สมาชิก

ไฟรักเพลิงแค้น

ตอนที่ 10

สภาพสาหัสของดนัยทำให้วีด้าโกรธมาก เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าว่าที่คู่หมั้นหนุ่มด้วยซ้ำตอนเขาผลุนผลันออกจากโรงพยาบาล คัชพลหัวเสียมากและพาลลงกับน้องชายคนกลางในเย็นวันเดียวกัน  ยศสรัล

มองภาพดนัยในมือถือของพี่ชายด้วยสีหน้าตกใจไม่เข้าใจว่าเหตุใดพี่ชายต้องทำรุนแรงขนาดนี้

“ฉันอยากให้แกดูไว้ ถ้าแกยังติดต่อกับวีด้าอีก แกจะมีสภาพยังไง ระวังตัวแกไว้ให้ดีละกัน”

คัชพลออกไปแล้ว ทิ้งยศสรัลให้มองตามด้วยสีหน้าหวั่นวิตก เป็นห่วงวีด้าจะถูกพี่ชายเขาทำร้ายถ้ารู้ความจริง ในขณะที่ยศสรัลคิดหัวแทบแตกจะช่วยเธอยังไง วีด้ากลับไม่กลัวเลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคัชพลในเช้าวันถัดมาที่ออฟฟิศ ชายหนุ่มหอบดอกไม้ช่อใหญ่มาขอโทษที่ทำรุนแรงเมื่อวันก่อน วีด้าไม่สนใจโยนทิ้ง แถมตอกย้ำให้รู้ว่าเธออยากให้เขาเจ็บปวดเหมือนที่ดนัยโดน คัชพลเต้นผาง โมโหมากที่วีด้าเห็นผู้ชายอื่นดีกว่าตัวเอง

“ดนัยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันต้องห่วงเขา”

“โอเค...ผมขอโทษ ผมเข้าใจแล้วว่าคุณเป็นเพื่อนกันจริงๆ...คือวันนั้นผมเห็นคุณกอดกับเขา ผมไม่ชอบ”

“ถ้าไม่ชอบก็พูดได้นี่คะ ทำไมต้องใช้กำลัง”

“งั้นผมสัญญาจะไม่ทำอีก วีด้า...หายโกรธผมเถอะนะ ให้โอกาสผมอีกสักครั้ง ผมจะทำตัวดีที่สุดเพื่อคุณ”

วีด้าสบตาเขานิ่ง แล้วตัดสินใจยกโทษให้ คัชพลดีใจมาก ไม่รู้เลยว่าแท้จริงวีด้ายังไม่ไปจากเขาเพราะยังทำภารกิจสำคัญไม่สำเร็จต่างหาก...ฉันไม่เลิกแน่ ถ้าครอบครัวแกไม่พังยับไปกับตา!

แม้จะคืนดีกับคัชพล แต่วีด้าก็ไม่ยอมไปไหนกับเขาเหมือนเคย หญิงสาวหมกมุ่นกับการล้างแค้นและการวางแผนทำลายธุรกิจของครอบครัวบัญชา และแล้วความพยายามก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อปีเตอร์ยอมรับนัดเธอในเย็นวันหนึ่ง เธอเสนอซื้อหุ้นของบริษัทบัญชาในราคาไม่น้อย พร้อมแถมหุ้นของบริษัทตัวเองให้อีกอย่างใจปํ้า ปีเตอร์มองข้อเสนอในเอกสารด้วยสายตาสนอกสนใจ แต่ยังรักษาท่าทีและบอกจะติดต่อกลับหลังพิจารณาเรียบร้อย

ระหว่างที่วีด้าลุ้นผลการตัดสินใจของปีเตอร์บัญชาทุ่มเทกับงานอย่างหนักเพื่อระดมทุนเงินสดที่พร่องไปเยอะจากระบบ คัชพลต้องเข้าประชุมด้วยตลอด บรรยากาศเคร่งเครียดจนกรรมการคนอื่นรู้สึกอึดอัด แต่ความพยายามของบัญชาคงไม่ทันใจแฟรงค์ที่บุกไปหาถึงออฟฟิศในวันหนึ่งเพื่อทวงเงินก้อนที่ถูกทางการอายัดไป คัชพลกับบัญชาอ้างว่าไม่เกี่ยวด้วย และเรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของเขาคนเดียว แต่แฟรงค์ไม่ยอมรับ

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ถ้าแกไม่พลาด เงินจะถูกอายัดได้ไง ฉันจะให้เวลา ถ้าหาเงินไม่ได้ก็เตรียมตัวตายได้เลย!”

ยศสรัลที่ได้ยินจากเลขาว่าพ่อกับพี่ชายมีแขกกลุ่มใหญ่ท่าทางน่ากลัวมาขอพบเลยตามไปดู  เขามาทันเห็นแฟรงค์เดินออกจากออฟฟิศ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เสียงโวยวายของบัญชากับคัชพลดังเล็ดลอดจากข้างในห้อง ยศสรัลตัดสินใจแอบฟังจึงได้รู้ว่าแฟรงค์เป็นมาเฟียที่ทำธุรกิจกับพ่อ และตอนนี้ก็กำลังมีปัญหาบางอย่าง คัชพลเสนอให้จัดการกับแฟรงค์ บัญชาไม่คิดว่าจะทำได้แต่ไม่ทันพูดอะไรก็ทรุดตัวกับพื้นเสียก่อนเพราะอาการป่วยกำเริบ

ยศสรัลไม่รอช้า ตัดสินใจปรากฏตัวไปช่วยพยุงและพาพ่อส่งโรงพยาบาล คัชพลมองน้องชายอึ้งๆ ความระแวงทำให้สงสัยว่าน้องชายมาถึงตัวพ่อเร็วจนน่าตกใจ...หรือนายสรัลจะได้ยินเรื่องที่เราคุยกับพ่อเรื่องไอ้แฟรงค์!

ooooooo

จนแล้วจนรอด คัชพลก็ไม่มีโอกาสถามน้องชายคนกลางว่าได้ยินหรือรู้เรื่องแฟรงค์มากน้อยแค่ไหน อาการบัญชาก็ไม่ค่อยดีนัก สินีแทบนั่งไม่ติดและตัดสิน ใจ โทร.เรียกธัญกรมาด้วย บัญชารู้สึกตัวในอีกหลายชั่วโมงต่อมา สินีกลับบ้านไปแล้วพร้อมธัญกร เหลือเพียงยศสรัลที่มองพ่อกับพี่ชายด้วยความสงสัย...แฟรงค์คือใครกันแน่

ฝ่ายวีด้าดีใจมากเมื่อปีเตอร์ติดต่อกลับเพื่อรับข้อเสนอขายหุ้นของบัญชา หุ้นส่วนหนุ่มตาน้ำข้าวยิ้มยินดีที่จะได้เงินก้อนโต แต่ยังข้องใจว่าเหตุใดหญิงสาวหน้าสวยถึงยอมลงทุนมากมายขนาดนั้น วีด้าไม่อธิบายแต่ยื่นมือให้เขาจับเพื่อขอบคุณ...ฉันมีเหตุผลของฉันค่ะ แต่คงบอกคุณไม่ได้จริงๆ

ฝ่ายสินีกลับถึงบ้านในสภาพเหนื่อยอ่อน ธัญกรมองมาด้วยความสงสารและตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนแม่ รัชนาซึ่งตามมาเยี่ยมบัญชาด้วยเลยต้องกลับคอนโดก่อน ธัญกรอาสาไปส่งแต่เธอปฏิเสธขอกลับเอง

รัชนากลับไปแล้ว ธัญกรมองตามยิ้มๆ รู้สึกดีกับเพื่อนร่วมคอนโดสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ประทับใจในความเป็นกันเองและไม่เรื่องมากของเธอ สินีเฝ้าสังเกตห่างๆ แต่ไม่มีเวลากังวลมากเพราะห่วงอาการของบัญชามากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังถือตัวอยู่มาก ไม่แสดงท่าทีรังเกียจแต่ก็ไม่ทำท่าสนิทสนมกับรัชนาเท่าที่ควร

สินีสบายใจได้ไม่นาน ก็ต้องตกใจหน้าซีดเมื่อ

ได้รับโทรศัพท์ประหลาดในเช้าวันถัดมา เสียงชายหนุ่ม นิรนามฟังดูคุกคามมากกว่าการพูดคุยธรรมดา ยิ่งเมื่อถูกถามถึงอาการของบัญชา  ยิ่งทำให้อยากรู้ว่าเจ้าของเสียง ปริศนานี่คือใคร

“แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าฉันเป็นใคร ฉันแค่เป็นห่วงว่าไอ้บัญชามันจะตายก่อนเอาเงินมาคืนฉัน”

“ไอ้บ้า...แกเป็นใครมาพูดจาแบบนี้”

“บอกให้มันรีบหาเงินมาคืน ไม่งั้นฉันจะไปเอาชีวิตมันแทน!”

โทรศัพท์ลึกลับวางสายไปแล้ว สินีร้อนใจแทบนั่งไม่ติด กลัวสามีจะเป็นอันตราย เมื่อคัชพลทราบเรื่องก็มีสีหน้าเคร่งขรึม ปลอบไม่ให้แม่คิดมากเพราะจะจัดการเรื่องนี้เอง ต่างจากยศสรัลที่ไม่คลายกังวล ท่าทางพี่ชายเหมือนเครียด มากกว่าที่แสดงออก แต่รู้ว่าถึงคาดคั้นไปก็เท่านั้น... เขาคงต้องสืบเองว่าพ่อกับพี่ชายมีเรื่องกับใครกันแน่

แม้จะรับปากแม่ไปแบบนั้น คัชพลก็ยังมองไม่เห็นทางจะหาเงินมาคืนแฟรงค์ สุดท้ายจึงตัดสินใจจะขายหุ้นบางส่วนในโครงการที่ทำร่วมกับว่าที่คู่หมั้นสาว วีด้าทราบเรื่องทุกอย่าง แอบสะใจที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน แต่ยังเก็บอาการ แสร้งทำเป็นเห็นอกเห็นใจคัชพล แถมอาสาช่วยหาคนซื้อมาให้อีกต่างหาก!

การทวงเงินของแฟรงค์ไม่จบลงที่ตามรังควานสินี แต่ยังมีคนสะกดรอยตามธัญกรกับรัชนาเพื่อข่มขู่ให้ไปบอกบัญชาอีกต่อหนึ่ง สองหนุ่มสาวไม่รู้ตัวเลย จนกระทั่งรัชนาแอบสังเกตระหว่างทานอาหารข้างทางกับธัญกร ว่ามีชายนิรนามสองสามคนด้อมๆ มองๆ มาทางเธอกับเขาตลอด

ธัญกรจำต้องปัดความกังวลใจเรื่องอาการป่วยของพ่อและตั้งสติพาเพื่อนสาวหนี แต่แม้จะพยายามใช้เล่ห์กลหลบหลีก สุดท้ายทั้งสองก็หนีไม่พ้น ถูกล้อมหน้าล้อมหลังในตรอกเปลี่ยวไม่ไกลจากคอนโดนัก ธัญกรทำใจดีสู้เสือ โยนกระเป๋าเงินและของมีค่าในตัวให้ เช่นเดียวกับรัชนา แต่บรรดาลูกน้องของแฟรงค์ไม่สนใจ

“ฉลาดดีที่รู้ว่าพี่ต้องการเงิน แต่ไม่ใช่ของแกเจ้านายพี่ต้องการเงินก้อนใหญ่...ใหญ่มากจากพ่อกับพี่ของแก”

ธัญกรมองหน้ารัชนางงๆ ไม่เข้าใจว่าพวกผู้ร้ายหมายถึงอะไร หนึ่งในสามเลยเฉลยให้เอาบุญ

“ถามพ่อแกดูสิ...แล้วก็บอกมันด้วยว่าเจ้านายพี่ต้องการเงินด่วนมาก ไม่งั้นแกอาจจะเดือดร้อนกันทั้งตระกูล”

ขาดคำก็ปราดไปชกหน้าธัญกรล้มคว่ำกับพื้นรัชนา ถลาไปประคอง พร้อมส่งสายตาแค้นเคืองไล่หลังสามอันธพาล ธัญกรข่มความเจ็บปวดมองตาม...อยากรู้จริงๆ ว่าพ่อเขามีเรื่องอะไรกับใครกันแน่

เมื่อสินีทราบเรื่องลูกชายคนเล็กถูกดักทำร้ายในบ่ายวันเดียวกันก็ตกใจมาก และตัดสินใจจะไปแจ้งความ โดยสั่งให้คัชพลไปเป็นเพื่อน แต่ลูกชายคนโตปฏิเสธเพราะเหตุผลที่อ้างแบบขอไปที

“ผมบอกแม่แล้วว่าพวกนี้มันแค่ไอ้พวกทำธุรกิจกับเราแล้วกลัวไม่ได้เงิน ถ้าแจ้งความก็จะเป็นเรื่องใหญ่ บริษัทจะเสื่อมเสียชื่อเสียง กระทบความเชื่อมั่นคนที่จะมาลงทุนกับเรา เชื่อผมนะ...เรื่องนี้ผมจัดการได้”

สินีไม่ค่อยเชื่อใจนัก แต่ไม่อยากขัดใจลูกให้วุ่นวายเช่นเดียวกันกับยศสรัลที่แอบได้ยินโดยบังเอิญ แต่เขาเลือกจะเผชิญหน้ากับพี่ชายแล้วเสนอตัวช่วยเหลือปัญหาของครอบครัว

“พวกที่ โทร.มาทวงเงินคุณแม่ แล้วก็ไปดักขู่นายเล็ก เป็นพวกเดียวกับที่มาบริษัทเราวันนั้นหรือเปล่าครับ พวกเขาเป็นใคร คุณพ่อกับพี่ใหญ่ไปติดเงินอะไรเขาทำไมเขาถึงตามราวีครอบครัวเราไม่เลิกแบบนี้”

“แกไม่ต้องยุ่งไอ้สรัล...ฉันบอกแล้วว่าฉันจัดการเองได้ แกแค่อยู่ห่างๆ วีด้าก็พอ อย่าให้ฉันเครียดหลายเรื่อง”

คัชพลกระแทกแฟ้มงานบนโต๊ะแล้วผลุนผลันออกไป ทิ้งยศสรัลให้มองตามด้วยความเป็นห่วง

ooooooo

วีด้าทำตามที่พูดได้จริงๆ หญิงสาวส่งลูกค้าที่สนใจซื้อหุ้นต่อจากคัชพลไปหาในอีกสองสามวันต่อมา คัชพลดีใจมาก ต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่เมื่อได้ยินราคาที่เสนอแลกกับหุ้นก็ถึงกับหัวเสีย

“อะไรกัน...นี่มันราคาแค่ครึ่งเดียวเอง ถ้าจะดูถูกกันขนาดนี้ ก็เชิญคุณออกไปได้แล้ว”

ลูกค้าออกไปแล้ว คัชพลเครียดจัด ขว้างปาข้าวของกระจัดกระจาย มืดมนหนทางไปหมด ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาคืนแฟรงค์ ยศสรัลเข้ามาหาและเห็นเอกสารเสนอราคา นิ่วหน้าเป็นคำถามว่าพี่ชายกำลังทำอะไร

“ฉันจะขายหุ้นที่ร่วมทุนกับวีด้า แต่มันดันกดราคากันมากเกินไป ฉันไม่โง่ขายให้มันหรอก”

“เดี๋ยวผมจะลองติดต่อนักธุรกิจคนอื่นๆ ดูให้นะครับ เผื่อมีคนสนใจ”

คัชพลไม่มีทางเลือก ต้องยอมให้น้องชายช่วย

ยศสรัลเริ่มต้นหาลูกค้าทันที แต่เหมือนจะไม่ง่ายเพราะราคาที่นำเสนอไม่เป็นที่น่าพอใจ วีด้าเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยความสะใจ เธอกลับไปคืนดีกับดนัยอีกครั้ง พร้อมกับภาวนาให้บรรดาลูกชายของบัญชาทำไม่สำเร็จ

แต่เหมือนความพยายามของยศสรัลจะไม่สูญเปล่า เขาค้นพบลูกค้าที่เสนอราคาเป็นที่น่าพอใจในอีกไม่กี่วันต่อมา วันชัยมาพบตามเวลานัดในโรงแรมหรูยินดีมากจะได้หุ้นในราคาสมเหตุสมผล ยศสรัลไม่เอะใจท่าทางดีอกดีใจนั้น เขายิ้มบางๆ นัดแนะวันเวลาทำสัญญาและขอตัวกลับทันทีที่ตกลงกันเสร็จ

หลังแยกกับวันชัย ยศสรัลมุ่งหน้าไปลานจอดรถเจอกับปีเตอร์โดยบังเอิญที่หน้าล็อบบี้ สองหนุ่มทักทายอย่างคุ้นเคยกันดี แต่ที่ทำให้ยศสรัลอ้าปากค้างคือเมื่อปีเตอร์บอกว่าขายหุ้นของบริษัทให้วีด้าไปแล้ว

ในขณะที่ยศสรัลตื่นตะลึงกับความร้ายกาจของวีด้า บัญชาก็ต้องรับศึกหนัก เมื่อบรรดาลูกสมุนของแฟรงค์หอบช่อดอกไม้ไปเยี่ยมถึงในห้องพัก สินีหน้าซีดเผือดกลัวท่าทางคุกคามนั้นจนทำอะไรไม่ถูก ต่างจากบัญชาที่แม้จะเจ็บจนไม่มีแรงขยับ แต่ยังทำใจดีสู้เสือประกาศกร้าวว่าไม่ต้องการให้ใครที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาเยี่ยม

“แต่คุณแฟรงค์อยากให้พวกเรามาดูอาการคุณกลัวว่าคุณจะรีบตายไปเสียก่อน”

บัญชาโมโหจะลุกไปเอาเรื่อง แต่สายน้ำเกลือและอาการเจ็บปวดทำให้เคลื่อนตัวไม่ได้อย่างใจ สินีถลาไปประคองสามี ลูกน้องแฟรงค์เดินไปวางช่อดอกไม้ที่โต๊ะข้างๆ และจะหมุนตัวกลับ แต่ไม่วายทิ้งท้ายกวนๆ

“อ้อ...เรื่องเงินของคุณแฟรงค์น่ะ ถ้ามันไม่ได้หรือชักช้าไป คุณอาจจะตายเร็วกว่าที่คิดก็ได้”

 

พวกลูกน้องแฟรงค์หัวเราะร่วนจากไป สินียังไม่เข้าใจสถานการณ์ ส่วนบัญชาโกรธจนอาการกำเริบร้อนถึงหมอและพยาบาลต้องวิ่งให้วุ่นหลังจากนั้น เมื่อคัชพลทราบเรื่องในเย็นวันเดียวกันก็เจ็บใจมาก อยากไปเอาเรื่องเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนยศสรัลมัวหมกมุ่นเรื่องวีด้า สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ผลุนผลันออกไป หวังเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง

ยศสรัลดักรอหน้าคอนโดไม่นาน วีด้าก็แล่นรถมาจอด ชายหนุ่มไม่รอช้า เข้าไปหาและถามเรื่องหุ้นของปีเตอร์ ไม่เข้าใจเลยว่าเธอจะแอบซื้อหุ้นไปเพื่ออะไร วีด้าสะบัดตัวออกอย่างแรงพร้อมแหวกลับ

“ฉันไม่จำเป็นต้องแอบ ฉันอยากได้ฉันก็ขอซื้อจากคุณปีเตอร์ไง”

“คุณซื้อเพราะคุณมีแผน หยุดจองเวรกับครอบครัวผมสักทีได้ไหมวีด้า”

“ไปบอกพ่อคุณให้หยุดสิ พ่อคุณไม่ยอมปล่อยแม่ของฉันเอง...เขาตามรังควานแม่ฉัน แล้วคุณยังจะกล้าบอกให้ฉันหยุดเหรอ หรือยังไม่รู้ว่าพ่อคุณเป็นยังไง ทำอะไรไว้บ้าง”

“ผมยังไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไร และเราต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ขึ้นรถไปกับผม”

ยศสรัลทั้งลากทั้งดึงเธอไปขึ้นรถ แต่วีด้าขืนตัวสุดกำลัง โวยวายเสียงดังให้เขาปล่อย

“วีด้า...คุณไม่กลัวหรือไง ผมรู้เรื่องดนัยแล้ว ถ้าเขารู้ว่าคุณทำอะไร คุณไม่กลัวว่าเขาจะทำร้ายคุณหรือ”

“ขนาดพ่อคุณฉันยังไม่กลัว แล้วทำไมฉันจะต้องกลัวพี่ชายคุณ”

“วีด้า...ผมเป็นห่วงคุณนะ”

ยศสรัลมองหน้าเธอนิ่ง วีด้าถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกแปลกๆกับคำพูดจากใจของเขา สองหนุ่มสาวคงจะจ้องหน้ากันอีกนาน ถ้ามือถือของยศสรัลจะไม่ดังขึ้น สินีนั่นเองที่โทร.มาบอกว่าบัญชาอาการน่าเป็นห่วง ยศสรัลตกใจ ผลุนผลันออกไปทันที ทิ้งวีด้าให้มองตามเครียดๆ รู้สึกผิดเหมือนกันแต่ยังไม่ยอมรับ...จะเป็นจะตายยังไงก็ช่าง!

ooooooo

ธัญกรตามไปสมทบที่โรงพยาบาลทันทีที่ทราบเรื่อง สภาพบัญชาที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประคองชีวิตทำให้ทุกคนใจไม่ดี โดยเฉพาะธัญกรที่ไม่เคยพูดหรือทำตัวดีกับพ่อสักครั้งก่อนหน้านี้ เขาขอให้แม่กับพี่ชายทั้งสองกลับบ้านไปพักผ่อน ส่วน

ตัวเองอาสาจะเฝ้าอาการของพ่อเอง

คัชพลไม่ไว้ใจนักเพราะวีรกรรมเก่าๆของน้องชายคนเล็ก แต่สินีกับยศสรัลช่วยกันยืนยันจนเขายอมให้ธัญกรอยู่ดูแลพ่อตามลำพัง เมื่อทุกคนกลับไปแล้ว ธัญกรก็เฝ้ามองพ่อด้วยความรักและรู้สึกผิด เขากุมมือพ่อแน่น สัญญาจากใจว่าขอแค่พ่อหายดี เขาจะกลับไปอยู่ด้วยที่บ้านอีกครั้ง แม้ว่าพ่อจะไม่ยอมก็ตาม

บัญชาเริ่มรู้สึกตัว แต่แสดงอาการไม่ได้มากนักเพราะยังมึนกับฤทธิ์ยา แต่คำพูดของธัญกรก็ทำให้เขาอึ้ง

“ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณพ่อถึงไม่ยอมให้ผมทำงานที่บริษัท ทำไมถึงคอยเปรียบเทียบผมกับพี่ๆ”

บัญชาน้ำตาคลอ ตื้นตันมากที่ลูกชายคนเล็กคิดได้และโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม

“ผมไปทำงานข้างนอก ถึงได้รู้ว่ากว่าคนเราจะขึ้นทำงานในตำแหน่งสำคัญได้ เราต้องเรียนรู้ความลำบากจากขั้นพื้นฐานก่อนเพื่อให้เราเห็นคุณค่าของมัน ขอบคุณพ่อมากนะครับที่สอนผม ถึงจะเป็นในแบบคุณพ่อก็เถอะ”

สองพ่อลูกใช้เวลาด้วยกันตลอดคืน ความรักความผูกพันกลับมาอีกครั้ง ไม่มืดมนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่เวลาของครอบครัวแสนสุขก็อยู่ไม่นาน เพราะวีด้าแต่งชุดดำพร้อมตะกร้าของกินมาเยี่ยมบัญชาแต่เช้า ธัญกรลุกไปเข้าห้องน้ำ เลยไม่เห็นว่าวีด้าแอบมาเยี่ยมพ่อและทำท่าแปลกๆเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง

ยศสรัลมาถึงพอดี ถลึงตาใส่หญิงสาว ปรี่ไปคว้ามือเธอและบอกให้เลิกอาฆาตแค้นครอบครัวเขาสักที

“ถ้าพ่อผมเป็นอะไรไป ผมไม่ให้อภัยคุณแน่”

“ฉันไม่ต้องการให้คุณอภัย”

คำพูดของสองหนุ่มสาวทำให้บัญชางงไปหมด ความเครียดทำให้อาการกำเริบจนหายใจลำบาก ธัญกรที่ได้ยินทุกอย่างแต่ยังจับต้นชนปลายไม่ได้ ตัดสินใจปรากฏตัวเพื่อดูพ่อ หมอกับพยาบาลถลาเข้ามาในห้องพักไม่กี่อึดใจต่อมา วีด้าเลยดึงตัวจากยศสรัลและออกจากห้องไป ไม่อีนังขังขอบกับอาการเพียบหนักของบัญชาแม้แต่น้อย

กว่าบัญชาจะสงบได้นอนอีกครั้งก็เกือบชั่วโมงต่อมา หมอต้องให้ยาเพื่อให้พักผ่อนมากๆ ธัญกรรอจนแน่ใจว่าพ่อหลับสนิทจึงเริ่มสนทนากับพี่ชายคนกลาง ยศสรัลไม่รู้ว่าควรจะเล่าหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่าเพราะอยากระบายความอึดอัดใจเกี่ยวกับวีด้าที่เป็นลูกสาวคนเดียวของชาติชายและกานดา

 “ตอนนั้นนายยังเด็ก เขาเคยเป็นหุ้นส่วนธุรกิจคุณพ่อ วีด้าตอนนี้ก็คือแพร เด็กผู้หญิงที่นายวิ่งเล่นด้วยบ่อยๆไง”

“เหรอครับ...แล้วทำไมคุณวีด้าเขาถึงได้แค้นครอบครัวเราล่ะครับ”

“วีด้าอาจจะเข้าใจผิดว่าคุณพ่อไปหักหลังน้าชาติชาย จนเป็นสาเหตุให้น้าชาติชายตาย น้ากานดาเสียสติเท่าที่พี่รู้มาวีด้าต้องทุกข์ทรมานและลำบากมาก กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้”

“อะไรกันเนี่ย ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ งั้นที่คุณวีด้าเข้ามาก็เพื่อล้างแค้นหรือครับ”

“มีอีกเรื่องที่พี่หนักใจ ตอนนี้วีด้าพยายามปั่นหัวพี่ใหญ่และเรื่องธุรกิจครอบครัวเราด้วย”

ธัญกรไม่อยากเชื่อว่าวีด้าจะร้ายขนาดนั้น ยศสรัลส่ายหน้าหนักใจ ไม่ห่วงแต่กลัวแทนมากกว่า หากคัชพลทราบเรื่องคงไม่ปล่อยเธอไปแน่  บัญชารู้สึกตัวรางๆได้ยินทุกอย่าง เจ็บใจมากที่วีด้ากล้าล้วงคองูเห่า แต่สองหนุ่มไม่มีใครสังเกตอาการพ่อ ได้แต่ปรึกษากันเคร่งเครียดว่าต้องหาทางหยุดวีด้าให้ได้!

ooooooo

วีด้ากลับถึงออฟฟิศด้วยท่าทางเซ็งจัด จัดแจงเปลี่ยนชุดดำที่ใส่ไปเยี่ยมบัญชาแต่เช้า แล้วสั่งให้เลขาเอาไปทิ้งหน้าตาเฉย คัชพลโทร.มาหาหลายครั้ง แต่เธอไม่ยอมรับสาย แถมตัดสายทิ้งอีกต่างหาก

คัชพลงงมากที่วีด้าไม่ยอมคุยด้วย เลยตัดสินใจบุกไปหาถึงออฟฟิศในบ่ายวันเดียวกัน เลขาของวีด้าหน้าเสียที่ห้ามไม่สำเร็จ คัชพลพุ่งไปหาว่าที่คู่หมั้นสาวจนได้ โวยวายทันทีที่เจอหน้าว่าทำไมไม่ยอมรับสายเขา วีด้าทำหน้าเบื่อหน่าย เฉไฉว่าเหนื่อยและล้ากับงานจนไม่อยากเจอหน้าใคร คัชพลโมโหที่เธอเห็นเขาเป็นคนอื่น ปรี่ไปกระชากแขนอย่างเผลอตัว วีด้าพูดเสียงเรียบให้ปล่อย หรือไม่คงต้องเลิกกัน คัชพลเห็นท่าทีจริงจังเลยต้องยอม

ท่าทางเฉยชาหมางเมินของวีด้าทำให้คัชพลแทบคลั่ง ไม่เข้าใจว่าเธอจะปั่นหัวเขาไปถึงไหน ยศสรัลตามหาพี่ชายตั้งแต่เช้า อยากเอาเอกสารที่จะเซ็นสัญญากับวันชัยมาให้ดูเพื่ออนุมัติ คัชพลพยักหน้ารับรู้แกนๆ หงุดหงิดเรื่องว่าที่คู่หมั้นสาวมากกว่าจะสนใจเรื่องงาน ยศสรัลพยายามเสนอทางแก้ปัญหา แต่กลับถูกแหวกลับว่าไม่ให้ยุ่งกับวีด้าอีก...ฉันขอเตือนแกนะ ถ้าแกไปยุ่งกับวีด้า แกได้กินลูกปืนจากฉันแน่!

อารมณ์กราดเกรี้ยวของพี่ชายทำให้ยศสรัลคิดหนัก สุดท้ายจึงตัดสินใจโทร.ตามพุฒิให้มากรุงเทพฯเพื่อช่วยงานบางอย่าง เช้าวันรุ่งขึ้นก็วางแผนให้ลูกน้องอีกสองสามคนมาจับตัววีด้าจากหน้าคอนโด โดยมียศสรัลเป็นคนขับรถพาหญิงสาวไปที่เกาะส่วนตัว วีด้าดิ้นรนขัดขืน ผ้าผูกตาทำให้ยิ่งเครียด...นี่ฉันจะต้องมาตายแบบนี้จริงๆหรือ

วีด้ารู้สึกตัวว่าถูกลากและอุ้มไปที่กระท่อมแห่งหนึ่ง เมื่อถูกปล่อยตัวเลยดึงผ้าผูกตาลง ตะลึงเมื่อเห็นว่ากลับมาที่กระท่อมเก่าบนเกาะส่วนตัวของยศสรัล

หญิงสาวเตรียมหนีแต่เขาเข้ามาขวาง ส่งสายตาปรามให้เธอหยุดแผลงฤทธิ์ วีด้าโมโหมากที่เสียท่าให้เขา อาละวาดทุบตีพัลวันจะให้พากลับบ้าน

“คุณจับฉันมาทำไม รู้ไหมว่าฉันกลัวแค่ไหน”

“คุณกลัวเป็นด้วยหรือ ทำไมตอนคิดทำลายครอบครัวผม คุณถึงไม่กลัวอันตรายบ้าง”

วีด้าคร้านจะเถียง ตั้งท่าจะเดินออกแต่ยศสรัลปรี่ไปดึงแขนไว้ วีด้าจ้องหน้าแล้วแหว

“แล้วคุณคิดหรือว่าจับฉันมาแบบนี้แล้วฉันจะเปลี่ยนใจ...ปล่อย!”

ยศสรัลออกแรงบีบมากขึ้น เป็นตายร้ายดีจะไม่ยอมปล่อยเธอกลับไปทำร้ายครอบครัว วีด้าฮึดสู้ ฉวยโอกาสวิ่งไปที่ชายหาดจนได้ แต่เจอพุฒิกับพวกขวางไว้ ยศสรัลตามไปขู่ว่าที่นี่เป็นเกาะส่วนตัว...อย่าคิดหนีให้ยากเลย!

ฟากคัชพลร้อนใจมากที่วีด้าหายตัวไปอีกแล้ว เขาบุกไปถึงออฟฟิศแต่ไม่พบแม้แต่เงา เลขาก็ไม่ทราบว่าเจ้านายสาวไปไหน เสือผู้หญิงคนดังเริ่มสังหรณ์ใจและโทร.เช็กยศสรัลว่าอยู่ที่ไหน แล้วก็เป็นตามคาด เลขาน้องชายบอกว่ายังไม่เห็นเหมือนกัน คัชพลโกรธจัด มั่นใจมากว่าวีด้าต้องหายไปกับยศสรัลแน่ เมื่อผู้ช่วยนำเอกสารสัญญาของวันชัยมาให้เซ็นเลยพาลฉีกทิ้ง ประกาศกร้าวให้ตามหายศสรัลให้พบ...ฉันต้องเอาแกมาถามให้รู้เรื่องให้ได้

 เวลาเดียวกันที่เกาะส่วนตัว...ยศสรัลลากวีด้าไปขังในห้อง แถมมัดมือมัดเท้าไม่ให้เดินหนีไปไหน วีด้าร้องโวยวาย หาว่าเขาเป็นคนเลวที่จับเธอมากักขังหน่วงเหนี่ยว ยศสรัลบอกว่าแค่ต้องการเวลาคุยด้วยเท่านั้น และหากเธอยอมตกลงล้มเลิกแผนทำลายครอบครัว เขาก็จะปล่อยกลับบ้าน วีด้าปฏิเสธ บัญชาเป็นคนเลวที่สมควรได้รับโทษแล้ว

ยศสรัลโกรธมากที่เธอพูดถึงพ่อไม่ดี ปรี่ไปจ้องหน้าแล้วพูดเสียงเข้ม “วีด้า...ถึงแม้พ่อผมจะไม่ใช่คนดีมากมาย แต่ในฐานะลูก ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาด่าพ่อ แล้วอยู่ที่นี่ไม่ต้องคิดหนี ถ้าคุณแผลงฤทธิ์ ผมจะเชือดคุณทิ้ง!”

ยศสรัลผลุนผลันออกไปแล้ว พุฒิกับแก้วมาดักหน้า บ่นเบาๆ ว่าเจ้านายโหดและทำตัวเหมือนพระเอกละครน้ำเน่า ยศสรัลส่ายหน้าเอือมๆ แต่ไม่ยอมให้แก้มัด พุฒิตั้งท่าจะค้านแต่ต้องหุบปาก เพราะมือถือของยศสรัลดังขึ้นเสียก่อน คัชพลนั่นเองที่ส่งข้อความบอกว่าบัญชาอาการทรุดให้รีบไปโรงพยาบาล ยศสรัลไม่รอช้า สั่งให้พุฒิกับแก้วเฝ้าวีด้าอย่าให้คลาดสายตา แล้วเขาจะโทร.มาบอกให้แก้มัดเอง และถ้าเธอหนีไปได้ เขาจะเอาเรื่องสองคนงานอย่างถึงที่สุด!

ooooooo

บัญชารับการรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดจนร่างกายทรุดโทรม ผมเผ้าร่วงโรยจนต้องสวมหมวกปิดบัง หนุ่มใหญ่นึกถึงบทสนทนาของยศสรัลกับธัญกร นัยน์ตาลุกโชนด้วยความเจ็บแค้นที่วีด้ากล้ามาลูบคม

“แก้แค้นหรือ แกส่งลูกสาวมาแก้แค้นหรือไอ้ชาติชาย ทั้งที่เรื่องทั้งหมดจะไม่เกิดถ้าแกไม่แย่งกานดาไปจากฉัน”

ความโกรธทำให้บัญชาแทบคลั่ง เขากระชากสายน้ำเกลือและกรีดร้องระบายอารมณ์จนทุกคนแตกตื่น ธัญกรพรวดเข้ามาพร้อมกับสินี ตกใจมากที่บัญชามีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนคนเสียสติ สินีน้ำตาร่วง สงสารสามีเหลือเกินที่ต้องทรมานแบบนี้ แต่สิ่งที่เขาพูดกับเธอหลังจากนั้นต่างหากที่ทำให้เธอพูดไม่ออก

“ทำไมต้องเป็นเธอสินี...ทำไมต้องเป็นเธอที่ยืนข้างฉัน ทำไมไม่เป็นกานดา...ทำไมกานดาถึงไม่รักฉัน”

สินีปล่อยมือจากบัญชาแล้วผละจากไป สะเทือนใจอย่างหนักที่สามีกล้าพูดจาทำร้ายจิตใจเช่นนี้ ชื่อของกานดาทำให้เธอแค้นหนัก ไม่ว่านานแค่ไหนสามีเธอก็ยังไม่เลิกคิดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นสักที ธัญกรรอจนพ่อสงบจึงตามไปดูอาการแม่ ทั้งสองนั่งคุยกันที่มุมเงียบๆ ของโรงพยาบาล ธัญกรจับมือแม่ด้วยความเห็นใจ

“พ่อไม่เคยรักแม่เลย ผ่านมาสามสิบกว่าปีพ่อก็ยังไม่เคยรักแม่”

“ไม่จริงหรอกครับ ถ้าพ่อไม่รักแม่ แล้วจะมีเราสามคนพี่น้องมาได้ยังไง”

“นั่นเพราะแม่รักเขาฝ่ายเดียว หวังว่าสักวัน พ่อแกจะรักแม่บ้าง แต่เปล่าเลย...จนถึงวันนี้วินาทีนี้ ใจเขายังมีแต่มัน...นังกานดา มีแต่มันเท่านั้น”

“กานดา...แม่หมายถึงน้ากานดา คุณแม่ของคุณวีด้าหรือครับ พี่สรัลบอกผมเมื่อวานนี้เองว่าคุณวีด้าเป็นลูกสาวของน้ากานดากับคุณอาชาติชาย”

สินีตกใจแทบสิ้นสติ...วีด้าคือลูกสาวของชาติชายกับกานดางั้นหรือ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!

ในขณะที่วีด้าพยายามหลอกล่อแก้วกับพุฒิให้ปล่อยเธอกลับบ้าน แต่สองคนงานไม่หลงกล แถมขังเธอไว้เหมือนเดิม กลัวถูกเจ้านายหนุ่มลงโทษมากกว่า ยศสรัลเครียดหนักเพราะคัชพลโทร.ตามไปพบที่บ้าน เสือผู้หญิงคนดังควักปืนมาวางตรงหน้าแล้วถามเรื่อง

วีด้ากับน้องชายว่าหายไปไหนด้วยกัน ยศสรัลอ้ำอึ้งจนคัชพลเหลืออด

“ผู้หญิงมีตั้งมากมาย ทำไมแกต้องมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน...อธิบายมา”

“ผมแค่พยายามจะหยุด ไม่ให้เขาทำร้ายครอบครัวเรา”

“จะมาปั้นเรื่องโกหกอะไรอีก แล้วแกพาวีด้าไปไหน ฉันถามว่าแกพาเขาไปไหน แกอยากตายหรือไง”

“ถ้าพี่ไม่เชื่อผมก็ยิงผมได้เลย”

คำพูดท้าทายทำให้คัชพลเดือดจัด ยิ่งเมื่อยศสรัลหันหลังให้ยิ่งของขึ้น คว้าปืนยิงจนน้องชายล้มกับพื้น สติถึงได้กลับมาและรีบพายศสรัลส่งโรงพยาบาลหน้าตาตื่น

อาการของยศสรัลน่าเป็นห่วง เขาถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีคัชพลเฝ้าด้านหน้าด้วยสีหน้าเป็นกังวลสินีกับธัญกรตามมาไม่นานหลังจากนั้น แต่ละคนสีหน้าไม่ดีเลย กลัวยศสรัลเป็นอะไรไปจริงๆ คัชพลหน้าเสีย รู้สึกผิดไม่น้อยที่หุนหันพลันแล่นทำร้ายน้องชายแท้ๆ แต่เหมือนโชคยังเข้าข้างเพราะผลการผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ยศสรัลพ้นขีดอันตรายแต่ต้องนอนพักอีกหลายวัน สินีมานั่งเฝ้าลูกชายคนกลาง เปรยเสียงเคร่งด้วยความคับแค้นใจ

“พี่น้องเกือบฆ่ากันตายเชียวนะ เป็นเพราะนังนั่นคนเดียว...นังวีด้า เลวเหมือนแม่ของมัน!”

สีหน้าสินีน่ากลัวมาก ธัญกรที่ยืนเฝ้าแม่ห่างๆ ถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย เป็นห่วงแม่ที่เจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนี้

คัชพลรู้สึกแย่ไม่ต่างจากแม่เลย ความโกรธทำให้ขาดสติทำร้ายน้องชายแท้ๆ กลางดึกคืนนั้นเขาก็เดินไปนั่งข้างเตียงน้องชายแล้วตัดสินใจพูดบางอย่าง “สรัล...ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยิงแก แต่เพราะแกทำให้ฉันโมโห ถ้าแกไม่มายุ่งกับวีด้า ไม่คิดแย่งผู้หญิงของฉัน ฉันก็คงจะไม่โกรธขนาดนั้น”

ธัญกรหนักใจอารมณ์ร้อนของพี่ชาย ส่วนสินีเจ็บใจมากที่วีด้าเป็นตัวปัญหา แต่คนตะลึงมากที่สุดคือมณฑิตา หญิงสาวชะงักอยู่หน้าประตู ความจริงเรื่องคัชพลกับยศ– สรัลทำให้พูดไม่ออก...เกลียดนักที่ใครๆ ก็พากันหลงวีด้า

ooooooo

ยศสรัลหายเงียบไปเลยจนพุฒิกับแก้วเริ่มกังวล สองคนงานตัดสินใจแก้มัดให้วีด้าแต่ยังขังไม่ให้ออกไปไหน วีด้าคิดหาทางและแกล้งสำลักข้าว ฉวยโอกาส ชุลมุนวิ่งหนีออกไปจนได้ พุฒิรีบไปตามพรรคพวกมาช่วยกันตามหา แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเป็นเวลากลางคืนทำให้มองไม่ค่อยเห็นทาง

ด้านมณฑิตา...กลับไปเยี่ยมยศสรัลตอนเช้าของวันต่อมา ทำใจไม่ได้ต้องเผชิญหน้าทั้งว่าที่คู่หมั้นและคัชพลในเวลาเดียวกัน ยศสรัลฟื้นมาเห็นว่าที่คู่หมั้นสาวก็ตกใจแต่พยายามเก็บอาการ เขารอจนเธอหายไปคุยโทรศัพท์จึงแอบโทร.หาพุฒิบ้าง เมื่อรู้ว่าวีด้าหายตัวไป ก็ไม่รอช้า จะออกจากโรงพยาบาล โดยไม่แม้แต่จะบอกมณฑิตาด้วยซ้ำ

ยศสรัลใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงเกาะส่วนตัว หน้าเสียเมื่อได้ยินจากเหล่าคนงานว่ายังตามหาวีด้าไม่พบ เขาตัดสินใจขับเรือวนรอบเกาะ เจ็บแผลที่เพิ่งผ่าตัดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พยายามข่มไว้เพราะเป็นห่วงวีด้ามากกว่า ในที่สุดความพยายามของเขาก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อมองเห็นวีด้านอนสลบไสลที่ริมหาดท้ายเกาะ

ในขณะที่วีด้ายังไม่ได้สติ คัชพลที่เพิ่งทราบจากสินีว่ายศสรัลหายตัวจากโรงพยาบาล และวีด้ายังไม่กลับเข้าออฟฟิศเป็นวันที่สอง เสือผู้หญิงคนดังหัวเสียมาก โกรธน้องชายที่ไม่เข็ดเสียทีที่มายุ่งกับผู้หญิงของเขา!

สภาพของวีด้าทำให้ยศสรัลอดเป็นห่วงไม่ได้ แม้จะไม่มีไข้แต่ดูอ่อนเพลียมากกว่าที่คิด เขาเฝ้าข้างเตียงไม่ห่างและส่งพุฒิกับแก้วไปซื้อของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้หญิงในเมือง วีด้าฟื้นในบ่ายวันเดียวกัน มีแรงอาละวาดขว้างปาข้าวของจนเขาต้องรวบตัวมากอดไว้ วีด้าไม่มีแรงขัดขืนเลยต้องยอมทานข้าวอย่างเสียไม่ได้ เมื่อเห็นเลือดซึมบนแผลรอบศีรษะเขาก็ถึงกับพูดไม่ออก แม้จะเป็นห่วง แต่ไม่วายแขวะเพราะเคืองที่เขาจับมาขัง

“ต่อให้ฉันขอยังไง คุณก็จะไม่ปล่อยฉันไปสินะ”

“ผมจำเป็นต้องกักคุณไว้ จนกว่าคุณจะเลิกล้มความคิดแก้แค้น”

“ไม่ให้ฉันแก้แค้น แล้วให้ครอบครัวฉันถูกกระทำฝ่ายเดียวงั้นหรือ พวกคุณมันเห็นแก่ได้”

“ผมเห็นแก่คุณต่างหาก คุณรู้ไหม...ถ้าผมยังปล่อยไว้ต่อไป คุณนั่นแหละจะมีอันตราย”

วีด้าอึ้งไปอึดใจ เห็นความจริงใจในแววตาเขา แต่ยังแข็งขืน พยายามต่อต้านไม่ยอมรับความจริง

“อันตรายของฉัน...ก็คือคุณตอนนี้ไง”

“วีด้า...คุณก็รู้ว่าผมไม่มีวันจะทำร้ายคุณ”

วีด้าอึ้งไปอึดใจ แต่ไม่ทันขยับ ยศสรัลก็เจ็บแผลจนล้มกับพื้น หญิงสาวหน้าตื่นถลาไปประคอง แต่เมื่อเห็นกุญแจบนตัวเขาก็เปลี่ยนใจรีบวิ่งไปที่เรือ ยศสรัลพยายามเปล่งเสียงห้ามแต่ก็เบาจนแทบไม่ได้ยิน วีด้ากระโจนขึ้นเรือไปแล้ว แต่สำนึกผิดชอบชั่วดี รวมทั้งความห่วงใยที่มีต่อชายหนุ่มทำให้ตัดใจดับเครื่องเรือและกลับเข้าไปในกระท่อมอีกครั้ง สภาพของเขาทำให้เธอถึงกับร้องไห้ สงสารเหลือเกินไม่รู้ว่าเขาไปโดนอะไรมา

พุฒิกับแก้วกลับมาพอดี วีด้าเลยให้ช่วยพายศสรัลกลับฝั่งเพราะเลือดซึมออกจากแผลมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็พายศสรัลกลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอด– ภัย โดยมีหมอประจำรีสอร์ตมาดูแลอาการไม่ห่าง ทั้งหมดไม่รู้เลยว่าคัชพลกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่ ด้วยความแค้นแน่นอกที่น้องชายหนีออกจากโรงพยาบาลมาหาว่าที่คู่หมั้นสาว!

วีด้ากุมมือยศสรัลตลอดทางและตามไปดูแลในบังกะโลหลังรีสอร์ต ไม่เข้าใจเลยว่าเขาไปเอาแผลผ่าตัดมาจากไหน เวลาเดียวกันที่ล็อบบี้ คัชพลเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมาตามหาน้องชาย พุฒิกับแก้วเห็นเข้าและปฏิเสธว่ายศสรัลไม่ได้อยู่ที่เกาะส่วนตัว คัชพลไม่เชื่อและขับเรือไปพิสูจน์ ในกระท่อมเก่านั้นไม่มีคนอยู่จริงๆ แต่ที่ทำให้เขาเดือดเป็นไฟคือกระเป๋าถือของวีด้าที่ถูกทิ้งไว้บนโต๊ะ...ไอ้สรัล...แกจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับวีด้าใช่ไหม!

ในขณะที่คัชพลกลับกรุงเทพฯ อย่างหัวเสีย วีด้าเฝ้าดูอาการยศสรัลไม่ห่าง พุฒิกับแก้วเฝ้าเธออีกทีด้วยความระแวง กลัวจะหนีให้วุ่นวายอีก แต่วีด้ากลับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเธอสัญญาจะไม่หนีไปไหนจนกว่ายศสรัลจะฟื้น พุฒิกับแก้วถอนใจโล่งอก รีบรายงานว่าพบคัชพลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน วีด้าตกใจหน้าซีด แต่เมื่อทราบว่าคัชพลยังไม่รู้เรื่องตนกับยศสรัลก็สบายใจขึ้น แต่ไม่วายกำชับคนงานทั้งสองไม่ให้หลุดปากเรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะเด็ดขาด

ooooooo

การหายตัวไปของวีด้าไม่ได้ทำให้คัชพลคลั่งคนเดียว เกรซกับดนัยก็ประสาทเสียไม่ต่างกัน แต่เพราะเป็นห่วงมากกว่า กลัววีด้าจะเป็นอันตราย สองหนุ่มสาวปรึกษากันเคร่งเครียด แล้วดนัยก็ตัดสินใจต้องห้ามวีด้าให้เลิกแผนการบ้าๆนี่ให้ได้ และจะต้องพูดให้บัญชายอมขอโทษด้วยจะได้จบเรื่องทั้งหมด

เวลาเดียวกันที่บังกะโลหลังรีสอร์ต...วีด้าคอยดูแลยศสรัลอย่างไม่นึกรังเกียจ ชายหนุ่มอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนเธอเบาใจ ความรู้สึกบาดหมางที่เคยมีค่อยๆ เลือนหาย ทิ้งไว้แต่ความหวั่นไหวและอ่อนหวานที่ยากจะฝืนใจตัวเองอีกต่อไป

ฝ่ายคัชพลเมามายด้วยความกลุ้มใจที่ตามหาตัววีด้าไม่พบ ไหนจะน้องชายคนกลางที่แม้จะถูกเขายิงเกือบตาย ก็ยังไม่มีท่าทีจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับวีด้า มณฑิตาตามมาเจอเขาที่ผับดัง ต่อว่าต่อขานไม่หยุดที่เขาตามหายศสรัลกับวีด้าไม่พบเสียที คัชพลกระดกเหล้าเข้าปาก แสยะยิ้มฝืนๆ บอกว่าดีแล้วที่ไม่เจอตอนนี้

“ไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้หรอกนะ ถ้ารู้ว่าผู้หญิงที่เราหมายปองไปมีอะไรกับน้องชายแท้ๆของตัวเอง”

“ไม่น่าเชื่อว่าเสือผู้หญิงอย่างพี่ใหญ่จะเขี้ยวเล็บทู่จนเอาผู้หญิงคนเดียวไม่อยู่ ปล่อยให้ไปยุ่งกับสรัลได้”

“ไอ้สรัลต่างหากที่ตามยุ่งกับวีด้า ขนาดโดนฉันยิงเกือบตายมันยังไม่สำนึก”

มณฑิตาอึ้งพูดไม่ออก สุดท้ายเลยตัดสินใจนั่งดื่มเป็นเพื่อนเขา...แด่เราสองที่ถูกหักหลังไม่มีชิ้นดี!

กว่าสองหนุ่มสาวจะได้ออกจากผับก็ล่วงเข้าวันใหม่ไปแล้ว มณฑิตามีสติกว่าเลยขับรถไปส่งที่บ้าน แต่ชายหนุ่มตัวใหญ่และหนักกว่าเธอมาก ทำให้ต้องพยุงเข้าห้องด้วยความทุลักทุเล คัชพลเมาจัดและคว้าหญิงสาวร่างหอมกรุ่นมากอดไว้ มณฑิตาตกใจ ร้องให้ปล่อยเพราะกลัวใครมาเห็น

“กลัวว่าที่คู่หมั้นจะมาเห็นเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะป่านนี้มันคงนอนกอดว่าที่คู่หมั้นพี่อยู่เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างนั้น เราจะต้องแคร์ศีลธรรมความถูกต้องทำไม...จริงไหมคะพี่ใหญ่”

มณฑิตามองมาด้วยสายตาเชื้อเชิญ คัชพลเคลื่อนตัวขึ้นเหนือเธอทันที...ในเมื่อมันทำได้ เราก็ทำได้!

ในที่สุดยศสรัลก็รู้สึกตัว เขามองวีด้าที่นอนหลับข้างๆ ด้วยแววตาอ่อนแสง ความรักที่เคยเก็บมานานท่วมท้นในอกจนไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป วีด้าตื่นหลังจากนั้น ประหม่าไม่น้อยที่ถูกจ้องไม่วางตา เลยขยับจะลงจากเตียง ยศสรัลรั้งเธอไว้และบอกว่าดีใจที่เธอไม่คิดหนี ทั้งที่มีโอกาส

“คุณหายดีเมื่อไหร่ ฉันก็จะหนีไปเมื่อนั้น”

“งั้นผมจะใช้ชีวิตช่วงนี้ ที่ผมยังไม่หาย ทำให้คุณเปลี่ยนใจ”

ยศสรัลมองมาด้วยสายตาแน่วแน่ วีด้าเบือนหน้าหนี กลัวใจตัวเองจะยอมแพ้และปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

เช้าวันเดียวกันที่โรงพยาบาล...บัญชาที่อาการดีขึ้นมาก แต่ต้องเผชิญหน้ากับแขกที่ไม่คาดฝัน ดนัยกับเกรซนั่นเองที่ถือกระเช้าไปเยี่ยมและขอให้เขายกโทษให้วีด้าที่วางแผนจะล้างแค้นและทำลายครอบครัวเขา

“ฉันไม่เคยคิดเล่นเกมกับมัน มันต่างหากที่เข้ามายุ่งกับครอบครัวฉัน...ลูกชายฉัน”

“แต่นั่นก็เพราะคุณไปทำร้ายครอบครัวของเขาก่อน วีด้าต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตก พ่อตายแม่เป็นบ้า ถ้าเป็นคุณอา...คุณอาจะไม่เจ็บปวด ไม่แค้นเคืองหรือคะ เรื่องในอดีตเราแก้ไขไม่ได้ แต่เราแก้ไขปัจจุบันได้นะคะ”

บัญชายังมีท่าทีแข็งขืน แต่ดนัยก็ไม่ละความพยายามจะกล่อม “คุณอาคงไม่อยากให้ลูกๆ ต้องเจ็บปวดเพราะโดนความรักทำร้ายเหมือนอย่างที่คุณอาเคยเจอ แล้วแปรความรักเป็นความเกลียดจนไปทำร้ายคนอื่น”

“เด็กเมื่อวานซืน...แกสองคนถือดียังไงมาสอนฉัน!”

ดนัยกับเกรซมองหน้ากันแล้วยกมือไหว้ขอร้องอีกครั้ง บัญชาออกปากไล่แต่ดนัยยังพูดต่อ

“คุณอาครับ...ผมไม่ได้บอกว่าวีด้าไม่ผิดนะครับ ผมเพียงแค่อยากให้เรื่องจบด้วยดีก่อนจะสายเกินไป การขอโทษไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีลดลง ตรงกันข้าม ถ้าการขอโทษนั้นมาจากใจ คนคนนั้นจะกลายเป็นวีรบุรุษต่างหากล่ะครับ”

ooooooo

ในขณะที่บัญชาคิดหนัก คำพูดของดนัยทำให้สับสนไม่น้อย เพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดตัวเองก็มีส่วน แต่เพราะทิฐิทำให้ไม่ยอมรับความจริง สินีต้องกุมขมับเช่นกัน เมื่อเจอคัชพลกับมณฑิตานอนกอดกันเปลือยเปล่าในห้อง เมื่อโวยวายสองหนุ่มสาวก็ได้แต่ยกมือไหว้บอกว่ายอมรับผิดแต่ไม่เห็นว่าจะเสียหาย

“เราผิด...ผมยอมรับ แต่ไอ้สรัลมันไม่เลิกยุ่งกับวีด้า ในเมื่อมันทำได้ ผมกับมณก็ทำได้”

คำพูดเหมือนไม่รับผิดชอบของคัชพลทำให้สินีเดือดจัด ปราดเข้าไปตบหน้าเขาฉาดใหญ่

“ได้สติเสียทีนะตาใหญ่ เพราะนังวีด้าทำให้แกเกือบพลั้งมือฆ่าน้องชายตัวเอง และก็เพราะนังวีด้า ทำให้แกคว้าว่าที่เมียคนอื่นมาเป็นของตัวเองประชดชีวิต ชีวิตแกกำลังจะพังเพราะนังผู้หญิงคนนี้ แกยังไม่รู้ตัวอีกหรือ”

สิ่งที่แม่พูดแทงใจดำอย่างแรงจนคัชพลเถียงไม่ออก มณฑิตาร้องไห้ด้วยอับอาย ตัดสินใจผลุนผลันออกไปอย่างไม่เหลียวหลัง สินีแยกไปแล้ว ทิ้งคัชพลให้ระบายอารมณ์ด้วยการทำลายข้าวของ แต่ไม่ทันได้ออกไปไหน ก็ต้องมาหัวเสียเพราะแฟรงค์ โทร.มาขู่ให้คืนเงิน...ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อนไปมากกว่านี้!

ระหว่างที่คัชพลแทบบ้า วีด้าหน้าเสียไม่แพ้กันเมื่อรู้ว่ายศสรัลถูกยิงเพราะความหึงหวง หญิงสาวอึดอัดใจมาก ต้องหาโอกาสไปเดินเล่นแก้เครียด ยศสรัลตามไปยืนข้างๆ และตัดสินใจสารภาพความในใจ

“ผมอยากเคียงข้างคุณตลอดไป เหมือนที่พี่สรัลเคยเคียงข้างน้องแพร...ตอนที่ครอบครัวเรายังดีต่อกัน”

“คุณกำลังพูดในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว”

“เป็นไปได้สิ...ถ้าคุณยอมปล่อยให้ทุกอย่างในอดีตผ่านไป ปล่อยให้ความรักทำหน้าที่แทนความแค้น” ยศสรัลก้าวไปกุมมือเธอไว้อย่างทะนุถนอมแล้วเอ่ยเสียงเบาแต่หนักแน่น “ผมรักคุณวีด้า”

“คุณคิดว่าวิธีนี้จะทำให้ฉันเลิกล้มความคิดจะแก้แค้นพ่อของคุณได้อย่างนั้นหรือ”

“ความรักของผม ไม่เกี่ยวกับความแค้นระหว่างคุณกับคุณพ่อ เพราะผมรักคุณตั้งแต่คุณยังเป็นน้องแพรของพี่สรัล ตอนที่พี่ใหญ่ยิงผม ตอนที่ผมเข้าใกล้ความตาย ในหัวผมมีแต่ภาพคนที่ผมรัก โดยเฉพาะคุณ” วีด้าน้ำตาไหลพรากด้วยความสะเทือนใจ ยศสรัลเข้าไปโอบกอด “คุณยังไม่ตอบเลยว่าเคยรักใคร น้องแพรรักพี่สรัลบ้างไหม”

วีด้ากลั้นน้ำตาไม่อยู่ โผสู่อ้อมกอดเขาด้วยความเต็มใจเป็นครั้งแรก ยศสรัลโอบตอบแนบแน่น ดีใจที่เธอไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป...พี่สัญญาจะดูแลและคุ้มครองน้องแพรให้ดีที่สุด

 

ooooooo

ไฟรักเพลิงแค้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด