สมาชิก

ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน

ตอนที่ 12

หน้าบ้านอริน...กลุ่มซีนอนเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของจัสมิน และได้เห็นว่ามีองครักษ์คอยอารักขา ห่างออกมาเหวยกังกับสมุนซุ่มดูห่างๆ สมุนให้ชิงลงมือตัดหน้าแต่เหวยกังแย้ง

“ตัดทำไม ให้มันเหนื่อยแทนพวกเราสิเว้ย ตีกันให้ตายแล้วค่อยรอช้อนกินสบายๆ”...

ในขณะที่จัสมินตั้งใจมาคุยกับเอ็มม่าที่โรงพยาบาล แต่เธอทำหน้านิ่ง จัสมินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่าเราโตมาด้วยกันเป็นเพื่อนรักกัน ทำไมตนจะไม่รู้ว่าเธอไม่พอใจเรื่องอะไร เอ็มม่ามอง นาธานเห็นสองสาวหน้าเครียด พยายามจะเปลี่ยนบรรยากาศ แต่เอ็มม่ากลับพูดขึ้น

“หม่อมฉันมิบังอาจมีปัญหาหรอกเพคะ คนอย่างหม่อมฉันเกิดมาก็ผิดแล้ว ทำอะไรก็ไม่เคยถูก อะไรก็ไม่เคยดีทั้งนั้น” นาธานปรามแต่เธอสวน “หรือไม่จริง พี่นาธาน ไม่รู้จะเกิดมาทำไม ถ้าต้องมาเป็นแบบนี้”

จัสมินถามเป็นแบบไหน “ขอประทานอภัยเพคะ ถ้าทำให้องค์หญิงไม่สบายพระทัยกับคนแย่ๆอย่างหม่อมฉัน” พูดจบเอ็มม่าเดินหนีไป

นาธานต้องขอประทานอภัยแทนน้อง จัสมินถอนใจ บอกกลับซามาร์แล้วทุกอย่างคงดีขึ้น วันต่อมา นาธานจะออกจากโรงพยาบาล จึงรู้ว่าชัยชนะจ่ายค่ารักษาพยาบาล ให้ ก็ขอบคุณอย่างมากกลับถึงซามาร์จะส่งเงินมาคืน พอฤดีแตะบ่าชัยชนะเบาๆบอกเพื่อเพื่อนแค่นี้สบายมากใช่ไหม เขาผงกหัวยิ้มเขินที่สาวแตะต้องตัว

เอ็มม่ามองแล้วอดน้อยใจไม่ได้...ยิ่งมาถึงบ้านเห็นอรินไม่สนใจไม่คิดจะพูดคุยทักทายก็ยิ่งเกิดความรู้สึกทั้งรักทั้งฉุน จึงแกล้งพูดลอยๆตอกย้ำ “กลับซามาร์ไปแล้วมะลิคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีก เราเตือนคุณแล้ว ตัดใจก่อนจะเสียใจมากกว่านี้ ยังไงคุณกับ...มะลิก็ไม่มีทางได้สมหวัง”

“เรื่องของผมกับมะลิให้เราจัดการเองดีกว่า คนอื่นอย่ามายุ่งเลย”

เอ็มม่าน้ำตารื้นถามเขารักมะลิมากขนาดนั้นเลยหรือ อรินรับหนักแน่นว่าใช่ รักคนเดียวและจะรักตลอดไป พูดจบก็เดินเข้าบ้านอย่างไม่สนใจ เธอน้ำตาร่วงเผาะคับแค้นใจน้อยใจ

วันต่อมา ชัยชนะกับสิงห์ชัยช่วยกันจัดแต่งสนามหน้าบ้านจัดงานเลี้ยงส่งและฉลองที่นาธานหายดี กลุ่มซีนอนและกลุ่มองครักษ์ต่างเฝ้าดูคนละมุม...จัสมินแอบมาอัดคลิปส่งไปให้อัมราภาชินีว่าตนจะกลับซามาร์พรุ่งนี้ ขอประทานอภัยที่หนีมาเที่ยวเสียนาน

เมื่อองค์ราชินีได้ฟังก็ดีใจที่ลูกยอมกลับ ศรีวิจันทร์ตาปรอยสงสารเจ้าหญิง “แหม จะเสด็จกลับยังทรงมีห่วงดูสายพระเนตรสิเพคะ หม่อมฉันเห็นแล้วอดใจหายไม่ได้”

“จัสมินคงตัดสินใจแล้ว ต่อให้อยู่ต่อ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้ ลูกรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าหญิงแห่งซามาร์ต้องกลับคืนแผ่นดินเสียที”

ด้านราชิดเมื่อซีนอนส่งข่าวว่าบ้านอรินมีงานเลี้ยง ก็สั่งวาเดียและนักฆ่าชายอีกสามคนที่เรียกตัวมาให้เตรียม พร้อม งานนี้ต้องแม่นยำพลาดไม่ได้ เพราะเรามีโอกาส แค่ครั้งเดียวเท่านั้น...

มัดหมี่ขอให้ครูมะลิเล่นเปียโนร้องเพลง เธอจึงเล่นเพลงของซามาร์ ดาวหลงฟ้าภูผาสีเงินอย่างไพเราะถึงแม้ฟังดูจะเศร้า...เสร็จงานจัสมินกับเอ็มม่าช่วยกันเก็บจานชาม นาธานจะช่วยแต่ถูกห้ามเพราะยังไม่หายดี อรินแทรกเข้ามาช่วยบอกทั้งเอ็มม่าและนาธานให้กลับไปพักเสร็จสรรพอรินกับจัสมินก็มานั่งริมสระ เขาถามถึงสร้อยที่ซื้อให้ เธอโชว์ว่ายังสวมอยู่ เขาปลื้มปริ่มขอบคุณที่ยังเห็นค่าของถูกๆแบบนี้ จัสมินบอกมูลค่าน้อยแต่คุณค่าทางใจมากมาย ตนจะถือว่าเป็นของที่ระลึกจากเขา ทั้งสองกุมมือกันต่างฝ่ายต่างเตือนกันให้ระวังตัว

รุ่งเช้าจัสมินร่ำลามัดหมี่และทุกๆคน อรินฝากนาธานดูแลเธอ เขาสวนว่าเป็นหน้าที่ตนอยู่แล้ว และอรินก็กล่าวลาเอ็มม่าแต่เธอเมินหน้าแววตาเศร้า ไม่ทันจะขึ้นรถ มือถือของอริน ชัยชนะ และพอฤดีดังขึ้นพร้อมกัน ทั้งสามถูกเรียกตัวด่วนยกเว้นสิงห์ชัย จึงเป็นหน้าที่เขาต้องขับรถอรินไปส่งสถานกงสุลแทน...ถึงเวลาต้องจากกันจริง จัสมิน ใจหายน้ำตาคลอ อรินกุมมือสบตาบอกเธอว่าลาแค่ชั่วคราว หมดเรื่องแล้วจะรีบไปหา เขาจุมพิตที่หน้าผากเธอเบาๆ ชัยชนะเปิดประตูรถให้พอฤดีขึ้น เอ็มม่าเห็นแล้วรู้สึกใจหายนิดๆ

องครักษ์วอบอกหัวหน้าว่าภูผากำลังเคลื่อนเตรียมตัวอารักขา ขณะเดียวกันราชิดกับพวกก็เตรียมพร้อมจะชิงตัวจัสมิน เมื่อรถแล่นออกมาถึงถนนเปลี่ยว คนของราชิดก็ขับรถปาดหน้ารถองครักษ์แล้วยิงถล่ม หัวหน้า องครักษ์ได้รับแจ้งรีบสั่งอีกทีมตามคุ้มครองภูผา

สิงห์ชัยขับรถร้องเพลงไปตามวิทยุอย่างเพลิดเพลิน ทันใดก็มีรถมาปาดหน้าแล้วจอด เขาเบรกสุดตัวแต่ก็ชนเข้าไม่แรงนัก ซีนอนลงจากรถเดินกร่างเข้ามา นาธานเห็นท่าไม่ดีดึงจัสมินลงจากรถจะหนี ราชิดมาดักหน้า จัสมินตกใจไม่คิดว่าเขาจะเป็นพวกเดียวกับซีนอน

ราชิดเข้ากระชากข้อมือจัสมิน เหวี่ยงนาธานล้มลง เขาจะลุกตามไปช่วย ซีนอนเข้ามาขวาง “อยู่เฉยๆดีกว่าราชองครักษ์นาธาน ถ้าไม่อยากตาย”

นาธานแปลกใจทำไมถึงรู้สถานะตน ซีนอนประกาศกร้าว วันนี้จะสะสางแค้นให้พี่น้องจีโบ สิงห์ชัยจะเข้ามาช่วยถูกวาเดียขวาง เกิดการต่อสู้กัน เขารับมือไม่ไหว เอ็มม่าวิ่งมาประคองนาธาน ซีนอนขู่คำรามให้อยู่เฉยๆ ข้าหลวงเอ็มม่า เธอตกใจที่รู้ว่าเธอเป็นใคร

องครักษ์สองคนวิ่งมาจะช่วยเจ้าหญิงแต่ถูกนักฆ่าซัดกระสุนใส่ล้มลงไปคนหนึ่งอีกคนจึงยิงสวนโดนพวกมันตายไปหนึ่งเช่นกัน องครักษ์อีกสองคนลอบไปดักข้างหลังราชิด เกิดการต่อสู้กัน จัสมินฉวยโอกาสวิ่งหนี แต่ราชิดตามมารวบตัวไว้ได้อีก

เหวยกังปรากฏตัวขึ้นจะชิงตัวเธอ ทั้งสองเข่นเขี้ยวไม่ยอมกัน ต่อสู้กันดุเดือด จัสมินจึงวิ่งหนีมาเจอวาเดียเข้าอีก เธอใช้มีดขู่บังคับให้เดินไป สมุนเหวยกังซัดมีดใส่แขนวาเดียแล้วปรี่เข้าลากตัวจัสมินมาขึ้นรถโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว จากนั้นขับรถออกไปสักระยะก็จุดพลุส่งสัญญาณให้เหวยกังรู้ว่าได้ตัวเจ้าหญิงมาแล้ว

เหวยกังหยุดต่อสู้กับราชิด แสยะยิ้ม “แกพลาดแล้วไอ้นักรบจีโบ เจ้าหญิงอยู่กับโจรกระจอกอย่างข้าแล้วเว้ย” ว่าแล้วก็ปาระเบิดควันลงพื้นหนีหายไป

ราชิดเจ็บใจมากสั่งถอนกำลังไปเจอที่จุดนัดพบ เพื่อหาวิธีชิงตัวเจ้าหญิงกลับคืนมา ซีนอนรายงานว่าเหวยกังเป็นคู่ปรับของอริน คงทำเพื่อจะแก้แค้น ราชิดสั่งให้ประกบอรินไว้

ooooooo

อริน ชัยชนะ และพอฤดีกำลังประชุมกับหัวหน้า เพราะสายส่งภาพนักฆ่าฝีมือฉกาจจากซามาร์เดินทางเข้ามาในไทยเพื่อทำภารกิจบางอย่าง อรินใจหายวาบเป็นห่วงมะลิขึ้นมาทันที ไม่ทันจะโทร.ถาม สิงห์ชัยก็โทร.สวนเข้ามาบอกว่ามะลิถูกจับตัวไปแล้ว

“ผมขอตัว ภารกิจนี้ด่วนสุดครับ” อรินลุกขึ้นก้มหัวแล้วพรวดพราดออกไป ชัยชนะกับพอฤดีวิ่งตาม หัวหน้านั่งงงแล้วจะประชุมกับใคร

เมื่อองค์อัมราภาชินีทราบข่าวก็ตกใจมากที่กลุ่มจีโบเข้าถึงตัวจัสมินได้...อริน ชัยชนะและพอฤดีมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นนาธานนั่งเจ็บแผล พอฤดีตรวจพื้นที่แล้วรู้ว่าพวกมันมาหลายคน สิงห์ชัยบอกมะรุมมะตุ้มกัน จนไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน นาธานเกือบหลุดปากว่าพวกจีโบมาจับตัวองค์หญิง เอ็มม่าห้ามไว้ทัน สิงห์ชัยบอกไม่รู้ว่าฝ่ายไหนได้ตัวมะลิไป นาธานจะไปสถานกงสุล อรินท้วงจะไปทำไมมาช่วยกันให้ปากคำกับตำรวจจะดีกว่า

ไม่ทันไรอรินก็ได้รับการติดต่อจากเหวยกัง เขา เปิดสปีกเกอร์โฟนให้ทุกคนได้ฟัง อรินโกรธมากพยายามสงบสติอารมณ์ฟังความต้องการของเหวยกัง เสียงจัสมินดังแทรกเข้ามาไม่ให้อรินตามมา อรินแทบคลั่ง “อย่า ทำอะไรมะลิเด็ดขาด ฉันฆ่าแกแน่”

“ผู้หญิงที่แกรักมีค่ามหาศาล ข้าไม่ทำอะไรหรอก” อรินถามจะเอาอย่างไร เหวยกังบอกอีกไม่นานจะติดต่อมาใหม่ ไม่ต้องห่วงเราเจอกันแน่ แล้วตัดสายไป

อรินแค้นใจ นาธานสบตาเอ็มม่าเป็นห่วงจัสมิน ...อรินกับพวกมาที่สำนักงานตำรวจเพื่อจัดเตรียมอาวุธไปลุยกับเหวยกัง หัวหน้าฟังเรื่องราวแล้วสับสนทำไมมีหลายพวกที่ชิงตัวมะลิ ชัยชนะคิดว่าพวกมันอาจเป็นพวกเดียวกัน แต่พอฤดีข้องใจทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับมะลิ ในที่แห่งนี้มีคนของจีโบปลอมเป็นพนักงานทำความสะอาดคอยส่งข่าวให้ราชิด...ระหว่างที่ทุกคนเตรียมอาวุธ นาธานบอกเอ็มม่าว่าตนจะไปส่งข่าวที่สถานกงสุล ให้เอ็มม่าอยู่รับหน้าอริน

นาธานมาขอพบท่านกงสุล เขารีบออกมาต้อนรับ ไม่ทันที่นาธานจะเล่าอะไร ศรีวิจันทร์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกล่าว “ถวายความเคารพ องค์ราชินีแห่งซามาร์เสด็จ...”

นาธานตกตะลึงที่พระองค์เสด็จมาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ รีบขอรับโทษที่ทำให้เกิดเรื่องร้าย องค์ราชินีไม่ติดใจขอให้ช่วยกันหาทางช่วยเจ้าหญิงก่อน “เธอเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องจัสมิน คอยดูแลมาตลอด แล้วยังจะถูกลงโทษเรื่องอะไร”

“ทุกเรื่องขององค์หญิงที่เกิดขึ้นที่เมืองไทยอยู่ในสายพระเนตรพระองค์ตลอดเวลา” ศรีวิจันทร์เสริม นาธานถึงกับอึ้งคิดไม่ถึง

องค์ราชินีบอกว่าองคมนตรีพ่อของเขากำลังเดินทางมาพร้อมองครักษ์ชุดใหม่เพื่อจัดการกับกลุ่มจีโบ นาธานรีบทูลว่าไม่ใช่กลุ่มจีโบที่จับเจ้าหญิงไป แต่เป็นเหวยกังอดีตแก๊งห้ามังกร

ด้านจัสมินถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ในโกดังร้าง เธอถามเหวยกังว่าต้องการอะไร เหวยกังเยาะว่ากลุ่มจีโบฝีมือไม่เท่าไหร่ ตนแค่รอทีเผลอก็ได้ตัวเธอมาง่ายๆ จัสมินเข่นเขี้ยวว่าเขาเป็นหมาลอบกัด เหวยกังหัวเราะร่า หมาก็หมาแต่ไม่มีอุดมการณ์อย่างพวกจีโบ ตนต้องการเศษเงินจากซามาร์มาฟื้นฟูแก๊งห้ามังกร แต่คราวนี้จะมีมังกรตัวเดียวคือตน จัสมินย้อนถามแล้วเรียกอรินมาทำไม

“ระหว่างมันกับข้า มีเรื่องต้องสะสางกัน”...

จัสมินพยายามข่มใจไม่ให้ตระหนกเกินไป

ooooooo

ท่านกงสุลเคร่งเครียดรอฟังข่าวจากตำรวจไทย ลูกน้องเอาจดหมายไม่ได้จ่าหน้าซองมายื่นให้ บอกมีคนเอามาทิ้งในตู้ พอเปิดดูก็รู้ว่ามาจากเหวยกัง ต้องการเรียกค่าไถ่ตัวเจ้าหญิง

สายรายงานราชิดว่านาธานไปสถานกงสุล ส่วนตำรวจไทยเตรียมอาวุธครบมือ ราชิดจึงสั่งประกบอรินไว้ แค้นใจที่โดนเหวยกังหยาม ศลิษาเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ วาเดียเข้ามาขวางไล่ให้กลับไป เธอไม่สนใจเข้าไปเกาะแขนราชิด เขาส่ายหน้าปรามวาเดีย เธอเจ็บใจเดินกระแทกไหล่ศลิษาออกไป ราชิดบอกศลิษาว่ามีเรื่องให้ช่วย เธอสบตาหวานพร้อมทำทุกอย่าง

นาธานกลับมาบอกอรินว่าได้ติดต่อไปทางแม่ของมะลิแล้ว และถามมีอะไรให้ตนช่วยบ้าง อรินอยากให้เขาพักรักษาตัวให้หายดีมากกว่า เอ็มม่าสวน “เราต้องช่วยเพราะเป็นหน้าที่”

นาธานดึงมือน้องสาวไม่ให้พูดอะไรมากไป อรินจึงบอกว่าตนไม่มีอำนาจจะให้เขาไปด้วย แต่นาธานไม่สนใจยืนกรานว่า อย่างไรตนก็ต้องไปช่วยมะลิ อรินมองคิดหรือว่ามีอภิสิทธิ์

ท่านกงสุลได้รับโทรศัพท์จากเหวยกัง เรียกเงินค่าไถ่ตัวเจ้าหญิงเป็นเงินร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯและให้ผู้กองอรินเป็นคนถือเงินไปที่สวนสาธารณะคนเดียวแล้วจะติดต่ออีกที อัมราภาชินีแปลกใจจะเล่นเกมอะไร ท่านกงสุลบอกคงมีเรื่องสะสางกับผู้กอง พระองค์เป็นกังวลรีบติดต่อไปทางองค์อิสราธิบดีให้เตรียมเงิน ส่วนท่านกงสุลติดต่ออรินให้เตรียมพร้อม

พวกชัยชนะไม่เห็นด้วยที่อรินต้องไป มันไม่ปลอดภัย แต่อรินไม่ฟังรับปากท่านกงสุลทันที หัวหน้าจึงวางแผนให้ทีมตามประกบ นาธานหวั่นใจทำแบบนั้นจะเป็นอันตรายกับจัสมิน

ซีนอนมารายงานราชิด ศลิษาแปลกใจ ทำไมอรินเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย วาเดียแค่นหัวเราะถามห่วงแฟนเก่าหรือคิดจะกลับไปคืนดี ศลิษาเบ้ปากบอกไม่มีวัน ทั้งสองคนทำตนเจ็บ ให้โจรมันฆ่ามะลิเลยยิ่งดีจะได้รู้สึกบ้าง... วาเดียเยาะว่าโง่ยังอวดฉลาด ถึงได้โดนทิ้ง ศลิษาโกรธจะเอาเรื่อง ราชิดต้องสั่งให้หยุดทะเลาะกัน ศลิษาแทบกรี๊ดผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาทำวางท่า ราชิดจึงบอกว่าวาเดียเป็นผู้หญิงของเขา เธอชะงักจะโวยต่อก็กลัวจะเสียเขาไป จึงยอมอ่อนลง

“โอเค ษาไม่ว่าคุณ ถ้ายังไม่ได้แต่งกันก็โอเค ษาไม่ถือ คุณออกจะเป็นผู้ชายน่าค้นหา มีสาวๆบ้างก็ไม่แปลก”...

ในขณะที่อรินมารอที่ห้องประชุมสถานกงสุล เขาสวมเสื้อเกราะติดเครื่องดักฟังและไมโครโฟนเสียบหู สีหน้าและแววตามุ่งมั่นแรงกล้า หัวหน้ากับท่านกงสุลเอากระเป๋าใบโตที่ใส่เงินมาให้ หัวหน้าถามความเรียบร้อย อรินบอกว่าเทสต์หูฟังและไมค์แล้ว คุณภาพดีเยี่ยม อยากรู้ว่าได้มาจากไหน ท่านกงสุลตอบว่าอภินันทนาการจากซามาร์ เพื่อให้งานนี้มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ที่สุด แล้วขอย้ำว่าห้ามตัวประกันบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเด็ดขาด

“ผมไม่มีวันให้มะลิเป็นอะไรแน่นอน” อรินรับปากแข็งขัน

สิงห์ชัยเห็นกระเป๋าใบโตก็อยากรู้จำนวนเงินค่าไถ่ ท่านกงสุลไม่ตอบแต่ย้ำว่าหน้าที่คือเอากระเป๋าไปแลกตัวประกัน แต่อรินสงสัยถามเสียงเข้ม ตนต้องรู้ว่าเท่าไหร่ ท่านกงสุลมองหน้าสักพักก่อนจะตอบว่าหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ยูเอส สิงห์ชัยตะลึงกระซิบถามอรินว่าพ่อแม่ของมะลิทำงานอะไรทำไมมีเงินมากมาย เขาบอกเห็นว่าคล้ายๆกำนันคอยดูแลคนในพื้นที่ สิงห์ชัยทึ่งเป็นกำนันรวยขนาดนี้ ลาออกไปสมัครที่ซามาร์ท่าจะดี...ท่านกงสุลกำชับอีกครั้ง

“คุณแม่คุณมะลิ ท่านยังฝากบอกคุณว่า...ฝากชีวิตลูกไว้ในมือคุณแล้ว กรุณาอย่าทำให้ผิดหวัง”

อรินรับคำหนักแน่น เพราะตัวเองก็ไม่มีวันปล่อยให้มะลิเป็นอันตรายแน่

ooooooo

หัวหน้าย้ำแผนกับชัยชนะ พอฤดี สิงห์ชัย และลูกน้องว่าเราจะกระจายกำลังลอบติดตามอรินไป ทิ้งห่างในรัศมีไม่เกินหนึ่งร้อยเมตร รอฟังคำสั่ง ส่วนท่านกงสุลก็ให้กองกำลังพิเศษของซามาร์ติดตามไปเช่นกัน กระจายตัวล้อมด้านหน้าและด้านหลังอีกที

เมื่ออรินมาถึงสวนสาธารณะ เหลียวมองหาเหวยกัง จนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามา เสียงเหวยกังสั่งให้บอกเพื่อนๆเขาถอยออกไป อรินยืนยันว่ามาคนเดียว เหวยกังส่องกล้องจากบนตึก

“นึกว่าคนอื่นไม่รู้หรือไงผู้กอง อย่าคิดหลอกให้ยาก ทางซ้ายเยื้องม้านั่งนั่นมีอยู่หนึ่ง ที่เหลือกระจายตัวรอบๆ... ทางทิศใต้ก็ด้วย”

เสียงจัสมินหวีดร้องดังรอดเข้ามา อรินตกใจละล่ำละลักบอกอย่าทำอะไรเธอ เหวยกังขู่ให้ไล่ทุกคนไป อรินจึงพูดใส่ไมค์ว่าถอนกำลังกลับให้หมด ตนต้องไปคนเดียว เขาปลดอุปกรณ์ออก ในเงามืดนั้นยูรีแฝงตัวแอบมองแล้วสะกดรอยตาม...หัวหน้าองครักษ์จำต้องถอนกำลังกลับ แต่ชัยชนะกับพอฤดีไม่ยอมขอตามไปช่วยอรินในฐานะเพื่อน สิงห์ชัยหน้าเจื่อน หัวหน้าเครียดตัดสินใจพูดลอยๆออกไปว่า “พวกคุณไปเป็นการส่วนตัว ผมจะถือว่าไม่ได้ยินเรื่องนี้นะ”

เหวยกังสั่งการอรินผ่านมือถือให้เดินไปตามทางที่เขาบอกจนมาถึงหน้าโกดังร้าง ลากกระเป๋าเข้าไป

จัสมินถูกมัดนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาถลาจะเข้าไปหา เหวยกังโผล่มากระชากตัวเธอลุกขึ้นหัวเราะเสียงก้อง “กว่าจะมาได้ ดีที่ใจเย็นไม่งั้นเชือดทิ้งไปนานแล้ว”

อรินร้องลั่นอย่าทำผู้หญิง แล้วโชว์กระเป๋าว่านี่เงิน สมุนเหวยกังจะเข้ามาคว้าโดนอรินเตะกระเด็น อรินบอกให้มาสู้กันแบบลูกผู้ชาย เหวยกังเยาะทำไมต้องเชื่อ แล้วหาว่าเขาฆ่าเฮียเปียวทำลายแก๊งห้ามังกร เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ อรินให้มาแก้แค้นที่ตนอย่าไปลงที่คนอื่น ส่งคนมาแล้วเอาเงินไป เหวยกังตากร้าวเอาปืนจ่อหัวจัสมิน อรินชะงักไม่กล้าทำอะไร สมุนเข้ามาดึงกระเป๋าเงินไป แล้วเหวยกังก็ท้าให้อรินยิงเข้ามา จัสมินบอกให้เขายิงเลยไม่ต้องห่วงตน

“เอาสิ ยิงมา คราวที่แล้วจบยังไงคงจำได้ใช่ไหม...ยิงสิ” เหวยกังท้าทายยั่วอารมณ์

อรินเหงื่อกาฬไหลเต็มหน้า แววตาสับสนมองจัสมินสลับเหวยกังอย่างลังเล เหวยกังจิ้มปืนเข้าที่หัวจัสมินท้าทาย “ยิงมาสิ แต่คราวนี้คนที่ตายคือผู้หญิงที่แกรัก เอาเลย”

อรินยังจำเหตุการณ์ที่เหวยกังยิงตัวประกันในลักษณะเดียวกันนี้ได้อย่างเจ็บปวด ทำให้ลังเลไม่กล้าวู่วามพยายามมีสติ จัสมินสบตาเป็นเชิงให้เขาเตรียมตัว เหวยกังได้ใจ ด่าอรินขี้ขลาด หญิงสาวอาศัยจังหวะนี้เหวี่ยงศอกใส่ท้องเหวยกังแล้วก้มตัวหลบ อรินยิงใส่ร่างเขาในทันที เหวยกังตาเหลือกทรุดฮวบลง จากนั้นอรินก็หันไปยิงใส่ขาสมุนให้แค่บาดเจ็บ จัสมินปลดปืนจากสมุน อรินเข้าไปเช็กดูศพเหวยกังว่าตายแน่ ทั้งสองหันมาสบตาโผเข้ากอดกัน

“เรารู้ว่าคุณต้องมาช่วยเรา”

เสียงรถแล่นมา อรินดึงจัสมินให้มาหลบข้างหลังเล็งปืนรอ ปรากฏเป็นพวกชัยชนะที่ตามมาช่วย สิงห์ชัยเข้าไปใส่กุญแจมือสมุนที่นอนร้องครวญคราง อรินบอกว่าเหวยกังประมาทคิดว่าคุมทุกอย่างได้ สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง นาธานมาถึงวิ่งเข้าไปหาจัสมิน เห็นว่าไม่เป็นอะไรจะรีบโทร.รายงานท่านกงสุล

ทันใดราชิดกับพวกบุกมาเปิดฉากต่อสู้อย่างรวดเร็ว ชัยชนะให้อรินพามะลิหนี แต่ราชิดเข้าขวาง อรินจึงให้เธอวิ่งหนีไปก่อน ทั้งพอฤดี สิงห์ชัย และนาธานต่างสู้กับนักฆ่าของราชิด เอ็มม่าดึงจัสมินให้หนีออกจากโกดัง ทั้งสองวิ่งมาจนเหนื่อยหอบ

มีเสียงศลิษาร้องให้ช่วย จัสมินจำเสียงได้จะวิ่งไปดู เอ็มม่าเหนื่อยและเจ็บข้อเท้า บ่นหน้างออยากไปก็ไปคนเดียว แต่สุดท้ายก็อดห่วงไม่ได้ต้องโขยกเขยกตาม แต่จัสมินไปไกลแล้ว

จัสมินมาเห็นศลิษานอนร้องครวญครางอยู่กับพื้นก็รีบเข้าไปจับตัว เธอหันมาเอาที่ช็อตไฟฟ้าช็อตใส่ทันที จัสมินตกใจนึกไม่ถึงร่วงลงไปนอนกับพื้น วาเดียเดินออกมาจากความมืด สั่งศลิษาให้เอาคนขึ้นรถ เธอสะบัดเสียงอย่างไม่ค่อยพอใจว่ารู้แล้ว แล้วดึงจัสมินกึ่งลากไป ทำให้รองเท้าหลุดตกอยู่ข้างหนึ่ง

ส่วนวาเดียวิ่งกลับเข้ามาในโกดังตะโกนเรียกราชิด ทำให้เขารู้ว่าแผนการสำเร็จแล้ว จึงสั่งลูกน้องถอยกลับ โดยวาเดียยิงกราดใส่พวกอริน ซีนอนกำลังสู้อยู่กับชัยชนะ จึงโดนอรินยิงใส่ไปล้มแทบเท้าราชิด ก่อนสิ้นใจยังร้องว่า “จีโบ...ไม่มีวันตาย”

ราชิดมองร่างลูกน้องคนสนิทด้วยความแค้นใจก่อนจะวิ่งตามพรรคพวกไปขึ้นรถ...อรินนึกเอะใจร้องบอกทุกคนให้ตามหามะลิกับเอ็มม่าโดยเร็ว

ขณะนั้นเอ็มม่าวิ่งกะเผลกมาเจอรองเท้าจัสมินตกอยู่ก็ใจหายเข่าอ่อน อรินกับนาธานวิ่งมาเห็นต่างรีบถามหามะลิ เอ็มม่าส่ายหน้าแววตารู้สึกผิด อรินรู้ในทันทีว่าราชิดได้ตัวมะลิไปแล้ว

ooooooo

อรินท่าทางอิดโรยลากกระเป๋าเงินมาคืนให้ท่านกงสุล นาธานกับเอ็มม่ายืนหน้าเศร้า ศรีวิจันทร์เดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่าองค์ราชินีเสด็จ เอ็มม่ากับนาธานค้อมย่อตัวทำความเคารพ อรินมองงงๆ ทำอะไรไม่ถูกเห็นท่านกงสุลทำความเคารพเช่นกัน นาธานและเอ็มม่ารายงานตัว

“กระหม่อมราชองครักษ์นาธานถวายบังคมองค์ราชินี”

“หม่อมฉัน นางข้าหลวงใหญ่เอ็มม่าถวายบังคมเพคะ”

นาธานดึงอรินที่ยืนงงให้ทำความเคารพ “สวัสดีครับ เอ่อไม่สิ ถวายบังคมครับ”

องค์ราชินีบอกไม่ต้องมากความต้องการรู้เรื่องเจ้าหญิงตกอยู่ในมือจีโบใช่ไหม อรินบอกไม่ใช่ เป็นมะลิ ศรีวิจันทร์ตบอกผางนี่ยังไม่มีใครบอกความจริงเลยหรือ อรินรีบถามมีอะไรที่ตนยังไม่รู้ องค์ราชินีจึงอธิบายแทน

“มะลิคือลูกสาวคนเดียวของเรา ว่าที่เจ้าหญิงรัชทายาทจัสมินแห่งซามาร์...เราฝากชีวิตลูกไว้ในมือคุณ แล้วทำไมถึงปล่อยให้จีโบเอาไปได้”

อรินอึ้งเหวอไปอย่างไม่คาดคิดว่ามะลิของเขาจะเป็นคนสูงศักดิ์ขนาดนี้...

ในขณะที่จัสมินถูกเอาตัวมาขังที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งอยู่ในซอยเปลี่ยว ศลิษาเข้ามาเยาะเย้ยถากถาง จัสมินตำหนิที่เธอร่วมมือกับคนร้ายทำลายชาติ ศลิษายักไหล่ไม่แคร์ สมัยนี้เงินคือพระเจ้า ถึงเป็นเงินสกปรกจากยาเสพติด จากบ่อนหรือคอร์รัปชัน คนก็ยังนับถือยกมือไหว้

“ถ้ามีคนคิดอย่างคุณมากๆ ประเทศไทยคงถึงคราวย่อยยับแน่”

“ปากดีนักนะ ขอสั่งสอนหน่อยเถอะ หมั่นไส้มานานแล้ว” ศลิษาถลันเข้าไปเงื้อมือจะตบ

ราชิดเข้ามาดึงมือไว้ตวาดเสียงกร้าว อย่าแตะต้องตัวองค์หญิงแม้แต่นิดเดียว ศลิษาว่าจะเข้าข้างทำไม ไม่นานก็ต้องถูกฆ่าตาย เขาเอ็ด “เจ้าหญิงจัสมินมีค่ามากกว่านั้นเยอะ อย่ายุ่ง”

ศลิษาหน้าเสีย จัสมินยิ้มเย้ย พอดีวาเดียเข้ามาบอกว่าเครื่องบินพร้อมแล้ว ศลิษามองอย่างสงสัย พอเห็นว่าราชิดพาจัสมินเดินออกจากบ้านก็ตามมาถามว่าจะไปไหน เขาบอกไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้ เธอโวยวายจะทิ้งกันได้อย่างไร ตนอยู่ก็โดนจับติดคุก

ราชิดหยิบเงินส่งให้ก้อนโต บอกเอาเงินไปแล้วจบกัน ศลิษาไม่ยอมหาว่าใช้งานเสร็จแล้วถีบหัวส่ง คนอย่างตนไม่ยอมให้ใครเฉดหัว ตามดึงทึ้งราชิดว่าตนเป็นเมียเขาจะทิ้งแบบนี้ได้อย่างไร ถ้าไม่ให้ไปจะไปแฉเรื่องเขากับตำรวจ ราชิดไม่สะทกสะท้านบอกว่าเราก็ต่างหลอกกัน วาเดียมองอย่างหมั่นไส้มานาน คำรามว่าราชิดไม่ทำอะไรเธอแต่ตนทำ ว่าแล้วก็ลากศลิษามาซ้อมจนสะบักสะบอม

อรินกลับมาที่สำนักงานตำรวจเล่าเรื่องจัสมินเป็นเจ้าหญิงให้ทุกคนฟังด้วยความอื้ออึงมึนงง ตำหนิตัวเองที่โง่ดูคนไม่ออก ชัยชนะปลอบเป็นเพราะเธอเกี่ยวพันกับเหวยกังจึงทำให้พวกเรามองเธอผิด พอฤดีเสริมว่าถ้าไม่เข้าใจผิดก็ไม่มีครูมะลิ

หัวหน้าเดินเข้ามาบอกข่าว องคมนตรีของซามาร์เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วต้องการให้พวกเราไปพบ เห็นว่าพาหน่วยพิเศษมาด้วยเพื่อมาชิงตัวเจ้าหญิงคืน งานนี้ท่านไม่ให้พวกเราเกี่ยวข้องแค่คอยประสานงานเฉยๆ

“ผมจะเอาผู้หญิงที่ผมรักกลับมา” อรินโพล่งขึ้นพร้อมบรรจุกระสุนปืนเต็มแม็ก

ทุกคนมองอรินอย่างนึกรู้ว่าเขาเอาจริง

ooooooo

พวกอรินและหัวหน้ามาสถานกงสุลซามาร์ นาธานและเอ็มม่าโดนองคมนตรีตำหนิให้รอรับโทษเมื่อกลับซามาร์ ท่านองคมนตรีถามกงสุลถึงการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศไทยหรือยัง ท่านกงสุลรายงานว่าเรียบร้อย แล้วหันมาบอกหัวหน้าของอรินว่า

“อย่างที่บอกไว้เบื้องต้น องคมนตรีมาพร้อมหน่วยรบพิเศษ ภารกิจสำคัญคือชิงตัวเจ้าหญิง งานนี้เราขอแค่การประสานงานกับทางตำรวจไทยในการอำนวยความสะดวกเท่านั้น”

องคมนตรีย้ำภารกิจหลักหน่วยรบพิเศษของซามาร์จะจัดการเอง อรินแย้งว่าเรารู้ภูมิประเทศและทางหนีทีไล่ดีกว่า น่าจะให้เราร่วมด้วย ท่านองคมนตรีมองหน้าเฉยกล่าวขอบใจแต่ไม่จำเป็น อัมราภาชินีเสด็จเข้ามา ทุกคนทำความเคารพ พระองค์ถามทันทีว่าได้เบาะแสบ้างหรือยัง

องคมนตรีรายงานว่ากำลังสืบว่าระหว่างที่อยู่ประเทศไทย ทางจีโบติดต่อกับกลุ่มใดบ้าง แล้วถวายภาพราชิดในชุดทหารที่แอบถ่ายได้ให้ทอดพระเนตร พระองค์จำได้ว่าคือชายที่ไปทานข้าวกับแฟนเก่าอริน ศรีวิจันทร์รีบบอกว่าชื่อศลิษา อรินแปลกใจทราบกันได้อย่างไร กงสุลสาธยาย

“กล้องวงจรปิดและไมโครโฟนที่แอบติดตั้งในบ้านผู้กอง เป็นของทางเราเอง องค์ราชินีต้องการทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของเจ้าหญิง”

สิงห์ชัยแอบกระซิบกับชัยชนะว่าพวกเราเป็นเรียลลิตี้โชว์โดยไม่รู้ตัวไปแล้ว องค์ราชินีกล่าวขอโทษที่ละลาบละล้วง อรินก้มหัวรับไม่เป็นไรแต่เมื่อรู้ว่าศลิษารู้จักราชิด คงสืบได้ไม่ยาก

อรินโทร.หาศลิษาไม่ติด ถามไปทางโรงแรมก็บอกว่าพักร้อน ถามไปทางบ้านแม่ก็บอกว่าไม่ได้เจอเป็นเดือนแล้ว พวกเพื่อนๆเธอก็ไม่มีใครเห็น เขาชักเป็นกังวลให้สายตรวจหารถของศลิษา หวังว่าราชิดคงไม่ทำร้ายเธอ องคมนตรีเปรย “เสร็จสงครามแล้วฆ่าขุนศึก เคยได้ยินไหม”

อรินยิ่งหวั่นใจ...ไม่นานตำรวจก็แจ้งว่าพบรถศลิษาจอดอยู่ในบ้านใหญ่ อรินรีบตามไปตรวจสอบ พบร่องรอยภายในบ้านว่าคงจับเจ้าหญิงมาขังที่นี่ พวกตนมาช้าไป ทันใดเห็นคราบเลือดก็ชะงัก พอฤดีตามรอยไปพบร่างศลิษานอนจมกองเลือดบาดเจ็บสาหัส อรินปรี่เข้าประคองถามใครทำเธอและเจ้าหญิงอยู่ที่ไหน ศลิษาปรือตาน้ำเสียงแหบพร่า ว่าผู้หญิงของราชิดทำร้ายตน ส่วนเจ้าหญิงพวกมันเอาตัวไป อรินแทบคลั่งที่มาช่วยจัสมินไม่ทัน

ในขณะเดียวกัน ราชิดพาจัสมินนั่งเครื่องบินเล็กออกนอกประเทศ ท่านกงสุลได้รับแจ้งว่ามีเครื่องบินเล็กเอกชนบินออกไปมีผู้โดยสารหกคน เป็นผู้หญิงสามคน จุดหมายคือซามาร์...สิงห์ชัยกับชัยชนะเอารูปราชิดกับจัสมินให้เจ้าหน้าที่สนามบินดู เขายืนยันว่ามีคนทั้งสอง

อรินแปลกใจทำไมถึงรีบพาเจ้าหญิงไปซามาร์ องคมนตรีตอบว่า พวกมันต้องการแลกตัวเจ้าหญิงกับนักโทษก่อการร้าย ท่านกงสุลรีบจองตั๋วเครื่องบินให้องค์ราชินีและคณะเดินทางกลับทันที อรินขอไปด้วย

นาธานท้วงไม่เกี่ยวกับเขา องคมนตรีปรามลูกชายแล้วหันมาพูดกับอริน

“ก็อย่างที่บอกขอบใจที่มีน้ำใจ แต่ภารกิจของคุณเสร็จสิ้นแล้วผู้กอง”

“ผมก็คงต้องขอเรียนอีกครั้ง งานของผมจะจบ ต่อเมื่อได้ตัวองค์หญิงกลับมา” อรินสบตานิ่ง ทำให้องคมนตรีหนักใจมองอย่างครุ่นคิด

หัวหน้าและคนอื่นทักท้วงว่างานนี้อันตรายมาก อรินบอกขอบคุณหัวหน้าที่อนุญาต เขาร้องไม่ได้อนุญาตแต่รู้ว่าต้องไปอยู่ดี จึงเน้นว่าคราวนี้ต้องไปในฐานะพลเรือนธรรมดาไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ แต่ต้องเอาชีวิตกลับมา อรินตะเบ๊ะรับคำทันที

อรินกลับมาจัดแจงให้มัดหมี่อยู่กับพอฤดีและสิงห์ชัย ชัยชนะขอไปช่วยด้วยคน อรินห้ามไม่อาจเอาเขาไปเสี่ยงด้วยได้ ชัยชนะพรีเซนต์ตัวเอง “การรบไม่ได้ใช้แต่กำลัง เขาใช้สมองด้วย มันสมองชั้นเลิศอย่างผม คุณจะไม่เอาไปด้วยคงน่าเสียดายแย่...คู่หูต้องไม่ทิ้งกัน”

อรินสบตาซึ้งใจ ชัยชนะหันมาล่ำลาพอฤดี เธอบอกให้เขาระวังตัว “ผมจะรีบกลับมา ช่วงนี้ก็เตรียมตัวไว้ด้วยนะ” หญิงสาวงง “เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว กลับมาผมจะให้แม่ไปขอคุณ”

พอฤดีอึ้งไปสักครู่ สุดท้ายยิ้มออกมาอย่างอายๆ...ก่อนไปอรินมาเยี่ยมศลิษาที่โรงพยาบาล หน้าตาเธอบอบช้ำ ซี่โครงหัก อวัยวะภายในบอบช้ำหลายแห่ง เธอลืมตามาเห็นเขาก็ร้องไห้ขอให้เขากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ตนโง่เองที่มองไม่เห็นความดีของเขา อรินปลอบ เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าหลอกตัวเองอีกเลย เราต่างไม่ได้รักกันนานแล้ว เป็นเพื่อนกันดีกว่า ศลิษาเสียใจแค้นใจตอกย้ำให้เขาเลิกโง่ เขาไม่มีวันได้อยู่กับจัสมิน อรินบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่จริงจัง

“ผมรู้และเข้าใจดี แต่ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันก็รักกันได้ หัวใจของผมมอบให้เจ้าหญิง และผมก็รับรู้ได้ว่าเขาเอง ก็คิดไม่ต่าง ถ้าวันนึงคุณได้รักใครสักคนจริงๆ คุณจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด”

ศลิษาร้องไห้โฮ อรินกลับออกมาขึ้นรถ ชัยชนะเห็นเขาท่าทางเหนื่อยๆจึงถามเป็นอะไร อรินเหม่อมองทอดอาลัย “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า มะลิเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งซามาร์ พวกเราห่างกันไกลขึ้นทุกที ถึงจะทำใจแล้ว แต่ก็อดคิดไม่ได้จริงๆ”

“อย่าเพิ่งมองไปถึงจุดนั้นเลย เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ตอนนี้คุณต้องตามเอาตัวคนรักของคุณจากพวกจีโบให้ได้ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” ชัยชนะเตือนทำให้อรินมีกำลังใจขึ้น

ooooooo

บ้านพักราชิดในหุบเขาที่มองเห็นภูผาสีเงินตั้งตระหง่าน จัสมินได้รับการปลดผ้าปิดตา เขาจับมือเธอจะพาเข้าบ้าน เธอสะบัดมือออกมองไปรอบๆ ถามพาตนมาที่นี่ทำไม เขายิ้มเยาะ

“ที่นี่จะเป็นที่พักชั่วคราวของท่าน จนกว่าพระเจ้าอิสราธิบดีจะยอมปล่อยตัวนักรบจีโบทั้งหมด”

“ท่านพ่อไม่มีวันปล่อยผู้ก่อการร้ายแน่” จัสมินเสียงกร้าว

“ก็ให้มันรู้ไปว่าพระเจ้าอิสราธิบดีจะเห็นแก่แผ่นดินตรงนี้มากกว่าชีวิตลูกสาวตัวเอง”

จัสมินมองรอบบ้านอย่างเก็บรายละเอียด ราชิดย้ำว่าตนต้องการดินแดนคืน ดินแดนที่บรรพบุรุษของเธอเข่นฆ่าพี่น้องตน แย่งชิงไปอย่างเหี้ยมโหด จัสมินโต้ว่าเรื่องเกิดมาหลายร้อยปี ตอนนี้ดินแดนนี้เป็นของชาว

ซามาร์ทุกคน ใครก็แบ่งแยกไม่ได้ ราชิดตวาดว่าต้องได้

“หาเรื่องอ้างเพื่อสร้างอำนาจให้ตัวเอง พระเจ้าอิสราธิบดีปกครองซามาร์ให้เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุข แผ่นดินนี้มีสันติแล้ว” จัสมินตำหนิ

“แน่ใจเหรอว่าสุข อยู่แต่ในวังสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง คนภายนอกอยู่อย่างอดอยากแร้นแค้นแค่ไหน ท่านไม่เคยรู้”

“รู้สิ เพราะเราไม่ได้อยู่แต่ในวัง ไม่อย่างนั้นคงไม่โดนผู้ก่อการร้ายใช้วิธีน่าละอาย จับผู้หญิงมาเป็นตัวประกันแบบนี้แน่”

ราชิดโมโหชักมีดออกมาขู่ จัสมินมองกร้าวไม่กลัวเกรง เขาพูดด้วยน้ำเสียงแค้นว่าวิธีไหนได้ดินแดนคืนตนทำได้ทั้งนั้น แล้วตวัดมีดใกล้หน้าเธอ เธอร้องด้วยความตกใจ...ราชิดตัดปอยผมจัสมินส่งมาขู่อิสราธิบดี ยื่นข้อเสนอให้ปล่อยตัวนักโทษจีโบทั้งหมดภายในเจ็ดวัน พระองค์เรียกประชุมหน่วยรบพิเศษทันที

ฝ่ายการข่าวแจ้งว่า มีบ้านพักกลุ่มจีโบสองแห่ง แต่ยังสืบไม่ได้ว่าเจ้าหญิงถูกขังที่บ้านไหน องคมนตรีคาดว่าจะเป็นหลังที่อยู่ใกล้ภูผาสีเงิน เพราะตรงนั้น

เอื้อต่อการหลบซ่อน ด้านนอกมีเทือกเขาล้อม ด้านในเป็นพื้นที่ราบเต็มไปด้วยโขดหิน ทำให้หลบซ่อนได้อย่างปลอดภัย อรินเข้ามาขออาสาไปที่นั่น แต่องค์อิสราธิบดีปฏิเสธบอกว่าหมดหน้าที่เขาแล้ว นาธานขอไปช่วยด้วยแต่องคมนตรีให้อยู่เฉยๆ รอรับโทษที่พาเจ้าหญิงไปเมืองไทย เขาหน้าม่อย

อรินออกมาคุยกับชัยชนะ เขาต้องการหาทางช่วยจัสมิน นาธานเข้ามาตอกย้ำว่าคนนอกไม่เกี่ยว อรินเยาะ แล้วทำไมคนในบางคนถึงไม่ได้ไปด้วย นาธานฮึดฮัดเถียงไม่ออก อรินขอให้ชัยชนะกลับเมืองไทยก่อน ตนต้องหาเจ้าหญิงให้เจอแม้กองทัพจะไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง ตนทนรอฟังข่าวเฉยๆไม่ได้ ชัยชนะไม่ยอมกลับขอไปช่วยอีกแรง นาธานแทรก

“หมายความว่าพวกคุณสองคนจะขัดคำสั่งของทางวัง”

อรินอ้าง “ทางวังไม่ได้ห้ามแค่บอกไม่ให้ยุ่งกับกองทัพ แต่นี่จะไปเอง ขัดคำสั่งตรงไหน”

นาธานมองสองคนกอดคอกันจะเดินไป ก็รีบเรียกไว้ “เดี๋ยว...ภูมิประเทศของซามาร์ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะแถวภูผาสีเงิน ต่อให้เครื่องมือจีพีเอส

ดีแค่ไหน บางจุดก็ไม่มีสัญญาณ หาอะไรก็ไม่พบ...คนนอกพื้นที่จะรู้ดีกว่าคนในพื้นที่ได้ไง”

อรินมองนาธานอย่างครุ่นคิด ห่างออกมา เอ็มม่าแอบฟังทั้งสามคุยกัน

ooooooo

องคมนตรีคิดว่าจะรีดคำตอบจากโมซันได้ว่าจีโบมีที่พักที่ไหนอีก แต่เขากลับหัวเราะเยาะต่อให้ทรมานก็ไม่บอก องคมนตรีบอกว่าราชสำนักไม่ทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้น โมซันยิ้มเหยียดตอกกลับ แล้วใครที่ฆ่าพี่น้องตน ตนคิดว่าจงยอมปล่อยพวกตน แลกกับเจ้าหญิงจะง่ายกว่า

“เราไม่เคยต่อรองกับกลุ่มก่อการร้าย”

โมซันจึงฝากไปบอกพระเจ้าอิสราธิบดี ว่าถ้า ไม่ปล่อยพวกตน ซามาร์จะไม่มีองค์รัชทายาทที่ชื่อเจ้าหญิงจัสมินแน่ องคมนตรีโมโห เดินฉับๆกลับออกมา

สุดท้ายอรินก็ยอมให้นาธานหารถขับพาตนกับชัยชนะไปดินแดนภูผาสีเงิน นาธานขับรถวนไปวนมาหาทางเข้าไม่เจอ ลงจากรถมายืนมอง ชัยชนะใช้จีพีเอสหาพิกัดก็บอกว่าทางนี้แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมหาไม่เจอ อรินอ่อนใจพึ่งไม่ได้สักทาง นาธานนึกได้ว่า เอาแผนที่มาด้วยจึงไปหาที่ท้ายรถ แปลกใจมันหายไปไหน พลันมีมือยื่นแผนที่มาให้ เขารับมาแล้วตกใจรีบเปิดผ้าใบที่คลุมท้ายรถออก อรินชักปืนขู่

“ใครอยู่ในนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้”

เอ็มม่าตกใจรีบโผล่ออกมายกมืออย่ายิง นาธาน เอ็ดไม่ให้มาแล้วยังแอบขึ้นรถมา เอ็มม่าอ้างว่าห่วงเจ้าหญิงเหมือนกัน...ทั้งสี่คนแวะที่ตลาด นาธานจะให้คนที่วังมารับเอ็มม่ากลับ แต่เธอขู่ถ้าให้ตนกลับจะฟ้องคนที่วัง นาธานเป็นห่วงความปลอดภัยแต่เอ็มม่าต่อรองจนอรินกับชัยชนะยอม อรินกำชับจะไปด้วยกัน อย่าเฮี้ยว บอกอะไรต้องเชื่อ เธอรับคำ ชัยชนะยิ้มยินดี

ในขณะเดียวกัน จัสมินพยายามหาทางหนีแต่ถูกวาเดียจับตัวลากกลับมารายงานราชิด เขาย้ำอย่าคิดหนีถ้าพูดกันดีๆไม่รู้เรื่อง อย่าหาว่านักรบจีโบใจร้าย จัสมินโต้ไม่ใช่นักรบแต่เป็นโจรขี้ขลาด ราชิดสะกดอารมณ์โกรธเอามีดมาจ่อตรงแก้มเธอ ขู่ตนไม่อยากทำร้ายให้เสียโฉมแล้วส่งรูปไปให้องค์อิสราธิบดีดู จัสมินหน้าเจื่อนนึกกลัวแต่ทำใจดีสู้เสือเชิดหน้า

ราชิดกำชับวาเดียให้ตามติดเจ้าหญิงไว้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องรับโทษแทน วาเดียรับคำอย่างไม่ค่อยพอใจ

ระหว่างนั่งพัก เอ็มม่ารู้สึกผิดสารภาพกับอริน ว่าที่เจ้าหญิงถูกจับไปเป็นความผิดของตน ถ้าตนไม่ปล่อยเธอไปคนเดียวก็คงไม่โดนจับ อรินปลอบถ้าเธอไม่ตั้งใจก็อย่าคิดมาก เธอเองก็ไม่แน่ใจ อรินมองงงๆ เธอพูดอย่างขมขื่น

“ตั้งแต่เล็กจนโต องค์หญิงจะได้เป็นที่หนึ่งเสมอ แรกๆก็ไม่รู้สึกอะไร แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมฉันไม่ได้เป็นที่หนึ่งบ้าง”

“คิดมากไปมั้ง”

“พ่อก็ทำทุกอย่างเพื่อองค์หญิง แม่อะไรๆ ก็องค์หญิง บางทีก็นึกว่าเราเคยอยู่ในสายตาของพวกท่านบ้างรึเปล่า”

อรินปลอบว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูก แต่เจ้าหญิงอยู่ในฐานะที่ชาวซามาร์ต้องปกป้อง ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่จะไม่รักเรา เอ็มม่าน้ำตาซึมเปรยว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ไม่รักและคงไม่มีวันรัก อรินชะงักบอกนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว เธอยอมรับว่ารู้เรื่องแต่ทำใจลำบาก

อรินเตือน

“ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยอดีต แล้วจะเอามือที่ไหนไปคว้าอนาคต ซักวันคุณต้องได้เจอคนที่รักและเหมาะสมกับคุณแน่” อรินพูดจบเดินไป

เอ็มม่าร้องไห้ระบายความอัดอั้น ชัยชนะเข้ามายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอเงยหน้ามองแล้วให้เขาเก็บไว้ให้พอฤดี เขาจึงบอกว่าคนนั้นไม่ต้องซับน้ำตา...ตนจะดีใจมากถ้าเห็นเธอมีความสุข เอ็มม่าขอบคุณในความปรารถนาดีของเขาตลอดมาและเสียใจที่ไม่อาจรักเขาได้ ชัยชนะเข้าใจดีว่าเรื่องของหัวใจบังคับกันไม่ได้ แล้วตอนนี้ตนก็มีคนมาดามหัวใจแล้ว เธอยินดีด้วย

ooooooo

ลานหน้าบ้าน ราชิดซ้อมการต่อสู้กับลูกน้องอย่างดุเดือด จัสมินยืนมองตรงระเบียงบ้าน เขาจึงยิ้มหยัน ท้าทายว่าคนร่ำลือว่าองค์หญิงต่อสู้เก่ง อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง จัสมินบอกว่าตนฝึกการต่อสู้ไว้ป้องกันตัว ไม่ใช่ไว้ระรานหรืออวดฝีมือกับใคร

ราชิดเยาะว่าขี้ขลาด

จัสมินทนไม่ได้ที่โดนสบประมาท จึงลงไปประลองฝีมือกับราชิด ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่แรงหญิงก็สู้แรงชายไม่ได้อยู่ดี ราชิดยิ้มสะใจคำรามใส่อย่าคิดว่าฝีมือแค่นี้แล้วคิดหนีอีกวาเดียเยาะเย้ย ไม่เห็นจะเก่งสมคำร่ำลือ ที่แท้ก็ไม่เอาไหน จัสมินมองอย่างเจ็บใจ...

เช้าวันใหม่ ชัยชนะใช้เครื่องจีพีเอสสำรวจเส้นทางเข้าไปยังที่พักของกลุ่มจีโบ แม้สัญญาณขาดๆหายๆแต่เขากับอรินก็ดั้นด้นเดินต่อไปไม่เชื่อนาธานอีกแล้ว

เอ็มม่าบ่นหิวน้ำ นาธานจึงชวนกลับไปรอที่เต็นท์...

สองพี่น้องเดินมาจะถึงเต็นท์ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์จึงรีบหลบ เห็นคนของจีโบสองคนขี่รถเก่าๆวนแถวเต็นท์ จนมีเสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้น พวกมันจึงกลับไป อรินกับชัยชนะวิ่งกลับมาเจอนาธานกับเอ็มม่าออกมาจากที่ซ่อนพอดี

นาธานยืนยันว่าพวกนั้นใช่พวกจีโบ แต่วิทยุสื่อสารพูดอะไรฟังไม่ถนัด อรินมั่นใจว่าที่พักพวกมันอยู่ไม่ไกลจากนี่แน่...ทั้งสี่คนกลับมาที่ตลาดเพื่อเตรียมความพร้อม ให้เผอิญเห็นคนของจีโบซื้อของที่ร้านขายของชำ เอ็มม่าจำได้ อรินมีแผนการจะสะกดรอยตามพวกมันไปให้ถึงรัง แต่ตนต้องไปคนเดียวถึงจะสะดวก ชัยชนะจึงให้วิทยุสื่อสารเครื่องกะทัดรัดติดตัวไปเพื่อติดต่อกัน นาธานกำชับถ้าเจอเจ้าหญิงต้องรีบบอกพวกตน เอ็มม่าขอให้เขาระวังตัว อรินขอบคุณ

อรินเห็นว่าพวกมันคนหนึ่งรออยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ จึงเข้าไปจัดการคนที่กำลังซื้อของแล้วสวมรอยเอาผ้าปิดจมูกปิดปากเดินออกมาบุ้ยใบ้ให้คนที่รอออกรถ...

รถแล่นมาจนถึงกลางป่า เครื่องเกิดกระตุกแล้วดับ อรินเผลอบ่นทำไมสตาร์ตไม่ติด ลูกน้องราชิดได้ยินเสียงก็โวยวายว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน เขาจึงต้องซัดจนหมอบ มองไปเห็นบ้านพักอยู่ไกลๆก็เดินเท้าตรงไปยังที่นั่น

จัสมินเดินเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้าน วาเดียเดินตามติดจนน่ารำคาญ จัสมินถามจะตามไปถึงไหน วาเดียวเยาะ “รู้สึกแล้วสิ ว่าการขาดอิสรภาพมันทรมานแค่ไหนพวกเราจีโบต้องอยู่แบบนี้มาตลอด”

“อิสรภาพหรืออำนาจกันแน่ที่พวกเธอต้องการ” จัสมินสวนวาเดียมองด้วยสายตาแค้นเคือง ก่อนจะไล่ให้เข้าบ้าน จัสมินสบตาอย่างไม่กลัวเกรง แต่ก็ไม่อยากมีเรื่อง ยอมเดินกลับเข้าไปแต่เหลือบไปเห็นคนของราชิดก่อไฟควันคลุ้งก็เกิดความคิดบางอย่าง อรินเดินลัดเลาะส่องกล้องเห็นจัสมินเบลอๆก็พยายามปรับกล้องให้ชัด แต่ส่งสัญญาณเรียกเธอไม่ทัน มีคนของราชิดเข้ามาจ่อปืนข้างหลัง วิทยุบอกราชิดว่ามีคนบุกเข้ามา ความที่สัญญาณขาดๆหายๆ ราชิดฟังไม่ถนัด ลูกน้องพยายามพูดใหม่ อรินฉวยโอกาสเตะวิทยุในมือมันหล่นแล้วต่อสู้กัน ราชิดได้ยินเสียงต่อสู้ก็เอะใจ อรินซัดลูกน้องราชิดจนหมอบ

ด้านวาเดียเข้ามาเตรียมอาหารในส่วนครัว จัสมินจับตามองจนเห็นเธอเดินไปเข้าห้องน้ำ ก็รีบไปเอาไม้ขัดดานประตูขังเธอไว้ แล้วมาสุมไฟในเตาให้เกิดควันคละคลุ้งจนสำลักวิ่งไปหาที่หลบ พอพวกสมุนที่อยู่นอกบ้านเห็นควันไฟลอยมาก็ตกใจวิ่งกรูเข้ามาดับไฟ จัสมินได้โอกาสวิ่งหนีออกจากบ้าน สมุนได้ยินเสียงวาเดียทุบประตูโครมๆก็มาเปิดให้ เธอเข่นเขี้ยว

“เจ้าหญิงตัวแสบหายไปแล้ว หาตัวเร็ว”

ให้พอดีราชิดกลับเข้ามา จัสมินวิ่งไปชนร่างเขาเข้าอย่างจัง จึงโดนจับมามัดมือไพล่หลัง ราชิดตบหน้าวาเดียที่เกือบปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไปได้ ทำให้เธอยิ่งเจ็บแค้นใจ แล้วหันมาต่อว่า

“สั่งแล้วทำไมองค์หญิงไม่ฟัง”

“ไม่มีสิทธิ์มาสั่ง ทำกับเราเกินไปแล้ว แก้มัดเดี๋ยวนี้”

“ท่านก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่ง เมื่อให้เกียรติแล้วไม่ เคารพกัน ก็ต้องทำแบบนี้”

จัสมินโต้ไม่ใช่ให้เกียรติแต่หมิ่นเกียรติตนมากกว่า ราชิดยักไหล่หาว่าเธอบังคับให้ต้องทำ ถ้าคิดหนีจะโดนมากกว่านี้ พลันลูกน้องเข้ามารายงานว่าคนของเราโดนทำร้าย จัสมินตาวาว ราชิดรู้ว่ามีคนแอบเข้ามาสั่งหาตัวให้เจอ...

ฟ้าเริ่มมืด จัสมินข่มความกลัวไม่ยอมกินข้าว ไม่แสดงความกลัวให้ราชิดเห็น ถูกขังในห้องนอน มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นภูผาสีเงินก็ให้คิดถึงอริน น้ำตาไหลเป็นทางอย่างเหนื่อยล้าอ่อนแรง...

กลางดึก จัสมินออกมายืนที่ระเบียงห้อง อรินซึ่งซ่อนตัวอยู่นานเอาหินปาไปที่เธอ จัสมินกำลังจะเดินไปดู จังหวะนี้เองวาเดียออกมาเรียกให้กลับเข้าห้องเพราะกลัวว่าตนจะโดนทำโทษ แต่เพราะจัสมินลังเลวาเดียเลยกระชากเธออย่างแรงจนสร้อยคอหล่นไม่รู้ตัว

จนกระทั่งเข้ามาในห้อง จัสมินจับที่คอจึงรู้ว่าสร้อยหาย เธอรีบวิ่งออกไปที่ระเบียงอีกครั้ง เดินหาสร้อยที่พื้น น้ำตาคลอเริ่มใจเสียกลัวจะหาไม่เจอ แต่จู่ๆสร้อยเส้นนั้นก็ยื่นมาตรงหน้า

“หาสร้อยนี้อยู่รึเปล่า”

จัสมินเงยหน้ามองเจ้าของเสียง เขาคืออรินนั่นเอง ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามากอดด้วยความคิดถึงและเป็นห่วง จัสมินกอดตอบน้ำตาร่วงพรู

“นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้ว...”

“ยังไงผมก็ต้องหาคุณให้พบ...ครูมะลิ” อรินชะงักนึกได้ ผละออกจากเธอแล้วก้มหัวพูดออกไปจนอีกฝ่ายนิ่งอึ้ง “ผมทำความเคารพองค์หญิงจัสมิน”

“ที่แท้คุณก็รู้แล้ว...” จัสมินพึมพำ มองหน้าเขาอย่างรู้สึกผิด

ooooooo

ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด