สมาชิก

เกิดเป็นหงส์

ตอนที่ 15

หลังจากล้วนรู้ข่าวว่าเทพถูกยิงตกน้ำ สั่งเหล่าสมุนกระจายกำลังออกตามหาแถวริมตลิ่งจนทั่ว ในที่สุดก็พบตัว เขายังไม่ตายอย่างที่ใครต่อใครคิด...

ด้านทิวอาการดีขึ้นมาก ชายธีรพลอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน แต่เจ้าตัวขออยู่ รพ.ต่อไป เพราะถ้ากลับบ้าน หญิงมานศรีก็จะไม่อยู่ดูแลเขา จึงพยายามยื้อสุดฤทธิ์ แต่ไร้ประโยชน์ เธอโทร.ตามพวงทองมารับเขาเรียบร้อย ส่วนเธอเองก็เตรียมกลับกรุงเทพฯ เช่นกัน จากนั้น หญิงมานศรีเดินมาส่งทิวที่รถของพวงทอง ร่ำลาแล้วขอตัว เขาคว้ามือเธอไว้ ตัดพ้อว่าเขาน่าขยะแขยงมากนักหรือถึงได้อยากอยู่ห่างๆ

“ฉันคิดว่าเจ้าชายอสูรมีแค่ในนิทานซะอีก ในชีวิตจริงก็มีด้วยเหมือนกันนะ” เธอว่าประชด

“คุณยังกลับไปไม่ได้ เพราะหม่อมแม่คุณสัญญาจะให้คุณมาดูแลผม”

เธอแย้งว่า ในเมื่อเขาหายป่วยแล้ว คำสัญญาก็สิ้นสุด เขาโต้ไม่ยอมแพ้ว่ายังไม่หาย เขาต้องกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ถ้าจะให้ตามไปดูแลถึงบ้านเธอเห็นว่าไม่เหมาะ เพราะที่นั่นเขามีขวัญตาคอยดูแลอยู่แล้ว ทิวกำลังจะอ้าปากอธิบายความจริงเรื่องขวัญตา พิไลพรเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เตือนเธอว่ารถพร้อมออกเดินทางแล้ว เธอบอกลาเขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินไปกับพิไลพร ทิวได้แต่มองตามตาละห้อย...

ครู่ต่อมา พวงทองพาทิวกลับถึงไร่ทัดเทพ ชวนเขามาอยู่ที่คฤหาสน์ด้วยกัน แต่เขายังยืนกรานขออยู่ท่ีเดิม เธอไม่เซ้าซี้ แม้จะไม่อยากอยู่ที่นี่แต่อย่างน้อยเขาควรขึ้นไปเยี่ยมขวัญตาสักหน่อย ทิวงง ทำไมขวัญตาอยู่ที่นี่ เธอบอกเขาเองว่าจะกลับไปอยู่กับพ่อกำนัน

พอรู้ว่าขวัญตากลับมาแก้แค้น แต่ถูกผ่องทิพย์ผลักตกบันไดจนแท้งลูก สมองกระทบกระเทือนหนักนอนไม่ได้สติอยู่ข้างบน ทิวรีบตรงไปที่ห้องของเธอ

เห็นสภาพเธอแล้วสงสารจับใจ หันไปต่อว่าผ่องทิพย์ ที่ยืนมองอย่างสะใจว่าไม่น่าจะทำรุนแรงขนาดนี้ เธอแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน ขวัญตาจงใจทำให้เทพเกลียดเธอ ความจริงเธอน่าจะสงเคราะห์ให้มันตายๆไปตอนนี้เลยจะดีกว่า แล้วเข้าไปเขย่าตัวขวัญตาที่นอนเป็นผัก ทิวฟิวส์ขาดลากพี่สาวตัวดีถูลู่ถูกังลงไปข้างล่างจับเหวี่ยงไปที่โซฟาต่อว่าว่า  ไม่รู้เลยหรือว่าผู้ชายที่เธอรักนักรักหนาเป็นฆาตกรฆ่าพ่อและแม่ของพวกเรา

“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ คุณเทพของฉันไม่มีวันทำอย่างนั้น คุณเทพบริสุทธิ์...แกใส่ร้ายคุณเทพเพราะแกต้องการแย่งชิงนังคุณหญิง” ผ่องทิพย์สติแตกปรี่เข้าไปทุบตีทิว ไม่ฟังคำอธิบายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณหญิง

“ต้องรอให้ตำรวจลากคอมันเข้าคุกก่อนใช่ไหมพี่ผ่องถึงจะเชื่อ...ได้...ผมจะตามล่าตัวมันมาสารภาพต่อหน้าพี่เอง พี่จะได้หูตาสว่างสักที” เขาผลักเธอพ้นทางแล้วเดินหัวเสียกลับไป ผ่องทิพย์หันไปถามพี่สาวตัวเองที่ยืนอยู่ใกล้ๆว่าเขาโกหกใช่ไหม พวงทองรู้ดีว่าบอกความจริงไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะน้องสาวปักใจเชื่อว่าคุณเทพของเธอเป็นคนดี ซ้ำยังฝันลมๆแล้งๆว่าเขาจะกลับมาแต่งงานกับเธอและยกให้เธอเป็นเมียหมายเลขหนึ่ง...

ขณะที่ผ่องทิพย์กำลังฝันกลางวัน หญิงมานศรีกลับถึงวังกฤตยาเอาแต่นั่งใจลอยคิดถึงทิว คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขด้วยกันกลับยิ่งเศร้า รู้ว่าความสุขเหล่านั้นไม่มีวันจะหวนกลับมาอีก พิไลพร ชายธีรพล และชายคำรณทนเห็นเธอเป็นอย่างนี้ไม่ไหว ระดมสมองหาทางทำให้คนปากแข็ง ทิฐิสูง ยอมรับความรู้สึกของตัวเองให้ได้

ooooooo

ผ่านมาหลายวันแล้วแต่ทิวหายเงียบไม่ส่งข่าวมาบ้าง หญิงมานศรีพยายามจะลืมเขาไปจากหัวใจให้ได้ จึงรับอาสาเดินทางไปติดต่องานที่อังกฤษให้ท่านลุงพหล แม้จะเป็นเวลาแค่ช่วงสั้นๆ แต่อย่างน้อยเธอก็มีอะไรทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ระหว่างเธอจะขึ้นรถไปสนามบิน ชายธีรพลวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแจ้งว่า

“ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากห้องฉุกเฉินที่ รพ.ว่าคุณทิวประสบอุบัติเหตุ...”

หญิงมานศรีทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง ลืมภารกิจที่จะต้องไปทำ ขอร้องให้ชายธีรพลพาตนเองไป รพ.ทันที โดยมีพิไลพรและชายคำรณวิ่งตามไปด้วย หม่อมสรัสวดีหันไปบ่นกับแม่แล่ม แล้วเรื่องไปอังกฤษจะทำอย่างไร แม่บ้านผู้ซื่อสัตย์บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าเรื่องงานรอได้ แต่เรื่องคุณทิวเร่งด่วนกว่า เธอยังไม่เข้าใจอยู่ดี

“แล่มจำได้นะคะว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นเหมือนสมัยที่ท่านชายอมรเทพตัดสินใจไปขอหม่อมแต่งงานก่อนที่จะสายเกินไป” แม่แล่มเท้าความ หม่อมสรัสวดีถึงบางอ้อทันที อวยพรให้ลูกสาวสมหวังในความรัก...

ไม่นานนัก ชายธีรพล ชายคำรณ พิไลพร พาหญิงมานศรีมาถึงไร่ทัดเทพ เธออดสงสัยไม่ได้พามาที่นี่ทำไมในเมื่อทิวอยู่ รพ. ทั้งสามคนช่วยกันคาดคั้นให้เธอตอบว่ารู้สึกอย่างไรกับทิว เธอรู้ทันทีว่าถูกหลอกให้มาที่นี่ ทิวไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ชายธีรพลอ้าง พิไลพรตอบคำถามแทนว่า

“เป็นสิคะ อาการหนักมาก เป็นโรคหัวใจสลายค่ะ ต้องการยารักษาที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก”

“ยานั้นมีชื่อว่า มานศรีโสภาคย์ คนที่เขารักและเป็นคนที่รักเขา” ชายธีรพลเสริม เธอไม่เชื่อว่าเขารักเธอ เขามีขวัญตาอยู่แล้วทั้งคน ชายคำรณท้าพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลย ถ้าทิวไม่ได้รักเธอ พวกเราสามคนจะเลิกเซ้าซี้...

ในเวลาต่อมา บริเวณที่ฝังศพวิวัฒน์แถวชายป่า ทิวเอาดอกไม้มาวางไว้หน้าหลุมศพเพื่อขอโทษที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะดูแลเมียกับลูกของเขาให้ดีที่สุด

“ขวัญตาแท้งลูก...ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว อโหสิกรรมให้พี่ผ่องด้วย ไม่ว่าขวัญตาฟื้นมาจะมีสภาพอย่างไร ฉันพร้อมจะดูแลเธอให้ดีที่สุด...ฉันสัญญา” ทิวเอามือตบที่หลุมศพ หันหลังจะกลับต้องชะงักเมื่อเจอหญิงมานศรียืนอยู่ ทั้งดีใจทั้งตกใจปนกัน ทำหน้าไม่ถูก ส่วนเธอพยายามเก็บความปลาบปลื้มไว้สุดฤทธิ์เมื่อได้รู้ความจริงว่าลูกในท้องขวัญตาไม่ใช่ลูกเขา ถ้าเป็นคนอื่นคงโผกอดกันกลม แต่เป็นจอมปากแข็งด้วยกันทั้งคู่ กลับกวนประสาทใส่กันเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก เขาแดกดันเธอกลับมาทำไมอีก น่าจะไปใช้ชีวิตหงส์ให้สุขสบาย

“ฉันจะอยู่ทำงานที่นี่ เพราะต้องการชดใช้บุญคุณที่นายช่วยครอบครัวฉันและช่วยชีวิตฉัน”

“ไม่จำเป็น ผมทำไปเพื่อขัดขวางนายเทพ ไม่ได้คิดช่วยคุณ”

ในเมื่อผลประโยชน์ตกอยู่ที่เธอและเธอไม่อยากติดหนี้บุญคุณเขาไปถึงชาติหน้า ไม่อยากเกิดมาต้องเจอคนเถื่อนปากจัดอย่างเขาอีก เขาจ้องไปในดวงตาของเธอเพื่อค้นหาความจริงขณะที่ถามว่า

“คุณมีเหตุผลแค่นี้ใช่ไหม”

เธอไม่กล้าสบตาด้วย เกรงเขาจะรู้ความในใจได้แต่พยักหน้ารับ เขาทั้งน้อยใจทั้งขุ่นเคือง ลากเธอไปที่น้ำตก ผลักลงน้ำ แล้วโดดตามไปจับกดน้ำแกล้งเล่นบทโหดให้เธอทนไม่ได้จะได้กลับวัง แต่แล้วเกิดเป็นห่วงขึ้นมารีบดึงเธอขึ้นจากน้ำ แทนที่จะโกรธ เธอกลับยิ้มหน้าเป็น แขวะว่าโหดได้แค่นี้เองหรือ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี

ผลักเธอลงน้ำแล้วเดินหนี เธอดีใจที่จะได้อยู่ดูแลใกล้ชิดเขา ตะโกนไล่หลัง

“แล้วเจอกันนะคะเจ้านาย...”

ทั้งๆที่ปากคอยขับไล่ไสส่งแต่ใจกลับเป็นห่วง

ค่ำมืดป่านนี้แล้วหญิงมานศรีจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร เดินกระวนกระวายใจอยู่ในบ้านพัก เห็นเข้มแวะมาหาจะเอ่ยปากถามก็ไม่กล้า ลูกน้องคนสนิทรู้ใจ รายงานเสร็จสรรพว่าคุณพวงทองจัดที่พักให้คุณหญิงเรียบร้อยแล้วไม่ต้องเป็นห่วง และเขาไม่ได้ให้เธอไปทำงานที่ไร่อ้อย

“แล้วให้ไปทำอะไร”

“มาดูแลนายเป็นการส่วนตัวครับ” เข้มเห็นนายเงื้อเท้าจะเตะ เผ่นออกไปทันที ขณะที่ทิวอดยิ้มไม่ได้

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ทิวไม่พอใจที่สายมากแล้ว แต่หญิงมานศรียังไม่มาทำงาน จังหวะนั้น เข้มวิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานว่าเกิดเรื่องใหญ่ที่คฤหาสน์ ครู่ต่อมา ทิวกับเข้มมาถึงที่หมาย ต้องประหลาดใจที่เห็นหญิง มานศรี พวงทอง และบุญปลูก ยืนล้อมเทพที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยมีล้วนนั่งตัวลีบอยู่ใกล้ๆ เขาแค้นอกแทบระเบิดชักปืนขึ้นมา

“แกยังไม่ตาย แถมยังกล้ามากที่กลับมาที่นี่ แกคิดจะมาเอาชีวิตฉันสิ...ลุกขึ้นมา วันนี้ฉันเอาแกตายแน่”

เทพกลับนั่งนิ่ง วันนี้ไม่ได้มาทำร้ายใคร แต่เขามาเพื่อขอโทษทุกคน ทิวไม่พอใจมาก แค่คำขอโทษของคนเลวไม่พอจะชำระบาปที่เขาเคยก่อไว้ แล้วกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาชกหน้าจนทรุดลงไปกองกับพื้น เขาไม่โต้ตอบไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้ทิวระบายแค้นให้สาแก่ใจ ล้วนทนดูไม่ไหว เข้ามาขอร้องทั้งน้ำตา

“พอเถอะครับ นายใหญ่ถูกคุณเสกสรรยิงโดนที่หน้าขา กระสุนตัดเส้นประสาทเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ไม่สามารถเดินได้ชั่วชีวิตครับ”

ประมุขคนใหม่ของทัดเทพไม่เชื่อ ตรงเข้าไป ลากเทพถูลู่ถูกังออกจากบ้านเพื่อจะยิงทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด ผ่องทิพย์ปราดเข้าไปเอาตัวเองบังเขาไว้ ทิวไม่กล้ายิงเกรงจะพลาดถูกพี่สาว

“ผ่องทิพย์ เธออย่ามาเสียสละเพื่อฉันเลย ขอให้ฉันได้ชดใช้กรรมของฉันเถอะ” เทพคร่ำครวญ

ผ่องทิพย์ไม่ยอมหลบ ทิวสั่งให้เข้มลากตัวพี่สาวของเขาออกไป หญิงมานศรีเวทนาสงสารเทพ ขอร้องให้ทิวปล่อยเขาไป หากฆ่าเขา ทิวจะต้องถูกจับเข้าคุกแล้วคนที่นี่จะทำอย่างไรกัน พวงทองช่วยขอร้องอีกแรงให้น้องชายให้อภัย ผลกรรมที่เทพได้รับก็มากพอแล้ว ทิวยอมลดปืนลงแต่ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าคนชั่วคนนี้จะเดี้ยงจริง เอาไปโยนลงสระน้ำ มองเทพที่พยายามใช้มือตะกายให้จมูกพ้นน้ำ ผ่องทิพย์จะโดดลงไปช่วย ทิวขู่ลั่น

“ห้ามทุกคนช่วยมัน ไม่งั้นผมจะยิงมันทิ้ง ผมแค่ต้องการพิสูจน์ว่ามันไม่ได้เล่นละครตบตาพวกเรา”

ทุกคนมองไปยังเทพที่กำลังหมดแรงและค่อยๆ

จมลง หญิงมานศรีขอร้องทิวพอได้แล้ว เขายังมั่นใจว่านี่เป็นการโกหกคำโตของเทพ อีกพักเดียวธาตุแท้ก็จะปรากฏ คนชั่วๆอย่างนี้เก็บอาการไม่อยู่แน่ๆ แต่เทพยังคงจมลงสู่ก้นสระ หญิงมานศรีทนดูไม่ได้ สั่งให้ล้วนลงไปเอาตัวเจ้านายของเขาขึ้นจากน้ำ

เทพค่อยคลานเข้าไปหาทิว ขอความเมตตา เขารู้สำนึกแล้วว่าทำบาปไว้กับผู้คนมากมายแค่ไหน ขอเพียงให้อภัย เขายอมทำทุกอย่างเพื่อไถ่บาปแล้วทำท่าจะกราบเท้า ทิวถอยห่าง

“ไม่ต้องมากราบ ที่ฉันไม่เอาเรื่องแกเพราะฉันรักทุกคนที่นี่ ความรักมันทำให้ฉันรู้จักคำว่าเมตตา แต่สำหรับแก...ฉันไม่เหลือแม้แต่ความเห็นใจให้แกอีกแล้ว” เขาเตะเทพหน้าหงายแล้วจากไปอย่างหัวเสีย...

ครู่ต่อมา ทิวหลบมายืนมองอาณาจักรทัดเทพที่กว้างใหญ่ไพศาลด้วยน้ำตาคลอเบ้า ขอโทษพ่อกับแม่ที่แก้แค้นให้พวกท่านไม่ได้ หญิงมานศรีตามมาปลอบใจว่า พ่อกับแม่ของเขาคงไม่โกรธ ท่านน่าจะยินดีมากกว่าที่ลูกชายของท่านรู้จักให้อภัยคน

“คุณไม่เข้าใจหรอก เพราะคุณไม่เคยสูญเสียเหมือนผม”

เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี แม้จะไม่เคยประสบชะตากรรมแบบเขา ความแค้นที่เทพทำไว้กับเธอทำให้เธอเคยคิดอยากจะฆ่าเขาเช่นกัน แต่เมื่อได้ใช้สติไตร่ตรองแล้ว การทำแบบนั้นมีแต่เสียกับเสีย แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นการให้อภัย เธอจะได้ความสุขใจจากการทำบุญและได้หนึ่งชีวิตที่กลับมาเป็นคนดีสู่สังคม

“เชื่อฉันเถอะ...สิ่งที่นายทำวันนี้ดีที่สุดแล้ว” เธอรู้ดีว่าเขายังแค้นเทพ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังไม่ได้ฆ่าใคร

ooooooo

พิไลพรเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ชายธีรพลฟังหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ เขาไม่เข้าใจทำไมพวกนั้นถึงไม่แจ้งตำรวจให้มาจัดการกับเทพตามกฎหมาย แถมยังให้ที่พักพิง

“พรเข้าใจหมอค่ะ แต่พรก็เห็นด้วยกับพวกเขานะคะ...บางทีการติดคุกเป็นเพียงแค่การกักกันอิสรภาพ แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง หากคุณเทพได้รับความรักและการดูแลเป็นอย่างดีจากคนที่คุณเทพเคยทำร้าย น่าจะทำให้คุณเทพสำนึกและละอายต่อบาป แล้วกลับตัวกลับใจ พรว่าสิ่งนี้น่าจะได้ผลดีกว่าการคุมขังนะคะ”

“ผมชักเห็นด้วยกับความคิดคุณแล้วล่ะ...ผมขอตัวก่อนนะครับ หิวแล้ว” พูดจบเขาผละจากไป เธอแอบน้อยใจที่เขาไม่ชวนสักคำ แล้วคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบเดินตามไปที่โรงอาหารของ รพ.ซื้อน้ำดื่มติดมือไปฝากชายธีรพล ครั้งนี้เขาไม่ปฏิเสธ แถมยังชวนเธอกินข้าวเช้าด้วยกัน เธอไม่รอให้ชวนซ้ำรีบลงนั่งทันที

“วันก่อนผมขอโทษด้วยนะครับที่ปล่อยให้คุณกินข้าวคนเดียว ผมติดธุระด่วน วันนี้ผมขอไถ่โทษ นั่งเป็นเพื่อนคุณทั้งวันเลย” เขายิ้มให้อย่างเป็นกันเอง ขณะที่เธอเป็นปลื้มที่เขามีน้ำใจตอบ...

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทิวไม่พอใจ ต่อว่าหญิงมานศรีต่างๆนานา ที่สั่งให้เข้มตามติดเขาเหมือนเงาตามตัว เพราะกลัวเขาจะไปฆ่าเทพ เธออ้างว่าที่ให้เข้มตามประกบเพราะเป็นห่วงไม่อยากให้เขาต้องกลายเป็นฆาตกร

“ผมบอกได้เลยว่าผมจะไม่ทำร้ายมัน”

เธอขอคำสัญญาแล้วยื่นนิ้วก้อยให้ เขาหาว่าปัญญาอ่อนไม่ยอมเกี่ยวก้อยด้วย แต่ให้สัญญาชัดถ้อยชัดคำว่าจะไม่ฆ่าเทพ เธอกลับไปด้วยความพอใจ ทันทีที่เธอคล้อยหลัง เขาพึมพำอย่างเคียดแค้น

“ผมสัญญาว่าไม่ฆ่า แต่ไม่ปล่อยให้มันเสวยสุขหรอก” ทิวทำตามที่ลั่นวาจาตรงไปที่คฤหาสน์ ลากตัวเทพที่กำลังจะกินข้าวเช้าออกมาทั้งรถเข็น บ่ายหน้าไปยังไร่อ้อย ทันทีที่ไปถึง เขาสั่งให้ไปตัดอ้อยในไร่ให้หมด เทพตะลึงทำอะไรไม่ถูก ทิวรำคาญกระชากเขาลงจากรถเข็นแล้วโยนมีดตัดอ้อยให้ ล้วนเข้ามาคุกเข่าขอร้อง

“นายทิว...ล้วนขอร้องล่ะ นายก็เห็นว่านายใหญ่เป็นอัมพาตทำไม่ได้ ล้วนกราบล่ะ ให้ล้วนทำแทนเถอะ”

ทิวยิ่งแค้น ถ้าอยากเจ็บตัวแทนนาย ตนยินดีจัดให้ เตะล้วนที่กำลังก้มกราบจนหน้าหงาย แล้วตามไปจะซ้ำ เทพสงสารสมุนคนสนิท ยอมทำตามที่เขาต้องการ หยิบมีดตัดอ้อย แล้วค่อยๆคลานเข้าไปในไร่

ooooooo

ขณะที่หญิงมานศรีกำลังจะออกจากคฤหาสน์ ผ่องทิพย์ปรี่เข้ามาขวางหน้าไว้ กล่าวหาว่าเธอเป็นคนยุยงให้ทิวบังคับเทพไปตัดอ้อย ทั้งๆที่เป็นอัมพาตเพื่อแก้แค้น เธอยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่เคยมีความคิดแบบนั้น ผ่องทิพย์ไม่เชื่อ ถ้าไม่รู้เรื่องนี้จริงอย่างปากว่าก็ต้องไปห้ามทิว

“แล้วทำไมคุณผ่องไม่ไปห้ามนายทิวเองล่ะคะ”

“ถ้าทิวฟังฉัน...ฉันไม่มาพล่ามด่าแกอยู่อย่างนี้หรอก เพราะแกเป็นต้นเหตุทุกอย่าง แกทำให้พี่น้องผิดใจกัน แกก็ต้องเป็นคนแก้ปัญหา ถ้าแกจริงใจ แกก็ต้องไปช่วยคุณเทพของฉัน”

“ได้ค่ะ...หญิงจะพิสูจน์ให้คุณผ่องเห็นว่าหญิงไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของนายทิว” เธอจ้ำพรวดๆออกไปทันที ไม่นานนัก เธอก็มาถึงไร่อ้อยเห็นเทพกำลังคลานเข้าไปตัดอ้อยอย่างยากลำบาก โดยมีทิวคอยตะโกนให้เร่งมืออยู่ใกล้ๆ เธอปรี่เข้าไปต่อว่าที่เขาผิดสัญญา รับปากกับเธอว่าจะไม่ทำร้ายเทพ

“ผมไม่เคยผิดคำพูด แต่ผมไม่เคยสัญญาว่าจะปล่อยให้มันนั่งกินนอนกินอย่างสุขสบาย”

“นายก็เห็นสภาพของเขาแล้ว ยังใช้ให้ทำงานอีก”

“ผมปล่อยให้มันมีชีวิตรอดได้ แต่ปล่อยให้อยู่อย่างสบายไม่ได้ มันต้องทำงานให้คุ้มกับเงินทองที่มันเคยผลาญของผมไป นั่นเท่ากับว่ามันต้องทำงานจนวันตาย” เขามองเทพอย่างเคียดแค้น สั่งให้เร่งมือขึ้นอีก อืดอาดแบบนี้อีกกี่ชาติจะตัดเสร็จ แล้วลากเทพไปปล่อยไว้ที่อีกมุมหนึ่งของไร่ เธอจะเข้าไปห้ามแต่พวงทองรั้งไว้ บอกให้ปล่อยทิวทำตามใจไม่ต้องไปห้าม หญิงมานศรีไม่เห็นด้วย ทำแบบนี้มันเกินไป

“ทิวอาจทำเกินไปสำหรับความคิดของเรา แต่มันอาจน้อยไปกับความเจ็บปวดที่เขาเคยได้รับ...แล้วอีกอย่าง ฉันไม่อยากให้เอาเรื่องของคนอื่นมาสร้างความบาดหมางใจให้กับคุณสองคน” สองสาวยืนมองเทพคลานไปตัดอ้อยด้วยความเวทนา ล้วนจะเอาน้ำไปให้กิน ทิวปัดกระบอกน้ำทิ้ง ยังไม่ถึงเวลาพักห้ามดื่มน้ำสั่งให้ทำงานต่อไป เทพกัดฟันทำจนเสร็จ ล้วนเห็นสภาพร่างกายถลอกปอกเปิก เลือดซิบของเจ้านายจะพาไปทำแผล

“ไม่ต้อง...งานของแกยังไม่เสร็จ ไปทำงานต่อ ตัดให้หมดไร่ ตัดทั้งวันทั้งคืน” ทิวตะคอก

หญิงมานศรีทนดูต่อไปไม่ไหว ขอร้องทิวพอได้แล้ว ทิวยอกย้อน ทีตอนเทพทำชั่ว ทำไมไม่เคยคิดจะหยุดทำบ้าง เขาต้องการให้ที่นี่เป็นขุมนรกสำหรับคนชั่วอย่างมัน แล้วไล่ไปทำงานต่อ เทพกัดฟันคลานจะไปตัดอ้อย แต่เนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า จึงเป็นลมหมดสติไปเสียก่อน ล้วนรีบประคองเขากลับห้องพัก

ผ่องทิพย์รู้ข่าวรีบมาดูแลเช็ดหน้าเช็ดตาให้ สักพัก เทพรู้สึกตัว เธอโกรธน้องชายที่เล่นงานเขาหนักเกิน เหตุจะตามไปเอาเรื่อง เขาดึงมือเธอไว้ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับความผิดที่เขาก่อไว้กับทิว

“ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ มันไม่ได้เศษเสี้ยวของความเจ็บปวดในหัวใจของทิวเลย” เขาถึงกับน้ำตาซึม ผ่องทิพย์สงสารจับใจหันไปหยิบชุดปฐมพยาบาลจะทำแผลให้

“ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้แผลนี้เป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ให้ทำร้ายใครได้อีก” เขาร้องไห้ราวกับสำนึกผิด

“ไม่ได้ค่ะ...ผ่องจะทำแผลให้คุณ” เธอหยิบยาฆ่าเชื้อมาเช็ดแผล หญิงมานศรีแอบฟังอยู่หน้าห้องสงสารและเห็นใจเขามาก

ooooooo

เกิดเป็นหงส์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด