สมาชิก

ชื่นชีวา

ตอนที่ 11

ที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน คลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อในชุดแฟนซีสวมหน้ากากอันสวยงาม เสียงดนตรีคลาสสิกดังคลอเคล้าไปกับเสียงพูดคุยทั่วงาน ทันใดนั้นเสียงดนตรีก็เปลี่ยนจังหวะเป็นรัวเร็วเหมือนมีคนสำคัญเข้างาน

ทุกคนเบือนหน้าไปที่บันได เกศินีในชุดเจ้าหญิงเดินโบกมือโชว์ความเด่นอย่างเต็มที่ พลันเสียงผู้คนฮือฮามากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นชื่นในชุดราตรีงามวิจิตรพร้อมหน้ากากเดินลงมาในเวลาใกล้เคียงกัน

ต้นจะก้าวไปรับเกศินี ฉัตรสุดาฉวยโอกาสนั้นผลักนัททีออกมายืนแทนที่ นัททีไม่มีทางเลือกจำต้องยื่นมือออกไปรับเกศินีลงมา

ต้นลอบยิ้มถูกใจยื่นมือไปรับชื่นมาที่กลางฟลอร์เต้นรำ เกศินีและต่อไม่พอใจมาก แต่ต้นก็ไม่สนใจพาชื่นล่องลอยไปตามจังหวะเพลงอย่างมีความสุข เกศินีมีสีหน้าบึ้งตึงด้วยมั่นใจว่าผู้หญิงที่ต้นเต้นรำคือชื่น ต่อเองก็มีอาการไม่ต่างกัน ต่างจากแขกคนอื่นและกลุ่มกานดาที่ชะเง้อมองสงสัยว่าผู้หญิงที่เต้นรำกับต้นคือใคร คุณหญิงวีณาเห็นท่าไม่ดีจึงเดินมาหา

“คุณต่อ...ให้เกียรติน้าหน่อยได้ไหมคะ พอดีเจ้าคุณพ่อท่านขาแพลง”

ต่อฝืนยิ้มรีบโค้งพาคุณหญิงออกไปแทบจะทันที เมื่อถึงจังหวะเปลี่ยนคู่ ต้นรู้แกวพาชื่นหลบออกไป ยุพาจึงมีโอกาสเต้นกับต่อแทน ต้นพาชื่นมาหยุดดูไฟในสวนที่ตกแต่งสวยงามราวกับสวนสวรรค์ แล้วถามว่าเธอไปหัดเต้นรำมาจากที่ไหน หญิงสาวอึกอักเข้าใจว่าตัวเองเต้นไม่เก่ง ทำให้ต้นลำบากใจจึงพาออกมาข้างนอกแทนการเต้นรำ

“คิดว่าฉันจะจำเธอไม่ได้หรือ...ถ้าจำไม่ได้ ฉันจะขอเต้นรำกับเธอคนแรกตามสัญญาไว้ได้ยังไงกัน”

“ชื่นกลัวคุณต้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคุณเกศ เพราะชื่นไม่ใช่สุภาพสตรีที่โก้หรู คู่ควรกับการเปิดฟลอร์กับคุณต้น”

“คุณต้นก็ไม่ได้ต้องการเต้นรำกับสุภาพสตรีโก้หรูที่ไหน...คุณต้นต้องการเต้นรำกับผู้หญิงที่ปรารถนาเท่านั้น”

ชื่นยิ้มอายๆไม่กล้าสบตากับต้นได้แต่มองเมินไปทางอื่น ต้นมองกิริยานั้นอย่างเผลอไผลแล้วอดใจไม่ไหวดึงหน้ากากลงจะจูบ แต่ไม่ทันสมหวัง ต่อก็โผล่มาต่อยเขาจนหน้าหงายด้วยความหึงหวง

“คุณต้นทรยศ! คุณต้นไม่รักษาสัญญา ผมเกลียดคุณต้น...ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เห็นชัดว่าทำอะไร!”

ชื่นช็อกชั่วครู่ก่อนจะได้สติก็หันหลังวิ่งออกไป สองหนุ่มผวาจะตามแต่ต้องชะงักเมื่อชื่นตะโกนห้ามไม่ให้ใครตามเธอมาทั้งนั้น ต่อจ้องหน้าพี่ชายผิดหวังอย่างมากก่อนจะเดินจากไปด้วยความหัวเสีย ต้นเองรู้สึกผิดไม่น้อยก็เอาแต่ยืนนิ่ง...

เหตุการณ์ทั้งหมดนั่นไม่รอดพ้นจากสายตาของสาวิตรีและวรรณิภาที่เผอิญมาเห็น สองสาวตื่นเต้นกับข่าวเด็ดรีบกลับเข้าภายในงาน เจอกับเกศินีและยุพาออกมาตามหาต้นกับต่ออยู่

“พวกเราเห็นจ้ะ เห็นทั้งสองคนเลย ทั้งคู่กำลังต่อยกันเพราะแย่งนังจูเลียต!”

เวลาเดียวกันนั้นในห้องโถง คุณหญิงวีณากับเจ้าคุณกำลังมองหาต้นอยู่เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรกับต่อที่พรวดพราดขึ้นข้างบนโดยไม่พูดไม่จากับใคร พอเห็นต้นเดินเข้ามาด้วยท่าทีปกติก็โล่งใจเพราะเข้าใจว่าข้างนอกอาจจะมีเรื่อง คุณหญิงวีณาอาสาไปถามเรื่องนี้ให้ เจ้าคุณพยักหน้าขอบใจ

ทรงวุฒิกับลูกน้องยืนมองเหตุการณ์นั้นมั่นใจว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น นอกจากจัดการกับคนทรยศหักหลังก่อน ยุพาสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ารีบหาทางหนีแต่ก็ถูกเขาตามไถเงินจนได้

ooooooo

คุณหญิงวีณามองแผลบนใบหน้าของต้นด้วยความห่วงใยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกเลี้ยงสะบัดเสียงตอบอย่างหงุดหงิดว่าไม่มีอะไร ตนแค่หกล้มและไม่ค่อยสบาย คุณหญิงไม่เชื่อจึงแกล้งถาม

“คุณต่อก็ไม่ค่อยสบาย คุณต้นก็เหมือนกันอีก แล้วนี่ชื่นหายไปไหนไม่รู้ มีคนเห็นเธอออกไปกับคุณต้น”

ต้นนิ่งเงียบไม่กล้าสบตา เสตอบว่าชื่นน่าจะอยู่กับนมอ่อนเวลานี้ คุณหญิงวีณาลอบถอนใจกับพฤติกรรมของลูกเลี้ยงที่ดูเหมือนอมพะนำกับอะไรบางอย่าง

ด้านกานดาถึงกับตบอกผางเมื่อรู้ว่าลูกชายสองคนของเจ้าบ้านพิชัยศรายุทธต่อยกันเพราะแย่งผู้หญิงวรรณิภาได้ทียุส่งว่าถ้าต่อไม่เข้าไปขวาง ต้นคงจูบชื่นไปเรียบร้อยแล้ว เกศินีตาลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ

“คุณแม่คะ เกศอยากถามคุณต้นให้มันรู้เรื่องกันไปเลยเดี๋ยวนี้นัก เกศแทบอยากทึ้งนังชื่นให้ตายคามือ”

“ไม่ได้นะลูกขา ลูกเกศต้องใจเย็น...เชื่อคุณแม่นะ”

ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ทั้งหมดเห็นนันทลีกับพวกฉัตรสุดาเดินผ่านมา จึงหยุดการสนทนาไว้แล้วทำทีว่าคุยกันเรื่องอื่นเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

ขณะนั้นเอง ยุพาก็กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะถูกทรงวุฒิรีดไถเงินอย่างหนัก โดยขู่ว่าจะยอมดีๆหรือจะให้เปิดเผยเรื่องต่างๆที่ร่วมมือกันทำให้คนอื่นรู้ ยุพาไม่มีทางเลือกอื่นจึงยอมส่งเงินให้

งานเลี้ยงจบลงด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน ยกเว้นเกศินีอดค้อนต้นไม่ได้เมื่อเห็นเขามายืนส่งแขกด้วยท่าทีนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวถือโอกาสถามอย่างจับผิด

“ได้ข่าวว่าคุณต้นไม่ค่อยสบาย เป็นอะไรหรือคะ เท่าที่เห็นก็แค่หกล้มปากแตกเอง”

ต้นนิ่วหน้าไม่พอใจแต่ไม่ตอบโต้ นิวัฒน์เกรงใจต้นที่เกศินีตั้งคำถามเหมือนไม่ให้เกียรติ จึงปรามลูกสาวไม่ให้เสียมารยาทและตัดบทเร่งให้ทุกคนไปพักผ่อน กานดาสงสารลูกสาวเพราะรู้ดีถึงวีรกรรมของต้นจึงชวนไปค้างคืนที่ตึกซ้ายแต่เกศินีกลับส่ายหน้าปัดว่าพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกัน เจ้าคุณสบตาภรรยาอย่างหนักใจ ก่อน
ทุกคนจะแยกย้ายในเวลาต่อมา

หลังผละมาจากทรงวุฒิได้ ยุพานั่งรอคอยกานดาอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อได้พบหน้าก็ถูกกานดาเอ็ดว่ามีเรื่องด่วนอะไรถึงต้องปรึกษาในเวลานี้

“ไอ้ทรงวุฒิมันปลอมตัวเป็นแขกเข้ามาในงานค่ะ!”

กานดาหน้าถอดสีคาดไม่ถึงว่าทรงวุฒิจะกล้าบุ่มบ่ามเข้ามาในงาน ยุพาเองก็อกสั่นขวัญแขวน

“อย่างแรกคือคุณน้าต้องคืนเงินให้ยุพาเพราะไอ้นั่นเอาไปหมดแล้ว ถ้าไม่ให้ มันจะบุกเข้าไปขอคุณน้าเอง นี่ยุพาช่วยป้องกันคุณน้าไว้อย่างดีที่สุดแล้วนะคะ เห็นใจกันหน่อย”

ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ จันทร์กับเจือวิ่งหน้าตื่นมารายงานว่าจาบถูกซ้อมจนยับเยิน ยุพาเหลือบมองน้าสาวเหมือนจะยืนยันในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูด กานดาแค้นใจแทบกระอักสั่งให้ทุกคนอยู่ในความสงบแต่นัยน์ตาฉายแววเหี้ยม

ที่หน้าห้องกนก กานดาเห็นนิวัฒน์เดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จึงถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีก

“กนกหายไป คงไปหาเพื่อนกลุ่มเดิมนั่นแหละ”

“แสดงว่ามันไม่ได้กลับตัวกลับใจ แต่มันทำดีเพื่อตบตาหลอกให้เราตายใจ”

“แล้วทำไมต้องตบตาเราด้วย”

นิวัฒน์ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ภรรยาพูด แล้วก็ได้คำตอบเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของภรรยาตอนพบว่าเครื่องเพชรและเงินทองถูกกนกขโมยไปจนเกลี้ยง!

ooooooo

รุ่งเช้าขณะที่ต่อกำลังแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ พอรู้ว่าเป็นต้นก็กระชากเสียงบอกว่าไม่มีอะไรจะคุย ต้นไม่ยอมดึงดันขอคุยเพื่อความชัดเจน ต่อถอนใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปเปิดประตูให้อย่างเสียไม่ได้

“พี่มาขอโทษเรื่องเมื่อคืน และขอสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีก”

“คุณต้นรักชื่นใช่ไหม เพราะผมก็เป็นลูกผู้ชายพอ จะยอมเสียสละให้!”

“เปล่า พี่ไม่ได้รักชื่น พี่เอ็นดูเขาเหมือนน้องสาว พี่ไม่ควรทำตัวเช่นนั้นเพราะคุณต่อบอกกับพี่มานานมากแล้วว่าคุณต่อรักชื่นและยังขอให้พี่ช่วยดูแลเขา...แต่พี่กลับทำเหมือนทรยศกับคุณต่อ พี่รับปากว่าจะทำตามสัญญาที่เรามีต่อกันโดยไม่บิดพลิ้วอีก พี่เชื่อว่าทั้งคุณต่อและชื่นจะต้องมีความสุขด้วยกันนับจากนี้ต่อไป”

ต่อยิ้มกว้างตรงเข้ากอดพี่ชายด้วยความตื้นตันใจ ต้นตบบ่าน้องชายพึมพำว่าต่อเป็นน้องชายคนเดียว เรื่องแค่นี้ทำให้ได้เสมอ พูดจบก็ฝืนยิ้ม กล้ำกลืนความเจ็บปวดทั้งมวลไว้ในใจ...

เมื่อปรับความเข้าใจกันเรียบร้อย ต้นก็แสดงให้น้องชายเห็นว่าเขาไม่มีใจให้ชื่นด้วยการดูแลเอาใจใส่เกศินีระหว่างกินข้าวเช้าด้วยกัน ชื่นมองการกระทำนั้นด้วยความร้าวรานใจ ต่างจากเกศินี ปลื้มใจจนออกนอกหน้าหันไปยิ้มเยาะใส่คู่ปรับ เพียงครู่เดียวชื่นไม่อาจฝืนใจทนอยู่ได้ก็ขอตัวไปเรียน ต่อสบโอกาสอาสาไปส่ง

ท่าทีเปลี่ยนไปของต้นทำให้ชื่นคิดมาก เหม่อลอยตลอดช่วงเช้าในระหว่างที่นั่งรอเรียนโดยไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่ฉัตรสุดาพูดจนเพื่อนสาวแปลกใจ พอขยับจะถามก็เผอิญเห็นท่าทีน้อยใจของชื่นที่มองตามรถของต้นพอดี ฉัตรสุดาเลยถึงบางอ้อปลอบชื่นอย่างเข้าใจดี ชื่นฝืนทำตัวร่าเริงแล้วตัดใจละทิ้งเรื่องต้นไว้เบื้องหลัง

ที่ตึกซ้ายยุพาหน้าซีดเผือดหลังวางหูโทรศัพท์ กานดาเอะใจถามว่าเป็นสายมาจากทรงวุฒิใช่ไหม หลานสาวพยักหน้าไม่สบายใจเล่าว่าทรงวุฒิเยาะเย้ยที่เข้ามาอาละวาดถึงในพิชัยศรายุทธ แต่ไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ กานดาถอนใจเฮือก

“ปล่อยมันไปก่อน เวลานี้ฉันอยากรู้ว่านังชื่นไปเอาชุดนั้นมาจากไหน”

“มันอาจจะเตรียมไว้สองชุดก็ได้นี่คะ” ยุพาพูดอย่างมั่นใจ

กานดาส่ายหน้าไม่เห็นด้วย จู่ๆเจือที่นั่งรับใช้อยู่ก็โพล่งขึ้นมา

“คุณนายเจ้าขา บ่าวเห็นเจ้าค่ะว่าคุณนิวัฒน์ถือกล่องอะไรไม่รู้ลงมาแล้วไปที่ตึกใหญ่ ตอนช่วงที่คุณนายไม่อยู่”

กานดามั่นใจว่าของในกล่องคือชุดสวยที่ชื่นใส่แทนชุดเดิมจึงมาดักรอสามีที่หน้าตึกในตอนเย็น พอนิวัฒน์ขับรถเข้ามาจอด ก็ยิ้มร้ายเอ่ยถามเสียงเรียบ

“คุณเอาชุดไปให้นังชื่นใส่วันงานเลี้ยงต้อนรับคุณต้นใช่ไหม”

“ทำไมผมจะต้องทำอย่างนั้น ทุกคนเขาก็เตรียมชุดไว้ใส่ในวันนั้นกันทั้งนั้น...แล้วผมจะต้องเอาชุดไปให้ชื่นทำไม”

กานดาเจ็บใจไม่มีหลักฐานจับให้ได้คาหนังคาเขา นิวัฒน์จ้องภรรยาไม่พอใจ ก่อนเหน็บว่าควรใส่ใจเรื่องการหายตัวไปของกนกมากกว่า กานดาโมโหสวนทันควัน

“ทำไมฉันจะไม่สนใจในเมื่อมันเอาเครื่องเพชรเครื่องทองของฉันไป นี่ถ้าไม่ติดว่าจะเสียชื่อกันทั้งวงศ์ตระกูล...ฉันจะให้ตำรวจมาลากคอมันไปขังคุกด้วยซ้ำไป!”

นิวัฒน์ถอนใจยาว ผิดหวังกับคำพูดของภรรยาจึงเดินหนี ปล่อยให้กานดาเดือดดาลก่นด่าเขาไม่หยุด

ตกบ่ายวันเดียวกัน นมอ่อนนั่งมองชื่นที่มีท่าทีเหมือนคนมีอะไรในใจ พอถามก็ปฏิเสธว่าแค่ไม่สบาย ก่อนจะเปลี่ยนท่าทางเป็นปั้นปึ่งเมื่อเห็นต้น สองหนุ่มสาวต่อปากต่อคำแล้วลงเอยกลายเป็นทะเลาะกัน นมอ่อนพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ทั้งสองฝ่ายต่างเดินหนีด้วยทิฐิที่มีต่อกัน

ooooooo

เวลาค่ำ ชื่นยังคงโมโหต้นไม่หายจึงมาเล่นกับสโนว์เพื่อให้คลายอารมณ์ พอเห็นเกศินีและต้นเดินคุยกันมาอย่างสนิทสนม หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจ ต้นเองมีท่าทีนิ่งเฉย เกศินีนึกรู้ทันทีว่าสองคนต้องมีเรื่องกินใจจึงสบโอกาสยุแยง

“คุณต่อกับชื่นเหมาะสมกันเหลือเกินนะคะ อีกไม่นานทั้งคู่คงตกลงปลงใจกันแน่ๆ คุณต้นว่าอย่างนั้นไหมคะ”

ต้นสกัดกั้นความไม่พอใจภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบคำถามจนเกศินีใจเสีย ก่อนจะขอตัวไปทำงาน เกศินีเลยต้องบอกว่าตัวเองมีธุระจะคุยกับมารดาเช่นกัน และแอบน้อยใจต้นที่ให้ความสำคัญกับชื่นอยู่เสมอ

เวลาเดียวกันในตึกใหญ่ เจ้าคุณและคุณหญิงวีณากำลังคุยกันกับสองพี่น้องเพื่อนบ้านเพราะกังวลใจกับการหายตัวไปของกนก นัททีกับนันทลีเองก็ร้อนใจเพราะคิดว่าปัญหาของเด็กหนุ่มได้รับการแก้ไขแล้ว ขณะคุยกัน ต้นเดินมาถาม

“มีใครไปตามที่บ้านเพื่อนบ้างหรือเปล่าครับ”

“คุณน้านิวัฒน์ไปแล้วจ้ะ...แต่เจ้าเพื่อนสนิททั้งสองคนก็หนีออกจากบ้านเหมือนกัน ทางบ้านเขาก็ตามหาวุ่นวาย...น้ากลุ้มใจเหลือเกิน นึกว่าหมดปัญหาแล้วทีเดียว”

คุณหญิงวีณาน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วงหลานชาย เจ้าคุณปลอบว่าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเงินหมดกนกคงกลับมาเอง นัททีและนันทลีมองมาอย่างเห็นใจแต่ก็จนปัญญาจะช่วยเหลือ

กนกไม่ได้สำเหนียกเลยว่าใครจะเป็นห่วงบ้างเดินถือเหล้ากับกับแกล้มตรงไปยังบ้านเช่าที่ติดอยู่กับบ้านจาบพร้อมกับเพื่อน เจ้าของบ้านเห็นพวกเด็กหนุ่มทำตัวสำมะเลเทเมาก็อดตักเตือนไม่ได้ แต่พวกนั้นไม่สนใจและไล่เจ้าของบ้านเช่าไปอย่างรำคาญ พอคล้อยหลัง พวกกนกก็จัดการของที่ถือมาทั้งหมดอย่างสนุกสนานเพื่อให้ลืมปัญหาต่างๆรอบตัว

ด้านต้นกับชื่นก็มีปัญหาไม่แพ้กัน ทั้งคู่พยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอหน้าแต่ก็เหมือนฟ้าแกล้งทำให้เผอิญมาเจอกันที่เฉลียงข้างบ้าน ต้นรู้สึกลำบากใจจึงหันหลังจะเดินออกไป ชื่นเรียกเขาไว้ด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“คุณต้น...ทั้งเกลียดและรังเกียจชื่นมากขนาดเดินหนีเลยหรือคะ ชื่นไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆคุณต้นถึงได้เปลี่ยนไป คืนวันงานคุณต้นยังดีแสนดีกับชื่นทุกอย่าง จนชื่นเผลอคิดไปว่า...”

“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ ถ้าฉันทำอะไรไปที่ให้เธอเข้าใจผิด ก็ขอโทษด้วย...ฉันขอตัวไปนอนก่อนล่ะนะ”

ต้นสาวเท้าจากไปอย่างไร้เยื่อใย ชื่นสะอึกกับท่าทีของเขาจนทนไม่ไหวสะอื้นไห้ออกมา...ชายหนุ่มเองก็สะเทือนใจไม่ต่างกัน พึมพำในใจ

“ชื่นไม่รู้หรอกว่า ยิ่งชื่นเสียใจเท่าไร ฉันยิ่งเจ็บปวดเสียใจมากกว่าเธอหลายร้อยเท่านัก”

ชื่นแอบมานั่งโศกเศร้าคนเดียวเงียบๆที่เฉลียงชั้นบน พอเห็นเกศินีเดินมาแต่ไกลก็พยายามระงับอารมณ์ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เกศินีลอบยิ้มสะใจเมื่อเห็นนัยน์ตาคู่ปรับแดงช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แล้วแสร้งเห็นใจ

“ทำไมมาแอบร้องไห้อยู่ที่นี่ล่ะจ๊ะ ฉันไม่มีอะไรมากแค่เป็นห่วง ถึงเธอจะแสดงท่าทีไม่ดีอะไรกับฉันวันนี้ ก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองเพราะฉันกำลังมีความสุข รู้ไหมว่า ...คุณต้นสารภาพรักกับฉันแล้ว ในที่สุดเราทั้งคู่ก็เข้าใจกันเสียทีนะ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงสอนฉันให้อภัยและมีเมตตา ตอนนี้ฉันเห็นด้วยกับมัน ความรักเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่งจริงๆ”

เกศินียิ้มเยาะเย้ยแล้วจับตามองท่าทีของอีกฝ่ายที่หน้าถอดสี ก่อนจะวิ่งหนีไปร้องไห้คนเดียวในห้อง

“คุณต้นรักคุณเกศแล้วมาหลอกให้ชื่นเข้าใจผิดทำไม คุณต้นใจร้าย...ชื่นจะไม่ใจอ่อนเหมือนแม่ ตาบอกว่าเพราะแม่ใจอ่อน แม่ถึงต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ชื่นจะไม่ยอมให้ความรักมาทำลายความเข้มแข็งของชื่นแน่นอน!”

ooooooo

รุ่งเช้าเกศินียิ้มร้ายรุกคืบตามแผนยุยงอีกขั้น เมื่อเห็นต้นกำลังเดินดูดอกไม้อยู่ในสวนหน้าบ้าน เธอสาวเท้าเข้าไปหา

“เมื่อคืนเกศคุยกับชื่นจนดึก เขาเล่าว่าเข้าใจดีกับคุณต่อแล้ว พอเรียนจบก็จะเป็นสะใภ้บ้านนี้ต่างจากเกศที่เป็นผู้อาศัย”

“เขาบอกกับคุณเกศอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ค่ะ เมื่อถึงวันนั้นเขาจะได้แก้แค้นครอบครัวเกศสมใจ...บางทีพวกเราอาจจะถูกไล่ออกจากบ้านนี้”

ต้นส่ายหน้าไม่เห็นด้วยและบอกว่าทั้งเจ้าคุณและคุณหญิงวีณาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำทำแบบนั้น เกศินีแสร้งทำหน้าเศร้าสร้อย ก่อนจะยิ้มสุขสมหวังเมื่อเห็นต้นแสดงอาการไม่พอใจกับสิ่งที่ชื่นพูด

จากนั้นเกศินีไปหามารดาที่ตึกซ้ายแล้วเล่าว่ายุแยงจนต้นกับชื่นโกรธกันได้สำเร็จ ยุพาหมั่นไส้เผลอตัวพูดว่าเชื้อไม่ทิ้งแถว สองแม่ลูกสะดุดหูจ้องหน้าราวกับอยากได้คำอธิบาย ยุพารู้สึกตัวรีบแก้เป็นพัลวัน

“ยุพาจะชมว่าน้องเกศทั้งสวยทั้งฉลาดเหมือน

คุณน้าต่างหากค่ะ รีบเล่าต่อดีกว่านะคะ อยากฟังจะแย่แล้ว”

“เกศก็แค่บอกนังชื่นว่าคุณต้นกับเกศ...ชอบกัน แล้วก็บอกคุณต้นว่าคุณต่อกับนังชื่นรักกัน!”

ยุพาค้านไม่เห็นด้วยเพราะคุณต่อเป็นเป้าหมายของเธอ กานดาเห็นท่าไม่ดีรีบอธิบายว่าตนจะทำทุกทางให้ชื่นไม่มีความสุข แม้ว่าทั้งสองคนนั่นจะแต่งงาน ก็จะหาทางทำให้เลิกจนได้ ยุพายังแคลงใจถามว่าหากไม่เลิกจะทำเช่นไร

“นั่นนับว่าเป็นกรรมของพี่ยุพา”

เกศินีหัวเราะคิกคักไม่สนใจว่ายุพาจะรู้สึกเช่นไร หลานสาวกานดาเจ็บใจที่ถูกดูหมิ่นนึกในใจว่าถ้ามีโอกาสจะสั่งสอนเกศินีให้รู้รสของความปากดี แล้วจะรู้ว่าจริงๆ เป็นกรรมของใครกัน

หลังอาการเจ็บแผลเริ่มทุเลา จาบบอกกานดาขอกลับบ้านเพื่อไปรวบรวมสมัครพรรคพวกหาทางแก้แค้นทรงวุฒิ นายสาวไม่ขัดข้องขอเพียงอย่านำเรื่องเดือดร้อนมาให้ ขณะนั้นภายในบ้านเช่า กนกรู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะแสงตะวันแยงตาจึงลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง แต่กลับชะงักเมื่อเห็นจาบกำลังไขกุญแจเข้าบ้านข้างๆ เกือบจะตะโกนเรียกแต่เปลี่ยนใจหันไปปลุกเพื่อนแทน

“เฮ้ย...ตื่นเร็ว เราอาจต้องย้ายบ้านเช่า...คนรถที่บ้านฉันอยู่บ้านข้างๆนี่เอง”

นิกรกับปรีชาส่ายหน้าไม่เห็นด้วยแล้วสั่งกนกให้ระมัดระวังตัวแทนเพราะบ้านเช่าราคาถูกหายาก กนกร้อนใจกลัวจาบฟ้องกานดาว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อนๆทำหน้าเบื่อหน่าย ก่อนรับคำอย่างขอไปทีว่าต้องหาบ้านใหม่ให้ได้ก่อนค่อยย้ายออก

ตกค่ำวันเดียวกัน ต้นทำทีไปหานมอ่อนเพราะหวังจะพบใครบางคนแต่ก็ต้องผิดหวัง แถมยังถูกนมอ่อนซักถามเรื่องชื่นจนหลุดอาการหึงหวงแต่ก็ยังคงปากแข็ง ต้นเดินเรื่อยๆมาถึงห้องสมุดจึงพบว่าชื่นอยู่ที่นั่นกำลังสาละวนจัดหนังสืออย่างเพลิดเพลิน ต้นหยุดชะงักยืนมองอย่างเคร่งขรึม เหมือนชื่นจะรู้ตัวหันมอง แล้วทำท่าอึดอัดใจไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขา

“คุณต้น...เชิญค่ะ ชื่นออกไปก่อนก็ได้ ถ้าจะทำงานในห้องนี้ เจ้าคุณลุงให้ชื่นมาช่วยจัดหนังสือ ไม่ได้รีบร้อนอะไร”

ต้นหงุดหงิดกับท่าทางของชื่นที่คอยหลบเลี่ยงเขาเสมอระยะนี้ แต่เมื่อถามเหตุผล ชื่นก็ยียวนว่าตอกกลับจนเขาต้องกระชากเสียงถาม

“เพราะฉันไม่ใช่คุณต่อใช่ไหม เธอถึง...”

ไม่ทันพูดจบ เกศินีก็เข้ามาขัดจังหวะ ต้นเลยต้องปล่อยชื่นให้เป็นอิสระ หญิงสาวรีบเดินหนีในขณะที่เกศินีมองตามอย่างเกลียดชังแล้วหันมาออดอ้อนทวงสัญญากับต้นว่าเมื่อไรจะพาเธอไปดูหนัง ต้นบอกว่าไม่ได้ลืมแต่ยังไม่มีเวลาว่าง เกศินีฝืนยิ้มเข้าใจ ทั้งคู่เดินคุยกันมาจนถึงห้องโถง เกศินีสบโอกาสทำตัวสนิทสนมกับต้นจนเจ้าคุณแปลกใจ

เมื่ออยู่กันตามลำพัง เจ้าคุณถึงกับปรารถกับคุณหญิงวีณา

“ทีแรกฉันนึกว่านายต้นจะรักกับชื่นเสียอีก แต่ กลับกลายเป็นนายต่อไป ส่วนยายเกศก็ดูจะมีใจกับนายต้น...แต่ฉันยังดูนายต้นไม่ออก”

“เรื่องนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปค่ะ” คุณหญิงวีณามีสีหน้าวิตกกังวลมากกว่าเดิม

ooooooo

ด้านเกศินียังคงใช้วิธียุแยงให้ต้นเกิดความแคลงใจในตัวชื่นไม่เลิกโดยทำทีสารภาพ

“เกศขอโทษที่พูดปดกับคุณต้น จริงๆแล้วเกศมีเจตนาเข้าไปในห้องสมุดเพราะจันทร์บอกว่าคุณต้นอยู่ที่นั่นกับชื่น เกศกลัวว่าคุณต่อจะเข้าใจผิดอีกจึงตัดสินใจขัดจังหวะ”

ต้นหน้าเผือดรู้สึกผิดที่ทำอะไรโดยขาดสติ เกศินีลอบยิ้มสะใจเล่าตอกย้ำให้ต้นเห็นว่าชื่นเองก็ทำหว่านเสน่ห์ไปทั่วเพื่อให้ต่อหึงหวง แม้แต่นัททีเพื่อนบ้านก็ไม่เว้น ต้นเจ็บปวดเกินกว่าจะทนฟังไหวจึงหันมาต่อว่าเกศินี

“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณเกศเอาเรื่องพวกนี้มาเล่าให้ฉันฟังทำไม ฉันไม่สนใจยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ขอให้รู้ไว้นะ”

เกศินีแสร้งทำหน้าสลด พอคล้อยหลังเขาก็ยิ้มอย่างสาแก่ใจ...

แม้ว่าจะทำปากแข็งบอกเกศินีว่าไม่สนใจแต่จริงๆแล้ว ต้นรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดเหล่านั้นพร่ำบอกตัวเองว่า

“ในที่สุดสิ่งที่ฉันหวาดวิตกมันก็เป็นความจริง เธอจงใจใช้มารยาปั่นหัวให้พี่น้องฆ่ากันตายเพื่อสนองความแค้นของเธอ ทั้งๆที่เราไม่เคยทำอะไรให้พวกเธอเลยอย่างนั้นหรือ เธอกล้าเอาตัวเข้าแลกเพียงเพราะคุณวีณา ชวาลเป็นแม่เลี้ยงของเรา ช่างน่าเสียดายความรักที่คุณต่อมีให้อย่างจริงใจ ส่วนฉันก็เกือบหลงในกับดักที่วางไว้เพียงเพราะหน้าซื่อบริสุทธิ์ของเธอ”

นิวัฒน์กลุ้มใจเรื่องลูกสาวลูกชายทุกคนล้วนมีแต่ปัญหาจนต้องมาปรึกษาคุณหญิงวีณาเพื่อช่วยกันคิดหาทางแก้ไขแต่ยังคงมืดมนไม่มีทางออก

คุณหญิงวีณาสงสารพี่ชาย พอเห็นชื่นจะออกไปเรียนจึงขอร้องให้เขาไปส่งโดยหวังว่าจะประสานรอยร้าวของทั้งคู่ได้ นิวัฒน์ดีใจในขณะที่ชื่นอึดอัดแต่ไม่กล้าขัดใจอาหญิงยอมขึ้นรถแต่โดยดี ต้นแปลกใจแทบไม่เชื่อสายตา

“นั่นชื่นยอมให้คุณน้านิวัฒน์ไปส่งหรือครับ”

“น้าเป็นคนจัดการให้น่ะค่ะ...อย่างน้อยพ่อลูกจะได้ปรับความเข้าใจกันบ้าง”

แต่ความหวังดีของคุณหญิงไม่เกิดผลเพราะเมื่อออกจากบ้านมาได้ไม่เท่าไร ชื่นก็สั่งนิวัฒน์ให้จอดรถและขอร้องให้เขาเลิกเรียกเธอว่าลูก นิวัฒน์สะเทือนใจพยายามขอโทษ

“ดิฉันไม่ใช่ลูกของคุณ ไม่เคยเกี่ยวข้องเป็นอะไรเลย อย่ามาขอโทษเพราะมันสายไปแล้ว...ดิฉันเต็มใจไปรถรับจ้างดีกว่าไปกับคุณ กรุณาไปเสียทีได้ไหมคะ”

นิวัฒน์ขับรถออกไปหงอยๆในขณะที่ชื่นมองตาม อย่างแค้นเคือง ทันใดนั้นรถของต้นที่มีเกศินีนั่งมาด้วยก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า ชื่นหน้าหงิกรีบเรียกสามล้อ ต้นลงจากรถแล้วลากหญิงสาวให้ไปขึ้นรถตัวเองท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบข้าง เกศินีเองก็ไม่พอใจกับภาพตรงหน้าแต่ต้องแสร้งนั่งนิ่ง

หลังส่งเกศินีที่ทำงานแล้ว ทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ต้นอดรนทนไม่ได้ต้องหยุดรถตรงข้างทางถาม

“วันนี้ไม่มีเรียนแล้วจะไปทำไม”

“แต่ชื่นต้องทำรายงาน”

“ทำไมไม่ให้คุณน้านิวัฒน์ไปส่งถึงมหาวิทยาลัย เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธออยากได้ชื่อว่าเป็นคนอกตัญญูหรือไง”

“แต่สำหรับชื่น เขาเป็นค่ะ ชื่นไม่ได้รู้จักสนิทสนมด้วย ไม่เคยเลี้ยงดูแล้วชื่นจะเป็นคนอกตัญญูได้ยังไงคะ”

ต้นข่มความโกรธจ้องหน้าชื่นอย่างตำหนิ แต่หญิงสาวไม่มีทีท่าใส่ใจ ยังคงนั่งเชิดหน้ามองไปข้างทางอย่างรื่นรมย์ ชายหนุ่มส่ายหน้าถอนใจยาวขับรถไปเงียบๆ

เมื่อถึงมหาวิทยาลัย ชื่นแทบกลั้นใจตายเมื่อรถแล่นผ่านซุ้มนั่งประจำ กลุ่มเพื่อนจ้องมองเธออย่างแปลกใจระคนตกใจที่วันนี้มาพร้อมต้น แม้ว่าชื่นจะพยายามทำตัวลีบหลบซ่อนตัวมากแค่ไหนก็ตาม นิชาถามทันทีที่ชื่นเดินมาถึงโต๊ะ

“เมื่อกี้ใครมาส่งน่ะชื่น แทนที่จะนั่งให้สง่าผ่าเผยกลับหลบลงข้างล่าง แบบนี้เขาเรียกว่ามีพิรุธ”

“พิรุธที่ไหน ก็แค่เจ้าของบ้านท่านเมตตาให้คนอาศัยนั่งมาด้วยก็เท่านั้นเอง”

กลุ่มฉัตรสุดาทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่ชื่นพูด ทุกคนพยายามคาดคั้นหาความจริงแต่ชื่นกลับวิ่งหนี เสียงหัวเราะหยอกล้อทำให้กลุ่มสาวิตรีนิ่วหน้าหมั่นไส้ แล้วสาวิตรีก็โทร.รายงานวรรณิภาอย่างใส่สีตีไข่

ขณะที่เกศินีกำลังพิมพ์งาน วรรณิภามาหาด้วยสีหน้าร้อนใจแล้วเล่าเรื่องชื่นยิ้มหน้าบานแสดงความสนิทสนมกับต้นเมื่อตอนเขาไปส่งที่มหาวิทยาลัย เกศินีฝืนยิ้มไม่แสดงทีท่าตกใจ

“เมื่อเช้าเกศก็นั่งมาด้วย คุณต้นเธออาสามาส่งแต่นังชื่นคงอิจฉา เลยแกล้งมารยาสร้างเรื่องให้คุณต้นต้องไปส่งมัน”

“เกศอย่าไว้ใจนังจูเลียตเด็ดขาดเลยนะ...ยายสาเล่าว่าเขาลือกันทั้งคณะ...”

“ลือก็ลือไป! เกศกับคุณต้นรู้ว่าเรารักกันพอแล้ว”

วรรณิภาเห็นกิริยาฉุนเฉียวของเพื่อนสาวก็รีบตัดบทขอตัวไปทำงานต่อ ปล่อยให้เกศินีหงุดหงิดอยู่ฝ่ายเดียว...

ooooooo

ตกเย็นวันนั้น เกศินีดีใจเมื่อรู้ว่าต่อกลับมาจากการฝึกของโรงเรียนนายร้อยแล้ว หญิงสาววางแผนยุยงให้ต่อร้อนใจจนต้องจัดการเรื่องชื่นโดยเร็วที่สุด

“เกศน่ะหวังดีนะคะ ถึงได้พยายามจะย้ำเรื่องนี้...คุณต่อต้องขอหมั้นชื่นไว้ก่อนเพื่อขวางคนอื่นไว้ไม่ให้เข้ามา ตอนนี้นอกจากคุณต้นแล้ว...ยังมีคุณนัทบ้านใกล้เรือนเคียง แล้วไหนจะยังเพื่อนที่มหาวิทยาลัยอีกตามที่เคยเล่าให้ฟังน่ะค่ะ”

“ขอบใจคุณเกศที่หวังดีกับผม ผมรู้ว่าคุณเกศรักคุณต้น ทุกคนก็ต้องเห็นแก่ตัวทั้งนั้น”

“โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก เกศขออวยพรให้เราทั้งคู่โชคดี ถ้าร่วมมือกันทำให้มันสำเร็จ”

ต่อยินยอมตกหลุมพรางอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจไว้นานแล้ว แต่ถูกเตือนทั้งจากต้นและเจ้าคุณพ่อขอให้รอเวลาที่เหมาะสม มาวันนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าหากประวิงเวลาออกไปอีก มีหวังชื่นคงตกลงปลงใจไปกับคนอื่นแน่นอน

เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ ต่อทำตัวเหมือนปกติ ก่อนจะขอนัดคุยกับชื่นเป็นการส่วนตัวหลังกินข้าวเสร็จ ทุกคนดูเหมือนจะเดาได้ว่าต่อจะคุยเรื่องอะไร ต่างก็เงียบงันจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

ต่อพาชื่นมาคุยที่สนามหญ้าข้างตึกซึ่งให้เผอิญว่าตรงกับหน้าต่างห้องของต้นพอดีราวกับจงใจ

“ไหนคุณต่อบอกว่าจะมีอะไรคุยกับชื่นไงคะ”

“ถ้าบอกแล้ว ชื่นสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธคุณต่อ”

“ก็ได้ค่ะ ชื่นสัญญาว่าจะไม่โกรธไม่ว่าอะไรก็ตามเพราะชื่นมั่นใจว่าคุณต่อเมตตาและปรารถนาดีต่อชื่นเสมอ”

“คือว่า...คุณต่อรักชื่น รักมานานแล้ว...ถ้าชื่น ไม่เชื่อก็ถามคุณต้นได้เพราะคุณต่อปรึกษาเรื่องนี้กับคุณต้นมาตลอดเวลา ซึ่งคุณต้นก็ยินดีและเต็มใจสนับสนุนให้เราแต่งงานกัน”

ต่อพูดพลางจับมือชื่นมากุมไว้อย่างอ่อนโยน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองต้นที่หน้าต่างแต่กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรจากเขา ชื่นนึกเสียใจที่ต้นทำเหมือนไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา พาลเกิดทิฐิมานะ

“ชื่นยินดีแต่งงานกับคุณต่อค่ะ”

ต่อกอดชื่นด้วยความดีใจ ปฏิกิริยานั้นทำให้ต้นรู้คำตอบทันทีว่าเป็นเช่นไรจึงผละจากหน้าต่างหายเข้าห้องด้วยความเจ็บปวด ชื่นค่อยๆดันต่อออกห่างแล้วตั้งข้อแม้

“แต่ชื่นต้องขอเวลาให้เรียนจบ และทำงานอีกหนึ่งปี เพราะชื่นอยากให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่านี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ แต่เราต้องหมั้นกันไว้ก่อน เห็นใจคุณต่อเถอะ...ชื่นได้ทุกอย่างตามที่ใจต้องการ แล้วนะ”

ชื่นถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ ต่อยิ้ม กว้างอย่างพอใจพร่ำบอกขอบคุณหญิงสาวซ้ำไปมา ชื่น มองเขาด้วยความซึ้งใจที่ต่อมอบความรักให้เธออย่างมากมาย แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกเจ็บรวดร้าวเหลือเกิน

ooooooo

ต่อรีบนำเรื่องไปเรียนให้เจ้าคุณทราบ ส่วนชื่นมานั่งทอดอารมณ์อยู่ที่เฉลียงข้างตึก ต้นเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี

“ขอแสดงความยินดีด้วย ถ้ามีอะไรให้คุณต้นช่วยก็บอกได้นะ มันเป็นหน้าที่ของฉัน”

“คุณต้นช่วยมากอยู่แล้วค่ะ...โดยเฉพาะช่วยให้คุณต่อกับชื่นเข้าใจกัน แล้วเรื่องของคุณต้นกับคุณเกศล่ะคะ ถ้ามีอะไรให้ช่วย ชื่นก็ยินดีเช่นกัน”

“ไม่ต้องห่วง เราเข้าใจกันดี! ขอบใจที่เป็นห่วง แต่อย่ามาลำบากเรื่องของฉันเลย”

“ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมคุณต้นต้องมาลำบากยุ่งเรื่องของชื่นกับคุณต่อด้วย คุณต้นไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวายกับเราเลย ไม่จำเป็นต้องมาจัดแจงชีวิต ถ้าคุณต่อกับชื่นรักกัน เราก็ต้องเข้าใจกันอยู่วันยังค่ำ!”

ต้นโกรธจัดจนลืมตัวดึงชื่นเข้ามากอดแล้วทำท่าเหมือนจะจูบ พลันภาพต่อซ้อนเข้ามาในหัว จึงได้รู้สึกตัวปล่อยชื่นและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ชื่นมองตามด้วยความรู้สึกสับสน...

ด้านเจ้าคุณยิ้มแย้มดีใจกับข่าวดีของต่อเล่าให้คุณหญิงวีณาฟังอย่างรื่นรมย์ว่า

“นายต่อให้ฉันสู่ขอยายชื่นกับคุณหญิง เขาใจร้อนอยากจะขอหมั้นเอาไว้ก่อน”

“ดิฉันนึกว่าจะเป็นคุณต้นกับชื่นเสียอีก แล้วคุณต่อคุยกับชื่นเรียบร้อยแล้วหรือคะ”

“เรียบร้อยแล้ว คุณรู้ไหมว่านายต้นเป็นคนแรกที่มีบอกฉันเรื่องชื่น ตั้งแต่ก่อนไปเรียนต่างประเทศเสียอีก...ฉันเห็นชื่นไม่ขัดข้องอย่างนี้ คงต้องรีบจัดตามใจเขาทั้งสองเสียหน่อย พรุ่งนี้เราไปขอฤกษ์จากเจ้าคุณกัน”

คุณหญิงวีณารู้สึกกังวลใจแต่ขออนุญาตแจ้งให้พี่ชายทราบในฐานะพ่อ เจ้าคุณไม่ขัดข้องแต่เตือนว่าอย่าบอกชื่นเพราะมันจะก่อให้เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่รู้กันดีอยู่ เช้าวันต่อมาคุณหญิงวีณามาดักรอพบต้นและขอคุยด้วย

“ถ้าคุณต้นไม่รีบ น้าขอคุยเรื่องชื่นหน่อยได้ไหมคะ...คือน้าคิดว่าคุณต้นกับชื่นรักกันเสียอีก”

“ผมกับชื่นไม่มีอะไรกัน ผมรักชื่นอย่างน้องสาว เมื่อคืนคุณต่อเล่าให้ผมฟังแล้วว่าชื่นตอบตกลงแต่งงานกับเขา ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากเพราะสองคนนั่นเหมาะสมกันที่สุด ขอบคุณที่คุณน้าเป็นห่วง เห็นว่าจะไปขอฤกษ์วันนี้ใช่ไหมครับ”

คุณหญิงวีณามองต้นเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เขาบอกนัก แต่เขาก็ตัดบทขอตัวไปทำธุระทันที ส่วนชื่นนำเรื่องไปแจ้งให้นัททีกับนันทลีทราบ ทั้งคู่สบตากันแปลกใจคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างที่ทำให้ชื่นตัดสินใจรับหมั้นกับต่อ แต่ต่อหน้าชื่นทั้งคู่ทำได้เพียงแสดงความยินดีพร้อมกับกอดให้กำลังใจ

ที่ตึกซ้ายเกศินีนำข่าวการหมั้นของต่อและชื่นไปแจ้งให้กานดากับนิวัฒน์ทราบ ทั้งสองคนชะงักคาดไม่ถึงว่าทั้งคู่จะตัดสินใจรวดเร็วเช่นนี้ ยุพาเองก็ตะลึงงัน ก่อนจะได้สติคิดหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ต่างจากชมเมื่อทราบข่าวการหมั้นจากหลานสาวก็หัวเราะถูกใจ

“ดี แต่งกับมันแล้วก็ผลาญมันให้หมด แล้วไอ้คุณต้นล่ะ ตารู้ว่ามันรักเจ้า”

ชื่นนิ่งเงียบไม่ต่อความ ชมเลยเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นแผนของหลานสาว

“ตารู้แล้ว...เจ้าวางแผนให้พี่น้องมันทะเลาะกัน ฆ่ากันตายเพราะหึงหวงในตัวเจ้าใช่ไหม เจ้าฉลาดมาก... ถึงมันจะไม่ใช่พวกชวาลโดยตรง แต่มันก็เกี่ยวข้องกัน ชื่นชีวาของตา...เจ้าทำให้ตาพอใจมากที่พวกมันจะพินาศในไม่ช้านี้”

ชื่นหน้าเจื่อนรู้ดีว่ามันไม่ใช่แผนของเธอ...แต่มันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เธอก็ยังสับสน

ooooooo

ชื่นชีวา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด