ตอนที่ 8
ธราถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินสลิลบอกตำรวจว่า ใหญ่มีเรื่องทะเลาะกับไกรกูณฑ์และละเวง ภูผามองอย่างตำหนิหลานสาวทำนองพูดมากเกินไป ธราแก้ต่างให้ว่า คนในครอบครัวก็ต้องมีเรื่องขัดใจกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ไม่ถึงกับฆ่าแกงกันหรอก
“ถ้ายังงั้นผมคงต้องเชิญคุณไกรกูณฑ์กับคุณละเวงไปสอบปากคำที่โรงพักด้วยนะครับ”
ธราจำใจรับคำ ตำรวจหันมาเชิญสลิลไปสอบปากคำเพิ่มเติม ธรามองตามอย่างกังวลปนโกรธที่สลิลแส่ไม่เข้าเรื่อง
เวลาผ่านไป ใหญ่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ธราท่าทางกระวนกระวายชะเง้อมองทำไมสลิลยังไม่กลับเข้ามา พอเห็นสายตาสงสัยของภูผา ก็แก้ตัวว่าเป็นห่วงสลิล ยังเด็กอยู่ต้องมากถูกสอบปากคำ ภูผายิ้มปลอบใจว่าสลิลแม้จะดูเด็กแต่แกร่งและมีสติดีมาก สบายใจได้ พลันสลิลกลับเข้ามา ธรารีบถามว่าบอกอะไรตำรวจไปบ้าง ทั้งสลิลและภูผาแปลกใจที่ธราดูร้อนรน
“หว้าไม่ได้บอกอะไรมากหรอกค่ะ เพราะหว้าก็ไม่ได้รู้อะไรมากสักเท่าไหร่”
“แล้วที่ไม่มากน่ะ หนูหว้าบอกอะไรตำรวจไปบ้างล่ะจ๊ะ” ธราเผลอหลุดเสียงแข็งออกมา
“หว้าบอกแค่ว่าคุณน้อยกับคุณใหญ่มีเรื่องทะเลาะกัน แต่ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ตำรวจเขาเลยบอกว่าจะรอสอบปากคำคุณใหญ่กับคุณน้อยเองค่ะ” สลิลโกหกเพื่อให้ธราสบายใจ
ธรารู้สึกตัวรีบเปลี่ยนท่าทีเหมือนจะเป็นลม ภูผาประคองบอกสลิลว่าจะพาธรากลับบ้านพักก่อน ให้สลิลอยู่ดูแลใหญ่ สลิลรีบรับรองกับธราว่าตนจะดูแลเขาอย่างดี ไม่ต้องห่วง
กลับมาถึงไร่วายุกูล ภูผาประคองธรานั่งที่โซฟา เธอเคร่งเครียดรำพันพยายามโยนเรื่องใหญ่ให้เป็นอุบัติเหตุ ไม่ทันไร ไกรกูณฑ์กลับมาเห็นธราใกล้ชิดอยู่กับภูผาก็แปลกใจ ธราหันมาบอกว่าใหญ่ขับรถตกเขา ไกรกูณฑ์ทำเป็นตกใจถามตายไหม ภูผาสะดุดหูกับคำพูดของเขา พอธราบอกว่าใหญ่เจ็บหนักอยู่โรงพยาบาล ภูผาเหลือบมองสีหน้าไกรกูณฑ์ดูผิดหวัง ธราเกรงเขาจะจับได้ จึงรีบบอกให้เขากลับรีสอร์ต อย่ามาเสียเวลากับตนทั้งวัน ตอนนี้ตนมีลูกอยู่เป็นเพื่อน
พอภูผากลับไป ไกรกูณฑ์ก็ออกอาการหัวเสียทันที “ทำไมไอ้ใหญ่มันยังไม่ตาย ผมเห็นรถมันตกเขากับตา มันจะรอดไปได้ยังไง”
“เห็นกับตาหมายความว่ายังไง อย่าบอกแม่นะว่าน้อยเป็นคนลงมือขับรถชนไอ้ใหญ่ตกเขาเอง...แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ไอ้เรนมันทำ ทำไมน้อยไม่เชื่อแม่” ธราทุบตีลูกด้วยความโมโห
“ผมเจ็บนะแม่...” ไกรกูณฑ์ถอยหนี ธราหน้าเครียด เพราะความดื้อของเขากำลังจะทำให้เดือดร้อน ถ้าตำรวจตามกลิ่นได้ ไกรกูณฑ์ชะงักกระแทกตัวนั่งด้วยความเซ็ง
ด้านใหญ่ ฟื้นขึ้นมามองไปรอบๆห้องเห็นสลิลเดินออกมาจากห้องน้ำเข้ามาประคอง เขาก็ดีใจ จับมือเธอแน่นถามไถ่เธอปลอดภัยดีใช่ไหม คนร้ายทำอะไรเธอหรือเปล่า สลิลทำหน้างง
“มีคนโทร.มาขู่ฉันว่าจับตัวเธอขึ้นไปบนเขา ให้รีบตามขึ้นไปช่วย ไม่งั้นมันจะฆ่าเธอ”
สลิลส่ายหน้าไม่มีอะไร ใหญ่จึงรู้ว่าโดนหลอกเอาเธอเป็นตัวล่อให้ตนขึ้นไปบนเขา สลิลมองมือที่ถูกจับอายๆ ใหญ่รู้สึกตัวปล่อยมือเธออย่างเก้อเขินเช่นกัน เธอแอบยิ้มปลื้ม
“ตกลงคุณใหญ่เป็นห่วงหว้า เลยรีบขับรถขึ้นไปช่วยจนเกิดอุบัติเหตุเหรอคะ”
“ใช่...ฉันเป็นห่วงเธอ แต่ที่รถฉันตกเขา มันไม่ใช่อุบัติเหตุ”
“มีคนพยายามฆ่าคุณใหญ่อีกแล้วเหรอคะ” สลิลตกใจ
“มันใช้เธอเป็นตัวล่อฉัน...ต่อไปนี้เธอต้องระวังตัวให้มากขึ้น ครั้งนี้มันแค่ขู่ลอยๆแต่ครั้งหน้ามันอาจจะไม่ใช่แค่ขู่ก็ได้...แต่เธอไม่ต้องตกใจกลัวนะ เธอต้องเดือดร้อนเพราะฉันเป็นต้นเหตุ ฉันจะรับผิดชอบความปลอดภัยของเธอด้วยชีวิต” ใหญ่สบตาสลิลยืนยันคำพูดจากใจ
สลิลรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกกับคำสัญญานี้ ใหญ่รู้สึกตัวชะงัก ปิดกั้นความรู้สึกตัวเอง หุบยิ้มเบือนหน้าหนี สลิลยิ้มค้างงงกับท่าทีของใหญ่
ooooooo
เช้าวันใหม่ ธราเตือนไกรกูณฑ์ต้องไปให้ปากคำตำรวจ เขาเจ็บใจเป็นเพราะสลิลที่ปากสว่างทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เขายังบอกให้ธราสบายใจได้ว่า ตำรวจทำอะไรตนไม่ได้ ธราเข่นเขี้ยว ใครก็ตามที่อยู่ข้างใหญ่ถือว่าเป็นศัตรูของตน มันจะต้องอยู่อย่างไม่เป็นสุข
ตำรวจมาสอบปากคำใหญ่ที่โรงพยาบาล สลิลมาถึงยิ้มทักทาย พอตำรวจกลับไปเธอก็เห็นถาดอาหารวางอยู่ ใหญ่ยังไม่ทานอะไรเลย จึงเจ้ากี้เจ้าการให้ทานเพื่อจะได้ทานยา ใหญ่ดูท่าทางขัดเขินบอกสลิลว่าเขาจะทานเอง สลิลเองก็ประหม่าทำหน้าตายตอบว่า
“อ๋อ ไม่ได้จะป้อนค่ะ แค่จะแกะพลาสติกออกให้เฉยๆ”
ใหญ่ยิ้มเขิน สลิลถอยออกห่าง ต่างคนต่างอายๆ ทำอะไรไม่ถูก...นวลขวัญถือกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมใหญ่ ทแกล้วหน้าบึ้งไม่เต็มใจมา แต่ถูกพี่สาวบังคับเพราะ ใหญ่เคยช่วยเขาไว้ พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นภาพบาดตา สลิลกำลังยกน้ำให้ใหญ่ดื่ม สลิลหันมารับกระเช้าจากนวลขวัญ ทแกล้วเข้ากระซิบต่อว่ามาทำอะไรที่นี่แต่เช้า สลิลตอบหน้าตาเฉยว่ามาดูแลใหญ่
“ทำไมต้องมาดูแลด้วย”
“คุณป้าธราไม่ค่อยสบายเลยฝากให้หว้าช่วยดูแลคุณใหญ่ให้ มีปัญหาอะไรไหม”
ทแกล้วจ๋อยทั้งที่หึงออกหู สลิลไม่สนใจยังคงดูแลใหญ่แต่ทแกล้วก็ตามประกบใกล้ชิด ใหญ่เห็นแล้วหมั่นไส้ ดันอาหารออกเลิกทาน นวลขวัญเกรงใจคิดว่าตนมารบกวน ใหญ่รีบบอก
“ไม่หรอกครับ ต้องขอบคุณคุณขวัญกับคุณแก้วมากกว่าที่อุตส่าห์มาเยี่ยม”
“ความจริงฉันตั้งใจจะมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะค่ะ แต่งานที่ไร่ยุ่งมาก”
“อุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพรางกันแน่” ทแกล้วโพล่งขึ้น สลิลตกใจหยิกปราม
ใหญ่เครียดเพราะแอบคิดอยู่เหมือนกัน สลิลว่าทแกล้วเพ้อเจ้อ นวลขวัญดุน้อง “อย่าทำให้พี่ขายหน้าอีกนะแก้ว แล้วก็เลิกพูดจาใส่ร้ายคนอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานซะที”
“พี่ขวัญก็พูดงี้ตลอด เรื่องบางเรื่องแค่ใช้เซ้นส์ก็รู้แล้ว ไม่ต้องรอหลักฐานหรอก...แก้วรู้ว่าทุกคนก็คิดเหมือนแก้ว แต่ไม่อยากให้มันเป็นจริง”
ทั้งใหญ่และนวลขวัญรู้สึกเจ็บกับคำพูดของทแกล้ว ใหญ่ว่า “แต่กับผู้ร้ายบางคนก็จำเป็นต้องหาหลักฐานมัดตัวมันให้แน่นหนา ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ไม่งั้นมันไม่ยอมรับผิดแน่”
สองสาวมองใหญ่อย่างเข้าใจและเห็นใจ...ในขณะที่ไกรกูณฑ์ยืนอยู่หน้าสถานีตำรวจ โทร.กลับไปบอกธราว่า ตนให้ปากคำตำรวจเรียบร้อยแล้ว พวกมันไม่มีหลักฐานอะไรจะเอาผิดตนได้ ตอนนี้ตนขอไปทำอะไรสนุกๆแก้เซ็งบ้าง
สลิลยังคงปรนนิบัติดูแลใหญ่อย่างดีจนเขาอึดอัด บอกให้เธอกลับไปทำงานที่รีสอร์ตบ้าง สลิลย้อนว่าถ้ารำคาญตนกลับก็ได้ แต่เขาต้องโทร.บอกธราด้วย เธอจะได้ไม่หา ว่าพึ่งพาไม่ได้แล้วเอาไปฟ้องภูผาให้ตนโดนดุ ใหญ่ถอนใจ
“เอาเถอะ เธออยากทำอะไรก็ทำ” สลิลหยิบมือถือใหญ่มากดเบอร์ตัวเอง พอมือถือในกระเป๋าดังก็ตัดสายส่งมือถือเขาคืน ใหญ่งง “เธอจะทำอะไร...”
“ก็คุณใหญ่บอกว่าอยากทำอะไรก็ทำไงคะ...คุณใหญ่มีเบอร์หว้าแล้ว ทีนี้มีอะไรก็โทร.ตามหว้าได้ทันทีเลยนะคะ”
“เดี๋ยวจะลบทิ้ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ หว้ามีเบอร์คุณใหญ่แล้ว โทร.หาเองก็ได้” สลิลยิ้มกวนๆ
ทันใดไกรกูณฑ์เปิดประตูเข้ามามองสองคนอย่างกวนๆ “คุณใหญ่ก็ดูโอเคดีนี่ครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก มีพยาบาลส่วนตัวคอยเฝ้าไข้ยังงี้คงหายเร็วเป็นพิเศษ...ขอบคุณคุณลูกหว้ามากนะครับที่ช่วยดูแลพี่ชายผมเป็นอย่างดี”
“คุณแม่คุณขอร้องให้เป็นธุระให้น่ะค่ะ ท่านไม่ค่อยสบาย แล้วคุณน้อยเป็นน้องคุณใหญ่แท้ๆแต่มาเยี่ยมคุณใหญ่ช้ากว่าใครเพื่อนเลยนะคะ” สลิลแขวะ
ใหญ่แก้ตัวแทนว่าไกรกูณฑ์งานยุ่ง ไกรกูณฑ์เออออไปตามนั้น ก่อนจะหันมาบอกสลิลว่าตนขอคุยกับพี่ชายเป็นการส่วนตัว ใหญ่จึงบอกให้เธอกลับไปที่รีสอร์ตได้
ใหญ่เปรยไม่คิดว่าจะมาเยี่ยม ไกรกูณฑ์โต้ เรา เป็นพี่น้องกันอย่างไรเสียก็ต้องมาดูให้เห็นกับตาว่าพี่ชายเป็นอะไรจริงๆ ใหญ่สะอึกย้อนถามว่าเห็นแล้วผิดหวังไหม เขาตีหน้าซื่อ
“ทำไมผมจะต้องผิดหวังด้วยล่ะครับ คุณใหญ่นี่ก็พูดแปลกๆ”
“ก็ผิดหวังที่พี่ไม่ตายน่ะสิ”
ไกรกูณฑ์ยักไหล่ถามทำไมตนต้องอยากให้เขาตาย ใหญ่โต้ถ้าตนตายไร่วายุกูลก็จะตกเป็นของเขาทันที ไกรกูณฑ์จ้องหน้าแฝงความเกลียดชัง “ผมยอมรับว่าผมอยากได้ไร่วายุกูลจริง แต่ผมก็ไม่เลวถึงขนาดวางแผนฆ่าพี่ชายตัวเองได้หรอกนะครับ”
“พี่เชื่อน้อย เพราะถึงยังไงเราก็พี่น้องพ่อเดียวกัน น้อยคงไม่คิดอย่างนั้นกับพี่หรอก”
ไกรกูณฑ์ยิ้มเหยียดหยัน คิดว่าใหญ่เชื่อคำพูดตน
ooooooo
ในบ้านไร่ขวัญแก้ว กษิตมาแนะนำตัวกับนวลขวัญ ว่าเขาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับไกรกูณฑ์ นวลขวัญรับนามบัตรเขามาวางลงไม่คิดจะอ่าน เพราะรู้ดีว่าเขามาทำไม กษิตยิ้มย่องจะได้ไม่ต้องอ้อมค้อม ยื่นข้อเสนอให้เธอเรียกมาได้ว่าต้องการขายไร่เท่าไหร่
ทแกล้วโผล่มา “เท่าไหร่ก็ไม่ขาย”
นวลขวัญปรามน้องชาย กษิตว่าเธอเป็นรายแรกที่เขายอมให้เรียกราคา นวลขวัญโต้
“ฉันพอจะทราบค่ะ ว่าคุณกดราคาบังคับซื้อที่ดินจากชาวบ้านแถวนี้ยังไงบ้าง ชาวบ้านที่ขายที่ให้คุณ พอไม่มีที่ดินทำกิน บางคนก็มาสมัครงานเป็นคนงานในไร่ของฉัน เพราะไม่อยากย้ายไปทำมาหากินที่อื่น”
“อย่าเรียกว่าบังคับกดราคาเลยครับ ที่ดินของชาวบ้านพวกนั้นเป็นที่แปลงเล็กๆทำเลไม่สวยเท่าไร่ขวัญแก้ว เอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ”
ทแกล้วเขม่นมองอย่างไม่พอใจ นวลขวัญยืนยันหนักแน่นว่าไม่ขายไร่นี้เด็ดขาด กษิตยิ้มกวนให้เก็บไปคิดอย่าด่วนปฏิเสธ เพราะตนกำลังเจรจาซื้อที่ด้านหน้าไร่เธออยู่ ถ้าเจ้าของขาย ที่ดินเธอจะกลายเป็นที่ตาบอด สองพี่น้องสบตากันหวั่นๆ กษิตลากลับมีลูกน้องเดินตาม
ทแกล้วบ่นเมื่อไหร่พวกนี้จะเลิกมายุ่งกับพวกตน นวลขวัญว่าจนกว่าเราจะยอมขายไร่ให้ ด้านกษิต ลูกน้องถามจะไปเจรจาบ้านไร่สายน้ำต่อเลยไหม เขาชะงักเพราะเชื่อว่า ภูผาคงเจรจายากกว่านวลขวัญ ต้องวางแผนบีบให้มีเรื่องเดือดร้อนก่อน ค่อยไปเจรจา
ธราหน้าเครียดเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเลขาของใหญ่ที่อยู่กรุงเทพฯ เรื่องนัดเซ็นสัญญาโครงการอาทิตย์หน้า คงต้องเร่งกำจัดใหญ่ให้พ้นทางโดยเร็ว แต่หวั่นเกรงตำรวจกำลังจับตามอง ไกรกูณฑ์ไม่หวั่น อ้างตนมีวิธี ธราเหลือบมองอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ
ooooooo
ตกเย็น สลิลทำอาหารใส่กล่องจะเอาไปให้ใหญ่ที่โรงพยาบาล ภูผาแซวดูท่าเป็นห่วงใหญ่มาก สลิลแซวกลับยังน้อยกว่าที่เขาเป็นห่วงธรา ภูผาขำๆ เตือนให้เอาเข็มไปเป็นเพื่อน เธอกลับบอกว่าจะรีบไปรีบกลับ...แต่พอขับรถออกมาได้ระยะหนึ่ง ก็มีรถมาปาดหน้า
กล่องอาหารที่สลิลทำมาตกหกกระจาย เธอโมโหมาก ลงจากรถจะไปเอาเรื่อง แต่กลับถูกโปะยาสลบและอุ้มตัวขึ้นรถไปโดยอุศเรน...ใหญ่กำลังอ่านหนังสือเพลินๆอยู่บนเตียง มือถือดังขึ้นเห็นชื่อสลิล จึงกดรับทำเสียงรำคาญ มีธุระอะไรอีก
“ตอนนี้นังลูกหว้าอยู่กับฉัน...ถ้าไม่อยากให้มันตาย ก็รีบมาช่วยมันเดี๋ยวนี้เลย”
ใหญ่ตกใจมาก ตั้งสติ “ฉันจำเสียงแกได้ อย่าคิดว่าฉันจะโง่ให้แกหลอกซ้ำสองเลย”
“อย่าบอกนะว่าแกไม่ได้เมมเบอร์นังนี่เอาไว้ โอเค สรุปว่าแกจะไม่มาใช่ไหม งั้นก็เตรียมรับศพนังลูกหว้าได้เลย” อุศเรนวางสายไป
ใหญ่ตกใจหน้าเครียดใช้ความคิด ไม่ทันไร เขาก็ลองโทร.กลับไป อุศเรนหัวเราะเยาะที่ทำให้ใหญ่เชื่อได้ อุศเรนบอกให้ทำตามที่เขาบอก...ใหญ่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากห้องไม่ให้ใครเห็นทำตามที่บอก เดินไปทางบันไดหนีไฟ ลงมาออกประตูหลังโรงพยาบาล มีรถจอดรอรับ แต่ไม่ทันจะเดินไปถึง เขาก็โดนโปะยาสลบเสียก่อน
ทแกล้วขับรถมาตามทาง เห็นรถรีสอร์ตของสลิลจอดอยู่ก็ลงมาดู พบกล่องอาหารที่หกกระจายในรถก็แปลกใจ โทร.ไปถามภูผาและให้เขาโทร.ถามใหญ่ว่าเธอไปถึงโรงพยาบาลหรือยัง เมื่อภูผาโทร.ไปจึงได้รู้ว่า ใหญ่หายตัวไปจากโรงพยาบาล...
ในบ้านร้างบนเขา สลิลฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ในห้องเล็กๆเก่าๆก็ตกใจพยายามลุกขึ้น ด้านนอกอุศเรนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของเธอ
จึงสั่งลูกน้องดูต้นทางไว้ก่อนจะดึงหมวกไหมพรมมาปิดหน้าเดินเข้าไปดูสลิล
ทแกล้วซึ่งบึ่งรถเร็วมุ่งหน้าไปบ้านไร่สายน้ำด้วยความเป็นห่วงสลิล เผอิญปาดหน้ารถคันหนึ่งจนเกือบเกิดเรื่อง ทแกล้วรู้ตัวว่าผิดจึงเปิดหน้าต่างยกมือขอโทษ พลันเขามองเข้าไปเห็นใหญ่นอนเอนหมดสติอยู่ในรถคันนั้นก็ตกใจรีบกดโทรศัพท์หาภูผาเล่าเรื่องแล้วบอกว่าตนจะขับตามรถคันนั้นไป
ไม่นาน ใหญ่ถูกมัดมือจับโยนเข้ามาในห้องเดียวกับสลิล เธอตกใจมาก ใหญ่รู้สึกตัวขึ้นมาเห็นหน้าสลิลก็ดีใจรีบถามไถ่เป็นอะไรหรือเปล่า สลิลส่ายหน้าถามกลับท่าทางห่วงไม่แพ้กัน
อุศเรนสวนขึ้น “เป็นห่วงกันเหลือเกินนะ คิดไม่ผิดจริงๆที่จับนังนี่มาเป็นเหยื่อล่อ”
“ใครใช้แกมา แกต้องการอะไร” ใหญ่ถามเสียงเครียด
อุศเรนหัวเราะเสียงเหี้ยมว่าต้องการชีวิตเขา ใหญ่จึงบอกให้ฆ่าตนได้เลย ปล่อยสลิลไปเพราะเธอไม่เกี่ยวข้องด้วย อุศเรนชักปืนออกมา สลิลหน้าซีด...ด้านทแกล้วตามพวกคนร้ายมาจนถึงบ้านร้าง ย่องเข้าจัดการพวกสมุนที่เฝ้าประตู แย่งปืนมาก่อนจะเข้าไปในบ้าน
ใหญ่กำลังต่อรองกับอุศเรน แต่เขาจับสลิลล็อกเป็นตัวประกัน แล้วให้ลูกน้องใส่ถุงมือ เอาปืนไปยื่นให้ใหญ่ยิงตัวตาย สลิลตกใจร้องห้าม
“อย่าทำตามมันนะคุณใหญ่ มันต้องการสร้างสถานการณ์ให้คิดว่าคุณใหญ่ฆ่าตัวตาย”
“ฉลาดสมกับเป็นคนรักคุณใหญ่จริงๆ” อุศเรนหัวเราะร่า
ใหญ่สบตาสลิลก่อนจะบอกอุศเรนว่า มัดมืออยู่แบบนี้จะเอามือที่ไหนจับปืน สลิลโวย
“คุณใหญ่ตายแล้วคิดเหรอว่ามันจะปล่อยหว้าไป ดีไม่ดีมันจะใช้ปืนในมือคุณใหญ่ยิงหว้าซ้ำ แล้วเบี่ยงเบนประเด็นว่าเราฆ่ากันตายเพราะเรื่องชู้สาว”
อุศเรนรำคาญที่สลิลพูดมากจึงใช้หลังมือตบหน้าเธอล้มคว่ำเลือดกบปาก ใหญ่โกรธเอาหัวกระแทกคนร้ายอีกคนล้มลงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่อุศเรนล้มไปด้วยกัน ลูกน้องอุศเรนลุกขึ้นมาจะยิงใส่ใหญ่ ทันใด เสียงปืนดังเปรี้ยงขึ้น ใหญ่กับสลิลหลับตาปี๋ สักครู่ก็ลืมตาขึ้นมา พบว่า
ทแกล้วยิงคนร้ายลงไปกอง ไม่คาดคิด อุศเรนคว้าปืนยิงใส่ใหญ่ สลิลโดดกระแทกตัวใหญ่หลบ กระสุนพุ่งเข้าใส่เธอ แต่ทแกล้วโถมมาบังเธอไว้ ร่างทแกล้วล้มลงท่ามกลางความตกใจของสลิลและใหญ่...ภูผากับตำรวจมาถึง อุศเรนโดดหนีออกหลังบ้าน ภูผาเข้าดูอาการทแกล้ว สลิลร้องไห้โฮ
ไกรกูณฑ์มาเล่นงานอุศเรนถึงห้องพักในโรงแรม ที่ทำงานไม่สำเร็จ สั่งให้เก็บลูกน้องอย่าให้ซัดทอดอุศเรนเหลืออดย้อน
“คุณเองก็พลาดเหมือนกัน ถ้าคุณยอมให้ผมลงมือ ไอ้ใหญ่มันตกเหวตายไปแล้ว”
ไกรกูณฑ์โกรธ กระชากคอเสื้ออุศเรน “แกมีหน้าที่ทำตามคำสั่งฉันเท่านั้น อย่ามาทำปากดีพูดจายอกย้อนฉัน” ว่าแล้วก็ผลักเขาหงายหลัง
อุศเรนโมโหจะเอาคืน ละเวงซึ่งแอบฟังอยู่ในห้องน้ำ ปรี่ออกมาขวาง ไกรกูณฑ์ยิ่งโกรธที่ละเวงยังอยู่ที่นี่ไม่ได้กลับกรุงเทพฯไป ละเวงออดอ้อนอยากอยู่ช่วยงานเขา ไกรกูณฑ์บ่น
“กี่ครั้งแล้วที่น้องชายเธอทำงานพลาด เธอยังคิดว่าจะช่วยงานฉันได้อีกเหรอ รู้ไหมว่าเราเหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวจะต้องเซ็นสัญญาโปรเจกต์ร่วมทุนยักษ์ใหญ่ของบริษัทแล้ว ถ้าฉันไม่ได้คุมโปรเจกต์นี้ ฉันจะยิ่งถูกไอ้ใหญ่มันเหยียบจมดิน”
“มันไม่โชคดีไปได้ตลอดหรอกค่ะ ภายในเจ็ดวันนี้ล่ะค่ะ จะต้องเป็นวันตายของมัน” ละเวงออดอ้อนซบหัวกับไหล่ไกรกูณฑ์ แต่เขากลับลุกพรวดหนีเธอไปดื้อๆ...
ทุกคนยืนรอฟังผลการผ่าตัดของทแกล้ว สลิลถามภูผาโทร.บอกธราหรือยัง เขากลับบอกว่าใหญ่ไม่ให้โทร. เกรงจะตกใจ สลิลเข้ามาดูใหญ่รู้ว่าเขาเสียใจ บอกให้เขากลับไปพัก แต่เขากลับบอกว่า จะรอจนกว่าทแกล้วปลอดภัยก่อน...นวลขวัญหน้าตื่นเข้ามา เผอิญหมอออกจากห้องผ่าตัด บอกทุกคนว่าทแกล้วปลอดภัยแล้ว ทุกคนโล่งอก ใหญ่ลุกเดินหน้าเครียดกลับไป เพราะยังรู้สึกว่าตนเป็นต้นเหตุให้ทแกล้วต้องบาดเจ็บปางตาย สลิลมองเขาอย่างห่วงใย
คืนนั้น ภูผากับสลิลกลับมาบ้าน ภูผาปลอบสลิลไม่ต้องกังวล เพราะตำรวจจับคนร้ายได้หนึ่งคน คงสาวถึงคนบงการไม่ยาก...ด้านธรา พอรู้ว่าใหญ่รอดได้อีกก็โกรธแค้น ตำหนิไกรกูณฑ์
“พลาดเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วน้อย คิดจะเป็นไอ้ขี้แพ้ไปตลอดชาติรึไง...เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้วนะน้อย แม่ต้องกำจัดไอ้ใหญ่ให้ได้เร็วที่สุด”
“ผมเหนื่อยแล้วนะครับแม่”
ธราชะงักเปลี่ยนท่าทีอ่อนลงปลอบลูก เหนื่อยไม่ได้ ที่ตนทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้เป็นที่หนึ่งแทนใหญ่ จะยอมให้ลูกเมียเก็บอย่างใหญ่มาดีเด่นเกินหน้าได้อย่างไร เพราะเขาอ่อนแอยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทำตัวไม่ได้เรื่องอย่างนี้พ่อถึงไม่รัก รักแต่ใหญ่คนเดียว...ไกรกูณฑ์เปรยว่าพ่อตายแล้ว ธรายังปลุกเร้าให้เขาเอาชนะใหญ่ให้ได้หรือเขาไม่รักตน ไกรกูณฑ์หน้าเสียกอดธรา
“ผมรักแม่นะครับ เรามีกันอยู่แค่สองคน ผมจะไม่รักแม่ได้ยังไง ผมจะทำทุกอย่างตามที่แม่ต้องการ ผมต้องเป็นที่หนึ่งให้แม่ภูมิใจให้ได้”
“ดีมากจ้ะลูกรักของแม่ น้อยต้องไม่ทำให้แม่ผิดหวังนะลูก” ธรากรอกหูลูกมาตลอดชีวิต
ooooooo
สายวันใหม่ สลิลมาเยี่ยมทแกล้ว เขาดีใจที่เธอเป็นห่วง แต่อดปากเสียไม่ได้ นึกว่าเธอไปดูแลใหญ่ สลิลตอบขำๆ ใครจะทิ้งผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไปได้ ทแกล้วหัวใจพองโต
“นี่หว้าเป็นห่วงแก้วมากกว่าคุณใหญ่ใช่ไหม ถึงได้มาเยี่ยมแก้วก่อน”
“หว้าจะเห็นเขาสำคัญกว่าแก้วได้ยังไง พูดแปลกๆ ขอบใจแก้วมากนะ ถ้าเมื่อวานไม่ได้แก้วช่วยไว้ หว้ากับคุณใหญ่ก็คงจะตายอยู่บนเขานั่นแล้ว” สลิลเอื้อมมือไปจับมือทแกล้ว
“แก้วไม่มีวันยอมปล่อยให้หว้าเป็นอันตรายอยู่แล้ว หว้าก็รู้ว่าเพราะอะไร...แก้วรักหว้า”
สลิลชะงัก เหลือบตามองทแกล้ว เขาบีบมือเธอก่อนจะรำพัน “รักมาก รักมานานแล้วด้วย แก้วรู้ว่าหว้ารู้ใจแก้วมาตลอด แต่หว้าทำเป็นไม่รู้ ไม่เข้าใจ”
“ใครจะอยากทำร้ายจิตใจเพื่อนล่ะแก้ว” สลิลตัดสินใจพูดออกมา “หว้าไม่อยาก...”
“พอแล้วหว้า แก้วไม่สบาย แก้วยังต้องการกำลังใจ” ทแกล้วตัดบทขยับนอนหันหลังให้
สลิลรู้สึกผิดแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่อาจรักแบบอื่นได้นอกจากเพื่อน จึงเดินออกจากห้องเงียบๆเจอพยาบาลก็ถามถึงใหญ่ เธอตอบว่าใหญ่เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่ หมออยากให้พักรักษาตัวแต่เขาไม่ยอมบอกว่า ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ สลิลใจหายวาบ
ธราแปลกใจเมื่อเห็นใหญ่กลับมา ทั้งที่รู้ว่าเขาก็บาดเจ็บนอนพักฟื้นอยู่ ไกรกูณฑ์แขวะ “นั่งๆนอนๆอยู่โรงพยาบาลให้ลูกหว้าคอยดูแลก็ดีอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องรีบร้อนออกมา”
ใหญ่หันมาบอกธราว่าตนให้คนจองตั๋วกลับกรุงเทพฯไว้แล้ววันมะรืน ธราชะงักพยายามรั้งตัวใหญ่ให้อยู่ต่อ โดยให้ไกรกูณฑ์ไปดูแลงานแทน ใหญ่ทำหน้าไม่ไว้ใจ ไกรกูณฑ์เห็นโกรธ
“คุณใหญ่เขาไม่ไว้ใจผมหรอกครับแม่ ในสายตาคุณใหญ่ ผมก็แค่น้องที่ไม่เอาไหน”
“แล้วพี่ไว้ใจน้อยได้จริงรึเปล่าล่ะ” ใหญ่จ้องมองจับพิรุธไกรกูณฑ์จนเขาร้อนตัวทำโมโหกลบเกลื่อนว่าใหญ่หาเรื่อง ไม่ทันจะมีปากเสียงกัน มือถือใหญ่ดังขัดขึ้น เขารับสาย
“ครับ...ครับขอบคุณครับผู้กอง ครับ...”
ธรากับไกรกูณฑ์ได้ยินร้อนใจ “ผู้กองโทร.มาทำไมเหรอใหญ่!”
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณท่าน แค่เขาโทร.มารายงานความคืบหน้าเรื่องอุบัติเหตุน่ะครับ ผมขอขึ้นไปนอนพักก่อนนะครับ” ใหญ่ชำเลืองมองไกรกูณฑ์ก่อนจะเดินหน้าเครียดไป
ไกรกูณฑ์ยังใจเย็นเพราะเชื่อว่า ใหญ่รักธรามากจนไม่เล่าอะไรให้ฟังเกรงไม่สบายใจ ธรายิ้มหยัน “กว่ามันจะรู้ตัวว่าคนที่จ้องจะเอาชีวิตมัน ก็คือคนที่อยู่ใกล้ตัวมันที่สุดก็สายเกินไปแล้ว...แต่ไม่รู้ผู้กองโทร.มาหามันทำไม”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด คนของเราคงเก็บลูกน้องไอ้เรนที่ตำรวจจับตัวไปได้สำเร็จ ไม่งั้นไอ้ใหญ่คงไม่หน้าเครียดยังงั้นหรอกครับ”
ธราภาวนาให้เป็นอย่างนั้น ไกรกูณฑ์สงสัย จะปล่อยใหญ่กลับไปจริงหรือ ธราเข่นเขี้ยวไม่มีวัน...ว่าแล้วธราก็ไปขอร้องสลิลให้ช่วยพูดกับใหญ่อย่าเพิ่งกลับกรุงเทพฯ สลิลไม่คิดว่าใหญ่จะฟังตน ภูผาเห็นด้วย ขนาดธราเขายังไม่ฟัง แต่ธราช้อนตามองภูผาก่อนจะเปรย
“ผู้ชายน่ะ ต่อให้ใจแข็งดื้อดึงขนาดไหน แต่ถ้าเจอผู้หญิง โดยเฉพาะคนพิเศษของเขาขอร้องล่ะก็ ยังไงก็ต้องฟัง”
สลิลอึ้งอายๆ ภูผาแย้งว่าหลานตนยังไม่ใช่คนพิเศษสำหรับใหญ่ ธราหัวเราะหาว่าเรื่องแค่นี้ภูผาก็ดูไม่ออก สลิลรีบขัดขึ้นว่าใหญ่ไม่ได้คิดอะไรกับตน ออกจะรำคาญเสียมากกว่า ธรายิ้มๆ
“ป้ารู้นิสัยลูกชายป้าดี ใหญ่เขาอารมณ์ร้อน ถ้าเขารำคาญหนูหว้าก็คงไล่ตะเพิดไม่ให้อยู่ใกล้ๆอย่างนี้หรอกจ้ะ หนูไปช่วยพูดกับใหญ่ให้ป้าหน่อยนะ ป้าเป็นห่วง ใหญ่ยังไม่หายดี ป้ายังไม่อยากให้เดินทาง แถมต้องไปเครียดกับงานที่กรุงเทพฯอีก”
สลิลลำบากใจสบตาภูผา เขาพยักหน้าให้เธอช่วย สลิลจึงรับปาก แต่ไม่ใช่ฐานะคนพิเศษ
ooooooo
แผนการบีบนวลขวัญให้ขายไร่ กษิตใช้สมุนไปข่มขู่ลูกค้าที่ซื้อใบชาจากไร่ขวัญแก้วให้ยกเลิกการสั่งซื้อทั้งหมด รวมทั้งวีระลูกค้ารายใหญ่ วีระนัดเธอมาบอกยกเลิก โดยมีคนของกษิตควบคุมมาด้วย เผอิญไกรกูณฑ์มาที่ห้องอาหารที่ทั้งสองคุยกัน เขาจึงเห็นลูกน้องกษิต
เมื่อวีระกลับไป ไกรกูณฑ์ก็เข้ามาหานวลขวัญ แต่เธอกลับโกรธขึ้งต่อว่า “คุณอย่าคิดนะว่าที่คุณบีบให้คุณวีระกับลูกค้ารายอื่นๆของฉันยกเลิกซื้อใบชาแล้วจะทำให้ฉันยอมขายไร่ให้”
“เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับคุณขวัญ ผมมั่นใจว่าเป็นแผนการของนายกษิต” ไกรกูณฑ์จะช่วยหาลูกค้าให้ใหม่ แต่นวลขวัญไม่ต้องการกลับแดกดันจะทำอย่างนั้นทำไม ปล่อยตนเจ๊งจะได้ขายให้เขาถูกๆ ไกรกูณฑ์ไม่ต้องการ เขาอยากให้เธอขายด้วยความเต็มใจไม่ใช่บีบบังคับ
“คุณทำแบบนี้ไม่กลัวมีปัญหากับคุณกษิตเหรอคะ”
“เรื่องนั้นผมไม่สน ผมแค่อยากพิสูจน์ให้คุณขวัญเห็นว่าผมจริงใจกับคุณจริงๆ”
นวลขวัญอึ้งไม่อยากเชื่อคำพูดเขาจึงเดินออกไป ไกรกูณฑ์มองตามละห้อย ละเวงแต่งตัวสวยยืนมองดูเหตุการณ์อยู่หน้าร้านด้วยสีหน้าเจ็บใจ ไม่ทันไร ไกรกูณฑ์ โทร.เข้ามาบอกว่าไม่มีอารมณ์กินแล้วไม่ต้องมา เธอยืนนิ่งน้ำตาคลอทั้งแค้นทั้งเจ็บใจ
พอธรารู้ว่าละเวงยังไม่ได้กลับกรุงเทพฯก็ต่อว่าไกรกูณฑ์หาว่าปิดบัง หรือคิดจะจริงจัง เขาปฏิเสธหนักแน่น ธราจึงถามถึงนวลขวัญ พอเห็นเขาไม่ตอบก็ออกอารมณ์หวงลูกน้ำตารื้น
“หยุดความรู้สึกทั้งหมดเดี๋ยวนี้นะน้อย โลกนี้ไม่มีใครรักน้อยเท่าแม่หรอก มีแต่แม่คนเดียวที่ทำทุกอย่างเพื่อน้อย ผู้หญิงพวกนั้นมีแต่จะทำให้น้อยของแม่เสียใจ เชื่อแม่นะ น้อยห้ามไปหลงรักใครหน้าไหนเด็ดขาด เข้าใจไหมลูก”
ไกรกูณฑ์แปลกใจกับอารมณ์ของแม่ จำต้องรับปากเพื่อให้แม่สบายใจ...ส่วนใหญ่ กำลังเขียนแผนการทำงานอยู่ สลิลโทร.เข้ามา เขาแกล้งทำเสียงดุทั้งที่ดีใจ
“นี่เธอจะโทร.มาเช็กอะไรฉันนักหนา ฉันอยู่บ้านสบายดี ปลอดภัย กินข้าวกินยาเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงมากนักหรอกน่า”
สลิลอมยิ้มย้อนถามว่า เขาจะกลับกรุงเทพฯหรือ น่าจะรอจับคนร้ายให้ได้ก่อน ใหญ่ตอบว่าตนมีงาน เสร็จงานค่อยกลับมา ส่วนเรื่องคนร้ายให้เป็นหน้าที่ตำรวจ สลิลอ่อนใจที่ไม่รู้จะโน้มน้าวใหญ่ตามคำขอของธราได้อย่างไร พลันไฟรีสอร์ตดับพรึ่บ สลิลตกใจอุทานเสียงดัง ใหญ่รีบถามเกิดอะไรขึ้น เธอบอกว่า ไฟดับแล้วขอตัววางสายไปดูแลแขกก่อน ใหญ่รู้สึกเป็นห่วง
ภูผาโทร.เช็กการไฟฟ้า ไม่มีที่ไหนไฟดับนอกจากที่นี่ก็แปลกใจ สั่งทุกคนเอาตะเกียงไปแจกลูกค้าตามห้อง ให้ลุงขาบตามตนไปที่ห้องจ่ายไฟ...ระหว่างทางเดิน ภูผาเห็นเงาคนตะคุ่มๆหลังพุ่มไม้ ลุงขาบเดินส่องไฟนำหน้าไม่ทันเห็น ภูผาสงสัยจึงตามเงาคนนั้นมาจนถึงบ้านพักของรีสอร์ตหลังหนึ่ง พลันเกิดเสียงปืนดังปังขึ้นในบ้าน เสียงผู้หญิงกรีดร้อง เขาตกใจวิ่งพรวดพราดเข้าไปดู เห็นลูกค้าชายนอนตายจมกองเลือดอยู่ หญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่ใกล้ศพ
ภูผาทรุดนั่งข้างหญิงสาวเพื่อจะถามเกิดอะไรขึ้น ไม่คาดคิด มือเขาปัดโดนของบางอย่าง จึงหยิบขึ้นมา ทันใดนั้น ไฟก็สว่างขึ้น สิ่งที่ภูผาหยิบขึ้นมาคือปืน หญิงสาวกลัวลานร้องลั่น
“คุณฆ่าสามีฉัน คุณฆ่าเขาทำไม” ลูกค้าและคนอื่นๆวิ่งมาดู หญิงสาวร้องไห้โฮฟ้องทุกคน “เขาฆ่าสามีฉันค่ะ เขาฆ่าสามีฉัน”
ภูผาตกใจโยนปืนทิ้ง พยายามบอกว่าตนมาช่วย ตนไม่ได้ทำ แต่คนอื่นๆต่างซุบซิบกัน ภูผาอธิบาย “เป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ ผมเข้ามาช่วย ปืนตกอยู่กับพื้น มันมืดผมมองไม่เห็น เลยหยิบขึ้นมาดู” แต่หญิงสาวฟูมฟายไม่เป็นความจริง ปรักปรำว่าภูผายิงสามีเธอ
สลิลแหวกผู้คนเข้ามากับลุงขาบ สะดุ้งสุดตัวกับภาพที่เห็น ไม่ทันไรตำรวจมาถึงจับกุมภูผา สลิลร้องไห้ไม่เชื่อว่าเขาจะทำเรื่องนี้...ภูผาถูกพาตัวไปโรงพัก สลิลยื่นขอประกันตัว แต่ตำรวจยังไม่ให้ ภูผากลับปลอบสลิลว่าตนบริสุทธิ์ ตำรวจทำอะไรตนไม่ได้ รอเขารวบรวมหลักฐานก่อนคงให้ประกันตัวได้ แต่แล้วภูผาอดคิดไม่ได้ว่าทั้งหมดมีคนจัดฉากเอาไว้ แต่ทำเพื่ออะไรกัน
ภูผาถูกเอาตัวเข้ากรงขัง สลิลร้องไห้กลับรีสอร์ต ทิพวัลย์กำลังจัดการเช็กเอาต์ให้ลูกค้า บรรยากาศโกลาหลไปหมด ใหญ่เดินเข้ามาถามหาสลิล เพราะตนโทร.เท่าไหร่เธอก็ไม่รับสาย สลิลเข้ามาเห็นใหญ่ก็ดีใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ใหญ่เข้าซักถามเรื่องราว เธอร้องไห้โฮสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใหญ่จึงกอดปลอบให้เธอร้องเสียให้พอ
เวลาผ่านไป ใหญ่วิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกว่ามีคนจงใจให้เกิดแน่ๆ สลิลถามพวกมันต้องการอะไร เพราะภูผาไม่เคยมีศัตรูที่ไหน
“หรือจะเป็นพวกที่ต้องการเล่นงานฉัน คิดจะดึงเธอกับคุณลุงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
“ศัตรูคุณใหญ่คงไม่เล่นงานไปทั่วอย่างนี้หรอกค่ะ ตอนนี้หว้าห่วงแค่เรื่องจะช่วยคุณลุงออกมาได้ยังไง” ใหญ่สบตาสลิลขอว่าครั้งนี้ตนจะเป็นธุระช่วยเหลือเอง สลิลซาบซึ้งน้ำตาคลอ
ooooooo
วันต่อมา นวลขวัญมาหาสลิล เธอสงสัยว่าจะเป็นฝีมือกษิต เพราะเขาอยากกว้านซื้อที่ดินแถวนี้ ตนเองก็โดนลูกค้ายกเลิกออเดอร์หมด เขาอาจจะทำให้รีสอร์ตมีปัญหาไม่มีคนมาพักก็ได้ พอดีเห็นใหญ่มา นวลขวัญจึงลากลับกระเซ้าสลิลจะได้คุยกันตามสบาย สลิลเขิน ใหญ่รีบแก้ตัว
“ผมจะไปเยี่ยมหมอภูผา ก็เลยแวะมารับคุณหว้า เผื่อจะไปพร้อมกันเลย ไม่ต้องขับรถไปหลายคัน” ใหญ่สบตาสลิลเก้อเขินเล็กน้อย นวลขวัญอมยิ้ม สลิลชวนเดินไปส่งที่รถแก้เขิน...
ตำรวจพิสูจน์หลักฐานออกมาว่า กระสุนในตัวคนตายเป็นกระสุนเดียวกับปืนในมือภูผา แต่ไม่มีเขม่าปืนที่มือเขา ภูผาจึงประกันตัวออกไปได้ ใหญ่ขับรถมาส่งที่รีสอร์ต ทั้งสามคุยกันว่าข้อสันนิษฐานของนวลขวัญอาจเป็นจริง ใหญ่ย้อนถามว่ากษิตอีกแล้วหรือ
“ใช่ค่ะ ก็อย่างที่รู้กันว่าใครหนุนหลังนายกษิตอยู่” สลิลมองใหญ่ที่หน้าเสีย เกรงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับไกรกูณฑ์ ส่วนภูผาถอนใจจะต้องหาทางกอบกู้ชื่อเสียงรีสอร์ตกลับคืนมา
ใหญ่กลับมาเล่นงานไกรกูณฑ์ แต่เขาไม่ยอมรับ ใหญ่จึงขู่ไว้ว่า ตนจะไม่ทนเป็นเป้านิ่งอีกต่อไป ธราแอบฟังหน้าเครียด พอเห็นใหญ่เดินไป เธอก็เรียกไกรกูณฑ์ไว้ไม่ให้ออกไปไหน
สองแม่ลูกหลบมาคุยกันมุมลับตาคน ธราถามไกรกูณฑ์ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆหรือ เขาออกอาการหงุดหงิดที่แม่ไม่เชื่อ ธราจึงถามเขาคิดว่าเป็นฝีมือใคร ไกรกูณฑ์พอจะเดาได้ว่าเป็นกษิต
“น้อยไม่ได้ร่วมมือกับนายกษิตจริงๆนะ”
“นี่คำพูดผมมันไม่มีความน่าเชื่อถือเลยใช่ไหมครับ”
ธราชะงัก ไกรกูณฑ์ฮึดฮัดไม่รู้จะทำตัวอย่างไรให้ถูกใจแม่ เขาเริ่มเบื่อและเซ็ง อยากเป็นตัวของตัวเองบ้าง ธรามองลูกชายระบายความในใจอย่างใช้ความคิด...ตัดสินใจไปหาภูผา ทำทีปลอบใจที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น ถึงตนช่วยไม่ได้แต่ก็มาเป็นกำลังใจ ภูผาซึ้งใจ สลิลวิ่งพรวดพราดเข้ามาขัดจังหวะ บอกภูผาว่า ตำรวจโทร.มาบอกว่าผู้หญิงที่เป็นคนใส่ร้ายเขาหายตัวไป และเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ตายอย่างที่ให้การ ธราฟังอย่างเก็บข้อมูล
“แล้วอย่างนี้จะทำยังไงล่ะคะ ตัวต้นเรื่องหายไปอย่างนี้ แล้วเราจะมีหลักฐานอะไรมาลบล้างความผิดให้หมอภูได้คะ” ธราทำทีห่วงใย
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หว้าไม่มีวันยอมปล่อยให้คนผิดลอยนวลไปได้ง่ายๆแน่นอน”
สลิลครุ่นคิด ก่อนจะโทร.ไปถามใหญ่ว่า กษิตทำบ่อนที่ไหน ใหญ่แปลกใจที่จู่ๆมาถาม...สลิลชวนเข็มบุกไปหากษิต นักเลงคุมหน้าบ่อนไม่ให้ทั้งสองเข้าไป กษิตเดินมาพอดี พอเห็นสลิลก็ดีใจคิดว่าจะมาคุยเรื่องขายรีสอร์ต จึงให้เธอเข้าไปคุยแต่เพียงคนเดียว เข็มต้องรอข้างนอก
ระหว่างที่เข็มรอ ก็กระวนกระวายเป็นห่วงสลิล เขาทำทีขอไปเข้าห้องน้ำ พอเดินมามุมหนึ่งก็เผอิญได้ยินเสียงผู้หญิงดังออกมา “ฉันสาบานว่าจะไม่พูดเรื่องจัดฉากฆาตกรรมที่รีสอร์ตเด็ดขาด...ฉันขอค่าจ้างเพิ่มอีกหน่อยได้ไหม จะได้หนีไปไกลๆ ตอนนี้ตำรวจตามตัวฉันไปทั่ว กลับไปอยู่บ้านเดิมก็ไม่ได้แล้ว”
เข็มชะงักเข้าไปแอบมอง ลูกน้องกษิตบอกหญิงสาวว่า หกโมงเย็นให้ไปรอที่ข้างวัดชายป่า จะให้คนเอาเงินไปให้ และช่วยพาหนีด้วย แต่ตอนนี้ให้เธอรีบหลบไปก่อนที่จะเดือดร้อน...เข็มรีบหลบกลับมายืนที่เดิม ข่มความเจ็บใจเอาไว้
สลิลต่อว่ากษิตทำนองเชื่อมั่นว่าเรื่องฆาตกรรมที่รีสอร์ตเป็นฝีมือเขา กษิตปฏิเสธกวนๆ
“ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้นก็เอาหลักฐานมาสู้กันในชั้นศาลเลยแล้วกัน”
“หลักฐานน่ะมีอยู่แล้ว รอแค่ให้ตำรวจตามจับผู้หญิงคนนั้นให้ได้ซะก่อนเถอะ ถึงวันนั้นคุณก็เตรียมตัวเข้าไปนอนในคุกได้เลย” พูดจบสลิลก็สะบัดหน้าเดินออกไป
กษิตครุ่นคิดว่าเธอจะมีหลักฐานอะไร สลิลเดินออกมาหาเข็ม พากันไปที่รถ เข็มกระซิบบอกเรื่องที่ได้ยิน สลิลดีใจมากที่จะได้เอาคืนกษิต
ooooooo










