ตอนที่ 9
wบนถนนเปลี่ยวข้างวัด เข็มพาสลิลมาที่นัดหมายของหญิงสาวที่อ้างตัวเป็นภรรยาผู้ตาย พบรถตำรวจเปิดไซเรนอยู่ก่อน เข็มเข้าใจว่าตำรวจตามมาจับเธอ แต่แล้วกลับกลายเป็นเจ้าหน้าที่กำลังเก็บศพเธอ ตำรวจเข้ามาแจ้งให้สลิลทราบว่า “เรามาช้าไปครับคุณสลิล...”
สลิลเดินเซ็งกลับเข้ามาในล็อบบี้ เห็นใหญ่อยู่กับภูผาก็แปลกใจ เดินเข้าไปหา ใหญ่แสดงอาการโล่งอกที่เธอปลอดภัยกลับมา ตำหนิหายไปไหน ตนกับภูผาเป็นห่วงแทบแย่ สลิลอึกอัก
“หว้าพาตำรวจไปดักจับผู้หญิงคนที่ใส่ร้ายคุณลุงมาน่ะค่ะ แต่เสียดายที่พอไปถึงก็เจอแต่ศพ ผู้หญิงคนนั้นถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว...แต่คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ตอนนี้ตำรวจกำลังสงสัยนายกษิตอยู่ เสียดายที่เรายังไม่มีหลักฐานมัดตัวมัน”
ใหญ่เอ็ด “ไม่ต้องเสี่ยงไปหาหลักฐานอะไรด้วยตัวเองอีกนะ มันอันตรายรู้ไหม ไอ้กษิตมันร้ายกว่าที่เธอคิดไว้มาก”
ภูผาเห็นด้วยกับใหญ่ แต่สลิลยืนยัน อย่างไรเสียตนก็จะต้องกู้ชื่อเสียงภูผากับรีสอร์ตของเรากลับมาให้ได้ ทั้งภูผาและใหญ่หนักใจกับความดื้อรั้นของสลิล...
สมุนของกษิตกลับมารายงาน จัดการหญิงสาวคนนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่น่าแปลกที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุเร็วมาก กษิตรู้ทันทีว่าต้องเป็นฝีมือสลิลแน่ๆ ตนคงประมาทเธอไม่ได้อีกแล้ว...
บ่ายวันเดียวกัน สลิลพาใหญ่มาเยี่ยมเยียนทแกล้วที่ไร่ขวัญแก้ว ขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขา ทแกล้ววางท่าไม่สนใจ ด้วยน้อยใจสลิล ใหญ่หันไปคุยกับนวลขวัญ เขาถามเธอถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและยินดีช่วยเหลือ ทแกล้วหันขวับมาถาม
“ไร่เรามีปัญหาอะไรเหรอพี่ขวัญ”
นวลขวัญตอบเลี่ยงๆว่าปัญหาจุกจิกทั่วไป ด้วยไม่อยากให้ทแกล้วทำอะไรฉุนเฉียว แต่เขาไม่เชื่อต่อว่ามีอะไรปิดบัง ไร่เป็นของเราสองคนพี่น้อง มีปัญหาอะไรก็ต้องช่วยกันแก้ไข นวลขวัญถอนใจ จำต้องเล่าปัญหาที่โดนลูกค้ายกเลิกการสั่งซื้อใบชาทั้งหมดให้เขาฟัง
ตกเย็น สลิลกำลังทำแผนการลดราคาค่าที่พัก เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้ากลับมาเที่ยว ใหญ่เดินมาชะโงกดู ติงว่า “พักหนึ่งคืนแถมหนึ่งคืน รีสอร์ตเธอจะได้กำไรตรงไหน”
“ไม่ได้กำไรก็ต้องทำค่ะ นาทีนี้เราต้องทำทุกทาง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของลูกค้าให้กลับมาพักกับเราให้ได้ ต่อให้พักฟรี หว้าก็ยอม”
ใหญ่อ่อนใจ เปลี่ยนท่าทีมาให้กำลังใจ สลิลเชื่อมั่นว่าตัวเองจะต้องทำให้ได้ ต่อให้กษิตใช้วิธีสกปรกแค่ไหน ตนก็ไม่กลัว ใหญ่หน้าเครียดทันทีเตือนเสียงเข้ม
“เรื่องนายกษิต ฉันอยากให้เธอระวังตัวให้มากกว่านี้ คนอย่างนายกษิต เราไว้ใจมันไม่ได้ ไม่รู้ว่า มันจะมาไม้ไหนอีก เธอไม่ควรประมาท”
สลิลย้อนเตือนเขาเช่นกัน สลิลนึกได้ถามว่าเขาต้องกลับไปเซ็นสัญญาที่กรุงเทพฯอีกหรือเปล่า ใหญ่หน้าเครียดตอบว่าทางลูกค้าขอเลื่อน สลิลเผลอยิ้มดีใจ “คุณป้าคงดีใจมาก เพราะดูท่าทางเธอยังไม่อยากให้คุณใหญ่กลับไปตอนนี้ แต่...อยู่ที่นี่ต่อ คุณใหญ่ก็เสี่ยงโดนลอบทำร้ายอีก”
ใหญ่ยิ้มให้ความมั่นใจว่า ตนมีแผนการรับมือตัวการไว้แล้ว...เขาคิดจะต้อนไกรกูณฑ์ให้ติดกับ สลิลมองใหญ่อย่างแปลกใจว่าเขาจะทำอะไร
คืนนั้น ใหญ่เห็นไกรกูณฑ์ยืนคิดอะไรอยู่ที่ระเบียง จึงเข้าไปถามคิดอะไรอยู่ ท่าทางเขาตกใจแล้วปั้นหน้านิ่ง ทำทีไม่มีอะไรคุยด้วยเดินหนี ใหญ่จึงพูดลอยๆออกไป
“พี่อยากมาเตือนน้อยเรื่องคุณนวลขวัญเพราะเห็นว่าน้อยชอบเธออยู่” ไกรกูณฑ์ชะงักเหล่มอง “น้อยไม่คิดบ้างเหรอว่า นายกษิตเล่นงานบ้านไร่สายน้ำหนักถึงขั้นฆ่ากันตาย แล้วเขาจะไม่เล่นงานไร่ขวัญแก้วด้วยวิธีรุนแรงยังงั้นบ้าง”
“คุณใหญ่หมายความว่ายังไง”
ใหญ่ยิ้มที่น้องหลงกล “พี่ได้ข่าวว่านายกษิตกำลังวางแผนจะจัดการกับไร่ขวัญแก้วขั้นเด็ดขาด” ไกรกูณฑ์เผลอถามว่ามันคิดอะไร “เรื่องนี้น้อยคงต้องไปถามรายละเอียดจากนายกษิตเอาเอง พี่มาเตือนเท่าที่รู้” ใหญ่ตบไหล่ไกรกูณฑ์เบาๆก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ไกรกูณฑ์โทร.หากษิตท่าทางหัวเสียสุดๆ ตวาดลูกน้องกษิตให้ไปบอกเจ้านายว่าคิดจะเลี่ยงไม่คุยกับตน คิดหรือว่าคนดังอย่างเขาจะไปออกงานที่ไหนแล้วเขาจะสืบไม่ได้ ใหญ่แอบฟังและสะกดรอยตามไกรกูณฑ์ไปตลอด
กษิตมาตัดริบบิ้นเปิดโครงการงานแห่งหนึ่ง ไกรกูณฑ์ฝ่าผู้คนเข้ามาประจันหน้า สมุนกษิตจะเข้าจับตัว กษิตสั่งไม่ต้องแล้วส่งยิ้มให้อย่างกวนๆ...ใหญ่แอบมองไม่ละสายตา กษิตหลบมาคุยกับไกรกูณฑ์มุมหนึ่งลับตาคน ไกรกูณฑ์โวยวายดักคอไม่ให้เขากลั่นแกล้งอะไรไร่ขวัญแก้วของนวลขวัญ กษิตทำทีไม่รู้เรื่อง แต่ไกรกูณฑ์ขู่ อย่าคิดว่าตนไม่รู้เรื่องคนตายที่บ้านไร่สายน้ำ กษิตหัวเราะเชิงยอมรับ
“ผมบอกแล้วว่า ถ้าคุณไม่จัดการเรื่องนี้ ผมจะเป็นคนจัดการเอง วิธีเด็กอนุบาลแบบคุณไม่รู้ชาติหน้าจะได้ที่ดินรึเปล่า”
“แต่ก็ไม่ควรใช้วิธีเลวๆ ฆ่าคนตายแบบนั้น”
“แล้วทีคุณล่ะ วางแผนฆ่าพี่ชายตัวเองเพื่อให้ได้ที่ดิน ไม่เลวกว่าเรอะ” กษิตแค่นขำ
ใหญ่ได้ยินเต็มสองหูแทบช็อก พลัน สมุนกษิตมาเห็นร้องถาม...นั่นใคร ใหญ่ตกใจรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ไกรกูณฑ์ชะงักหันมองเห็นหลังไวๆ อุทาน “คุณใหญ่!”
“พี่ชายคุณเหรอ อย่าบอกนะว่าคนที่คุณบอกว่า ผมจะเล่นงานไร่ขวัญแก้วคือพี่ชายคุณ”
ไกรกูณฑ์พยักหน้า กษิตส่ายหน้าบอกว่าเขาโดนหลอกแล้ว ไกรกูณฑ์หน้าซีดวิตกกังวลว่าใหญ่จะได้ยินอะไรบ้าง...ในขณะที่ใหญ่ขับรถตะบึงด้วยความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามา เจ็บปวด ผิดหวัง โกรธ และเจ็บใจ ที่น้องชายที่ตนรักคิดฆ่าตน
สักพัก ใหญ่มาปรากฏตัวที่บ้านไร่สายน้ำ สลิลกำลังทำงานเงยหน้ามาเห็นก็แปลกใจ เข้าไปถามทำไมมาเงียบๆ ก็เห็นเขาน้ำตารื้น ใหญ่บอกเธอว่าเขารู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังบงการฆ่าเขา สุดท้ายก็เป็นคนที่เขาสงสัย จริงๆ...สลิลอุทานชื่อไกรกูณฑ์ออกมา เขาพยักหน้าเศร้าๆ
“ฉันสะกดรอยตามน้อยไปหากษิต แล้วก็ได้ยินสิ่งที่ฉันไม่อยากได้ยิน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าต้องเป็นฝีมือน้อย แต่ฉันก็แกล้งโง่หลอกตัวเองว่ามันอาจจะไม่ใช่ มันอาจเป็นความเข้าใจผิด ฉันรักน้อย ไม่คิดว่าน้อยจะตอบแทนความรักฉันแบบนี้ ถึงขั้นอยากฆ่าฉันให้ตายกับมือได้ลงคอ”
“มีแค่คุณน้อยกับนายกษิตเองเหรอคะ ที่ตั้งใจทำร้ายคุณใหญ่” สลิลเริ่มสงสัย
ใหญ่แปลกใจว่าสลิลสงสัยใครอีก สลิลไม่อยากให้เขาสะเทือนใจว่าตนสงสัยธราเพราะยังไม่แน่ใจ แสร้งว่าถามเผื่อๆดู ใหญ่คิดว่าคงต้องหาหลักฐานมามัดไกรกูณฑ์ให้ได้คาหนังคาเขา
ด้านไกรกูณฑ์กลับมาเล่าให้ธราฟังอย่างหงุดหงิด เกรงใหญ่ได้ยินเรื่องที่ตนคุยกับกษิต ธราตำหนิทำอะไรไม่ระวังตัว แต่ก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป ตั้งสติให้ดีๆ ใหญ่รักน้องคงไม่แจ้งจับ ทันใด ใหญ่เดินเข้ามา ไกรกูณฑ์ถึงกับสะดุ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว ธรารีบปั้นยิ้มรับหน้าชวนทานข้าว ใหญ่ยิ้มแย้มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชวนไกรกูณฑ์ไปทานด้วยกัน เขาออกอาการสับสน
ระหว่างทานอาหาร บรรยากาศดูน่าอึดอัด ไกรกูณฑ์มีท่าทีร้อนตัว ธราเอ่ยถามใหญ่ออกไปไหนมาทั้งวัน กระเซ้าว่าไปบ้านไร่สายน้ำใช่หรือเปล่า ใหญ่ตอบกรายๆว่าแวะไป เห็นภูผายังเครียดๆอยู่ บอกเธอน่าไปเยี่ยมเขาบ้าง แล้วหันมาถามไกรกูณฑ์บ้างว่าไปไหนมา เห็นออกไปก่อนตนอีก ไกรกูณฑ์อึกอักๆก่อนจะตอบว่า ไปหากษิตมา ธราแกล้งโมโหตำหนิทำไมไม่เชื่อกันบ้างว่าไม่ให้ยุ่งกับนายคนนี้ ไกรกูณฑ์แก้ตัวว่า
“ผมอยากรู้ความจริงว่าเรื่องที่รีสอร์ตคุณหว้าเป็นฝีมือมันรึเปล่า ก็เลยไปถามมันให้รู้เรื่องแม่กับคุณใหญ่จะได้เลิกกล่าวหาผมว่าสมรู้ร่วมคิดกับมันซักที”
“แล้วเป็นยังไงได้เรื่องไหมล่ะ” ใหญ่ถามหน้าตาเฉยเหมือนจะกวน
ไกรกูณฑ์หลบตาตอบว่ากษิตไม่ยอมรับ ใหญ่จึงเหน็บ ถ้ายอมรับก็คงแปลก คนทำผิดไม่มีใครยอมพูดความจริง จริงไหม ไกรกูณฑ์ข่มอารมณ์ตอบเสียงสั่นๆ ถ้าไม่มีหลักฐานคงเล่นงานอะไรมันไม่ได้ ใหญ่รุก “ปล่อยให้มันได้ใจไปก่อนเถอะ คนทำเลวลอยนวลไปได้ไม่นานหรอก”
ไกรกูณฑ์ท่าทีร้อนตัวสบตากับธราทำนองรู้สึกว่า ใหญ่พูดจามีเลศนัย...สองแม่ลูกหลบมาคุยกันในสวน ไกรกูณฑ์พลุ่งพล่านร้อนใจว่าใหญ่ต้องได้ยินที่ตนคุยกับกษิตแน่ ถึงพูดจาเหน็บแนม แต่ธราคิดว่า ปกติใหญ่รู้อะไรมาต้องถามตรงๆ ให้สังเกตท่าทีใหญ่ไปก่อนอย่าเพิ่งร้อนตัว
ooooooo
เย็นวันนั้น ใหญ่คุยโทรศัพท์กับสลิลที่ระเบียง เธอพยายามเตือนเขาอ้อมๆ ระวังคนในไร่จะเป็นพวกไกรกูณฑ์ ระหว่างนั้นละเวงลอบเข้ามาจึงแอบฟัง ได้ยินเขาพูดเรื่องสำคัญพอดี
“ฉันเคยให้โอกาสน้อยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดแถมยังทำให้เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ ทั้งเธอทั้งแก้วก็ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องในครอบครัวที่ยอมๆ กันได้อีกต่อไปแล้ว ยังไงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ละเวงตาเหลือก วิ่งโล่มาเล่าให้ไกรกูณฑ์กับธราฟัง ธราสติแตกกราดเกรี้ยวใส่ไกรกูณฑ์
“เพราะแกคนเดียว แกมันโง่ไม่ได้เรื่อง”
“แม่ก็ดีแต่โทษผม ไม่เคยโทษตัวเองซะมั่ง” ไกรกูณฑ์โมโหเหวี่ยงกลับ
ธราโกรธที่โดนลูกย้อน นึกได้หันมาเล่นงานละเวงเสนอหน้ามาทำไม ละเวงจ๋อย ไกรกูณฑ์หวาดกลัวคิดหนี ธราตบหน้าให้หยุดสติแตก แล้ววางแผนกำชับเขา
“แม่จะใส่ยาในอาหารที่อยู่ในชามแกงทั้งหมด น้อยอย่าเผลอกินเด็ดขาด เข้าใจไหม”
เมื่อใหญ่กินอาหารก็ผล็อยหลับเพราะฤทธิ์ยาอยู่ในห้อง...ธราให้ไกรกูณฑ์สวมชุดดำใส่หมวกคลุมหน้าเข้าไปฆ่าใหญ่ แต่เพราะเสียงโทรศัพท์ที่สลิล โทร.เข้ามาทำให้ใหญ่ตื่นเบี่ยงตัวหลบแล้วถีบคนร้ายหงายไปหัวโขกตู้อย่างแรง ก่อนมันจะวิ่งหนีไป...ธรารอรับหน้าให้ไกรกูณฑ์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอร้องว่ามีโจรขึ้นบ้าน ใหญ่วิ่งออกมาทั้งมึนๆหัว ตามคนร้ายไปทางที่ธราชี้ ไกรกูณฑ์กลับออกมาในชุดนอน พอธราเห็นหน้าผากลูกชายปูดบวมก็ตกใจ เกรงใหญ่จับได้คว้ากรอบรูปใกล้มือฟาดหน้าไกรกูณฑ์อย่างจัง ซ้ำแผลเดิมเลือดอาบ เขาร้องลั่น ธราตีบทแตกต่อเนื่องร้องเรียกใหญ่ให้ช่วย อ้างคนร้ายกลับมาจะทำร้ายตน
ไกรกูณฑ์จำต้องตามน้ำตำหนิใหญ่ปล่อยให้คนเกือบทำร้ายแม่ได้อย่างไร ใหญ่หน้าเสียรู้สึกผิดจะแจ้งความ ธรารีบห้าม อ้างไม่อยากให้เป็นข่าวจะทำให้เสียชื่อเสียงแล้วกระทบถึงการเซ็นสัญญาโปรเจกต์ยักษ์ ธราให้โทร.ตามภูผามาทำแผลไกรกูณฑ์
เวลาผ่านไป ใหญ่ให้คนงานสำรวจรอบบ้าน ไม่พบความผิดปกติใดๆ ภูผากับสลิลมาถึง ใหญ่หันมาขอบใจสลิล เพราะเสียงโทรศัพท์ของเธอช่วยชีวิตเขาไว้ สลิลยอมรับว่าสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก กลัวเขาจะต่อว่ารำคาญก็กลัว ใหญ่สบตาสัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเธอ สลิลรู้สึกขวยเขิน เปลี่ยนเรื่อง “เอ่อ...คุณใหญ่แน่ใจเหรอคะ ว่าเป็นขโมยขึ้นบ้านจริงๆ”
ใหญ่ยังมีอาการมึนยา เริ่มเซ สลิลประคอง ธรา แอบมองด้วยความเคียดแค้น หันไปกำชับไกรกูณฑ์ซึ่งนอนซม “นังลูกหว้ามันสาระแนมาหาใหญ่อีกแล้ว เดี๋ยวแม่ลงไปรับหมอภูก่อน อย่าทำอะไรเป็นพิรุธให้หมอภูสงสัยล่ะ”
สลิลประคองใหญ่เข้ามานั่ง ถามมีทรัพย์สินอะไรหายบ้าง ใหญ่โพล่งขึ้น “ประเด็นนี้ล่ะที่ฉันยังคาใจอยู่เหมือนจงใจมาฆ่าฉันมากกว่าขโมยของ แล้วก็มีอีกเรื่องที่ฉันติดใจอยู่...ทุกครั้งที่เกิดเรื่องกับฉัน ฉันจะต้องรู้สึกมึนหัวแปลกๆแบบนี้ทุกที”
“เป็นไปได้ไหมคะว่าคุณใหญ่จะโดนวางยา วันนี้คุณใหญ่ได้ทานอาหารที่บ้านรึเปล่าคะ”
ใหญ่ฉุกคิดเดินตรงไปยังครัว เปิดตู้กับข้าวหาอาหารที่เหลือแต่ไม่พบ เขาสงสัยเปิดถังขยะดู ทันใดธราเข้ามาถามเสียงเครียดทำอะไร สลิลรีบออกตัวว่าตนหิว ใหญ่จึงพาเข้ามาหาอะไรทาน ธราสวนหาในถังขยะหรือ ใหญ่แก้ตัวแค่เช็กดูว่าทิ้งแล้วหรือเปล่า
ธรามองอย่างจับพิรุธ ก่อนจะให้ใหญ่ช่วยยกกระติกน้ำร้อนไปให้ภูผา แล้วทำยิ้มแย้มคุยกับสลิลว่าเกรงใจที่เรียกเธอกับภูผามากลางดึก สลิลแอบเหน็บ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่มันน่าแปลกใจนะคะคุณป้า คนร้ายที่จ้องเล่นงานคุณใหญ่รอดไปได้ทุกครั้งเลย”
ธราสะอึก ปั้นยิ้มตอบ “นั่นสิ ป้าก็คิดเหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้ตาใหญ่ถึงได้มีแต่เรื่องร้ายๆ จะปีชงรึเปล่าก็ไม่รู้...รีบเอาน้ำร้อนขึ้นไปให้หมอภูเถอะลูก”
เผอิญสลิลเหลือบเห็นสายตาธราในกระจก เป็นแววตาเกลียดชังโกรธแค้นอย่างมาก สลิลเผลอหันไปมอง ธราเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที สลิลชักมั่นใจในความคิดที่ตนสงสัยธรา
คืนนั้น คนงานรายงานใหญ่ว่า ประตูหน้าต่างทุกบานไม่มีรอยงัดแงะ ทำให้ใหญ่ชักสงสัยมองกรอบรูปที่แตกไปรูปหนึ่ง...ธราแอบมองอย่างกังวลใจระคนเคียดแค้น...ด้านสลิลเองก็อึดอัดใจไม่กล้าบอกภูผาว่าตนสงสัยธรา
ooooooo
เช้าวันใหม่ ใหญ่จะออกไปบ้านไร่สายน้ำ ธราขอไปด้วย ทำทีคุยกับผูภาถึงความสนิทสนมของใหญ่กับสลิล ภูผาจึงเล่าเรื่องที่สลิลโดนน้องสาวต่างมารดาแย่งแฟนไปให้ฟัง ธราทำเป็นสงสารแต่ในใจเก็บข้อมูลไว้ใช้ประโยชน์ภายหลัง
ใหญ่กับสลิลออกมาขี่ม้าเล่นด้วยกัน ใหญ่ระบายความอัดอั้นเรื่องเมื่อคืน อยากให้เป็นขโมยจริงๆที่ขึ้นบ้าน เพราะไม่อยากให้เป็นคนใกล้ตัว สลิลมองอย่างเห็นใจใหญ่นึกได้ถาม
“เออ เธอเล่าว่าเข็มเจอเมียคนตายที่รีสอร์ตไปหาลูกน้องกษิตที่โรงแรมก่อนตายใช่ไหม”
สลิลพยักหน้างงๆ ใหญ่คาดการณ์ว่ากล้องวงจรปิดของโรงแรมต้องบันทึกภาพเธอไว้ อาจจะสาวถึงตัวบงการได้ สลินเกรงจะถูกลบทิ้งไปเสียก่อน ใหญ่คิดว่ากษิตอาจจะคิดไม่ถึง
“แล้วเราจะดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ยังไงล่ะคะ”
“ฉันมีแผนการ นาทีนี้ยังไงก็ต้องเสี่ยง” ใหญ่ควบม้าออกไป สลิลควบตามทั้งยังงงๆอยู่...
ธราแอบโทรศัพท์หาอุศเรนเพื่อให้ตามดูใหญ่กับสลิล ว่าเข้าเมืองไปทำอะไร อุศเรนย้อนถามตนจะเจอสองคนนั้นที่ไหน ธราตอกกลับ มันขึ้นอยู่กับความฉลาดของเขา เมืองเล็กๆแค่นี้มีสักกี่แห่งที่สองคนนั้นจะไป
อุศเรนเซ็งที่โดนด่า...พอวางสาย ธราหันมาเจอภูผาก็สะดุ้งสุดตัว ไม่รู้ว่าเขาได้ยินที่เธอคุยโทรศัพท์หรือเปล่า ท่าทีภูผายิ้มแย้มชวนไปทานอาหาร
ด้านใหญ่พาสลิลมาที่โรงแรม โดยไม่บอกว่าแผนการของเขาเป็นอย่างไร พอมาด้านหน้าห้อง รปภ. ไม่มีใครสนใจหน้าจอกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ใหญ่กดสวิตช์สัญญาณเตือนภัยดังลั่น รปภ.หน้าตื่นวิ่งกรูออกจากห้อง รวมถึงบ่อนการพนันของกษิตก็โกลาหล นักพนันพากันวิ่งหนี... ใหญ่กับสลิลช่วยกันรื้อค้นหาแผ่นซีดีที่บันทึกข้อมูลในห้อง รปภ.
อุศเรนยืนมองหน้าโรงแรมกับพวกไทยมุง เห็นใหญ่จูงมือสลิลวิ่งถือกล่องติดมือออกมาก็เข้าใจว่า สองคนแอบมาหาความสุขกัน แต่เกิดไฟไหม้โรงแรมขัดจังหวะเสียก่อน อุศเรนโทร.รายงานธรา เธอหัวเราะสะใจ พลัน เห็นไกรกูณฑ์ออกจากบ้านถามไปไหนก็ไม่ตอบ เธอหน่ายใจเดินขึ้นห้อง ตั้งใจหายานวดไหล่กลับพบหมวกคลุมหน้าของไกรกูณฑ์ จึงโกรธที่เขาสะเพร่า
ไกรกูณฑ์ไม่ทันขึ้นรถเพราะละเวงเข้ามาต่อว่าที่เขาไปติดพันนวลขวัญ ธราเดินมาได้ยินไกรกูณฑ์ยอมรับว่าหลงรักนวลขวัญจริง เธอโกรธมาก โยนหมวกคลุมหน้าใส่พร้อมโวย
“มัวแต่เอาสมองไปคิดเรื่องไร้สาระ ทำไมไม่ทำลายหลักฐานให้เรียบร้อย ไอ้ใหญ่มันยิ่งสงสัยน้อยอยู่ อยากติดคุกนักใช่ไหม...เมื่อวานมันก็ไปหาอาหารเย็นที่เหลือ มันเริ่มรู้ตัวว่ามันโดนวางยา ดีนะที่แม่รอบคอบ สั่งแม่บ้านเททิ้งไปหมดแล้ว...”
ละเวงฟังเรื่องที่สองแม่ลูกก่อกันขึ้นมาอย่างเก็บข้อมูล ธรายังโวยวายใส่ไกรกูณฑ์ว่าไม่ได้เรื่องแบบนี้ถึงเอาชนะใหญ่ไม่ได้สักที เขาเจ็บปวดน้อยใจประชดว่าตนทำอะไรไม่เคยถูกในสายตาแม่ ว่าแล้วก็เดินฉับๆออกจากบ้าน ละเวงจะตาม ธราตวาดไม่ต้องตาม หันมาเล่นงานละเวงเลิกหวังลมๆแล้งๆว่าลูกตนจะเอาเธอเป็นเมีย แค่นางบำเรอก็ถือว่าบุญโข ละเวงเจ็บแค้น
ด้านไกรกูณฑ์ ขึ้นรถมาเขวี้ยงหมวกคลุมหน้าไปเบาะหลังด้วยความน้อยใจเจ็บปวด ก่อนจะซิ่งรถออกไป
ooooooo
ใหญ่กับสลิลช่วยกันมองภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด จนเจอหญิงสาวปริศนาคุยกับลูกน้องกษิตจริง ใหญ่เผลอยื่นหน้ามาเพ่งมอง สลิลไม่ทันเห็นหันหน้ามา จมูกเธอชนแก้มเขาอย่างไม่ตั้งใจ ใหญ่หันมองปากเขาเฉี่ยวปากเธอ ทั้งสองชะงักผละออกจากกันเก้อเขิน
ใหญ่แก้เก้อบอกสลิลช่วยส่งคลิปนี้ให้ตนด้วย สลิลรับคำวางหน้าไม่ถูกอายๆ...หลังจากนั้น ใหญ่พยายามค้นหาหลักฐานในห้องไกรกูณฑ์ และมาหาที่รถจนเจอหมวกคลุมหน้าที่โยนทิ้งไว้ ใหญ่ตกใจมากแม้จะคิดไว้บ้าง ธรากับไกรกูณฑ์เดินมาเห็นใหญ่หน้าเครียดเดินมาจากรถก็แปลกใจ ไกรกูณฑ์นึกได้หน้าซีดรีบเดินไปหาใหญ่ พอใหญ่เห็นไกรกูณฑ์ก็ปาหมวกใส่หน้าเขา
“แกคือคนที่คิดจะฆ่าฉันคืนนั้นใช่ไหม โจรขึ้นบ้านคืนนั้นก็คือแก”
ไกรกูณฑ์เถียงหน้าตาย แค่หมวกใบเดียวอย่ามาปรักปรำกัน ว่าแล้วก็ทำหงุดหงิดเดินหนี ธรารีบช่วยแก้ตัวให้ว่า หมวกแบบนี้ใครก็มีได้ ใหญ่ยังไม่คิดว่าธราร่วมด้วย เขาบ่นเสียใจผิดหวังที่น้องคิดฆ่าตนทั้งที่ตนได้ยินกษิตกับไกรกูณฑ์คุยกันกับหูมาแล้ว ธราไม่รู้จะแก้ตัวให้อย่างไรจึงบีบน้ำตาเสียใจไม่เชื่อว่าลูกที่เลี้ยงมากับมือจะคิดฆ่ากันเอง ใหญ่หนักใจเมื่อเห็นธราร้องไห้
จากนั้น ธราก็มาเล่นงานไกรกูณฑ์ที่สะเพร่า ไม่ฟังเหตุผลอะไรของเขาอีก และสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับนวลขวัญอีก แต่ท่าทางเขาจะดื้อแพ่งเรื่องนี้...ธรายอมให้แผนการที่ทำมาหลายปีพังทลายไม่ได้ จึงมาหานวลขวัญที่ไร่ขวัญแก้ว ทำทีมาเยี่ยมเยียน พอมีโอกาสก็เหน็บแนมอย่าคิดจับลูกชายตน ทแกล้วทนไม่ได้ตอกกลับอย่างเจ็บแสบ สร้างความโกรธแค้นให้ธรามากขึ้น
ด้านสลิล พยายามจะเตือนใหญ่ให้ระวังธรา แต่ไม่กล้าพูดตรงๆจึงพูดอ้อมๆ “ถ้าหว้าพูดอะไรแล้วคุณใหญ่ต้องสัญญานะคะว่าจะไม่โกรธ” ใหญ่พยักหน้า “คุณใหญ่ ทำใจเย็นๆค่อยๆคิดตามหว้านะคะ ทุกครั้งที่มีเรื่อง คุณป้าจะต้องออกโรงปกป้องคุณน้อยตลอดเวลา ขนาดคุณใหญ่มีหลักฐานมัดตัวคุณน้อย คุณป้าก็ยังเป็นพยานให้คุณน้อยอยู่ดี แม้แต่เรื่องโจรคืนนั้น...”
ใหญ่ฟังแล้วแก้ตัวแทนว่าธรากับไกรกูณฑ์เป็นแม่ลูกกันแท้ๆ แต่ตนไม่ใช่ สลิลจะโยงให้เห็นว่าธราน่าสงสัย แต่ใหญ่ไม่อยากเชื่อเพราะธราเลี้ยงตนมาอย่างดี สลิลถอนใจนึกอยู่แล้ว...
บ่ายวันนั้น ใหญ่กับสลิลออกไปที่ตลาดเอารูปผู้หญิงที่ปรักปรำภูผาว่าฆ่าสามี มาเดินถามคนในตลาดจนได้ความว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกหนี้กษิต ใหญ่ขอร้องสลิลอย่าเพิ่งเอาหลักฐานนี้ให้ตำรวจ ตนอยากใช้มันล่อไกรกูณฑ์ให้จนมุมก่อน...ใหญ่เริ่มด้วยการโทร.ไปขู่กษิตว่าตนมีหลักฐานที่เขาจัดฉากฆาตกรรมที่รีสอร์ตบ้านไร่สายน้ำ ถ้าไม่อยากติดคุก แค่มาเป็นพยานว่าไกรกูณฑ์วางแผนฆ่าตนเท่านั้น กษิตอึ้งเถียงไม่ออก
จากนั้นใหญ่ก็มาเปรยกับไกรกูณฑ์ “พี่แวะไปบอกนายกษิตมาว่าพี่มีหลักฐานที่จะแจ้งจับนายกษิตข้อหาจ้างวานฆ่าอยู่ในมือ...น้อยคงรู้ดีว่านายกษิตก่อเรื่องอะไรไว้ที่รีสอร์ตหมอภู พี่จะยอมแลกหลักฐานทั้งหมดที่มีกับการเป็นพยานว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมพี่ เรื่องโจรขึ้นบ้าน ทั้งพี่และน้อยรู้ดีว่าใครคือโจรคนนั้นจะขาดก็แค่พยานบุคคลเท่านั้นเอง”
ไกรกูณฑ์หน้าซีดแต่วางฟอร์มทำรำคาญเดินหนี...เย็นวันนั้น ไกรกูณฑ์มาต่อว่ากษิตที่คิดหักหลัง กษิตโต้ว่า “ระหว่างต้องติดคุกเอง...โดนเจ้านายสั่งเก็บหรือยอมเป็นพยานเรื่องน้องชายใจโหดวางแผนฆาตกรรมพี่ชายฮุบไร่ คุณว่าผมควรจะเลือกข้อไหนดีล่ะ”
ไกรกูณฑ์เครียดรู้ว่าเสียเปรียบ กษิตต่อรอง ถ้าไม่อยากซวยก็จงหาทางทำลายหลักฐานที่ใหญ่มีให้หมด...เย็นวันเดียวกัน ใหญ่รู้ว่าแผนการตนได้ผล โทร.รายงานสลิล เธอเป็นห่วงเขามาก ใหญ่ซาบซึ้งจนอดเผยความรู้สึกไม่ได้
“แปลกนะ ตอนนี้กลับมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ฉันรู้สึกไว้ใจได้มากที่สุด แต่เธอไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันระวังตัวมากเป็นพิเศษ...มีปัญหาอะไรฉันจะนึกถึงเธอเป็นคนแรก”
สลิลถอนใจอย่างหนักหน่วง แต่ก็สุขใจกับความรู้สึกที่ใหญ่มีให้...ด้านธราพอรู้เรื่องราวจากไกรกูณฑ์ก็โทษเป็นเพราะเขาที่ชอบทำอะไรนอกแผนจนพังกันไปหมด ด้วยความใจร้อนเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะของเขา ให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ไกรกูณฑ์มองแม่อย่างหวั่นใจ
ooooooo
เย็นวันนั้นใหญ่ทำทีออกไปข้างนอก ธราให้ไกรกูณฑ์ดูต้นทางเพราะอดไม่ได้ที่จะต้องช่วยลูก ธราเข้ามาค้นหาหลักฐานในห้องใหญ่ ไม่คาดคิดใหญ่ปีนกลับเข้ามาล็อกตัวเธอไว้ แล้วต้องตกใจเมื่อพบว่าเป็นธรา เธอแก้ตัวว่ามาหาเสื้อที่หายไป คิดว่าติดมากับเสื้อของเขา
ใหญ่มองอาการพิรุธของธรา ไกรกูณฑ์ตกใจเมื่อเห็นใหญ่ ธราทำทีทักยังไม่ออกไปเที่ยวอีกหรือ ไกรกูณฑ์รับมุกทำหงุดหงิดว่าอุตส่าห์กลับมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ ถ้ารู้ว่าใหญ่อยู่ก็จะไม่กลับ
หลังจากนั้น ธรามาต่อว่าไกรกูณฑ์ดูต้นทางอย่างไร ไกรกูณฑ์โต้ ใครจะคิดว่าใหญ่จะแอบปีนขึ้นห้องตัวเอง ธราเอะใจใหญ่คงสงสัย โชคดีที่ตนเป็นคนเข้าไปค้นห้องเอง
วันรุ่งขึ้น ใหญ่มาหาสลิลเพื่อยอมรับกับเธอ “ตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ฉันควรจะไว้ใจความรู้สึกของฉัน หรือว่าควรจะเชื่อความเป็นจริงที่ฉันเจอมากกว่ากัน”
“หว้าไม่ขอออกความเห็นแล้วกัน”
ใหญ่เหลือบมองถามกลัวตนโกรธหรือ สลิลย้อนเรียกว่าเข็ดมากกว่า ใหญ่ถอนใจบอกเธอว่า ตนเอาหลักฐานไปให้ตำรวจจัดการต่อแล้ว ตนเหนื่อยใจมากเหลือเกิน สลิลเห็นใจอยากกอดปลอบแต่ไม่กล้า ได้แต่ลูบแขนเขาเบาๆ ใหญ่ดึงเธอเข้ามากอดหาที่พักพิงใจ
“ไม่มีเธอตอนนี้ฉันคงแย่กว่านี้”...สลิลสวมกอดเขาแนบแน่น
เมื่อถึงทางตัน กษิตขอความช่วยเหลือจากท่าน แต่ลูกน้องท่านบอกว่า เขาพลาดเองที่ทิ้งหลักฐานไว้จนตำรวจออกหมายจับ ถ้าอยากให้ช่วยต้องจัดการให้นวล–
ขวัญเซ็นขายไร่ให้ได้ก่อน
ระหว่างนั้น ไกรกูณฑ์แอบช่วยเหลือนวลขวัญ หาลูกค้ามาซื้อใบชาไร่เธอ แต่แล้วหลังจากที่เธอไปพบลูกค้า ก็ถูกกษิตดักข่มขู่บังคับให้เซ็นขายไร่ ไกรกูณฑ์เข้าช่วย ต่อสู้กับกษิตจนสะบักสะบอม โชคดีมีคนมา
กษิตจึงรีบหนีไป นวลขวัญพาไกรกูณฑ์มาส่งที่ไร่วายุกูล ธราแสดงอาการไม่พอใจ ไกรกูณฑ์ออกตัวว่าตนเต็มใจช่วยนวลขวัญเอง ธราหมั่นไส้สะบัดเสียง
“มันไม่เล่นงานเราจนตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว ใหญ่โทร.มาบอกแม่ว่า ตอนนี้กษิตโดนหมายจับเรื่องบงการฆ่าคนตายที่รีสอร์ตหมอภู นี่คงหนีหัวซุกหัวซุนเป็นหมาจนตรอก”
นวลขวัญสบตากับไกรกูณฑ์ ธราเห็นรีบไล่ลูกชายขึ้นไปพักผ่อน นวลขวัญรู้ว่าถูกไล่กรายๆจึงลากลับ...
หลังจากนั้น ธราก็เล่นงานไกรกูณฑ์ยกใหญ่ที่ยังไปวุ่นวายกับนวลขวัญอีก
“แม่ขอสั่งแกไว้เลยนะน้อย ห้ามคบกับนังผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด”
“แม่เคยยอมให้ผมคบกับใครมั่งล่ะครับ”
“ใช่ เพราะแม่หวงแกมากไงน้อย ผู้หญิงที่แกเจอมาก็หวังเงินจากแกทั้งนั้นล่ะ ผู้หญิงหน้าไหนก็มาพรากน้อยไปจากแม่ไม่ได้ทั้งนั้น” ธราเผลอหลุดความในใจออกไป พอนึกได้ก็กลบเกลื่อน “แม่หมายความว่า ตอนนี้แม่อยากให้น้อยตั้งเป้าเรื่องงานก่อน เรื่องผู้หญิงค่อยคิดทีหลัง”
ไกรกูณฑ์แดกดันว่าเรื่องงานหรือเรื่องฆาตกรรมใหญ่กันแน่ ธราเสียงกร้าวว่ามันเรื่องเดียวกัน ถ้าใหญ่ยังอยู่ขวางทาง เขาก็เป็นเจ้าของกิจการทั้งหมดไม่ได้ ไกรกูณฑ์เริ่มเบื่อหน่ายที่จะช่วงชิงอะไรอีกแล้ว แต่ธราไม่ยอม เขาไม่อาจขัดใจแม่ได้
ตกดึก ธราเรียกละเวงมาพบเพราะใหญ่ไม่อยู่ ไปช่วยสลิลที่รีสอร์ต ธราแกล้งพูดว่าถ้าให้เลือกลูกสะใภ้ ตนขอเลือกละเวงยังดีกว่านวลขวัญ ละเวงหัวใจพองโต ดีใจโดยไม่รู้ว่าถูกธราป้อไว้ใช้งาน...คืนนั้น ละเวงเข้ามาหาไกรกูณฑ์ด้วยสีหน้าเบิกบาน แต่กลับถูกเขาด่าทอทำร้ายจิตใจด้วยการประกาศว่าเขารักนวลขวัญ ละเวงเสียใจมากมาระบายความเจ็บช้ำกับน้องชาย อุศเรนยุให้พี่สาวเลิกลุ่มหลงไกรกูณฑ์เสียที คนอย่างนั้นทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ละเวงเคืองเปลี่ยนเรื่องมาถาม ทำไมกษิตต้องหนีหัวซุกหัวซุน
“เท่าที่ผมรู้นะ มันโดนทั้งตำรวจตามจับ แถมยังโดนนายมันสั่งเก็บอีกต่างหาก” พลันกษิตโทร.เข้ามา ละเวงให้รับสาย อยากรู้ว่าโทร.มาทำไม อุศเรนจึงกดรับ...
ooooooo
รุ่งขึ้น นวลขวัญขับรถมาหาลูกค้า สลิลโทร.เข้ามาคุยด้วยพอดี นวลขวัญจึงถามทางว่ารีสอร์ตต้นสาย-ปลายผาอยู่ที่ไหน ไม่ทันที่สลิลจะตอบ มีรถเก๋งติดฟิล์มดำมืดพุ่งเข้าเบียดรถนวลขวัญ เธอร้องลั่น สลิลตกใจร้องถามเกิดอะไรขึ้น ได้ยินแต่เสียงนวลขวัญร้องให้กษิตปล่อย...
ผ่านไปสักพัก ตำรวจพบรถนวลขวัญจอดอยู่บนทางขึ้นเขา ในรถไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ทแกล้วกับสลิลร้อนใจ...ใหญ่คาดคั้นถามไกรกูณฑ์ว่ารู้เรื่องนี้ไหม
“ผมไม่รู้เรื่อง ผมจะทำร้ายคนที่ผมรักทำไม คุณใหญ่ไม่น่าคิดอะไรโง่ๆ”
“ก็เรื่องโง่ๆแบบนี้จะมีใครทำได้ถ้าไม่ใช่แก”
ไกรกูณฑ์โกรธผลักไหล่ใหญ่ ใหญ่ผลักกลับ ธราปรี่เข้าห้ามปราม ไกรกูณฑ์โวยวายว่าใหญ่ปรักปรำว่าตนเกี่ยวข้องกับเรื่องนวลขวัญหายตัวไป ใหญ่มองน้องชายอย่างจับพิรุธ...จากนั้นใหญ่ก็หลบมาโทร.หาสลิล
“ฉันเอง...ฉันมั่นใจว่าน้อยไม่รู้เรื่องนี้ นี่กำลังจะออกไปช่วยตำรวจตามหาอีกแรง ตอนนี้เธอกับทแกล้วอยู่ที่ไหน” ใหญ่เดินตรงไปขึ้นรถ
ไกรกูณฑ์เองก็คว้ากุญแจจะออกจากบ้าน ธราห้ามแต่เขาไม่ฟังเสียง ผลุนผลันจะออกไปช่วยนวลขวัญ ธราเจ็บใจที่ลูกชายไม่ได้ดั่งใจ...ไกรกูณฑ์พยายามคิดว่า กษิตจะเอาตัวนวลขวัญไปที่ไหน แล้วเขาก็นึกได้ หักรถเลี้ยวไปทางสุสานรถ
นวลขวัญถูกจับมัดมือมัดเท้า กษิตยิ้มเหี้ยมยื่นหน้าเข้ามา เธอถ่มน้ำลายใส่ กษิตโกรธตบหน้าเธอ สำรอกใส่ “เธอนี่มันดื้อด้านจริงๆ แค่เซ็นๆเอกสารให้ฉัน เรื่องก็จบแล้ว”
“ต่อให้ฉันเซ็นชื่อให้ แกก็เอาไปทำอะไรไม่ได้หรอก”
“เธอรู้จักเจ้านายฉันน้อยเกินไป ถ้าไม่อยากให้น้องชายเธอถูกอุ้มหายสาบสูญไปก็ยอมเซ็นซะดีๆ ความอดทนของฉันใกล้จะหมดแล้ว” กษิตบีบปากนวลขวัญ
เธอโถมตัวเอาหัวกระแทกปากกษิตแตก เขาโกรธมากตบเธอล้มคว่ำหัวกระแทกท่อนเหล็กสลบไป ไกรกูณฑ์โผล่มาเห็นเหตุการณ์ คว้าไม้ฟาดใส่กษิต สองคนต่อสู้ยื้อแย่งท่อนไม้กัน ไกรกูณฑ์พุ่งตัวดันกษิตอย่างแรง กษิตถอยไปชนแท่งเหล็กเสียบตัว เลือดทะลักออกปาก ไกรกูณฑ์ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เดินไปหานวลขวัญ เห็นเธอสลบหัวแตกก็เขย่าตัวเธอ นวลขวัญปรือตาขึ้นเห็นหน้าเขาลางๆก็สลบไปอีก ทันใด มีเสียงไซเรนตำรวจดังมา ไกรกูณฑ์วางร่างนวลขวัญลงแล้วรีบหนีไป อุศเรนโผล่มาหน้าตาตื่นกับเหตุการณ์ที่เขาเห็น ลุกลี้ลุกลนหนีไปอีกคน
ooooooo
นวลขวัญรู้สึกตัวในโรงพยาบาล ตำรวจกำลังสอบปากคำว่าพอจะเห็นไหมว่าใครฆ่ากษิต นวลขวัญนึกถึงภาพลางๆที่เห็นหน้าไกรกูณฑ์แต่ไม่พูดออกไป กลับบอกว่าตนสลบไปก่อน
หลังจากนั้น ตำรวจก็สรุปคดี ว่าภูผาพ้นผิด หลักฐานชี้ชัดว่าเป็นฝีมือกษิต ใหญ่ถามตำรวจว่า รู้ได้อย่างไรว่านวลขวัญถูกจับไปที่นั่น ตำรวจตอบว่า มีผู้หวังดีโทร.มาบอก
“โชคดีจริงๆนะคะ ที่มีคนเห็นแล้วโทร.ไปแจ้งความ ไม่งั้นพี่ขวัญคงแย่แน่”
ใหญ่ครุ่นคิด บอกสลิลตอนเดินออกจากโรงพัก “บางทีคนที่โทร.ไปแจ้ง อาจจะเป็นคนใกล้ตัวเราก็ได้”
“คุณใหญ่หมายถึงคุณน้อยเหรอคะ”
“คนที่รู้จักกษิตดีและรู้ว่ากษิตมีธุรกิจอะไร มีแหล่งกบดานที่ไหนบ้าง ก็มีแต่น้อย”
“คุณน้อยคงไม่ใช่คนลงมือฆ่านายกษิตหรอกนะคะ” สลิลตกใจ
“ฉันก็ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย” ใหญ่หน้าเครียดกังวลใจสุดๆ...
ไกรกูณฑ์เข้าบ้านมาด้วยสภาพเนื้อตัวมอมแมม ท่าทางลุกลี้ลุกลน ธราแปลกใจถามอะไรเขาก็ไม่ตอบ เดินหนีขึ้นห้องไป ธราเข้าใจว่าลูกยังโกรธที่เธอให้เลิกยุ่งกับนวลขวัญ...ไกรกูณฑ์ล้างคราบเลือดที่มือ ถอดเสื้อผ้าโยนลงตะกร้า น้ำตาไหลรินด้วยความหวาดกลัว มองตัวเองในกระจก ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเป็นฆาตกร ภาพกษิตตายยังวนเวียนอยู่ในหัว ไกรกูณฑ์สติแตกชกกระจกเปรี้ยง เลือดอาบมือ เขาเหมือนคนบ้า คลุ้มคลั่งอยู่ในห้องน้ำ
ใหญ่โทร.เข้ามาถามธราว่าไกรกูณฑ์ออกไปไหนหรือเปล่า เธอหน้าเครียดแต่ทำเสียงอ่อนโยนว่าน้องนอนอยู่บนห้องตลอดทั้งวัน ใหญ่จึงบอกเธอว่า กษิตถูกฆ่าตาย ธราตกใจนึกถึงท่าทีลูกชายตอนกลับเข้าบ้าน...ธราเอากุญแจไขเข้าไปในห้องไกรกูณฑ์ เห็นเขานั่งหมกตัวอยู่มุมห้อง ท่าทางหวาดผวา เธอเดาได้ทันทีถามเสียงสั่น “ฝีมือน้อยใช่ไหม น้อยฆ่าไอ้กษิตใช่ไหม”
“ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ทำ มันล้มไปเอง”
ไกรกูณฑ์พูดวกไปวนมาเหมือนคนสติแตก
ธราโมโหน้ำตาไหลพรากเขย่าตัวลูกถาม “แกฆ่าคนเพื่อช่วยนังผู้หญิงนั่น ทำไมแกถึงได้โง่แบบนี้นะ อยู่ดีๆหาเรื่องใส่ตัวทำไมน้อย”
ไกรกูณฑ์ร้องไห้ขอให้ธราช่วย ตนไม่ได้ตั้งใจ ธราโกรธทุบตี ที่เขาไม่เชื่อฟังจนเป็นเรื่อง ไกรกูณฑ์คลั่งระเบิดอารมณ์ออกมา “โธ่เว้ย ก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แม่จะด่าผมไปถึงไหน”...
เวลาผ่านไปเล็กน้อย ธราเอาเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของไกรกูณฑ์ไปเผาทำลายหลักฐาน...ด้านละเวงรอฟังข่าวจากอุศเรนว่ากำจัดนวลขวัญพ้นทางหรือยัง แต่ต้องมาตกใจเมื่อรู้ว่ากษิตตายแล้ว
“ไอ้กษิตมันตายได้ยังไง หรือว่าเป็นฝีมือนังนั่น”
อุศเรนอึกอักบอกไปว่าตนมีหน้าที่ดูต้นทางอย่างเดียว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ทางรีสอร์ตบ้านไร่สายน้ำมีลูกค้าเข้ามาพักสี่คน สลิลออกอาการดีใจขอภูผาจัดงานเลี้ยงถือเป็นการเรียกขวัญพนักงาน ภูผายินดีและให้ชวนนวลขวัญกับทแกล้วด้วย ตนจะชวนธรากับครอบครัว
เมื่อกษิตตาย วีระก็กลับมาขอสั่งซื้อใบชาจากไร่ขวัญแก้วอีกครั้ง ทแกล้วแสดงท่าทีไม่พอใจ แต่นวลขวัญถือว่าวีระถูกบีบบังคับไม่ได้ตั้งใจ...ไกรกูณฑ์ยังหมกตัวอยู่ในห้อง สภาพจิตใจย่ำแย่ ธราเข้ามาทั้งปลอบทั้งสั่ง ให้เขาลุกขึ้นทำตัวปกติ ก่อนที่ใหญ่จะสงสัย
“ผมทำไม่ได้” ไกรกูณฑ์ส่ายหน้า
“ทำไมจะทำไม่ได้ แกอ่อนแอตั้งแต่รักอีผู้หญิงคนนั้น ความรักกำลังทำให้แกโง่เหมือนพ่อแกอีกคน...แกต้องทำให้ได้ เข้าใจไหมน้อย แกต้องออกไปเผชิญหน้ากับไอ้ใหญ่ มันถามถึงแกตลอดเวลา จนแม่ไม่รู้จะแก้ตัวให้แกยังไงแล้ว ทำตัวแบบนี้เดี๋ยวมันจะยิ่งสงสัยเข้าใจไหม”
ไกรกูณฑ์มองแม่น้ำตาไหลรินก่อนจะล้มตัวลงนอนหมดอาลัยตายอยาก ธรายืนกอดอกมองลูกชายอย่างหงุดหงิด ที่เขาอ่อนแอไม่ได้ดั่งใจ
ooooooo










