สมาชิก

เลือดเจ้าพระยา

ตอนที่ 15

ศรีสอางค์สลบไสลไม่ได้สติไปอีกครั้งหลังจากสร้อยเพชรเอาน้ำผสมยานอนหลับป้อนซ้ำแล้วหลบออกจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

ตกเย็นเลอสรรกลับมาเห็นสภาพมารดาก็ตกใจ ซักถามบัวเป็นการใหญ่แต่ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยเพราะสร้อยเพชรที่ย้อนกลับมาดูลาดเลารีบขัดคอไม่ให้บัวเล่าเรื่องที่ตนคะยั้นคะยอให้ออกไปซื้อขนม

ผ่านไปไม่นาน หมอประจำตัวตรวจเลือดศรีสอางค์แล้วสรุปว่าถูกวางยานอนหลับเพิ่มซึ่งเป็นชนิดเดียวกับครั้งแรก แสดงว่าต้องเป็นฝีมือคนใกล้ชิด หมอจึงกำชับเลอสรรให้คอยจับตา เพราะหากโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ท่านอาจถึงแก่ชีวิต

เลอสรรร้อนใจมากเรียกเดือนมาร่วมรับรู้และขอความร่วมมือให้หาตัวคนวางยาปู่กับย่า เดือนตกใจและอดระแวงไม่ได้เรื่องแม่ให้เกียรติกล้าเอายามาให้เมื่อกลางวัน  เธอตัดสินใจเล่าให้พ่อฟัง พร้อมกันนั้นบัวก็เล่าเรื่องที่ตนถูกสร้อยเพชรบังคับให้ออกไปซื้อขนม แต่ตนแอบเห็นเธอเอายาในหลอดใส่น้ำแล้วป้อนศรีสอางค์

ฟังเรื่องราวจากเดือนและบัวแล้ว เลอสรรรีบโทร.กลับไปที่บ้านขอพูดกับสร้อยเพชรแต่เกียรติกล้ารับสายบอกว่าแม่ไม่อยู่ ออกเดินทางไปทอดกฐินที่อยุธยา เขาจึงคาดคั้นเรื่องหลอดยาแล้วให้ลูกชายรีบเอามาโรงพยาบาลหลังรู้ว่าสร้อยเพชรลืมไว้ที่บ้าน  เกียรติกล้าไม่รู้ว่ายาอะไรแต่ก็รีบนำมาให้พ่อและพูดความจริงว่ายาเป็นของแม่ที่วานตนเอามาให้ถึงโรงพยาบาลเมื่อตอนกลางวัน

เพียงแค่หมอเห็นหลอดยาก็ทราบทันทีว่าเป็นยานอนหลับชนิดเดียวกับที่พบในร่างกายของผู้ว่าและศรีสอางค์

“ยาตัวนี้เป็นยานอนหลับอย่างแรง ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ เพราะถ้าให้ยาซ้ำๆติดต่อกันหลายวัน อาจถึงกับเสียชีวิตได้”

“คุณแม่ทำแบบนี้ทำไมคะ”

“ไม่จริงพี่เดือน คุณแม่ต้องไม่ทำกับคุณปู่คุณย่าแบบนี้แน่”

“พ่อเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าแม่แกจะเป็นคนทำเรื่องแบบนี้”

สามคนพ่อลูกมองกันไปมาด้วยความรู้สึกผิดหวังและไม่เข้าใจว่าสร้อยเพชรทำแบบนี้เพื่ออะไร?

ขณะเดียวกันนั้น คณะของวิชัยที่เดินทางไป ทอดกฐินที่อยุธยาโดยมีสร้อยเพชรเป็นประธาน ทุกคนดื่มเหล้าตลอดทางจนกระทั่งถึงวัดก็ยังไม่เลิก การมาทำบุญแต่ไม่อยู่ในกิริยาสำรวมจึงโดนทางวัดตำหนิจนมีปากเสียงกันก่อนจะกลายเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อวิชัยกับสร้อยเพชรเมาแล้วกร่าง

ขวดกับเหิมทราบข่าวสร้อยเพชรมาทอดกฐินที่วัดใกล้ลานเทจึงสบโอกาสแก้แค้นให้ดาวกับบุญเหลือที่โดนใส่ร้าย การกระทำของทั้งคู่ทำให้เกิดปะทะกันจนขจรศักดิ์ถูกยิงตาย และรายต่อไปก็คือสร้อยเพชรกับวิชัยที่เกิดขัดแย้งกันเองแล้วสาดกระสุนใส่กัน โดยมีขวดกับเหิมร่วมด้วย

สมิงโกรธคนของตนที่ก่อเรื่องโดยพลการในวัด เขาตามมาตบหน้าขวดกับเหิมแล้วพาไปกราบขอขมาต่อ พระประธานในโบสถ์ ก่อนจะหลบออกจากวัดรีบกลับลานเท

เดือนและเกียรติกล้าตกใจมากหลังทราบข่าวสร้อยเพชรเสียชีวิต เลอสรรเองก็ตกใจและพูดอะไรไม่ออก นอกจากปลุกปลอบลูกๆให้คลายความเศร้า แต่ลึกๆเขาคิดว่าเธอได้รับกรรมที่ก่อไว้แล้ว เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเขาที่อาการดีขึ้นมากก็ออกปากว่าสร้อยเพชรทำเรื่องร้ายแรงเอาไว้เวรกรรมเลยตามทัน

“สงสารก็แต่หนูดาวที่ถูกใส่ร้าย คงจะเสียใจมาก ไม่รู้ตอนนี้ไปตกระกำลำบากที่ไหน”

“ได้ยินว่าหนีกลับไปลานเทกับบุญเหลือค่ะคุณท่าน” บัวรายงาน

“พูดถึงลานเท...ฉันเองก็รู้สึกละอายใจเหลือเกินแม่ศรีสอางค์ พวกเราทำผิดกับศรีนวล พรากผัวพรากเมียเขามาตั้งหลายปี ทั้งๆที่ศรีนวลไม่มีความผิดอะไรเลย”

“เป็นเพราะความโง่ของฉันเองที่หลงผิด ออกจากโรงพยาบาลคราวนี้ถ้าเลอสรรจะกลับไปหาศรีนวล ฉันก็จะไม่ห้ามปรามอีกต่อไป”

เดือนแอบฟังอยู่หน้าห้อง...เสียใจและสะเทือนใจ ไม่ต้องการให้พ่อกลับไปคืนดีกับศรีนวล เพราะกลัวตัวเองกับน้องชายจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไม่มีใครรัก...

หลังงานศพสร้อยเพชร...ศรีสอางค์วานลุงมหาไปสืบเรื่องราวบุญเหลือกับดาวจากพระที่วัด เพราะเธอไม่เชื่อว่าสองคนนั้นจะทำบัดสีอย่างที่เดือนเห็น

ลุงมหาหายไปไม่นานก็กลับมาอธิบายความจริงต่อหน้าท่านผู้ว่า ศรีสอางค์ และเลอสรร

“ความจริงก็คือวันนั้นเจ้าบุญเหลือมันไม่สบาย นอนซมอยู่ในห้อง หลวงพ่อท่านสงสารก็เลยบอกให้คุณดาวไปช่วยดูแลเช็ดตัวให้ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นหรอกครับ เพราะห้องตรงนั้นคนผ่านไปผ่านมาตลอด คุณเดือนคงจะเข้าใจผิดไป”

ทุกคนรับฟังด้วยความโล่งใจ เช่นเดียวกับเดือนที่แอบฟังอยู่มุมหนึ่ง แต่สำหรับเรื่องที่เลอสรรจะกลับไปคืนดีกับศรีนวล ยังไงเธอก็ยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด

เดือนชิงตัดหน้าพ่อที่ตั้งใจไปขอคืนดีกับศรีนวลเร็วๆนี้ เธอเดินทางไปลานเทโดยไม่บอกใครที่บ้าน บุญเหลือกับดาวดีใจที่เดือนมา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เมื่อเธอขอคุยส่วนตัวกับศรีนวลตามลำพัง

เดือนอารัมภบทเรื่องแม่ตายก่อนจะเข้าประเด็นด้วยท่าทีเกรงใจ “ขอโทษนะคะ พอดีเดือนทราบมาว่าแม่ศรีนวลเคยเป็น...ภรรยาของคุณพ่อเดือนจริงไหมคะ”

“ค่ะ แต่นั่นมันเรื่องในอดีตนานมาแล้ว”

“เดือนรู้ว่าคุณพ่อยังรักแม่ศรีนวลอยู่ แต่คุณพ่อก็ยังรักแม่ของเดือนเหมือนกัน ตอนนี้แม่ของเดือนตายแล้ว เดือนเลยไม่สบายใจ”

“ไม่สบายใจเรื่องอะไรคะ”

“คือเดือนไม่อยากให้คุณพ่อกลับมาคืนดีกับแม่ศรีนวล ขอโทษนะคะที่พูดตรงๆ และเดือนก็ไม่อยากให้คุณพ่อแต่งงานใหม่ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม วันนี้เดือนเลยมาที่นี่ก็เพื่ออยากจะขอร้องแม่ศรีนวลไม่ให้กลับไปคืนดีกับคุณพ่อ เดือนกราบล่ะค่ะ”

“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เพราะเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในหัวของศรีนวลเหมือนกัน เรื่องระหว่างศรีนวลกับคุณเลอสรร มันเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมานานแล้ว ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ศรีนวลจะกลับไปรื้อฟื้นขึ้นมาอีก วางใจเถอะค่ะคุณเดือน ศรีนวลรับปากไว้ตรงนี้เลยว่าจะไม่มีวันกลับไปคืนดีกับคุณเลอสรรอีก”

“จริงๆนะคะ แม่ศรีนวลรับปากเดือนแล้วนะคะ”

“ค่ะ คนอย่างศรีนวลคำไหนคำนั้น”

เดือนยิ้มพอใจ กลับออกมาหาดาวกับบุญเหลือโดยมีศรีนวลเดินตามออกมาด้วย แต่ไม่ยอมบอกว่าคุยอะไรกัน ซึ่งเดือนฉลาดพอที่จะคุยเรื่องอื่นกับสองพี่น้อง

“ที่ผ่านมาเดือนเข้าใจดาวกับพี่บุญเหลือผิดไป เดือนขอโทษด้วยนะ”

ดาวกับบุญเหลือพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยโกรธเดือนเลยแม้แต่น้อย

“ถ้างั้นต่อจากนี้ไปหวังว่าเราจะไม่มีเรื่องบาดหมางกันอีก แล้วยังไงว่างๆเดือนจะมาเที่ยวที่นี่อีก วันนี้ต้อง ขอตัวก่อนเพราะไม่ได้บอกทางบ้านไว้”

“งั้นผมไปส่ง” บุญเหลืออาสาแล้วกุลีกุจอไปคว้าจักรยาน...

ดาวยังข้องใจไม่หาย อยากรู้ว่าเดือนคุยอะไรกับแม่ของตน พอซักถามแม่ก็พูดแต่ว่าไม่มีอะไร ดาวอย่าใส่ใจเลย มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร...แม้ว่าปากศรีนวลจะพูดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกตรงกัน ข้าม จู่ๆก็รู้สึกเศร้าขึ้นมากะทันหัน

บุญเหลือขี่จักรยานพาเดือนไปส่งที่ท่าเรือแล้วถามเธอว่าจะมาที่นี่อีกเมื่อไหร่ เดือนตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่ายังไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่แม่ตายตนก็มีภาระต้องดูแลบ้าน ไม่ค่อยมีเวลาว่าง

“งั้นวันหลังผมไปเยี่ยมคุณเดือนที่บ้านจะเป็นอะไรมั้ย”

“เชิญเลยค่ะ คุณปู่คุณย่าท่านก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ถ้าพี่บุญเหลือจะไปที่บ้านก็คงไม่มีใครว่าหรอกค่ะ”

“งั้นเอาไว้คราวหน้าบุญเหลือจะไปนะ”

“ค่ะ วันนี้เดือนกลับก่อน ไว้เจอกันอีก”

บุญเหลือส่งยิ้มก่อนส่งเธอลงเรือด้วยใจที่อาวรณ์... ขณะที่เดือนอยู่ในระหว่างการเดินทาง เลอสรรกำลังคุยกับลุงมหาอยู่ที่บ้านด้วยเรื่องศรีนวล

“ความจริงเรื่องง้อศรีนวล ผมก็พยายามง้อมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน แต่ศรีนวลใจแข็งเหลือเกิน จนปัญญาจริงๆ”

“ก็เมื่อก่อนคุณเลอสรรยังไม่ใช่พ่อม่ายนี่ครับ”

“จริงสิ ศรีนวลเคยพูดเอาไว้ว่าไม่อยากทำลายครอบครัวของใคร แต่ตอนนี้สร้อยเพชรก็ตายไปแล้ว บางทีศรีนวลอาจจะใจอ่อนลงบ้างก็ได้”

“ผมว่าคุณเลอสรรรีบไปพรุ่งนี้เลยดีกว่าครับ เพราะเป็นวันครบรอบวันเกิดของศรีนวล บางทีขอคืนดีกันในวันเกิดก็น่าจะง่ายขึ้นนะครับ”

เลอสรรเห็นด้วยอย่างยิ่ง ตั้งใจออกเดินทางพร้อมลุงมหาพรุ่งนี้เช้า

ooooooo

เลอสรรกับลุงมหามาถึงลานเทแต่ไม่เจอศรีนวลเพราะเธอและครอบครัวรวมทั้งคนใกล้ชิดอย่างสมิงกับผู้ใหญ่ด้องพากันไปทำบุญที่วัดเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งเธอไม่จัดงานเอิกเกริกเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

เมื่อทราบจากชาวบ้านว่าศรีนวลอยู่วัด ลุงมหาจึงชวนเลอสรรตามไปและหวังว่าการขอคืนดีต่อหน้าพระน่าจะประสบผลสำเร็จ น้อยได้ยินเข้าก็แตกตื่นรีบลัดเลาะตัดหน้าไปวัดก่อนพวกเขาเพราะเกรงจะมีเรื่องด้วยทราบดีว่าสมิงอยู่กับศรีนวลที่นั่น

ดาวกับบุญเหลือตกใจหลังฟังความจากพี่น้อย แล้วก็รีบแยกย้ายโดยดาวไปกระซิบบอกศรีนวล ส่วนบุญเหลือคอยถ่วงเวลาเลอสรรเอาไว้

ศรีนวลหนักใจเมื่อทราบว่าเลอสรรจะมาขอคืนดี พอสมิงพาเธอเข้าไปกราบพระในโบสถ์และเอ่ยปากขอแต่งงาน เธอจึงตัดสินใจตอบตกลงแต่โดยดีไม่มีอิดออดหรือปฏิเสธเหมือนทุกปีที่ผ่านมา นั่นก็เพราะเธอต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเดือน

สมิงดีใจที่สุดในชีวิต หลังจากรอคอยศรีนวลมากว่า 20 ปี แต่พอรู้ว่าเลอสรรมาที่นี่สมิงก็ใจคอไม่ดี อยากออกไปเผชิญหน้าแต่ศรีนวลไม่เห็นด้วย จึงให้ดาวกับบุญเหลือพาสมิงหลบไปหลังโบสถ์ แล้วตัวเองพูดคุยกับเลอสรรตามลำพัง

“คุณมีธุระอะไรคะ”

“ผมมาที่นี่ก็เพราะจะมาบอกกับศรีนวลว่าตอนนี้ผมเป็นคนไม่มีพันธะแล้ว ผมอยากจะมาขอคืนดีกับศรีนวล และตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของผมท่านก็ยินดี และอยากให้ผมกลับมาหาศรีนวล ผมเองก็รู้ตัวตลอดเวลาว่าผมลืมศรีนวลไม่ได้...แต่งงานกับผมนะศรีนวล”

ศรีนวลนิ่งอึ้งหน้าชา รู้สึกลำบากใจเพราะเธอเองยังรักเขาอยู่ แต่ที่สุดก็ต้องตอบออกไป “ขอโทษนะคะคุณเลอสรร ศรีนวลแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“คุณมาช้าเกินไป ตอนนี้ศรีนวลตกลงที่จะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นไปแล้ว”

“มันเป็นใคร บอกผมมาว่ามันเป็นใคร”

“สมิงค่ะ ศรีนวลรับปากแต่งงานกับสมิงไปแล้วเมื่อสักครู่”

“ไม่จริง ศรีนวลหลอกผมเล่นใช่ไหม มันไม่จริงใช่ไหม”

“ศรีนวลไม่เคยพูดเล่น คนอย่างศรีนวลคำไหนคำนั้น”

เลอสรรโกรธตะโกนเรียกสมิงลั่นไปหมด ในมือถือปืนสีหน้าดุดันจนศรีนวลอกสั่นขวัญผวากลัวปะทะกันนองเลือด...ลุงมหากับพวกกำนันธงกรูกันเข้ามา พอรู้เรื่องลุงมหาก็ขอร้องเลอสรรให้ใจเย็นๆ แต่ท่าทางจะไม่ได้ผล

“ไอ้สมิงมันอยู่ที่นี่ มันตัดหน้าผม มันขอศรีนวลแต่งงานไปแล้ว...ออกมาเดี๋ยวนี้ไอ้สมิง มาดวลกันให้ตายไปข้างหนึ่ง...ออกมา!”

“ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะคุณเลอสรร ถึงสมิงจะออกมาดวลกับคุณ ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ มันก็ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ศรีนวลจะแต่งงานกับสมิงค่ะ”

“ศรีนวลทำแบบนั้นไม่ได้นะ ศรีนวลเป็นเมียผม ผมจะไม่ยอมให้ศรีนวลแต่งงานกับคนอื่นเด็ดขาด”

“เลิกพูดเรื่องอดีตกันได้แล้วค่ะ ชาวบ้านที่ลานเทเขาเห็นมาตลอดว่าคุณทำกับศรีนวลยังไง ปล่อยให้ศรีนวลเป็นอิสระเถอะค่ะ”

“ศรีนวลหมดรักผมแล้วใช่มั้ย บอกมาซิว่าศรีนวลรักใครระหว่างผมกับไอ้สมิง”

“เมื่อก่อนศรีนวลรักคุณเลอสรรคนเดียว แต่ตอนนี้ศรีนวลรักสมิงค่ะ กลับไปเถอะคุณเลอสรร อย่ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตของศรีนวลอีกเลย ศรีนวลขอร้อง ขอโอกาสให้ศรีนวลได้มีความสุขกับคนที่ศรีนวลรักบ้าง”

ศรีนวลน้ำตาไหลพราก เพราะสิ่งที่เธอพูดเพื่อให้เลอสรรเข้าใจผิด แท้จริงเธอรักเขามาก แต่จำเป็นต้องทำตามคำขอร้องของเดือน...สมิงแอบมองมาด้วยรอยยิ้ม คิดว่าศรีนวลรักตน แต่ถึงยังไงเขาก็อยากรับคำท้าออกไปดวลกับเลอสรรให้รู้แล้วรู้รอด แต่ดาวกับบุญเหลือไม่เห็นด้วย ช่วยกันโน้มน้าวจนสมิงยอมหลบออกจากวัดกลับไปยังหมู่บ้าน

เลอสรรแค้นสมิงไม่หาย ย้อนกลับหมู่บ้านเพื่อจัดการสมิงในฐานะตนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องจับโจรให้ได้ และเขาเกือบทำสำเร็จถ้าบุญเหลือไม่ตัดสินใจเอาไม้ฟาดเขาจากข้างหลังจนสลบเหมือดไปเสียก่อน

ศรีนวลและทุกคนตกใจในการกระทำของบุญเหลือ แต่ไม่มีใครโกรธเคือง โดยเฉพาะลุงมหาที่บอกว่าบุญเหลือทำถูกแล้ว ถ้าเลอสรรไม่สลบเรื่องคงไม่จบแน่ เดี๋ยวตนเอาลงเรือไปถึงกรุงเทพฯ ก็น่าจะฟื้นพอดี

ก่อนกลับกรุงเทพฯ ลุงมหาขอคุยส่วนตัวกับกำนันธงด้วยเรื่องค้างคาใจว่าดาวเป็นลูกเลอสรรใช่หรือไม่แต่กำนันธงเอาแต่นิ่งอึ้งไม่อยากตอบเหมือนเคย

“ทำไมล่ะกำนัน ไหนๆศรีนวลก็กำลังจะแต่งงานใหม่ ดาวก็โตแล้ว ควรจะได้รู้เสียทีว่าพ่อของมันเป็นใคร”

“ดาวมันหลานของฉัน มันเป็นคนลานเท ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากหลานฉันไปเด็ดขาด”

“นั่นไง ฉันว่าแล้ว ที่แกกับศรีนวลช่วยกันปิดบังเรื่องพ่อของดาวก็เพราะกลัวว่าครอบครัวคุณเลอสรรจะมาเอาตัวไปนั่นเอง”

“ฉันขอร้องนะมหา แกอย่าบอกใคร อย่าเป็นเครื่องมือของคนรวยมาพรากหลานฉันไปจากอก ดาวมันต้องอยู่กับข้า กับศรีนวลไปจนตาย”

ลุงมหาพยักหน้ารับแล้วกลับกรุงเทพฯ พร้อมเลอสรรที่ยังไม่ฟื้น ท่านผู้ว่ากับศรีสอางค์เห็นสภาพลูกชายก็ตกอกตกใจซักถามลุงมหาเป็นการใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

“คือคุณเลอสรรไปพบศรีนวลที่ลานเทเพื่อขอคืนดี แล้วพอดีทางนั้นเขาปฏิเสธ คุณเลอสรรก็เลยไม่พอใจ”

“ก็เลยมีเรื่องกัน เลอสรรเลยโดนซัดจนสลบใช่มั้ย”

ลุงมหาพยักหน้ารับตามที่ท่านผู้ว่าเข้าใจ เพื่อให้เรื่องจบลงโดยเร็ว...เดือนแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง ยิ้มพอใจที่ศรีนวลทำตามสัญญา จากนั้นเธอกุลีกุจอเข้ามาเมื่อเห็นว่าเลอสรรรู้สึกตัว เลอสรรทบทวนเรื่องต่างๆก่อนลุกพรวดจะไปจับสมิงเข้าคุก ใครห้ามก็ไม่ฟัง

ระพี สมหมาย และตำรวจอีกนับสิบถูกเรียกตัวมาวางแผนการจับกุมสมิงอย่างเร่งด่วน โดยเลอสรรหมายมั่นปั้นมือว่าคราวนี้ต้องจัดการสมิงให้อยู่หมัด!

ooooooo

เลือดเจ้าพระยา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด