ตอนที่ 11
วันนี้อาหัวเข้ามาช่วยดูงานซ่อมกี่เพ้ามาดามซ่งที่เพกาทำอยู่ ซิ่วหลานยกชากาแฟมาเสิร์ฟ สามคนพูดคุยกันถึงเรื่องของเหม่ยอิงกับจิ้นเจิน ว่าไม่น่าอกตัญญู ทำเรื่องเสื่อมเสีย ซิ่วหลานถามยังคิดว่าเหม่ยอิงเป็นคนฆ่าเมย์ลีอยู่หรือเปล่า เพกาพยักหน้า ตนพยายามยั่วให้เธอหลุดพูดออกมา
“คุณเพกา ผมอยากเตือนคุณมาหลายครั้งแล้ว คุณจะทำอะไร อย่าให้บุ่มบ่ามนักเลย...ขอโทษเถอะนะ คิดซะว่าคนแก่ผ่านโลกมามากกว่าแล้วกันนะ ความกล้าทุกครั้งต้องประกอบด้วยสติปัญญา อย่าให้อารมณ์พาไป หากเป็นอันตรายขึ้นมา ความกล้าจะกลายเป็นความโง่เขลา”
เพกาพยักหน้ายอมรับเนืองๆ หมิงเทียนถือแฟ้มเดินเข้ามาย้ำ อาหัวพูดถูกที่สุด หญิงสาวหน้าบึ้งขึ้นทันที ยังโกรธเขาอยู่ ขอตัวเดินหนีออกไป ซิ่วหลานบอกหมิงเทียนให้ตามไปง้อ
หมิงเทียนตามออกมาที่สวนโบตั๋น ชวนคุยดื้อๆ “คุณคงไม่ลืมนะว่าอาทิตย์หน้าวันเกิดคุณพ่อผม ท่านจัดเลี้ยงเป็นการภายใน เชิญเฉพาะญาติสนิทเท่านั้น
เนี่ย...ผมตั้งใจจะมาชวนคุณออกไปหาซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้คุณใส่ในวันงาน”
เพกาเงียบจะเดินหนี หมิงเทียนถาม ใจคอจะโกรธตนไปจนวันตายหรือ เขายื่นแฟ้มให้
“นี่คือรายงานที่ผมให้คนหามา ไม่มีคนตายหรือคนเจ็บจากกระสุนปืนในฮ่องกงช่วงนี้ ตรงกับลักษณะของอาเหว่ยเลย ผมเชื่อว่าอาเหว่ยรอด ยังมีชีวิตอยู่”
เพการับแฟ้มมาเปิดดู ในแฟ้มเป็นรายงานการตายและบาดเจ็บจากสำนักงานตำรวจฮ่องกง หมิงเทียนย้ำ ตนโตมากับเหว่ยเหอ ไม่ดีใจหรอกถ้าเขาตาย ตนเพียงต้องการให้เขามอบตัวสู้คดี หนีอยู่แบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เพกาวางแฟ้มเดินหนีอีก หมิงเทียนสวมกอดเธอจากด้านหลัง หญิงสาวตกใจ ดิ้นรนร้องให้เขาปล่อย เขายิ่งกอดรัดแน่นขึ้น
“ก็คุณไม่ยอมพูดกับผมเลย ผมก็แค่อยากรู้ว่าคุณเอาปากมาไหม ร้องเป็นไหม”
เพกาโกรธกระทืบเท้าลงบนเท้าหมิงเทียน “ฉันเอามาทั้งปากทั้งเท้านั่นแหละ”
“โอ๊ย...” หมิงเทียนปล่อยมือแต่ยิ้ม “ตกลงพูดได้แล้ว งั้นเราออกไปซื้อเสื้อผ้ากันนะ”
“ไม่...ยังไงฉันก็ไม่ให้อภัยคุณง่ายๆหรอก” เพกาเดินหนีเข้าบ้าน หมิงเทียนอมยิ้มดีใจที่เธอยอมพูดบ้างแล้ว...
ขณะเดียวกัน เหม่ยอิงรอคนมาส่งยาที่สั่งซื้ออย่างกระวนกระวายอยู่สวนหลังบ้าน เป็นยาที่จะใช้กำจัดเพกาเมื่อมีโอกาส
ooooooo
ในงานวันเกิดเหวินเยี่ย ลี่ผิงและเหม่ยอิง ต่างเอาของขวัญกล่องโตมามอบให้และอวยพรแต่เช้า ก่อนที่ จิ้นเจินจะเชิญหมอเหวินกับแขกอื่นๆเข้ามา ทุกคนมอบ ของขวัญและกล่าวคำอวยพร สองคุณนายยืนขนาบข้างเหวิน-เยี่ย เหม่ยอิงยิ้มแต่ในใจร้อนรุ่มกลัวความลับถูกเปิดเผย
หมิงเทียนชะเง้อมองหาเพกา เห็นเธอเดินลงบันไดมาในชุดสวยก็ดีใจ รีบเข้าไปกระซิบ
“ผมกำลังจะขึ้นไปตามคุณมาร่วมพิธีไหว้ฟ้าดินอยู่พอดี”
“ฉันรู้เวลาหรอกน่ะ อาซิ่วบอกฉันแล้ว”
“คุณพิงก์ ถ้าคุณหมั่นท่องไว้ว่า ที่ผมทำไปทั้งหมดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้คนบ้าบิ่นอย่างคุณ คุณจะหายโกรธผมเร็วขึ้น”
“จนกว่าฉันจะรู้ว่าเหว่ยปลอดภัย ฉันถึงจะหาย”
เหม่ยอิงลอบมองเพกาอย่างเคียดแค้น “วันนี้วันดี ทุกคนอยู่ในงานหมด แกเสร็จฉันแน่”
พอเสร็จพิธีไหว้ฟ้าดิน จิ้นเจินเชิญแขกทุกคน
เข้าบ้าน เหวินเยี่ย ลี่ผิง เหม่ยอิงและคนอื่นๆเดินตามเข้าไป อวี้เหลียนรั้งท้าย จิ้นเจินเข้าประกบเยาะหยัน
“เมื่อกี้หมอเหวินถามฉันว่าทำไมยังไม่มีลูก ฉันก็เลยบอกไปว่าเธอมีลูกไม่ได้ ตอนนี้กำลังคิดจะหาเมียน้อยอยู่ หมอเหวินกับพวกหัวเราะกันใหญ่”
อวี้เหลียนข่มใจ “หมั่นทำร้ายฉันเข้าไว้ ดีเหมือนกัน จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น”
“เธอทำร้ายฉันก่อน นังเมียทรยศ อย่าคิดว่าฟ้องพี่เยี่ยแล้วเธอจะรอด ฉันไม่เอาเธอไว้แน่”
อวี้เหลียนยืนอึ้ง ทั้งรักทั้งแค้น...บนโต๊ะอาหาร เหวินเยี่ยและลี่ผิงคุยกับแขกยิ้มแย้ม เหม่ยอิงฝืนยิ้ม สายตามองเพกาที่ดูอวี้เหลียนคอยดูแลคีบอาหารให้ จิ้นเจินชวนแขกคุยกลบเกลื่อนพิรุธของตัวเอง เสร็จจาก ทานอาหาร เหวินเยี่ยนำแขกมาคุยในห้องโถง ซึ่งจัดเคาน์เตอร์บริการเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้ เพกาเลี่ยงกลับขึ้นห้อง หมิงเทียนตามมาคว้ามือที่หน้าบันได
“เดี๋ยวสิครับคุณพิงก์ จะรีบขึ้นไปไหน ผมจะพาคุณไปรู้จักญาติๆผมหน่อย”
เพกาปฏิเสธ หมิงเทียนจึงบอกว่าถ้าใครถาม ตนจะตอบว่าเธอเป็นแฟน หญิงสาวหันมาจะเล่นงาน เพ่ยเพ่ยโผล่มาเสียก่อน
“พี่รองคะ คุณพ่อให้มาตาม เพกา...เธอกินอิ่มแล้วก็ขึ้นห้องไปซะ อย่าสะเออะเสนอหน้าเพราะเธอไม่ใช่คนตระกูลเจ้า”
“เพ่ยเพ่ย พี่ขอร้องล่ะ วันนี้วันมงคล”
“ก็ได้...ไปค่ะพี่รอง” เพ่ยเพ่ยคว้าแขนหมิงเทียนดึงไป
เพกาถอนใจจะกลับขึ้นบันได หลุนวิ่งมายื่นจดหมายให้ มีคนมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์น้ำที่ตนดูแล เห็นเป็นชื่อเพกา จึงเอามาให้ หญิงสาวรับมาดูเห็นจ่าหน้าเป็นภาษาอังกฤษว่า พิงก์ เอะใจอาจเป็นจดหมายจากเหว่ยเหอ รีบเปิดอ่าน ข้อความว่า...ไปพบกันที่สุสาน หลุนเห็นสีหน้ารีบถามมีอะไรหรือเปล่า ตนจะตามหมิงเทียนมาให้ เพการีบบอกว่าไม่เป็นไรแล้วเดินออกไป
เพกากำจดหมายมุ่งหน้าไปหาเหว่ยเหอด้วยความเป็นห่วงจากที่โดนตำรวจยิง...ในขณะที่หมิงเทียนเห็นเพ่ยเพ่ยคุยอยู่กับแขก จึงเลี่ยงมาหาหลุน ให้ขึ้นไปตามเพกาลงมา อ้างเป็นคำสั่งคุณนายใหญ่ หลุนจึงบอกเรื่องจดหมาย หมิงเทียนไม่สบายใจทันที
ooooooo
ระหว่างนั้น เพกามาที่สุสานเมย์ลี ชะเง้อมอง หาเหว่ยเหอ พลันเหม่ยอิงย่องเข้ามาใช้ไม้ฟาดหลัง ล้มลง แล้วโดดขึ้นคร่อมร่างเพกาที่นอนคว่ำ จับมือเธอไพล่หลังใส่กุญแจมือ เพกาดิ้นขลุกขลัก ตะแคงหน้ามองเหม่ยอิง ถามจะทำอะไรตน
“เพื่อลูก เพื่อความมั่นคงในชีวิต แกบังคับให้ฉันทำแบบนี้เอง” เหม่ยอิงล้วงเข็มฉีดยาขึ้นมา จ่อที่ใบหน้าเพกา “นี่คือพิษงูจงอาง ภายใน 5 นาที ขากรรไกรแกจะแข็ง แน่นหน้าอก ตาพร่า เป็นอัมพาต หัวใจล้มเหลว และตายภายในครึ่งชั่วโมง”
เพการ้องลั่น อย่าทำอะไรบ้าๆนะ เหม่ยอิงดีดฝาครอบเข็มออก พ่นยากระเซ็นเป็นฝอยก่อนจะฉีดเข้าที่แขนเพกา หญิงสาวร้องด้วยความกลัว...หมิงเทียนวิ่ง ตามหาเพกาอยู่ ได้ยินเสียงร้อง รีบวิ่งเข้ามา เหม่ยอิงถอน เข็มออกจากแขนเพกา สีหน้าสะใจ
“ฉันไล่แกให้กลับเมืองไทย แกก็ไม่กลับ แกมันดื้อแส่หาเรื่องเอง ก็ต้องเจอจุดจบแบบนี้”
“ทำอะไรน่ะ คุณนายรอง!”
เหม่ยอิงหน้าซีดตกใจ หมิงเทียนเห็นสภาพเพกา ปรี่เข้าผลักเหม่ยอิงออกแล้วประคองหญิงสาวไว้ในอ้อมกอด เธอกำลังสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยา เขาตวาดเหม่ยอิงให้เอากุญแจมาไข เธอลนลานส่งให้ ละล่ำละลักอ้างว่า เพกาบังคับให้ตนทำแบบนี้
“ความชั่วที่คุณกับน้าจิ้นทำยังไม่พออีกหรือ นี่ถึงกับคิดฆ่าคน มันมากไปแล้วนะ”
“คุณชายรอง!” เหม่ยอิงไม่คิดว่าหมิงเทียนจะรู้เรื่องตนเป็นชู้กับจิ้นเจิน
หมิงเทียนถามเอายาอะไรฉีดเพกา เหม่ยอิงสับสนหวาดกลัว วิ่งหนีไปดื้อๆ ชายหนุ่มเป็นห่วงคนรัก รีบอุ้มเธอกลับไปตึกใหญ่
เหม่ยอิงวิ่งมาเก็บเสื้อผ้าของมีค่าที่ห้อง เพ่ยเพ่ยตกใจเกิดอะไรขึ้น เหม่ยอิงบอกเพียงว่าตนต้องหนีไปอยู่มาเก๊าแล้วจะติดต่อกลับมา อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ ไม่มีเวลาอธิบาย
หมิงเทียนอุ้มเพกาวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจากหมอเหวิน ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะลี่ผิงกับอวี้เหลียน หมอเหวินจับชีพจรสีหน้าแปลกใจ เหวินเยี่ยสั่งคนเรียกรถพยาบาล หมิงเทียนบอกทุกคนว่าเหม่ยอิงเป็นคนทำร้ายเพกา ลี่ผิงให้อวี้เหลียนเอาน้ำมันหอมระเหยที่ใช้กระตุ้นระบบประสาทมาให้เพกาดม เผื่อจะฟื้น
หมิงเทียนพาอี่กับหลุนมารวบตัวเหม่ยอิง เพราะสังหรณ์ใจว่าจะหนี เพ่ยเพ่ยตกใจ ร้องลั่นให้ปล่อยแม่ตน แต่หมิงเทียนสั่งเอาตัวไปที่ห้องโถง
“คุณชายรอง ฉันแค่ฉีดยานอนหลับเพื่อขู่มันเท่านั้น เดี๋ยวก็ฟื้น ไม่มีอันตรายอะไรหรอก”
“ยังไงผมก็ต้องจับคุณไว้ก่อน...เอาตัวไป”
อี่คุมตัวเหม่ยอิงเดินไป หลุนหอบกระเป๋าเดินตาม เพ่ยเพ่ยร้องไห้วิ่งตาม มาถึงห้องโถง หมอเหวินตรวจอาการเพกาเรียบร้อย บอกทุกคนว่า อาการเบื้องต้นเหมือนคนนอนหลับปกติ เหวินเยี่ยหันมาถามเหม่ยอิงทำอะไรเพกา
“คุณนายรองบอกว่า เธอแค่ฉีดยานอนหลับ” หมิงเทียนรายงาน
“ฉันต้องการจะขู่มัน อยากให้มันกลับเมืองไทยไปซะ คุณพี่ก็เห็นมันกวนประสาทแค่ไหน เที่ยวกล่าวหาว่าคนอื่นเป็นฆาตกร ฉันทนไม่ไหวก็เลยอยากสั่งสอนมัน นี่ถ้าคุณชายรองไม่เข้ามายุ่ง มันก็ต้องหนีกลับเมืองไทยแน่ๆ ฉันต้องการแค่นั้นจริงๆนะคะคุณพี่”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวเขาก็ต้องกลับ ใจร้อนไม่เข้าเรื่อง” เหวินเยี่ยเอ็ด
เพการู้สึกตัว เมินหน้าหนีจากน้ำมันหอมระเหย ลี่ผิงกำชับให้ดมต่อไป เพราะมันจะกระตุ้นระบบประสาทให้ฟื้นคืน เพกาหันมอง พอเห็นหน้าเหม่ยอิงก็ร้องลั่นว่า เธอจะฆ่าตน
“ถ้าเป็นพิษงูจริงๆ แกไม่ได้ฟื้นอย่างนี้หรอกนังโง่” เหม่ยอิงยังไม่สำนึก
“คุณทำร้ายฉันทำไม หรือว่าคุณกลัวฉันจะรู้ว่าคุณฆ่าคุณเมย์ลี”
เหม่ยอิงเห็นสายตาทุกคนจับจ้อง โวยวายว่าตนไม่ได้ทำ เพกาย้อนถาม ไม่ได้ฆ่าก็เอากำไลหยกมาดู เธอทำหน้าตื่นกลัวบอกว่ามันหายไป เพกาโต้ หายหรือหัก เหม่ยอิงตวาด หายตอนไหนก็ไม่รู้ ตนจำไม่ได้ เหวินเยี่ยหันไปถามเป่าหลิน
“เป่า...แกเป็นคนสนิทคุณนายรอง ไม่เห็นเลยรึไง”
ท่าทางเป่าหลินเลิ่กลั่ก เหวินเยี่ยเห็นผิดปกติ จึงดักคอ ขโมยไปหรือ เป่าหลินกลัวลาน ยอมรับสารภาพว่า เจอกำไลหยกตกอยู่ในสวนหลังบ้าน เหม่ยอิงตวาด เก็บได้แล้วทำไมไม่มาคืน
“เป่ากลัว...เอาไปคืนแล้วคุณนายรองจะรู้ว่า...เอ่อ...รู้ว่า ...เป่าเห็นคุณนายรองกับคุณจิ้น...”
เหม่ยอิงตกใจ ถลึงตาให้เป่าหลินหยุดพูด เหวินเยี่ยตวาด “จิ้นกับเหม่ยอิงอะไร...แกเห็นอะไร จิ้นกับเหม่ยอิงทำอะไร”
เป่าหลินกลัวลานร้องไห้โฮ เหวินเยี่ยหันมาคาดคั้นจิ้นเจิน เขาหน้าซีดตัวสั่น
“ว่ายังไงจิ้น แกทำอะไรกับเหม่ยอิงในสวนหลังบ้าน ถ้าไม่มีใครพูด ฉันจะไล่ตะเพิดออกจากบ้านให้หมด รวมทั้งเพกาด้วย”
หมิงเทียน เพกา และลี่ผิงอึดอัดใจ อวี้เหลียนทนไม่ไหว โพล่งขึ้นว่า สองคนแอบมีสัมพันธ์กันในสวน เหวินเยี่ยช็อก แขกในงานฮือฮากันใหญ่ ซิ่วหลานมีสติรีบเชิญแขกออกจากห้อง อี่กับหลุนช่วยต้อนแขก อวี้เหลียนสุดจะทน หันมาสารภาพกับเหวินเยี่ย
“ฉันขอโทษที่ปิดเรื่องนี้ ฉันละอายใจเกินกว่าจะพูด...คุณพี่คะ ฉันขออนุญาตนะคะ ฉันไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะการกระทำเลวๆของสามีฉันอีก”
มาถึงขั้นนี้แล้ว ลี่ผิงพยักหน้าน้ำตาคลอ อวี้เหลียนเปิดเผยว่าสองคนเป็นชู้กันมาหลายปี เพ่ยเพ่ยโวยวายว่า
อวี้เหลียนใส่ร้ายแม่ตน เพราะเป็นพวกเพกา เหวินเยี่ย สลดใจหันมาทางลี่ผิง
“อาผิง...เธอรู้แต่ปกปิด”
“จิ้นเป็นน้องชายคนเดียวของฉัน พี่ยังไงก็ต้องปกป้องน้อง ฉันขอโทษ ฉันเลี้ยงน้องไม่ดีค่ะคุณพี่”
แววตาเหวินเยี่ยกร้าวขึ้นด้วยความโกรธแค้น จิ้นเจิน ทรุดลงคุกเข่าอ้อนวอน “ผมผิดไปแล้วครับพี่เยี่ย ผมขอโทษ เหม่ยอิงยั่วยวนผม”
“อย่าโยนความผิดให้ฉันคนเดียวสิ คุณไม่เล่นด้วย ฉันยั่วยังไงก็ไม่สำเร็จ”
เพ่ยเพ่ยช็อกที่เป็นเรื่องจริง กรีดร้องขึ้น ตัวเกร็ง หมิงเทียนตกใจเข้าประคอง เหม่ยอิงโผเข้าขอโทษลูก เพ่ยเพ่ยร้องไห้โฮพร่ำรำพัน
“คุณแม่สอนให้เพ่ยเพ่ยทำตัวดีๆกับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อรัก ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเจ้าจะได้เป็นของเรา แล้วทำไมคุณแม่ถึงทำแบบนี้ ทำไม...ทำไม...”
เหวินเยี่ยกำหมัดแน่น หมดสิ้นแล้วชื่อเสียงวงศ์ตระกูล คนที่มางานได้ยินได้ฟังกันหมด สายตาเขากราดเกรี้ยว เมื่อได้ยินเพ่ยเพ่ยถามว่าทำไม จึงโพล่งออกมา
“เพราะแม่แกมันเลว เลี้ยงไม่เชื่อง”
“คุณพี่ให้อภัยฉันเถอะ เราสองคนจะไม่ทำอีกแล้ว” เหม่ยอิงคุกเข่าอ้อนวอน
“นังอสรพิษ...” เหวินเยี่ยตบหน้าเหม่ยอิงถลาไป แล้วยังตามจะซ้ำ
หมิงเทียนเข้าขวาง แต่เหวินเยี่ยผลักลูกชายออก คำรามให้มันตายคามือ ยังไม่สาสมกับความเลวที่ทำ เขากระชากเหม่ยอิงมาตบซ้ำ เพ่ยเพ่ยเห็นแม่โดนทำร้าย ภาพเจ็บปวดในวัยเด็กที่ตนกับแม่โดนพ่อตบตีเป็นประจำผุดขึ้นมา เธอคู้ตัวกอดเข่าหวีดร้องสุดเสียง เหวินเยี่ยชะงัก เหม่ยอิงกระเสือกกระสนเข้ากอดลูกร้องไห้โฮ จิ้นเจินคลานเข้ามาก้มหัวโขกพื้นคำนับ
“พี่เยี่ย ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ ให้อภัยผมด้วย”
“ไอ้คนอกตัญญู” เหวินเยี่ยถีบจิ้นเจินด้วยความแค้น และจะซ้ำ หมิงเทียนต้องดึงรั้งพ่อไว้
ลี่ผิงร้องไห้สงสารน้อง เหวินเยี่ยประกาศกร้าว “ฟ้าดินต้องลงโทษ แกสองคนออกไปจากบ้านฉันอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก ไป...”
จิ้นเจินตะลีตะลานออกไป เหม่ยอิงดึงแขนเพ่ยเพ่ยให้ลุกตาม แต่เธอกลับสะบัดแขนออก
“ไม่ไป เพ่ยเพ่ยเป็นคุณหนูตระกูลเจ้า เพ่ยเพ่ยต้องอยู่ที่นี่”
“ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับเราแล้ว ไปกับแม่เถอะ”
“ไม่ไป...คุณหนูตระกูลเจ้าไม่ควรอยู่ในบ้านทุเรศๆ อยู่กับไอ้ขี้เมาใจร้ายนั่นอีก เพ่ยเพ่ยเป็นคุณหนูตระกูลเจ้า เพ่ยเพ่ยต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น ต่อไปเพ่ยเพ่ยกับพี่รองก็จะแต่งงานกัน เพ่ยเพ่ยก็จะได้เป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลเจ้า เพ่ยเพ่ยจะต้องได้ทุกอย่างของตระกูลเจ้า”
“เพ่ยเพ่ย! แกฟังฉันให้ดี นับจากนี้ แกไม่ใช่คนของตระกูลเจ้าอีกต่อไป”
คำพูดของเหวินเยี่ยเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ทำให้สติเพ่ยเพ่ยขาดผึง เธอกรีดร้อง ไม่จริง...ล้มลงดิ้นพราดๆ หมิงเทียนกับเหม่ยอิงช่วยกันจับ ทุกคนในห้องสลดหดหู่สงสารเพ่ยเพ่ย
ooooooo
หลังจากวันนั้น เหวินเยี่ยเอาแต่นั่งซึม ลี่ผิงกับหมิงเทียนเป็นห่วง หมิงเทียนบอกแม่ว่าเรื่องแบบนี้ สำหรับผู้ชายถือว่าเสียหน้ามาก ลี่ผิงโต้ไม่ได้น้อยไปกว่าตอนที่ตนรู้สึก วันที่สามีพาเมียน้อยเข้าบ้าน มันน่าอับอายทุกคน
ขณะที่จิ้นเจินเก็บข้าวของต้องออกจากบ้านหลังนี้ อวี้เหลียนมาขอให้เขาไปหย่ากับตนก่อน จิ้นเจินหันมาโวย ทำลายชีวิตตนแล้วยังกล้ามาเรียกร้องอีก เขาโผนจะเข้าบีบคอเธอ อี่กับหลุนโผล่มาขวางตามคำเตือนของเพกาให้คอยคุ้มครองอวี้เหลียน จิ้นเจินโมโหสำรอก
“ฉันหย่าให้อยู่แล้วล่ะนังจิ้งจอก แกก็ต้องถูกเฉดหัวออกไปเหมือนกัน แกต่างหากที่ไปไม่รอด”
อวี้เหลียนไม่สะทกสะท้านเจ็บปวดอีกต่อไป มองผู้ที่จะเป็นอดีตสามีลากกระเป๋าเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรอหน้าตึกอย่างเฉยชา จิ้นเจินหยุดมองบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์ ลี่ผิงเอ่ยปาก
“พี่เยี่ยไม่ยอมให้แกอยู่ในฮ่องกง พี่ก็เลยจะให้แกไปอยู่ที่ไต้หวันกับญาติของเรา”
จิ้นเจินพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเหลียวมองอวี้เหลียนด้วยสายตาเคียดแค้น “แล้วนังเหลียนล่ะ มันโดนไล่ออกเหมือนผมใช่ไหม”
อวี้เหลียนตอบเสียเองว่าเปล่า ตนได้อยู่ทำงานต่อ แต่ต้องหย่าแล้วออกไปอยู่ข้างนอก จิ้นเจินแสยะยิ้มมองอย่างดูถูกว่า หล่อนจะไปได้สักกี่น้ำ หมิงเทียนทนไม่ไหวพูดด้วยความผิดหวัง
“ที่ผ่านมา คนอย่างน้าเหลียนไม่เรียกว่าอ่อนแอหรอกครับ จนป่านนี้ น้าจิ้นยังไม่รู้อีกหรือว่าน้าทำตัวเอง มัวแต่โทษคนอื่นแล้วเมื่อไหร่จะได้แก้ไขความผิด”
จิ้นเจินสะบัดหน้าไม่สำนึก หลุนเข้ามาขอให้ถอดกำไลหยกคืน เขาฮึดฮัดถอดส่งให้แล้วเดินขึ้นรถอย่างไม่แคร์และไม่คิดจะร่ำลาพี่สาว...ทุกคนกำลังจะกลับเข้าบ้าน ชะงักเมื่อเห็นเหม่ยอิงเดินหน้าตาบอบช้ำออกมา มีเป่าหลินลากกระเป๋าใบใหญ่ตาม เหม่ยอิงฝากหมิงเทียนดูแลเพ่ยเพ่ยด้วย เขารับปากว่าจะไม่ทิ้งเธอ แล้วขอตัวไปโรงพยาบาลก่อนเพราะพอดีหมอโทร. มาตาม
ลี่ผิงเข้ามาประจันหน้า ยิ้มเยาะ “นี่คือวันที่ฉันรอคอย ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอนะ เธอทำตัวเธอเองทั้งนั้น”
“ฮึๆ ระหว่างที่รอ มันกี่ปีนะ เป็นสิบปี แกคงเจ็บปวด มากสิ รอจนแก่ ฮะฮ่าๆ ผัวแก่ๆก็เหมาะกับเมียแก่ๆอย่างแกแล้วนี่”
“แก้แค้นน่ะ สิบปียังไม่สาย...”
“แกหมายความว่าไง”
“ฮึๆ เธอทำลายชีวิตอาจิ้นน้องชายฉัน ทำลายชีวิตครอบครัวฉัน ระหว่างเธอกับฉัน มันไม่จบแค่นี้หรอก” ลี่ผิงจ้องตาเหม่ยอิงอย่างสะใจ
หลุนเข้ามาขอกำไลหยกจากเหม่ยอิง เธอหันไปบอกเป่าหลิน “แกเก็บไว้ไม่ใช่เหรอ คืนเขาไปสิ” เป่าหลินล้วงกำไลหยกออกมายื่นให้ เหม่ยอิงบอกหลุนอยากได้ก็เอาไป แล้วเชิดหน้าเดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่
ooooooo
ภายในบ้าน เพกายืนแหวกม่านมอง พอเห็นหลุนถือกล่องใส่กำไลเข้ามา จึงขอสำรวจว่ากำไลของจิ้นเจิน กับเหม่ยอิงหักหรือเปล่า แล้วต้องแปลกใจเมื่อทั้งสองอันสมบูรณ์ดี
อวี้เหลียนเดินเข้ามา เพการีบเข้าไปถามอย่างห่วงใย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม อวี้เหลียนรู้สึกโล่งใจขึ้นเมื่อได้หย่าขาดจากจิ้นเจิน จริงอย่างที่เพกาเคยบอก ลี่ผิงตามมาเอ่ยปากขอโทษแทนน้องชาย อวี้เหลียนเข้าใจ ถ้าเป็นตนก็คงต้องปกป้องน้องเหมือนกัน เพกาถามถึงเหวินเยี่ย ลี่ผิงตอบว่าไม่ยอมกินข้าว ไม่พูดจากับใคร เพกาขอโทษเพราะตนทำให้ตระกูลเจ้าเดือดร้อน
“ทำไมต้องขอโทษล่ะ คุณพิงก์ คนที่เปิดโปงเรื่องนี้คืออาเป่ากับฉันต่างหาก อาเป่าทำเพราะกลัวความผิด ส่วนฉัน...ตั้งใจ”
“ไม่ใช่เหลียนคนเดียวนะที่โล่งใจ สิ่งที่ฉันรอมาตลอดชีวิตคือการเปิดเผยว่าเหม่ยอิงเป็นคนชั้นต่ำ ฉันไม่ต่างจากเหลียนที่ไม่กล้า แต่พอมีคนอื่นมาทำให้ ฉันก็โล่งใจ”
“จริงหรือคะ คุณนายใหญ่ไม่ว่าฉันหรือคะ”
“ฉันเจ็บนะ ที่ต้องทนดูเหม่ยอิงชูคอเสวยสุขอยู่ในบ้าน ฉันหลอกตัวเองว่าเดี๋ยวอาจิ้นก็เบื่อมัน เดี๋ยวสวรรค์ก็ ต้องลงโทษมัน แต่จนแล้วจนรอด สองคนนี้ก็ไม่เลิกกันซะที”
อวี้เหลียนเห็นด้วย ต่างขอบอกขอบใจเพกา ทำให้เจ้าตัวรู้สึกดีขึ้น...
เพกาเดินปล่อยอารมณ์ในสวน หมิงเทียนกลับมา เอาแฟ้มเอกสารยื่นให้ พร้อมบอกว่าอาทิตย์นี้ไม่มีคนป่วยและคนตายจากกระสุน ที่มีลักษณะเหมือนเหว่ยเหออีก เพการับมาเปิดดู เขาขอร้องให้เธอยกโทษและคืนดี เพกาใจอ่อนลง เปลี่ยนเรื่องมาถามถึงอาการเพ่ยเพ่ย หมิงเทียนจึงพามาเยี่ยม เพกายืนมองอยู่หน้าประตูเห็นเพ่ยเพ่ย อาละวาด พร่ำพูดแต่ว่าตนเป็นคุณหนูตระกูลเจ้า ตนจะต้องแต่งงานกับคุณชายรอง พยาบาลต้องจับฉีดยาให้สงบลง
เพการู้สึกสงสารเพ่ยเพ่ยอย่างจริงใจ ที่ต้องมารับกรรม หมิงเทียนเศร้าใจเพราะเหวินเยี่ยสั่งให้เพ่ยเพ่ยออกไปอยู่คอนโดฯ พ่อไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ ตนคิดว่าพ่อคงต้องการเวลา เพกาเห็นด้วยว่าเวลาเยียวยาได้ทุกอย่าง หมิงเทียนขออนุญาตมาเยี่ยมเพ่ยเพ่ยบ่อยๆ
“เพื่อนกัน ยังมานอนเฝ้าไข้ให้กันได้ แล้วนี่คุณสองคนโตมาด้วยกัน ถึงไม่ใช่พี่น้องแท้ๆแต่ก็สนิทกันมาก หมั่นมาเยี่ยมเธอเถอะค่ะ เธอได้หายเร็วๆ”
ด้านอวี้เหลียน จะย้ายไปอยู่ฝั่งเกาลูนและไม่ขอทำงานที่บริษัทต่อ เธอเปิดบริษัททำบัญชีร่วมกับเพื่อน เธออยากใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เหวินเยี่ยเข้าใจและบอกเธอว่ามีอะไรเดือดร้อนตนยินดีช่วยเหลือ เพราะตนยังถือว่าเธอเป็นคนในตระกูลเจ้า และไม่ขอเอากำไลหยกคืน เธอซาบซึ้งใจ
ooooooo










