ตอนที่ 12
ดารินใช้พลังเทวดาระเบิดเรือขนถ่ายยาเสพติดของเสี่ยคงคาจนพินาศ ท่ามกลางความสงสัยของพวกเทวาที่เห็นชัดว่าท้องฟ้าปั่นป่วนผ่าเปรี้ยงปร้างเหมือนมีใครบางคนจงใจให้เกิด!
ฤทธิ์อยู่บ้านตัวเองแต่รับรู้ได้ถึงความแปรปรวนของธรรมชาติ แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งคล้ามปรากฏตัวตรงหน้าบอกให้รู้ว่าเวลานี้พลังเทวดากลับมารวมตัวกันครบห้าคนแล้ว ขนาดขาดไปถึงสองคือฤทธิ์กับมนต์ พลังเทวดายังรุนแรงอย่างนี้
ฤทธิ์รับฟังด้วยความหวาดกลัว เกาะขาคล้ามวิงวอนอย่างหมดรูป “ผมบอกตรงๆว่าผมกลัว กลัวมันเล่นงานผมสักวันหนึ่ง อาจารย์ต้องฆ่ามันนะครับ”
“รู้ใช่ไหมว่าข้าต้องการอะไร”
คล้ามแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียดน่ากลัว ฤทธิ์หมดทางเลี่ยงจำต้องตามตัวหยาดฟ้าบำเรอมันถึงบ้าน โดยกล่อมให้เธอเสียสละเพื่อพวกเรา
“ถ้าไม่มีอาจารย์...เสี่ยคงคากับทุกคนจะสู้มันไม่ได้ คุณหยาดเสียสละเพื่อพวกเราเถอะนะครับ”
หยาดฟ้าตัวสั่น น้ำตาไหลพราก เม้มปากกลั้นสะอื้น ยอมทอดกายให้คล้ามทั้งที่รังเกียจเป็นที่สุด!
ooooooo
ขณะร่วมโต๊ะอาหารกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก คงคารับโทรศัพท์จากใครบางคนแล้วสบถออกมาเสียงเครียดก่อนตัดสายทิ้งอย่างหัวเสีย
“เป็นไปได้ยังไง!!”
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับพ่อ”
“เรือสินค้าของเราโดนพายุถล่มอับปางกลางทะเล”
“เรือสินค้า...ตอนนี้คุณค้าขายอะไรหรือคะ หรือว่า...” กานดาถามไม่ทันจบ ถูกคงคาตวาดสวนทันควัน
“ไม่ต้องถามได้มั้ย ผมมีเงินให้คุณใช้จ่ายก็ดีแล้ว อยู่อย่างสุขสบายไม่ชอบเหรอ”
“คุณขังฉันไว้ในคุกหลังนี้ต่างหาก ไม่มีเมียคนไหนหรอกที่อยากเห็นผัวเห็นลูกทำตัวอย่างนี้”
“แม่ทำไมต้องทำให้พ่อโมโหด้วยก็ไม่รู้”
คำรณต่อว่า...กานดาน้อยใจถึงกับสะอื้น สั่งให้พร้อมพาตนออกไปจากนรกขุมนี้
“นรกเหรอ...อยากไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นไหนก็เชิญเลย” คงคาตะโกนไล่หลังอย่างหงุดหงิด แล้วพอตกบ่ายทราบผลการเลือกตั้งจากหยาดฟ้าว่าเทวาชนะคำรณขาดลอย คงคายิ่งโมโหฉุนเฉียว ไม่ต่างจากคำรณที่ผิดหวังจนแทบคลั่ง ตวาดใส่หยาดฟ้าที่ตั้งท่าจะจาระไนผลคะแนน
“ไม่ต้องสาธยายอะไรทั้งนั้น ฉันแพ้มันวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแพ้มันตลอด วันพรุ่งนี้มันก็คงไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วละ”
“แกจะทำอะไรคำรณ”
“ผมจะให้ไอ้ฤทธิ์ฆ่ามัน”
“หยุดเลยคำรณ ขืนแกทำเวลานี้มีแต่คนปัญญาอ่อนเท่านั้นที่ไม่คิดว่าพวกเราเป็นคนทำ”
“ก็ไหนพ่อว่าเงินของพ่อคุ้มครองผมได้หมด”
“ถึงได้แกก็ต้องนอนคุกก่อนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะคลี่คลาย แกต้องการอย่างนั้นเหรอ”
“ผมยอมทุกอย่าง ขออย่างเดียวให้ไอ้เทวามันตาย” คำรณพูดดุดัน แววตามาดหมาย!
แต่ถึงยังไงคำรณก็ยังมีมุมที่อ่อนแอ เขาเดินดุ่มไปหาแม่ที่เรือนเล็ก ซบหน้าลงกับตักแม่โดยไม่อายพร้อมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กานดาประหลาดใจถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
“ผมไม่รู้แม่ว่าเป็นอะไร รู้แต่ว่าวันนี้ผมอ่อนแอ อยากอยู่กับแม่ อยากให้แม่ปลอบ”
“ทุกข์ของลูกมีเท่าไหร่ แม่ก็จะยอมทุกข์มากกว่าเป็นหลายเท่า บอกแม่มาเถอะ ลูกมีปัญหาอะไร”
“ผมแพ้เลือกตั้ง พวกชาวบ้านไม่เลือกผม ทั้งที่พ่อมีเงิน ยอมให้พวกมันกู้ยืมมากมาย ทำไมพวกชาวบ้านถึงได้เป็นอย่างนี้”
“ความรักไงล่ะคำรณ ถ้าเปลี่ยนความชังเป็นความรักไม่ได้ อำนาจก็ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ อยากให้เขารักเรา ภักดีต่อเรา อยู่ในอำนาจเรา ลูกก็ต้องมีความรักให้เขาก่อน เป็นความรักที่เกิดจากความจริงใจด้วยนะลูก”
หยาดฟ้าเดินท่าทางยโสโอหังเข้ามาบอกคำรณว่าคงคาให้มาตาม คำรณจึงลุกขึ้นบอกลากานดา
“ผมไปก่อนนะแม่”
“จ้ะ อย่าลืมที่แม่บอกนะ ลูกต้องมีความรักให้ทุกคน”
“อุ๊ยตาย คุณผู้หญิงคิดจะให้คุณคำรณเป็นกามเทพมีปีกบินแจกจ่ายความรักหรือคะ” หยาดฟ้าแดกดันกานดา พร้อมตอบโต้ปกป้องนายของตนทันที
“คนกิเลสหนาปัญญาหยาบอย่างหล่อนไม่มีวันเข้าถึงคำพูดของคุณผู้หญิงหรอก”
“นังพร้อม! จะมากไปแล้วนะ”
พร้อมมองหน้าหยาดฟ้าไม่เกรงกลัว หยาดฟ้าเลยไม่กล้า สะบัดหน้าก้าวตามคำรณไป
“พร้อม...ฉันดีใจที่ลูกแพ้เลือกตั้ง อย่างน้อยก็ไม่ทำบาปต่อแผ่นดิน”
“ยังไงหรือคะคุณผู้หญิง”
“ถ้าได้ตำแหน่ง พ่อเขาคงบังคับให้คำรณใช้อำนาจไปในทางไม่ชอบ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน นี่แหละบาปต่อแผ่นดิน อย่าลืมว่าเงินเดือนผู้ใหญ่บ้านก็มาจากภาษีประชาชนนะ”
พร้อมพยักหน้าเข้าใจ...แต่คนที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากบ้าอำนาจก็คือคงคา เขาสั่งการฤทธิ์ต่อหน้าหยาดฟ้าและคำรณให้ไปหามือปืนฝีมือดีจัดการเทวาให้สิ้นชื่อในคืนนี้!
ooooooo
มือปืนเลือกจังหวะเวลาที่ชาวบ้านร้องรำทำเพลงแสดงความยินดีกับเทวาที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านเข้ามาปะปน แต่ไม่อาจพ้นสายตาของดารินไปได้
ด้วยสัญชาตญาณตำรวจทำให้เธอรู้สึกผิดสังเกตกับกลุ่มชายแปลกหน้าที่แทรกตัวเข้ามาในกลุ่มชาวบ้าน เมื่อพวกมันลงมือ ดารินจึงบันดาลให้ฝนตกกระหน่ำลงมา ขณะที่เทวาก็ใช้พลังลมสลาตัน ทำให้มือปืนพ่ายแพ้และโดนรวบตัวโดยละม่อม แถมมันยังซัดทอดว่าฤทธิ์เป็นผู้จ้างวาน
จากนั้นไม่นาน คณะของเทวาก็ลากคอมือปืนไปที่บ้านกำนันฤทธิ์ ทุกคนร้องเรียกอย่างสิ้นความเคารพนับถือให้เขาโผล่หัวออกมา
“ไอ้ฤทธิ์ ไอ้พี่ทรยศ ออกมาพูดกันให้รู้เรื่อง...ออกมา”
“มุดหัวอยู่ทำไมในบ้านวะ”
“จริงอย่างที่เขาพูดกันโว้ย ว่ากำนันฤทธิ์ขี้ขลาดตาขาว”
“พังบ้านมันเลยดีกว่า”
เทวา เดช สิงห์ และก้องยืนจังก้าไม่กลัวลูกน้องของฤทธิ์ที่โผล่ออกมาพร้อมอาวุธปืน
“บอกนายพวกเอ็งออกมาพูดกันให้รู้เรื่อง” เทวาตะโกนลั่น ในที่สุดฤทธิ์ก้าวออกมาจากในบ้าน ลูกน้องประกบรายรอบพร้อมปกป้อง
“เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยหมาลอบกัดเสียที พี่ส่งคนไปดักฆ่าผมที่ตลาด ผมจับไอ้นี่ได้ที่ร้านเฮียเม้ง สมุนรับใช้ไอ้เสี่ยคงคามันบอกว่ากำนันฤทธิ์ใช้มันมา พี่มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย”
เทวาเปิดฉากอย่างฉุนเฉียว ฤทธิ์เหลือบมองมือปืนตาแข็งกร้าว
“มันบอกอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่” เทวาตอบรับเสียงดังฟังชัด
“มันกล้าซัดทอดมาที่ข้า ไอ้นี่เห็นทีจะเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
ขาดคำ ฤทธิ์ชักปืนยิงมือปืนกระสุนเจาะกลางหน้าผากล้มลงทันใด พวกก้องที่ควบคุมตัวมันอยู่กระโดดหลบทันไปคนละทาง แล้วลูกน้องฤทธิ์ก็ยิงถล่มมายังกลุ่มของเทวา
สี่หนุ่มรวมพลังเทวดาป้องกันตัวเอง กระสุนจากฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ เทวาเรียกลมสลาตันมา สิงห์ตะบันลูกไฟของตนเข้าใส่ฤทธิ์และลูกน้อง ทุกคนวิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศ
ฤทธิ์กระโดดขึ้นเรือสปีดโบ๊ตได้ก่อน ขับออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของลูกน้อง...ทุกคนหวาดกลัววิ่งหนีลงทะเลไปหมด ก้อง สิงห์ และเดชทำท่าจะตามแต่เทวาร้องห้ามเสียก่อน
“อย่า! กลับกันเถอะ พวกมันก็แค่ทำงานตามคำสั่งของคนชั่ว อาจจะทำเพื่อความอยู่รอดก็ได้...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะต้องปราบอิทธิพลของพวกมันให้หมดไปจากเกาะมุกให้ได้”
“ข้าร่วมมือกับเอ็งเต็มที่อยู่แล้ว” เดชกล่าวแข็งขัน ทุกคนต่างยิ้มให้กันด้วยมิตรภาพ
ooooooo
ฤทธิ์หนีตายไปที่บ้านเสี่ยคงคา กลับถูกเขาตบหน้าอย่างโมโหโกรธาหลังฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“นายทำอะไรผิดพลาดหมดทุกอย่าง เสียแผนหมด”
“ผมพยายามแล้ว แต่พลังเทวดาช่วยมันไว้ได้ นี่มันยังบุกไปที่บ้านผม ผมหนีมันมานะเสี่ย”
“น่าจะพิจารณาตัวเองได้แล้วนะนายฤทธิ์ ถ้าคิดว่ามือไม่ถึงละก็ อย่าเป็นกำนันเลยดีกว่า”
คำรณยิ้มหยัน ฤทธิ์ไม่พอใจแต่ต้องเก็บกลั้นความรู้สึกเอาไว้ หยาดฟ้าเห็นแล้วอดเห็นใจไม่ได้ บอกเสี่ยคงคาว่าคนที่จะปราบเทวาได้มีคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาก็คืออาจารย์คล้าม
คณะของคงคาออกเดินทางทันทีมุ่งหน้าสู่เกาะหัวสิงห์ แต่เมื่อเผชิญหน้ากัน คล้ามกลับปฏิเสธเสียงแข็งว่าจะไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น เพราะพวกเขาผิดสัญญา ไม่มีคนมาหยอดน้ำผึ้งบำรุงกายสังขารของตนนานนับเดือนแล้ว
“ผมขอโทษ ต่อไปนี้ผมจะให้เป็นธุระของไอ้ศรให้มันจัดการเรื่องนี้ครับ”
“อาจารย์ต้องช่วยเรานะครับ ตอนนี้เราเดือดร้อนมาก”
“ข้าบอกเอ็งแล้วไอ้ฤทธิ์ ไม่มีทางเอาชนะพวกพลังเทวดาได้ นอกจากสลายพลังเทวดาให้มันแตกแยกกัน ตอนนี้พวกเทวดามาพร้อมกันทั้ง 5 คนแล้ว มันจะยิ่งปราบได้ยากมากขึ้น เมื่อพลังเทวดาอ่อนแอ พวกมันก็ไร้ความหมาย อย่างที่สอง พลังทั้งหมดเกิดจากการบูชาอย่างต่อเนื่องยาวนาน พวกเจ้าต้องทำลายแหล่งรวมของพลังนั้นให้ได้”
“อยู่ที่ไหนเหรอครับอาจารย์”
“ที่ที่เจ้าเกิดไงล่ะ เจ้าฤทธิ์”
“เจดีย์วัดเกาะมุก” ฤทธิ์พึมพำออกมา คงคาบอกว่าอย่างที่สองนี่ไม่น่ายาก จู่ๆคำรณคลานเข้าไปหาคล้ามที่หน้าแท่นหิน คงคามองด้วยความสงสัย
“ผมอยากเรียนวิชาจากอาจารย์อย่างจริงจัง เผื่อว่าผมจะใช้พลังจากวิชาของอาจารย์ได้บ้าง”
“ศิษย์หนึ่งไม่เห็นค่าครูบาอาจารย์ อีกศิษย์หนึ่งกลับศิโรราบกราบไหว้ขอเรียนวิชา...เอาสิ...ข้าจะสอนให้เจ้าอย่างไม่ปิดบังในเวลารวดเร็วที่สุด”
ฤทธิ์นิ่งอึ้งน้อยใจ แต่ไม่มีใครใส่ใจ คงคาสนับสนุนการกระทำของคำรณ คล้ามรวบรัดทันทีว่า
“วันพรุ่งนี้เจ้ามารับลูกชายกลับบ้านได้ ข้าจะถ่ายพลังให้มันแทนการเรียนวิชาอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
“พรุ่งนี้เลยเหรอครับอาจารย์ วิเศษจริงๆเลย”
คำรณตื่นเต้นยินดี คาดหวังว่าหลังเรียนวิชาแล้วต้องเอาชนะพวกเทวดาทุกคนได้อย่างแน่นอน...
คงคากับฤทธิ์กลับออกมาริมชายหาดที่ธง ศร และพันจอดเรือรออยู่...คงคาให้พันไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายของตน ศรอยู่ทำหน้าที่หยอดน้ำผึ้งให้คล้าม ส่วนธงให้ขับเรือพาตนกลับไป
ธงสีหน้าแช่มชื่นกว่าใครเพราะไม่อยากอยู่ที่ถ้ำหัวสิงห์ ครั้นเรือแล่นออกไปกลางทะเล อยู่ดีๆคงคาก็บอกให้ธงหยุดเรือ ฤทธิ์เริ่มไม่ไว้ใจระวังตัวแจ
“มีอะไรเหรอเสี่ย”
คงคาชักปืนออกมาเล็งไปที่ฤทธิ์ ตะคอกเสียงใส่ “ทำไมเอ็งไม่บอกเรื่องน้องเอ็งยังมีอีกคนหนึ่ง ตั้งใจจะเก็บไว้เล่นงานพวกฉันใช่ไหม”
“เปล่าครับ...ผมเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้”
“เอาพลังเทวดาของนายมาใช้กับฉันสิ มาเลย...ไอ้พวกเทวดานี่พอหมดพลังก็เหมือนหมดบุญไม่มีคุณค่าอะไรสักนิด”
“เสี่ยต้องการอะไรครับ”
“เปล่า ก็แค่อยากพิสูจน์ว่านายยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”
“ผมยังเป็นลูกน้องของเสี่ยเหมือนเดิม”
“ยอมตายเพื่อฉันได้เลยหรือเปล่า นายฤทธิ์...ว่าไง ได้หรือเปล่า”
ฤทธิ์ยังไม่ทันตอบ คงคาก็ยิงใส่แต่จงใจไม่ให้ถูก ฤทธิ์ตกใจล้มลงไปไม่เป็นท่า ลูกปืนแต่ละนัดเฉี่ยวไปอย่างหวาดเสียว...ฤทธิ์หอบหายใจแรง คงคาหัวเราะสะใจ
“ทีนี้ตานายบ้าง อยากรู้ว่านายจะกล้าฆ่าฉัน หรือไว้ชีวิตฉันเหมือนที่ฉันไว้ชีวิตนายหรือเปล่า”
“ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับเสี่ย...ผมนับถือเสี่ยเหมือนพ่อของผมคนหนึ่ง”
“พ่อเลยหรือวะ” คงคายื่นมือออกมา ฤทธิ์จับมือคงคา ส่วนธงยืนคุมเชิงถือปืนอยู่ที่หัวเรือ
สองคนจับมือกันเหมือนคู่มิตร แต่ความจริงต่างคิดแค้นอยู่ในใจของตนว่า
“ไอ้เสี่ยบ้าอำนาจเอ๊ย สักวันจะชำระแค้นให้สาสมกับที่แกทำกับฉัน”
“อ่อนหัดอย่างนี้นี่เองไอ้ฤทธิ์ ถึงทำงานไม่เคยสำเร็จ ไอ้คนไม่มีสมอง ฮึ วันที่ลงจากตำแหน่งก็คงไม่ต่างกับหมาข้างถนน หรือไม่ฉันนี่แหละจะกระชากนายลงมาเอง”
ooooooo
เทวายังสงสัยไม่หายเรื่องที่ตัวเองรอดตายเมื่อวันก่อน...คืนนี้เขาพูดคุยกับน้าบุญกู้อยู่ที่วัดตามลำพัง
“วันที่พี่ฤทธิ์เอามือปืนมายิงผม ถ้าไม่มีฝนตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผมคงตายไปแล้วครับน้าบุญกู้ ฝนนั้นเหมือนไม่ใช่ฝนธรรมดา น้าบุญกู้กับหลวงปู่เคยบอกว่าผมยังมีน้องเล็กอีกคนไม่ใช่เหรอครับ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“อาจจะอยู่ใกล้ๆเราก็ได้ พลังเทวดาจะทำให้เขาเผยตัวออกมาเอง อย่าคิดตามหาเลย”
“ทำไมล่ะครับ”
“คนที่มีพลังเทวดาเหมือนกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำบุญร่วมกัน อธิษฐานมาเป็นมิตรกันเสมอไปหรอก”
“ผมไม่เข้าใจ”
“ก็เหมือนเอ็งกับไอ้ฤทธิ์ไงล่ะ”
เทวาพยักหน้าพอจะเข้าใจ...เวลาเดียวกันนั้น ดาริน เพิ่งพาปลาดุกออกจากโรงพยาบาลกลับมาที่ห้องเช่าในเกาะมุก
“ขอบใจมากนะริน”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบใจเธอ ถ้าเธอไม่ไปช่วยฉันที่ร้านเหล้าวันนั้นฉันคงตายไปแล้ว เธอไม่น่ารับเคราะห์แทนฉันเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันตายมันก็แค่นักมวยหญิงไม่มีอันดับตายไป แต่แกน่ะสิ ถ้าแกตายประเทศชาติจะสูญเสียอีกมาก”
“แกรู้...” ดารินถามเสียงแผ่ว ปลาดุกพยักหน้าแล้วอธิบายว่า
“พฤติกรรมของแกมันบอกนานแล้วว่าแกมาทำงานบางอย่างบนเกาะมุก บางทีฉันอาจจะกลับบ้านนะริน คิดถึงพ่อ อีกอย่างฉันน่าจะช่วยแกด้วยการส่งข่าวระหว่างแกกับคนอื่นๆ ที่แกต้องการได้ อย่างน้อยฉันก็รู้จักใครต่อใครบนเกาะมุกมากพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง”
“บางทีเสร็จงานนี้แล้วประเทศไทยจะมีตำรวจหญิงคนใหม่ก็ได้”
“แกหมายถึงฉันหรือเปล่าวะ”
“ใช่แล้ว”
ปลาดุกดีใจกระโดดตัวลอย แล้วก็เจ็บแปลบแผลที่แขนจนร้องโอ๊ย ดารินเลยสมน้ำหน้า...ดีใจไม่ดูสังขารตัวเอง
ooooooo
เมื่อได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านอย่างท่วมท้นให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน เทวาตั้งมั่นจะทำให้เกาะมุกปราศจากยาเสพติด การค้าประเวณี และการพนัน
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังมีฤทธิ์กับเฮียเม้งที่คอยรับใช้เสี่ยคงคา ทั้งคู่เปิดตัวเป็นศัตรูกับเทวา แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ดารินก็แอบช่วยเหลือเทวาโดยใช้พลังเทวดาที่ตัวเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันมีมาได้ยังไง
ยิ่งดารินใช้พลังเทวดาบันดาลให้ฝนตก เทวาก็รู้สึกว่าน้องเล็กของตนอยู่บนเกาะมุก แต่พอถามน้า
บุญกู้ก็ไม่ได้คำตอบอื่นใด นอกจากว่าสักวันเขาจะเผยตัวออกมาเอง เพื่อมารวมตัวกันทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์ของแผ่นดิน
ด้านคำรณที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์คล้าม บัดนี้เขาได้รับถ่ายพลังและวิชาอาคมสำเร็จลุล่วงแล้ว เมื่อกลับมาที่บ้านจึงเกิดความคึกคะนองลำพองใจว่าตนเก่งกาจเหนือมนุษย์ พาสมุนเดินทางไปที่ร้านเฮียเม้งเพราะอยากเจอดารินผู้หญิงที่ตนหลงรัก แต่วันนี้ดารินไม่อยู่ร้าน คำรณจึงสั่งเฮียเม้งไว้ว่าถ้าคืนนี้เธอมาทำงานให้รีบโทร.บอกตนด้วย
ดารินไปที่วัดเกาะมุกใต้ เธอปวดหัวขึ้นมาทันทีที่เดินผ่านเจดีย์ บุญกู้พาเธอมานั่งพักและพูดคุยกัน
“น้าช่วยบอกหนูหน่อยเถอะว่าหนูเป็นใคร ทำไมหนูต้องมาที่เกาะมุก หนูรู้สึกว่าหนูมีพลังพิเศษ อยากทำอะไรก็ทำได้อย่างใจนึก โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับฝนและน้ำ”
“ทำไมหนูถึงตั้งใจมาที่นี่ แล้วถามคำถามนี้กับน้า”
“เพราะหนูรู้ว่าน้าเลี้ยงพวกของเทวามา เขามีพลังพิเศษบางอย่างที่คนอื่นไม่มี แต่บังเอิญหนูมี...มันเกิดขึ้นเองนะคะ หนูไม่ได้ไปหามาจากไหน”
“หนูชื่อวารินใช่ไหม”
“วาริน...น้าไปเอาชื่อนี้มาจากไหน”
“อ้าว หนูไม่ได้ชื่อวารินหรอกรึ...หรือว่าเปลี่ยนชื่อ เดี๋ยวนี้ใครๆก็ชอบเปลี่ยนชื่อกัน”
“หนูชื่อดารินมาตั้งแต่เล็กแล้วค่ะน้า...ไม่ใช่วาริน”
“วารินแปลว่าน้ำ หนูมีพลังของน้ำ หนึ่งในนักเลงเทวดา...ตามน้ามา”
ดารินเดินตามบุญกู้เข้าไปในโบสถ์ แล้วนั่งลงกราบพระประธานสวยงามเก่าแก่
“ที่นี่เป็นโบสถ์มหาอุด ไม่มีหน้าต่าง โบราณเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์นักนะแม่หนู ใช้ปลุกเสกวัตถุมงคล แม้แต่เราเองมาสวดมนต์นั่งสมาธิในนี้ก็พลอยได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย”
“น้าเล่าเรื่องให้หนูฟังบ้างสิ ว่าเด็กหญิงวารินคนที่น้าว่านั่นเป็นใครกัน”
“พ่อหนูชื่ออะไร”
“พ่อหนูชื่อร้อยตำรวจเอกสุชาติค่ะ แม่ชื่อมณี ตอนนี้ตาบอด อยู่กรุงเทพฯกับอาของหนูชื่อบุญเกิด”
“จริงเหรอแม่หนู”
“ค่ะ พ่อเป็นตำรวจ อาบุญเกิดเล่าว่าพ่อปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดแล้วโดนพวกมันฆ่าตาย แม่หนูก็พลอยถูกมันทำร้ายจนตาบอด”
“บุญเกิดมันเป็นน้องชายของน้าเอง ไม่ได้เจอกันนาน มันยังทำหน้าที่นี้อยู่อีกเหรอ”
ดารินตกใจและงุนงง บุญกู้เล่าความหลังต่อไปว่าน้องชายของตนเป็นตำรวจติดตามพ่อของดาริน หลังจากเกิดเหตุบุญเกิดก็หายสาบสูญไป
“หนูเป็นใคร น้าบอกหนูมาตามความจริงเถอะค่ะ”
“หนูไม่ใช่ลูกของพ่อสุชาติกับแม่มณีหรอกนะ แต่หนูคือเทพที่ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ กำเนิดมาด้วยพลังของเทพเพื่อมาปกป้องบ้านเมือง เมื่อหนูเกิดมาเป็นหญิง หลวงปู่เกรงว่าหากเลี้ยงไว้ในวัดจะถูกติฉินได้ในภายหน้า จึงยกหนูให้เป็นลูกของสุชาติ หนูจึงต้องกลับมาที่นี่ไงล่ะ น้าคิดว่าบุญเกิดมันรู้เรื่องนี้ดี แต่มันไม่ยอมบอกใคร”
“เพราะไม่ปลอดภัยนี่เอง แม่หนูจึงเปลี่ยนชื่อจากวารินเป็นดาริน”
การสนทนาของทั้งคู่ยุติลงเพราะได้ยินเสียงรถ บุญกู้ชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอกแล้วหันกลับเข้ามากำชับดารินที่นั่งน้ำตาซึมหลังจากรับรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง
“เช็ดน้ำตาซะ ลืมเรื่องนี้ให้หมด อย่าเล่าให้ใครฟัง ไม่งั้นหนูเองจะไม่ปลอดภัย อย่าออกไปไหนนะ ปิดประตูลงกลอนซะ”
บุญกู้เดินออกไป ดารินยังงงๆ แต่ก็รีบลงกลอนประตู แล้วกลับมานั่งพนมมือไหว้พระประธานบอกกล่าวว่าตนกลับมาแล้ว ปกปักรักษาตนด้วย
ooooooo
คำรณมาพร้อมสมุนสามคน เขาใช้วิชาที่ร่ำเรียนจากอาจารย์คล้ามขุดเจาะเจดีย์เพื่อหวังสมบัติ แต่ไม่สำเร็จเพราะดารินใช้พลังเทวดาสกัดและจัดการกับทั้งสามคนจนแตกกระเจิงหนีไป
พวกเทวารับรู้ได้ถึงพลังเทวดาที่เกิดขึ้นจึงพากันกลับมาที่วัด แต่ไม่พบดารินเพราะบุญกู้บอกให้เธอเร้นกายออกไปอย่าให้ใครรู้เห็น
เมื่อวิชาที่ร่ำเรียนมาใช้ไม่ได้ผล คำรณหัวเสียอย่างมากไประบายอารมณ์ด้วยการตบหน้าฤทธิ์ ก่อนจะพาสมุนไปเที่ยวแก้กลุ้มที่ร้านเฮียเม้ง
พวกคำรณพากันออกไปได้ครู่เดียว หยาดฟ้าโทร.มาหาฤทธิ์...จากที่กำลังหงุดหงิดไม่พอใจคำรณ ได้ยินเสียงหยาดฟ้า ฤทธิ์ถึงกับยิ้มออก
“คุณหยาด ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน”
“อย่าเพิ่งหวานเวลานี้เลยนายฤทธิ์ ฉันต้องการความช่วยเหลือ”
“คุณหยาดมีอะไรให้ผมช่วยเหลือ”
“ฉันไม่อยากอยู่ในนรกขุมนี้แล้ว แต่ไม่รู้จะหนีจากพวกมันได้ยังไง ตั้งแต่คำรณกลับมาก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ บ้าประลองวิชาจนวุ่นวายกันไปหมด”
“อดทนนะครับ...เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ผมฟังหน่อย บางทีคุณอาจสบายใจขึ้นบ้าง”
หยาดฟ้าเล่าเรื่องที่เธอทะเลาะกับกานดาโดยมีเปียเป็นชนวนเหตุ กานดาสงสารเปียที่โดนกักขังและโดนหยาดฟ้าตบตีทำร้าย แต่เมื่อสองฝ่ายทะเลาะกัน คำรณก็เข้ามาช่วยแม่ของตนด้วยการใช้วิชาที่เรียนจากคล้ามทำร้ายเธอ
“ถ้าอย่างนั้นเราก็มีศัตรูคนเดียวกัน เราต้องร่วมมือกันนะคุณหยาด ผมรับรองว่าผมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่คุณ ผมยอมเป็นทาสคุณไปทั้งชีวิต”
“ขนาดนั้นเลยเหรอนายฤทธิ์” หยาดฟ้ายิ้มสะใจ...ยืมมือฤทธิ์จัดการคำรณให้หายแค้น!
ooooooo
เวลานั้น คำรณอยู่ที่ร้านเหล้าเฮียเม้ง เขาต้องการหลับนอนกับดารินโดยให้เฮียเม้งช่วยเจรจา...ไม่นานจากนั้นดารินก็ถือถาดเครื่องดื่มเข้าไปในห้องวีไอพีที่คำรณรออยู่
แรกเห็นหญิงสาวคำรณก็อดใจไม่อยู่ โถมตัวเข้ากอดและพยายามจะจูบ แต่ดารินผลักเขาล้มไปบนเตียง
“ทำสะดีดสะดิ้ง ผู้หญิงทำงานร้านเหล้าต้องหวงตัวด้วยเหรอ หรือว่าเล่นตัวอยากได้ค่าตัวสูงๆ ต้องการเท่าไหร่บอกมาเลย”
“ถ้าทะเบียนสมรสหนึ่งใบล่ะ”
“ผมให้คุณได้อยู่แล้วนะดาริน ชีวิตนี้ผมไม่เคยรักใครเท่าคุณเลย...มาสิ มานั่งข้างๆผม”
“ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟค่ะ ขอทำหน้าที่ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน”
“งั้นก็ตามใจ...ราตรีนี้ยังยาว เรายังได้อยู่กันอีกนานจนกว่าจะเช้าวันใหม่”
ดารินเริ่มผสมเหล้าพร้อมกับแอบภาวนาในใจเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากคนชั่ว
“ด้วยอำนาจของพลังเทวดาที่ฉันมีอยู่ ขอให้เหล้านี้มีพลังแห่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จงทำให้ผู้ชายคนนี้หลับใหลไม่ได้สติ”
ปรากฏว่าคำรณรับเหล้าแก้วนั้นไปดื่มก็คอพับคออ่อนหลับใหลภายในไม่กี่นาที ดารินจึงกลับลงมาข้างล่างแล้วตอบคำถามเฮียเม้งที่ผิดสังเกตว่าทำไมเร็วนัก
“เขาบอกว่าอยากนอนพัก ถ้าตื่นแล้วจะมาเรียกฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ”
ดารินนวยนาดจากไป พอพ้นสายตาผู้คนก็ตรงดิ่งไปที่ชายหาดเพราะเห็นเงาของใครหลายคนยืนอยู่...
พวกเทวานั่นเอง สิงห์กำลังต่อว่าเทวาไม่รักษาคำพูดได้เป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วแต่ยังไม่ช่วยเหลือเปียเมียของตน เดชกับก้องพยายามช่วยกันอธิบายแต่สิงห์ไม่รับฟัง เอาแต่ด่าเทวาจนเกือบจะกลายเป็นลงมือลงไม้กัน
เดชากับก้องดึงสิงห์จากไป ทิ้งเทวายืนครุ่นคิดหน้าเครียดเพียงลำพัง ดารินแอบฟังเรื่องราวเดินออกมาปรากฏตัว พูดอย่างรู้ทันเขาว่าคิดไปก็เท่านั้น ถ้าไม่ลงมือทำ
“แอบฟังอยู่ล่ะสิ”
“เสียงดังสะท้อนกับสายลม สงสัยว่าดังไปถึงตลาดแล้วมั้งท่านผู้ใหญ่บ้าน”
“สิงห์มันใจร้อน ผมยังหาวิธีตามเมียมันกลับมาไม่ได้เลย”
“ฉันอาจช่วยคุณได้นะ”
“มันอันตราย คุณอย่ายุ่งเรื่องนี้เลย”
“ลองไว้ใจฉันดูสักครั้ง ฉันมีวิธี แต่ทุกคนต้อง ร่วมมือ”
หลังจากตกลงกับเทวาเรียบร้อยแล้ว ดารินรีบกลับที่พักเล่าเรื่องราวให้ปลาดุกฟังก่อนจะถูกเธอทักท้วงว่า
“ปัญหาใหญ่ทั้งสองอย่างเลยนะแก เรื่องตามเมียนายสิงห์ฉันว่าแกทำได้ แต่เรื่องนายคำรณ แกจะทำยังไง หรือว่าแกไม่กลัวเสียตัว”
“บ้าสิ ฉันจะใช้นายคำรณเป็นเครื่องมือเข้าไปหาผู้หญิงที่ชื่อเปีย”
ดารินหมายมั่นปั้นมือ แล้วปะเหมาะพอดีเจอ
คำรณที่ตลาดในเช้าวันถัดมา แผนการจึงเริ่มต้นทันที!
“เมื่อคืนเธอเอายานอนหลับให้ฉันกินใช่ไหม” คำรณเปิดฉาก
“อะไรกัน ฉันก็รินเหล้าต่อหน้าคุณ ถาดเหล้านั้นเฮียเม้งก็เป็นคนให้ฉันเอาขึ้นมา ฉันจะแอบใส่ยาให้คุณตอนไหน”
“แต่ฉันไม่เคยเป็นอย่างนี้”
“เหล้าปลอมมั้ง ได้ยินแขกพูดเหมือนกันว่ากินแล้วปวดหัว แถมยังง่วงซึม ไม่สนุก เฮียเม้งยิ่งเป็นคนงกอยู่ด้วย ซื้อเหล้าหนีภาษีมาแน่ๆ”
คำรณคลายความโกรธลง ถามอย่างมีความหวัง “แล้วคืนนี้ล่ะ”
“อย่าเลยค่ะ คุณถามฉันไม่ใช่เหรอว่าอยากได้อะไร ฉันก็บอกคุณแล้วว่าทะเบียนสมรส ผู้หญิงดีๆอย่างฉันพูดแบบนี้น่ะมีความหมายนะคะ”
“พูดจริงหรือเปล่าล่ะ”
“ว่าแต่แม่คุณจะยอมรับฉันเหรอ”
คำรณไม่ตอบ แต่พาดารินไปพบแม่ของตนที่บ้าน หวานใจเห็นดารินก็วิ่งแจ้นไปรายงานหยาดฟ้าว่านังผู้หญิงชงเหล้ามันมาเหยียบถึงถิ่นเรา
กานดาไม่ว่าอะไรคำรณสักคำถ้าจะมีแฟน แต่หยาดฟ้าพาคงคาเข้ามาขัดขวาง
“นี่ไงคะเสี่ย นังผู้หญิงชงเหล้าในร้านเฮียเม้ง คุณคำรณพามาเชิดหน้าชูตาถึงบ้าน เสี่ยจะว่ายังไงล่ะคะ”
“เขาจะเป็นใครฉันไม่สนใจหรอก ขออย่างเดียวให้เขารักคำรณและคำรณก็รักเขาเท่านั้น”
“เธอจะไม่สืบดูกำพืดของแม่นี่หน่อยเหรอ” คงคาติงกานดา
“ฉันไม่เชื่ออดีตว่ามันจะทำให้คนเป็นอย่างนั้นไปทั้งชีวิตหรอกค่ะ ผู้หญิงบางคนอยู่ในบ้านผู้ดีมีเงินก็ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ดีได้...ฉันขอโทษนะที่ทำให้หนูไม่สบายใจ ไปคุยที่เรือนเล็กของฉันดีกว่า”
ดารินเดินตามกานดากับพร้อมไปอย่างเจียมตัว หยาดฟ้ากระแทกเสียงหมั่นไส้
“เอ้า เชิดชูกันเข้าไป สักวันมันก็คงมาเปิดร้านเหล้าในบ้านนี้หรอก”
“พูดมากอยากเจอดีใช่ไหม เดี๋ยวก็จับผีเข้าสิงหรอก”
หยาดฟ้าผงะถอยกรูด กลัวคำรณใช้วิชาอาคมทำร้ายเหมือนคราวก่อน คงคาถามลูกชายว่าคิดยังไงถึงพาผู้หญิงคนนี้มาบ้าน
“ผมรักรินจริงๆนะครับ บางทีผมจะแต่งงานกับเธอ”
หยาดฟ้าตะลึง อยากจะคัดค้านแต่ก็ไม่กล้าพอ...
ที่เรือนเล็ก กานดาเอ็นดูดารินไม่น้อยเพราะเธออ่อนน้อมถ่อมตน...ในขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น เปียเดินผ่านมา ดารินจับตามองพลางคิดหาช่องทางพาเปียออกไปพบพวกเทวาให้ได้ เมื่อสบโอกาสเธอแอบกระซิบถามเปียว่าจำคนชื่อสิงห์ได้หรือไม่ เปียอยู่ในสภาพความจำเลอะเลือน แต่นึกๆอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้า ดารินจึงอาสาพาเธอไปพบสิงห์ โดยอ้างกับกานดาว่าตนเคยทำงานเป็นอาสาสมัครดูแลคนพิการซ้ำซ้อน บางคนน่าสงสารมาก ร่างกาย
ไม่สมประกอบแล้วยังมีปัญหาที่สมองอีก
“แต่อาการแบบนี้แก้ไม่ยากหรอกค่ะ ต้องพาแกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง สมองแจ่มใสแล้วก็จะดีขึ้นเอง”
“ลำพังฉันเองโลกก็แคบเหลือแค่ในบ้านหลังนี้เท่านั้น จะมีปัญญาเอาแม่เปียไปเที่ยวเล่นที่ไหนได้ล่ะ”
“รินพาไปได้นะคะท่าน”
เมื่อกานดาไม่ขัดข้อง ดารินจึงพาเปียออกไปยังชายหาดซึ่งนัดพวกเทวาไว้ หยาดฟ้ารู้เห็นก็รีบมาบอกคงคาที่กำลังดุด่าคำรณที่รักชอบผู้หญิงอย่างดาริน
“เร็วเข้าเถอะค่ะ นังดารินพานังเปียออกไปนอกบ้านแล้ว งูเห่าจริงๆเลยนังนี่”
“ไปบอกไอ้พวกนั้น เอาตัวนังเปียมาให้ได้ ถ้าได้นังนั่นมาด้วยยิ่งดี”
“พ่อจะทำอะไรแฟนผมไม่ได้นะครับ”
“แฟนเหรอ แกใช้สมองคิดหน่อยซิ แกจะเอาผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นเมีย แกอย่าบ้าเหมือนแม่แกนะ”
คำรณโดนคงคาด่าจนหน้าจ๋อยแต่ในใจยังดึงดันไม่ยอมอยู่ดี...
ที่ชายหาด ดารินมองหาพวกเทวา แต่แล้วจู่ๆสิงห์วิ่งพรวดออกมาล็อกตัวเปียลากถูลู่ถูกังลุยน้ำไปขึ้นเรือประมง โดยที่ก้องกับเดชก็ห้ามไม่ทัน
“อย่ามายุ่งกับข้านะ ข้าเอาตายหมดไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม”
“ไอ้สิงห์ เอ็งอย่าทำอะไรบ้าๆนะโว้ย”
สิงห์ไม่สนใจ ขับเรือออกไปกลางทะเล ดารินตกใจไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ภาวนาขอให้สิงห์กับเปียปลอดภัย
ระหว่างนี้กลุ่มของพันวิ่งกรูมา พวกดารินรีบซ่อนตัวจับตามอง
“มันไปโน่นแล้ว กลับไปเอาเรือเร็วตามไปดีกว่า” พูดจบพันวิ่งนำศรกับธงไปอีกทาง
ooooooo










