกว่าตามาก แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีทางที่คนละเอียดถี่ถ้วนอย่างพี่ชัดจะพลาดเด็ดขาด ตาว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างที่ต่อจากเหตุการณ์ที่ตารู้ แล้วเรื่องตรงนั้นนั่นแหละคือปริศนาทั้งหมดที่เกี่ยวกับเจ้าพราย” ตาเลิศถอนใจ

ปัญหาเรื่องพรายยังไม่ได้คำตอบ เรนก็มีปัญหาใหม่ให้ต้องคิดหนัก เพราะบังเอิญเห็นพิมพ์พัสตราเข้ามาออดอ้อนขอเริ่มต้นใหม่กับรัชต์ เธอแอบน้อยใจและเริ่มไม่มั่นใจในตัวรัชต์ขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกับที่ศักยะเดินเมาเละกลับเข้าห้องนอน และได้พบกับพราย เขาขอร้องให้พรายปล่อยพิไลไปและยินดีแลกทุกอย่างกับมัน

“ก็ได้ แต่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน เราต้องการทรัพย์สมบัติทุกชิ้นที่ท่านมี ถ้าท่านให้เราได้ เราก็จะไว้ชีวิตแม่ของท่าน” พรายหัวเราะเยาะ

ศักยะตกใจหน้าซีดเผือดพูดกับเงาสะท้อนตัวเองในกระจก “ถ้าทำอย่างงั้น ก็เท่ากับแกฆ่าฉันทั้งเป็น แกแลกเปลี่ยนอย่างอื่นไม่ได้เหรอ ชีวิตใครก็ได้ จะกี่คนฉันก็พร้อมจะเอามาให้แกทั้งนั้น”

เงาศักยะในกระจกหัวเราะด้วยความสะใจที่เห็นความเห็นแก่ตัวของศักยะ

“แกหัวเราะทำไม หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้หยุดไงล่ะ หยุดซิ” ศักยะโมโห

เสียงพรายยังคงหัวเราะด้วยความสะใจ ศักยะเหลืออด คว้าของใกล้มือเขวี้ยงใส่กระจกตู้แตกกระจาย แต่ไม่คาดคิด ทุกเศษกระจกที่แตกกลับมา เงาศักยะปรากฏขึ้น แล้วระเบิดหัวเราะใส่อย่างสาแกใจ คล้ายเล่นสงครามประสาท ศักยะแหกปากร้องลั่นห้องเหมือนคนเสียสติ

เช้าวันใหม่นิศราเดินออกมาจากทาวน์เฮาส์เตรียมจะไปทำงานที่บริษัท แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นศักยะยืนรออยู่ เขาเอ่ยถามถึงพิไลด้วยความเป็นห่วง พิไลที่เดินตามออกมาประชดว่าเธอยังไม่ตาย แล้วต่อว่าลูกชายอีกชุดใหญ่แถมไล่ให้กลับไป

“ผมไม่ไปไหนทั้งนั้นล่ะ แม่ยังไม่รู้ว่าไอ้พรายนั่นมันร้ายกาจแค่ไหน ให้ผมอยู่ใกล้ๆแม่ดีกว่านะครับ เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือทัน” ศักยะขอร้อง

“ช่วยฆ่าฉันสิไม่ว่า นิศโทร.ตาม รปภ.หมู่บ้านมาลากตัวมันออกไปเลย” พิไลโมโห

นิศราเห็นใจศักยะอยู่เหมือนกันแต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรจึงได้แต่ขอร้องให้ศักยะกลับไปก่อน เพราะอีกเดี๋ยวธีระก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนพิไลแทนเธอ แต่ศักยะไม่ยอมเพราะกลัวพรายจะมาเอาชีวิตพิไลที่อยู่คนเดียว เขาโทร.ตามเรน

ในขณะที่เรนก็กำลังต่อว่าสร้อยทิพย์ เพราะเข้าใจผิดว่าแม่โทร.ไปขอคืนดีกับทัดสิงห์

“หยุดด่าว่าแม่ได้แล้วนะเรน แม่ไม่ได้โทร.ไปง้อขอคืนดีกับเขา แต่แม่โทร.ไปขอเลิกกับเขา  เข้าใจให้ถูกซะด้วย” สร้อยทิพย์สะบัดหน้าเดินกลับเข้าบ้าน

เรนอึ้งไปรู้สึกผิดที่ก้าวร้าวแม่โดยไม่ฟังเหตุผล รีบตามไปกราบขอโทษ สร้อยทิพย์น้ำตาร่วง

“แม่คะ เรนสัญญาว่าต่อไปจะไม่ก้าวร้าวกับแม่แบบนี้อีก แม่จะให้เรนไถ่โทษยังไงก็ได้ แต่อย่าโกรธเรนเลยนะคะ”เรนก้มไหว้ตักแม่อีกที

สร้อยทิพย์เหลือบตามองลูกสาว อดใจอ่อนไม่ได้ ขณะนั้นเองศักยะโทร.มาขอร้องให้เรนไปอยู่เป็นเพื่อนพิไล เพราะธีระยังมาไม่ถึง และอยากให้เรนช่วยขอร้องพิไลให้ยอมยกโทษให้เขาสักครั้ง เพื่อจะได้เข้าไปอยู่ดูแลแม่ เรนสงสารจึงยอมเข้าไปคุยกับพิไล แต่พิไลใจแข็งกว่าที่คิดเพราะต้องการให้บทเรียนกับลูกชาย

ศักยะเห็นเรนเดินออกมาก็รีบเข้าไปถามว่าพิไลยอมให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนไหม เรนส่ายหน้าแทนคำตอบ

“แม่คงเกลียดผมมาก ขนาดผมอยากเข้าไปคุ้มกันเขาแท้ๆ ยังไม่ยอมเลย” ศักยะน้อยใจ

“ไม่มีแม่คนไหนเกลียดลูกตัวเองได้หรอกค่ะพี่ตั้น แต่ถ้าโกรธ ผิดหวัง ก็คงจะใช่ พี่ตั้นทำเรื่องไม่ดีมาเยอะ จะด้วยคิดเองหรือถูกพรายครอบงำความคิดก็เถอะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้คงทำให้พี่ตั้นได้คิด และกลับตัวเลิกยุ่งเกี่ยวกับพรายซะที อย่าให้มีใครต้องสูญเสียชีวิตเพราะความไม่รู้จักพอของพี่อีกเลยนะคะ” เรนขอร้อง

ศักยะหน้าเครียดพึมพำว่าไม่รู้จะสายเกินไปหรือยัง เพราะพรายไม่ยอมฟังคำสั่งของเขา

“งั้นพี่ตั้นก็ต้องอยู่ที่นี่ก่อน ข้างนอกมีพี่คอยดู ส่วนข้างในบ้านมีพี่ธีระกับพี่นิศอยู่ ก็คงพอจะเบาใจได้”

“แล้วต้องถึงเมื่อไหร่ล่ะเรน อีกกี่เดือนกี่ปี แม่ถึงจะปลอดภัยซะที”

“พี่ตั้นน่าจะตอบคำถามนี้ได้ดีกว่าใครไม่ใช่เหรอคะ” เรนจ้องหน้าศักยะสายตาดูโกรธเคืองอยู่มาก ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนี

ศักยะมองตามนึกเสียใจที่ทำให้แม่และทุกคนต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้

เรนกลับมาถึงบ้านก็เห็นพิมพ์พัสตรากำลังจัดโต๊ะอาหารที่มีเมนูหรูระดับโรงแรมวางอยู่เต็มโต๊ะ เพราะต้องการเอาใจรัชต์ และจะขอตามชายหนุ่มไปพบลูกค้าด้วยหลังทานอาหารเสร็จ รัชต์ยืนอึ้งหันมาขอความช่วยเหลือจากเรน เรนออกตัวว่าเธอคงไปพบลูกค้ากับรัชต์ไม่ได้เพราะต้องพาสร้อยทิพย์ไปทำธุระแล้วเดินเลี่ยงไป รัชต์มองตามเรนอย่างแคร์ความรู้สึก และเริ่มอึดอัดใจที่พิมพ์พัสตราเข้ามาจุ้นจ้านมากเกินไป

ooooooo

เงาพราย

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด