สมาชิก

ไฟรักเพลิงแค้น

ตอนที่ 5

เบื้องหลังธุรกิจใหญ่โตและเงินทุนมหาศาลของบัญชาคือธุรกิจฟอกเงินในตลาดมืดที่ลงมือทำเองมานาน และเปลี่ยนมือให้คัชพลร่วมด้วยเมื่อไม่นานมานี้ แต่พักหลังๆเหมือนจะเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีคู่แข่งมาก รวมทั้งมีสายตำรวจจับตามองตลอดเวลา ทำให้การดำเนินงานธุรกิจสกปรกนี้ต้องผ่านขั้นตอนซับซ้อนมากขึ้นทุกที

นักสืบเอกชนที่วีด้าลงทุนจ้างมาอย่างลับๆเพื่อสืบเรื่องธุรกิจของครอบครัวบัญชาก็เริ่มได้กลิ่นไม่ดี เขาแฝงตัวในคราบของพนักงานฝ่ายเทคนิคเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจดูข้อมูลส่วนต่างๆ นอกจากนี้ยังแอบขโมยข้อมูลลับบางส่วน โดยเฉพาะเอกสารการเงินของบริษัทที่ดูสวยงามและตรวจสอบง่ายจนเกินไป แต่ที่ทำให้วีด้าสะดุดใจ สุดๆคงเป็นภาพถ่ายของบัญชากับคัชพลที่พบปะกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งทุกวันหยุดสุดสัปดาห์

“มันไม่ค่อยดีตรงที่พวกนี้เหมือนจะเป็นนักธุรกิจ แต่ทำไมผมหาข้อมูลการทำธุรกิจของพวกเขาไม่ได้เลย”
 
วีด้าพยักหน้ารับรู้ เมื่อแยกกับนักสืบก็เอาข้อมูลที่ได้มาไปตรวจสอบ ยิ้มร้ายเมื่อเห็นความผิดปกติของข้อมูล หญิงสาวไม่รอช้าจัดแจงจดทุกอย่างในบันทึกลับและเตรียมเล่นงานครอบครัวที่ทำให้เธอต้องเป็นเด็กกำพร้าเช่นนี้

ข้อมูลที่ได้มาทำให้วีด้ากระหยิ่มใจไม่น้อย เธอนัดเจอกับคัชพลในวันรุ่งขึ้นเพื่อไปทานข้าวที่บ้านเขาเป็นครั้งแรก เมื่อธัญกรทราบเรื่องก็ไม่พอใจมาก หึงที่เธอยอมเปิดตัวกับครอบครัวเขาอย่างเป็นทางการ วีด้าไม่ยี่หระท่าทางมึนตึงของธัญกรและไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลประสาทในบ่ายวันเดียวกัน

“แม่คะ...หนูกำลังจะได้เจอศัตรูแล้ว หนูต้องรู้ให้ได้ว่ามันทำอะไรที่ผิดกฎหมายและหนูจะหาทางเล่นงานมัน!”

ฝ่ายยศสรัลเครียดไม่ต่างจากธัญกร แต่เพราะกังวลมากกว่าว่าวีด้าจะแฝงเจตนาไม่ดี แต่คนที่ทำให้เครียดกว่าคือมณฑิตาซึ่งได้รับเชิญด้วยเย็นวันเดียวกัน เธอทำตัวติดหนึบเหมือนปลิง แสดงความเป็นเจ้าของและเป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อได้ยินพนักงานสาวๆคุยกันเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษของยศสรัล แต่ที่ทำให้เธอแทบปรี๊ดแตกคือเมื่อได้ยินสาวๆหลายคนนินทาว่าความสัมพันธ์ของเธอกับว่าที่คู่หมั้นหนุ่มเป็นแค่เรื่องเอาใจผู้ใหญ่

ยศสรัลรับฟังทุกอย่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย แถมตัดบทไล่เธอไปรอที่บ้านก่อนเพราะเขามีงานต้องทำอีกมาก มณฑิตาไม่ยอมแพ้ ตื๊อขอรอไปพร้อมกับเขา ยศสรัลต้องยอมอย่างเสียไม่ได้ ตัดปัญหาจะได้ไม่ต้องโดนแม่บ่น!

ooooooo

บ้านบัญชาได้ต้อนรับแขกคนสำคัญในเย็นวันนั้นเอง วีด้าแสร้งทำเป็นประหม่าและตื่นเต้นจะได้เจอครอบครัวของคัชพล ยศสรัลกับมณฑิตารอที่บ้านแล้ว โดยมีสินีตระเตรียมทุกอย่างเพื่อต้อนรับหญิงสาวคนพิเศษของลูกชายคนโต มณฑิตาเฝ้ามองด้วยความหมั่นไส้ และเมื่อวีด้ามาถึงก็แกล้งจับมือยศสรัลเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ

วีด้าปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว แม้ในใจจะลุกเป็นไฟด้วยความแค้นและอยากตรงไปข่วนหน้าทุกคนในครอบครัวบัญชามากแค่ไหน สินีมองคู่เดตคนล่าสุดของคัชพลด้วยความชื่นชม แสดงความเป็นกันเองอย่างออกนอกหน้าจนวีด้าต้องทำเป็นเขินที่ได้รับการต้อนรับดีเกินคาด

“ห้ามเรียกคุณป้านะ ดูห่างเหินยังไงไม่รู้ ไม่ต้องอายหรอก แม่เห็นหนูเหมือนลูก...ไหนเรียกแม่หน่อยสิจ๊ะ”

วีด้าแกล้งเออออห่อหมกเอาใจ คัชพลภูมิใจที่เธอทำตัวน่ารัก ยศสรัลลอบมองตามคู่เดตของพี่ชายไม่วางตาจนมณฑิตาอดหึงไม่ได้ แต่ไม่ทันทำอะไรบัญชาก็มาทักทายเสียก่อน พร้อมกับปิติคนสนิทที่เป็นผู้ช่วยให้กับเขามานาน

การปรากฏตัวของคนที่เฝ้ารอมานานทำให้วีด้าใจเต้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ไม่ใช่เพราะความรักหรือชื่นชมแต่เป็นเพราะความแค้นที่สุมอกมานานตั้งแต่จำความได้ วีด้าลอบมองปิติเพราะจำได้ว่าคือคนในภาพถ่ายที่นักสืบนำมาให้เมื่อวันก่อน ส่วนบัญชาชอบใจวีด้ามาก ทั้งความสวยและอัธยาศัยเป็นกันเองและดูฉลาดมากกว่าที่คิด

“ใหญ่ชมหนูวีด้าให้พ่อฟังไม่หยุด หนูคงเก่งเหมือนคุณอากำธร อาหนูนี่เก่งจริงๆ...น่าชื่นชม”

“คุณพ่อก็เก่งนะคะ หนูเห็นหุ้นของบริษัทคุณพ่อขึ้นทุกวันเลย สวนทางกับตลาด”

“วีด้านี่ถ้าจะขยันมากนะ บริหารบริษัทตัวเองแล้วยังมีเวลาติดตามข่าวสารธุรกิจคนอื่น”

คัชพลปลื้มที่หาหญิงสาวมาถูกใจคนทั้งบ้าน วีด้าตีหน้าซื่อ ถ่อมตัวและชวนบัญชาคุยเรื่องธุรกิจ

“แล้วคุณพ่อมีแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไรบ้างคะ บอกให้เป็นความรู้เผื่อหนูจะนำไปใช้”

“ทำธุรกิจต้องฉับไว ใจกล้า รู้จักแข่งขัน”

“และช่วงชิงโอกาส!”

วีด้ายิ้มบางๆ พยายามข่มอารมณ์อย่างสุดความสามารถ ไม่ให้หลุดสีหน้าแค้นใจออกมาเป็นอันขาด แต่ดูจะไม่มีใครจับสังเกตมากนัก เพราะมัวประทับใจความคล่องแคล่วและความรอบรู้ของเธอ คัชพลกับวีด้ายิ้มให้กันเขินๆ สินีเสริมว่าบัญชาไม่ค่อยถูกใจใครง่ายๆ วีด้า คงเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก มณฑิตามองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความอิจฉาที่มีคนขโมยความเด่น เลยแขวะวีด้าด้วยคำพูดที่ทำให้ยศสรัลขำไม่ออก

“คุณวีด้านี่เป็นผู้หญิงมีเสน่ห์จริงๆนะคะ รู้จักใช้เสน่ห์ตัวเองให้คนรัก...ยังไงมณก็ขอเว้นสรัลไว้คนนะคะ”

“วีด้าก็ไม่ได้สังเกตคุณสรัลซะด้วยสิคะ ต้องลองถามดูว่ามาหลงเสน่ห์วีด้าด้วยหรือเปล่า”

ทุกคนในบ้านยกเว้นยศสรัลกับมณฑิตาหัวเราะชอบใจ โดยเฉพาะลูกชายคนกลางของบ้านที่ถูกพาดพิงโดยไม่ทันตั้งตัวถึงกับหน้าม้านที่ว่าที่คู่หมั้นประกาศศึกเต็มรูปแบบกับคนโปรดคนใหม่ของครอบครัวแบบนั้น เช่นเดียวกับสินีที่มองมาด้วยสายตาตำหนิ มณฑิตาได้แต่ฮึดฮัดคนเดียว หงุดหงิดที่ทำอะไรวีด้าไม่ได้...มีแต่คนปกป้องตลอด!

เมื่อได้อยู่ตามลำพัง...คัชพลก็เอ่ยปากชมไม่ขาดปาก ปลื้มใจมากที่วีด้าเข้ากับบัญชาได้ดี

“คงเป็นเพราะว่าวีด้ากับคุณพ่อคุณมีความคิดหลายอย่างที่เหมือนกัน”

“นั่นสิครับ...ต่อไปคุณพ่อคงได้คู่สนทนาธุรกิจคนใหม่แล้ว”

สองคนยิ้มและหยอกล้อกันอย่างมีความสุข ก่อนที่วีด้าจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่แท้ที่จริงคือต้องการหาโอกาสสืบหาข้อมูลของบัญชา ยศสรัลที่เพิ่งขอตัวจากมณฑิตาเพราะขี้เกียจฟังเธอบ่น ผ่านมาเห็นวีด้ากำลังทำลับๆล่อๆที่หน้าห้องบัญชาจึงตัดสินใจร้องทัก วีด้ามีท่าทางพิรุธแต่ยังทำใจดีสู้เสือบอกว่าหาทางเข้าห้องน้ำ

“ห้องน้ำอยู่ด้านใน เดี๋ยวผมพาไป คุณจะได้ไม่หลง”

“คุณไปอยู่กับคู่หมั้นคุณดีกว่า เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิด”

“ผมนึกว่าคุณจะชอบทำให้คนเข้าใจผิด นิสัยคุณไม่ใช่หรือ...ทั้งนายเล็ก ทั้งพี่ใหญ่”

“ความจริงเขาก็น่าสนใจทั้งคู่นะ ฉันยังเลือกไม่ถูกเลย”

ยศสรัลจะสวน แต่เห็นมณฑิตาตามหาเขาเสียก่อนเลยต้องผละไปอย่างเสียไม่ได้ ทิ้งให้สองสาวเผชิญหน้ากัน โดยมณฑิตาเป็นฝ่ายหาเรื่องและประกาศตัวเป็นศัตรูกับวีด้าอย่างเต็มรูปแบบ

“คุณมณควรดูแลคนของคุณจะดีกว่า อย่าให้มาวุ่นวายกับฉัน เพราะการเป็นศัตรูกับฉัน คุณจะได้ไม่คุ้มเสีย”

วีด้าสะบัดหน้าออกไปแล้ว ทิ้งมณฑิตาให้มองตามด้วยความเจ็บใจ...ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!

ooooooo

การทานข้าวเปิดตัววีด้าที่บ้านบัญชาเป็นไปด้วยดี แม้ยศสรัลจะขุ่นเคืองใจบ้างที่หญิงสาวแสดงตัวออกนอกหน้าว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเขาเสียเต็มประดา ต่างจากบัญชากับสินีที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนถึงขั้นเดินไปส่งวีด้าขึ้นรถกลับบ้าน แต่ดันสวนทางกับธัญกรที่เพิ่งกลับมาพร้อมกับส่งตาขวางมาทางวีด้า

บัญชาไม่พอใจมาก ฝากฝังให้วีด้าดูแลลูกชายคนเล็กอย่างดี ถ้าผิดก็ให้สั่งสอน อย่าให้เสื่อมเสียมาถึงเขา วีด้าพยักหน้ารับยิ้มๆ ไม่ถือสาท่าทางเหมือนเอาเรื่องของธัญกรนัก เพราะรู้ดีว่าเฮี้ยวไปแบบนั้นเอง...เดี๋ยวง้อก็หาย!

ในขณะที่แผนล้างแค้นของวีด้าเป็นไปด้วยดี...ดนัยกลับร้อนรนอย่างหนัก ช้ำใจที่ถูกวีด้าทิ้งไปคบกับคัชพล เขาจมกับความผิดหวังและดื่มหนักเพื่อลืมเรื่องราวดีๆในอดีต เกรซผ่านมาเห็นเลยเข้าไปคุยด้วย

“ถ้าวีด้ารู้ว่าคุณเป็นอย่างนี้ เขาก็คงไม่สบายใจหรอกนะคะ”

“ผมทราบครับว่าวีด้าเป็นห่วงผม...แบบเพื่อน อย่าไปบอกนะครับว่าเจอผมในสภาพนี้ เดี๋ยวเขาจะไม่สบายใจ...จนเสียสมาธิกับสิ่งที่เขาทำ”

“คุณรู้หรือคะว่าวีด้ากำลังทำอะไร”

“ไม่รู้หรอกครับ แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ผมเชื่อว่าเขาคงมีเหตุผลของเขา”

ดนัยมีท่าทางเหม่อลอยและเซื่องซึมจนเกรซนึกเป็นห่วง เช้าวันต่อมาเลยต้องไปหาเพื่อนรักที่สปอร์ตคลับ ขอร้องให้บอกเรื่องแก้แค้น จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ แต่วีด้ายืนกรานไม่ยอมเพราะกลัวเรื่องบานปลาย

“แกคิดว่าถ้าดนัยรู้เรื่องแล้วจะยอมให้ฉันทำเหรอ ก็ต้องปล่อยไปแบบนี้แหละ”

“วีด้า...ดนัยไม่สำคัญสำหรับแกเลยเหรอ”

วีด้าไม่ตอบและพุ่งตัวลงสระน้ำเพื่อตัดบท เกรซมองตามด้วยความหนักใจที่เพื่อนหมกมุ่นเรื่องแก้แค้นจนลืมคิดถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง และยิ่งไม่สบายใจหนักเมื่อเห็นเพื่อนรักเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ตามลำพัง นัยว่าคงเป็นเรื่องสำคัญที่ให้นักสืบตามดูบัญชากับคัชพล แถมวีด้ายังไม่ยอมปริปากพูดอะไรเพราะไม่อยากให้เพื่อนรักไม่สบายใจ

เวลาเดียวกันที่โกดังขนส่งท่าเรือแห่งหนึ่ง...นักสืบเอกชนที่วีด้าจ้างมากำลังจับตาดูบัญชากับคัชพลเจรจาบางอย่างกับคนกลุ่มหนึ่งด้วยท่าทางน่าสงสัย โดยมีปิติดูต้นทางให้เหมือนทุกครั้ง ข้อความที่แอบได้ยินเกี่ยวกับการฟอกเงินทำบ่อนจำนวนมหาศาล นักสืบเก็บข้อมูลอย่างใจเย็นแต่ดันพลาดทำเสียงขลุกขลักให้กลายเป็นที่สนใจเสียก่อน!

บัญชาหัวเสียมาก สั่งให้คัชพลกับปิติตามจับมาให้ได้ เพราะหากเรื่องทั้งหมดถูกแพร่งพรายจะพังกันไปหมด

ฝ่ายนักสืบวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน แต่ยังหาโอกาสโทร.หาวีด้าแจ้งเรื่องข้อมูลลับว่าคงใช้เวลาสักพักถึงจะนำไปให้ได้เพราะต้องหาทางหนีออกมาให้ได้เสียก่อน วีด้าเริ่มเป็นกังวล กลัวเขาต้องมาเป็นอันตรายเพราะสืบเรื่องให้เธอ แต่ทุกอย่างก็เหมือนจะสายเกินไป เพราะพวกคัชพลเจอนักสืบเจ้าปัญหาเสียก่อนและลงมือสังหารอย่างเลือดเย็น ทั้งๆที่เขายังไม่ได้วางสายจากวีด้าด้วยซ้ำ!

ooooooo

บัญชากับคัชพลเครียดหนักที่มีคนตามสืบเรื่องธุรกิจฟอกเงิน แม้จะกำจัดคนส่งข่าวทันเวลาแต่ก็ไม่แน่ใจว่าคนจ้างมาต้องการอะไรกันแน่ บัญชายิ้มเหี้ยมบอกว่าจะจัดการให้สิ้นซาก...อย่าให้รู้นะว่ามึงเป็นใคร

ส่วนวีด้าประสาทเสียอย่างหนักเมื่อได้ยินเสียงปืนลั่นจากมือถือ ความรู้สึกกลัวจับจิต รวมทั้งความรู้สึกผิดที่มีส่วนส่งเขาไปตายถาโถมจนทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวรีบเอามือถือรุ่นโบราณมาแกะซิมออกเพื่อกำจัดเบอร์ที่ใช้ติดต่อกับนักสืบทิ้ง ไม่อยากให้คัชพลหรือบัญชาไหวตัวทันและตามสืบถึงตัวเธอ แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะความลุกลี้ลุกลนของเธอแท้ๆ ทำให้ยศสรัลที่ผ่านมาเห็นโดยบังเอิญเอะใจและตามมาคุยด้วยที่รถ

ยศสรัลมีท่าทีเป็นห่วงหญิงสาวตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเธอแสดงท่าทีเหมือนตื่นกลัวอะไรบางอย่าง ยิ่งทำให้อยากเสนอตัวปกป้อง แต่เหมือนวีด้าจะไม่ให้ความร่วมมือและขับรถจากไป ไม่อยากให้เขาจับสังเกตและซักไซ้จนเป็นที่สงสัยมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ยศสรัลก็ไม่ละความพยายามขับรถตามไปด้วยความเป็นห่วง

วีด้าลนลานจนขาดสติ การควบคุมพวงมาลัยที่เคยทำได้ดีจึงมีปัญหาและเกือบประสบอุบัติเหตุถึงสองครั้งระหว่างทางกลับบ้าน ยศสรัลทวีความเป็นห่วงและตัดสินใจเผชิญหน้ากับเธอที่ประตูบ้าน วีด้าเบือนหน้าหนีและพยายามไล่เขากลับบ้านแต่เหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจและโพล่งถามเสียงเข้ม

“ถามจริงๆ ผมทำอะไรให้คุณเกลียดหรือไม่พอใจ จงเกลียดจงชังอะไรผมนักหนา...หรือเพราะผมรู้ทันคุณ”

“ทำไมฉันต้องบอกเหตุผลคุณ”

“ก็คุณเป็นแฟนพี่ใหญ่ ผมเป็นน้องชายเขา เราไม่ควรจะเป็นศัตรูกัน”

“แต่ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่เราจะต้องเป็นมิตรกัน”

“คุณเป็นผู้หญิงชัดเจนดีนะ เป็นมิตรเฉพาะผู้ชายที่ตัวเองสนใจ แต่กล้าเป็นศัตรูกับน้องชายเขา”

ยศสรัลยิ้มกวนประสาท วีด้าหมดแรงจะเถียงเลยไล่เขากลับบ้านดื้อๆ ชายหนุ่มได้แต่มองมาด้วยความไม่เข้าใจ อยากอยู่เป็นเพื่อนเพราะเป็นห่วง แต่เหมือนเธอจะไม่ต้องการและอยากอยู่คนเดียวมากกว่า

ฝั่งบัญชาเขวี้ยงแฟ้มงานลงพื้นระบายอารมณ์โมโหที่ลูกชายคนโตสะเพร่า ทำให้นักสืบเอกชนแอบมาสมัครงานในฝ่ายเทคนิค คัชพลหน้าเสีย รีบรายงานความเสียหายว่ามีเพียงข้อมูลการเงินเท่านั้นที่หายไป

“ผมก็สงสัย ข้อมูลสินค้า ลูกค้าหรือแผนการตลาดกลับไม่โดนขโมย ไม่รู้ว่าคนจ้างมันจะเอาอะไร”

“เรื่องอื่นฉันไม่สน แต่ถ้ามีใครรู้เรื่องฟอกเงิน แกกับฉันเสร็จแน่!”

ด้านวีด้า...คิดไม่ตกเรื่องการตายของนักสืบเอกชน เมื่อเกรซมาหาในเช้าวันถัดมาจึงตัดสินใจสารภาพความจริงว่าเป็นคนสั่งให้สืบเรื่องบัญชาจนนักสืบต้องตาย เกรซใจหายวาบ พูดไม่ออกว่าควรจะปลอบอย่างไรดี

“เกรซ...ฉันอยากแจ้งความ แต่ฉันติดต่อญาติเขาไม่ได้เลย ข้อมูลของนักสืบคนนั้นเป็นความลับหมด”

“ถ้าแกไปแจ้งความ พวกนั้นสืบถึงตัวแกแน่”

“ฉันก็ต้องหาวิธีแจ้งให้พวกนั้นรู้ไม่ได้ใช่ไหม”

“หยุดได้แล้วนะวีด้า ฉันกลัวแกเป็นอันตราย ถ้าวันหนึ่งนายบัญชารู้ว่าแกคือใคร มันต้องไม่ปล่อยแกไว้แน่”

“ฉัน...หยุดไม่ได้ แต่ฉันจะไม่ให้ใครมาเดือดร้อนอีก และมันจะต้องโดนตำรวจจับข้อหาฆ่าคนตาย!”

ooooooo

ถึงจะประกาศต่อหน้าเกรซว่าไม่ยี่หระกับอิทธิพล ของบัญชา แต่ความกลัวก็ทำให้วีด้าร้อนรนจนนั่งไม่ติด คัชพลเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่เอะใจแม้แต่น้อยว่าเธอจะเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายเมื่อหลายวันก่อน เขาพยายามเอาใจและดูแลเป็นพิเศษ แต่หญิงสาวก็บ่ายเบี่ยง ยังไม่พร้อมจะสู้หน้าและรับมือศัตรูคนสำคัญ

สุดท้ายวีด้าก็ทนไม่ไหวและขอให้เกรซช่วยหาคอนโด อยากย้ายไปอยู่ข้างนอกเพราะไม่อยากให้คนใกล้ชิดเดือดร้อน เกรซยอมตามใจอย่างเสียไม่ได้ เมื่อทราบเหตุผลว่าเพราะยศสรัลเคยตามไปถึงบ้านก็อดแปลกใจไม่ได้ ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะผูกใจเจ็บแค้นเขาด้วย ทั้งที่เมื่อก่อนก็เคยมีความรู้สึกดีๆให้กัน

วีด้าดุเพื่อนกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจ “อย่ามานอกเรื่อง นายสรัลรู้ที่อยู่ฉัน ต่อไปนายคัชพลก็ต้องรู้ด้วย ฉันย้ายมาอยู่คอนโดน่าจะสะดวกกว่า แล้วฉันก็ไม่อยากให้คุณอากำธรรู้เรื่องนี้”

เกรซคร้านจะต่อปากต่อคำกับเพื่อนรักอีก ได้แต่ปล่อยให้สุดแท้แต่เวรกรรม...ใครทำอะไรก็ย่อมได้อย่างนั้น

วีด้าเก็บคำเตือนของเพื่อนไปคิดมากจนฝันเลอะเทอะ เหงื่อแตกพลั่กเพราะในฝันต้องวิ่งหนีบัญชาที่ตามฆ่า โดยมียศสรัลดูแลปกป้องไม่ห่าง หญิงสาวสะดุ้งตื่นเช้าตรู่ของวันถัดมา...อยากจะบ้าที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้!

เช้าวันเดียวกันที่บริษัทของบัญชา...พนักงานทุกคนแตกตื่นเพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายมาขอตรวจสอบภายในบริษัท บัญชาใจไม่ดีแต่ยังพยายามเก็บอาการ โดยมีคัชพลคอยรับหน้าตำรวจไม่ห่างกันนั้น แสร้งตีหน้าขรึมและให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะเชื่อว่าจัดการปกปิดหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนยศสรัลมองเหตุการณ์ทุกอย่างงงๆ อยากเข้าไปถามจากพ่อและพี่ชายให้รู้เรื่องแต่ยังไม่มีโอกาส

เมื่อตำรวจกลับไปแล้ว บัญชาก็อาละวาดอย่างหนัก โวยวายเสียงดังลั่นห้องทำงานที่หาคนจ้างวานนักสืบเอกชนไม่ได้ แถมปล่อยให้มีเรื่องฟ้องร้องจนต้องไปเกี่ยวพันกับคดีความอีกต่างหาก คัชพลสันนิษฐานว่าอาจเป็นฝีมือคนนอกบริษัทเพราะเชื่อว่าเรื่องฟอกเงินเป็นความลับที่แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่เคยรู้

“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ถ้ามันขวางทางเราก็ต้องกำจัดมันให้เร็วที่สุด”

“ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าผมรู้เมื่อไหร่ ผมจัดการมันแน่!”

ในขณะที่บัญชากับคัชพลตามหาตัวศัตรูที่มองไม่เห็นเป็นการใหญ่ วีด้าได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดีการตายของนักสืบเอกชนเป็นพิเศษว่าจากการตรวจสอบบริษัทของบัญชายังไม่มีหลักฐานแน่นอน แต่เชื่อว่ามีมูลบางอย่างน่าสงสัยตามที่หญิงสาวให้การก่อนหน้านี้ วีด้าได้แต่ทำใจและเตือนตัวเองให้เข้มแข็ง ไม่อยากให้ใครจับได้ว่ากำลังหวาดกลัวและขวัญเสียสุดขีดที่มีคนตายเพราะเธอ...

ฝ่ายดนัยยังทำใจไม่ได้เรื่องวีด้า และหนีไปนั่งปลงทุกข์ที่ร้านกาแฟซึ่งเคยมากับเธอประจำ เกรซเป็นขาประจำร้านนี้เช่นกันและผ่านมาเห็นและตรงเข้าไปพูดจาปลอบใจเหมือนเคย ดนัยถอนหายใจหนักหน่วง

“ผมนี่มันดื้อจริงๆเลยนะ ขนาดเขาบอกให้ผมไม่ต้องรอ ผมก็ยังตัดใจจากเขาไม่ได้”

เกรซมองมาด้วยความเห็นใจและสงสาร พยายาม ปลอบว่าเข้าใจความรู้สึกของเขาดีแต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ผล

“ผมว่าวีด้าคงรักคุณคัชพลแล้วล่ะ”

“เกรซบอกแล้วไงคะว่าวีด้าไม่มีทางรักคุณคัชพล”

“คุณพูดเหมือนรู้อะไร เล่าให้ผมฟังได้ไหม”

“เอ่อ...เกรซไม่รู้อะไรค่ะ ดนัยอย่าถามเกรซเลยนะคะ ตอนนี้เกรซก็พยายามจะเข้าใจวีด้าเหมือนกัน”

ดนัยไม่สบายใจขึ้นเลย เกรซเลยอาสาพาไปร้องคาราโอเกะ หวังว่าเสียงเพลงและเสียงหัวเราะจะทำให้เขายิ้มได้บ้าง แต่กลับกลายเป็นเขาต้องช่วยเธอจากกลุ่มอันธพาลที่พยายามลวนลามเธอระหว่างเดินไปขึ้นรถ ดนัยไม่ถือเป็นบุญคุณตามประสาสุภาพบุรุษ เกรซเลยได้เห็นอีกด้านของเขาและแอบชื่นชมโดยไม่รู้ตัว

ooooooo

วีด้าตัดสินใจวางแผนดึงบัญชามาร่วมทุนกับเธอเพื่อเก็บข้อมูลและทำให้ตายใจ หญิงสาวเริ่มแผนด้วยการเปิดประชุมภายในบริษัทเพื่อริเริ่มโครงการใหม่ พร้อมขอมติซื้อที่ดินในทำเลทองกลางใจเมืองเพื่อล่อให้บัญชากับคัชพลมาติดกับ เหล่าพนักงานระดับสูงไม่มีใครเอะใจอะไรเพราะคิดว่าเธอแค่ต้องการขยายธุรกิจธรรมดา

แต่ถึงเรื่องแผนการจะไม่มีใครรู้ทัน แต่คนที่จ้องจับผิดเธอตลอดเวลาอย่างมณฑิตาก็ไม่เลิกระแวง โดยเฉพาะเมื่อเห็นวีด้ามาทานอาหารกับธัญกรในวันหนึ่ง ท่าทางสนิทสนมกันทำให้มณฑิตาอิจฉาริษยามาก ทั้งที่เธอรู้จักสมาชิกบ้านนี้มาก่อนแท้ๆแต่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดเช่นนั้นเลย สุดท้ายเมื่อทนไม่ไหวก็ตัดสินใจโทร.หาตัวช่วยอย่างสินี โดยใส่ไฟว่าวีด้ากับธัญกรสนิทสนมกันเกินเพื่อน!

ฝ่ายธัญกรกับวีด้าไม่รู้เรื่องว่ากำลังถูกใส่ร้าย นั่งกินข้าวและพูดคุยกันตามปกติ มีเพียงธัญกรที่ทำหน้ามุ่ย น้อยใจและงอนนิดหน่อยที่เธอทำตัวห่างเหิน ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเหมือนเมื่อก่อน วีด้ามีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยี่หระแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาขู่จะลาออกเพราะไม่อยากเป็นลูกน้องเธอก็ตาม ธัญกรถอนใจงอนๆที่เธอไม่สนใจจะง้อ

“ผมรู้ว่าคุณไม่เคยคิดอะไรกับผม...และรู้ด้วยว่าเป็นเพราะพี่ใหญ่”

“ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้นแหละค่ะ และก็ไม่อยากให้คุณคิดไกลจนเกินไป”

วีด้าก้มหน้าก้มตากินอาหารไปเรื่อยๆ ไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของเขาเลย ธัญกรได้แต่ส่งสายตาตัดพ้อมาให้ หวังลึกๆว่าหากเขาอดทนอีกหน่อย เธอคงเห็นความดีและยอมให้เขาใกล้ชิดกว่านี้

ฟากมณฑิตาไม่พอใจแค่ฟ้องสินี แต่เอาเรื่องทั้งหมดไปบอกยศสรัลจนเขาหัวเสียมาก เป็นห่วงน้องชายกลัวจะช้ำใจเพราะตกเป็นเครื่องมือของผู้หญิงร้อยเล่ห์อย่างวีด้า เมื่อกลับถึงบ้านก็ตรงไปหาธัญกรทันทีเพื่อถามให้รู้เรื่อง แต่น้องชายคนเดียวของเขาก็ไม่สะทก สะท้าน แถมตอกกลับเสียงห้วนว่าไปทานข้าวกับวีด้าแล้วมันเสียหายตรงไหน

“เล็ก...พูดจาให้มันดีๆหน่อย บอกพี่มาตรงๆว่าที่ยอมทำงานกับเขาเนี่ย เพราะนายอยากอยู่ใกล้เขาใช่ไหม”

“พี่อยากรู้มากใช่ไหม ถ้าใช่...พี่จะว่าไง”

“งั้นนายก็ยอมรับแล้วว่านายชอบเขา...ไม่ใช่แค่เพื่อน”

“โอเค...ผมยอมรับก็ได้ ผมชอบเขา...ชอบมากๆด้วย จะให้ทำไงได้ล่ะ”

ยศสรัลจะสวนแต่ต้องตะครุบปากตัวเองไว้ก่อนเพราะคัชพลเดินมาคุยด้วย กระเซ้าธัญกรใหญ่เพราะมาถึงทันได้ยินประโยคสุดท้ายว่าน้องชายกำลังติดพันสาว ยศสรัลหน้าเจื่อน พยายามชวนพี่ชายคุยเรื่องอื่น แต่เหมือนธัญกรจะไม่ยอมและโพล่งออกไปอย่างใจคิด

“ผมไม่คิดจะแย่งเขามาเป็นของผมหรอกครับ”

“เขาไม่เรียกแย่งหรอก คนเราถ้ายังไม่แต่งงาน ก็มีโอกาสเลือกสิ่งดีที่สุดให้ตัวเองทั้งนั้นแหละ” คัชพลพูดยิ้มๆ

ธัญกรเลิกคิ้วสงสัย ไม่อยากจะเชื่อว่าคัชพลจะคิดเอาแต่ได้แบบนี้ ยศสรัลเห็นท่าไม่ดีรีบแย้ง

“เล็ก...พี่ไม่เห็นด้วยนะ ถ้าคิดว่าเขามีเจ้าของแล้ว เราก็ควรจะอยู่ห่างๆ เพราะถ้าแฟนเขารู้เรื่องคงไม่พอใจ”

ท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจของยศสรัลไม่ทำให้คัชพลสนใจนัก เขาหันไปตบบ่าน้องชายคนเล็กเบาๆแล้วเปรย

“แกเลือกเอาแล้วกัน จะฟังพี่หรือจะฟังสรัล”

คัชพลเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ทิ้งธัญกรให้ทำหน้าไม่ถูกเพราะถูกพี่ชายคนโตท้าทาย ส่วนยศสรัลแยกจากไปด้วยท่าทางเงียบขรึม คิดไม่ตกว่าวีด้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ที่เข้ามาป่วนครอบครัวเขาเช่นนี้

ooooooo

วีด้าวุ่นวายเตรียมแผนหลอกล่อให้บัญชาตัดสินใจร่วมทุน และแผนขั้นต่อไปก็มาถึงเร็วกว่าที่คิดเมื่อเห็นบัตรเชิญไปงานสัมมนานักธุรกิจแห่งเอเชีย หญิงสาวเหยียดยิ้มร้าย เชื่อว่าสมาชิกครอบครัวบัญชาต้องไปร่วมงานพร้อมหน้าพร้อมตาแน่...คราวนี้แหละจะได้เดินหน้าล้างแค้นแบบเต็มขั้นสักที!

กว่าจะถึงวันงานก็อีกหลายวัน วีด้าไม่ยอมเสียโอกาสสร้างความสนิทสนมกับครอบครัวเป้าหมายด้วยการไปทานข้าวบ้านนั้นบ่อยๆ ธัญกรแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจที่เธอให้ความสำคัญกับคัชพลอย่างออกนอกหน้า ส่วนยศสรัลเลือกเผชิญหน้าและแดกดันเธอทุกครั้งที่มีโอกาส คัชพลไม่รู้ความนัยของทั้งสองเลยพยายามไกล่เกลี่ยด้วยการถามถึงธัญกร ยศสรัลหน้าเจื่อนแล้วบอกว่าน้องชายคนเล็กออกไปข้างนอกตั้งนานแล้ว

“ว่าแล้ว...ว่ามันคงไม่อยู่ตามเคย สงสัยจะไปหาหญิงที่มันพูดถึงเมื่อวาน”

“ฮึ...คงงั้นมั้งครับ สาวคนนี้น่ากลัว เสน่ห์แรงร้ายกาจไม่เบาเลยนะครับ”

“นี่นายรู้เหรอว่าเล็กชอบใคร ชักอยากเห็นแล้วสิ”

“ผมก็อยากให้พี่ใหญ่เห็นเหมือนกัน”

วีด้าไม่หวั่นเลย แถมส่งสายตาเยาะเย้ยให้ยศสรัลที่ตั้งท่าจับผิดเธอตลอด คัชพลไม่รู้เรื่องเพราะมัวหลงใหลในความสวยงามน่ารักของหญิงสาว เมื่อเธอชวนเขาร่วมลงทุนโครงการใหม่ก็รับปากเป็นอย่างดี วีด้าดีใจที่คัชพลตกหลุมพรางง่ายๆ แต่ต้องอารมณ์เสียเมื่อยศสรัลมาดักหน้าหาเรื่องตอนคัชพลเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์กับบัญชา

“คุณกำลังทำตัวน่าสงสัย คุณจงใจเข้าหาพี่ใหญ่ ใช่ไหม หรือจงใจเข้าหาครอบครัวผม...คุณต้องการอะไรกันแน่”

วีด้าไม่ตอบแถมยั่วประสาท ยศสรัลโมโห ปรี่ไปกระชากข้อมือจะคาดคั้นให้รู้เรื่อง วีด้าขืนตัวและพยายามผลักออก เลยกลายเป็นได้ใกล้ชิดกับเขาจนใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวเหมือนตกในภวังค์ครู่ใหญ่จึงได้สติและผละออกไป ทิ้งยศสรัลให้มองตามด้วยความสงสัย มั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆว่าวีด้าต้องมีเจตนาแฝงบางอย่างแน่

เมื่อธัญกรกลับมาถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ เห็นวีด้านั่งจู๋จี๋กับคัชพลก็อดเคืองไม่ได้ พูดจาถากถางจนคัชพลหัวเสีย

“แกเป็นอะไรเล็ก ไปหงุดหงิดอะไรมา อยู่ที่ทำงานมันทำตัวแบบนี้หรือเปล่าวีด้า คุณอย่าไปตามใจมันนะ”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่ใหญ่ อย่าพูดเหมือนผมเป็นเด็กห้าขวบ...หยุดสั่งสอนผมได้แล้ว อย่าทำตัวเป็นพ่อผม!”

ธัญกรฮึดฮัดออกไปแล้ว คัชพลจะตามแต่ยศสรัลห้ามไว้ อาสาไปคุยให้เองเพราะกลัวทั้งสองจะทะเลาะกัน ส่วนวีด้ามองเหตุการณ์ร้าวฉานของบ้านบัญชาด้วยความสะใจ ยินดีมากที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่ต้องการ

แม้จะสร้างความขัดแย้งให้แก่ลูกชายทั้งสามของบัญชาได้ แต่วีด้าก็ต้องระวังตัวอย่างหนักเพราะคัชพลเริ่มรุกหนักและพยายามถึงเนื้อถึงตัวตลอด แต่เธอก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้งเพราะคัชพลแคร์เธอมากกว่าคู่ควงที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นเธอก็ต้องเหนื่อยมากขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อถึงวันงานสัมมนานักธุรกิจ เพราะคัชพลประกาศตัวอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าสาธารณชนว่าคบหาเธอจริงจังจนถึงขั้นอาจมีงานแต่ง

ธัญกรที่ตามวีด้ามาดูงานด้วยมองท่าทางหวานจนเลี่ยนของพี่ชายด้วยความหมั่นไส้ และพาลเคืองวีด้าที่ทำให้เขาต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจเช่นนี้ ยศสรัลที่มาออกงานตามคำสั่งคัชพลตบบ่าน้องชายอย่างเห็นใจ เชื่อว่าความรักเป็นเรื่องห้ามกันไม่ได้ และวีด้าคงอยากแสดงให้รู้ว่าเธอไม่เคยคิดอะไรกับธัญกรเลย

แต่ถึงจะปลอบน้องชายแบบนั้น ยศสรัลก็อดหึงไม่ได้และไปหาเรื่องหญิงสาวตัวต้นเหตุตอนเธอปลีกตัวไปเดินเล่นรับลมคนเดียว วีด้าไม่สะทกสะท้านและสวนกลับอย่างไม่แคร์ ยศสรัลโกรธมาก กระชากเธอมาใกล้จนดูเหมือนกอดกัน คัชพลซึ่งกำลังเดินตามหาคู่เดตคนสวย ถึงกับเลือดขึ้นหน้าด้วยความหึงที่เห็นน้องชายทำท่าเหมือนจะลวนลามหญิงสาว วีด้าเห็นท่าไม่ดีและตัดสินใจช่วยยศสรัลโดยบอกว่าเขาช่วยเธอไม่ให้ล้มต่างหาก

คัชพลไม่ค่อยเชื่อเหตุผลของวีด้านัก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอยืนกรานแบบนั้น เลยได้แต่พาลพาโลกับชายหนุ่มทุกคนที่เข้าใกล้คู่เดตคนสวย โดยเฉพาะยศสรัลกับธัญกรที่ถูกเขาออกด้วยความหึงและหวง เมื่อได้อยู่กันตามลำพังหลังงานเลี้ยงเลิกจึงถือโอกาสถามความรู้สึกของเธอว่ารักหรือชอบเขาบ้างไหม วีด้ามีท่าทีอึกอัก แต่สุดท้ายก็เลือกตอบแกนๆว่าชอบแต่ไม่ถึงขั้นรัก คัชพลยิ้มบางๆแล้วขยับไปเล้าโลมหวังทำให้เธอใจอ่อนเร็วขึ้น

วีด้าตกใจมากแต่พยายามรวบรวมสติผลักเขาออก “วีด้าจะเสียใจมากถ้าคุณใหญ่ทำแบบนี้ วีด้าคงเห็นตัวเองไม่มีค่า...เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานกัน วีด้าอาจจะหัวสมัย ใหม่ แต่วีด้าก็ถือสาเรื่องพวกนี้”

“งั้นเราแต่งงานกันนะวีด้า กลับไปผมจะรีบให้ผู้ใหญ่ของเราคุยกันเรื่องนี้”

วีด้าอึ้งไปอึดใจก่อนขอผลัดเป็นหมั้นไว้ก่อน และขอเวลาเคลียร์งานอีกสามสี่เดือน คัชพลจะไม่รอแต่ทนลูกอ้อนไม่ไหวเลยต้องยอม วีด้าลอบมองท่าทางยิ้ม

กระหยิ่มของคัชพลด้วยความหนักใจ แต่เพื่อความแนบเนียนของแผนล้างแค้น การหมั้นก็เป็นวิธีที่ทำให้เขาตายใจวิธีหนึ่ง...แล้วเราจะได้มีความสุขด้วยกันแน่ๆคุณคัชพล!

ooooooo

ไฟรักเพลิงแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด