สมาชิก

เลือดเจ้าพระยา

ตอนที่ 14

สร้อยเพชรจ้างขจรศักดิ์มาทำมิดีมิร้ายดาวถึงในบ้าน โดยเธอวางยานอนหลับศรีสอางค์กับท่านผู้ว่าฯ ก่อนจะเรียกขจรศักดิ์เข้ามาโดยที่ลุงมหากับคนใช้ไม่มีใครรู้เห็น

แม้วางแผนอย่างรัดกุมแต่ขจรศักดิ์ที่คลุมหน้าด้วยไอ้โม่งก็ทำไม่สำเร็จเพราะดาว ดิ้นรนขัดขืนพร้อมทั้งส่งเสียงร้องจนศรีสอางค์ที่สะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยานอนหลับได้ยินและเปิดประตูออกมาเจอ

“ช่วยด้วยๆ” ศรีสอางค์ตะโกนเสียงหลงเมื่อเห็นดาวตกอยู่ในอันตรายถูกคนร้ายใช้ปืนจ่อ

ขจรศักดิ์ตกใจ  กลัวคนในบ้านแห่กันขึ้นมาจึงตรงเข้าผลักศรีสอางค์ตกบันไดแล้ววิ่งลงมาหมาย หนีออกจากบ้านให้เร็วที่สุด แต่ไม่คิดว่าจะเจอบุญเหลือวิ่งสวนเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วย เหลือ

สร้อยเพชรสังเกตการณ์อยู่ห่างๆอย่างลุ้นระทึก แต่สักครู่ก็โล่งใจที่ขจรศักดิ์ใช้ปืนขู่บุญเหลือจนสามารถวิ่งหนีรอดออกไป ได้ จากนั้นเธอรีบพลิกสถานการณ์ป้ายความผิดให้ดาวกับบุญเหลืออย่างหน้าด้านๆ

“ว้าย...ช่วยด้วยๆ นังดาวผลักคุณแม่ตกบันได จับมันไว้จับเร็ว จับทั้งสองคนนั่นแหละ”

ดาวกับบุญเหลือตั้งตัวไม่ทัน พยายามบอกใครต่อใครว่าไม่ใช่อย่างที่สร้อยเพชรเข้าใจแต่ก็ไม่เป็นผล...หลัง จากนั้น ศรีสอางค์อาการน่าเป็นห่วงถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลพร้อมท่านผู้ว่าฯที่โดนวางยา จนหมดสติคาบ้าน ฟื้นขึ้นมาจำอะไรไม่ได้เลย

“เกิดอะไรขึ้น ที่นี่ที่ไหน”

“คุณแม่โดนผลักตกบันได ส่วนคุณพ่อโดนวางยาค่ะ”

“วางยา?”

“ใช่ค่ะ คุณพ่ออย่าเพิ่งพูดอะไรเลยค่ะ หมอมาแล้ว”

หมอประจำตัวรีบพาท่านผู้ว่าเข้าห้องตรวจ ส่วนศรีสอางค์ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปก่อนหน้านี้ เดือนใจคอไม่ดีเป็นห่วงพวกท่าน หันมาถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นคุณย่าตกบันไดได้ยังไง แล้วทำไมคุณปู่ถึงโดนวางยา

“ก็แม่บอกแล้วไงว่าทั้งหมดนี่นังดาวมันเป็นคนทำ”

“คุณพ่อก็ไม่อยู่ เกียรติกล้าก็ไม่รู้ไปไหน แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะคุณแม่”

“แกไม่ต้องทำอะไร เรื่องทุกอย่างแม่จัดการเอง”

สร้อยเพชรลอบยิ้มสะใจ จากนั้นก็กลับมาที่บ้าน พร้อมลูกสาวเพื่อตัดสินดาวกับบุญเหลือที่ถูกจับมัดมือหมดอิสรภาพ โดยมีเกียรติกล้าและคนใช้ชายหญิงร่วมรับรู้

“เอาละ เพื่อให้เป็นธรรม ฉันจะเปิดโอกาสให้แกสองคนเล่ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ผมแค่มาเยี่ยมดาว ลุงมหาบอกให้ผมรอที่หน้าบ้าน แต่ผมได้ยินเสียงข้างใน ก็เลยวิ่งเข้าไปเห็นดาว คุณท่าน แล้วก็ขโมย”

“ใช่ค่ะ มีขโมยเข้ามาในบ้าน มันเอาปืนจี้ดาวที่หน้าห้องคุณย่า พอคุณย่าออกมาเห็นมันก็ผลักคุณย่าตกบันได”

“แล้วขโมยอยู่ไหน”

“มันหนีไปแล้วค่ะ”

“แล้วทำไมฉันไม่เห็น...ไหนคนบ้านนี้มีใครเห็นขโมยบ้าง”

ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็นเพราะอยู่หลังบ้าน เกียรติกล้าได้ทีเล่นงานสองพี่น้องว่าโกหกชัดๆ กลางวันแสกๆ ขโมยที่ไหนจะเข้ามาในบ้าน

“ใช่...พวกแกโกหกแน่นอน แล้วอย่าคิดนะว่าเรื่องที่แกสองคนมีอะไรกัน คนอื่นเขาจะไม่รู้”

คำพูดของสร้อยเพชรเล่นเอาดาวกับบุญเหลือตกตะลึง แล้วช่วยกันปฏิเสธพัลวันว่าพวกตนไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอนเพราะเราเป็นพี่น้องกัน

“แกแน่ใจนะว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไม่ใช่เด็กกำพร้าที่โดนเก็บมาเลี้ยง”

“ค่ะ พวกเราเป็นเด็กกำพร้า ถึงจะไม่ใช่พี่น้องทางสายเลือดแต่เราก็รักกันเหมือนพี่น้อง”

“ถ้าเป็นพี่น้องกันจริงๆ เขาคงไม่นอนถอดเสื้อกอดเกยกันอย่างที่ยายเดือนเห็นหรอก ใช่ไหมยายเดือน ไหนเล่าให้ทุกคนฟังหน่อยซิว่าลูกเห็นสองคนนี่ทำอะไร”

ทุกสายตามองมาที่เดือนอย่างจดจ่อ เดือนน้ำตาคลอสะเทือนใจที่ต้องเล่าในสิ่งที่ทำร้ายความรู้สึกของตน

“ค่ะ เดือนเคยเห็น...เห็นดาวกับบุญเหลือนอนด้วยกันในห้องที่วัด”

“ไม่จริง คุณเดือนกำลังเข้าใจผิด”

“กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง คนอย่างยายเดือนไม่ใช่เด็กพูดจาเหลวไหลเชื่อถือไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงยายเดือนจะไม่พูดเด็ดขาด”

“เดือนไม่เคยใส่ร้ายใคร เรื่องนี้เดือนเห็นจริงๆ” เดือนยืนยันทั้งน้ำตา ทำให้ทุกคนอึ้งไปตามกัน และเริ่มมองดาวกับบุญเหลืออย่างไม่วางใจ สร้อยเพชรสะใจและไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมือ ใส่สีตีไข่เข้าไปอีก

“แกสองคนแอบลักลอบได้เสียกัน พอคุณย่าจับได้แกก็เลยคิดจะฆ่าคุณย่าเพื่อปิดปาก ฉันจะจับแกสองคนส่งตำรวจ”

“ไม่ได้นะครับ ผมว่าเราจะทำแบบนั้นไม่ได้”

“ทำไม หรือว่าลุงมหาเป็นพวกเดียวกับมัน”

“นั่นสิ แกจะปกป้องพวกมันทำไม ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน”

“ผมเชื่อดาวกับบุญเหลือครับ ผมไม่คิดว่าเด็กสองคนทำอย่างที่โดนกล่าวหา ต้องมีการเข้าใจกันผิดแน่นอน”

“อย่าพูดพล่อยๆ แกมีหลักฐานอะไร”

“ไม่มีหลักฐานหรอกครับ แต่ผมอยากจะขอเอาตัวของผมเป็นประกันในฐานะที่เป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้ ผมขอร้องละครับ อย่าส่งดาวกับบุญเหลือไปโรงพักเลยครับ อย่างน้อยก็รอจนกว่าคุณเลอสรรจะกลับมา”

“คุณแม่อย่ายอม คนทำผิดต้องได้รับผิด มันทำร้ายคุณย่าแบบนี้ ยอมไม่ได้นะครับ”

สร้อยเพชรนิ่งไปนิดก่อนตัดสินใจอย่างชาญฉลาด “ก็ได้...ฉันจะไม่ส่งตัวมันสองคนให้ตำรวจ แต่มันต้องออกไปจากบ้านหลังนี้”

ดาวกับบุญเหลือไม่มีทางเลือก จำต้องพากันออกจากบ้านโดยมีลุงมหาเดินมาส่ง

“ลุงเชื่อว่าเราสองคนไม่ผิด และลุงก็ยอมไม่ได้เหมือนกันที่จะปล่อยให้เราสองคนโดนจับขังคุก”

“แต่ดาวต้องออกจากบ้านแบบมีมลทิน ยังไม่ได้พิสูจน์ความจริงเลยนะคะลุงมหา”

“ช่างมันเถอะดาว ใครมันจะเข้าใจยังไงก็ช่าง เราสองคนบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ไม่ต้องไปสนใจใครอะไรทั้งนั้น”

“ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ สักวันความจริงจะต้องปรากฏ”

“ค่ะ ดาวกราบขอบคุณลุงมหามากนะคะที่ช่วย”

“เอ็งสองคนก็เหมือนหลานของลุง...กลับไปลานเท ไปปรับความเข้าใจกับแม่เขาซะ ลุงเชื่อว่าไม่มีใครรักดาวเท่าแม่ศรีนวลหรอก”

สองพี่น้องไปแล้ว...เดือนอยู่ในบ้านมองตามหน้าเศร้า ต่างจากแม่และน้องชายที่ส่งยิ้มให้กันอย่างสาสมใจ แต่เกียรติกล้ายังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมแม่ปล่อยทั้งคู่ไปง่ายๆ ทำไมไม่จับส่งตำรวจให้รู้แล้วรู้รอด

“ไล่มันสองคนออกจากบ้านแบบนี้ดีแล้ว อย่างน้อยมันก็ออกไปอย่างคนมีมลทิน จะได้ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก”

“อ๋อ...คุณแม่กลัวว่าถ้าเรื่องไปถึงตำรวจ แล้วตำรวจจะพิสูจน์ได้ว่ามันไม่ผิดเหมือนครั้งที่แล้วใช่ไหมครับ”

“ใช่ แม่จะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเด็ดขาด”

ooooooo

น้อยพาชาวบ้านมาถึงผาช่องลมอย่างปลอดภัยโดยที่ระพีกับสมหมายจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่ถึงกระนั้น สองหนุ่มก็มั่นใจว่าผาช่องลมต้องอยู่บริเวณที่พวกตนยืนอยู่ แต่น่าแปลกที่หาทางเข้าไม่พบ...

ศรีไพรยังเศร้าเสียใจเรื่องสมิงจนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร แต่พอเห็นน้ำจิตน้ำใจของชาวลานเท จึงต้องทำตัวเข้มแข็งเพื่อเป็นผู้นำแทนสมิงไปช่วยเสือเฮี้ยน

ด้านบันลือกับสมุนที่หนีพวกตำรวจกลับฐานที่ตั้งก็บอกเล่าให้มเหศักดิ์ฟังเพื่อวางแผนรับมือ โดยให้ทหารรับจ้าง เตรียมออกรบ ใครยิงศัตรูตายมีรางวัลศพละหนึ่งพันบาท

บันลือนำกำลังทหารออกไป ทิ้งมเหศักดิ์เฝ้าฐานกับสมุนจำนวนหนึ่ง ระหว่างนี้เองศรีไพรนำกำลังฝ่ายตนบุกเข้ามาช่วยเสือเฮี้ยนแล้วเกิดปะทะกันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทั้งพ่อทั้งลูก ถ้าไม่ได้สมิงโผล่มาช่วยไว้

มเหศักดิ์โดนสมิงเล่นงานด้วยมีดจนเลือดอาบมือ... จ้องมองสมิงแทบไม่เชื่อสายตา

“ไอ้สมิง...นี่เอ็งหนีมาจากนรกหรือไงวะ”

“คนอย่างสมิง นรกไม่ต้องการ”

สมิงย่างสามขุมเข้ามา ขณะที่มเหศักดิ์เลือดอาบเริ่มถอยหนี โดยมีศรีไพรยิงไล่ไปก่อนที่เธอจะหันกลับมาหาสมิงด้วยความดีใจสุดขีด...ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเขายังมีชีวิตอยู่

“ไปเถอะ เรารีบพาเสือเฮี้ยนออกไปจากที่นี่เร็ว”

ศรีไพรได้สติถอยออกห่างสมิง แล้วช่วยกันพยุงเสือเฮี้ยนออกไป...

เวลาเดียวกันในป่าอีกด้าน ศรีนวลยังคงเดินวนเวียนไปมาเพื่อหลอกเลอสรรให้งุนงงจำเส้นทางไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่าเขารู้ทันเธอมาตลอดเพราะให้ระพีทำเครื่องหมายไว้ตามต้นไม้

ขณะที่ทั้งคู่เถียงกันไปมา บันลือกับทหารรับจ้างที่ตั้งใจบุกผาช่องลมผ่านมาเห็น จึงเกิดการยิงปะทะกันครู่หนึ่งก่อนที่กำลังเสริมของเลอสรรจะมาถึง พวกบันลือถูกไล่ยิงจนต้องถอยร่นหนีไป ส่วนศรีนวลไม่พอใจเลอสรรที่ขนกำลังมามากมาย

“คุณเอาตำรวจมามากขนาดนี้ คิดจะกวาดล้างคนที่ผาช่องลมใช่ไหม”

“ถ้ามีโอกาส...”

คำตอบของเลอสรรทำให้ศรีนวลแค้นใจและวิ่งหนีออกไปตอนเขาเผลอตัวพูดคุยกับลูกน้อง...เลอสรรรีบสั่งลูกน้องติดตามคนร้าย ส่วนตัวเองวิ่งตามศรีนวลไปอย่างกระชั้นชิด แต่จู่ๆไม่รู้เธอหายไปทางไหน ร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบ

ศรีนวลถูกสมิงกระชากหายเข้าไปหลังพุ่มไม้...เธอดีใจมากที่เขายังไม่ตายตามข่าวลือ แต่จากสภาพร่างกายคงเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน

“สมิงทนได้ ปล่อยไอ้เลอสรรมันไปก่อนนะ ตอนนี้เสือเฮี้ยนกับศรีไพรรออยู่ทางโน้น รีบไปกันเถอะ”

พวกสมิงพากันหนีตำรวจกลับผาช่องลมแล้วช่วยกันรักษาอาการเสือเฮี้ยนที่บาดเจ็บเพราะถูกบันลือซ้อม ขณะเดียวกันเลอสรรกับลูกน้องก็ต้องพากันกลับไปหมู่บ้านเพราะแกะรอยพวกสมิงไม่ได้ ซึ่งเลอสรรตั้งใจจะไปคาดคั้นเอากับกำนันธง

ข้อนี้ศรีนวลทราบดี เธอเป็นห่วงพ่อและอยากเดินทาง กลับหมู่บ้านให้เร็วที่สุดเพื่อที่พ่อจะได้ไม่ต้องตอบคำถามใดๆของเลอสรร สมิงจึงนำพาเธอไปทางด้านหลังผาช่องลมซึ่งเป็นเส้นทางลัดและน่าจะถึงก่อนคณะของตำรวจ

เลอสรรไปถึงลานเทเป็นเวลาที่ดาวกับบุญเหลือเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ หลังถูกสร้อยเพชรไล่ออกจากบ้าน ทั้งคู่เห็นตำรวจก็เกรงกลัวว่าพวกเขาจะตามมาจับตัวในข้อหาที่สร้อยเพชรยัดเยียดให้ว่าผลักศรีสอางค์ตกบันไดจึงพากันหลบมุมเพื่อความปลอดภัย

เลอสรรมั่นใจว่าคราวนี้กำนันธงจนมุมแน่เพราะเขาเจอศรีนวลในป่าแสดงว่าเธอต้องมีส่วนรู้เห็นกับพวกสมิง แต่กลายเป็นว่าขณะเขาคาดคั้นกำนันธงอยู่นั้น ศรีนวลกลับปรากฏตัวอย่างคาดไม่ถึง

ด้วยความประหลาดใจเสอสรรซักถามศรีนวลว่าทำไมกลับมาเร็วนัก ศรีนวลเฉไฉว่าคนบ้านป่าอย่างตนชำนาญการเดินป่ายังไงก็ต้องถึงเร็วกว่าคนเมืองอย่างพวกเขาอยู่แล้ว

“เอาละ เอาเป็นว่าผมจะไม่สอบถามอะไรต่อ แต่อยากจะเตือนอะไรสักอย่าง”

“เตือน?”

“ครับ ผมอยากจะบอกศรีนวลกับทุกคนที่ลานเทเอาไว้ว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับสมิงและคนที่ผาช่องลมอีก ไม่อย่างงั้นอาจโดนร่างแห”

“ขอบคุณค่ะ หมดธุระแล้วใช่ไหมคะ ศรีนวลจะซักผ้า”

ศรีนวลตัดบทจนเลอสรรชะงักแล้วจำใจต้องบอกลากลับไปพร้อมลูกน้อง ส่วนดาวกับบุญเหลือพอเห็นตำรวจไปแล้วก็รีบปรากฏตัวเข้ามาหาทุกคน ดาวกราบขอโทษศรีนวลทั้งน้ำตาที่หนีไปเพราะความน้อยใจ

“ดาวน้อยใจเรื่องอะไร ถึงต้องหนีแม่ไปแบบนี้”

“ดาว...เสียใจจ้ะแม่ ดาวได้ยินแม่คุยกับคุณเลอสรร ว่าดาวไม่ใช่ลูก ดาวไม่เคยรู้มาก่อนว่าดาวไม่ใช่ลูกแม่”

“ดาวเอ้ย...ไม่ว่าเอ็งจะเป็นลูกใคร แต่ตาก็รัก แม่เอ็งเขาก็รัก ไม่เคยคิดว่าเอ็งเป็นคนอื่น”

“แต่บุญเหลือแปลกใจจังจ้ะตา ทำไมใครๆรู้ว่าฉันเป็นลูกกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก แต่กับดาวเพิ่งมารู้เอาตอนโต ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีใครรู้เลย”

ศรีนวลและกำนันธงมองหน้ากันไปมาไม่รู้จะตอบข้อสงสัยของบุญเหลือยังไงดี

“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะนะ มันเป็นเรื่องสะเทือน ใจ” ศรีนวลตัดบทหน้าเศร้า ขณะที่กำนันธงก็เปลี่ยนเรื่องไปซักถามหลานทั้งสองว่ามีเรื่องอะไรกันมาจากกรุงเทพฯหรือเปล่า

“พวกเราโดนใส่ร้ายจ้ะตา คุณสร้อยเพชรหาว่าฉันกับพี่บุญเหลือผลักคุณย่าตกบันได”

“แค่นั้นยังไม่พอนะจ๊ะ ยังใส่ร้ายหาว่าฉันกับดาวเป็นผัวเมียกันอีก”

“อะไรนะ นี่พวกมันทำกับเอ็งสองคนขนาดนี้เลยเหรอ” สมิงขบกรามแน่นอย่างโกรธจัด หลังจากนั้นก็ปรึกษากับศรีนวลตามลำพังโดยไม่รู้ว่าขวดกับเหิมที่เดินทางมาด้วยแอบฟังอยู่

“ตามที่ดาวกับบุญเหลือเล่ามา ตัวการสำคัญของเรื่องก็คือผู้หญิงที่ชื่อสร้อยเพชร สมิงจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยส่งมือปืนมายิงสมิงกับพวกเมื่อครั้งที่แล้ว และบางทีอาจจะเป็นคนเดียวกับที่ส่งมือปืนมายิงศรีนวลด้วย”

“คุณสร้อยเพชรคงจะแค้นที่พวกเราไปทำลายครอบครัวของเขา”

“แล้วศรีนวลจะให้สมิงจัดการยังไง”

“อย่าทำอะไรนะสมิง มันเป็นเรื่องเข้าใจกันผิด ศรีนวลไม่อยากทำร้ายใคร”

“แต่ถ้าศรีนวลกับลูกเผลอ ผู้หญิงคนนี้ก็จะเป็นงูเห่าที่แว้งมากัดพวกเรา”

“ตอนนี้ดาวกับบุญเหลือก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเขาแล้ว ถ้าเราต่างคนต่างอยู่ ก็จะไม่มีเรื่องอะไรกันอีก”

“ก็ได้ ถ้าศรีนวลต้องการแบบนั้น”

“ขอบใจมาก ขอให้ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี ศรีนวลอยากอยู่อย่างสงบ ใช้ชีวิตเงียบๆ เพียงเท่านี้ก็พอแล้วสำหรับศรีนวล”

“สมิงจะทำอย่างที่ศรีนวลต้องการ”

สมิงรับปากเพื่อความสบายใจของศรีนวล แต่ขวดกับเหิมที่แอบฟังไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆแน่

ooooooo

กลับถึงกรุงเทพฯ เลอสรรทราบข่าวร้ายที่เกิดขึ้นจากสร้อยเพชรแต่เขาไม่ปักใจว่าดาวกับบุญเหลือจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ทำให้สร้อยเพชรไม่พอใจหาว่าเขาเข้าข้างเด็กสองคนนั้นทั้งที่มันจะฆ่าแม่ของเขา

“แต่เรื่องที่เธอเล่ามามันไม่มีเหตุผลเลย ฟังยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้”

“คุณลำเอียง คุณหลงนังเด็กนั่นจนหน้ามืดตามัว คุณไม่เคยรักฉัน ไม่เคยรักยายเดือนกับเกียรติกล้าเลย”

“นี่อย่าพูดจาเพ้อเจ้อนะสร้อยเพชร”

“ฉันไม่ได้เพ้อเจ้อ ก็ได้...ถ้าคุณไม่เชื่อเรื่องที่ฉันเล่า ก็เชิญไปตามมันกลับมาเสวยสุขที่บ้านนี้เลย...ไปสิ”

สร้อยเพชรโมโหเดินกระแทกเท้าหนีออกจากห้อง ทิ้งเลอสรรยืนหน้าเครียด มองพ่อกับแม่ที่ยังไม่ฟื้นอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความเป็นห่วง

ระพีก็ไม่เชื่อเหมือนกันเมื่อได้ฟังเดือนเล่ารายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องที่ดาวกับบุญเหลือมีอะไรกันเกินความเป็นพี่น้อง

“ถ้าเขาสองคนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ยังไงก็ไม่ควรจะนอนกอดกันแบบนั้น ที่ผ่านมาพวกเขาแสดงละครตบตาพวกเรามาโดยตลอด”

“อย่าเพิ่งตีความไปขนาดนั้นเลยครับ บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณเดือนคิดก็ได้”

“แล้วที่เขาผลักคุณย่าตกบันไดล่ะคะ เรื่องนี้คุณแม่เห็นกับตา”

“เรื่องนี้ผมว่าเรารอถามคุณย่าก่อนดีกว่านะครับ คุณย่าฟื้นมาเมื่อไหร่แล้วค่อยมาสรุปกัน”

“ก็ได้ค่ะ ยังไงความจริงก็ต้องเป็นความจริงอยู่แล้ว”

เดือนมั่นใจในความคิดของตัวเอง พอดีสร้อยเพชรเดินหน้าตึงเข้ามา ระพีจึงขอตัวกลับไปเพราะมีงานที่ต้องสะสาง ส่วนสองแม่ลูกพากันลงไปกินข้าวที่ร้านอาหารชั้นล่าง โดยที่เลอสรรยังคุยกับหมออยู่ในห้องคนไข้

“ผลตรวจออกมาแล้วครับ สาเหตุที่คุณท่านทั้งสองสลบแบบนี้เป็นเพราะโดนวางยานอนหลับครับ เป็นยานอนหลับชนิดเดียวกันทั้งคู่ โดยยาอาจจะละลายในเครื่องดื่มแล้วให้คุณท่านดื่ม”

“แล้วแม่ผมล่ะครับ บาดเจ็บอะไรจากการตกบันไดบ้างหรือเปล่า”

“โชคดีที่ท่านมีแผลแค่ฟกช้ำเท่านั้น สมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมากนัก แต่ยังไงคงต้องรอให้คนไข้ฟื้นอีกทีแล้วค่อยเช็กกัน”

“แล้วจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ”

“ท่านผู้ว่าอาจจะเป็นพรุ่งนี้ครับ เพราะคงจะดื่มยานอนหลับเข้าไปเยอะกว่า ส่วนคุณนายวันนี้บ่ายๆ ก็น่าจะฟื้นแล้ว”

“ขอบคุณมากนะครับหมอที่ช่วยดูแลพ่อกับแม่ผมเป็นอย่างดี”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นหมอประจำตัวคุณท่าน ยังไงก็ต้องดูแลสุดฝีมืออยู่แล้วครับ”

หมอและพยาบาลกลับออกไป บัวที่ฟังอยู่ห่างๆ ตัดสินใจเข้ามาบอกเลอสรรว่าก่อนที่ท่านทั้งสองจะสลบตนเป็นคนจัดของว่างเอง มีผลไม้ ขนม และน้ำส้ม...

ขณะที่เลอสรรคุยกับบัวอยู่นั้น สร้อยเพชรเพิ่งรู้จากเดือนว่าศรีสอางค์ใกล้ฟื้นจึงกังวลว่าท่านจะพูดความจริงว่าถูกใครผลักตกบันได นี่เองทำให้เธอต้องเร่งทำอะไรสักอย่างโดยเร็ว

สร้อยเพชรผละจากเดือนแล้วโทร.หาเกียรติกล้าที่บ้าน ให้รีบเอาหลอดยาเล็กๆในกระเป๋าของตนมาให้ที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ โดยไม่ยอมบอกว่ามันคือยาอะไร

ไม่นานนัก เกียรติกล้าก็มาพร้อมหลอดยานั้น เดือนเห็นกับตาถามแม่ว่ายาอะไรแต่ก็ไม่ได้คำตอบใดๆ นอกจากว่าเป็นยาส่วนตัวของแม่ จากนั้นสร้อยเพชรให้ลูกๆรออยู่ที่ร้านอาหาร ส่วนตัวเองแอบขึ้นไปที่ห้องคนไข้แล้วออกอุบายให้บัวไปซื้อขนม ทั้งที่บัวอิดออดไม่อยากไปเพราะเห็นว่าศรีสอางค์เริ่มรู้สึกตัว

ในที่สุด สร้อยเพชรก็เคี่ยวเข็ญจนบัวต้องออกไป จากนั้นเธอแอบผสมยานอนหลับใส่ในแก้วน้ำป้อนศรีสอางค์ที่ยังสะลึมสะลือ โดยไม่รู้ว่าบัวแง้มประตูแอบมองด้วยความสงสัย...

ooooooo

เลือดเจ้าพระยา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด