สมาชิก

ไฟในวายุ

ตอนที่ 7

ละเวงได้ยินเสียงใหญ่เรียกลั่นบ้านก็ชะงักไม่กล้าออกมา แต่ใหญ่เหลือบเห็นเธอเสียก่อนปราดเข้าฉุดกระชากจะเอาตัวไปส่งตำรวจ ละเวงตกใจกลัวพยายามฝืนตัว ธราตีหน้าไม่รู้เรื่องเข้าจับแขนใหญ่บอกให้ใจเย็น มันเรื่องอะไรกัน ละเวงสะบัดตัวหลุดวิ่งมาหลบหลังธรา

“คุณใหญ่จะจับละเวงส่งตำรวจเรื่องอะไรคะ ละเวงไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”

“จะ ให้ฉันลากไส้เธอออกมาให้คุณท่านดู หรือว่าเธอจะสารภาพทุกอย่างออกมาเอง” ละเวงตีหน้าซื่อไม่เข้าใจ ใหญ่สุดทน “ก็เรื่องเหตุการณ์คืนวันเกิดคุณท่านนั่นไง เธอวางยานอนหลับฉันกับน้อย แล้วจัดฉากให้ฉันเข้าใจผิดคิดว่าฉันฆ่าน้อยตายจนฉันสติแตกหนีมาที่นี่ เธอทำไปเพื่ออะไร” ละเวงอึ้งกลอกตาไปมาคิดตาม

ธราถอยห่างจากละเวงเล่นไปตามน้ำทันที “มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอละเวง ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย”...

ละเวงหน้าเจื่อนเริ่มรู้ตัวว่าจะกลายเป็นแพะ

ใหญ่ สำทับ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีเรื่องที่มือปืนไล่ยิงตน และเรื่องเผาคอกม้า ทั้งหมดเป็นฝีมือเธอ ธราทำเป็นผิดหวังไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้ ต่อว่าละเวงยกใหญ่ ละเวงครุ่นคิดหาทางแก้เกม ใหญ่คาดคั้นให้ยอมรับสารภาพ เพราะไกรกูณฑ์บอกความจริงตนหมดแล้ว ละเวงตาโพลง

“คุณน้อยบอกคุณใหญ่อย่างนั้นจริงๆเหรอคะ”

“ใช่ คราวนี้เธอจะบอกฉันได้รึยัง ว่าเธอทำไปเพื่ออะไร ทำไมต้องอยากให้ฉันตาย ฉันไปทำอะไรให้เธอโกรธแค้นนักหนา บอกฉันมาว่าเธอทำไปทำไม” ใหญ่บีบต้นแขนละเวงเขย่า

ละเวงหน้าเหยด้วยความเจ็บ ไกรกูณฑ์ซึ่งแอบฟังอยู่นานเกรงเธอจะสารภาพ รีบออกมาชิงแต่งเรื่องขึ้น “บอกคุณใหญ่อย่างที่เธอบอกฉันสิละเวง เธอบอกฉันว่าเธอทำไปเพราะรักฉันเธอสงสารฉันที่ได้สมบัติจากคุณพ่อน้อยกว่าคุณใหญ่ เธอเลยอยากกำจัดคุณใหญ่ให้พ้นทาง เพื่อทุกอย่างจะได้ตกเป็นของฉันคนเดียว” ละเวงหน้าเหวอตามเกมไม่ทัน ไกรกูณฑ์ตีหน้าเศร้า “แต่ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันไม่ต้องการสมบัติอะไรทั้งนั้น ฉันไม่เห็นด้วยกับเธอ เธอถึงได้วางยาฉันเพื่อแผนการเธอจะได้สำเร็จ ต่อไปเธอคงคิดฆ่าฉันอีกคนใช่ไหม”

ธราปราดเข้าตบหน้าละเวง ต่อว่าทำกับครอบครัวตนแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ตนเอ็นดู ไม่คิดว่าเลี้ยงงูเห่าไว้ในบ้าน แผดเสียงไล่ให้ออกไปแล้วทำทีหน้ามืดจะเป็นลม ใหญ่เข้าประคองไกรกูณฑ์พยักพเยิดให้ละเวงรีบหนีไป ก่อนจะทำเนียนเข้าดูอาการแม่ กล่าวขอโทษแทนละเวงเพราะตนเป็นต้นเหตุ ขอร้องใหญ่ยกโทษให้เธอ ใหญ่เสียงกร้าวว่าตนเกือบตายเพราะเธอ

“ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มันยากจะให้อภัย แต่ละเวงเป็นเมียผม ผมก็ต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าคุณใหญ่ไม่ยกโทษให้ละเวง ผมก็จะพาละเวงไปอยู่ที่อื่น ไปให้พ้นหน้าคุณใหญ่แล้วจะไม่กลับมาให้คุณใหญ่เห็นหน้าอีก” ไกรกูณฑ์ทำท่าจะเดินออกไป

ใหญ่ใจอ่อนเพราะรักน้อง เรียกเขาไว้ ไกรกูณฑ์แอบยิ้มมุมปากก่อนจะทำหน้าเศร้าหันมา ใหญ่ยอมให้อภัย “ครั้งนี้ถือว่าฉันเห็นแก่คุณท่าน แต่ถ้าละเวงยังไม่หยุดทำเรื่องบ้าๆ อย่างที่ผ่านมา ฉันจะไม่ใจดีแบบนี้อีก”

ไกรกูณฑ์โผเข้าสวมกอดขอบคุณที่ให้โอกาสแก้ตัว ใหญ่ตบไหล่น้องชายอภัยให้ด้วยความจำยอม ธราแอบยิ้มอย่างพอใจที่ไกรกูณฑ์ทำให้ใหญ่ใจอ่อนได้ เดินเข้าไปหา ทั้งสองผละออกจากกัน ธราแสร้งทำยินดีที่ลูกทั้งสองเข้าใจกันได้ ใหญ่หน้านิ่งยังรู้สึกคลุมเครือชอบกลอยู่

จากนั้นไกรกูณฑ์ก็มาหาละเวงที่โรงแรมในเมือง เธอต่อว่าเขาทันทีที่โยนความผิดให้เธอเป็นแพะรับบาปคนเดียว จะขอถอนตัวจากงานนี้ ไกรกูณฑ์ดึงเธอมากอดป้อนคำหวานอ้างตอนนั้นต้องเอาตัวรอดก่อน แต่ตนก็ช่วยแก้ตัวให้เธอด้วย ไม่อย่างนั้นใหญ่คงฆ่าเธอหมกไร่ไปแล้ว

ละเวงเหน็บอย่างรู้ทันว่าที่ช่วยเพราะกลัวจะซัดทอด ไกรกูณฑ์โอ้โลมทำตาหวานอ้อนว่าที่ช่วยเป็นเพราะเธอเป็นเมียต่างหาก ตนไม่อยากเห็นเธอเจ็บตัวแบบวันนี้อีก ขอให้เธอกลับไปอยู่กรุงเทพฯสักพักก่อน ใหญ่จะได้ไม่พาลหาเรื่อง ละเวงอิดออด ไกรกูณฑ์หอมแก้มออดอ้อนให้เธอโอนอ่อนเพื่อหลอกไว้ใช้ต่อไป...
เช้าวันใหม่ ธรากับไกรกูณฑ์นั่งจิบกาแฟอยู่  ใหญ่เดินมา ทั้งสองรีบชวนทานอาหารเช้าด้วยกัน ไกรกูณฑ์จัดแจงเอากาแฟดำที่ใหญ่ชอบให้ ก่อนบอกว่าตนสั่งละเวงกลับกรุงเทพฯไปแล้วจะได้ไม่อยู่ขวางหูขวางตาเขาอีก ใหญ่ว่าไม่จำเป็นเพราะตนกำลังจะกลับกรุงเทพฯในวันสองวันนี้

“ใหญ่จะรีบกลับไปทำไมล่ะลูก ไม่อยู่พักผ่อนให้สบายใจต่ออีกหน่อยเหรอ” ธรากังวล

“ผมห่วงงานครับคุณท่าน ทิ้งมานาน โครงการของเราใกล้จะเซ็นสัญญาร่วมลงทุนแล้ว ผมไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด”

“เรื่องนั้นใหญ่ไม่ต้องห่วงหรอก แม่ดูแลให้อยู่ งานยังเดินหน้าตามปกติ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่นา” ธราปั้นยิ้มสบตากับไกรกูณฑ์

แต่ใหญ่รู้สึกผิดที่ทิ้งภาระ ธราทำยิ้มแย้มยินดีช่วยแบ่งเบา เธอว่าเขาควรกระจายความรับผิดชอบงานให้คนอื่นบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข ไม่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่แต่กับงาน ธราแนะ

“เอาอย่างนี้ ให้น้อยไปทำงานโครงการนี้แทนใหญ่ดีไหม ใหญ่จะได้มีเวลาหายใจได้หน่อย น้อยเองก็จะได้ฝึกงานไปในตัวด้วย”

ไกรกูณฑ์ยิ้มกริ่ม ใหญ่ปฏิเสธทันควัน ไกรกูณฑ์หุบยิ้มหน้าหงิกไม่พอใจ ใหญ่บอกว่าโปรเจกต์นี้ใหญ่เกินไป น้องยังไม่มีประสบการณ์มากพอ ไกรกูณฑ์น้ำเสียงประชด

“คุณใหญ่พูดถูกครับแม่ งานนี้ใหญ่เกินไป ผมไม่มีประสบการณ์ ไม่เก่งเท่าคุณใหญ่ มือไม่ถึงอย่าสะเออะ ถ้าโปรเจกต์นี้จะเจ๊งก็ควรเจ๊งในมือคุณใหญ่มากกว่า หุ้นส่วนเขาคงยอมรับได้”

ใหญ่รู้สึกได้ว่าน้องประชด ธราขัดใจแต่ต้องสะกดไว้ ตัดบทเปลี่ยนเรื่องชวนให้ใหญ่พาตนเที่ยวน้ำตกหลังไร่ ก่อนที่เขาจะกลับ ใหญ่ยิ้มรับอย่างยินดี

“แม่เคยเห็นแต่ในรูปที่พ่อเขาเก็บไว้ ยังไม่เคยเห็นกับตาตัวเองซักครั้ง อยากรู้นักว่ามันจะสวยขนาดไหน คุณชาตรีถึงได้พาใหญ่กับแม่ดวงดาวมาได้ทุกปี” รอยยิ้มธราแฝงความริษยา

“งั้นเราไปกันตอนบ่ายๆวันนี้เลยก็แล้วกันนะครับ”

ธรายิ้มรับ ใหญ่มองกาแฟดำที่ไกรกูณฑ์เอามาให้ ลังเลก่อนจะตัดสินใจดื่ม ธราเหลือบสบตาไกรกูณฑ์อย่างมีแผนร้าย

ooooooo

นวลขวัญชงชาสามถ้วยให้ทแกล้วช่วยชิมว่าถ้วยไหนรสชาติดีกว่ากัน เพราะตอนนี้คู่แข่งเยอะพลันสลิลโทร.เข้ามา ทแกล้วไม่สนใจจะรับสายนวลขวัญติง ขี้งอนเป็นเด็กเมื่อไหร่จะหายโกรธ ทแกล้วบ่น “เจอ ซะบ้าง หว้าจะได้รู้สึกว่าเวลาตามง้อคนอื่นแล้วเขาไม่สนใจมันเป็นยังไง”

ไม่ทันไร สลิลเดินเข้ามาบิดหูทแกล้วจากด้านหลัง “ก็เป็นยังงี้ไงล่ะ” ทแกล้วร้องลั่น สลิลสมน้ำหน้า “นี่แหละ โทษฐานที่ทำให้หว้าไม่สบายใจ”

ทแกล้วงอน “ยังแคร์เค้าด้วยเหรอ นึกว่าในใจมีแต่...”

“พอเลยนะแก้ว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวอีก” สลิลหน้าบึ้งใส่

ทแกล้วตัดพ้อ ทีกับตนทำโหด เอะอะใช้กำลังทีกับใหญ่ล่ะอ่อนหวาน คุณใหญ่คะคุณใหญ่ขา...สลิลหมั่นไส้หยิกเอวทแกล้ว แก้ตัวว่าเพราะใหญ่เป็นแขกของรีสอร์ต ทแกล้วร้องให้นวลขวัญช่วย สลิลหันมาถามนวลขวัญว่าหายโกรธตนหรือยัง

“โกรธพี่คงไม่โกรธหรอก ก็แค่เสียความรู้สึกนิดหน่อย แต่พอเข้าใจได้ว่า หว้าลำบากใจ”

สลิลจ๋อยลงแต่ยังดีใจที่ไกรกูณฑ์หลอกเธอไม่สำเร็จ นวลขวัญสะท้อนใจหลบสายตา ทแกล้วโพล่งขึ้น “หรือว่าเราทุกคนกำลังถูกหลอก จริงๆแล้วสองพี่น้องนั่นรู้กัน แยกกันทำงานเพื่อหาช่องทางซื้อไร่ขวัญแก้วกับรีสอร์ตของหว้าก็ได้นะ”

สองสาวอึ้งฉุกคิดสบตากัน ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ทแกล้วอมยิ้มที่ปั่นหัวสองสาวได้

ooooooo

บ่ายวันนั้น ใหญ่พาธรามายืนชมบรรยากาศริมน้ำตกหลังไร่วายุกูล ธราชื่นชมความงามด้วยน้ำเสียงแกมอิจฉาว่า ที่นี่สวยจริงๆ มิน่าชาตรีถึงติดใจมาที่นี่ทุกปี ใหญ่ยอมรับว่าพ่อกับแม่ชอบที่นี่มาก ธรายิ่งร้อนรุ่มแววตาฉายความอาฆาตเกลียดชัง

จู่ๆธราก็ทำทีเป็นรับโทรศัพท์จากไกรกูณฑ์ แล้วพูดกันไม่ได้ยิน เธอเดินถอยออกมาหาคลื่นโทรศัพท์สายตามองใหญ่ที่ชมวิวอย่างเพลิดเพลิน แล้วหันไปพยักหน้าให้สองคนร้ายที่ดักซุ่มรออยู่ เข้าไปทำร้ายใหญ่ แต่ปรากฏว่าใหญ่เห็นเงาในน้ำทำให้หันมาป้องกันตัวได้ ชั้นเชิงการต่อสู้ใหญ่เหนือกว่า จึงจัดการคนร้ายได้ไม่ยาก ไม่วายใหญ่ยังห่วงธรา ร้องบอกให้เธอหลบไปก่อน ธราแกล้งหกล้มให้ใหญ่เสียสมาธิ แต่เขาก็ยังซัดคนร้ายจนทั้งสองวิ่งหนี ใหญ่จะตาม ธราเกรงคนของตัวโดนจับได้ จึงทำให้ตัวเองหัวแตก ใหญ่ตกใจหันมาดูแลไม่ตามคนร้ายไป...

ไกรกูณฑ์หน้าตื่นมาเยี่ยมธราที่โรงพยาบาล เห็นมีแผลที่หัวก็ต่อว่าใหญ่ทันที ว่าดูแลแม่อย่างไรถึงได้เจ็บตัวแบบนี้ ธราแก้ตัวแทนว่าไม่ใช่ความผิดใหญ่ แต่ไกรกูณฑ์ยังตอกย้ำ

“ถ้าไม่ใช่ความผิดคุณใหญ่แล้วจะเป็นใคร มีคุณใหญ่คนเดียวเท่านั้นแหละที่มีศัตรูไปทั่ว อยู่ที่ไหนก็มีแต่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน”

ใหญ่สะอึก ธราทำทีเอ็ดไกรกูณฑ์ให้หยุดซ้ำเติมใหญ่ แล้วขอให้ใหญ่ออกไปก่อน ใหญ่หน้าเศร้าเดินไป...

พอพ้นประตู ไกรกูณฑ์ก็ถามธราทันทีทำไมบาดเจ็บอย่างนี้ สีหน้าธราเจ็บใจ

“ดวงมันแข็งจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้สองคนนั่นจะสู้มันคนเดียวไม่ได้”

“แม่ประมาทมันเกินไป ไอ้นี่มันบ้าพลังมาแต่เด็ก แล้ว นี่มันสงสัยไหมว่าเป็นฝีมือใคร”

“มันพูดว่ามันไม่มีศัตรูที่ไหนนอกจากคนใกล้ตัว” ไกรกูณฑ์รีบถามว่าสงสัยละเวงใช่ไหม ธราพยักหน้า “แม่ก็ขอให้มันสงสัยแค่อีแพะนั่นคนเดียวไปตลอดเถอะ”

ไกรกูณฑ์เอาน้ำผลไม้มาให้ธรา เธอกำมือจนเกร็งน้ำตาไหล เขาตกใจว่าแม่เป็นอะไร นึกว่าเจ็บแผล เธอจิกมือกับเตียงเข่นเขี้ยว “เจ็บแผลมันไม่เท่าเจ็บใจหรอก อีกนิดเดียวก็จะจัดการมันได้อยู่แล้วเชียวไม่น่าพลาดเลย...แต่อย่างน้อยก็คุ้มเจ็บแลกกับการได้เห็นมันรู้สึกเลวๆกับตัวเอง”

“อย่าบอกนะครับว่าที่แม่เจ็บ มันเป็นความตั้งใจของแม่!”

“ใช่ แม่ทำให้ตัวเองเจ็บ ดีกว่ามันจับคนของเราได้” ไกรกูณฑ์กุมมือแม่แนบแก้ม ทำนองไม่น่าทำขนาดนี้“แม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ไอ้ใหญ่มันต้องทุกข์ทรมาน แม่เกลียดมัน เกลียดนังดวงดาวแม่ของมัน แม่อยากเห็นไอ้ใหญ่มันตายต่อหน้าแม่ เหมือนวันที่แม่ได้เห็นจุดจบของนังดวงดาว” น้ำตาธราไหลรินด้วยความเคียดแค้นเกลียดชังไกรกูณฑ์กอดปลอบ อีกไม่นานเธอต้องได้เห็น...

แววตาสองแม่ลูกมีแต่ความเคียดแค้น...ด้านใหญ่นั่งเศร้าเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้ธราต้องบาดเจ็บ อยู่มุมหนึ่งของโรงพยาบาล ภูผากับสลิลเดินเข้ามาหา เขาแปลกใจรู้ได้อย่างไร ภูผาบอกว่าธราให้พยาบาลโทร.ไปบอกตนก็รีบมาเลย

“คุณท่านปลอดภัยดีครับ ตอนนี้น้อยคอยดูแลอยู่”

ภูผาจึงขอไปเยี่ยมเธอก่อน สลิลสบตาใหญ่เขารับรู้ถึงความห่วงใยของเธอ...ธรานอนหลับ ไกรกูณฑ์รายงานอาการให้ภูผาฟังว่าธราลื่นหกล้มที่ริมน้ำตกหัวแตก แผลไม่กว้างเท่าไหร่ หมออยากให้พักดูอาการสักวันสองวัน ภูผาพยักหน้าแล้วขออยู่ช่วยเฝ้าเธอให้เขาออกไปยืดเส้นยืดสายบ้างก็ได้ ไกรกูณฑ์มองภูผาที่กุมมือแม่ตนดูห่วงใยอย่างออกนอกหน้า

สลิลยังคุยกับใหญ่ถามเขาแจ้งความหรือยัง เพราะเขาโดนลอบทำร้ายถี่เหลือเกิน ใหญ่บอกว่าธราขอไว้กลัวเป็นข่าวทำให้หุ้นส่วนหมดความเชื่อมั่น สลิลยังข้องใจ

“แต่น่าแปลกนะคะ คนร้ายเข้าไปที่น้ำตกนั่นได้ยังไง คุณใหญ่เคยบอกหว้าว่าที่นั่นเป็นสถานที่ส่วนตัว...

เป็นไปได้ไหมคะว่าคนร้ายจะเป็นคนที่ไร่วายุกูล”

“ฉันถึงสงสัยละเวงไงล่ะ แต่น้อยบอกว่าละเวงกลับกรุงเทพฯไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว”

“ยิ่งตัวไม่อยู่อย่างนี้แหละยิ่งน่าสงสัย...หว้าจะให้คน...” สลิลนึกไอเดียออก

ใหญ่สวนให้หยุดวุ่นวายกับตน “ฉันมันตัวซวย เข้าใกล้ใครคนนั้นก็เดือดร้อนไปด้วย”

“หว้าไม่เคยคิดยังงั้นเลยนะคะ หว้าอยากช่วยคุณใหญ่”

“เธอจะช่วยอะไรฉันได้...”

“ก็ช่วยหาตัวคนร้ายไงคะ คุณใหญ่จะปล่อยให้มันลอบทำร้ายไปเรื่อยๆอย่างนี้ไม่ได้นะคะ คุณใหญ่ลองนึกดูดีๆสิคะว่า นอกจากคุณน้อยกับคุณละเวงแล้วยังมีใครที่น่าสงสัยอีกบ้าง”

ใหญ่จับตัวสลิลเผชิญหน้า พูดช้าๆชัดๆ “เลิกยุ่งกับฉันซะเถอะลูกหว้า ที่ฉันออกมาจากบ้านไร่สายน้ำก็เพราะไม่อยากให้เธอต้องเดือดร้อนเพราะฉันอีก เข้าใจไหม”

สลิลรับรู้ถึงความห่วงใยที่ใหญ่สื่อถึงทางสายตา ใหญ่รีบตัดความรู้สึกผละออกเดินหนีไปดื้อๆ สลิลมองตามละห้อย แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของเขา รู้ว่าเขาห่วงตน

ooooooo

ลานจอดรถโรงแรมในเมือง กษิตขับรถเข้ามาจอด ทันใดมีนักเลงมาดักหน้า กระชากคอเสื้อขู่เสียงแข็ง... ท่านให้มาเตือน ถ้ายังไม่รีบหาเงินใช้หนี้ และจัดการเรื่องไร่วายุกูลให้เรียบร้อยภายในหนึ่งเดือน จะไม่มีเงาหัวอีก...กษิตหน้าซีดหวาดกลัว

กษิตคิดได้ตามไกรกูณฑ์มาพบทันที อ้างขอเงินลงทุนที่จะทำธุรกิจโรงแรมร่วมกันล่วงหน้า 50 ล้านบาทก่อน ไกรกูณฑ์ตกใจ

“คุณก็รู้ว่าผมไม่มีเงินสดขนาดนั้น ไม่งั้นผมจะเอาไร่วายุกูลมาขายให้ท่านแลกกับหุ้นโครงการทำไม”

กษิตย้อนถามเมื่อไหร่จะจัดการได้เสียที ภายในหนึ่งเดือน ถ้ายังจัดการไม่ได้ ตนจะเป็นคนลงมือเอง อย่า หาว่าข้ามหน้าข้ามตาก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ขอค่าสนับสนุนดำเนินการเบื้องต้น อ้างตนออกอยู่คนเดียวมันไม่แฟร์ ไกรกูณฑ์ถอนใจเอาสมุดเช็คออกมาเซ็นให้...

ส่วนละเวงยังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ พักอยู่ในห้องอุศเรน เพราะกลัวไกรกูณฑ์ไปติดพันนวลขวัญจริงๆละเวงอดถามไม่ได้ว่าคนที่ลอบทำร้ายใหญ่วันนี้เป็นใคร อุศเรนส่ายหน้าขำๆ

“ไม่รู้ อีคุณนายนั่นมันคงไม่ไว้ใจผมแล้วล่ะ ไป จ้างมือสมัครเล่นที่ไหนมาก็ไม่รู้”

“อุตส่าห์วางแผนซะสลับซับซ้อน สุดท้ายก็มาตกม้าตายด้วยแผนการตื้นๆ แถมต้องเจ็บตัวอีก สมน้ำหน้า มันใจร้อนเองช่วยไม่ได้ จากนี้ไปคงเล่นงานไอ้ใหญ่ยากขึ้นอีก เพราะมันต้องระวังตัวขึ้นกว่าเดิมเยอะ” ละเวงแสยะ ยิ้มปนสมน้ำหน้า

แต่อุศเรนหน้าเครียด “ถ้ามันเก็บไอ้ใหญ่ได้เมื่อไหร่ เราสองคนพี่น้องเตรียมตัวเป็นผู้ต้องสงสัยไว้ได้เลย ตอนนี้ทุกอย่างเข้าทางมันหมด...ดีไม่ดีมันจะฆ่าตัดตอนเราสองคนด้วยซ้ำ”

“มันไม่ง่ายยังงั้นหรอก ฉันเดินมาไกลเกินกว่าจะ ยอมให้ใครมาหยุดฉันได้ง่ายๆ แล้วฉันก็ไม่มีวันกลับไปมือเปล่าเด็ดขาด” สีหน้าแววตาละเวงดูร้ายกาจอย่างมีแผนการ...

ขณะเดียวกัน ไกรกูณฑ์ยืนครุ่นคิดเรื่องกษิตที่ระเบียงบ้าน ใหญ่เข้ามาถามอย่างห่วงใยไม่สบายใจอะไรปรึกษาได้ เขาเหลือบมองอย่างเหยียดๆว่า ปรึกษา ไปก็ช่วยไม่ได้ ใหญ่ให้ลองบอก

“ผมอยากได้เงินก้อนนึงไปลงทุนทำธุรกิจ แต่แม่ ก็คงไม่ให้ คุณใหญ่ช่วยผมได้ไหมล่ะ”

ใหญ่ย้อนถามธุรกิจกับกษิตหรือ ไกรกูณฑ์ตอบ หนักแน่นว่าใช่ ใหญ่ถอนใจพยายามบอกว่ากษิตเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ให้เขากลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา ไกรกูณฑ์ ขำหยันๆ

“บริษัทของเราเหรอ บริษัทของคุณใหญ่คนเดียวมากกว่า ผมไม่อยากเป็นลูกน้องคุณใหญ่ไปจนตายหรอก”

“น้อยใจร้อนเกินไป ยังไงบริษัทก็ต้องมีการขยับ ขยาย น้อยก็ต้องได้ขึ้นเป็นผู้บริหารอยู่แล้ว...เอาเถอะ ตอนนี้น้อยไม่เชื่อ พี่ก็ไม่ว่าอะไรแต่ยังไงพี่ก็ไม่มีทางสนับสนุนให้น้อยทำงานกับนายกษิตนั่นเด็ดขาด”

“คุณใหญ่ก็ดีแต่ขวางความเจริญของผม ไม่อยากให้ผมได้ดีไปกว่าตัวเองล่ะสิ”

“เลิกพูดแบบนี้ซะทีเถอะน้อย พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นกับน้อยเลยนะ คุณพ่อสั่งไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลน้อยกับคุณท่านให้ดี พี่ต้องทำตามความต้องการของคุณพ่อเพราะฉะนั้นน้อยต้องเชื่อฟังพี่ และควรทำตามคำแนะนำของพี่” น้ำเสียงใหญ่เด็ดขาด

ไกรกูณฑ์เหยียดปากใส่ สลัดแขนออกจากการจับกุม เดินหงุดหงิดเข้าบ้านไป ใหญ่มองตามอย่างหนักใจ...

ไกรกูณฑ์เข้าห้องนอนเหมือนได้ยินเสียงธราก้องในหัว “น้อยต้องเก่งกว่าไอ้ใหญ่ให้ได้เข้าใจไหม น้อยต้องประสบความสำเร็จกว่าไอ้ใหญ่ ต้องเก่งดีกว่ามันทุกๆอย่าง ได้ยิน แม่ไหม น้อยต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้...” ไกรกูณฑ์ยกมือขึ้นปิดหู สีหน้าเจ็บปวดไม่อยากได้ยิน

ooooooo

เช้าวันใหม่ สลิลเห็นภูผาลงมือทำข้าวต้มจะเอาไปฝากธรา จึงแกล้งแซว สนใจเป็นพิเศษขนาดนี้ชักสงสัยแล้วไม่ใช่แค่เพื่อนเก่าธรรมดาแน่ ภูผาแอบเขินก่อนจะยอมรับกับหลานสาวว่าตนกับธราเคยคบหากัน แต่ทางบ้านธราเห็นตนเป็นหมอบ้านนอก จึงให้ธราแต่งงานไปกับชาตรี

สลิลยังสงสัย ทำไมธราถึงยอมแต่งงานทั้งๆที่ชาตรีมีภรรยาและลูกคือใหญ่อยู่แล้ว ภูผาตอบว่าเพราะขัดใจผู้ใหญ่ไม่ได้ สลิลยิ่งแปลกใจที่ผู้ใหญ่ให้ลูกสาวไปแย่งคนอื่น ภูผาติงอย่าว่าผู้ใหญ่แบบนั้น ท่านต้องมีเหตุผลและชาตรีก็ให้เกียรติธราดี ยกย่องออกหน้าออกตา แม่ของใหญ่ต่างหากที่น่าสงสาร ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยเมียเก็บทั้งที่มาก่อน

“มีเรื่องแบบนี้จริงๆด้วยเหรอคะเนี่ย”

“ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ ยังมีเรื่องที่เราคาดไม่ถึงอีกเยอะ”

สลิลยิ่งสงสารใหญ่มากขึ้น...สองลุงหลานมาเยี่ยมธรา กลับพบว่าเธอกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ไม่มีใครมารับ เพราะเธอตัดสินใจขอกลับเองอ้างไม่อยากให้ไกรกูณฑ์อยู่ตามลำพังกับใหญ่ กลัวทำอะไรไม่ถูกใจแล้วใหญ่จะเล่นงานเอา ธราพยายามพูดให้ทุกคนเห็นว่าใหญ่อารมณ์ร้าย ภูผาจึงอาสาไปส่ง สลิลชำเลืองมองอย่างเก็บข้อมูล

มาถึงไร่วายุกูล ธราชวนภูผากับสลิลอยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกัน ใหญ่เดินมาเห็นสลิลก็เลี่ยงไปออกอีกทาง ไกรกูณฑ์แอบยิ้มถาม ทำไมไม่อยู่ทักทายสลิล ใหญ่อ้างมีงานด่วน พอทุกคนเดินเข้ามา สลิลมองไปรอบๆไกรกูณฑ์แกล้งบอก

“คุณใหญ่เพิ่งออกไปเมื่อกี๊เองครับ ผมชวนเข้ามาทักทายคุณลูกหว้าด้วยกันก่อน ก็ไม่ยอมเข้ามา ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน ทำเหมือนไม่อยากเจองั้นล่ะ”

สลิลจ๋อยลงถนัดตา ธราแอบมอง แววตามีแผนการบางอย่าง...ใหญ่ออกมาหากษิตที่บ่อน แสดงตัวคือวายุพี่ชายไกรกูณฑ์ มาเพื่อยืนยันว่าตนไม่มีวันขายไร่วายุกูลเด็ดขาด เลิกหลอกใช้น้องชายตนเป็นเครื่องมือเสียที กษิตหาว่าไกรกูณฑ์เป็นฝ่ายอยากมาลงทุนด้วยเอง

“ใครจะเป็นเจ้าของไอเดียผมไม่สน ผมแค่อยากมาบอกคุณให้รู้เอาไว้ว่า ต่อให้ผมต้องตาย ผมก็ไม่มีวันขายที่ดินผืนนี้เด็ดขาด” ใหญ่ย้ำหนักแน่น

“ถือว่าผมรับทราบว่าคุณไม่ขายแต่ผมอยากได้ คุณคงห้ามความอยากได้อยากมีของผมไม่ได้หรอกนะครับ คุณวายุ” กษิตยิ้มกวนๆ

ใหญ่จ้องหน้าเขม็งอย่างไม่ชอบขี้หน้า ก่อนจะกลับออกไป กษิตหน้าเครียดทันที สั่งลูกน้องไปเอาตัวอุศเรนมา เสนองานแลกหนี้ โดยให้จับตารายงานความเคลื่อนไหวของไกรกูณฑ์

ทันทีที่ใหญ่เดินเข้าบ้าน ไกรกูณฑ์โวยวายที่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของตน ไม่ช่วยแล้วยังมาขวาง ใหญ่พยายามอธิบายที่ทำไปเพราะหวังดีไม่อยากให้ถูกหลอก ไกรกูณฑ์ว่าตนรับมือกษิตได้ ไม่มีวันโดนหลอกง่ายๆ ใหญ่สวนว่าเขาตามเกมกษิตไม่ทันหรอก

“ใช่สิ ผมมันไม่เก่งเหมือนคุณใหญ่ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่เพราะอะไรรู้ไหมผมถึงเป็นแบบนี้ เพราะผมมีพี่แบบคุณใหญ่ไง พี่ที่ไม่เคยสนับสนุน ไม่เคยไว้ใจ ดีแต่ดูถูก คอยกันท่าขัดขวางผมทุกอย่าง คุณใหญ่เหนือกว่าผมก็แค่เรื่องงานเท่านั้นแหละ นอกนั้นคุณใหญ่ไม่มีอะไรเทียบกับผมได้เลย คุณใหญ่ถึงพยายามกดผมไว้ให้ได้ ทำไมผมจะดูคุณใหญ่ไม่ออก เพราะฉะนั้น...อย่าพูดว่าหวังดีกับผมเลย ผมไม่เชื่อ” ไกรกูณฑ์พรั่งพรูระบายความเจ็บช้ำด้วยอารมณ์โกรธ

แววตาใหญ่อ่อนลงไม่นึกว่าน้องจะคิดแบบนี้ ตามจะอธิบาย ธราซึ่งแอบฟังอยู่นานเข้ามาขวาง ให้ปล่อยไกรกูณฑ์ไป พูดตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ ใหญ่ยืนยันไม่เคยคิดแบบนั้นกับน้องเลย ธราทำเป็นเชื่อ ใหญ่บอกว่าพรุ่งนี้ตนจะกลับกรุงเทพฯ ธราตกใจเกรงจะหาทางเล่นงานยาก จึงทำเป็นขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ไว้กลับพร้อมกัน โดยอ้างช่วงนี้เครียด แผลก็ยังเจ็บ อยากพักรักษาตัวให้พร้อมทั้งกายทั้งใจ ค่อยกลับกรุงเทพฯ ใหญ่รับคำด้วยความรัก

“ขอบใจมากลูก แม่ก็ได้ใหญ่นี่แหละที่พึ่งพิงได้ ฝากผีฝากไข้ เสียดายแม่ทำบุญมาน้อยไปหน่อย แม่เลยไม่ได้ใหญ่เป็นลูกในไส้แท้ๆ” ธรายิ่งยกยอปอปั้น

ใหญ่เห็นธราน้ำตาคลอก็สวมกอด บอกตนเหลือเธอคนเดียวในชีวิต ธราแอบเหยียดปากจากนั้นธราก็มาตำหนิไกรกูณฑ์ที่ชอบใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้หัวคิดเสียบ้าง การโวยวายใส่ใหญ่ไม่เป็นผลดีเลยไกรกูณฑ์โวยกลับว่าใหญ่มายุ่งเรื่องส่วนตัวตน ธราโต้ถ้าเป็นเรื่องกษิตตนเห็นด้วย เขาไม่มีทางเอาชนะได้ด้วยตัวเองคำพูดนี้สร้างความเจ็บปวดต่อไกรกูณฑ์อย่างมาก

“นี่ตกลงแม่ต้องการให้ผมทำตัวยังไงกันแน่ แม่พูดกรอกหูผมมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้ผมเอาชนะไอ้ใหญ่ให้ได้ ต้องเก่งต้องดีกว่ามัน ตอนนี้ผมก็กำลังพยายามทำตามทุกอย่าง แต่แม่กลับสั่งให้ผมหยุด...สุดท้ายแม่ก็ไม่เชื่อมั่นในตัวผม เหมือนที่พ่อไม่เคยเชื่อมั่นในตัวผมเลย”

“เลิกคร่ำครวญถึงพ่อแกซะทีเถอะ พ่อที่สร้างแต่ความเจ็บปวด ความทุกข์ใจให้เราสองคนมาตลอดแบบนั้น จะไปพูดถึงเขาอีกทำไม” ธราสวนทันที

ไกรกูณฑ์ชะงักย้อนถามไม่รักพ่อหรือ ธราน้ำตารื้นสั่นสะท้านจากความเจ็บช้ำ ตอบว่ารัก ถ้าไม่รักคงไม่แต่งงานด้วย ตนแอบหวังมาตลอดว่าชาตรีจะหันมารักตนคนเดียว แต่จนกระทั่งวันตาย เขาก็เพ้อหาแต่ดวงดาวแม่ใหญ่ ไกรกูณฑ์สวมกอดปลอบธรา เคียดแค้นใหญ่มากขึ้น

ooooooo

สายวันใหม่ สลิลควบม้ามาข้างรั้วไร่วายุกูลชั่งใจจะเข้าไปดีหรือไม่ ตัดสินใจมุดรั้ว ไกรกูณฑ์มาเห็นแกล้งแซว ทำไมไม่เข้าทางประตู กลัวใหญ่จะหนีไปเหมือนเมื่อวานหรือ สลิลรู้สึกเสียฟอร์มไม่โต้ตอบ เดินเข้าไป ไกรกูณฑ์สะใจแล้วตามมาถามถึงนวลขวัญ สลิลตอกกลับ

“นี่คุณยังกล้าถามถึงพี่ขวัญอีกเหรอ” ไกรกูณฑ์ถามอีกว่าเธอหายโกรธหรือยัง “ยัง และคงจะไม่หายโกรธง่ายๆ คุณเลิกยุ่งกับพี่ขวัญซะทีเถอะ แค่นี้พี่ขวัญก็เสียความรู้สึกมากพอแล้ว”

ไกรกูณฑ์สลดรู้สึกผิด อยากไปหาเธอแต่ก็ลังเล...

ใหญ่กำลังคุยงานกับเลขาทางโทรศัพท์ หันมาเจอสลิลก็ชะงักรีบวางสาย ถามเธออย่างหมางเมินว่ามาเยี่ยมธราหรือ

“หว้ามาหาคุณใหญ่นั่นแหละค่ะ”

“ฉันว่าฉันพูดกับเธอชัดเจนแล้วนะ ทำไมยังไม่เข้าใจอีก” ใหญ่ทำหน้าดุ

“หว้าเข้าใจค่ะว่าคุณใหญ่ไม่อยากให้หว้าเดือดร้อนเพราะคุณใหญ่อีก แต่หว้าก็บอกคุณใหญ่ไปชัดเจนแล้วเหมือนกันว่าหว้าไม่กลัว” ขาดคำก็มีกระถางต้นไม้หล่นมาจากระเบียง

ใหญ่ดึงสลิลหลบได้ทัน เขาสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง สลิลรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา ใหญ่มองขึ้นไปไม่เห็นใคร เขายิ่งเข้าใจว่าใครก็ตามที่อยู่ใกล้จะซวยไปหมด...ธราแอบซุ่มหลบอยู่บนระเบียง สีหน้าเจ็บใจปนอิจฉา ไม่อยากเห็นใครมารักใคร่ไยดีใหญ่

ใหญ่เดินมาส่งสลิลขึ้นม้าริมรั้วให้กลับไปแล้วไม่ต้องมาอีก เพราะตนจะกลับกรุงเทพฯแล้ว สลิลตกใจที่เขาไม่คิดตามจับคนร้ายที่ลอบทำร้ายให้ได้ก่อนหรือ ทำไมถึงทนนิ่งเฉยอยู่ได้ ใหญ่สวนกลับเพราะตนกลัว เธอแปลกใจกลัวอะไร

“ฉันกลัวว่าคนที่พยายามจะฆ่าฉันตลอดเวลาไม่ใช่แค่ละเวงคนเดียวอย่างที่เขาสารภาพ ฉันไม่โง่ถึงขนาดที่จะเชื่อทุกคำพูดของละเวงหรอกนะ”

“คุณใหญ่กำลังกลัวว่าคุณละเวงจะร่วมมือกับคุณน้อยเหรอคะ”

ใหญ่สบตาสลิลเศร้าๆ โทษตัวเองเป็นพี่ที่แย่ คิดแบบนั้นกับน้อง สลิลถามอีกถ้าไกรกูณฑ์ร่วมมือด้วยเขาจะจับส่งตำรวจไหม ใหญ่ถอนใจถ้าตนทำอย่างนั้น ธราคงเสียใจมาก ที่ตนนิ่งเฉยเพราะห่วงความรู้สึกธรา สลิลไม่เข้าใจความคิดใหญ่ที่ยอมให้น้องทำร้ายไม่เอาเรื่อง ใหญ่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงขู่ถ้าเธอไม่รีบกลับ ตนจะอุ้มขึ้นม้าเอง สลิลกลัวเขาทำจริง รีบมุดรั้วไปขึ้นม้า

ด้านไกรกูณฑ์มาตามตื๊อขอโทษนวลขวัญที่ไร่ชา ทแกล้วไม่พอใจ เอาปืนมายิงไล่ นวลขวัญเอาตัวบังเพราะลึกๆก็เป็นห่วงไกรกูณฑ์ ทแกล้วโกรธที่พี่สาวปกป้อง จะเอาเรื่องให้ได้ นวลขวัญขอร้องให้ไกรกูณฑ์กลับไป เขาจึงบอกว่าจะกลับมาอีกแน่ ทแกล้วแกล้งลั่นไกยิงเฉียดจนไกรกูณฑ์ตกใจยกมือเหนือหัวยอม ทแกล้วหัวเราะชอบใจทำให้ไกรกูณฑ์โกรธจัดกลับไป...นวลขวัญต่อว่าทแกล้วทำเกินไป ถ้าพลาดขึ้นมาจะเสียใจไปตลอดชีวิต ทแกล้วจ๋อยสลดลง

ไกรกูณฑ์กลับออกมาด้วยความโกรธมาก โทร.จ้างอุศเรนไปดักเล่นงานทแกล้วเป็นการสั่งสอน อุศเรนแปลกใจถามละเวง ทำไมไกรกูณฑ์ให้ตนไปทำร้ายน้องชายคนที่เขาตามจีบ

ละเวงคิดเข้าข้างตัวเอง “คุณน้อยอาจจะไม่ชอบมันแล้วก็ได้ พูดแล้วก็ชักอยากเห็นหน้านังนั่นซะแล้วสิว่าจะสวยสู้ฉันได้ไหม”

อุศเรนว่าวันหลังจะพาไปดู แต่วันนี้ตนต้องรีบไปจัดการให้ไกรกูณฑ์ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจมาซ้อมตนแทน

ooooooo

วิธูมานั่งรอสลิลที่ล็อบบี้รีสอร์ต ทิพวัลย์รีบมาดักสลิลไม่อยากให้เธอเข้าไปพบ สลิลยิ้มๆ ตนเป็นคนโดนทิ้งยังไม่เห็นโกรธเท่าเธอเลย ว่าแล้วก็เดินไปหาวิธู ถามไถ่มีธุระอะไร วิธูกลับตอบว่าไม่มีธุระ แต่มาเพราะคิดถึง สลิลเอ็ดไม่ให้พูดแบบนี้ วิธูจึงขอปรึกษาเรื่องเรืองตะวัน

วิธูบ่นว่าเรืองตะวันเปลี่ยนไปมาก จู้จี้ขี้หึง เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล วันๆเอาแต่ชี้นิ้วสั่ง สลิลแค่นยิ้มเหมือน สมน้ำหน้าตอบว่า น้องสาวตนไม่ได้เปลี่ยน นี่คือนิสัยจริงๆของเธอ เขาจะได้เจออะไรที่น่าปวดหัวอีกมาก วิธูถอนใจเซ็งสุดๆ...สลิลเดินมาส่งวิธูที่รถ บอกเขาให้อดทนกับเรืองตะวันมากๆ ไหนๆก็แต่งงานกันแล้ว ไม่ทันไร เรืองตะวันโผล่มาอาละวาดด่าทอทั้งวิธูและสลิล

ด้านธราวางแผนร้ายบางอย่าง ทำทีไม่สบายขอให้ใหญ่ไปรับภูผามาตรวจอาการ เขาจำใจไปทั้งที่เป็นห่วงอยากให้เธอไปโรงพยาบาลมากกว่า...ใหญ่ขับรถมาตามทาง พบทแกล้วกำลังโดนอุศเรนทำร้าย จึงรีบจอดรถลงไปช่วย อุศเรนเห็นใหญ่จึงรีบขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ใหญ่ช่วยประคองทแกล้วลุกขึ้น เขากลับต่อว่า ว่าเป็นฝีมือไกรกูณฑ์ เพราะเพิ่งมีเรื่องกันเมื่อเช้า

“ฝากไปบอกน้องชายคุณด้วย แน่จริงก็มาเจอกันตัวต่อตัว เป็นคนแท้ๆ อย่าทำนิสัยเป็นหมาลอบกัดอย่างนี้”

ใหญ่หน้าเจื่อน คิดทบทวนไปมา...ขับรถมาถึงบ้านไร่สายน้ำ เห็นสลิลกำลังถูกยื้อยุดก็ปรี่เข้ามาถามเกิดเรื่องอะไร สลิลแนะนำให้รู้จักน้องสาวและวิธู เรืองตะวันมองใหญ่อย่างสนใจ แกล้งพูดประชด “สงสัยจะเป็นแฟนใหม่พี่หว้า หล่อดีนะ”

วิธูหน้าบึ้งเดินปึงปังไปขึ้นรถ เรืองตะวันสะใจเดินตาม สลิลหันมาถามใหญ่มีธุระอะไร เขาบอกว่าธราให้มารับภูผาไปดูอาการป่วย สลิลว่าเรื่องแค่นี้โทร.บอกก็ได้ไม่ต้องเสียเวลามาเอง ใหญ่ตอบว่าธราเกรงใจให้ตนขับรถมารับ ว่าแล้วก็เปรยเรื่องทแกล้วโดนทำร้ายให้ฟัง ตนรู้สึกคุ้นท่าทางและมอเตอร์ไซค์คนร้ายเหมือนคนที่ดักยิงเรา สลิลแปลกใจว่ามาทำร้ายทแกล้วทำไม

“แก้วมั่นใจว่าน้อยส่งคนมาทำร้ายเขา...ขอให้แก้วเข้าใจผิดทีเถอะ” ใหญ่เครียด

“อย่าฟังแก้วมากเลยค่ะ แก้วไม่ชอบคุณน้อยอยู่แล้ว” สลิลพยายามพูดในแง่ดี...

ทแกล้วหน้าตาบอบช้ำกลับมาให้นวลขวัญทำแผล เขาปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือไกรกูณฑ์ นวลขวัญแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ ทแกล้วไม่ยอม จะเอาคืนด้วยตัวเอง เธอจึงต่อว่าที่เป็นแบบนี้เพราะความวู่วามของเขา ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าปรักปรำใคร ทแกล้วยิ่งเจ็บใจหาว่าพี่สาวเข้าข้างใหญ่พาภูผากับสลิลมาหาธรา ภูผาตรวจดูอาการไม่มีอะไรน่าห่วง ใหญ่ยังกังวลอยากให้ธราไปเช็กที่โรงพยาบาลอีกที แต่ธราไม่ไป กลับบอกให้เขาพาสลิลไปเดินเล่น ตนจะคุยกับภูผา

สลิลเดินตามหลังใหญ่ต้อยๆ เอ่ยถามถึงไกรกูณฑ์ ทำไมไม่ดูแลแม่ตัวเองบ้าง สีหน้าใหญ่กังวลอาการป่วยของธรามาก สลิลแอบปลาบปลื้มที่เขากตัญญู จึงปลอบใจ

“มีคุณลุงอยู่ทั้งคน คุณใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณป้าดูเชื่อคุณลุงมาก ถ้าคุณลุงเห็นอาการไม่ดีจริงๆ คงต้องหาทางพาคุณป้าไปโรงพยาบาลจนได้แหละค่ะ”

ภูผาแปลกใจว่าธรามีเรื่องอะไรถึงให้ใหญ่และสลิล ออกไป ธราปั้นหน้าเครียด บอกไม่อยากให้ใหญ่ได้ยิน ตนรู้แก่ใจว่าที่ตนป่วยมาจากความเครียด เรื่องที่ใหญ่ถูกลอบทำร้ายบ่อยๆตนฝันว่าเขาถูกฆ่าตายเลือดท่วมตัว ธราฟูมฟายว่าดวงดาวฝากให้ดูแลใหญ่ แต่ตนกลับช่วยเขาไม่ได้ ภูผากุมมือปลอบ ยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง ธราแอบยิ้มที่เก็บภูผาไว้หลอกใช้ได้

ooooooo

เย็นวันนั้น สลิลมาดูอาการทแกล้วที่ไร่ชา ทแกล้วทึกทักว่าใหญ่กับไกรกูณฑ์ต้องรู้กันที่มาทำร้ายตน เพราะไม่น่าจะผ่านมาพอดิบพอดี สลิลครุ่นคิดไม่ปักใจเชื่อ ทแกล้วชักชวนให้ช่วยกันสืบ ว่าใครกันแน่ที่ต้องการฆ่าใหญ่ เรื่องนี้ต้องมีตื้นลึกหนาบางกว่าที่เห็นแน่

ใหญ่กลับมาคาดคั้นไกรกูณฑ์ยอมรับเป็นคนส่งคนไปทำร้ายทแกล้ว เขาทำฮึดฮัดโกรธที่ปรักปรำว่าตน เป็นผู้ร้าย ในสายตาตลอดเวลา ใหญ่จับตามองพฤติกรรมของน้อง...

วันต่อมา ไกรกูณฑ์สั่งให้อุศเรนหลอกใหญ่มาให้ตนลงมือจัดการเอง ทั้งสองแลกรถกันโดยธราขอให้ใหญ่ช่วยไปซื้อของฝากในเมืองเพื่อเอากลับกรุงเทพฯ เธอทำน้ำส้มคั้นให้เขาดื่มก่อนไป ระหว่างทางที่ใหญ่ขับรถรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย ไม่ทันไรอุศเรนโทร.เข้ามาบอกว่าได้จับตัวสลิลไว้ ถ้าไม่อยากให้เป็นศพก็จงรีบขึ้นมาบนเขาเดี๋ยวนี้ ใหญ่หักรถกลับ มุ่งหน้าขึ้นเขาด้วยความเป็นห่วงสลิลสุดๆ ไกรกูณฑ์ขับรถกระบะของอุศเรนมาดักรออยู่

ส่วนอุศเรนสวมหมวกบังหน้าขับรถสปอร์ตพาละเวงมาในเมือง พลันเห็นทแกล้วกับนวลขวัญถือข้าวของกำลังเดินไปขึ้นรถ อุศเรนชี้ให้ละเวงดูว่าคนนั้นคือนวลขวัญ กิ๊กของไกรกูณฑ์ ละเวงจ้องมองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทแกล้วเห็นรถรีบบอกนวลขวัญว่านั่นไกรกูณฑ์มีแฟนแล้วยังมาหลอกกันอีก นวลขวัญสะท้อนใจ รีบเดินนำไปขึ้นรถ...

ใหญ่บึ่งรถขึ้นเขาจะไปช่วยสลิลทั้งๆที่มึนหัวมากขึ้น จู่ๆก็มีรถกระบะขับมาเบียดจนตกเขา ไกรกูณฑ์ซึ่งเป็นคนขับหัวเราะชอบใจทั้งน้ำตา ที่ไหลมาจากความอัดอั้นกดดันตลอดชีวิต...ผ่านไปไม่นาน ใหญ่ตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาโบกรถขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

พอทางโรงพยาบาลส่งข่าว ธราเจ็บใจ ช่างตายยากตายเย็นเหลือเกิน รีบมาที่โรงพยาบาลพบสลิลกับภูผากำลังดูแลใหญ่อยู่ ที่แขนเขาเข้าเฝือกอ่อน มีแผลถลอกตามตัว ธราทำทีจะเป็นลมภูผาเข้าประคอง สลิลข้องใจ “คราวนี้เป็นอุบัติเหตุหรือมีใครลอบทำร้ายอีกคะคุณป้า”

ธราทำเป็นเสียใจฟูมฟายโทษเคราะห์กรรม พลัน ตำรวจมาขอสอบปากคำเธอถึงกับหน้าซีด ปฏิเสธตนไม่รู้เลยว่าเขามีศัตรูที่ไหนบ้าง แต่สลิลโพล่งขึ้นว่าใหญ่มีเรื่องทะเลาะกับน้องชาย

ooooooo

“ผมอยากได้เงินก้อนนึงไปลงทุนทำธุรกิจ แต่แม่ ก็คงไม่ให้ คุณใหญ่ช่วยผมได้ไหมล่ะ”

ใหญ่ย้อนถามธุรกิจกับกษิตหรือ ไกรกูณฑ์ตอบ หนักแน่นว่าใช่ ใหญ่ถอนใจพยายามบอกว่ากษิตเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ให้เขากลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา ไกรกูณฑ์ ขำหยันๆ

“บริษัทของเราเหรอ บริษัทของคุณใหญ่คนเดียวมากกว่า ผมไม่อยากเป็นลูกน้องคุณใหญ่ไปจนตายหรอก”

“น้อยใจร้อนเกินไป ยังไงบริษัทก็ต้องมีการขยับ ขยาย น้อยก็ต้องได้ขึ้นเป็นผู้บริหารอยู่แล้ว...เอาเถอะ ตอนนี้น้อยไม่เชื่อ พี่ก็ไม่ว่าอะไรแต่ยังไงพี่ก็ไม่มีทางสนับสนุนให้น้อยทำงานกับนายกษิตนั่นเด็ดขาด”

“คุณใหญ่ก็ดีแต่ขวางความเจริญของผม ไม่อยากให้ผมได้ดีไปกว่าตัวเองล่ะสิ”

“เลิกพูดแบบนี้ซะทีเถอะน้อย พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นกับน้อยเลยนะ คุณพ่อสั่งไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลน้อยกับคุณท่านให้ดี พี่ต้องทำตามความต้องการของคุณพ่อเพราะฉะนั้นน้อยต้องเชื่อฟังพี่ และควรทำตามคำแนะนำของพี่” น้ำเสียงใหญ่เด็ดขาด

ไกรกูณฑ์เหยียดปากใส่ สลัดแขนออกจากการจับกุม เดินหงุดหงิดเข้าบ้านไป ใหญ่มองตามอย่างหนักใจ...

ไกรกูณฑ์เข้าห้องนอนเหมือนได้ยินเสียงธราก้องในหัว “น้อยต้องเก่งกว่าไอ้ใหญ่ให้ได้เข้าใจไหม น้อยต้องประสบความสำเร็จกว่าไอ้ใหญ่ ต้องเก่งดีกว่ามันทุกๆอย่าง ได้ยิน แม่ไหม น้อยต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้...” ไกรกูณฑ์ยกมือขึ้นปิดหู สีหน้าเจ็บปวดไม่อยากได้ยิน

ooooooo

เช้าวันใหม่ สลิลเห็นภูผาลงมือทำข้าวต้มจะเอาไปฝากธรา จึงแกล้งแซว สนใจเป็นพิเศษขนาดนี้ชักสงสัยแล้วไม่ใช่แค่เพื่อนเก่าธรรมดาแน่ ภูผาแอบเขินก่อนจะยอมรับกับหลานสาวว่าตนกับธราเคยคบหากัน แต่ทางบ้านธราเห็นตนเป็นหมอบ้านนอก จึงให้ธราแต่งงานไปกับชาตรี

สลิลยังสงสัย ทำไมธราถึงยอมแต่งงานทั้งๆที่ชาตรีมีภรรยาและลูกคือใหญ่อยู่แล้ว ภูผาตอบว่าเพราะขัดใจผู้ใหญ่ไม่ได้ สลิลยิ่งแปลกใจที่ผู้ใหญ่ให้ลูกสาวไปแย่งคนอื่น ภูผาติงอย่าว่าผู้ใหญ่แบบนั้น ท่านต้องมีเหตุผลและชาตรีก็ให้เกียรติธราดี ยกย่องออกหน้าออกตา แม่ของใหญ่ต่างหากที่น่าสงสาร ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยเมียเก็บทั้งที่มาก่อน

“มีเรื่องแบบนี้จริงๆด้วยเหรอคะเนี่ย”

“ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ ยังมีเรื่องที่เราคาดไม่ถึงอีกเยอะ”

สลิลยิ่งสงสารใหญ่มากขึ้น...สองลุงหลานมาเยี่ยมธรา กลับพบว่าเธอกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ไม่มีใครมารับ เพราะเธอตัดสินใจขอกลับเองอ้างไม่อยากให้ไกรกูณฑ์อยู่ตามลำพังกับใหญ่ กลัวทำอะไรไม่ถูกใจแล้วใหญ่จะเล่นงานเอา ธราพยายามพูดให้ทุกคนเห็นว่าใหญ่อารมณ์ร้าย ภูผาจึงอาสาไปส่ง สลิลชำเลืองมองอย่างเก็บข้อมูล

มาถึงไร่วายุกูล ธราชวนภูผากับสลิลอยู่ทานข้าวกลางวันด้วยกัน ใหญ่เดินมาเห็นสลิลก็เลี่ยงไปออกอีกทาง ไกรกูณฑ์แอบยิ้มถาม ทำไมไม่อยู่ทักทายสลิล ใหญ่อ้างมีงานด่วน พอทุกคนเดินเข้ามา สลิลมองไปรอบๆไกรกูณฑ์แกล้งบอก

“คุณใหญ่เพิ่งออกไปเมื่อกี๊เองครับ ผมชวนเข้ามาทักทายคุณลูกหว้าด้วยกันก่อน ก็ไม่ยอมเข้ามา ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน ทำเหมือนไม่อยากเจองั้นล่ะ”

สลิลจ๋อยลงถนัดตา ธราแอบมอง แววตามีแผนการบางอย่าง...ใหญ่ออกมาหากษิตที่บ่อน แสดงตัวคือวายุพี่ชายไกรกูณฑ์ มาเพื่อยืนยันว่าตนไม่มีวันขายไร่วายุกูลเด็ดขาด เลิกหลอกใช้น้องชายตนเป็นเครื่องมือเสียที กษิตหาว่าไกรกูณฑ์เป็นฝ่ายอยากมาลงทุนด้วยเอง

“ใครจะเป็นเจ้าของไอเดียผมไม่สน ผมแค่อยากมาบอกคุณให้รู้เอาไว้ว่า ต่อให้ผมต้องตาย ผมก็ไม่มีวันขายที่ดินผืนนี้เด็ดขาด” ใหญ่ย้ำหนักแน่น

“ถือว่าผมรับทราบว่าคุณไม่ขายแต่ผมอยากได้ คุณคงห้ามความอยากได้อยากมีของผมไม่ได้หรอกนะครับ คุณวายุ” กษิตยิ้มกวนๆ

ใหญ่จ้องหน้าเขม็งอย่างไม่ชอบขี้หน้า ก่อนจะกลับออกไป กษิตหน้าเครียดทันที สั่งลูกน้องไปเอาตัวอุศเรนมา เสนองานแลกหนี้ โดยให้จับตารายงานความเคลื่อนไหวของไกรกูณฑ์

ทันทีที่ใหญ่เดินเข้าบ้าน ไกรกูณฑ์โวยวายที่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของตน ไม่ช่วยแล้วยังมาขวาง ใหญ่พยายามอธิบายที่ทำไปเพราะหวังดีไม่อยากให้ถูกหลอก ไกรกูณฑ์ว่าตนรับมือกษิตได้ ไม่มีวันโดนหลอกง่ายๆ ใหญ่สวนว่าเขาตามเกมกษิตไม่ทันหรอก

“ใช่สิ ผมมันไม่เก่งเหมือนคุณใหญ่ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่เพราะอะไรรู้ไหมผมถึงเป็นแบบนี้ เพราะผมมีพี่แบบคุณใหญ่ไง พี่ที่ไม่เคยสนับสนุน ไม่เคยไว้ใจ ดีแต่ดูถูก คอยกันท่าขัดขวางผมทุกอย่าง คุณใหญ่เหนือกว่าผมก็แค่เรื่องงานเท่านั้นแหละ นอกนั้นคุณใหญ่ไม่มีอะไรเทียบกับผมได้เลย คุณใหญ่ถึงพยายามกดผมไว้ให้ได้ ทำไมผมจะดูคุณใหญ่ไม่ออก เพราะฉะนั้น...อย่าพูดว่าหวังดีกับผมเลย ผมไม่เชื่อ” ไกรกูณฑ์พรั่งพรูระบายความเจ็บช้ำด้วยอารมณ์โกรธ

แววตาใหญ่อ่อนลงไม่นึกว่าน้องจะคิดแบบนี้ ตามจะอธิบาย ธราซึ่งแอบฟังอยู่นานเข้ามาขวาง ให้ปล่อยไกรกูณฑ์ไป พูดตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ ใหญ่ยืนยันไม่เคยคิดแบบนั้นกับน้องเลย ธราทำเป็นเชื่อ ใหญ่บอกว่าพรุ่งนี้ตนจะกลับกรุงเทพฯ ธราตกใจเกรงจะหาทางเล่นงานยาก จึงทำเป็นขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ไว้กลับพร้อมกัน โดยอ้างช่วงนี้เครียด แผลก็ยังเจ็บ อยากพักรักษาตัวให้พร้อมทั้งกายทั้งใจ ค่อยกลับกรุงเทพฯ ใหญ่รับคำด้วยความรัก

“ขอบใจมากลูก แม่ก็ได้ใหญ่นี่แหละที่พึ่งพิงได้ ฝากผีฝากไข้ เสียดายแม่ทำบุญมาน้อยไปหน่อย แม่เลยไม่ได้ใหญ่เป็นลูกในไส้แท้ๆ” ธรายิ่งยกยอปอปั้น

ใหญ่เห็นธราน้ำตาคลอก็สวมกอด บอกตนเหลือเธอคนเดียวในชีวิต ธราแอบเหยียดปากจากนั้นธราก็มาตำหนิไกรกูณฑ์ที่ชอบใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้หัวคิดเสียบ้าง การโวยวายใส่ใหญ่ไม่เป็นผลดีเลยไกรกูณฑ์โวยกลับว่าใหญ่มายุ่งเรื่องส่วนตัวตน ธราโต้ถ้าเป็นเรื่องกษิตตนเห็นด้วย เขาไม่มีทางเอาชนะได้ด้วยตัวเองคำพูดนี้สร้างความเจ็บปวดต่อไกรกูณฑ์อย่างมาก

“นี่ตกลงแม่ต้องการให้ผมทำตัวยังไงกันแน่ แม่พูดกรอกหูผมมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้ผมเอาชนะไอ้ใหญ่ให้ได้ ต้องเก่งต้องดีกว่ามัน ตอนนี้ผมก็กำลังพยายามทำตามทุกอย่าง แต่แม่กลับสั่งให้ผมหยุด...สุดท้ายแม่ก็ไม่เชื่อมั่นในตัวผม เหมือนที่พ่อไม่เคยเชื่อมั่นในตัวผมเลย”

“เลิกคร่ำครวญถึงพ่อแกซะทีเถอะ พ่อที่สร้างแต่ความเจ็บปวด ความทุกข์ใจให้เราสองคนมาตลอดแบบนั้น จะไปพูดถึงเขาอีกทำไม” ธราสวนทันที

ไกรกูณฑ์ชะงักย้อนถามไม่รักพ่อหรือ ธราน้ำตารื้นสั่นสะท้านจากความเจ็บช้ำ ตอบว่ารัก ถ้าไม่รักคงไม่แต่งงานด้วย ตนแอบหวังมาตลอดว่าชาตรีจะหันมารักตนคนเดียว แต่จนกระทั่งวันตาย เขาก็เพ้อหาแต่ดวงดาวแม่ใหญ่ ไกรกูณฑ์สวมกอดปลอบธรา เคียดแค้นใหญ่มากขึ้น

ooooooo

สายวันใหม่ สลิลควบม้ามาข้างรั้วไร่วายุกูลชั่งใจจะเข้าไปดีหรือไม่ ตัดสินใจมุดรั้ว ไกรกูณฑ์มาเห็นแกล้งแซว ทำไมไม่เข้าทางประตู กลัวใหญ่จะหนีไปเหมือนเมื่อวานหรือ สลิลรู้สึกเสียฟอร์มไม่โต้ตอบ เดินเข้าไป ไกรกูณฑ์สะใจแล้วตามมาถามถึงนวลขวัญ สลิลตอกกลับ

“นี่คุณยังกล้าถามถึงพี่ขวัญอีกเหรอ” ไกรกูณฑ์ถามอีกว่าเธอหายโกรธหรือยัง “ยัง และคงจะไม่หายโกรธง่ายๆ คุณเลิกยุ่งกับพี่ขวัญซะทีเถอะ แค่นี้พี่ขวัญก็เสียความรู้สึกมากพอแล้ว”

ไกรกูณฑ์สลดรู้สึกผิด อยากไปหาเธอแต่ก็ลังเล...

ใหญ่กำลังคุยงานกับเลขาทางโทรศัพท์ หันมาเจอสลิลก็ชะงักรีบวางสาย ถามเธออย่างหมางเมินว่ามาเยี่ยมธราหรือ

“หว้ามาหาคุณใหญ่นั่นแหละค่ะ”

“ฉันว่าฉันพูดกับเธอชัดเจนแล้วนะ ทำไมยังไม่เข้าใจอีก” ใหญ่ทำหน้าดุ

“หว้าเข้าใจค่ะว่าคุณใหญ่ไม่อยากให้หว้าเดือดร้อนเพราะคุณใหญ่อีก แต่หว้าก็บอกคุณใหญ่ไปชัดเจนแล้วเหมือนกันว่าหว้าไม่กลัว” ขาดคำก็มีกระถางต้นไม้หล่นมาจากระเบียง

ใหญ่ดึงสลิลหลบได้ทัน เขาสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง สลิลรับรู้ถึงความห่วงใยของเขา ใหญ่มองขึ้นไปไม่เห็นใคร เขายิ่งเข้าใจว่าใครก็ตามที่อยู่ใกล้จะซวยไปหมด...ธราแอบซุ่มหลบอยู่บนระเบียง สีหน้าเจ็บใจปนอิจฉา ไม่อยากเห็นใครมารักใคร่ไยดีใหญ่

ใหญ่เดินมาส่งสลิลขึ้นม้าริมรั้วให้กลับไปแล้วไม่ต้องมาอีก เพราะตนจะกลับกรุงเทพฯแล้ว สลิลตกใจที่เขาไม่คิดตามจับคนร้ายที่ลอบทำร้ายให้ได้ก่อนหรือ ทำไมถึงทนนิ่งเฉยอยู่ได้ ใหญ่สวนกลับเพราะตนกลัว เธอแปลกใจกลัวอะไร

“ฉันกลัวว่าคนที่พยายามจะฆ่าฉันตลอดเวลาไม่ใช่แค่ละเวงคนเดียวอย่างที่เขาสารภาพ ฉันไม่โง่ถึงขนาดที่จะเชื่อทุกคำพูดของละเวงหรอกนะ”

“คุณใหญ่กำลังกลัวว่าคุณละเวงจะร่วมมือกับคุณน้อยเหรอคะ”

ใหญ่สบตาสลิลเศร้าๆ โทษตัวเองเป็นพี่ที่แย่ คิดแบบนั้นกับน้อง สลิลถามอีกถ้าไกรกูณฑ์ร่วมมือด้วยเขาจะจับส่งตำรวจไหม ใหญ่ถอนใจถ้าตนทำอย่างนั้น ธราคงเสียใจมาก ที่ตนนิ่งเฉยเพราะห่วงความรู้สึกธรา สลิลไม่เข้าใจความคิดใหญ่ที่ยอมให้น้องทำร้ายไม่เอาเรื่อง ใหญ่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงขู่ถ้าเธอไม่รีบกลับ ตนจะอุ้มขึ้นม้าเอง สลิลกลัวเขาทำจริง รีบมุดรั้วไปขึ้นม้า

ด้านไกรกูณฑ์มาตามตื๊อขอโทษนวลขวัญที่ไร่ชา ทแกล้วไม่พอใจ เอาปืนมายิงไล่ นวลขวัญเอาตัวบังเพราะลึกๆก็เป็นห่วงไกรกูณฑ์ ทแกล้วโกรธที่พี่สาวปกป้อง จะเอาเรื่องให้ได้ นวลขวัญขอร้องให้ไกรกูณฑ์กลับไป เขาจึงบอกว่าจะกลับมาอีกแน่ ทแกล้วแกล้งลั่นไกยิงเฉียดจนไกรกูณฑ์ตกใจยกมือเหนือหัวยอม ทแกล้วหัวเราะชอบใจทำให้ไกรกูณฑ์โกรธจัดกลับไป...นวลขวัญต่อว่าทแกล้วทำเกินไป ถ้าพลาดขึ้นมาจะเสียใจไปตลอดชีวิต ทแกล้วจ๋อยสลดลง

ไกรกูณฑ์กลับออกมาด้วยความโกรธมาก โทร.จ้างอุศเรนไปดักเล่นงานทแกล้วเป็นการสั่งสอน อุศเรนแปลกใจถามละเวง ทำไมไกรกูณฑ์ให้ตนไปทำร้ายน้องชายคนที่เขาตามจีบ

ละเวงคิดเข้าข้างตัวเอง “คุณน้อยอาจจะไม่ชอบมันแล้วก็ได้ พูดแล้วก็ชักอยากเห็นหน้านังนั่นซะแล้วสิว่าจะสวยสู้ฉันได้ไหม”

อุศเรนว่าวันหลังจะพาไปดู แต่วันนี้ตนต้องรีบไปจัดการให้ไกรกูณฑ์ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจมาซ้อมตนแทน

ooooooo

วิธูมานั่งรอสลิลที่ล็อบบี้รีสอร์ต ทิพวัลย์รีบมาดักสลิลไม่อยากให้เธอเข้าไปพบ สลิลยิ้มๆ ตนเป็นคนโดนทิ้งยังไม่เห็นโกรธเท่าเธอเลย ว่าแล้วก็เดินไปหาวิธู ถามไถ่มีธุระอะไร วิธูกลับตอบว่าไม่มีธุระ แต่มาเพราะคิดถึง สลิลเอ็ดไม่ให้พูดแบบนี้ วิธูจึงขอปรึกษาเรื่องเรืองตะวัน

วิธูบ่นว่าเรืองตะวันเปลี่ยนไปมาก จู้จี้ขี้หึง เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล วันๆเอาแต่ชี้นิ้วสั่ง สลิลแค่นยิ้มเหมือน สมน้ำหน้าตอบว่า น้องสาวตนไม่ได้เปลี่ยน นี่คือนิสัยจริงๆของเธอ เขาจะได้เจออะไรที่น่าปวดหัวอีกมาก วิธูถอนใจเซ็งสุดๆ...สลิลเดินมาส่งวิธูที่รถ บอกเขาให้อดทนกับเรืองตะวันมากๆ ไหนๆก็แต่งงานกันแล้ว ไม่ทันไร เรืองตะวันโผล่มาอาละวาดด่าทอทั้งวิธูและสลิล

ด้านธราวางแผนร้ายบางอย่าง ทำทีไม่สบายขอให้ใหญ่ไปรับภูผามาตรวจอาการ เขาจำใจไปทั้งที่เป็นห่วงอยากให้เธอไปโรงพยาบาลมากกว่า...ใหญ่ขับรถมาตามทาง พบทแกล้วกำลังโดนอุศเรนทำร้าย จึงรีบจอดรถลงไปช่วย อุศเรนเห็นใหญ่จึงรีบขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ใหญ่ช่วยประคองทแกล้วลุกขึ้น เขากลับต่อว่า ว่าเป็นฝีมือไกรกูณฑ์ เพราะเพิ่งมีเรื่องกันเมื่อเช้า

“ฝากไปบอกน้องชายคุณด้วย แน่จริงก็มาเจอกันตัวต่อตัว เป็นคนแท้ๆ อย่าทำนิสัยเป็นหมาลอบกัดอย่างนี้”

ใหญ่หน้าเจื่อน คิดทบทวนไปมา...ขับรถมาถึงบ้านไร่สายน้ำ เห็นสลิลกำลังถูกยื้อยุดก็ปรี่เข้ามาถามเกิดเรื่องอะไร สลิลแนะนำให้รู้จักน้องสาวและวิธู เรืองตะวันมองใหญ่อย่างสนใจ แกล้งพูดประชด “สงสัยจะเป็นแฟนใหม่พี่หว้า หล่อดีนะ”

วิธูหน้าบึ้งเดินปึงปังไปขึ้นรถ เรืองตะวันสะใจเดินตาม สลิลหันมาถามใหญ่มีธุระอะไร เขาบอกว่าธราให้มารับภูผาไปดูอาการป่วย สลิลว่าเรื่องแค่นี้โทร.บอกก็ได้ไม่ต้องเสียเวลามาเอง ใหญ่ตอบว่าธราเกรงใจให้ตนขับรถมารับ ว่าแล้วก็เปรยเรื่องทแกล้วโดนทำร้ายให้ฟัง ตนรู้สึกคุ้นท่าทางและมอเตอร์ไซค์คนร้ายเหมือนคนที่ดักยิงเรา สลิลแปลกใจว่ามาทำร้ายทแกล้วทำไม

“แก้วมั่นใจว่าน้อยส่งคนมาทำร้ายเขา...ขอให้แก้วเข้าใจผิดทีเถอะ” ใหญ่เครียด

“อย่าฟังแก้วมากเลยค่ะ แก้วไม่ชอบคุณน้อยอยู่แล้ว” สลิลพยายามพูดในแง่ดี...

ทแกล้วหน้าตาบอบช้ำกลับมาให้นวลขวัญทำแผล เขาปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือไกรกูณฑ์ นวลขวัญแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ ทแกล้วไม่ยอม จะเอาคืนด้วยตัวเอง เธอจึงต่อว่าที่เป็นแบบนี้เพราะความวู่วามของเขา ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าปรักปรำใคร ทแกล้วยิ่งเจ็บใจหาว่าพี่สาวเข้าข้างใหญ่พาภูผากับสลิลมาหาธรา ภูผาตรวจดูอาการไม่มีอะไรน่าห่วง ใหญ่ยังกังวลอยากให้ธราไปเช็กที่โรงพยาบาลอีกที แต่ธราไม่ไป กลับบอกให้เขาพาสลิลไปเดินเล่น ตนจะคุยกับภูผา

สลิลเดินตามหลังใหญ่ต้อยๆ เอ่ยถามถึงไกรกูณฑ์ ทำไมไม่ดูแลแม่ตัวเองบ้าง สีหน้าใหญ่กังวลอาการป่วยของธรามาก สลิลแอบปลาบปลื้มที่เขากตัญญู จึงปลอบใจ

“มีคุณลุงอยู่ทั้งคน คุณใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณป้าดูเชื่อคุณลุงมาก ถ้าคุณลุงเห็นอาการไม่ดีจริงๆ คงต้องหาทางพาคุณป้าไปโรงพยาบาลจนได้แหละค่ะ”

ภูผาแปลกใจว่าธรามีเรื่องอะไรถึงให้ใหญ่และสลิล ออกไป ธราปั้นหน้าเครียด บอกไม่อยากให้ใหญ่ได้ยิน ตนรู้แก่ใจว่าที่ตนป่วยมาจากความเครียด เรื่องที่ใหญ่ถูกลอบทำร้ายบ่อยๆตนฝันว่าเขาถูกฆ่าตายเลือดท่วมตัว ธราฟูมฟายว่าดวงดาวฝากให้ดูแลใหญ่ แต่ตนกลับช่วยเขาไม่ได้ ภูผากุมมือปลอบ ยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง ธราแอบยิ้มที่เก็บภูผาไว้หลอกใช้ได้

ooooooo

เย็นวันนั้น สลิลมาดูอาการทแกล้วที่ไร่ชา ทแกล้วทึกทักว่าใหญ่กับไกรกูณฑ์ต้องรู้กันที่มาทำร้ายตน เพราะไม่น่าจะผ่านมาพอดิบพอดี สลิลครุ่นคิดไม่ปักใจเชื่อ ทแกล้วชักชวนให้ช่วยกันสืบ ว่าใครกันแน่ที่ต้องการฆ่าใหญ่ เรื่องนี้ต้องมีตื้นลึกหนาบางกว่าที่เห็นแน่

ใหญ่กลับมาคาดคั้นไกรกูณฑ์ยอมรับเป็นคนส่งคนไปทำร้ายทแกล้ว เขาทำฮึดฮัดโกรธที่ปรักปรำว่าตน เป็นผู้ร้าย ในสายตาตลอดเวลา ใหญ่จับตามองพฤติกรรมของน้อง...

วันต่อมา ไกรกูณฑ์สั่งให้อุศเรนหลอกใหญ่มาให้ตนลงมือจัดการเอง ทั้งสองแลกรถกันโดยธราขอให้ใหญ่ช่วยไปซื้อของฝากในเมืองเพื่อเอากลับกรุงเทพฯ เธอทำน้ำส้มคั้นให้เขาดื่มก่อนไป ระหว่างทางที่ใหญ่ขับรถรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย ไม่ทันไรอุศเรนโทร.เข้ามาบอกว่าได้จับตัวสลิลไว้ ถ้าไม่อยากให้เป็นศพก็จงรีบขึ้นมาบนเขาเดี๋ยวนี้ ใหญ่หักรถกลับ มุ่งหน้าขึ้นเขาด้วยความเป็นห่วงสลิลสุดๆ ไกรกูณฑ์ขับรถกระบะของอุศเรนมาดักรออยู่

ส่วนอุศเรนสวมหมวกบังหน้าขับรถสปอร์ตพาละเวงมาในเมือง พลันเห็นทแกล้วกับนวลขวัญถือข้าวของกำลังเดินไปขึ้นรถ อุศเรนชี้ให้ละเวงดูว่าคนนั้นคือนวลขวัญ กิ๊กของไกรกูณฑ์ ละเวงจ้องมองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทแกล้วเห็นรถรีบบอกนวลขวัญว่านั่นไกรกูณฑ์มีแฟนแล้วยังมาหลอกกันอีก นวลขวัญสะท้อนใจ รีบเดินนำไปขึ้นรถ...

ใหญ่บึ่งรถขึ้นเขาจะไปช่วยสลิลทั้งๆที่มึนหัวมากขึ้น จู่ๆก็มีรถกระบะขับมาเบียดจนตกเขา ไกรกูณฑ์ซึ่งเป็นคนขับหัวเราะชอบใจทั้งน้ำตา ที่ไหลมาจากความอัดอั้นกดดันตลอดชีวิต...ผ่านไปไม่นาน ใหญ่ตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาโบกรถขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

พอทางโรงพยาบาลส่งข่าว ธราเจ็บใจ ช่างตายยากตายเย็นเหลือเกิน รีบมาที่โรงพยาบาลพบสลิลกับภูผากำลังดูแลใหญ่อยู่ ที่แขนเขาเข้าเฝือกอ่อน มีแผลถลอกตามตัว ธราทำทีจะเป็นลมภูผาเข้าประคอง สลิลข้องใจ “คราวนี้เป็นอุบัติเหตุหรือมีใครลอบทำร้ายอีกคะคุณป้า”

ธราทำเป็นเสียใจฟูมฟายโทษเคราะห์กรรม พลัน ตำรวจมาขอสอบปากคำเธอถึงกับหน้าซีด ปฏิเสธตนไม่รู้เลยว่าเขามีศัตรูที่ไหนบ้าง แต่สลิลโพล่งขึ้นว่าใหญ่มีเรื่องทะเลาะกับน้องชาย

ooooooo

ไฟในวายุ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด