ตอนที่ 12
อัลบั้ม: "อาคม" ละเครแนวสืบสวน-แฟนตาซี ได้ "เจมส์ มาร์" ประกบ "มาร์กี้"
วีรกรรมของคิมหรือชายสวมหน้ากากเป็นที่ชื่นชมของผู้คนทั่วประเทศ ภาพลักษณ์วายร้ายกลายเป็นฮีโร่ในสายตาของคนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กๆและคนที่เขาเคยช่วยเหลือในอดีต เอื้อกานต์รับฟังเรื่องราวของเขาจากคนรอบข้างจนเริ่มหวั่นใจ กลัวชื่อเสียงจะทำให้เขามีจุดเด่นและได้รับอันตราย
ธีรภูมิกับสัตตบงกชก็คิดไม่ต่างจากเอื้อกานต์
ยิ่งเห็นแฟนเพจและการเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากชายสวมหน้ากากยิ่งกลุ้มใจ กลัวชายสวมหน้ากากจะถูกตำรวจจับเสียก่อน
นภก็เป็นหนึ่งในตำรวจที่เฝ้าจับตาวีรกรรมของชายสวมหน้ากาก ตามติดทุกคดีและตั้งเป้าจะจับตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ เพราะแม้ชายสวมหน้ากากจะช่วยเหลือผู้เดือดร้อน แต่ก็ใช้วิธีนอกกฎหมาย
ทีเกื้อที่รู้ดีว่าคิมคือชายสวมหน้ากาก พยายามช่วยพูดบ่ายเบี่ยงประเด็น จนท่านรองฯและนภหันเหความสนใจจากคดีของชายสวมหน้ากากเป็นคดีค้ามนุษย์ที่กำลังระบาดแต่หาตัวคนบงการไม่ได้
แน่นอนว่าทางตำรวจมั่นใจว่าคนบงการค้ามนุษย์มีพวกในหนุนหลังเลยยังจับไม่ได้ ทีเกื้อขอความ ช่วยเหลือจากคิมที่บังเอิญเจอกันในโรงพยาบาลที่เดชาพักรักษาตัว
“ตอนนี้พี่กลายเป็นคนดังแล้ว มีแต่คนพูดถึง แย่งซีนผม ไม่มีพื้นที่ให้ผมออกโรงเป็นพระเอกบ้างเลย”
“พี่ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นข่าวกลายเป็นคนดังแบบนี้เหมือนกัน ทำไงได้...คนมันจะดัง อะไรก็ฉุดไม่อยู่”
“อย่าดังมากก็แล้วกัน ยิ่งคนให้ความสำคัญกับพี่ ตำรวจก็จะยิ่งตามกลิ่นพี่ได้ง่าย ผมไม่อยากจับพี่เข้าคุก”
“ขอบใจนะ...แต่พี่อยู่ในที่มืด ไม่มีใครสนใจหรอก”
“แต่พี่เป็นเหมือนแสงสว่างสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีแสงสว่างออกมาจากตัวพี่ แต่ยิ่งพี่สว่างเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายสำหรับตัวพี่”
“เอาเป็นว่าพี่จะระวังก็แล้วกัน...”
ooooooo
ระหว่างที่คิมกับทีเกื้อช่วยกันสืบคดีค้ามนุษย์ ฮันเตอร์ก็ซ้อนแผนด้วยการจับวิญญาณเกริกภพมาเป็นทาสรับใช้ บีบบังคับให้ไปล้วงความลับจาก เดชาที่เพิ่งได้สติแต่ไม่ยอมบอกใคร
เดชากลัวมาก ยอมคายความลับเรื่องคดีทรงพล รวมไปถึงคดีของฮันเตอร์เมื่อหลายปีก่อน ฮันเตอร์โกรธมากและไม่รอช้าจะไปเจรจากับคิมที่ไม่ยอมใช้อาคมเพื่อล้างแค้น
“แกเลิกล้างแค้นเพื่อมาทำเรื่องแบบนี้น่ะเหรอ คิดว่าตัวเองเป็นตำรวจรึไง”
“แล้วอาจารย์คิดว่าตัวเองเป็นผู้พิพากษารึไงครับ ถึงได้ใช้ศาลเตี้ยตัดสินและลงโทษคนอื่น”
“เดี๋ยวนี้แกกล้าเถียงฉันแล้วเหรอ”
“ผมขอให้อาจารย์เข้าใจผมด้วยเถอะครับ ผมไม่อยากใช้อาคมเพื่อความแค้นของตัวเองอีกแล้ว”
“แกก็เลยเลิกใช้อาคมจัดการคนชั่วอย่างนายวัฒน์ นายศักดิ์ชายงั้นสิ”
คิมพยักหน้ายอมรับ ฮันเตอร์หัวเสียมากแต่พยายามเก็บอาการ
“แปลว่าแกคงไม่สนใจแล้วใช่ไหมว่าเหยื่อรายสุดท้าย...คนที่วางแผนฆ่าพ่อแกคือใคร”
แววตามีเลศนัยของอาจารย์ทำให้คิมนิ่วหน้า ลึกๆก็อยากรู้ คิมหัวเราะรู้ทัน
“เคยได้ยินไหม...เรื่องเจ้ากรรมนายเวรที่ต้องวนเวียนมาเจอกัน ถึงจะหนียังไงก็หนีกันไม่พ้น”
“อาจารย์หมายความว่าไงครับ อาจารย์ต้องการจะบอกอะไรผมกันแน่”
“คนที่แกกำลังจ้องเล่นงานก็คือลูกของเหยื่อที่ทำร้ายพ่อแกนั่นแหละ!”
“ศักดิ์ชาย...เป็นคนสั่งฆ่าพ่อผมเหรอ”
ท่าทางตกตะลึงของศิษย์เอกทำให้ฮันเตอร์สาแก่ใจนัก ตอกย้ำและปั่นหัว
“ถึงแกไม่ได้ตั้งใจจะล้างแค้น แต่สุดท้ายสิ่งที่แกทำก็คือการล้างแค้นมันอยู่ดี”
“คิดว่าผมจะเชื่ออาจารย์เหรอ อาจารย์ใช้มุกนี้เพื่อหลอกให้ผมกลับมาทำงานให้อาจารย์มากกว่า”
“ถ้าแกไม่เชื่อก็ไปถามเดชาเองสิ ตอนนี้มันพูดรู้เรื่องแล้ว...ยังไงคนชั่วก็คือคนชั่ว สันดานไม่เปลี่ยนง่ายๆ หรอก ถ้าแกให้โอกาสมัน ไม่ฆ่ามันวันนี้ สักวันมันก็กลับมาทำเรื่องชั่วๆอีก จะมีคนที่เป็นเหยื่อของมันแบบแก แบบฉัน แบบแดนอีกมากมาย แกก็เห็นอยู่ ความตายเท่านั้นที่จะหยุดมันได้...จำคำฉันไว้!”
นอกจากฮันเตอร์ ศักดิ์ชายก็เป็นอีกคนที่ใช้เดชาเป็นเครื่องมือ แอบติดเครื่องดักฟังขนาดจิ๋วไว้และรอเวลาให้ชายสวมหน้ากากมาติดกับ คิมที่เพิ่งรู้เรื่องจากฮันเตอร์แวะมาเค้นความจริงพอดี เลยเข้าแผนพอดี
เดชาสารภาพหมดเปลือก คิมสะเทือนใจมากและ แม้จะรู้ว่าทุกอย่างเป็นกับดักของศักดิ์ชาย จะล่อตนไปฆ่าก็ตัดสินใจจะไปพบตามนัดเพื่อเคลียร์เรื่องทุกอย่าง วัฒน์ได้ยินแผนร้ายของพ่อก็เป็นห่วง แต่ศักดิ์ชายก็ยืนยันจะทำตามแผน โดยคาดไม่ถึงเลยว่าแผนจะรั่วเพราะใครบางคน
เอื้อกานต์นั่นเองที่แวะมาตรวจร่างกายวัฒน์ตามนัด สีหน้าเป็นกังวลของเขาทำให้คุณหมอสาวล่วงรู้ความลับในที่สุดว่าศักดิ์ชายมีแผนจะล่อชายสวมหน้ากากหรือคิมมาฆ่า!
ooooooo
คิมในคราบชายสวมหน้ากากไปพบศักดิ์ชายตามนัดเพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคดีของพ่อ โดยเฉพาะสาเหตุที่ต้องฆ่ากัน แต่ที่เขาคาดไม่ถึงคือสีหน้าไม่ยี่หระของอีกฝ่ายที่รออยู่แล้วอย่างใจเย็น
“กล้ามากนะที่มาคนเดียว ท่านทรงพลคงเป็นคนสำคัญของแกสินะ ถึงยอมทำอะไรเพื่อคนที่ตายแล้วขนาดนี้”
ศักดิ์ชายทำการบ้านมาไม่น้อย และพอเดาได้ว่าชายสวมหน้ากากคือทรงกลด แต่อยากถามให้แน่ใจ
“ถ้าให้เดา...แกคงคือทรงกลดใช่ไหม”
“คนตายไปแล้วจะฟื้นมาได้ยังไง”
“นั่นสินะ...มันตายทั้งโคตร ไม่มีใครรอดมาได้”
“คุณอยู่เบื้องหลังในการฆ่าทรงพลจริงรึเปล่า”
“แกมีคำตอบในใจอยู่แล้วจะถามทำไม”
“ผมอยากรู้จากปากคุณมากกว่า...คุณเป็นเพื่อนสนิทท่าน คุณแค้นอะไรท่าน ทำไมต้องทำกับท่านขนาดนี้”
คำถามของชายสวมหน้ากากทำให้ศักดิ์ชายแสยะยิ้ม “ท่านเป็นคนซื่อตรง เป็นคนดีเกินไป อุดมการณ์ของท่านเลยขัดกับฉันหลายอย่าง แต่ฉันก็ทำอะไรท่านไม่ได้เพราะท่านมีอิทธิพลมาก มีแต่คนเคารพท่าน ฉันเลยคิดว่าควรจะโค่นท่าน แล้วหาคนอื่นมาเป็นประธานทีบีกรุ๊ปแทนดีกว่า ฉันเลยเป่าหูนักธุรกิจคนอื่นๆให้เกลียดท่าน”
คิมกำหมัดแน่น โกรธแต่พยายามข่มใจฟังแผนชั่วของอีกฝ่าย “ฉันเป่าหูเดชาให้มันอยากเป็นประธานทีบีกรุ๊ป หลอกให้มันวางแผนฆ่าท่าน ฉันบอกให้มันจัดฉากใส่ร้ายว่าท่านฟอกเงินและค้ายาบ้า”
ภาพความทรงจำในอดีต ตอนทรงพลถูกใส่ร้ายแวบมาในหัวอีกครั้ง คิมเจ็บปวดใจมาก
“ฉันสั่งให้มันกดดันคุณหญิงให้ทำข่าวกดดันท่านทรงพล ทำให้ท่านโดนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์จนทนความกดดันไม่ไหว เดชาหลอกให้คุณหญิงทำให้ท่านทรงพลขึ้นเครื่องบินหนีไปและฉันก็เป็นคนสั่งระเบิดเครื่องบินลำนั้นเอง”
เสียงระเบิดกับร่างจมกองเลือดของพ่อแม่ยังติดในหัว คิมแค้นมาก แต่ศักดิ์ชายกลับเล่าอย่างไม่รู้สึกผิด
“หลังจากนั้นเดชาก็ได้เป็นประธานทีบีกรุ๊ปสมใจ ส่วนคมกฤช เกริกภพ คุณหญิงและคนอื่นๆก็ได้แบ่งผลประโยชน์ของท่าน ส่วนฉันได้คนโง่ๆและอ่อนแออย่างมันมาเป็นประธานทีบีกรุ๊ป แต่ก็ทำให้ฉันจูงจมูกพวกมันได้ง่ายขึ้น ฉันเอาหลักฐานเรื่องนี้คอยแบล็กเมล์เดชาให้คอยทำตามฉัน โดยที่ฉันไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย”
แผนการของศักดิ์ชายกระจ่างในหัว คิมหรือชายสวมหน้ากากแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่ เกือบจะได้เปิดฉากลงมือก่อนแล้ว ถ้าศักดิ์ชายจะไม่กระชากปืนมาจ่อยิงเขาก่อน!
คิมหรือชายสวมหน้ากากคิดหาทางออก แต่ก็ต้องถอยหลบแทบไม่ทันเมื่อมีรถคันหนึ่งแล่นมาขวางระหว่างเขากับศักดิ์ชาย เอื้อกานต์นั่นเองที่ตามมาช่วยด้วยความเป็นห่วง คิมตกใจมากที่เห็นเธอ แต่ไม่มีเวลาซัก ต้องรีบพาเธอหนีห่ากระสุนของเหล่าลูกน้องศักดิ์ชายไปจนถึงโกดังร้างแห่งหนึ่ง...
ooooooo
เหล่าลูกน้องของศักดิ์ชายตามติดชายสวมหน้ากากกับผู้ช่วยปริศนาจนถึงโกดังร้าง คิมกับเอื้อกานต์กอดกันกลมในซอกแคบๆ รอจนปลอดคนถึงได้มีโอกาสพูดกัน
“มาที่นี่ทำไม...มันอันตรายนะ”
“ฉันกลัวคุณได้รับอันตรายมากกว่า”
คิมถึงกับพูดไม่ออก ทั้งเคืองทั้งปลื้มที่เธอเป็นห่วง แต่อย่างหลังคงมีมากกว่าเลยกอดแน่นจนเธอรู้สึกผิดปกติ ค่อยๆลืมตาช้าๆ ความกลัวเหือดหายไปแล้ว เหลือแต่ความประหลาดใจ
“พวกมันไปแล้วนี่”
“ผมก็ต้องเช็กให้แน่ใจก่อน”
เอื้อกานต์แน่ใจแล้วว่าถูกหลอกกอด ผลักตัวออกเขินๆ
“นานขนาดนี้...พวกมันกลับถึงบ้านแล้วมั้ง”
“ขอบคุณนะที่มาช่วยผม”
แววตาจริงใจของเขาทำให้เอื้อกานต์ตัดสินใจพูด ตรงๆ “ถึงคุณพยายามจะไล่ฉันไป อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตคุณ แต่ฉันก็ยังอดห่วงคุณไม่ได้อยู่ดี...อย่าหาย ไปไหนอีกเลยนะ ให้ฉันได้รู้ว่าคุณไปไหน ทำอะไรอยู่ก็ยังดี”
คิมใจอ่อนยวบ แต่ไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเหมือนมีคนขอให้ช่วย สองหนุ่มสาวรีบตามเสียงนั้นไป จนพบว่าแท้จริงแล้วโกดังแห่งนี้ก็คือที่กักขังเด็กและผู้หญิงจำนวนมาก
สองหนุ่มสาวมองหน้ากันอึ้งๆ รู้โดยไม่ต้องถามว่าโกดังแห่งนี้เป็นของใคร เพราะมันไม่ไกลจากที่นัดหมายกับศักดิ์ชาย เสียงร้องคร่ำครวญของเด็กๆและผู้หญิงทำให้คิมกับเอื้อกานต์ยิ่งเครียด แต่ก็จำต้องผละมาก่อน
ทันทีที่พ้นจากบริเวณโกดัง คิมกับเอื้อกานต์ก็ถึงกับถอนใจยาว
“ที่แท้เด็กที่หายไปก็เป็นฝีมือของศักดิ์ชายนี่เอง”
“ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ใจดีแบบนี้...จะค้ามนุษย์”
“เขาเลวกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ”
“ฉันไม่สบายใจที่เราทิ้งเด็กพวกนั้นออกมา”
“ผมไม่ได้ทิ้ง แต่ขืนช่วยตอนนี้ รับรองโดนจับทั้งเด็ก ทั้งคนช่วยแน่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้คงต้องให้เป็นเรื่องของตำรวจ...แล้วตกลงคุณมาช่วยผมได้ยังไง”
“ฉันได้ยินข่าวจากวัฒน์...”
เอื้อกานต์เรียบเรียงเรื่องที่แอบได้ยินจากวัฒน์หลังจากนั้น คิมซาบซึ้งใจมาก ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเพราะมีแผลจากการหลบหนี คุณหมอสาวเลยพาเขาไปทำแผล
ท่าทางเอาใจใส่ของคุณหมอสาวทำให้คิมยิ้มบางๆ ด้วยความปลื้มใจ อดแซวไม่ได้
“ถ้าหมอเป็นหมอประจำตัวให้ผม ทำแผลให้ผมได้ตลอดแบบนี้ก็คงดีสินะ”
“ไม่มีหมอคนไหนอยากทำแผลให้คนไข้แบบนี้บ่อยๆหรอก โดยเฉพาะถ้าคนไข้คนนั้นเป็นคนที่เรา...รู้จัก”
“แต่เจอหมอดีๆแบบนี้ คนไข้ที่ไหนจะอยากหายล่ะ...”
ooooooo
คิมตัดสินใจพักเรื่องแค้นส่วนตัวเพราะอยากช่วยเด็กและผู้หญิงที่ถูกล่อลวงมากกว่า แดนอาสาช่วยแข็งขัน ร่วมด้วยทีเกื้อที่อาสาจะขอกำลังเสริมจากท่านรองฯมาช่วยตัวประกันทั้งหมด
แต่หนอนในกรมตำรวจก็ทำให้แผนจับกุมและช่วยตัวประกันล้มเหลว ท่านรองฯโกรธมาก ถึงกับคาดโทษ ทีเกื้อให้ยุติการสืบคดีนี้ชั่วคราว หากฝ่าฝืนจะสั่งย้ายทันที
ทีเกื้อหอบสีหน้าหนักใจไปเจอคิมที่ยังไม่ยอมแพ้ หาทางจะช่วยเด็กและผู้หญิงให้ได้
“นี่เป็นข้อมูลเด็กทั้งหมด แผนที่โกดังของพวกมัน เส้นทางที่พวกมันน่าจะย้ายเด็กๆ พี่สำรวจไว้ให้หมดแล้ว”
“ตอนนี้ผมโดนท่านรองฯคาดโทษ ถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจนหรือหมายศาล ผมก็คงพาตำรวจไปจับกุมมันไม่ได้”
“เพราะพี่ทำให้เราพลาดไปครั้งก่อนใช่ไหม”
“ไม่หรอก...เพราะพวกมันมีสายต่างหาก ถึงตอนนี้ผมพากำลังไปจับได้ มันก็ไหวตัวทันอยู่ดี หลายครั้งแล้วที่ตำรวจจะจับมัน แต่มันก็หนีได้ทันตลอด”
“เป็นแบบนี้ก็แย่...ปัญหาตอนนี้คือนายไม่สามารถพาตำรวจไปได้”
“ใช่...แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้มันหรอก ถึงจะมีแค่ผมคนเดียว ผมก็ต้องจับมันให้ได้”
“ถ้านายพาตำรวจไปไม่ได้ เราก็คงต้องลุยกันเอง แล้วล่ะ”
“พี่จะจัดการพวกนั้นเองคนเดียวเนี่ยนะ...”
ศักดิ์ชายลำพองใจมากที่หลอกทีเกื้อได้ครั้งก่อน การซื้อขายมนุษย์รอบถัดไปเลยไม่มีการเลื่อน แต่เลือกจะสร้างสถานการณ์โดยใช้พวกตำรวจเป็นเครื่องมือ ล่อให้พวกชายสวมหน้ากากมาติดกับแทน
ท่านรองฯไม่รู้เรื่องแผนร้ายที่ซ่อนอยู่ของศักดิ์ชาย รับฟังแผนการจับตัวชายสวมหน้ากากด้วยสีหน้านิ่งสงบ
“เราต้องล่อให้มันออกมาครับ ตอนนี้คนร้ายมันกำลังเหลิงที่ทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยคนไปทั่ว...ถ้าเราแจ้งเบาะแสปลอมให้คนร้ายออกมาช่วย มันต้องมาแน่ๆครับ”
“แต่มันฉลาด มันคงไม่เชื่อข่าวของเราง่ายๆหรอก”
“เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง ผมจะสร้างสถานการณ์ให้มันเชื่อว่ากำลังมีการค้ามนุษย์แล้วให้มันมาช่วย ท่านรองฯแค่เตรียมกำลังให้เต็มที่เพื่อจับมันตามที่ผมนัดหมายก็พอ”
ศักดิ์ชายรีบจัดการทุกอย่างตามแผน แสร้งปล่อยข่าวเรื่องนัดส่งเด็กกับผู้หญิงเพื่อล่อให้ชายสวมหน้ากากโผล่มาติดกับ โดยมีพวกตำรวจมาเป็นกำลังเสริม
เอื้อกานต์สังหรณ์ใจไม่ดี ติดต่อแฝดน้องไม่ได้ เลยต้องโทร.ตามกับนภที่ยอมเผยข้อมูลว่าทีเกื้อจะไปดักจับการค้ามนุษย์ คุณหมอสาวร้อนรนมาก มั่นใจว่าคิมต้องมีส่วนกับเรื่องนี้ เลยพยายามหาทางไปสังเกตการณ์ ด้วยการเกาะติดธีรภูมิกับสัตตบงกชที่จะไปทำข่าวตามคำเชิญของชายสวมหน้ากาก!
ooooooo
คิมเตรียมแผนตลบหลังไว้แล้ว เลยส่งอีเมล ไปเชิญธีรภูมิกับสัตตบงกชมาร่วมทำสกู๊ปพิเศษ ศักดิ์ชายมัวย่ามใจเลยคาดไม่ถึงว่าคิมในคราบชายสวมหน้ากากจะย้อนแผนเขาได้เจ็บแสบขนาดนี้
ทีเกื้อที่ร่วมมือกับคิมอย่างลับๆ เฝ้ามองสถานการณ์การแลกเปลี่ยนสินค้าจอมปลอมของศักดิ์ชายด้วยสีหน้าเงียบสงบ พลางครุ่นคิดถึงบทสนทนากับคิมเมื่อวันก่อนถึงแผนตลบหลังวันนี้
“พี่มีวิธีจะเรียกตำรวจไปที่ท่าเรือที่มันจะส่งเด็ก พี่จะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้ตำรวจมาจับพี่ ตอนนี้ศักดิ์ชายวางแผนดักจับพี่ เราก็จะเล่นตามเกมไปให้พวกมันจับ แล้วพี่จะพาตำรวจทั้งหมดไปที่ท่าเรือเอง”
คิมในสภาพชายสวมหน้ากากเริ่มดำเนินการ ตามแผน ถอดจิตล่อพวกตำรวจออกไปถึงท่าเรือ...สถานที่ แท้จริงที่ศักดิ์ชายมีนัดส่งเด็กและผู้หญิง หลอกล่อให้ตัวเองถูกตำรวจยิงจนเหมือนว่าตายแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ทีเกื้อนำกำลังสำรวจให้ทั่วจนพบตู้คอนเทนเนอร์ที่ซ่อนเหล่าตัวประกันไว้ทั้งหมด
ตัวประกันเด็กและผู้หญิงถูกช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย เอื้อกานต์ที่ยังเชื่อว่าคิมตายแล้ว วิ่งหน้าตื่นมาดู กวาดตามองรอบๆด้วยแววตาคาดหวัง แล้วก็ได้เบิกตาโพลงเมื่อเห็นคิมอยู่มุมหนึ่ง
คิมตกใจมากเมื่อเห็นว่าเอื้อกานต์ร้องไห้และโผมากอดเขาแน่น
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ฉันเห็นคุณถูกยิง รู้ไหมว่าฉันใจหาย ตกใจมากแค่ไหน...ฉันกลัวคุณจะตายไปอีก”
น้ำตาของเอื้อกานต์ทำให้คิมทำตัวไม่ถูก ค่อยๆ ยกมือลูบหลังปลอบ
“ผมไม่เป็นไรแล้ว อย่าร้องเลย”
“อย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีกนะ...ฉันขอร้อง”
“ผมขอโทษ”
เอื้อกานต์หงุดหงิดมาก แม้จะโล่งใจที่คิมปลอดภัยแต่ก็อยากรู้ความจริง เลยไปไล่เบี้ยกับแฝดน้อง ทีเกื้อต้องแบ่งรับแบ่งสู้ กลัวสัมผัสพิเศษของแฝดพี่ แต่ก็แกล้งทำเป็นขรึมย้อนถาม
“เอื้อจำได้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร เอื้อไม่ได้ถูกสะกดจิตให้ลืมใช่ไหม”
“ใช่...เอื้อจำเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่ที่แกล้งทำเป็นลืมเพราะไม่อยากให้พี่กลดไม่สบายใจ”
ทีเกื้อถึงกับอึ้งไป เหลือเชื่อกับความสามารถของแฝดพี่อย่างบอกไม่ถูก เอื้อกานต์รู้ว่าแฝดน้องต้องหนักใจ แต่ก็อยากให้เขาช่วยทำตัวเหมือนเดิม
“เกื้อช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับต่อได้ไหม เอื้ออยากรอให้พี่กลดสบายใจ พร้อมที่จะบอกความจริงกับเอื้อเอง”
ooooooo
ทีเกื้อลำบากใจมาก กลัวเก็บความลับของแฝดพี่ไม่ได้ แต่ก็เป็นโชคดีของเขา เพราะคิมไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก มัวยุ่งกับการทำศึกกับศักดิ์ชายที่ประกาศจะเอาคืนชายสวมหน้ากากให้ได้!
ความเคียดแค้นของศักดิ์ชายไม่ได้ทำให้คิมหวาดกลัว แต่เป็นการปรากฏตัวของฮันเตอร์มากกว่าที่ทำให้เหนื่อยใจ ต้องถูกกดดันและหว่านล้อมต่างๆนานาให้กลับมาใช้อาคมอีก
“นอกจากมันจะฆ่าครอบครัวแกแล้ว มันยังอยู่เบื้องหลังความชั่วอีกหลายอย่าง ทั้งค้ายา ค้ามนุษย์ แม้กระทั่งคดีของเกริกภพที่ปล่อยสารพิษจนทำให้คนเป็นโรค ก็เป็นฝีมือของมันทั้งนั้น มันตั้งใจปล่อยสารเคมีออกมาเพื่อจะได้ขายยาให้กับคนที่เป็นโรคและสุดท้ายมันก็เทกโอเวอร์โรงงานของเกริกภพมาเป็นของตัวเอง”
คิมนิ่งเงียบ เห็นจริงตามทุกอย่างแต่ยังลังเลจะกลับมาใช้อาคม ฮันเตอร์เลยต้องทิ้งท้าย
“ถ้าแกอยากช่วยคนอื่นที่ได้รับความเดือดร้อนเพราะศักดิ์ชาย แกก็ต้องใช้อาคมให้ฆ่ามันเท่านั้น ไม่งั้นคนอย่างมันก็จะทำร้ายคนอื่นไม่จบสิ้น!”
และก็เพราะเคร่งเครียดกับการล้างแค้นนี่เอง ทำให้พลังจิตของคิมเข้าสู่ด้านมืด หลายครั้งที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ กลายเป็นวายร้ายแววตาสีแดงก่ำที่พร้อมฆ่าทุกคน จนแม้แต่เอื้อกานต์ก็สัมผัสถึงพลังมืดนี้ได้ผ่านนิมิตพิเศษระหว่างที่เธอนั่งสมาธิ ใจไม่ดีเลยเพราะกลัวคิมจะมีอันตราย
เอื้อกานต์เป็นห่วงคิมมาก คิมเองก็คิดถึงเธอและแอบถอดจิตไปหาเพื่อระบายความหนักใจ
“ผมรู้แล้วนะว่าใครวางระเบิดฆ่าพ่อของผม...เขาก็คือศักดิ์ชาย อาจารย์บอกให้ผมใช้อาคมจัดการศักดิ์ชาย ถ้าไม่ทำ คนอย่างนั้นก็จะทำร้ายคนอื่น ถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาก็จะฆ่าเรา ผมควรทำยังไงดีถึงจะหลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้ได้ ผมต้องกลับมาใช้อาคมทำร้ายคนอื่นอีกครั้งจริงๆเหรอ”
ท่าทางเหมือนคนสิ้นหวังของเขาทำให้เอื้อกานต์สงสาร อยากปลอบแต่ก็กลัวความลับเรื่องตนไม่ได้ลืมเรื่องเขา แถมมองเห็นร่างที่ถอดจิตของเขาอีกต่างหาก เลยต้องแก้เก้อด้วยการแกล้งโทร.ชวนเขามาเล่นเทนนิส
คิมแปลกใจที่เธอโทร.หา แต่คาดไม่ถึงมากกว่าที่เธอชวนเขาเล่นเทนนิส เอื้อกานต์ดีใจที่เขายอมมา อยากให้เขาผ่อนคลายจากเรื่องล้างแค้นและระบายทุกอย่างกับการตีเทนนิส
เกมการแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ความเครียดที่สั่งสมมานานทำให้คิมไม่ออมมือ เอื้อกานต์ยอมเป็นคู่เล่นเพื่อคลายเครียดให้เขาช่วงแรกๆ ก่อนจะยอมแพ้ในเวลาต่อมาเพราะหมดแรง
“ใจคอคุณกะจะเอาชนะให้ได้เลยใช่ไหม ถ้าฉันไม่หยุดก่อน คุณก็คงจะตีแบบนี้ไปเรื่อยๆเหรอ คุณตีไปหาฉัน ฉันตีไปหาคุณไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่เกมจะจบ”
“นั่นสิ...เมื่อไหร่เกมจะจบ”
“แล้วคุณเหนื่อยไหม ถ้าเหนื่อยก็หยุดเถอะ”
“แต่ถ้าผมหยุด ผมก็จะแพ้ทันที ไม่ใช่แค่ผมแต่คนที่อยู่ข้างผม เชียร์ผม...เขาก็จะผิดหวังไปด้วย”
เอื้อกานต์เข้าใจความหมายของเขา เห็นใจและตั้งท่าจะปลอบ แต่คิมก็เปลี่ยนเรื่องคุยดื้อๆ
“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมชอบตีเทนนิส”
“คุณชอบตีเทนนิสเหรอ...พี่กลดก็ชอบ เมื่อก่อนเวลาฉันเครียดๆ ฉันก็จะมาเล่นเทนนิสกับพี่กลดบ่อยๆ”
“คิดยังไงถึงพาผมมา”
“ฉันเครียดๆน่ะ และฉันก็รู้สึกได้ว่าคุณคงจะเครียดเหมือนกัน...การได้ออกกำลังกายแรงๆแบบนี้มันช่วยปลดปล่อยอารมณ์ความเครียดได้ดี ตีปัญหาทิ้งไป คุณจะได้รู้สึกดีขึ้นไง”
“จริงของคุณ...ผมก็ไม่ได้มาออกกำลังกายแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน”
ooooooo
ผลงานของคิมในคราบชายสวมหน้ากากช่วยทางการทลายแผนค้ามนุษย์ได้กระแสตอบรับอย่างดี ชายสวมหน้ากากกลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งประเทศ ธีรภูมิกับสัตตบงกชก็ร่วมเกาะกระแส เดินหน้าทำข่าวตีแผ่ความจริงเบื้องหลัง ด้วยความหวังว่าสักวันจะจับตัวการแท้จริงมาลงโทษให้ได้
แน่นอนว่ากฎหมายยังแตะตัวศักดิ์ชายไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน คิมกับแดนเลยต้องพยายามหนักขึ้น เพื่อจับตัวมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ แต่กระนั้น...ความแค้นที่ซุกซ่อนในใจก็ทำให้พลังมืดของคิมเริ่มออกอาการหนักข้อ และครั้งนี้ฮันเตอร์ก็เห็นความผิดปกตินั้นพอดี เลยจัดแจงลากตัวศิษย์เอกไปซัก
“แกเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของแกบ้าง เล่าให้ฉันฟังให้หมด”
“ช่วงนี้ผมมีอาการแปลกๆ ใจลอยๆ ได้ยินเสียงก้องของตัวเองบ่อยๆเหมือนผมควบคุมจิตตัวเองไม่ได้”
ฮันเตอร์ถึงกับอึ้งไป รู้ดีว่าศิษย์เอกเป็นอะไรแต่ไม่ยอมบอก และเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ
“แล้วเรื่องศักดิ์ชาย ตกลงแกจะว่ายังไง”
“ผมจะจัดการเองครับ มันเป็นความแค้นระหว่างผมกับเขา อาจารย์แค่อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
พูดพลางเกิดประกายตาสีแดงก่ำเหมือนถูกพลังมืดครอบงำชั่วขณะ ฮันเตอร์เห็นอย่างนั้นก็แสยะยิ้มร้าย
“ก็ได้...ถ้าแกหาของสำคัญได้ก่อนฉัน ฉันจะให้โอกาสแกจัดการเหยื่อรายนี้ด้วยตัวเอง”
คิมรีบไปหาข้อมูลของศักดิ์ชายและสั่งแดนให้ช่วยด้วย กลัวฮันเตอร์จะเจอก่อนแล้วแผนล้างแค้นของตนจะเหลว เพราะเชื่อแน่ว่าหากเป็นเช่นนั้น ศักดิ์ชายคงตายก่อนได้ชำระบาปให้ทรงพล
“พี่มีแผนรึยังว่าจะจัดการศักดิ์ชายยังไง พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแรมที่ต้องทำของแล้ว”
“เราต้องหาของรักของศักดิ์ชายให้ได้ก่อนที่อาจารย์จะหาเจอ”
“แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง สั่งมาเลย เดี๋ยวผมจัดการให้”
“เราต้องบอกให้ศักดิ์ชายรู้ตัวว่าเราจะไปเอาของรักของมันคืนนี้ และจะลงมือจัดการมันคืนเดือนแรมวันพรุ่งนี้”
“แล้วพี่รู้เหรอว่าของสำคัญของมันคืออะไร...”
สารท้าทายจากชายสวมหน้ากากทำให้วัฒน์นั่งไม่ติด เป็นห่วงพ่อ แต่ดูเหมือนศักดิ์ชายจะไม่สะทกสะท้าน
“ไอ้หน้ากากมันบอกว่ามันจะมาขโมยของรักของฉันไปทำอาคมคืนนี้ มันตั้งใจจะทำอาคมใส่วันพรุ่งนี้”
“แปลว่าพ่อเป็นเหยื่อรายต่อไปของมัน เราจะทำยังไงกันดี”
“ไม่กลัวหรอก มันมาก็ดีสิ ครั้งนี้จะได้ฆ่ามัน”
“พ่อไม่กลัวแต่ผมกลัว ผมยังไม่อยากตาย เรารีบบอกท่านรองให้ส่งคนมาคุ้มกันเราดีกว่า”
“ไม่ต้อง...ฉันจัดการเอง แกจัดการชีวิตแกเถอะ จะได้เอาหลานกลับบ้านซะที ฉันคิดถึงหลานใจจะขาดแล้ว”
“เอาชีวิตให้รอดก่อนคิดถึงหลานเถอะครับ ถ้าคุณพ่อไม่สนใจ ผมจะบอกท่านรองให้เอง!”
ooooooo
วัฒน์เป็นเดือดเป็นร้อน แจ้นไปหาท่านรองฯเพื่อขอความช่วยเหลือ ท่านรองฯลำบากใจ รู้ดีว่าศักดิ์ชายไม่ใช่คนดีและอาจเป็นคนผิดตัวจริง แต่ก็ต้องตัดสินใจส่งทีเกื้อไปคุ้มกัน
ทีเกื้อนิ่วหน้า ก่อนจะสารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่อยากรับงานนี้
“ที่หน้าโรงพักเราเขียนว่าอะไร”
“โรงพักเพื่อประชาชนครับ”
“งั้นคุณก็ต้องทำเพื่อประชาชน”
“แต่ไม่ใช่เพื่อประชาชนเลวๆอย่างมัน รู้อยู่เต็มอกว่ามันเลวแค่ไหน ผมทำใจปกป้องคนเลวๆไม่ได้หรอกครับ”
ท่านรองฯถอนใจยาว ก่อนยื่นคำขาด “แต่นี่คือคำสั่ง คือหน้าที่ของตำรวจ ถึงเราจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาผิดแต่ในทางกฎหมาย...ถ้าไม่มีหลักฐาน เขาก็ยังคือผู้บริสุทธิ์ เป็นประชาชนคนหนึ่ง เราเป็นตำรวจจะเลือกปฏิบัติเพราะอารมณ์ส่วนตัว หรือเพราะความรู้สึกว่าเขาเป็นคนร้ายไม่ได้ เราต้องมีหลักฐาน”
คำสั่งของท่านรองฯทำให้ทีเกื้อไม่มีทางเลือก สัตตบงกชเห็นใจเขามากที่ต้องฝืนใจทำตามหน้าที่
“คุณไม่รู้หรอกว่าผมเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องปกป้องคนเลวๆอย่างมัน แต่ผมเป็นตำรวจมีหน้าที่ปกป้องประชาชน ประชาชนจะดีจะเลว ถ้าไม่มีหลักฐาน เขาก็คือคนบริสุทธิ์ที่ต้องช่วยเหลือ...ท่านรองเทศน์มางี้”
“เป็นตำรวจก็น่าลำบากใจเหมือนกันเนอะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยคุณได้บ้างไหม”
“แค่อย่าเขียนข่าวแขวะตำรวจอย่างผมก็พอ...ไอ้ข่าวผมดูแลแต่คนรวย มีอำนาจ...มันตัดกำลังใจ”
“พูดดักซะงั้น...นี่ฉันเพิ่งคิดพาดหัวข่าวได้เลยนะ เอาเป็นว่าฉันก็ขอให้คุณปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จก็แล้วกัน”
ทีเกื้อกับนภไปคุ้มกันศักดิ์ชายตามคำสั่งท่านรองฯในคืนนั้นเอง มั่นใจว่าเตรียมการดีทุกอย่างแต่ก็ต้องพลาดท่าให้คิมจนได้ เมื่อวัฒน์หายตัวไปจากบ้าน!
ศักดิ์ชายถึงกับหน้าซีดเผือด จากเคยมั่นใจว่าตัวเองไม่มีของรักของหวง แต่กลับต้องสะอึกเมื่อพบว่าตัวเองมีคนที่รัก และวัฒน์...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทายาทเพียงคนเดียวของเขาก็คือคนคนนั้น
คิมรู้ดีและจัดการลักพาตัววัฒน์ออกจากบ้านอย่างง่ายดาย และให้แดนเฝ้าไว้ แต่ก็ถูกฮันเตอร์มาชิงตัว แดน พยายามขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ คิมเลยต้องออกมายับยั้งด้วยตัวเอง
“อาจารย์จะเอาตัววัฒน์ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“แกนั่นแหละที่ต้องถอยไป ฉันแค่จะเอาตัววัฒน์ไปทำพิธี”
“แต่นั่นหมายความว่าต้องเราต้องฆ่าวัฒน์นะ”
“ถ้าไม่ทำ แล้วแกจะจับมันมาทำไม”
“ผมจับมันมาขู่พ่อของมันเฉยๆ ผมจะจัดการตามวิธีของผม”
“วิธีอะไร...เรามีเวลาแค่คืนนี้เท่านั้นนะ”
“ผมจะจัดการเองครับ อาจารย์ไม่ต้องห่วง”
ooooooo
จนแล้วจนรอด คิมก็ไม่บอกฮันเตอร์ว่าจะเล่นงานศักดิ์ชายวิธีไหน แต่ในคืนเดียวกันนั่นเอง คิมก็จัดการส่งคลิปวีดิโอวัฒน์ถูกมัดมือเท้าในบ่อทรายไปให้ดู พร้อมบอกสิ่งที่ต้องการ
“สารภาพความจริงทุกอย่างให้ทุกคนรับรู้ แล้วก็มอบตัวกับตำรวจซะ คุณมีเวลาถึงแค่เที่ยงคืน ถ้าไม่ยอมทำ จะทำของใส่ทันที ทั้งคุณและลูกจะต้องตายพร้อมๆกัน เลือกเอาก็แล้วกันว่าจะเลือกทางไหน”
ศักดิ์ชายถึงกับอึ้ง ก่อนจะอ้ำๆอึ้งๆถามถึงวิธีการสารภาพผิดเพื่อแลกกับชีวิตลูกชายคนเดียว
“ถ่ายทอดสดออนไลน์คำสารภาพผ่านทางโทรศัพท์ที่ส่งไปให้ ถ่ายทอดสดให้ทุกคนรับรู้ ผมตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าตัดสินใจรับข้อเสนอก็โทร.กลับมา”
พูดจบก็ตัดสาย ท่านรองฯที่คอยฟังตลอดรีบนำมือถือของศักดิ์ชายไปตรวจสอบ ก่อนจะผละไปดูลูกน้องทำงาน ทิ้งศักดิ์ชายให้อยู่เงียบๆคนเดียว คิดหนักจะทำตามที่ชายสวมหน้ากากเรียกร้องหรือไม่...
เอื้อกานต์รู้เรื่องทุกอย่างจากทีเกื้อ เป็นห่วงแฝดน้องและคิมมาก จนต้องอาสาตัวไปช่วยหลังเลิกงาน ยิ่งเกิดนิมิตพิเศษว่าศักดิ์ชายอาจมีอันตรายยิ่งร้อนรน อยากไปให้ถึงบ้านศักดิ์ชายไวๆ
ทั้งเอื้อกานต์และทีเกื้อเตรียมตั้งรับสถานการณ์เต็มที่ เช่นเดียวกับคิมที่พยายามควบคุมพลังของตนเอง ไม่ให้ถูกพลังมืดครอบงำ และอธิบายกับฮันเตอร์ถึงความตั้งใจของเขาจะชำระบาปให้พ่อ
“มาถึงขั้นนี้ แกจะไปให้โอกาสมันทำไม คนเลวๆ แบบนี้ ยังไงก็ต้องฆ่าถึงจะสะใจ ให้ตายทั้งพ่อทั้งลูก”
“แต่ถ้าทำแบบนั้น เราก็ไม่ต่างจากพวกมัน ผมอยากให้ความจริงเปิดเผย อยากให้เขาได้รับโทษมากกว่า”
“ฉันจะให้เวลาแค่คืนนี้ ถ้ามันไม่ตอบอะไร ต้องฆ่ามันทันที...ตกลงไหม”
คิมยอมรับเงื่อนไขแบบไม่มีทางเลือก ฮันเตอร์สะใจมากและแทบเก็บความยินดีไว้ไม่ไหว เมื่อถึงกำหนดแล้วศักดิ์ชายยังไม่ติดต่อมา ประกาศลั่นจะจัดการวัฒน์ให้สมแค้น
“หมดเวลาของแกแล้วคิม ถึงตาฉันจัดการกับมันแล้ว”
“แต่พลังและดวงของอาจารย์ไม่แรงพอจะทำของใส่พวกมันได้นะครับ”
คิมพยายามหว่านล้อม ไม่อยากให้วัฒน์ต้องตาย แต่ฮันเตอร์ก็ฉุดไม่อยู่แล้ว
“แค้นสุดท้าย...ฉันยอมแลก เปิดเครื่องปล่อยทราย ฉันจะทำพิธีฝังมันทั้งพ่อทั้งลูก!”
ฮันเตอร์เร่งร้อนจะทำพิธีฝังวัฒน์ให้ตายทั้งเป็น คิมกับแดนหมดทางยับยั้งและเกือบถอดใจแล้ว ถ้าศักดิ์ชายจะไม่โทร.มาเสียก่อน และยอมรับข้อแลกเปลี่ยนทุกอย่าง สารภาพความผิดในอดีตที่เคยทำกับทรงพล
คิมฟังคำสารภาพของศักดิ์ชายด้วยความสะเทือนใจ ความโกรธแค้นจางหาย แต่ก็ไม่วายต้องต่อสู้กับพลังมืดในตัวเองที่ร่ำร้องจะใช้อาคมฆ่าสองพ่อลูก
และฮันเตอร์ก็รู้ดี ท่าทางลุกลี้ลุกลนเพราะถูกพลังมืดครอบงำของศิษย์เอก ทำให้ตัดสินใจหักหลัง ไม่สนใจคำสารภาพของศักดิ์ชายและจัดการร่ายอาคมเล่นงานสองพ่อลูกทันที!
ooooooo
คิมถูกอาคมของฮันเตอร์เล่นงาน ทำให้ขยับตัวไปไหนไม่ได้ เช่นเดียวกับวัฒน์ที่ถูกอาคมทำให้หายใจไม่ออก ส่วนศักดิ์ชายก็ถูกดึงเข้าไปในนิมิตของฮันเตอร์ที่คาดคั้นให้เขาสารภาพความจริงในอดีต
ศักดิ์ชายกลัวตายแต่ไม่สำนึก ไม่รู้สึกผิดด้วยซ้ำที่เคยสั่งฆ่ายกครัวฮันเตอร์
“แต่แกไม่มีสิทธิ์ฆ่าใคร เพราะแก...แกทำให้พวกเขาต้องตาย”
แววตาเกรี้ยวกราดของฮันเตอร์ทำให้ศักดิ์ชายสติแตก แต่ก็ยังปากดีโต้กลับ “ครอบครัวแกตายเพราะแกต่างหาก แกเองที่อ่อนแอ ไร้อำนาจ ปกป้องคนที่ตัวเองรัก ไม่ได้ ถ้าแกมีอำนาจแบบฉัน แกก็จะไม่โดนทำร้ายแบบนี้”
“ต้องแข็งแกร่งและเลวแบบแกน่ะเหรอ”
“ใช่...โลกนี้คนที่แข็งแกร่ง คนที่มีอำนาจเท่านั้นที่อยู่ได้ ถ้าแกไม่สู้ ไม่เป็นฝ่ายล่า แกก็ต้องเป็นคนถูกล่า”
ฮันเตอร์กัดฟันแน่นด้วยความแค้น ก่อนจะหมดความอดทนเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของศักดิ์ชาย
“ถ้าตอนนั้นแกเป็นแบบตอนนี้ แกคงปกป้อง ครอบครัว แกได้สบายๆ พวกเขาคงไม่ต้องตาย แกนั่นแหละที่โง่!”
“งั้นตอนนี้ฉันขอเลือกเป็นฝ่ายที่จะล่าแกก็แล้วกัน”
ขาดคำก็บริกรรมคาถาให้ทรายฝังวัฒน์กับศักดิ์ชายเพื่อล้างแค้น เอื้อกานต์มาถึงบ้านศักดิ์ชายและรีบพาตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมๆกับที่พวกตำรวจบุกมาถึงบ่อทรายและช่วยวัฒน์ได้ทันเวลา ฮันเตอร์เลยต้องยอมรามือ แต่ก็ไม่วายอาฆาตจะหาทางเอาชีวิตสองพ่อลูกให้ได้!
วัฒน์ยังอาการน่าเป็นห่วง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนศักดิ์ชายพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ก็กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ทุกคนรับรู้อาการของสองพ่อลูกด้วยความเวทนา คงมีเพียงฮันเตอร์ที่เจ็บใจมาก จนคิมต้องปรามเสียงเข้ม
“ทำไมอาจารย์ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผม”
“แบบนี้ก็ดีแล้ว เรื่องจบ การล้างแค้นสิ้นสุด ฉันจะไม่ยุ่งกับแกอีก แกจะได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่...ไม่ดีใจเหรอ”
คิมบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือไม่ เช่นเดียวกับธีรนัฐที่สังเวชใจกับเหตุการณ์วุ่นวายที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับคดีทรงพล จนต้องเรียกธีรภูมิกับสัตตบงกชมาระบายความอึดอัดใจ
“สื่อที่อยู่ในมือเราสามารถช่วยคนได้ สามารถเป็น กระบอกเสียงให้คนที่ไม่มีทางสู้ได้ แต่ขณะเดียวกัน...ถ้าเราใช้ในทางที่ผิด มันก็เป็นเครื่องมือในการฆ่าคนได้เหมือนกัน จำไว้นะ...ต่อไปเราต้องทำงานเราด้วยความระมัดระวัง เพราะมันอาจทำร้ายหรือทำลายชีวิตใครได้...”
เรื่องศักดิ์ชายกับวัฒน์ไม่ทันเคลียร์ เดชาก็หายตัวจากโรงพยาบาล ทีเกื้อพยายามตามหาและโทร.ขอให้คิมช่วยอีกแรง คิมรับปากแต่แดนกลับเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ และรุ่นพี่หนุ่มควรสนใจเรื่องเอื้อกานต์มากกว่า
“ยังไงพี่กับหมอเอื้อคงหนีกันไม่พ้น ขนาดทรงกลดตายไปแล้ว ตั้งใจจะทิ้งทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็มีเหตุให้มาเจอกันกับหมอเอื้ออีกจนได้ ต่อให้พี่จะหนีอีกกี่ครั้ง สุดท้ายพี่สองคนก็จะดึงดูดเข้าหากันอีกอยู่ดี”
“แต่ตอนนี้พี่ก็ไม่ต่างจากคนร้ายหนีคดี พี่ไม่อยากให้หมอเอื้อได้รับอันตรายเพราะพี่”
“แต่ผมไม่คิดเหมือนพี่นะ ถ้าผมเป็นพี่ ผมคงยิ่งอยากให้หมอมาอยู่ใกล้ๆผม ผมจะได้ปกป้องหมอได้ง่ายขึ้น”
คำแนะนำของแดนทำให้คิมคิดหนัก ก่อนจะตัดสินใจโทร.นัดเอื้อกานต์เพื่อสารภาพความจริงทั้งหมด แต่ไม่ทันได้ทำตามหวัง ร่างกายเขาก็มีปัญหาเพราะถูกพลังมืดครอบงำ!
ooooooo










