ตอนที่ 8
เวลานั้นยุพราชพยายามตามวอแวเจ้าจ้อยเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะปลอดผู้คน เจ้าจ้อยซ้อมยิงธนูแล้วจับพลาดไปโดนหัวธนูที่แหลมคม
จนนิ้วมือเลือดซิบ ยุพราชตกใจรีบจับมือเจ้าจ้อยมาดูและจะช่วยทำแผลให้ แต่เจ้าจ้อยไม่ยอมเดินหนีเข้าไปภายในคุ้มอย่างเร็ว
ยุพราชตามไม่ลดละ ทั้งรักและเป็นห่วง ตื๊อจนเจ้าจ้อยยอมให้เขาล้างแผลและใส่ยาจนเสร็จ
“ขอบใจเจ้ามากนะยุพราช” เจ้าจ้อยพูดพร้อมส่งยิ้มอย่างไม่คิดอะไร แต่ยุพราชคิดเต็มๆ ได้ทีอยากบอกความในใจ
“ถ้าข้าเฮาต้องตายอยู่ตรงนี้ ข้าเฮาก็ยอมเพื่อแลกกับรอยยิ้มอันแสนหวานนี้ของเจ้าจ้อย”
“แค่รอยยิ้มของเฮาเทียบไม่ได้กับชีวิตของเจ้าหรอกยุพราช”
“เทียบได้สิเจ้าค่า เพราะชีวิตของข้าเฮาเป็นของเจ้าจ้อย ข้าเฮายอมสละชีวิตได้เพื่อเจ้าจ้อยคนเดียว”
“เจ้าอย่าพูดเช่นนั้นยุพราช”
“ให้ข้าเฮาพูดเถอะเจ้าค่า ให้ข้าเฮาได้สารภาพสิ่งที่อยู่ข้างในนี้มานานแสนนาน”
“สารภาพอะไรกันยุพราช”
ยุพราชยั้งใจไม่อยู่สวมกอดเจ้าจ้อยทันที “ข้าเฮารักเจ้าจ้อย นี่คือคำสารภาพของข้าเฮา ได้ยินไหมเจ้าค่า ยุพราชคนนี้รักเจ้าจ้อย”
“ปล่อยเฮาเถอะยุพราช เจ้าก็รู้ว่าไม่ควรทำเช่นนี้ ถ้าทหารองครักษ์คนอื่นมาเห็นเข้า พวกเขาฆ่าเจ้าได้เลย”
“ข้าเฮายอมตายในอ้อมกอดเจ้าจ้อย”
“มีสติหน่อยยุพราช ชีวิตทหารกล้าอย่างเจ้าควรยอมพลีให้กับบ้านเมือง ไม่ใช่เฮา”
ยุพราชเริ่มมีสติรู้คิด ค่อยๆคลายอ้อมแขนผละออกจากเจ้าจ้อยอย่างช้าๆ “ข้าเฮาขอโทษที่บังอาจล่วงเกินเจ้าจ้อย ข้าเฮาไม่ควรได้รับการอภัย แต่เพราะข้าเฮารักเจ้าจ้อยมากเหลือเกิน ยอมให้ได้ทั้งชีวิต”
“เฮาเข้าใจ และเฮาก็ดีใจที่โชคดีเป็นคนที่เจ้ารัก แต่เฮาไม่อยากให้เจ้ามาหวังว่าเฮาจะรักตอบเจ้า”
เจ้าจ้อยพูดตรงมากจนยุพราชเงียบงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาว่าตนไม่มีสิทธิ์จะหวังเลยหรือ
“สำหรับเฮา เจ้าคือคนในครอบครัว เป็นเหมือนพี่ เหมือนเพื่อน มันแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้”
“ได้สิเจ้าค่า ถ้าเจ้าจ้อยยอมให้โอกาสข้าเฮา ข้าเฮาสัญญาว่าข้าเฮาจะรักเจ้าจ้อยให้มากที่สุด รักเท่าที่ชีวิตของผู้ชายคนนึงจะรักได้”
“เจ้าอย่ามาเสียเวลากับเฮาเลย หยิบยื่นโอกาสนี้ให้ผู้หญิงคนอื่นเถอะ คนที่แสนดีคนที่น่ารักอย่างยุพราชมีผู้หญิงอีกมากมายพร้อมที่จะรัก”
“ไม่เจ้าค่า ข้าเฮาไม่ต้องการผู้หญิงคนนั้น ข้าเฮาจะรักแต่เจ้าจ้อยเพียงคนเดียว”
“เจ้ากำลังทำให้เฮาลำบากใจ” เจ้าจ้อยตัดบทแล้วผละไป










