สมาชิก

ไฟรักเพลิงแค้น

ตอนที่ 9

ความจริงเรื่องวีด้าทำให้ยศสรัลแทบล้มทั้งยืน หนักใจเหลือเกินเมื่อรู้แน่ว่าเธอคงไม่รามือง่ายๆเพราะความแค้นในอดีตที่สุมอกมานาน กำธรย้ำให้ช่วยดูแลลูกสาวบุญธรรม ยศสรัลรับปากหนักแน่น แม้จะลำบากใจไม่น้อยเพราะสิ่งที่วีด้าคิดจะทำอาจสร้างความเดือดร้อนและเสียหายใหญ่หลวงให้แก่ครอบครัวเขา

ยศสรัลบินกลับกรุงเทพฯเย็นวันเดียวกัน ความ เครียดเรื่องวีด้าทำให้ไม่มีอารมณ์คุยกับมณฑิตาซึ่งมารอเขาที่บ้านตั้งแต่บ่าย สินีได้แต่มองหน้ามณฑิตาเจื่อนๆ พูดไม่ออกเหมือนกันที่ลูกชายมีท่าทีหมางเมินและเย็นชาเช่นนี้

เมื่อความอดทนถึงขีดสุด ยศสรัลจึงตัดสินใจนัดเจอวีด้าในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อเจรจาเรื่องทั้งหมด เขาโทร.ไปนัด

“วีด้าผมอยากนัดเจอคุณ”

“ทำไมฉันต้องออกไปพบคุณ”

“ถ้าคุณไม่อยากให้ใครรู้ว่าคุณเป็นลูกน้ากานดากับอาชาติชาย!”

วีด้าหมดทางเลือก จำต้องไปพบเขาตามนัดช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยศสรัลกลัวจะพูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนเคย เลยคิดแผน นัดให้เธอไปเจอที่ท่าเรือ วีด้าแอบหวั่นไม่ใช่น้อยแต่ทำใจดีสู้เสือก้าวขึ้นเรือ ยศสรัลรออยู่แล้วที่ห้องควบคุม เขากดปุ่มสตาร์ตทันที กลัวเธอไหวตัวและหนีลงไปเสียก่อน วีด้าตกใจแหวลั่น

“คุณให้ฉันมาไกลขนาดนี้ แล้วยังมาขึ้นเรือบ้าๆนี่อีก”

“ผมว่าจะพาคุณไปเที่ยวกับผม”

“แล้วจะไปที่อื่นทำไม คุณจะเอายังไงก็ว่ามา”

“ก็เผื่อคุณพูดไม่รู้เรื่อง ผมก็จะได้จับคุณโยนลงทะเลไปเลย”

วีด้าพยายามมองหาทางออก เธอวิ่งไปที่ท้ายเรือแต่ไม่ทันแล้ว...ยศสรัลแล่นเรือห่างจากฝั่งอย่างรวดเร็ว!

ยศสรัลยิ้มยั่วอย่างเป็นต่อ วีด้าโมโหมาก วิ่งไปคว้าห่วงยางกู้ชีพจะกระโดดว่ายกลับฝั่ง ยศสรัลกระโจนไปขวาง จ้องหน้าเธอเอาเรื่องสุดฤทธิ์ ก่อนจะพูดจากวนประสาทแต่แฝงความนัยบางอย่าง

“ทำไม...ออกไปกับผมตามลำพังแค่นี้ คุณกลัวหรือ”

วีด้ามองมาอย่างเจ็บใจ โต้กลับเสียงเขียวว่าคนอย่างเธอไม่มีวันกลัวเรื่องแค่นี้ ยศสรัลยิ้มเยาะ

“ผมก็ว่าอย่างนั้น คนอย่างคุณ...ถ้ากลัวก็คงไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรขนาดนี้หรอก”

วีด้านิ่วหน้าไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร ยศสรัลไม่อธิบาย แถมกวนกลับว่าแค่หยอกเรื่องเธอมาเที่ยวกับเขาเท่านั้น วีด้าหมดความอดทน สั่งให้เขาพากลับฝั่ง แต่ยศสรัลทำหูทวนลมและลากเธอไปนั่งห้องด้านใน วีด้าขืนตัวเต็มกำลังแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนแผน พุ่งไปแย่งพวงมาลัยบังคับเรือจากเขา ยศสรัลเอาตัวบัง พยายามเบี่ยงหลบจนเริ่มรำคาญเลยแขวะกลับถึงวีรกรรมของเธอในอดีต

“เหตุการณ์คุ้นๆเดิมนะ พอแล้ว...ทำอะไรมั่วซั่ว เกิดหลงออกนอกเส้นทางขึ้นมาจะว่าไง”

วีด้าหน้าเจื่อนนึกถึงตอนเธอทำกุญแจเรือเขาหล่นลงทะเลจนต้องติดเกาะ แต่ทิฐิทำให้เลือกโต้กลับอย่างไม่กลัว

“จะว่าไง...ก็ว่าคุณน่ะสิ เป็นความผิดของคุณที่พาฉันมาหลงกลางทะเลนี่”

ยศสรัลส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย ตัดสินใจโอบกอดเธอจากด้านหลัง หวังใช้ความอ่อนโยนกล่อมให้วางมือ

“หลงทางคุณก็กลับลำได้นี่”

“แล้วมันจะกลับยังไงล่ะ ฉันไม่รู้ทางนี่”

“ผมจะพาคุณไปให้ถูกทางเอง”

ยศสรัลกระชับวงแขนแน่น เหมือนจะเป็นคำสัญญาจะพาเธอออกจากเรื่องเลวร้าย วีด้ารู้สึกแปลกๆแต่ยังไม่รู้เรื่องอะไรมาก สติที่เพิ่งรวบรวมได้ทำให้ตัดสินใจสะบัดตัวออกจากเขาอย่างแรง

“ปล่อย...ฉันไม่อยากไปกับคุณ ไม่อยากร่วมทางด้วย ถ้าคุณไม่พาฉันกลับ ฉันจะกลับเอง!”

ooooooo

สองหนุ่มสาวต้องอยู่ด้วยกันบนเรืออีกพักใหญ่ วีด้าตั้งท่าจะกลับฝั่งลูกเดียวจนอีกฝ่ายเริ่มเหนื่อยใจ ยศสรัลบ่ายเบี่ยง ขอให้ถึงสถานที่ที่ตั้งใจพาเธอไปเสียก่อนจึงจะปล่อยกลับ แถมท้าว่าหากอยากกลับตอนนี้ คงต้องกระโดดน้ำว่ายกลับเอง วีด้าอยากเอาชนะเลยเลือกกระโจนลงน้ำ ยศสรัลตกใจหน้าเสีย รีบพุ่งตัวตามลงไปทันที

วีด้าเกาะห่วงยางที่คว้าติดมือมา พยุงตัวเองเต็มกำลังเพื่อว่ายกลับฝั่ง ยศสรัลมาถึงตัวเธอไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น พยายามลากเธอกลับไปที่เรือแต่หญิงสาวขัดขืนเต็มกำลัง แหวกลับว่าไม่มีอารมณ์จะพูดกับเขาแล้ว ยศสรัลเหนื่อยหน่ายกับความดื้อรั้นเต็มที เลยตัดสินใจประชด ผลักห่วงยางไปข้างหน้าและปล่อยให้เธอว่ายกลับฝั่งตามลำพัง

แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอก็ทำให้ยศสรัลหน้าเสีย วีด้าเป็นตะคริวที่ขาและไม่สามารถทรงตัวเอง ในน้ำได้ ความเจ็บปวดทำให้หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กลัวจับใจเพราะคิดว่าคงจะตายเป็นศพที่ก้นทะเลนี้แน่ๆ

ยศสรัลไปถึงตัวเธอในเวลาไม่กี่วินาที ความห่วงใยแล่นจับจิต กลัวหญิงสาวที่แอบมีใจให้มานานต้องตายไปต่อหน้าต่อตาเพราะความหุนหันพลันแล่นของเขา ชายหนุ่มประคองร่างหายใจรวยรินของเธอไปนอนพักบนเรือ เอาผ้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวและตระกองกอดไว้แนบอก อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่มีส่วนทำให้เธอเกือบเสียชีวิต

กว่าวีด้าจะฟื้นก็เป็นเวลาโพล้เพล้เต็มที เธอมองบรรยากาศรอบตัวด้วยความสงสัย สภาพบ้านและห้องเก่าๆแต่สะอาดสะอ้าน ได้ยินเสียงคลื่นลมทะเลแว่วๆทำให้พอเดาได้ว่าเธอกำลังอยู่ที่บ้านริมทะเลสักแห่ง ยศสรัลผลักประตูเข้ามาพอดีพร้อมชาร้อนในมือ หญิงสาวรีบรับมาดื่มด้วยความกระหาย ไม่สนใจแววตาวิบวับและถ้อยคำเย้าแหย่ของเขาเรื่องความสามารถในการว่ายน้ำและเอาตัวรอดของเธอ วีด้าหัวเสียมาก สวนกลับว่าพาเธอมาที่นี่ทำไม

“จับมาขัง...แล้วก็จะไม่ปล่อยไปง่ายๆด้วย”

“จะบ้าเหรอ...เลิกพูดเล่นสักที ไหนบอกมีเรื่องจะคุยกับฉันไง”

“ก็นี่แหละวิธีของผม ภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี”

“นี่คุณหลอกฉันมาขังจริงๆหรือเนี่ย”

“ใช่...คุณจะได้ไม่ไปก่อความวุ่นวายให้ครอบครัวผมอีก”

วีด้าตะลึง แต่ยังทำท่าขึงขัง ตอกกลับว่าไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย ยศสรัลหัวเราะเยาะพร้อมยั่วประสาท

“อย่าคิดหาทางหนีเลยวีด้า...โดนหลอกให้จับมาขังได้ คิดว่าคงไม่ฉลาดพอจะหนีไปได้หรอก”

“อยากขังก็ขังเลย ฉันหายไปติดต่อไม่ได้ คงมีคนไปแจ้งความ แล้วคุณก็จะโดนจับ ใครกันแน่ที่ไม่ฉลาด”

ยศสรัลไม่สะทกสะท้าน เดินไปหยิบกระเป๋าถือของเธอเพื่อหยิบมือถือมาเปิดดูอย่างถือวิสาสะ วีด้าหน้าซีดเผือด ถลาไปแย่งคืน แต่เขายื้อไว้แถมกวนกลับขำๆ

“เดี๋ยวผมจะเป็นเลขา ส่งข้อความให้ทุกคนทราบว่าคุณไปพักผ่อนยาว ห้ามรบกวน”

วีด้าปรี๊ดแตก แหวเขาเสียงเขียวแถมเรียกชื่อเขาเสียเต็มยศ ยศสรัลไม่โกรธ ขำมากกว่าที่เธอเต้นผาง

“เรียกชื่อผมดีๆสิ และอยู่ที่นี่ต้องเรียกผมว่าพี่สรัลนะ เพราะเราคงต้องรื้อฟื้นอดีตกันหน่อยแล้ว”

วีด้าอึ้งไปอึดใจ แต่ยังเชิดใส่ ปฏิเสธไม่ทำตามที่เขาสั่งเด็ดขาด ยศสรัลไม่ถือสาโต้กลับกวนๆ

“ไม่เป็นไร...เถียงได้อย่างนี้ ก็แปลว่าอาการดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวผมจะให้คนเอาข้าวมาให้ แล้วก็จะเอาเสื้อมาให้เปลี่ยนด้วย คุณเปลี่ยนเองไหวใช่ไหม ถ้าไม่ไหวผมจะได้ช่วย”

วีด้าขว้างหมอนใส่ “ไม่ต้อง...จะไปก็รีบไปสิ!”

ยศสรัลเปิดประตูออกไปแล้ว ทิ้งวีด้าให้นั่งหน้าหงิกคนเดียว สักพักก็ตะโกนโหวกเหวก ทุบประตูอย่างบ้าคลั่งให้เขาพาเธอกลับบ้าน ยศสรัลหันกลับไปมอง ส่ายหน้าเนือยๆแล้วลงไปสั่งงานพุฒิกับแก้ว สองหนุ่มสาวคนงานดูแลบ้านริมทะเลของเขา พุฒิสนิทกับเขามากพอจะแหย่ นึกว่าหญิงสาวคนสวยที่พามาด้วยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้านายหนุ่มจึงต้องพามาขังเหมือนในละคร ยศสรัลสะดุ้ง ปฏิเสธพัลวันและสั่งให้เฝ้าดีๆ...ถ้าคิดหนีล่ะก็ แกขู่ฆ่าไปได้เลย!

ooooooo

การหายตัวไปของวีด้าทำให้คัชพลแทบคลั่ง เขาโทร.หาทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับหรือการติดต่อกลับจากเธอ ส่วนวีด้าประสาทเสียไม่แพ้กัน หญิงสาวไม่ยอมกินหรือนอน หวังทรมานตัวเองเรียกร้องความสนใจสุดฤทธิ์ แถมเมื่อสบโอกาสก็จะมุดช่องลมหนีแต่ยศสรัลเข้ามาเห็นเสียก่อน เลยรีบหดตัวกลับจนได้แผลถลอก

ยศสรัลจะดูแผลให้แต่เธอไม่ยอม ท่าทางเหมือนหวงตัวเสียเต็มประดาทำให้เขาอดหมั่นไส้ไม่ได้

“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่ง แค่จะดูว่าถ้าเจ็บมากจะได้สมน้ำหน้า นี่คุณคิดจะหนีหรือไง วิธีไม่สร้างสรรค์เลยนะ”

“ฉันจะหนีมันทุกทางนั่นแหละ แล้วนี่คุณเข้ามาทำไม”

“ลูกน้องผมบอกว่าคุณไม่ยอมกินข้าว”

“ใครจะไปกินลง ไม่ได้มาพักผ่อนตากอากาศ”

“คุณก็ควรกินซะหน่อยเถอะ...จะได้มีแรงหนี”

คำพูดประชดประชันทำให้วีด้าอยากกรีดร้องระบายอารมณ์ แต่ที่ทำได้ก็แค่ไปนอนที่เตียง ไม่พูดไม่จาเหมือนเด็กดื้อ ทันใดนั้น...จู่ๆไฟก็ดับเหมือนโดนผีหลอก วีด้าตกใจกรี๊ดลั่น ยศสรัลหัวเราะเบาๆ บอกว่าที่เกาะจะตัดไฟตั้งแต่หัวค่ำ วีด้าถอนใจโล่งอก แหวเขาเสียงเขียวว่าเมื่อไหร่จะพากลับบ้าน ยศสรัลจ้องหน้า พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าเมื่อเธอเลิกอาฆาตแค้นครอบครัวเขา วีด้าแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้จนเขาเอือมระอา

“วีด้า...ไม่ใช่สิ...แพร ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิดครอบครัวผมอยู่ ผมอยากให้คุณหยุดเรื่องทุกอย่างที่คุณคิดจะทำและยอมรับความจริงเรื่องคุณพ่อคุณแม่คุณ ต้นเหตุมันไม่น่าจะมาจากพ่อผม มันน่าจะเป็นความเข้าใจผิด”

“พ่อคุณนั่นแหละเป็นต้นเหตุและนิสัยสกปรกยังติดมาถึงคุณด้วย ถึงได้จับฉันมาแบบนี้”

“อย่ามาดูถูกพ่อผมนะ!”

“ฉันจะดูถูก...เพราะพ่อคุณมันเลว”

ยศสรัลพยายามควบคุมสติที่จะขาดผึงในอีกไม่กี่นาที สุดท้ายก็ปึงปังออกจากห้อง ไม่อยากเห็นหน้าและลงไม้ลงมือกับหญิงสาว พุฒิผ่านมาเห็นเลยแกล้งแหย่

“นายทิ้งเมียมาอย่างนี้ได้ยังไง ตอนกลางคืนหนาวๆ เย็นๆ อย่างนี้มันต้องนอนกอดกันสิ”

“ทะลึ่ง...แล้วขอสั่งไว้เลยนะ ห้ามใครไปทำทะลึ่งกับเขาเด็ดขาด แล้วก็คอยเฝ้าให้ดีด้วย อย่าให้คลาดสายตา”

แต่ถึงจะทำขึงขังแบบนั้น ยศสรัลก็ใจแข็งไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง สภาพอ่อนระโหยโรยแรงของวีด้าในเช้าวันถัดมา ทำให้เขาต้องขอร้องให้เธอทานข้าวหรือน้ำบ้าง แต่เธอก็นิ่งเฉย ไม่ยอมพูดจาอะไรกับเขาเหมือนเดิม

“วีด้า...โอเค เรื่องเมื่อวานผมขอโทษ คุณจะอภัยให้ผมแล้วลุกมากินข้าวได้ไหม”

วีด้าเมินหน้าหนี ล้มตัวลงนอนพร้อมหันหลังให้ ยศสรัลได้แต่มองตามเครียดๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กดื้อดี!

เวลาเดียวกันที่บ้านบัญชา...คัชพลหงุดหงิดงุ่นง่านจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด พอสินีทราบเรื่องก็หัวเสีย ไม่ชอบใจเลยที่ลูกชายหลงวีด้าจนโงหัวไม่ขึ้น คัชพลนิ่วหน้า แอบเคืองที่แม่พูดถึงคนรักไม่ดีเลย

“ใหญ่ติดต่อเขาไม่ได้ แปลว่าเขาไม่อยากให้ใหญ่รู้ว่าเขาไปไหน ไปกับใคร”

“เอาอีกแล้วนะครับคุณแม่ ทำไมต้องใส่ร้ายเขาด้วย”

“เอาเถอะ...แม่ขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้ว เอาไว้ให้ลูกตาสว่างเองก็แล้วกัน”

คัชพลถอนใจหน่ายๆ เลยเปลี่ยนเรื่องถามถึงน้องชายคนกลาง สินีบอกว่ายศสรัลไปดูงานกับเพื่อนที่ ต่างจังหวัด คัชพลอึ้งไปอึดใจ ความระแวงทำให้แอบคิดว่าน้องชายอาจอยู่กับวีด้า และเขาก็ไม่ยอมเก็บความสงสัยไว้นาน จึงตัดสินใจโทร.หาเลขาส่วนตัวของยศสรัลในบ่ายวันเดียวกัน ไม่มีใครรู้เรื่องยศสรัลไปต่างจังหวัดอย่างที่คาด แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจกว่าคือยศสรัลเพิ่งกลับจากสิงคโปร์เมื่อวันก่อนเพราะมีนัดพบกับกำธร!

ooooooo

แม้จะหิวและแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว แต่วีด้าก็มองหาทางหนีทีไล่ตลอด หญิงสาวลงทุนซุกไม้แขวนเสื้อไว้ใต้เตียง เมื่อยศสรัลโผล่มาพร้อมอาหารกับน้ำดื่มก็ตั้งท่าจะฟาด ดีที่ยศสรัลคว้าไว้ทันและรวบตัวเธอมากอด

“คิดจะฆ่ากันหรือไง ไม้แค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก”

“ปล่อยฉันนะ ถ้าฉันตีคุณตั้งแต่แรก คุณได้หัวแตกตายไปแล้วแน่ๆ”

“แล้วทำไมไม่ตีซะล่ะ...ห่วงผมหรือไง”

“ฝันไปเถอะว่าฉันจะห่วง ฉันไม่โหดร้ายพอหรอก... ปล่อยนะ”

“ไม่ปล่อย...เอาสิ...มีแรงดิ้นได้ก็ดิ้นไป”

วีด้าพยายามออกแรงมากขึ้น รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย ผลักตัวเขาแล้ววิ่งออกไปข้างนอก ยศสรัลตามติด เห็นเธอตะโกนโหวกเหวกขอให้พุฒิกับแก้วช่วยเลยพุ่งไปรวบตัวไว้ แถมหอมแก้มโชว์อีกต่างหาก คนงานหนุ่มสาวหัวเราะขำขัน แอบเขินแทนไม่น้อยที่เจ้านายหนุ่มแสดงความหวานอย่างที่ไม่เคยมาก่อน

วีด้าสู้แรงไม่ไหว เลยถูกลากกลับเข้าไปในห้อง ยศสรัลนั่งมองหน้าเธอเซ็งๆ คร้านจะปรามเด็กดื้ออย่างเธอเต็มที วีด้าส่งสายตาอ้อนวอนขอให้พากลับบ้าน ยศสรัลปฏิเสธ เธอเลยตัดสินใจจะหาทางกลับเอง

“ยังไงฉันก็จะกลับ ต่อให้ไปตายกลางทาง ฉันก็ยอม...ดีกว่าต้องอยู่กับคุณที่นี่”

ยศสรัลยื่นข้อเสนออีกครั้งให้ยกเลิกแผนร้ายแล้วจะปล่อยกลับ แต่วีด้าไม่ยอมโต้เสียงเข้ม

“คนชั่วมันต้องถูกลงโทษอย่างสาสม”

ยศสรัลจนปัญญาต้องอ้างถึงกานดา “ถ้าคุณไม่รับปากยอมเลิกสิ่งที่คุณทำ ผมจะไม่ปล่อยคุณ และคุณจะไม่ได้กลับไปหาแม่คุณ ท่านคงต้องคอยคุณไปตลอด คิดแล้วน่าสงสารน้ากานดานะ ถ้าไม่มีใครดูแล”

วีด้าหัวใจหล่นวูบ ความโกรธแล่นไปทั่วร่างเมื่อเขาพาดพิงถึงแม่ ยศสรัลพยายามกล่อมให้ล้มเลิกแผนร้ายอีกแต่วีด้าไม่ยอม แถมร้องไห้โฮด้วยความเก็บกดที่ไม่มีใครเข้าใจ ยศสรัลจำต้องทิ้งเธอไว้คนเดียว ไม่อยากกวนใจเธออีกเพราะกลัวเรื่องจะไปกันใหญ่ แต่เมื่อยกถาดข้าวมาให้ในตอนเย็น วีด้าก็ยังอยู่สภาพเดิม

“หยุดร้องเถอะนะ แล้วกินข้าวเสียหน่อย อย่าทำให้ผมเป็นห่วง”

“เป็นห่วงเหรอ...เป็นห่วงแล้วทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ทำไมฉันต้องกลายเป็นนักโทษ...เป็นคนผิด เป็นคนทำลายครอบครัวคุณ คุณไม่รู้อะไรเลยเหรอว่าพ่อคุณทำอะไรไว้กับพ่อฉันบ้าง จนพ่อฉันต้องตาย แม่ก็เสียสติ ใครกันแน่ที่ทำลายใคร ภาพพ่อคุณทำร้ายพ่อฉันมันยังติดในหัวฉันมาตลอดเกือบยี่สิบปี บอกไว้เลยว่าฉันไม่มีวันอภัยให้”

“วีด้า...คุณมั่นใจได้ยังไงว่าพ่อของผมเป็นคนทำ ถ้าทำจริงเขาคงมาไม่ถึงจุดนี้ ที่ผมเห็น...พ่อไม่เคยมีศัตรู”

“อยากเห็นใช่ไหมว่าพ่อคุณเลวแค่ไหน ฉันจะกระชากหน้ากากมาให้ดู และจะทำให้เขากระอักเลือดตาย”

“ถ้างั้นเราคงต้องเป็นศัตรูกัน เพราะผมจะปกป้องครอบครัวผมจนถึงที่สุดเหมือนกัน!”

ยศสรัลหุนหันออกไปแล้ว ทิ้งวีด้าให้ก้มหน้าร้องไห้คนเดียวด้วยความคับแค้นใจ เมื่อแก้วเข้ามาพร้อมอาหารในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมาก็ไม่สนใจ พุฒิเฝ้ามองดูเหตุการณ์ของเจ้านายหนุ่มยิ้มๆ ไม่กังวลใจเลยเพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องพ่อแง่แม่งอนของหนุ่มสาว ต่างจากยศสรัลที่จนปัญญาจะเกลี้ยกล่อมวีด้า ไม่ว่าเขาพูดอะไรเธอก็แถไปได้เรื่อยๆ แถมไม่ยอมล้มเลิกแผนการชั่วร้ายอีกต่างหาก...นี่ฉันควรจะทำอย่างไรกับเธอดี

ในขณะที่ยศสรัลกลุ้มใจแทบแย่ วีด้าที่อดอาหารและอดนอนมาหลายชั่วโมงก็ล้มป่วย หญิงสาวตัวร้อนจัดจนแก้วซึ่งเข้ามาดูแลตกใจ เมื่อยศสรัลทราบเรื่องก็ละทิ้งทุกอย่าง รีบไปอุ้มเธอออกจากห้อง มุ่งหน้าไปที่เรือ พุฒิเห็นว่าคลื่นลมแรงเลยถลันไปขวาง แต่ยศสรัลไม่สนใจเพราะเป็นห่วงวีด้า

“แล้วจะให้ฉันทำยังไง แถวนี้โรงพยาบาลก็ไม่มี จะปล่อยให้เขาตายหรือไง”

“ฉันว่าเขาน่าจะอ่อนเพลียเพราะอดอาหารเลยเป็นไข้ นายใจเย็นๆก่อนนะ” แก้วแจงเสียงอ่อน

ยศสรัลมองหน้าขาวซีดและอาการสั่นเทาเพราะพิษไข้ของหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิด อดโทษตัวเองไม่ได้ที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด เขานั่งมองแก้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวเพื่อลดไข้ไม่ห่าง แถมนอนเฝ้าคนป่วยทั้งคืนอย่างไม่รู้ จักเหน็ดจักเหนื่อย หวังชดเชยความรู้สึกผิดในใจที่ลากเธอมาทรมานเช่นนี้

ooooooo

คัชพลไม่ละความพยายามโทร.หาวีด้าแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็รอคอยยศสรัลกลับบ้านด้วยความร้อนใจ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าน้องชายตัวดีจะกลับมา เสือผู้หญิงคนดังโมโหหึงมาก อาละวาดขว้างปาข้าวของจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด...ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ อย่าบอกนะว่าวีด้ากับไอ้สรัลอยู่ด้วยกัน!

 ฟากวีด้านอนละเมอถึงแม่จนยศสรัลใจอ่อนยวบ เขาต้องกอดปลอบเธอทั้งคืนด้วยความเวทนา แต่เมื่อวีด้าตื่นมาตอนเช้า เห็นเขานอนใกล้ๆก็ตกใจผลักออก แหวลั่นว่าทำไมไม่ปล่อยให้เธอตาย

 “ผมไม่อยากปล่อยให้คุณตาย เพราะผมไม่ใจร้ายเหมือนคุณ”

 “ถ้าฉันใจร้าย...พ่อคุณคงเป็นปีศาจ เพราะเขาร้ายกว่าฉันหลายเท่า”

“หยุดกล่าวหาพ่อผมซะที”

“คุณควรจะรับความจริงให้ได้ ว่าพ่อคุณน่ะมัน ซาตานฆ่าคนตาย ทำลายครอบครัวคนอื่น พ่อคุณไม่สมควรเกิดมาเป็นคน...เพราะพ่อคุณมันไม่ใช่คน ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดพ่อคุณ...ฉันเกลียดครอบครัวคุณ!”

ถ้อยคำสาปส่งและเสียงร้องไห้ของเธอทำให้ยศสรัล สงสาร เขาเข้าไปกอดปลอบ แต่เธอขืนตัวจะไม่ยอมให้เข้าใกล้ แต่ถึงกระนั้น ยศสรัลก็ไม่ละความพยายามกระชับอ้อมแขนแน่น...เจ็บปวดไม่แพ้กันที่ทำให้เธอเสียใจ

เช้าวันเดียวกันที่บริษัทวีด้า...คัชพลไปดักรอและถามไถ่เลขาส่วนตัวของคนรักถึงเหตุการณ์ก่อนวีด้าจะหายตัวไป เลขาสาวทำท่าอึกอัก บอกว่าได้รับข้อความจากเจ้านายสาว จะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดและพักผ่อนอีกหลายวัน คัชพลไม่อยากเชื่อ คาดคั้นว่าใครคือคนที่ติดต่อวีด้าเป็นคนสุดท้าย เลขามีท่าทางลังเลใจ แต่สุดท้ายก็จำต้องบอกว่ายศสรัลเป็นคนโทร.มาก่อนที่วีด้าจะหายตัวไป

คัชพลหัวเสียมาก สั่งให้เลขาและผู้ช่วยโทร.หา น้องชายจนกว่าจะพบ ส่วนคนที่กังวลใจไม่แพ้กันคือ เกรซ การหายตัวไปของเพื่อนรักโดยที่ติดต่อไม่ได้ทำ ให้แทบนั่งไม่ติด ดนัยเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนกังวลอะไรบางอย่างก็สงสัย แต่เกรซไม่ยอมขยายความอะไรมาก นอกจากบอกว่าเป็นห่วงเพราะวีด้าไม่กลับคอนโดหลายวันแล้ว

ขณะที่ทุกคนเริ่มวิตก ยศสรัลก็ตัดสินใจจะพาวีด้ากลับ เป็นห่วงกลัวเธอล้มป่วยอีก แถมยังเหนื่อยเกินกว่าจะเกลี้ยกล่อมเธอเรื่องความแค้น เขาบอกให้เธอกินข้าว จะได้มีแรงเดินทางกลับบ้าน วีด้าไม่อยากจะเชื่อ

“ถ้าเราจะเอาชนะกันจนตายไปข้างมันจะได้อะไร รีบกินซะ”

วีด้ายอมทานข้าวเป็นครั้งแรก และตั้งหน้าตั้งตาเก็บข้าวของเกลื่อนกลาดในห้องเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน แต่คงใช้แรงมากไป อาการป่วยจึงกำเริบและจะทรุดกับพื้น ยศสรัลถลาไปประคองแต่เธอสะบัดตัวออก

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเดินของฉันเองได้ คุณไม่ต้องมายุ่ง...ปล่อย”

“อย่ามาทำเป็นอวดเก่งหน่อยเลย แค่เดินไม่กี่ก้าวยังเซขนาดนี้”

 วีด้าขืนตัว ไม่อยากให้เขาทำดีด้วยเพราะกลัว ใจอ่อน พุฒิยุให้อุ้มไปขึ้นเรือ ยศสรัลจะทำจริงๆแต่วีด้าไม่ยอม

 “ตกลงไม่หยุดพยศใช่ไหม ได้...ถ้างั้นเราจะอยู่กันต่อ”

 วีด้าเงียบทันที กลัวเขาทำตามที่ขู่ ยศสรัลอมยิ้มบางๆ พยุงเธอขึ้นเรือด้วยความระมัดระวัง แถมช่วยดูแลอย่างดีตลอดทางกลับบ้าน แต่ถึงกระนั้นวีด้าก็อดแขวะไม่ได้ว่าอยากจะทุ่มเขาลงทะเล

 “ผมยินดีถ้ามันจะช่วยให้คุณหายแค้นครอบครัวผมลงบ้าง”

น้ำเสียงจริงจังของเขาทำให้วีด้าพูดไม่ออก ทึ่งไม่น้อยที่เขาเสียสละเพื่อครอบครัวขนาดนี้ ยศสรัลเห็นเธออ่อนท่าทีลงเลยตัดสินใจไปนั่งใกล้ๆพร้อมเอ่ยเสียงอ่อน

“วีด้า...ผมอยากตกลงกับคุณดีๆ ตอนนี้คุณพ่อผมกำลังป่วย ไม่รู้ว่าจะรักษาหายไหม ผมอยากให้คุณเลิกอาฆาตแค้นท่าน...รับปากกับผมได้ไหม...น้องแพร”

วีด้าอึ้งไปอึดใจ สะเทือนใจเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต แต่เพราะทิฐิเลยสวนกลับว่าแพรคนนั้นตายไปนานแล้ว

“น้องแพรที่ผมเคยรู้จักไม่ใช่คนเลว เธอคนนั้นยังอยู่ และผมก็เชื่อว่าเธอจะฟังคำขอร้องของผม”

“มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรือคะคุณยศสรัล”

“ผมรู้ว่าไม่ง่าย ผมเข้าใจความเจ็บปวดของคุณ บอกผมสิว่าอะไรที่ชดเชยความผิดได้ ผมยินดีชดใช้ทุกอย่าง”

“ชดใช้ชีวิตพ่อแม่ฉันคืนมา หรือเอาชีวิตพ่อคุณมาแทน!”

ooooooo

ยศสรัลผิดหวังมากที่ความพยายามจะเปลี่ยนใจวีด้าไม่ได้ผลแม้แต่น้อย สองหนุ่มสาวไม่ได้คุยกันอีก เพราะรู้ดีว่าอารมณ์พลุ่งพล่านคงทำให้พูดกันไม่รู้เรื่อง วีด้าเปิดมือถือดูตอนถึงคอนโดแล้ว เห็นมีคนโทร.มาไม่น้อยกว่าร้อยสาย โดยเฉพาะคัชพล ดนัยและเกรซ

ดนัยได้รับโทรศัพท์จากวีด้าในเย็นวันเดียวกัน แต่เธอก็ไม่ได้ขยายความอะไรมาก นอกจากข้อแก้ตัวแบบขอไปทีว่าอยากพักผ่อนเงียบๆที่ต่างจังหวัด ชายหนุ่มไม่ยอมเก็บความสงสัยไว้นาน เขาตัดสินใจนัดเกรซมาคุยเพื่อซักถามความจริงเกี่ยวกับวีด้า เพราะเชื่อว่าเกรซต้องช่วยเพื่อนรักปิดบังอะไรบางอย่าง

“วีด้าหายไป เกรซก็ร้อนรนเป็นห่วงมาก กลัวว่าวีด้าจะมีอันตราย มันหมายความว่ายังไงครับ”

“เอ่อ...ดนัยอย่าถามอะไรเกรซเลยนะคะ เกรซอธิบายไม่ถูกหรอกค่ะ”

“ผมคงต้องถามเกรซ เพราะน่าจะรู้ทุกอย่าง...ใช่ไหมครับ”

ในขณะที่ความลับของวีด้าจะถูกเปิดเผย ยศสรัลต้องรับศึกหนักจากคัชพลที่พุ่งมาเอาเรื่องทันทีที่ถึงบ้าน

“ไอ้น้องชั่ว...แกทำอย่างนี้ได้ยังไง แกพาวีด้าหายไปไหนมา แกทำอะไรเขา”

“ใจเย็นๆก่อนพี่ใหญ่ ผมไม่ได้ทำอะไรเธอ”

 “แกพาเขาหายไป แล้วบอกไม่ได้ทำอะไรเหรอ แกคิดจะแย่งแฟนฉันใช่ไหมไอ้สรัล”

คัชพลไม่ฟังอะไรอีกต่อไป กระชากน้องชายไปใกล้และเงื้อมือสูงจะชกหน้า สินีปรี่เข้ามาห้าม ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกชายทั้งสองจะต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้ แต่เมื่อทราบเหตุผลจากคัชพลว่ายศสรัลพาวีด้าไปต่างจังหวัดก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า เจ็บใจเหลือเกินที่เห็นว่าลูกชายต้องมาทะเลาะกันเพราะผู้หญิงหลายหน้าคนนั้น

“สรัล...แกพามันไปทำไม แล้วจะบ้ากันใหญ่แล้ว พี่น้องจะฆ่ากันตายเพราะนังวีด้าเนี่ยนะ”

“ไอ้สรัล...แกฟังให้ดีนะ ถ้าแกยังไปยุ่งวุ่นวายกับวีด้าอีก...แกตายแน่”

ยศสรัลไม่ทันโต้พี่ชาย สินีก็ชิงประกาศให้คัชพลเลิกข้องเกี่ยวกับวีด้า แถมหันมาย้ำกับยศสรัล

“ส่วนแก...สรัล...ถ้าแกยังไปยุ่งเกี่ยวกับมัน แม่นี่แหละจะจัดการขั้นเด็ดขาดเอง!”

ฝ่ายดนัยถึงกับพูดไม่ออกเมื่อรู้ความจริงของวีด้า เกรซทำหน้าลำบากใจ แต่เห็นว่าเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าจะเก็บเอาไว้คนเดียวอีกแล้ว “ทั้งเรื่องหมั้นกับนายคัชพล เรื่องลงทุนธุรกิจทั้งหมดก็เพื่อต้องการแก้แค้นแทนพ่อแม่ เกรซไม่รู้จะห้ามวีด้ายังไง แต่ถ้าเป็นดนัย...อาจจะหยุดวีด้าได้ก็ได้”

ดนัยถอนหายใจหนักหน่วงและคิดจะไปบอกกำธร เกรซคิดว่าคงไม่มีประโยชน์ เพราะกำธรรู้แล้ว เขาพยายามห้ามปรามวีด้าหลายหน แต่คงไม่ได้ผลเพราะวีด้าใจแข็งเกินไป...คงต้องให้เจอและรับบทเรียนเอาเอง

ด้านคัชพล...แม้จะถูกแม่สั่งขาดไม่ให้ยุ่งกับวีด้าอีก แต่เขาก็ดื้อไม่ฟังและออกไปหาคนรักแต่เช้าของวันถัดมา

“ต่อไปอย่าไปยุ่งกับไอ้สรัล เพราะผมไม่ไว้ใจมัน มันไม่ควรติดต่อคุณแบบนี้ ความจริงคุณน่าจะบอกผม”

วีด้าโกหกหน้าตายว่าไม่รู้เรื่อง คิดว่าเขารู้แล้วเลยไม่ได้บอก คัชพลส่ายหน้าเซ็งๆ ถ้ารู้เขาคงไม่เป็นบ้าแบบนี้

วีด้าคร้านจะเถียงด้วย เลยพูดปัดว่าจะไม่ไปไหนกับ

ยศสรัลอีก เพราะเธอก็ไม่ไว้ใจเขาเหมือนกัน คัชพลเอะใจคำพูดแปลกๆของคนรักแต่ไม่คิดมาก เพราะ

ความหึงหวงมีมากกว่าและคิดว่าต้องตีตราจองวีด้า

อย่างเป็นทางการเสียที

“วีด้าครับ...ผมว่าเราน่าจะรีบแต่งงานกัน แต่งงานกับผมนะ”

“แล้วคุณแม่คุณล่ะคะ”

“ผมไม่แคร์...แค่เราสองคนรักกันก็พอ”

“แต่วีด้าแคร์ค่ะ ถ้าคุณแม่คุณไม่ยอมรับ ก็จะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นเด็ดขาด!”

ooooooo

คำปฏิเสธของวีด้าทำให้คัชพลหัวเสียมาก จนไม่มีแก่ใจจะทำงานหรือพูดคุยกับใคร ยศสรัลต้องเข้าประชุมและดูงานทุกอย่างแทนพี่ชาย กลุ้มใจเหลือเกินที่คัชพลหลงวีด้าจนไม่เป็นอันทำอะไรเช่นนี้

คัชพลหงุดหงิดจนต้องหาทางระบายความเครียด เขาโทร.เรียกอดีตคู่ขาหลายคนมาเป็นเพื่อนดื่ม แต่ไม่ทันได้คำตอบก็ต้องยิ้มร้าย เมื่อเห็นคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาในร้านเดียวกัน มณฑิตายิ้มให้พี่ชายว่าที่คู่หมั้นเป็นเชิงทักทาย แปลกใจไม่น้อยที่เห็นเขาที่นี่ เช่นเดียวกับคัชพลที่ไม่คิดว่าสาวสังคมชั้นสูงอย่างมณฑิตาจะชอบเที่ยวกลางคืน

“ฮึ...อย่าพูดเรื่องของมณเลยค่ะ ว่าแต่พี่ใหญ่ทำไมมานั่งคนเดียว หรือว่าวิญญาณเสือร้ายที่เก็บเข้ากรงไว้มันทนไม่ไหวต้องออกมาล่าเหยื่อ อย่าบอกนะคะว่าเบื่อยายวีด้าแล้ว”

“พี่น่ะหรือเบื่อ...รักมากขึ้นทุกวันต่างหาก”

“ดูให้เกียรติจังเลยนะคะ”

“ไม่ชอบก็เปลี่ยนเรื่องคุยสิ พี่ก็อยากเปลี่ยนเรื่องเหมือนกัน”

 พนักงานนำเครื่องดื่มอย่างแรงมาเสิร์ฟให้มณฑิตา คัชพลเห็นเข้าเลยเตือนด้วยความหวังดี

“ดื่มของแรงอย่างนี้ ระวังเมานะ”

“อย่าดูถูกผู้หญิงอย่างมณฑิตาสิคะ”

“งั้นแสดงว่าคืนนี้พี่เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อเข้าซะแล้ว”

“ก็ต้องลองดูค่ะ พี่ใหญ่อย่าแพ้มณแล้วกัน”

สองหนุ่มสาวมองหน้ากันด้วยสายตาบางอย่าง ชนเครื่องดื่มสีสวยแต่ฤทธิ์ร้อนแรงอยู่หลายชั่วโมงจนล่วงเข้าวันใหม่ พนักงานเดินมาบอกว่าร้านจะปิด แต่สองหนุ่มสาวที่เมาไม่ได้สติ คิดว่ายังไม่ถึงเวลากลับบ้าน

“ไม่ได้นะมณ ต้องแข่งกันให้รู้ว่าใครคอแข็งกว่ากัน ไปๆ...เราไปหาที่ดื่มกันต่อ”

“จะดีเหรอคะพี่ใหญ่”

“อ้าว...มณกลัวแพ้แล้วล่ะสิ”

“ใครว่า...คนอย่างมณฑิตาไม่ยอมแพ้ง่ายๆอยู่แล้ว”

“งั้นเราไปต่อกันข้างบนดีกว่า จะได้ไม่มีใครรบกวนเรา”

สองหนุ่มสาวประคองกันออกจากร้านด้วยความทุลักทุเล แต่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเย้ายวนบางอย่าง คัชพลส่งสายตาหวานเยิ้มให้ว่าที่คู่หมั้นของ

น้องชาย มณฑิตายิ้มและยอมให้เขาลากเข้าห้องไปในที่สุด...

คืนเดียวกันที่บ้านบัญชา...สินีหนักใจเรื่องบรรดาลูกชายกับวีด้ามาก เลยไปลงกับยศสรัล พยายามคาดคั้นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้พาวีด้าไปต่างจังหวัด ลูกชายคนกลางบ่ายเบี่ยงจนเธอเหลืออด

“อย่าให้แม่อกแตกตายนะสรัล เล่ามาซิว่าไปไหนกับมันมา แล้วไปทำไม”

“ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี คุณแม่อย่าถามผมเลยครับ ผมไม่มีอะไรจะบอกจริงๆ”

ยศสรัลตัดสินใจหมุนตัวกลับห้อง ไม่อยากเผชิญ หน้าแม่ให้ลำบากใจอีก แต่ถึงกระนั้น กว่าเขาจะข่มตาหลับก็เป็นเวลาเกือบเช้าเพราะมัวคิดถึงวีด้า...ผมควรทำอย่างไรกับคุณดี ถึงจะลบความแค้นของคุณได้

ความเครียดที่สั่งสมมาหลายวันทำให้ยศสรัลตื่นนอนอย่างไม่สดชื่นนัก แถมต้องมารับศึกหนัก เพราะบัญชาอาละวาดจนสินีหลุดปากบอกเรื่องเขาป่วยเป็นมะเร็งตับออกไป บัญชาหน้าซีดเผือดโวยลั่น

“ทำไม...ปิดฉันทำไม กลัวฉันจะอยู่นานไปหรือไง”

 “ไม่ใช่นะครับคุณพ่อ แต่พวกเรากลัวคุณพ่อจะไม่สบายใจ”

บัญชาเครียดหนัก ความรักตัวกลัวตายทำให้กลัวจนบอกไม่ถูก ยศสรัลต้องเดินเข้ามาโอบปลอบ

“คุณพ่อครับ อาการของคุณพ่อยังอยู่ในขั้นต้น

ถ้าคุณพ่อไม่เครียดและทำทุกอย่างตามที่คุณหมอสั่ง คุณพ่อก็ต้องหาย แล้วทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมนะครับ”

คำพูดของลูกชายไม่ได้ทำให้บัญชามั่นใจเลยแม้แต่น้อย “กลับไปเหมือนเดิมงั้นหรือ แล้วถ้ามันไม่กลับล่ะ แกจะช่วยอะไรฉันได้ ฉันยังไม่อยากตาย ฉันต้องหาย ฉันจะต้องรักษาตัวจนหายใช่ไหมสรัล”

“ครับ...คุณพ่อจะไม่เป็นอะไร เราต้องรักษาให้หายนะครับ”

บัญชาถอนใจหนักหน่วง โกรธตัวเองที่เป็นโรคร้าย ยศสรัลกับสินีมองหน้ากันเครียดๆ สงสารบัญชาเหลือเกิน

ooooooo

แม้จะกลุ้มจนเผลอไปมีสัมพันธ์ลับๆกับมณฑิตา แต่คัชพลก็ไม่สนใจ ยังคงเทความสนใจทุกอย่างให้วีด้าเหมือนเดิม แถมเอาอกเอาใจมากกว่าเก่าด้วยซ้ำเพราะกลัวเสียเธอให้คนอื่น ยศสรัลเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความอึดอัดใจ รู้ดีว่าวีด้าไม่เคยมีใจกับคัชพล แต่ที่เอาตัวมาใกล้ก็เพื่อการล้างแค้นเท่านั้น!

ฟากดนัยเก็บเรื่องที่ทราบจากเกรซไปคิดอย่างหนัก ในที่สุดก็ตัดสินใจไปเจอวีด้าเพื่อกล่อมให้หยุดเรื่องทั้งหมด วีด้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่เมื่อถูกไล่ต้อนมากขึ้นเลยต้องยอมรับ

 “ผมอยากให้คุณหยุด ก่อนที่คุณจะถอนตัวไม่ขึ้น ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ชีวิตของคุณต้องเดินหน้า เชื่อผมเถอะนะวีด้า มันยังมีอะไรดีๆรอคุณอีกเยอะ อย่ากลับไปมองอดีตที่จะทำให้ชีวิตคุณแย่เลย”

“ถึงวีด้าอยากจะหยุดตอนนี้ มันก็ยังหยุดไม่ได้ค่ะ มันเป็นเรื่องธุรกิจ ถ้าจะหยุดคงต้องใช้เวลา”

“รีบเคลียร์ทุกอย่างนะวีด้า อย่าเดินหน้าต่อไปเลย เริ่มต้นใหม่กับผม เราไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกกันก็ได้”

“แล้วจะปล่อยให้คนเลวอย่างนายบัญชาอยู่ลอยนวลสบายๆต่อไปหรือ”

“คนเรามีกรรมเป็นตัวกำหนด ถ้าเขาทำไม่ดีกรรมมันจะสนองเขาเอง ทำไมคุณต้องเอาตัวไปเสี่ยงแบบนั้น”

ดนัยส่งยิ้มให้กำลังใจ วีด้าลังเล ยังทำใจไม่ได้จะปล่อยให้ศัตรูของครอบครัวลอยนวล

“เชื่อผมนะวีด้า...และต่อไปผมจะอยู่ข้างๆคุณ ผมจะไม่ยอมให้คุณห่างผมไปอีก”

 น้ำเสียงปลอบประโลมของดนัย พร้อมอ้อมแขนอบอุ่นทำให้วีด้าเริ่มหวั่นไหว แต่ทิฐิทำให้ยังใจแข็งไม่ยอมรับปาก สองหนุ่มสาวร่ำลากันที่ลานจอดรถคอนโดไม่รู้เลยว่าคัชพลที่ให้ลูกน้องตามสืบที่อยู่ของวีด้ามาถึงทันเห็นภาพบาดใจพอดี...ไอ้ดนัย มึงกล้าดียังไงมายุ่งกับผู้หญิงของกู!

คัชพลกลับบ้านด้วยความแค้นใจ ไม่อยากโผล่ไปให้วีด้าเห็นตอนนี้เพราะไม่อยู่ในอารมณ์จะพลอดรัก ส่วนหญิงสาวคนกลางไม่รู้เรื่อง ตัดสินใจไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลประสาทเพื่อขอกำลังใจ แต่ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพยาบาลแจ้งว่ามีญาติมาพากานดาไปนั่งเล่นในสวน วีด้ารีบขอดูรายชื่อคนมาเยี่ยม...มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวคนเดียวและญาติคนเดียวที่เหลือของกานดาก็คือเธอ

วีด้าใช้เวลาไม่นานก็วิ่งหน้าตื่นไปยังสวนของโรงพยาบาล หญิงสาวกวาดตามองรอบๆ แล้วต้องตะลึงตาค้างเมื่อเห็นชายหนุ่มที่มาเยี่ยมแม่เต็มๆตา บัญชานั่นเองที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับแม่ วีด้าพยายามรวบรวมสติที่แตกกระเจิงกลับมาและหามุมลับตาเพื่อแอบฟังสิ่งที่บัญชากำลังคุยกับแม่

“กานดา...มองผมสิ ฮึ...คุณไม่เคยมองผมเลย คุณคิดว่าจะหนีพ้นหรือ สุดท้ายผมก็ตามคุณจนเจอ ได้ยินผมพูดใช่ไหม ถ้าเมื่อก่อนคุณเลือกรักผมแทนไอ้ชาติชาย คุณคงไม่เจอสภาพแบบนี้หรอก”

 บัญชามองมาด้วยสายตาเจ็บปวด วีด้ายกมือปิดปากแน่น ไม่อยากเชื่อว่าบัญชาจะหลงรักแม่เธอมาก่อน

“ไอ้ชาติชายมันมีอะไรดี คุณถึงไปเลือกมัน รักมันจนกลายเป็นคนบ้า เมื่อไหร่คุณจะหาย คุณจะได้เห็นว่าทุกวันนี้ผมมีทุกอย่าง ผมเหนือกว่ามันทุกอย่าง มองผมสิ คุณเห็นไหม”

น้ำเสียงดุดันและดังขึ้นทุกทีทำให้กานดาตกใจกลัว มองซ้ายมองขวาหาทางหนี บัญชาแหวลั่น

“ผมบอกให้มองผม รักมันมาก ทำไมไม่ไปอยู่กับมันให้สิ้นเรื่องสิ้นราวล่ะ ทำไมต้องเป็นผมที่ต้องไปเจอกับมัน”

กานดากลัวมาก พยายามดิ้นหนีจนหล่นจากรถเข็น วีด้าจะเข้าไปช่วย แต่พยาบาลปราดมาถึงตัวแม่เสียก่อน บัญชาแก้ตัวแกนๆว่ากานดาอาการกำเริบ เขาจะจับตัวแล้วแต่ไม่ทัน พยาบาลไม่ติดใจอะไรและเรียกเจ้าหน้าที่อีกคนมาช่วยพากานดากลับห้อง วีด้ารีบหลบตามไปน้ำตาคลอด้วยความเจ็บแค้น เข้าใจแล้วว่าทำไมบัญชาถึงต้องทำกับครอบครัวเธอขนาดนั้น...ฉันไม่มีวันอภัยให้แกแน่นายบัญชา!

เวลาเดียวกันที่บริษัทของดนัย...ชายหนุ่มกำลังดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลัง เมื่อถูกชายนิรนามจำนวนหนึ่งเข้ามาจับตัวอย่างอุกอาจ ดนัยพยายามจะหนีแต่ก็ไม่รอด ถูกเหล่าคนร้ายลากตัวไปที่โกดังร้างจนได้ คัชพลไม่รอช้าจะเปิดเผยตัวว่าเป็นคนบงการเรื่องทั้งหมด และสั่งให้ลูกน้องซ้อมดนัยจนน่วม โทษฐานมายุ่งกับผู้หญิงของเขา

ฟากวีด้านั่งตัวสั่นด้วยความแค้นใจ คำพูดของบัญชาลอยวนเวียนในหัวจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เกรซซึ่งแวะมาเยี่ยมเพื่อนรักในบ่ายวันเดียวกันพยายามจับต้นชนปลายเรื่องทั้งหมด แล้วถึงกับกุมขมับ

“อะไรกันเนี่ย ฉันนึกว่าจะจบแล้วเชียว แล้วทำไมนายบัญชาถึงมาหาน้ากานดาได้ แล้วทำไม...”

“ในที่สุดฉันก็รู้สาเหตุที่นายบัญชามันทำกับครอบครัวฉัน...มันแค้นที่คุณแม่ไม่รักมัน”

“วีด้า...ยิ่งรู้ว่าเขาร้ายแบบนี้ แกก็ถอนตัวซะเถอะ”

 “มันบังคับให้ฉันเดินหน้า และครั้งนี้ฉันจะไม่เลิกถ้ามันไม่ย่อยยับไปกับตา”

เกรซกลุ้มใจเหลือเกินที่เปลี่ยนใจเพื่อนรักไม่ได้ ทันใดนั้นเอง...มือถือวีด้าก็ดังขึ้น คัชพลโทร.มาบอกเรื่องดนัย พร้อมประกาศกร้าวไม่ชอบให้เธออยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง วีด้าใจไม่ดีรีบไปที่โรงพยาบาล สภาพดนัยที่บอบช้ำทั้งตัวทำให้โกรธจัด แต่คัชพลกลับไม่สำนึกและเปรยเสียงเย็นเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด

“จากนี้คุณคงรู้แล้วนะว่าผมไม่ชอบเวลาเห็นผู้ชายคนไหนเข้าใกล้คุณ”

วีด้ามองมานิ่งๆแล้วตบหน้าเขาอย่างแรง “จำไว้นะว่าฉันไม่ชอบเหมือนกันที่จะคบกับพวกอันธพาลอย่างคุณ”

 วีด้าออกปากไล่กลับบ้าน คัชพลอึ้งไปอึดใจไม่เคยเห็นและไม่อยากเชื่อว่าคนรักจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้

 

ooooooo

ไฟรักเพลิงแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด