สมาชิก

ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน

ตอนที่ 13

อรินมองหญิงที่รักด้วยความน้อยใจ ตัดพ้อไม่น่าปิดบังฐานะแท้จริง ไปลำบากเป็นครูมะลิอยู่นาน เห็นตนเป็นตัวตลกที่โง่มาก จัสมินอธิบายว่าตนไม่เคยลำบาก ตอนนั้นมีความสุข และไม่เคยคิดว่าเขาเป็นตัวตลกแต่ออกจะดุเสียด้วยซ้ำ ตนขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงเพราะไม่รู้จะบอกอย่างไร

“จะให้พูดว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งซามาร์ จ้างให้คุณคงเชื่อหรอก ตอนนั้นคุณปักใจจะตายว่าเราเป็นนางโจร พูดไรไปจ้างก็ไม่มีทางเชื่อ”

อรินยอมรับเสียงขรึมว่าเป็นความผิดของตน จัสมินขอให้เขาเลิกพูดจาเป็นทางการ เขากำสร้อยไว้ในมือแน่น รู้สึกว่าเป็นของไร้ค่าไม่คู่ควรกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ จะปาทิ้ง จัสมินตกใจคว้าสร้อยจากมือเขาต่อว่า สร้อยเส้นนี้เป็นของรักของตนอย่ามาทิ้ง ผู้กองหนุ่มแอบดีใจที่เธอยังมีเยื่อใย อยากรู้ทำไมถึงหนีมาเมืองไทย มาทำให้ตนเข้าใจผิดว่าเป็นแก๊งเดียวกับเหวยกัง

จัสมินถอนใจเล่าว่า “ตอนนั้นเราโกรธที่ท่านพ่อส่งตัวไปสวิตฯทั้งที่เคยสัญญากันไว้แล้วว่าจะให้ไปเที่ยวเมืองไทย เราก็เลยปลอมตัวหนี โดยที่ไม่รู้ว่ามีพวกกลุ่มก่อการร้ายจีโบตามมา...แล้วกระเป๋าเราก็สลับกับของเหวยกัง เขาเลยเข้ามาวุ่นวายเพราะอยากจะได้กระเป๋าคืน ทำให้คุณเข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นพวกเขา”

ทั้งสองหาที่นั่งหลบมุมให้รอดพ้นสายตาวาเดียและสมุน จัสมินสารภาพว่าอยากบอกความจริงเขานานแล้ว

แต่ไม่มีโอกาส อรินมองเธอนิ่งพยายามเข้าใจ องค์หญิงให้เขาพาหนีแต่เขาไม่อาจทำได้เพราะคนของราชิดกระจายอยู่ทั่ว แถวนี้เป็นที่โล่งกว้างถ้าออกไปพวกมันจะเห็น เธอคิดว่าเขาเข้ามาทางไหนก็น่าจะออกทางนั้น เขากลับบอกว่าเขาแอบติดรถพวกมันเข้ามา แต่จะส่งข่าวให้ชัยชนะที่รออยู่ข้างนอกติดต่อไปที่วัง ทางนั้นจะได้ส่งทหาร
เข้ามาช่วย

ทันใดเสียงวาเดียร้องเรียกจัสมิน เธอสะดุ้งบอกอรินว่าวาเดียเป็นกิ๊กของราชิด เขาปลอบไม่ต้องกลัว ทำตัวอย่าให้มีพิรุธ อดทนอีกไม่นานจะได้ไปจากที่นี่ จัสมินคว้ามืออรินมากุมย้ำอย่าทิ้งตน เขาสบตาเธอนิ่ง สัญญาด้วยชีวิต จะไม่มีวันทิ้งเธอเป็นอันขาด เธอใจชื้นขึ้น มองเขาที่วิ่งหลบไปอย่างเร็ว แล้วลุกเดินออกมาเจอกับวาเดีย ทำท่ายืดเส้นยืดสาย วาเดียต่อว่าเรียกทำไมไม่ตอบแล้วมาทำอะไรตรงนี้ จัสมินมองหน้ากวนๆ

“ไม่อยากตอบ ทำไมต้องบอกด้วย”

วาเดียหมั่นไส้สั่งให้เข้าบ้าน จัสมินแอบเบ้หน้าเดินเชิดนำไป อรินชะโงกหน้าจากที่ซ่อนมามองอย่างห่วงๆ... จากนั้นเขาก็หลบออกมาติดต่อชัยชนะให้แจ้งทางวังด่วน

ชัยชนะดีใจบอกสองพี่น้อง นาธานรีบถามถึงความปลอดภัยของเจ้าหญิง เขาบอกครบสามสิบสองดี เอ็มม่าถามถึงอริน ชัยชนะยิ้มบอกขานี้ไม่ต้องห่วง อึด ทน ใคร ทำอะไรยาก

ว่าแล้วก็หาพิกัดจากจีพีเอสเพื่อแจ้งทางวัง แต่ สัญญาณกลับไม่ดี ทางวังฟังไม่รู้เรื่อง ชัยชนะจึงเดินหาสัญญาณ เผอิญคนของราชิดขับรถผ่านมาจอดขวางหน้า นาธานรีบบอกว่าพวกตนมาเที่ยวแล้วหลงป่า คนของราชิดเสียงกร้าวว่าที่นี่ไม่ใช่ที่เที่ยว นาธานรับคำดึงชัยชนะให้ไปทางอื่น แต่คนของราชิดเหลือบเห็นตราสำนักราชวังที่อกเสื้อนาธานเสียก่อนจึงร้องบอกพรรคพวก

นาธานตกใจบอกชัยชนะให้พาเอ็มม่าหนีไปก่อน ตัวเขาวิ่งแยกไปอีกทาง มือถือชัยชนะหล่น เอ็มม่าจะเก็บเพราะเกรงติดต่อคนในวังไม่ได้ ชัยชนะดึงเธอให้เอาตัวรอด คนของราชิดไล่กวดทันจะทำร้าย แต่แล้วกลับล้มวืดลง ปรากฏว่านาธานตามมาเอาไม้ฟาดหัวมัน คนของราชิดอีกคนโผล่มาเอาปืนจ่อหัวนาธาน ทั้งสามสบตากันอย่างรู้ว่าหมดทางหนี

ชัยชนะ นาธานและเอ็มม่าถูกมัดมือลากจูงมาที่รังของราชิด อรินซึ่งซุ่มอยู่หลังโขดหินได้ยินเสียงเอะอะจึงชะโงกหน้ามอง พอเห็นทั้งสามคนถูกจับก็รู้ว่าแย่แล้ว

เมื่อราชิดเห็นหน้านาธาน เอ็มม่าและชัยชนะก็รู้ทันทีว่าต้องมีอรินอีกคน จึงซ้อมชัยชนะให้บอกว่าอรินอยู่ไหน เอ็มม่าตกใจกรีดร้อง ราชิดหันมาซ้อมนาธานอีกคนแต่เขาก็ไม่ปริปาก เอ็มม่าร้องไห้บอกให้หยุด

จัสมินวิ่งออกมาห้าม สั่งให้ปล่อยทั้งสามคนเดี๋ยวนี้ ทั้งสามคนดีใจมากที่เห็นเจ้าหญิงปลอดภัย ราชิดตวาดกลับอย่ามาต่อรอง

“คนพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย จะทำร้ายเขาทำไม” จัสมินขอร้อง

“ทำไมจะไม่เกี่ยว มันรนมาหาที่ตายถึงนี่...พาเจ้าหญิงออกไป” ราชิดสั่งวาเดีย

จัสมินขัดขืนไม่ยอมไป ราชิดโมโหขู่ถ้าไม่หยุดโวยวายจะฆ่าให้หมดทุกคน เธอจึงชะงัก ราชิดสั่งลูกน้องให้ควานหาตัวอรินให้พบ จับเป็นไม่ได้ก็ให้จับตาย จัสมินใจหายวาบ

ooooooo

องคมนตรีได้รับจดหมายจากราชิด นำมามอบให้องค์อิสราธิบดี พระองค์อ่านได้ใจความว่า ราชิดจับตัวนาธานกับเอ็มม่าและชัยชนะไว้ได้ มาลาตีตกใจที่ลูกๆถูกจับได้อย่างไร

“คงแอบไปช่วยเจ้าหญิงกันเอง...นาธานดีแต่ก่อเรื่อง” องคมนตรีบ่นอย่างเจ็บใจ

มาลาตีแปลกใจที่ไม่มีอริน แสดงว่ายังไม่ถูกจับ อิสราธิบดีมองจดหมายหน้าเครียดเพราะยังมีเรื่องเลวร้ายกว่า อัมราภาชินีนึกรู้ถามมีอะไรอีก

“ราชิดต้องการให้ปล่อยตัวพวกมันภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่งั้นจะฆ่าตัวประกันทีละคน”

องค์ราชินีใจเสียขอร้องให้ปล่อยตัวโมซันเพื่อช่วยชีวิตลูกและทุกคน แต่องค์อิสราธิบดีหน้าเครียด

อัมราภาชินีร้องไห้ทูลว่าตั้งแต่แต่งงานกันมาตนไม่เคยขออะไร คราวนี้ขอให้ปล่อยเพื่อช่วยทุกคน องค์อิสราธิบดีกลับปฏิเสธแข็งขัน

“ไม่ได้ ถ้าปล่อยโมซัน พวกกลุ่มจีโบจะกลับมารวมตัว ประชาชนจะต้องเดือดร้อน คนบริสุทธิ์จะต้องล้มตายอีกมาก”

“แต่สามคนนั่นรวมทั้งลูกของเราก็อาจจะต้อง... ตาย ชีวิตพวกเขาไม่สำคัญเลยหรือไง”

พระราชานิ่งไม่ตอบหันหลังเดินไป องค์ราชินีร่ำไห้กอดกับมาลาตี ศรีวิจันทร์เข้ามาปลอบ องคมนตรีเดินตามออกไป องค์อิสราหันมาถามจะมาขอร้องอีกคนหรือ เขารับคำ

“พ่ะย่ะค่ะ แต่จะขอร้องให้พระองค์เห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ลูกของกระหม่อมอาจตายได้ แต่ประเทศ– ชาติต้องคงอยู่”

อิสราธิบดีซาบซึ้งใจ กล่าวขอบใจผู้เป็นทั้งคนสนิทและเพื่อนรัก

ooooooo

ลูกน้องราชิดพยายามค้นหาตัวอริน เขาหลบหลีกได้อย่างชาญฉลาด พอจวนตัวก็ตัดสินใจโดดเข้าไปในห้องจัสมิน ราชิดเดินเครียดถามลูกน้องค้นทั่วหรือยัง ลูกน้องรับว่าทั่วแล้ว แต่เขาฉุกคิดยังมีอีกที่ที่ยังไม่ได้ค้น ว่าแล้วก็เดินตรงมายังห้องเจ้าหญิง

จัสมินคลุมผ้าผืนยาวที่ศีรษะ ตกใจที่ราชิดเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ เขากวาดตามองทั่วห้องก่อนจะถามเสียงกร้าวว่าอรินอยู่ไหน เธอยิ้มเยาะถ้าอรินมาจริงพวกเขาคงไม่ได้อยู่อย่างนี้เพราะฝีมืออรินไม่ธรรมดา ราชิดตาขวางไม่พอใจ จัสมินเสียงอ่อนลงขอไปอยู่กับพวกตนเขาตวาดกลับว่าไม่ได้แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างหงุดหงิด

อรินเดินออกมาจากที่ซ่อนบอกจัสมินว่าตนจะไปช่วยพวกชัยชนะ เธอขอไปด้วยทันที ทั้งสองสบตากันแววตาเธอมุ่งมั่นมาก

ด้านในวัง อัมราภาชินีเดินมากับมาลาตีอย่างเศร้าๆ เห็นองคมนตรีกับหัวหน้าผู้บัญชาการเข้าไปรายงาน อิสราธิบดีจึงรีบตามไปแอบฟัง องคมนตรีรายงานว่าสายของเราได้ที่อยู่ราชิดแล้ว องค์อิสรารีบสั่งการให้หน่วยรบพิเศษเตรียมบุกชิงตัวประกันออกมา องค์ราชินีและมาลาตีจับมือกันด้วยความดีใจ

ในขณะที่อรินกับจัสมินจับมือกันหลบเลี่ยงพวกของราชิด ต้องกอดกันตัวแนบกำแพงซ่อนกาย จัสมินแอบเขินนิดๆ พอลูกน้องราชิดผ่านไป อรินรีบปล่อยเธอกล่าวขอประทานอภัย เธอมองอย่างรำคาญที่มาทำพิธีรีตอง เขาก้มหัวบอกตนเป็นแค่คนสามัญก็ต้องทำแบบนี้ จัสมินคิดอยากให้เขาพูดความในใจ จึงเลียบเคียงถามทำไมเขามาช่วยตนถึงที่ซามาร์

“เอ่อ...ก็แค่อยากช่วย”

“พวกที่วังไม่รู้เหรอว่าคุณมา”

“เปล่า เขาไม่ให้ผมมายุ่งด้วยซ้ำ”

“แล้วทำไมถึงยังมา”

อรินนิ่งสบตาพูดไม่ออก จัสมินลุ้นรอฟังคำตอบ แต่เขากลับเลี่ยงชวนหนีต่อ เธอพึมพำรู้นะว่าเป็นห่วง อรินทำเป็นไม่ได้ยินแต่แอบเขิน ทั้งสองเดินเลี้ยวไปทางที่ปลอดคน เจอกับวาเดียอย่างจัง เธอจะร้องบอก พวกจัสมินรีบพุ่งไปปิดปากแต่วาเดียดิ้นหลุดจึงกระชากคอเสื้อรั้งคอทำให้ร้องไม่ออก

สองสาวล้มลุกคลุกคลานปลุกปล้ำกันสักพัก

วาเดียสลัดตัวลุกขึ้นได้จะวิ่ง จัสมินกับอรินมองหน้ากันทำนองแย่แล้ว พลันวาเดียสะดุดขอบพื้นล้มหน้าฟาดนิ่งไป ทั้งสองย่องเข้าไปตรวจสอบแล้วโล่งใจที่แค่สลบ พอหันมาเห็นบางอย่างทำให้ทั้งสองตื่นเต้นดีใจ

ด้านหน่วยรบพิเศษของซามาร์ ยกกำลังบุกไปที่รังของราชิด พอผลักประตูกรูเข้าไปก็เกิดเสียงระเบิดตูมสนั่นหวั่นไหว ทหารซามาร์ถูกลวงไปฆ่าอีกที่หนึ่ง...

ราชิดหัวเราะสะใจ

“สมน้ำหน้าไอ้พวกโง่ ไม่ยอมแลกตัวประกัน แต่คิดจะบุกถล่มเรา”

นาธานกับเอ็มม่าที่โดนมัดอยู่ได้ฟังก็ตกใจด่าว่าราชิดเลว ราชิดหันมาตบหน้าเอ็มม่ากับนาธาน ชัยชนะฮึดฮัดจะเอาเรื่อง ลูกน้องราชิดจึงเตะอัดสั่งสอน ราชิดมองเหยียด

“ถ้าเราเลว พวกแกที่เป็นสายเลือดของคนที่มาแย่งดินแดนของเรานี่แหละเลวยิ่งกว่า ปากดีนัก เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน” ราชิดสั่งลูกน้องให้เอาตัวเอ็มม่าออกไป

นาธานร้องห้ามเพราะรู้ว่าจะเอาน้องไปฆ่า เอ็มม่าร้องไห้ให้พี่ช่วยด้วย ชัยชนะโพล่งขึ้น ขอแลกเอาตนไปแทน เอ็มม่าอึ้งไม่คิดว่าเขายังดีกับตน ราชิดเยาะแน่ใจหรือว่าจะยอมตายแทน จะก่อนจะหลังก็ต้องตายทุกคน ชัยชนะสบตาแข็งกร้าว ราชิดบุ้ยใบ้สั่งลูกน้องให้พาเขาไปแทน

ในห้องสังหาร ชัยชนะถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ ลูกน้องราชิดคนหนึ่งตั้งปืนอีกคนตั้งกล้อง เพื่อถ่ายการฆ่าส่งไปให้ทางวัง ชัยชนะปลงนั่งหลับตาสวดมนต์ พอเสียงปืนดังปัง...ร่างเขาสะดุ้งเล็กน้อย แล้วได้ยินเสียง ตุ้บตั้บ จึงลืมตาขึ้นเห็นอรินต่อสู้กับลูกน้องราชิด ส่วนจัสมินช่วยแก้มัดให้

“ขอบพระคุณครับครูมะลิ เอ๊ย ขอบพระทัยองค์หญิง”

จัสมินค้อนที่มาทำพิธีรีตองอีกคน อรินจัดการสมุนราชิดสำเร็จ รีบบอกชัยชนะว่าเสียงปืนคงทำให้ราชิด

คิดว่าเขาตายแล้ว เราต้องรีบหนี อยากรู้ว่าเอ็มม่ากับ

นาธานอยู่ไหน...ชัยชนะพาไปที่ห้องขัง จัดการยามที่เฝ้า เอ็มม่ากำลังร้องไห้ที่ชัยชนะยอมตายแทนทั้งที่ตนทำไม่ดีกับเขามากมาย รู้สึกผิดที่ตัวเองทำผิดพลาด นาธานแปลกใจว่าทำอะไร เอ็มม่าไม่กล้าพูดเรื่องที่ตนมีส่วนทำให้เจ้าหญิงถูกจับตัวมาแบบนี้ พอเห็นจัสมิน เข้ามาพร้อมอรินและชัยชนะก็ดีใจมาก

วาเดียฟื้นขึ้นมาเล่าให้ราชิดฟังว่าเจ้าหญิงหนีไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ราชิดรู้ทันทีว่าต้องเป็นอรินก็โกรธมากสั่งจับองค์หญิงกลับมาให้ได้ ส่วนคนอื่นฆ่าให้หมด

ooooooo

ทุกคนวิ่งหนีออกมาจากรังของราชิด แต่ยังมีสมุนตามไล่ยิง นาธานให้อรินกับชัยชนะพาจัสมินกับเอ็มม่าหนีไปก่อน ตัวเขาจะยิงต้านไว้ จัสมินไม่ยอมจะไม่ทิ้งกัน เขายืนยัน

“ชีวิตนี้มีไว้เพื่อตายแทนเจ้าหญิงอยู่แล้ว”

ชัยชนะเตือนถ้าไม่รีบหนีตอนนี้ พวกมันตามมาสมทบจะหมดโอกาส สองสาวน้ำตาไหลพรากเป็นห่วงไม่อยากทิ้งนาธาน

เอ็มม่าให้จัสมินแลกผ้าคลุมผมแล้วหนีไปกับอริน ตัวเธอวิ่งไปกับชัยชนะอีกทาง ราชิดตามมาเห็นผ้าคลุมผมจัสมินก็วิ่งไปทางนั้น พอมาทัน ชัยชนะจับมือเอ็มม่าวิ่ง ราชิดกระชากผ้าคลุมหลุดจึงเห็นว่าไม่ใช่เจ้าหญิง โกรธมากยิงใส่ ชัยชนะปกป้องโดนกระสุนถากเข้าที่หัวไหล่ เอ็มม่าร้องกรี๊ดประคองเขาอย่างห่วงใย

ด้านอรินพาจัสมินวิ่งหนีมาทางเนินสลับซับซ้อน พอปลอดคนก็หยุดพัก จัสมินร้องไห้เป็นห่วงทุกคน ไม่อยากหนีอีกแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นมาเดือดร้อนแทนตน อรินปลอบ

“ไม่ได้นะ พวกเขาเสียสละเพื่อท่าน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องหนีรอดกลับไปให้ได้ ชีวิตของท่านสำคัญที่สุด”

“แต่เราไม่ต้องการแบบนี้” จัสมินสะอื้น อรินกอดปลอบ

เสียงราชิดดังมา “แสบนักหลอกเราได้ รู้นะว่าอยู่แถวนี้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ออกมาซะ”

ทั้งสองสะดุ้งสบตากันอย่างรู้ว่าหมดทางหนี...ราชิดส่ายปืนเดินหาทุกซอกหิน จนเจอจัสมินนั่งนิ่งอยู่คนเดียวก็แปลกใจถามอรินไปไหน ทันใดอรินโผล่มาส่งเสียงและเอาปืนเล็งหัวราชิด

ราชิดหันกลับไปยิงใส่ทันทีแต่อรินหลบทัน จัสมินรีบหลบหลังโขดหิน อรินกับราชิดกระโจนเข้าต่อสู้กันดุเดือด วาเดียเข้ามาด้านหลังล็อกคอจัสมินลากออกมาขู่ให้อรินทิ้งปืน จัสมินพลิกตัวกลับมาบิดแขนวาเดีย สบตาอรินทำนองพร้อมสู้ เขาจึงบอกจัดการได้แล้วให้หนีไปไม่ต้องห่วง

จัสมินคว้าท่อนไม้มาได้ใช้ทักษะการฟันดาบสู้กับวาเดีย ด้วยความเหนื่อยจึงพลาดท่า ชัยชนะกับเอ็มม่าเข้ามาช่วย จากที่ชัยชนะถูกยิงทำให้เสียเลือดอ่อนแรงลง จึงจับวาเดียไม่ได้ เอ็มม่าไม่ตามเพราะเป็นห่วงเขา จัสมิน

กลับไปช่วยอริน เขาโดนราชิดแทงเข้าที่ท้องล้มลง เธอจึงกระโดดเตะราชิดให้ออกห่าง กลับโดนเขาจับลากตัวไปอย่างทุลักทุเล

“เห็นแล้วใช่ไหมว่าขัดคำสั่งของเราแล้วจะเป็นยังไง อย่าคิดหนีอีก”

“ฆ่าคนบริสุทธิ์ เนี่ยเหรอวิถีของกลุ่มจีโบ”

ราชิดเข่นเขี้ยวไม่พอใจสายตาจัสมินที่มองเหยียด กระชากตัวเธอเหวี่ยง จัสมินจะตกหน้าผา อรินกระโจนมาดึงแขนเธอไว้ ราชิดได้ทีจะถีบให้ตกไปพร้อมกัน แต่อรินไวกว่าดึงจัสมินหลบ ทำให้ราชิดถลาตกลงไปเสียเอง ทั้งสองหันมากอดกันอย่างใจหายใจคว่ำ

ooooooo

เมื่อหมดเรื่องร้าย จัสมินกลับมาเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท นั่งรถเปิดประทุนเข้าวังพร้อมเอ็มม่าและนาธาน...นาธานลงมาเปิดประตูรถก้มคำนับยื่นมือให้เจ้าหญิงจับ จัสมินจับมือเขาลงจากรถ ส่งยิ้มให้ทหารที่ยืนทำความเคารพ พอพ้นเข้ามาข้างใน เธอก็ลิงโลดดีใจที่ได้กลับมา

เอ็มม่าวิ่งตามจัดกระโปรงเจ้าหญิงที่ลากยาวให้เข้าที่เข้าทาง...

ภายในโถงพระราชวังอันโอ่อ่า พระราชากับราชินียืนสง่า ด้านหลังเป็นองคมนตรีกับมาลาตี องค์อิสราธิบดีจับมือขอบใจอรินกับชัยชนะที่ช่วยเจ้าหญิงมาได้ ทั้งสองก้มหัวคำนับ

จัสมินมาถึงโผกอดอัมราภาชินีพร่ำบอกว่าคิดถึง พระองค์ตรัสตอบว่า “ลูกไม่รู้หรอกว่า แม่เป็นห่วงมากแค่ไหน”

จัสมินรู้ว่าผิดกราบขอประทานอภัยและเข้าไปอ้อนองค์อิสราธิบดีอย่าทรงกริ้ว พระองค์เอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล “ลูกได้บทเรียนมากพอแล้วนี่ ใช่ไหม”

“เพคะ...ท่านพ่อท่านแม่รู้จักคุณอรินแล้วใช่ไหมคะ เขาดีกับลูกมากตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทย แล้วก็ยังตามมาช่วยชีวิตลูกด้วย”

จัสมินสบตาอรินอย่างทั้งรักและชื่นชม อรินยิ้มบางๆ อิสราธิบดีมองหน้าขรึม ทำให้เขารู้สึกอึดอัด

พอออกมาเดินเล่นกับจัสมิน เธอคุยกับเขาอย่างร่าเริง บอกเขาเป็นแขกของเธอ ต้องการอะไรเพิ่มเติมให้บอก ตนอยากพาเขาเที่ยวให้ทั่วซามาร์ อรินเอาแต่ตอบรับลูกเดียว จัสมินมองค้อนขอให้เขาพูดอย่างอื่นบ้าง เขาจึงเปลี่ยนมาพูดว่ากระหม่อม เธอตีแขนเขาอย่างงอนๆ อรินอดยิ้มไม่ได้ เธอมองหน้าเขาพูดอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณและขอโทษสำหรับทุกอย่างนะคะ”

“ผมเองก็เหมือนกัน”

“จะขอบคุณอะไรคะ ขอบคุณที่เราก่อเรื่องเหรอ”

“ขอบคุณที่ยังคุยกับผมเหมือนเดิม เหมือนครูมะลิ คนที่ผมรู้จัก”

จัสมินปลื้มปริ่ม พอกลับเข้าห้องก็คุยร่าเริงกับเอ็มม่า แต่เธอกลับทำหน้าเศร้าที่เจ้าหญิงไม่รู้สึกโกรธเคืองที่ตนมีส่วนทำให้ถูกจับตัวไป จัสมินปลอบอย่าคิดมาก

มันเป็นเพียงความผิดพลาด ทุกอย่างจบไปแล้ว แต่เอ็มม่ายังละอายใจ

“ขอบใจที่กล้าสารภาพกับเราตรงๆ แล้วก็ขอบใจที่ตามไปช่วยเรา ตั้งแต่เด็กจนโตเราอยู่ด้วยกัน ดูแลเราตลอด ไม่มีเอ็มม่าเราก็คงอยู่ไม่ได้ เรื่องแค่นี้เรายกโทษให้ อย่าเสียใจอีกเลยนะ”

“เป็นพระกรุณาเหลือเกินเพคะ” เอ็มม่าน้ำตาร่วงเผาะ

จัสมินดึงมากอดบอกตนรักเธอ เอ็มม่าซาบซึ้งปล่อยโฮออกมาอย่างรู้สึกผิดมากขึ้น

บ่ายวันนั้น จัสมินนั่งทานกลางวันกับอรินสองต่อสอง แต่โต๊ะที่จัดอาหารเป็นโต๊ะยาวหรูหรา ทั้งสองนั่งหัวโต๊ะคนละฝั่ง ทำให้พูดคุยกันไม่ค่อยถนัด ต้องพูดซ้ำหลายๆครั้ง จัสมินจึงยกจานย้ายมานั่งข้างเขา เพื่อแนะนำอาหารของชาวซามาร์ เขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะ เธอทำหน้าเซ็งให้เลิกพูดคำนี้เสียที แล้วถามถึงแผลที่โดนแทงเป็นอย่างไรบ้าง ส่งข่าวบอกคนที่เมืองไทยหรือยัง

อรินนึกได้ พอกลับมาห้องพักจึงโทร.กลับไปหาพอฤดีกับสิงห์ชัย ที่ช่วยดูแลมัดหมี่ให้ มัดหมี่เสียใจเมื่อรู้ว่าครูมะลิจะไม่กลับมาอยู่ด้วยอีก

ค่ำนั้น จัสมินเล่นเปียโนพลิ้วไหวร้องเพลงคู่กับอริน สายตาเธอที่มองเขาทำให้นาธานเศร้าใจรู้ว่าไม่อาจแทนที่อรินได้ เอ็มม่าเองก็สะเทือนใจรู้ดีว่าอรินไม่อาจลงเอยกับเจ้าหญิงได้...เอ็มม่าดึงนาธานให้ออกไปด้วยกัน ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง แต่พอออกมาก็เจอกับองค์อัมราภาชินี สองพี่น้องรีบทำความเคารพ พระองค์ทรงยืนมองจัสมินกับอรินเงียบๆ
พอกลับเข้าไปหาอิสราธิบดีที่ห้องทำงาน พระองค์ทรงเอ่ยถามว่าเมื่อไหร่อรินจะกลับเมืองไทย อัมราภาชินีตอบยิ้มๆว่าคงอีกสักพัก องค์อิสราไม่ค่อยพอใจ ไม่มีงานทำหรืออย่างไร

“เขากับจัสมินอยู่ในสายตาพวกเราตลอด ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย”

“แต่มันเสียเกียรติ จัสมินยังเด็กเกินไป”

อัมราภาชินีแย้งตอนที่เราแต่งงานกันตนก็อายุเท่านี้ เธอรู้ว่าพระสวามีไม่พอใจจึงพยายามพูดให้เห็นใจลูก... ตนแน่ใจว่าลูกกำลังมีความรัก องค์อิสราสะอึก รู้อยู่แก่ใจแต่ไม่อาจยอมรับได้

ooooooo

วันต่อมา ชัยชนะคุยเฟซไทม์กับพอฤดีหนุงหนิง เธอเป็นห่วงอยากเห็นบาดแผลว่าหนักแค่ไหน เขาจึงค่อยๆแกะผ้าพันแผลที่หัวไหล่ เอ็มม่าผ่านมาไม่รู้ว่าเขาคุยกับพอฤดีอยู่ เข้ามาช่วยขยับผ้าพันแผลให้ เสียงพอฤดีร้องอ้าว เธอสะดุ้งรู้สึกอายขอตัวจะไป พอฤดีชิงวางสายไปก่อน

ชัยชนะจึงถามเอ็มม่ามีธุระอะไรกับตน เธอรู้สึกเสียใจ ขอบคุณที่เขายอมแลกชีวิตกับตน

“ตอนนั้น...ผมก็ไม่ทันได้คิดอะไรมากหรอกครับ”

“ทำไมตอนนั้นฉันไม่รักคุณ” เอ็มม่านึกเสียดายเวลาที่ผ่านไป

ชัยชนะยิ้มอย่างเป็นมิตร “เรื่องแบบนี้เลือกไม่ได้หรอกครับ”

“แล้วตอนนี้ ถ้าฉันเปิดโอกาส คุณจะกลับมาได้อีกไหมคะ”

ชัยชนะขอบคุณที่ถาม แล้วตอบอย่างสุภาพว่า ตอนนี้ตนมีผู้หญิงที่ต้องกลับไปหาแล้ว เอ็มม่าน้ำตาคลอรู้แก่ใจดีว่าคือพอฤดี ฝืนยิ้มแสดงความยินดีกับเขาแล้วขอตัว ชัยชนะพูดตามหลังให้ได้ยิน “สักวันคุณจะต้องได้พบผู้ชายซามาร์ที่ดี ที่เขารักคุณ...แล้วคุณก็รักเขา”

เอ็มม่าเดินน้ำตาไหลรินออกไป...มาหลบนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ นาธานเดินมาเจอถามอย่างห่วงใย เธอโผกอดพี่ชายรำพันว่าตนทำตัวเอง กับคนที่จริงใจก็ไม่เคยสนใจเขา กลับไปเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นตนในสายตา ตนโง่มาก ไม่เคยทำอะไรถูก ตนไม่เหลือใครแล้ว นาธานปลอบว่ายังเหลือพี่ชายคนนี้ ใครไม่รักเราก็ปล่อยเขาไป

เอ็มม่าย้อนถามพี่ทำใจได้แล้วหรือ เขาชะงักมอง เธอเฉลยว่ารู้นานแล้วว่าพี่รักเจ้าหญิงแล้วก็คงรู้ว่าเจ้าหญิงรักใคร นาธานอึ้งพูดไม่ออก

ขณะเดียวกัน อิสราธิบดีถามองคมนตรีว่า พิธีมอบเหรียญกล้าหาญให้อรินจะมีขึ้นเมื่อใด ได้รับคำตอบว่าต้องหลังจากพิธีแต่งตั้งรัชทายาทขององค์หญิง พระองค์ร้อนใจที่นานขนาดนั้น ถามเราใช้วิธีส่งกลับไปไทยหรือให้เขาตามไปมอบให้ที่สถานกงสุลได้ไหม องคมนตรีนึกรู้ว่าพระองค์ไม่ปลื้มอริน จึงรับคำอย่างชอบใจ

ในขณะที่จัสมินพาอรินเที่ยวและขอให้เขาอยู่

ซามาร์ร่วมพิธีแต่งตั้งรัชทายาทของตนก่อนอย่าเพิ่งกลับ... แต่องคมนตรีกลับมาพูดทำนองให้เขากลับเมืองไทยอย่าลำบากอยู่ซามาร์ต่อไป อรินอ้างว่ารับปากเจ้าหญิงแล้วจะอยู่ร่วมพิธี องคมนตรีไม่สบอารมณ์พูดเชิงข่มให้รู้ว่า เจ้าหญิงแห่งซามาร์จะต้องมีคู่ครองที่เหมาะสม เขารู้ทันโต้ว่าอย่างเช่นนาธานใช่ไหม องคมนตรีชะงัก

“อยู่ที่ท่านจะทรงเลือกมากกว่า ผมไม่เชียร์ลูกตัวเองหรอก แต่อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนซามาร์ คุณเข้าใจที่ผมพูดนะ”

อรินรู้ว่าโดนกันท่า ได้แต่มองนิ่งๆไม่ตอบโต้อีก...แต่พอมาเจอชัยชนะชื่นชมความสวยงามของวังจึงแย็บถามอยากอยู่จริงจังไหม ก็ถูกย้อนว่าถ้าอยู่ชั่วคราวก็ดี ที่นี่ไม่ใช่บ้าน ตนมีบ้านมีคนรออยู่ แต่สำหรับเขาคิดอยู่ที่นี่เป็นบ้านหลังใหม่ก็ได้

อรินชะงักไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไร ชัยชนะถามว่าเขารักเจ้าหญิงมากพอที่จะทิ้งทุกอย่างมาอยู่ที่นี่หรือเปล่า...อรินคิดหนัก

ระหว่างที่อรินเดินครุ่นคิด รู้สึกมีคนสะกดรอยตาม จึงหลบลอบกลับมาดักข้างหลัง เจอศรีวิจันทร์ตกใจบอกตนเป็นข้าหลวงองค์ราชินี อรินรีบยกมือไหว้ขอโทษ ศรีวิจันทร์อยากรู้ว่าเขามีแฟนรออยู่ที่เมืองไทยหรือไม่ และถามอีกหลายอย่างมากมาย ว่าเขามีเงินเยอะไหม เกิดวันที่เท่าไหร่ ราศีอะไร ถนัดมือซ้ายหรือมือขวาจนเขาหน้าเหวอตอบไม่ทัน

ศรีวิจันทร์ให้ค่อยๆตอบจะได้รู้นิสัยใจคอ อรินย้อนถามทำไมถึงอยากรู้ เธอพลั้งปากว่าท่านให้มาสืบแล้วสะดุ้งแก้ตัวว่าอยากรู้เอง อรินรู้ทันยินดีตอบทุกอย่าง เธอยิ่งปลื้มในตัวเขากลับมารายงานให้องค์ราชินีและมาลาตีฟังด้วยสีหน้าเคลิ้มฝัน ปลื้มในความเป็นสุภาพบุรุษของอรินจนถ้ามีลูกสาวจะยกให้เลย อัมราภาชินีขำแต่ก็หนักใจแทนลูก...และแล้วอรินก็ได้รับตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยจากองคมนตรี เป็นตั๋วระดับเฟิร์สคลาสวันพรุ่งนี้ อรินตอบอย่างสุภาพว่าถึงเวลากลับพวกตนจัดการเองได้ ไม่ขอรบกวนทางราชสำนัก

จัสมินไม่รู้เรื่องนี้ นำหมายกำหนดการมาอ่านให้อรินฟังว่าหลังพิธีแต่งตั้งรัชทายาท จะมีงานเต้นรำ เธอให้เขาขอเธอเต้นรำ แล้วเย้าหรือจะให้เจ้าหญิงรัชทายาทขอหนุ่มไทยเต้น ท่าทางอรินเครียดๆจนเธอแปลกใจถามคิดถึงบ้านหรือ ตนก็อยากกลับไปเป็นครูมะลิ

“ไม่มีครูมะลิต่อไปอีกแล้วกระหม่อม” อรินกล่าวอย่างขมขื่น

ด้านองคมนตรีกลับมานั่งกลัดกลุ้ม มาลาตีเข้ามามองนิ่งๆก่อนจะเอ่ยว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะผลักดันลูกให้แก่องค์หญิง เขาชะงักมองตอบว่าทำเพื่อซามาร์ มาลาตีว่าเจ้าหญิงไม่ได้รักลูกของเรา องคมนตรีเริ่มไม่พอใจย้อนถาม ถ้าองค์หญิงไม่ชอบนาธานแล้วไปชอบอริน คิดว่าชาวซามาร์จะยอมหรือ มาลาตีเถียงไม่ออก องคมนตรีย้ำหนักแน่น

“ถ้าองค์หญิงรัชทายาทแต่งงานกับคนต่างชาติ ต้องเป็นจุดเสื่อมของราชวงศ์แน่นอน ความมั่นคงของประเทศสำคัญกว่าความรู้สึกของคนแค่สองคน”

มาลาตีฟังแล้วนึกสงสารเจ้าหญิง...องคมนตรีนำความมาบอกองค์อิสราธิบดีว่าอรินไม่ยอมกลับไทยจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธีแต่งตั้งรัชทายาท อุตส่าห์ให้ตั๋วยังไม่รับ อวดดี...องค์อิสราฟังนิ่งๆ ติงอย่าเสียมารยาท ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนช่วยชีวิตเจ้าหญิง องคมนตรีสะอึกแต่ยังย้ำเตือน

“แต่ถ้าไม่รีบตัดไฟแต่ต้นลม ปล่อยให้สองคนสนิทสนมกันมากกว่านี้ หม่อมฉันเกรงว่า”

องค์อิสรายกมือห้ามไม่ต้องพูดต่อเพราะรู้อยู่แก่ใจ ให้ไปหาวิธีทำให้อรินสมัครใจกลับเอง อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ องคมนตรีน้อมรับ

ooooooo

จัสมินเห็นอรินเครียดจึงชวนออกไปเที่ยวนอกวัง โดยหามอเตอร์ไซค์ให้เขาขี่ เธอซ้อนท้ายมีผ้าคลุมหน้าปกปิด รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ออกมาเที่ยวกันตามลำพัง ทั้งสองเดินเล่นในตลาด อรินคอยเร่งให้กลับวัง เธอขอมีความสุขในแบบนี้อีกสักพัก

พลันมีนักข่าวเห็นแอบถ่ายภาพ อรินรู้ตัวรีบดึงจัสมินวิ่งหนีมาหลบแถวกำแพง หัวเราะกันอย่างโล่งใจ... ไม่ทันไรต้องหัวเราะค้าง เมื่อนาธานมายืนตรงหน้า สีหน้าเขาเคร่งขรึมสั่งทหารให้พาตัวเจ้าหญิงกลับวัง จัสมินแปลกใจไม่เคยเห็นเขาเครียดแบบนี้มาก่อน รีบแก้ตัวว่าอรินไม่เกี่ยว ตนลากเขาออกมาเอง ตนผิดคนเดียว...นาธานหันมาพูดอย่างเด็ดขาดกับอริน

“อย่าทำแบบนี้อีก เจ้าหญิงไม่ใช่ครูมะลิอีกต่อไปแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์พาท่านไปไหนต่อไหนตามใจชอบ”

“คุณก็รู้ว่าถ้าองค์หญิงจะทำ ไม่มีใครห้ามได้” อรินจ้องตาอย่างไม่กลัวเกรง

นาธานหาว่าเป็นข้ออ้าง อรินเย้ยว่าตนดูแลเธอได้ เขาสบตาเป็นเชิงท้าให้ประลองฝีมือกัน ทั้งสองจึงมาที่โรงฝึกศิลปะการต่อสู้ อยู่ในชุดฟันดาบ อรินมีชั้นเชิงเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด องคมนตรีเข้ามามอง เห็นลูกชายสู้ไม่ได้แน่จึงให้หยุด แต่นาธานยังยื้อสู้จนตัวเจ็บ อรินขอให้พอแค่นี้ เขาก็ไม่ยอม ผู้เป็นพ่อทนไม่ได้ บุ้ยใบ้ให้ทหารเล่นสกปรก

สักพักแผ่นบอร์ดคะแนนมีมือดีผลักให้ล้มใส่อริน เขากระโดดหลบล้มลง นาธานทำท่าจะฟันใส่ต้องชะงักเพราะเห็นหลังทหารไวๆออกไป จึงรู้ว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ

องคมนตรีปรบมือชมนาธานว่าสมแล้วที่เป็นองครักษ์ อรินยอมรับว่าตนแพ้ แต่นาธานบอกว่าเมื่อกี้เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครแพ้ใครชนะ อรินจับมือยอมรับในสปิริตนักกีฬาของเขา...พอแยกออกมา องคมนตรีตำหนินาธานทำไมไม่จัดการอรินให้เด็ดขาด เขาเห็นว่ามันไม่ยุติธรรม

“เพ้อเจ้อ เพราะเป็นแบบนี้ไง ชีวิตลูกถึงไม่เคยชนะใครเลย”

“ถึงผมแพ้ ก็แพ้อย่างขาวสะอาด” นาธานเสียใจในคำพูดของพ่อ

ผู้เป็นพ่อกลับตำหนิว่าโลกนี้ไม่มีอะไรขาวไปหมด หัดโตเป็นผู้ใหญ่เสียที นาธานเสียใจ

ภาพข่าวเจ้าหญิงจัสมินแอบเที่ยวกับชายนิรนามปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ จัสมินยอมรับผิดที่ประมาทเกินไป องคมนตรีได้ทีตอกย้ำความไม่เหมาะสม ทำให้คนลือกันว่าเจ้าหญิงคบกับชายต่างชาติ จัสมินเห็นว่ามันเป็นเรื่องจริง ต่อไปถ้าแต่งงานกันแล้วคนซามาร์ก็จะรู้จักเอง

“ไม่ได้! จะไม่มีการแต่งงานระหว่างลูกกับอรินเด็ดขาด เจ้าหญิงจัสมินต้องแต่งงานกับชาวซามาร์เท่านั้น” องค์อิสราธิบดีประกาศกร้าว

จัสมินหน้าเสีย เดินตามท่านพ่อเข้าไปในห้องทำงาน องคมนตรีรายงานว่าบัตรเชิญงานราชพิธีแต่งตั้งเจ้าหญิงรัชทายาทถูกส่งถึงบรรดาประมุขและบุคคลสำคัญเรียบร้อยแล้ว องค์อิสราย้ำให้ดูแลจัดการให้ดีอย่าให้มีอะไรผิดพลาด จัสมินถามองคมนตรีว่าพิธีมอบเครื่องราชย์ให้อรินยังตามเดิมใช่ไหม เขาสบตาองค์อิสราก่อนจะตอบว่า

“เปลี่ยนแปลงแล้วกระหม่อม กระหม่อมจะเดินทางไปทำพิธีมอบให้คุณอรินที่ประเทศไทยภายหลัง อย่างสมเกียรติ”

“แต่เราอยากให้คุณอรินอยู่ร่วมพิธีแต่งตั้งด้วย”

“แขกในงานนี้เชิญเฉพาะราชวงศ์จากทั่วโลกและผู้นำประเทศต่างๆเท่านั้นกระหม่อม”

อัมราภาชินีปลอบลูกว่าแบบนี้อรินจะลำบากใจที่ต้องอยู่ร่วมงาน จัสมินอ้างว่าไม่อยากผิดสัญญา ทุกคนก็รู้ว่าเขามีบุญคุณกับตนมาก องค์ราชินีสบตาองค์อิสรา พระองค์จึงอ่อนลงอธิบายว่า บางงานมันไม่เหมาะกับอริน แต่จัสมินยังไม่ยอม

“บอกกับแขกทุกคนที่มาร่วมงานว่าคุณอรินเป็นแขกคนสำคัญของเจ้าหญิงได้ไหมคะ”

องคมนตรีอ้างความไม่เหมาะสม จัสมินถอนใจหน้างอที่เป็นถึงเจ้าหญิงแค่เชิญแขกสำคัญของตัวเองก็ทำไม่ได้ องค์อิสราจึงเตือนว่า ไม่ว่าเป็นใครก็ใช่ว่าจะทำตามใจตัวเองได้ทุกเรื่อง ทุกอย่างต้องมีขอบเขต เจ้าหญิงจ๋อยหันไปอ้อนท่านแม่แทน องค์อัมราภาชินีสงสารลูก ปลอบว่าจะปรึกษากันอีกที จัสมินยิ้มกอดท่านแม่อย่างมีความหวัง แอบค้อนท่านพ่ออย่างงอนๆ

ooooooo

อรินเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ก็กังวลใจ ชัยชนะให้กำลังใจว่าเป็นการดีเสียอีกถือเป็นการเปิดตัว เสียงเคาะประตูดังขัดขึ้น จัสมินกับเอ็มม่าเดินเข้ามา อรินกับชัยชนะโค้งทำความเคารพ เอ็มม่าเอ่ยขึ้นว่าเจ้าหญิงมีเรื่องจะคุยกับอริน ชัยชนะชี้ที่ตัวเองทำนองต้องออกไปใช่ไหม

อรินเปิดฉากกล่าวเสียใจเรื่องข่าว ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ แต่จัสมินกลับไม่แคร์ ทุกคนจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนสำคัญของตน อรินรู้แก่ใจว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาเป็นไปไม่ได้ จัสมินเน้น

“ในโลกนี้อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่เราจะเข้มแข็งพอรึเปล่า”

อรินสบตาซึ้งใจถามทรงแน่ใจหรือ เธอย้ำว่าไม่เคยแน่อะไรเท่านี้มาก่อน เขาก้มหัวถวายชีวิตให้แก่เธอ จัสมินยิ้มอายๆ ชัยชนะกับเอ็มม่าแอบมองพลอยยิ้มปลื้มปริ่มไปด้วย

แต่แล้วความสุขแทบเลือนหาย เมื่อองคมนตรีนำกล่องของที่ระลึกมามอบให้อรินกับชัยชนะ แล้วบอกให้กลับเมืองไทย จะส่งหนังสือขอบคุณอย่างเป็นทางการไปให้ที่หน่วยงานของเขาพร้อมอวยพรให้เดินทางปลอดภัย แต่อรินอ้างว่าพวกจีโบยังไม่สงบ องคมนตรีมองเขานิ่งก่อนจะเอื้อนเอ่ยว่า ตนเตรียมรับมือไว้แล้วขอบใจที่ห่วง อรินยืนกรานยังไม่กลับจนกว่าจะมั่นใจว่าเจ้าหญิงปลอดภัย องคมนตรีจ้องหน้าอรินด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไม่พอใจ

ทางด้านองค์ราชินีหนักใจกับความดื้อรั้นของจัสมิน มาลาตีซึ่งเป็นครูรู้ใจจัสมินดีว่าต้องใช้ไม้นวมกับเธอ อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ให้เวลาเธอคิดไตร่ตรอง คอยให้เหตุผลสนับสนุน อัมราภาชินียิ้มปลื้มสมแล้วที่เป็นครูเป็นศิษย์กัน เราต้องช่วยกันบอกเจ้าหญิงให้รู้ว่า เหตุผลต้องมาก่อนอารมณ์ ศรีวิจันทร์ฟังแล้วใจแป้ว สงสารเจ้าหญิงของตนเหลือกำลัง

ในขณะที่นาธานซ้อมดาบอยู่คนเดียว ท่าทางเขาหงุดหงิดไม่มีสมาธิ องคมนตรีเข้ามายืนมอง เขาทำความเคารพแล้วจะเลี่ยงหนี องคมนตรีจึงกล่าวขึ้นว่า สักวันลูกจะรู้ว่าพ่อหวังดี

นาธานชะงักหันกลับมา “ลูกทราบครับ แต่ถ้าเจ้าหญิงจะเลือกใคร ขอให้เลือกด้วยหัวใจเจ้าหญิงเองไม่ใช่ด้วยวิธี...”

“ไม่ว่าวิธีไหน ถ้าผลสุดท้ายดีต่อประเทศชาติเราก็ต้องทำ ลูกยังเด็กนัก ชีวิตซับซ้อนกว่านั้นมาก”

“แต่แบบนั้นไม่ได้ทำให้ภูมิใจอะไรเลย”

“ถ้าให้เจ้าหญิงเลือกเอง แน่ใจเหรอว่าท่านจะเลือกลูก”

นาธานอึ้งที่โดนสบประมาท โต้ว่าจะพิสูจน์ให้เห็น องคมนตรีตอกย้ำถ้าทำได้ก็ดี กลัวแต่หัวใจเจ้าหญิงไม่ได้อยู่ที่เขา นาธานถึงกับอึ้งเพราะรู้อยู่แก่ใจดี...

อรินกับจัสมินเดินชมสวน มัดหมี่โทร.เข้ามาขอคุยกับจัสมิน หนูน้อยขอให้เธอกลับมาอยู่ด้วยกัน จัสมินปลอบว่าทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว มัดหมี่เปลี่ยนมาขอร้องใหม่ว่า อย่าหักอกอาของตน อรินหน้าเหวอที่หลานสาวแก่แดดเกินเด็ก

จัสมินน้ำตาคลอ เมื่อวางสายจากมัดหมี่ก็สบตาอรินขอให้เขาอยู่กับตนที่นี่ตลอดไป ไม่ทันที่อรินจะตอบ นาธานเดินเข้ามาอย่างหึงหวง เรียกเจ้าหญิงด้วยน้ำเสียงห้วน บอกมีเรื่องทูล เป็นเรื่องส่วนตัว

“มีอะไร ทำไมทำหน้าจริงจังขนาดนั้น”

“เป็นเรื่องที่อยากคุยกับท่านสองคนหม่อม”

อรินสบตานาธานอย่างรู้ทันแต่ก็ยอมถอย จัสมินมองตามหลังอย่างอาวรณ์ ก่อนจะหันมาถามนาธานว่ามีอะไร นาธานเอ่ยถามตรงๆสีหน้าเคร่งขรึม พูดรัวราวระเบิดความในใจ

“เจ้าหญิงรักผู้กองอรินใช่ไหม”

จัสมินชะงักไม่คิดว่าจะถามตรงขนาดนี้ แล้วยิ้มด้วยหัวใจชุ่มชื่น “ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร คิดถึงและอยากให้อยู่ใกล้กันนานๆ เธอว่านี่คือความรักใช่ไหม”

“หลงมากกว่าไม่ใช่รัก อาจอยู่ใกล้ชิดกันเกินไปเลยทำให้รู้สึกแบบนั้น อีกอย่างเขาไม่ใช่คนซามาร์ เดี๋ยวก็ต้องกลับเมืองไทย”

“เราอยากให้ทุกคนที่นี่ยอมรับและเปิดใจให้กับเขา”

“เปิดใจเหมือนอย่างที่เจ้าหญิงเปิดใจให้เขา แล้ว... กระหม่อมอยู่ตรงไหน”

จัสมินหันมอง “เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรานะนาธาน เรารักเธออย่างเพื่อน ไม่เหมือนที่รู้สึกกับคุณอริน” นาธานสวนทำไมไม่เหมือน เธอแปลกใจถาม “ทำไมถามเราแบบนั้น”

นาธานตัดสินใจเอ่ยความในใจ “เพราะหม่อม...รักเจ้าหญิง...แบบ...”

“หยุดเลยนะนาธาน! ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกันต่อ อย่าพูดแบบนั้นให้ได้ยินอีก...เธอเป็นเพื่อนที่ดีของเราเสมอ อย่าให้เราต้องเสียเธอไป”

นาธานตกใจที่เจ้าหญิงโกรธจริงและเดินหนี รีบเดินตามแต่เธอไม่สนใจฟังคำของเขาอีก นาธานกลัดกลุ้มมานั่งตบปากตัวเองที่ไม่ควรพูดแบบนั้น เอ็มม่าเอาไอศกรีมมาปลอบเอาใจ บอกพี่ชายว่าเราสองคนชะตากรรมเดียวกัน รักคนที่ไม่ได้รักเรา แต่ของเขายังมีลุ้นอาจสมหวัง

“จริงเหรอ แล้วพี่ควรทำยังไงช่วยคิดหน่อย พี่รักองค์หญิงมากจนอกแทบระเบิดอยู่แล้ว”

เอ็มม่าขำบอกให้พี่ทานไอศกรีมให้หมดก่อน เขาจึงตักกินจนปากเลอะ องคมนตรีเดินมามองตำหนิว่าทำตัวแบบนี้จะคู่ควรกับเจ้าหญิงได้อย่างไร นาธานบอกว่ากำลังปรึกษากันอยู่ ผู้เป็นพ่อเอ็ดควรไปฝึกซ้อมฝีมือหรือศึกษาหาความรู้ให้มาก ให้สมกับสิ่งที่พ่อจะทำให้ นาธานนิ่งมอง

“ผมก็ทำเท่าที่ทำได้ อย่าคาดหวังอะไรมาก ไม่อยากทำให้ท่านพ่อผิดหวังครับ”

เอ็มม่ามองพ่อทีพี่ชายที แล้ววิ่งตามพี่ชายที่เดินออกไป

ooooooo

ราชิดยังไม่ตาย ปลอมตัวมาจะช่วยโมซันในคุก แต่ทหารซามาร์มาเห็นก่อนจึงต้องหลบหนีออกไป โมซันเห็นสายตามั่นใจว่าต้องใช่ราชิดแน่...พอองค์อิสราธิบดีทราบเรื่องก็สังหรณ์ใจสั่งเพิ่มทหารคุมห้องขังโมซัน และคุ้มกันเจ้าหญิงเป็นสองเท่า

เมื่ออรินทราบเรื่องก็เป็นห่วงจัสมินมากขึ้น ชัยชนะถามว่าแบบนี้จะกล้ากลับเมืองไทยหรือ เขาบอกไม่ได้อยู่ที่กล้าหรือไม่กล้า แต่อยู่ที่เหตุผลว่าอย่างไหนสมควรทำมากกว่ากัน เลยโดนแซว

“ผู้กองอยู่ใกล้กับเจ้าหญิงมากๆนี่ก็ดีนะครับ รู้จักใช้เหตุใช้ผลด้วย ไม่บ้าระห่ำเหมือนเก่า”

อรินเหล่มองคว้าขวดน้ำมาบีบใส่ ชัยชนะหลบแล้วเย้า ถ้ารักเจ้าหญิงจริงก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้เธอมา อรินถอนใจเป็นห่วงความปลอดภัยของจัสมินมากกว่า

ด้วยความเครียดทำให้จัสมินฝันร้ายว่าอรินมาลากลับไทยและจะไม่กลับมาอีก เธอร้องเรียกเขาลั่น เอ็มม่าเข้ามาปลุก รู้สึกว่าเจ้าหญิงตัวรุมไม่สบาย มาลาตีเรียกหมอหลวงแล้วเตรียมเครื่องจะเช็ดตัวให้เจ้าหญิง อรินทราบเรื่องมาขอเยี่ยม มาลาตีเผลอตำหนิเป็นเพราะเขาที่ทำให้เจ้าหญิงคิดมากจนป่วย อรินสลดลง ชัยชนะปลอบไม่ให้คิดมาก

อัมราภาชินีเข้ามาหา จัสมินนั่งซึมไม่รู้ว่าตนควรทำอย่างไรดีเรื่องอริน พระองค์แนะนำว่า ถ้าเราเป็นนางสาวจัสมินก็ทำอะไรตามอำเภอใจได้ แต่ลูกเป็นเจ้าหญิงต้องทำเพื่อซามาร์ จัสมินยิ่งเศร้าที่ท่านแม่เข้าข้างท่านพ่อ องค์ราชินีปลอบว่าแม่อยู่ข้างลูกเสมอ แต่หน้าที่ต้องมาก่อนหัวใจ เธออึ้งพูดไม่ออก องค์ราชินีกอดให้กำลังใจและย้ำว่า

“ลูกโตแล้วแม่จะไม่บังคับ แต่ให้ตัดสินใจเอง ต่อไปลูกคือผู้ที่ต้องดูแลประเทศนี้ และคู่ครองของลูกต้องเป็นคนที่ชาวซามาร์ยอมรับได้”

วันต่อมา จัสมินออกมาเดินเล่นครุ่นคิดเรื่องอริน ...อรินก็ออกมาเดินเครียดไม่ทันเห็นว่าจัสมินเดินอยู่อีกทาง แล้วทั้งสองก็เดินมานั่งม้านั่งตัวเดียวกันโดยหันหลังชนกัน ต่างสะดุ้งลุกหันมอง ต่างฝ่ายต่างดีใจ อรินรีบบอกว่าเป็นห่วงเธอมาก จัสมินยิ้มดีใจดึงเขาให้ออกไปนอกวัง เขาค้านว่าเธอเพิ่งหายไข้จะหนีเที่ยวอีกแล้วหรือ

“ไม่ได้หนีเที่ยวนะ เราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ในวังมันอึดอัดจะแย่ จนบางทีแทบหายใจไม่ออก เราอยากหาที่เงียบๆ อยากมีเวลาคิด”

ตลอดเวลา ศรีวิจันทร์เฝ้าแอบดูทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดจนได้ยินว่าทั้งสองจะไปที่ไหน...

ooooooo

จัสมินพาอรินมาที่ป้อมปราการ หยุดยืนที่จุดชมวิว เธอบอกเขาว่า ทุกครั้งที่มาที่นี่เหมือนได้เป็นตัวของตัวเอง เป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่เจ้าหญิง อรินโพล่งขึ้นว่า คิดถึงครูมะลิ เธอยิ้มถามมีอะไรอยากฝากบอกครูมะลิ เขาทำท่านึกก่อนจะพูดออกมาว่า ฝากบอกคิดถึงเหลือเกิน

จัสมินยิ้มกว้างอย่างชอบใจ “ครูมะลิรู้คงดีใจมาก และบอกกลับว่าคิดถึงคุณมากเช่นกัน”

“แต่คิดไปคิดมาแล้ว คิดถึงน้อยๆดีกว่า”

“ไม่ได้นะ ต้องคิดถึงเยอะๆ”

“ก็ครูมะลิชอบก่อเรื่องให้ผมปวดหัวตลอด”

จัสมินงอนเดินหนี อรินตามแต่รู้สึกเหมือนมีคนแอบมอง จัสมินชะงัก หาว่าเขาระแวงเกินไป ตนได้ออกจากวังทีไรสบายใจทุกที นี่คือเหตุผลที่ชอบไปโน่นนี่ ได้ผจญภัยตื่นเต้น อรินเตือนยังต้องระวังตัวให้มาก เธอยักไหล่ไม่ห่วงเพราะมีเขามาด้วย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

ทันใดมีเสียงก้อนหินกลิ้ง อรินชักมีดพกออกมาวิ่งไปดู เห็นเด็กชายวัยแปดขวบคนหนึ่งถือกระจาดขายของยืนตกใจกลัวแล้ววิ่งหนีไป เขาถอนใจเปรยว่าตนคงหมดห่วงเมื่อรู้ว่าไม่มีกลุ่มจีโบในซามาร์อีก

“มีคนบอกว่า พวกจีโบฆ่าไม่เคยตาย แต่เราไม่เชื่อ หมดราชิดคงรวมตัวกันยาก”

“ผู้ก่อการร้ายสมัยนี้ร้ายมาก รบแบบกองโจรจะมาตอนไหนก็ไม่รู้” อรินหวั่นใจ

“ก็นั่นน่ะสิไม่แน่ใจว่าเราจะปลอดภัย ผู้กองก็ต้องกลับไทย พวกนี้ไม่หยุดง่ายๆแน่ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ” จัสมินถอนใจเดินมาหยุดยืนริมน้ำ พลันเห็นเงาคนสวมเสื้อวอร์มมีฮูดคลุมหัว หน้าเหมือนราชิดก็ตกใจรีบบอกอริน เขาคิดว่าเธอตาฝาดเพราะไม่เห็นใคร

ในขณะเดียวกัน เอ็มม่ากับชัยชนะพยายามโทร.หาทั้งสองคนแต่ติดต่อไม่ได้ นาธานหงุดหงิดที่ทั้งสองหนีไปเที่ยวด้วยกันลำพัง ไม่รู้ว่าไปไหน ศรีวิจันทร์โผล่เข้ามาบอกว่าตนรู้

ระหว่างนั้นจัสมินพาอรินมาชมวิวจุดที่เธอชื่นชอบ เธอเพลิดเพลินและชวนคุยแต่พอหันมาไม่เห็น อรินก็ใจหายเดินหา อรินถือขวดน้ำเข้ามาแตะไหล่ เธอสะดุ้งพยายามตั้งสติ เขาจึงรู้ว่าเธอเครียดมาก แกล้งเย้าว่าไม่เหมือนครูมะลิที่แสนเฮี้ยวเลย เธอยิ้มผ่อนคลายลง

“นึกถึงตอนนั้นแล้วสนุกมาก ได้ใช้ชีวิตธรรมดาเหมือนคนทั่วไปไม่ต้องเป็นเจ้าหญิงแสนอาภัพ อยู่ใกล้ใครเขาก็เกร็งกันไปหมด แม้แต่คุณก็ยังไม่เว้น อยากไปเป็นครูมะลิอีกจัง”

“บางเรื่องก็ย้อนกลับมาไม่ได้ ชีวิตมีแต่ต้องเดินไปข้างหน้า...ถ้าอยู่กันตามลำพัง ผมจะพยายามทำให้สบายกว่านี้แต่ขอเวลาปรับตัวหน่อยนะครับ มันยังไม่ค่อยชิน”

จัสมินเชื่อว่าเขาต้องทำได้ อรินรับคำอย่างไม่ค่อย แน่ใจ...ระหว่างนั้นเอ็มม่า นาธานและชัยชนะเดินตามหา กลับสวนทางกันเพราะจัสมินพาอรินไปอีกที่หนึ่งที่เธอชอบ เอ็มม่าเดินลื่นจะพลัดตก ชัยชนะช่วยดึงไว้ เธอยิ่งซาบซึ้ง เขาพูดขำๆว่าเราเพื่อนกันต้องช่วยกัน เธอยิ้มเศร้าๆ

ขณะเดียวกันทางคุกซามาร์ ราชิดพาลูกน้องกลับมาชิงตัวโมซันออกจากคุกไปได้ ฆ่าทหารซามาร์ล้มตายหลายนาย

ooooooo

ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด