สมาชิก

เกิดเป็นหงส์

ตอนที่ 17

เทพโรคจิตพยายามจะข่มขืนหญิงมานศรีต่อหน้าทิวและพวงทองให้ได้ เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาของเธอปลุกให้ขวัญตาที่นอนเป็นผักอยู่ในห้องข้างๆค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น สายตาเธอเหม่อลอยเหมือนสติสัมปชัญญะยังไม่เต็มร้อย พึมพำเรียกชื่อ เทพไปตลอดทางที่เดินออกจากห้อง...

ฝ่ายหญิงมานศรีเล็งเห็นแล้วว่าดิ้นไปก็สู้แรงเขาไม่ไหว จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่แสร้งโอนอ่อนผ่อนตาม เพื่อรอโอกาส ทิวไม่ได้ยินเสียงเธอร้อง หันมามองอีกทีต้องตกใจที่เห็นหญิงคนรักลูบไล้คลอเคลียกับคนชั่วช้าคนนั้น

“ฉันรู้แล้ว...ว่าฉันสู้คุณไม่ได้” เธอกระซิบข้างหูเทพ มือยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเขา พลันสะดุดเข้ากับมีดพกที่เขาเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง เธอดึงมีดขึ้นมาแล้วปักลงกลางหลังสุดแรงเกิด เทพถึงกับผงะร้องลั่น

“คุณหญิงรีบช่วยทิวด้วย” พวงทองตะโกน

หญิงมานศรีได้สติวิ่งมาแก้มัดให้ชายคนรัก เทพดึงมีดออกจากหลังตัวเองแล้วชักปืนจะยิงเขา พวงทองพุ่งชนเขากระเด็น เป็นจังหวะเดียวกับเธอแก้มัดให้ทิวเสร็จพอดี เทพจะหยิบปืน ทิวไวกว่าคว้าของใกล้มือขว้างโดนแขนเขาอย่างจัง แล้วตามเข้าไปชกซ้ำ ล้วนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องพร้อมกับปืนในมือ

“นายใหญ่...ตำรวจกำลังมาที่นี่”

เทพเห็นจวนตัว สั่งให้ล้วนจัดการพวกนี้ ก่อนจะวิ่งเลือดโชกหนีไป สมุนผู้ซื่อสัตย์เล็งปืนจะยิงทิว หญิงมานศรีหยิบแจกันแถวนั้นฟาดมือเขาจนปืนตก ระหว่างที่ล้วนต่อสู้กับทิว เทพหนีโซซัดโซเซมาถึงบริเวณบันได ต้องหยุดกึกเมื่อเจอผ่องทิพย์ถือปืนจ้องอยู่ เขาพยายามหว่านล้อมให้เธอเชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอ

ขอร้องให้ช่วยพาหนี สัญญาจะให้เป็นเมียหมายเลขหนึ่งอย่างที่เธอปรารถนา และจะจงรักภักดีต่อเธอเพียงผู้เดียว แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล เธอไม่เชื่อเขาอีกแล้ว ยิงปืนใส่ทันที ทั้งๆที่บาดเจ็บเขายังพุ่งหลบได้ทัน

“แกหนีฉันไม่รอดหรอก...ฉันจะเป็นพญายมพิพากษาลงโทษคนบาปให้แกทรมานอย่างแสนสาหัส”

ผ่องทิพย์รัวกระสุนใส่ไม่ยั้ง เทพโดดหลบพลาดตกบันไดกลิ้งลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น...

ภายในห้องหอ ทิวกับล้วนยังคงต่อสู้กัน ล้วนสบโอกาสเหมาะคว้าปืนที่ตกอยู่ขึ้นมาจะยิง พวงทองใช้เศษแจกันแตกแทงล้วนทางด้านหลังล้มลงกับพื้น หญิงมานศรีดีใจที่ทิวปลอดภัยโผกอดเขาไว้แน่น เขาฝากพี่สาวช่วยดูแลคุณหญิงให้ด้วย แล้วหยิบปืนของล้วน ตามล่าเทพโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของสองสาว

ooooooo

เทพแกล้งนอนนิ่งให้ผ่องทิพย์ตายใจ รอจังหวะที่เธอเข้ามาใกล้ กระชากขาจนล้มปืนหลุดมือ เธอพยายามคลานไปหยิบปืน เขาลากขาเธอเข้ามาซ้อมจนสลบคามือ แล้วคว้าปืนจ่อยิงแต่กระสุนหมด พลัน มีเสียงฝีเท้าคนเดินมา เขากัดฟันข่มความเจ็บปวดวิ่งหนี ทิวมาเจอผ่องทิพย์นอนหมดสติ รีบอุ้มไปวางบนโซฟา หญิงมานศรีกับพวงทองตามมาสมทบเป็นจังหวะเดียวกับเข้มเข้ามาพร้อมกับตำรวจ ยังไม่ทันจะอ้าปากถาม

ทิวชิงบอกเสียก่อนว่า “ไอ้เทพ...มันหนีไปได้”

“ฉันจะดูแลคุณผ่องทิพย์เอง...นายไปเถอะ”

หญิงมานศรีพูดพลางมองสบตาทิวอย่างเข้าใจ แต่พอเขาขยับจะไป เธอร้องเรียกไว้ “ปลอดภัยกลับมานะ”

“ผมไม่มีทางทิ้งคุณไปไหนแน่ ผมสัญญา” ทิวพูดจบ เข้ามากอดเธอไว้แนบอก ทั้งสองกอดกันครู่หนึ่งก่อนเขาจะตัดใจรีบออกไปตามล่าเทพพร้อมกับเข้มและตำรวจ คล้อยหลังพวกทิวไม่กี่นาที บุญปลูกในสภาพถูกมัดมือมัดเท้ากระโดดเหย็งๆเข้ามาในบ้าน พวงทองกับหญิงมานศรีรีบช่วยกันแก้มัดให้...

ทางด้านทิว เข้มและพวกตำรวจกระจายกำลังกันไล่ล่าเทพไปทั่วบริเวณ ส่วนคนถูกล่าหนีไปซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของร้าง เพื่อพักเหนื่อยและสำรวจดูบาดแผลที่ถูกแทง รู้สึกได้ว่ามีเลือดไหลซึมอยู่ตลอดเวลา

“ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกชนะ...ไม่มีทาง” เขาขบกรามแน่นด้วยความแค้น...

ในขณะที่หญิงมานศรีกับพวงทองกำลังช่วยกันดูแลผ่องทิพย์ที่ยังสลบไสล หม่อมสรัสวดีเดินนำชายคำรณเดินเข้ามาถามน้ำเสียงตื่นเต้นว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตำรวจเต็มบ้านไปหมด หญิงมานศรีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง หม่อมโล่งอกที่ลูกสาวปลอดภัย ดึงมากอดเพื่อปลอบขวัญ ชายคำรณไม่เห็นทิวก็ถามหา

“ทิว...ไปช่วยตำรวจตามหาตัวคุณเทพค่ะ” พวงทองสีหน้าเป็นกังวล เช่นเดียวกับหญิงมานศรี ระหว่างนั้น บุญปลูกวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานว่าขวัญตาหายไปหาทั่วบ้านก็ไม่พบ พวงทองแปลกใจ เธอนอนเป็นผักจะหายไปได้อย่างไร หญิงมานศรีเป็นห่วงขวัญตาจะไปตามหา หม่อมสรัสวดีไม่อยากให้ไปเกรงจะเป็นอันตราย

“แต่หญิงทนอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ หญิงเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้”

พวงทองและชายคำรณอาสาไปเป็นเพื่อน หญิงมานศรีไม่ขัดข้อง จากนั้น ทั้งสามคนพากันออกไป

ooooooo

ระหว่างที่เทพกำลังนั่งพักเอาแรงเตรียมจะหนีต่อ พลันมีมือของใครบางคนเอื้อมมาจับไหล่ เขาสะดุ้งเฮือกหันขวับ เห็นขวัญตายืนมองมาด้วยสายตาเลื่อนลอย ฉุนที่เธอทำให้ตกใจผลักอย่างแรงจนหงายหลังตึง

“ถอยไป...ถ้าไม่อยากตาย อยู่ให้ห่างๆฉัน” เขาตะคอกจบ กวาดตามองไปรอบบริเวณหาสิ่งของที่จะใช้เป็นอาวุธ พอหันกลับมาอีกที ไม้หน้าสามในมือขวัญตาฟาดใส่เขาเต็มแรง แม้จะยกท่อนแขนขึ้นรับไว้ทัน

แต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้ไม่น้อย เธอตีเขาไม่ยั้ง เพราะเริ่มจำได้แล้วว่าถูกเขาทำทารุณอะไรไว้บ้าง เขาพยายามปัดป้อง แต่เธอกระหน่ำตีไม่หยุด โดนแผลที่ถูกแทงอย่างจัง ถึงกับร้องโอ๊ยลั่น ทิวกับเข้มค้นหาเทพมาใกล้ห้องเก็บของได้ยินเสียงร้อง รีบตรงไปยังต้นเสียงทันที...

เทพคว้าไม้ที่ขวัญตาตีใส่ไว้ได้ เหวี่ยงเธอกระเด็น จังหวะนั้น ทิวถีบประตูห้องเข้ามาเล็งปืนจะยิง เขาใช้ไม้ที่แย่งมาจากขวัญตาฟาดใส่ ทิวหลบทัน เตะสวนใส่ชายโครงจนเซไปทางที่ขวัญตาอยู่ แล้วตามไปยิงซ้ำ เทพคว้าขวัญตามาเป็นโล่มนุษย์ กระสุนถากแขนเธอเลือดสาด ผลักเธอใส่เขาแล้ววิ่งหนี ทิวเป็นห่วงรีบดูบาดแผลให้เธอ

“ไม่ต้องห่วงขวัญตา ตามมันไป...ไปสิ...ไปลากคอมันมารับโทษให้สมกับความเลวของมัน”

ทิวพยักหน้ารับรู้ แล้ววิ่งนำเข้มไล่ล่าเทพ เห็นหลังไวๆเขาสาดกระสุนไม่ยั้งด้วยความแค้น กระสุนพลาดเป้า เทพหนีรอดไปได้ เขาโมโหตัวเองขว้างปืนทิ้งแล้ววิ่งตาม...

เสียงปืนทำให้หญิงมานศรี พวงทอง และชายคำรณชะงัก ก่อนจะวิ่งไปทางต้นเสียง เจอขวัญตาซึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนเดินโซเซเข้ามา พวงทองรีบเข้าไปประคอง ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่าทิวกำลังตามล่าเทพไปทางโน้น ขวัญตาชี้มือชี้ไม้ประกอบคำพูด ชายคำรณขอให้น้องสาวกับพวงทองพาคนเจ็บกลับไปรักษาตัวก่อน

ส่วนตนเองจะตามไปช่วยทิวอีกแรง

“ไม่ค่ะ...หญิงจะช่วยเกลี้ยกล่อมให้คุณเทพมอบตัว ก่อนที่นายทิวจะมือเปื้อนเลือด แล้วกลับเป็นฝ่ายที่ต้อง ถูกกฎหมายลงโทษซะเอง...รีบไปกันเถอะค่ะ พี่ชาย” เธอวิ่งนำชายคำรณไปอย่างเด็ดเดี่ยว พวงทองและขวัญตามองตามเธอด้วยความชื่นชม...

ในเวลาเดียวกัน ที่คฤหาสน์ของเทพ ขณะที่หม่อมสรัสวดีเดินไปเดินมารอลูกทั้งสองคนอย่างกระวนกระวายใจ อรอนงค์และนพดลทราบข่าวเรื่องเทพทำไม่ดีกับครอบครัวของเธอ จึงตามมาขอโทษด้วยตัวเอง เธอยอมรับคำขอโทษของสองผัวเมีย แต่ถ้าจะให้สบายใจ เธออยากได้ยินคำขอโทษจากปากของเทพเอง จังหวะนั้นชายธีรพลและพิไลพรเพิ่งรู้ข่าวว่าที่นี่เกิดเรื่อง รีบตามมาสมทบเช่นกัน...

ขณะที่คฤหาสน์ของเทพ มีผู้คนมารวมตัวกันราวกับเป็นวันรวมญาติ เทพเจ้าเล่ห์วางแผนหลอกล่อให้ทิวกับเข้มตามเข้าไปในโกดังร้าง ระหว่างหนีเขาดึงข้าวของล้มระเนระนาดกีดขวางทางไว้ จนทั้งสองคนตามต่อไปไม่ได้ ทิวเจ็บใจมากประกาศลั่นว่าเขาไม่มีทางหนีพ้น เทพยิ้มเย้ย

“ฉันไม่ได้หนี แต่กำลังวิ่งให้แกไล่ตามต่างหาก”

“แกอาจจะหนีฉันพ้น แต่แกจะหนีกฎแห่งกรรมไปไม่พ้น” ทิวเข่นเขี้ยวด้วยความแค้น เทพคุยอวดว่าตนเองอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง หัวเราะสะใจก่อนจะวิ่งหนี ทิวหงุดหงิดพยายามหาทางไล่ตาม

ooooooo

ขวัญตาไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากแค่กระสุนถาก พวงทองทำแผลให้เสร็จลุกขึ้นจะไป ขวัญตาขอบคุณที่เธอช่วยเหลือ แล้วยกมือไหว้ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ ขอให้เธออภัยให้

“คนเราทำผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าทำผิดแล้วสำนึกได้ ควรจะได้รับการให้อภัย พักผ่อนเถอะขวัญตาเธอเหนื่อยมามากแล้ว” พวงทองพูดจบ ลุกออกไป เธอเพลียมากอยากจะหลับ แต่หลับไม่ลงเป็นห่วงทิว ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองให้เขาปลอดภัย และขอให้คนชั่วๆอย่างเทพอย่าได้ตายดี...

คนที่โดนขวัญตาสาปแช่งกำลังเร่งฝีเท้าหนีทิวกับเข้ม แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินอะไรบางอย่าง เขารีบหาที่ซ่อนตัว สักพัก หญิงมานศรีเดินนำชายคำรณเข้ามาท่าทางเร่งรีบ เทพพยายามไม่ส่งเสียงเพราะยังบาดเจ็บอยู่ชายคำรณร้องเรียกน้องสาวให้หยุดก่อน เธอแปลกใจจะหยุดทำไม เราควรจะรีบตามทิวให้ทัน

“แต่พี่ว่าน้องหญิงควรจะกลับไปอยู่กับหม่อมแม่ ที่นี่มันอันตรายเกินไป”

“วินาทีนี้ หญิงต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุด ก่อนที่นายทิวจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าคุณเทพด้วยแรงแค้น คนที่ต้องถูกกฎหมายจัดการคือคนชั่ว ไม่ใช่คนดี และนายเทพต้องชดใช้ความผิดของตัวเองในคุก ไม่ใช่ด้วยความตาย” คำพูดของหญิงมานศรี ทำให้เทพเจ็บแค้นใจมาก...

ที่คฤหาสน์ของเทพ หม่อมสรัสวดีเป็นห่วงลูกๆจนไม่เป็นอันทำอะไร อรอนงค์ต้องช่วยปลอบให้ทำใจดีๆ อย่างเพิ่งเป็นกังวลไป คนดีๆอย่างลูกๆของหม่อมย่อมตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ไม่เหมือนเทพ น้องชายของเธอซึ่งไม่เคยศรัทธาในความดีงาม สุดท้ายก็ต้องหนีไม่พ้นจุดจบอันน่าสมเพช เธอพูดถึงน้องชายแล้วอดน้ำตาซึมไม่ได้

“เราทั้งหมดจะต้องเข้มแข็ง ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง” หม่อมสรัสวดีเป็นฝ่ายปลอบเธอบ้าง

“ค่ะ...หม่อมเองก็ต้องศรัทธานะคะว่าความดีงามจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้กับลูกๆของหม่อมได้”

ต่างฝ่ายต่างเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน พวงทองยืนฟังอยู่อีกมุมหนึ่ง ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ความรักที่มีต่อเทพซึ่งอัดอั้นอยู่ข้างในกำลังต่อสู้กับความถูกต้องในจิตใต้สำนึก แต่พอนึกถึงความเลวร้ายที่เขาเคยทำไว้ทั้งกับเธอและกับคนอื่นๆ ความถูกต้องก็ชนะ

“คุณมันเลว สมควรแล้วที่คุณต้องชดใช้มันด้วยความเจ็บปวด สมควรแล้ว ถูกแล้ว” เธอพูดจบปล่อยโฮ...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ตำรวจเห็นว่าชายธีรพลเชี่ยวชาญทางด้านจิตเวช จึงเชิญไปช่วยเจรจาให้คนร้ายมอบตัว พิไลพรเป็นห่วงหญิงมานศรี ทนอยู่เฉยไม่ได้ขอตามไปด้วย ตำรวจไม่ค่อยจะเห็นด้วยนัก แต่เขาอ้างว่าเธอรู้จักคนร้ายเป็นอย่างดี มีเธอไปด้วยทำให้เขาอุ่นใจ เธอแอบเป็นปลื้มกับคำพูดของเขา

“งั้น...ตามมาทางนี้ครับ คนร้ายยังคงหนีวนเวียนอยู่ในบริเวณนี้” ตำรวจว่าแล้วเดินนำทั้งคู่ออกไป

ooooooo

ชายคำรณเห็นว่าคงจะกล่อมน้องสาวของเขาให้กลับไปรอที่คฤหาสน์ไม่สำเร็จ จึงชวนกันออกเดินทางต่อ เทพคิดหาทางแก้แค้น กัดฟันข่มความเจ็บปวด จากแผลถูกแทง พุ่งออกจากที่ซ่อน ล็อกคอหญิงมาน-ศรีไว้ ชายคำรณตั้งสติได้ ขอร้องไม่ให้ทำร้ายเธอ

“เขาไม่กล้าทำอะไรหญิงหรอกพี่ชาย  ไม่ต้องห่วง” เธอสีหน้ามั่นใจ

ขาดคำ เทพต่อยท้องเธอทรุดลงกับพื้น ชายคำรณฟิวส์ขาดปรี่เข้าไปชกต่อยกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่สู้ไม่ได้ ทั้งๆที่อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ เทพฝีมือดีกว่าอัดเขาสะบักสะบอม เธอสงสารพี่ชายมาก ตะโกนขอความช่วยเหลือลั่น เทพจัดการเขาหมอบราบคาบ แล้วย่างสามขุมเข้าหาเธอ

ทิวกับเข้มกำลังตามหาเทพอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นได้ยินเสียงร้องของหญิงมานศรี รีบวิ่งไปยังต้นเสียง ไม่นานนัก ทั้งคู่ตามมาทัน เทพหันมาเห็นทิว กระชากตัวหญิง มานศรีขึ้นมาขย้ำคอหอยไว้

“ถึงฉันจะบาดเจ็บ แต่ฉันยังไม่หมดแรง มือของฉันยังแข็งแรงพอที่จะปลิดชีวิตของหญิงสูงศักดิ์...ภรรยาหมายเลขหนึ่งของฉัน”

“อดทนไว้นะ...คุณหญิง” ทิวมองเธออย่างห่วงใย ทำให้เทพยิ่งแค้นขู่ไม่ให้เขาตาม ถ้ายังอยากอยู่บนโลกนี้ต่อไปนานๆ แล้วลากคอเธอออกไป ทิวสั่งให้เข้มอยู่ดูแลคุณชาย แล้ววิ่งตามเทพไปอย่างรวดเร็ว ชายคำรณเป็นห่วงน้องมาก ขอร้องเข้มกลับไปเรียนหม่อมแม่ให้ทีว่า

เธอถูกเทพจับไปเป็นตัวประกัน ส่วนเขาจะไปช่วยทิวตามตัวน้องกลับคืนมา เข้มรีบทำตามที่เขาขอร้อง...

ทันทีที่หม่อมสรัสวดีทราบเรื่องจากเข้ม ถึงกับเป็นลมล้มพับ อรอนงค์สั่งให้บุญปลูกไปเอายาดมกับ

ยาหอมมาให้ นพดลนึกเสียดายเทพที่เป็นคนมีฝีมือเก่งรอบด้าน แต่กลับมีจิตใจต่ำทราม เลวไม่มีที่ติ...

หลังจากจอมโฉดลากตัวหญิงมานศรีหนีการไล่ล่าของทิวมาได้พักใหญ่ เธอพยายามหว่านล้อมให้เขาปล่อยตัว ป่านนี้คงไม่มีใครตามทันแล้ว เขาไม่ปล่อย เธอไม่ได้มีค่าแค่เป็นตัวประกัน แต่มีค่ากว่านั้นมาก เธอสงสัยว่าเขาต้องการอะไรกัน แต่เขาไม่ตอบ หันกลับไปมองด้านหลัง เห็นทิวตามมาไกลๆ เร่งให้เธอเดินทางต่อไป

ทิวไล่ตามเทพอย่างไม่ลดละ แต่แล้วได้ยินเสียงบางอย่างด้านหลัง หันขวับไปมอง เห็นชายคำรณตามมาทั้งๆที่ร่างกายบอบช้ำเพราะถูกเทพซ้อม ทิวเป็นห่วงสภาพร่างกายของเขาจะทนตรากตรำไม่ไหว แต่จำต้องให้ไปด้วยเพราะเข้าใจดีว่าเขาเป็นห่วงน้องสาวมาก

ooooooo

ขณะที่อรอนงค์ นพดล บุญปลูก และขวัญตาคอยดูแลหม่อมสรัสวดีที่นอนหมดสติอยู่ ผ่องทิพย์เข้ามาโวยวายลั่นเมื่อรู้ข่าวว่าเทพหนีไปได้อีก ในเมื่อไม่มีใครจัดการเขาได้ เธอจะเป็นคนตามล่าและฆ่าเขาด้วยมือตัวเอง แล้วผลุนผลันออกไป ขวัญตาเกรงเธอจะได้รับอันตรายรีบตามไปขวางไว้ ขอร้องอย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง

“จะเกิดอะไรขึ้นฉันไม่สน ดีกว่าให้ฉันอยู่เฉยๆ ตอนนี้ชีวิตฉันก็เหมือนตาย แต่ถ้าจะตายก็ขอลากคนเลวอย่างมันลงขุมนรกไปด้วย...ถอยไป” เธอผลักขวัญตาพ้นทาง แล้ววิ่งไปหยิบมีดในครัวจะไปฆ่าเทพ

ขวัญตาเข้ามาขวางไว้อีก “ฉันขอร้องล่ะ อย่าไปเลย...ฟังฉันนะ เธอเจ็บปวดมาทั้งชีวิตแล้ว ยามรักก็ต้องทุกข์เพราะถูกหลอก ยามชังก็ต้องเจ็บปวดด้วยความแค้น เลิกเอาตัวเองไปผูกมัดกับผู้ชายชั่วคนนั้นได้แล้ว ปล่อยให้เวรกรรมลงโทษเอาเองเถอะ อย่าเอาชีวิตไปแลกเลย ชีวิตเรามีค่ากว่านั้นมาก”

“ขวัญตา แกเป็นห่วงฉัน...ทั้งๆที่ฉันเคยคิดฆ่าแก”

“ความโกรธที่เรามีต่อกัน มันมาจากคนชั่วเสี้ยมให้เราเกลียดชังกัน เธอกับฉัน เราต่างตกเป็นเหยื่อของมัน ฉันให้อภัยเธอได้เสมอ...เธอก็ต้องรู้จักให้อภัยตัวเอง” คำพูดของขวัญตาทำให้ผ่องทิพย์ซึ้งใจ ทิ้งมีดร้องไห้โฮ...

เทพเห็นทิวกับชายคำรณตามมาใกล้เกินไป คิดหาทางถ่วงเวลา เอามือปิดปากหญิงมานศรีไม่ให้ส่งเสียงแล้วลากไปหลบหลังพุ่มไม้ รอจนทั้งสองคนเดินผ่านเลยไปครู่ใหญ่ จึงลากเธอย้อนไปทางเก่า

มีจังหวะหนึ่ง เธอสบโอกาสเหมาะกัดแขนเขาจมเขี้ยวก่อนจะวิ่งหนี แต่ไปไม่รอด เขาต่อยท้องเธอทรุดลงกับพื้น แล้วอุ้มร่างหมดสติของเธอออกไป ไม่ทันสังเกตว่ารองเท้าของเธอตกอยู่ข้างหนึ่ง...

ด้านทิวชักเอะใจที่ไม่เห็นวี่แววของเทพ สงสัยเราสองคนจะโดนหลอก ชวนชายคำรณย้อนกลับทางเก่า เป็นอย่างที่คาด เจอรองเท้าของหญิงมานศรีตกอยู่ เขามั่นใจว่าเธอต้องอยู่ใกล้ๆแถวนี้...

ที่บ้านร้างท้ายไร่อ้อยอันกว้างใหญ่ หญิงมานศรีรู้สึกตัวลืมตาขึ้น เห็นตัวเองถูกมัดมือ ส่วนขาถูกเชือกล่ามติดอยู่กับเสาบ้าน เธอกวาดตาหาของมีคมเพื่อจะเอามาตัดเชือก เจอขวดแก้วใบหนึ่งวางอยู่ตรงมุมห้องค่อยๆคลานไปหยิบ แต่ไม่ถึงเพราะขาติดเชือกที่มัดอยู่

อีกมุมหนึ่งของบ้านร้าง เทพเดินมาหยุดอยู่หน้าตู้ใบหนึ่งซึ่งมีปืนซ่อนอยู่ นึกชมตัวเองที่มองการณ์ไกล เมื่อครั้งที่เขาได้ครอบครองอาณาจักรทัดเทพใหม่ๆ สั่งให้ล้วนนำปืนไปซุกไว้ตามที่ต่างๆเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจะได้มีเขี้ยวเล็บไว้ต่อสู้กับศัตรู ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึง เขาหยิบปืนพร้อมกระสุนขึ้นมา

“อย่าประเมินฉันต่ำเกินไป” เขามองปืนในมือ ก่อนจะหัวเราะสะใจ...

ด้านหญิงมานศรีทนเจ็บข้อเท้า พยายามยืดตัวให้มากที่สุด สุดท้ายที่คว้าขวดใบนั้นสำเร็จ เธอจับมันฟาดกับพื้นแตกกระจาย หยิบเศษแก้วขึ้นมาตัดกับเชือก เทพได้ยินเสียงแก้วแตก ถือปืนวิ่งกลับไปยังห้องที่ล่าม หญิงสาวไว้ เธอตัดเชือกจนขาด จะวิ่งหนีแต่ไม่ทัน เทพเดินถือปืนเข้ามาพอดี...

ในขณะเดียวกัน ชุดไล่ล่าของตำรวจซึ่งมีชายธีรพลและพิไลพรร่วมทางมาด้วย ได้รับรายงานทางวิทยุสื่อสารว่าล้วนหลบหนีการควบคุมตัวไปได้พร้อมกับเอาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ไปด้วย หัวหน้าชุดไล่ล่าจำเป็นต้องแบ่งกำลังออกเป็นสองสาย ระหว่างที่เขากำลังสรุปงานให้กองกำลังที่ต้องแยกไปไล่ล่าล้วนฟัง

พิไลพรซึ่งอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด สบโอกาสรีบลงนั่งพักเหนื่อย ชายธีรพลเป็นห่วง ถามว่าไหวไหม ทั้งๆที่ เมื่อยขาแทบตาย เธอกลับบอกว่าไหวทำให้เขารู้สึกชื่นชม

หลังจากสรุปงานเสร็จ หัวหน้าชุดไล่ล่าสั่งให้กำลังทั้งสองสายแยกย้ายกันไปทำงาน ชายธีรพลยื่นมือให้พิไลพรจับเพื่อช่วยดึงตัวลุกขึ้น แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือ เธอมองเขาอย่างเขินๆปนแปลกใจ เขารีบออกตัว

“เผื่อพรล้ม ผมจะได้ฉุดเอาไว้ได้ทัน...ไปกันเถอะ” เขาจูงมือเธอเดินตามทีมหัวหน้าชุดไล่ล่าของตำรวจ...

ทางฝ่ายหญิงมานศรีตัดสินใจจะวิ่งฝ่าออกไปให้ได้ แต่เร็วไม่พอ เทพคว้าตัวไว้แล้วชักปืนจ่อหัว เธอเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ท้าให้ยิงจะได้จบเรื่องสักที แล้วหลับตา ยอมรับชะตากรรม เขาไม่รอช้าจัดให้ตามต้องการ เหนี่ยวไกปืนเสียงดังแชะ เธอสะดุ้งเฮือก แต่แล้วต้องแปลกใจที่ไม่เกิดอะไรขึ้น เขาหัวเราะสะใจ

“ปืนไม่ได้ใส่กระสุนครับ...คุณหญิงคนดีของผมต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปครับ เพื่อรอคอยวันที่ผมจะฆ่าไอ้ทิวต่อหน้าคุณหญิง ผมต้องชนะมัน ผมต้องได้ครอบครองคุณหญิงและการที่ผมเอาตัวคุณหญิงมากับผม ไม่ใช่แค่เอาตัวรอด แต่ผมต้องการทรมานคุณหญิงเพื่อย่ำยีหัวใจไอ้ทิวให้แตกสลาย นั่นแหละเป้าหมายของผม”

ooooooo

พอความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา เทพลากตัว หญิงมานศรีจะพาออกจากบ้านร้าง ทันใดนั้น ประตูบ้านเปิดผลัวะ ทิวกับชายคำรณยืนจังก้าขวางทางไว้ เขาไม่รอช้าสาดกระสุนใส่ทันที ทิวผลักชายคำรณหลบเข้าที่กำบัง จอมโฉดแค้นมากไล่ยิงทั้งคู่อุตลุด หญิงมานศรีสบช่องจะวิ่งหนี เขาหันปากกระบอกปืนไปทางเธอ

“หยุดนะ...คุณหญิง ไม่หยุดผมยิง”

เธอหยุดกึกไม่กล้าขยับ เทพเข้าไปรวบตัวเธอไว้ ตะโกนขู่ทิวกับชายคำรณถ้าไม่ออกจากที่ซ่อนจะยิงเธอทิ้ง สองหนุ่มรีบออกมาทันที เทพหันปากกระบอกปืนเล็งทั้งคู่สลับกันไปมาราวกับเป็นเรื่องสนุก

“ฮ่าๆๆ ยืนรอความตายทีเดียวพร้อมกันสองคน แล้วฉันจะเลือกยิงใครก่อนดี...ฮึ คุณหญิง...นั่นก็พี่ชายนี่ก็...เพื่อนชายคนสนิท แต่ไม่ว่าจะยิงใคร คุณหญิงก็เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสทั้งนั้นใช่ไหม”

ชายคำรณพยายามชวนเทพคุยเพื่อเบนความสนใจ ทิวได้ทีกำทรายที่พื้นปาใส่หน้าจนเขาต้องยกมือขึ้นปัดป้อง ชายคำรณรีบคว้าตัวน้องสาวหลบ เทพตั้งหลักได้หันปืนจะยิงสองพี่น้อง ทิวโดดกระแทกจนปืนหลุดมือกระเด็นไปไกล ทั้งสองต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย จังหวะหนึ่งทิวพลาดท่าถูกเทพอัดทรุดลงกับพื้น ชายคำรณเห็นท่าไม่ดี รีบเข้าไปช่วย...

ขณะเกิดการชุลมุนย่อยๆขึ้นในบ้านร้าง อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก ทีมไล่ล่าของตำรวจ ซึ่งมีชายธีรพลและพิไลพรรวมอยู่ด้วยถูกซุ่มโจมตี ตำรวจตายเรียบ ชายธีรพลคว้ามือพิไลพรวิ่งหนีเข้าไปในบ้านร้าง เห็นเทพต่อยชายคำรณหน้าหงาย แล้วจะเข้าไปหยิบปืน หมอหนุ่มโดด คว้าตัวไว้ทัน เทพเลยหันมาเล่นงานเขาแทน ทิวสบโอกาสแย่งปืนมาได้ ประกาศลั่นว่าวาระสุดท้ายของคนชั่วมาถึงแล้ว เทพมองข้ามไหล่ทิว ก่อนจะหัวเราะร่วน

“สถานการณ์มันเปลี่ยนแล้ว...สวรรค์เข้าข้างฉันเสมอ...ไม่เชื่อก็หันไปดู”

ทิวค่อยๆหันไปเห็นล้วนถือปืนจ่อหัวหญิงมานศรีไว้ จอมโฉดสั่งให้สมุนคู่ใจเอาตัวเธอมาให้เขา ทิวจำต้องทิ้งปืน เทพแค้นใจมากเข้าไปเตะต่อยทิวหน้าหงาย ชายคำรณเห็นล้วนมัวแต่จ้องมองนายใหญ่ แอบเตะตัดขาจนเสียหลัก แล้วตามเข้าไปจะซ้ำ ล้วนยิงสวนแต่เขาหลบทัน เสียงปืนทำให้ทุกคนชะงัก ทิวตั้งสติได้ก่อน รีบคว้าปืนขึ้นมาจะยิง จอมโฉดไหวตัวทันดึงตัวหญิงมานศรีมาเป็นโล่กำบัง ทำให้เขาไม่กล้ายิงกลัวพลาด

“ไอ้ล้วน...ถอยก่อน” เทพสั่งเสร็จ ลากหญิงมานศรีออกไปโดยมีล้วนปิดท้ายขบวน

ทิวกับพวกไล่ตาม แต่ต้องคอยหลบกระสุนที่ล้วนยิงสกัดใส่เป็นระยะๆทำให้ตามไม่ทัน ครู่ต่อมา ล้วนพานายใหญ่กับหญิงมานศรีมาเกือบถึงถนนใหญ่

“นายใหญ่ครับ ผมติดต่อพรรคพวกให้มารับตัวนายที่ถนนฟากโน้น ผมจะพานายใหญ่หนีไปชายแดน”

“ขอบใจแกมาก แต่ไม่ใช่ตอนนี้...ฉันตกเป็นฝ่ายถูกล่ามาพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องเป็นผู้ล่า” เทพยิ้มเจ้าเล่ห์ มีแผนร้ายไว้รอท่าทิวกับพวกแล้ว...

ขณะที่เกมไล่ล่ากำลังจะพลิกผัน พวงทองสงสารหม่อมสรัสวดีมากที่เป็นห่วงลูกทั้งสองคนมากไม่ยอมกินข้าวกินปลา ร้องไห้เป็นลมล้มพับไปหลายตลบ เธอเองก็เป็นห่วงทิวเช่นกัน ตรงไปที่ห้องพระ จุดธูปอธิษฐานขอให้พระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครองให้ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย ปักธูปในกระถางธูปแล้วก้มลงกราบ จากนั้นหันไปยกมือไหว้รูปถ่ายของพ่อกับแม่ ขอให้ช่วยคุ้มครองทิวด้วย...

กลุ่มผู้ไล่ล่าต่างเหน็ดเหนื่อยกันทุกคน ทิวเห็นชายคำรณบาดเจ็บจากการต่อสู้ ขอให้ชายธีรพลกับพิไลพรช่วยดูอาการให้ ส่วนเขาจะไปดูร่องรอยแถวนี้ก่อน หลังจากทิวเดินสำรวจมาได้สักพัก เห็นหลังล้วนไวๆวิ่งไปทางไร่อ้อย เขาชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อมก่อนจะสะกดรอยตาม

ฝ่ายพิไลพร ชายคำรณ และชายธีรพลชักเอะใจที่ทิวหายไปนานผิดปกติ ชวนกันออกตาม พิไลพรเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของชายคำรณ อยากให้เขารออยู่ที่นี่

“ฉันเป็นลูกผู้ชาย จะมามัวอ่อนแออยู่ได้ยังไง ในขณะที่น้องหญิงกำลังตกอยู่ในอันตราย” ชายคำรณว่าแล้วเดินนำออกไปทันที...

ทิวถูกล้วนล่อให้มาติดกับ เทพจับหญิงมานศรีมัดไว้กับเสากลางโรงงานร้างแห่งหนึ่ง แล้วใช้ปืนจ่อหัวไว้ ทิวต่อรองจะยกสมบัติทั้งหมดของทัดเทพเพื่อแลกกับตัวเธอ เขาไม่ต้องการเงินทองพวกนั้น เงินที่ยักยอกมาจากบริษัทมีมากพอให้เขาอยู่สุขสบายไปทั้งชาติ สิ่งที่เขาต้องการคือชีวิตของทิวต่างหาก จังหวะนั้น ชายคำรณ ชายธีรพล และพิไลพรมาถึงพอดี พากันตกใจกับสิ่งที่เทพต้องการ

“ได้...ฉันจะเอาชีวิตของฉันแลกกับคุณหญิง” ทิวพูดจบหยิบปืนขึ้นมาจะยิงตัวตาย ชายคำรณร้องห้ามไว้ขอให้เทพเอาชีวิตเขาไปแทน แต่ต้องรับปากก่อนว่าจะปล่อยน้องสาวของเขา

“ก็เอาสิ...กล้าเสียสละชีวิตตัวเองได้ ผมก็กล้าปล่อยคุณหญิงได้เหมือนกัน” เทพรับคำท้า ชายคำรณแย่งปืนไปจากมือทิวแล้วจ่อยิงที่อกด้านขวาตัวเองทันที ร่างผงะตามแรงปะทะของลูกปืน ก่อนจะล้มลงนอนแน่นิ่ง

ooooooo

เกิดเป็นหงส์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด