บทความวันนี้ใช้ชื่อว่า “วิชาโอทอป” แต่ผมไม่ได้จะมาแนะนำโรงเรียนหรือหลักสูตรการสอนทำผลิตภัณฑ์โอทอปนะครับ เพราะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นอยู่แล้ว เรื่องที่จะคุยวันนี้แค่อยากกระตุ้นให้ชาวโอทอปตื่นตัวคิดหาวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า และชูจุดเด่นโอทอปให้ดึงดูดใจมากขึ้น
ผมได้เห็นโพสต์ของ คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธานโอทอปเทรดเดอร์ไทย มีเนื้อหาเชิญชวนชาวโอทอปให้ไปเก็บเกี่ยวหาความรู้ที่ ไอคอนสยาม ห้างสุดหรูระดับไฮเอนด์ที่ตั้งเป้าให้เป็นเดสติเนชันที่ทุกคนต้องมา
เรื่องที่คุณวัชรพงศ์โพสต์ไว้มีใจความสำคัญว่า “ที่ไอคอนสยาม ผู้ประกอบการโอทอปจะได้เห็นอะไรและได้ประโยชน์อย่างไร? ไอคอนสยามประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆที่เกี่ยวกับการขายสินค้า ส่วนที่ 1 เป็นสินค้าแบรนด์ระดับประเทศและแบรนด์ระดับโลกเหมือนห้างชั้นนำ การตบแต่งหรูหราระดับ 6 ดาว ชาวโอทอปสามารถมาเรียนรู้โลกที่กว้างใหญ่ของแบรนด์ดังสินค้าระดับโลก ดูการนำเสนอ การพัฒนา การจัดวาง การสร้างสรรค์ เปิดโลกทัศน์ได้ แต่ก็ยังไกลตัวเราอยู่มาก
ส่วนที่ 2 ห้างทาคาชิมายะ เป็นห้างสินค้าญี่ปุ่น มีตั้งแต่สินค้าเกษตรพืชผักผลไม้ กุ้งหอยปูปลา ขนมนมเนย เนื้อคุณภาพเกรดเอ ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ถ้ามองให้ลึกมันก็ สินค้าพื้นถิ่นของญี่ปุ่น นี่แหละ แล้วมองกลับมาที่บ้านเราซึ่งมีของพื้นถิ่นเช่นกัน แต่การตบแต่ง การยกระดับพัฒนาเพิ่มมูลค่าสินค้ามีจุดแตกต่าง เขาใช้นวัตกรรมแห่งความคิด เพิ่มมูลค่าด้วย การจัดวาง การออกแบบผลิตภัณฑ์ การแปรรูปอาหาร การปรุง การนำเสนอสินค้า การแต่งกาย คนแน่นขายดีสุดๆ เขาขายวัฒนธรรมญี่ปุ่น เราควรมาเรียนรู้ มองเขาแล้วกลับไปพัฒนาตัวเอง
ส่วนที่ 3 เมืองสุขสยาม นี่คือไฮไลต์สำคัญรวมเอาศิลปวัฒนธรรมสี่ภาคของไทย ตั้งแต่ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม ประเพณี สินค้าพื้นถิ่น ของกินพื้นบ้าน มารวมไว้ด้วยกันเป็นแลนด์มาร์กที่เป็นเวทีให้ชาวโอทอปได้มาขายสินค้าในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากที่เป็นกันมา ตอบโจทย์ของสินค้าและกลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่ร้านขายของ แต่คือแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงคนมาเที่ยว แล้วการค้าขายจึงตามมาโดยอัตโนมัติ
...
ชาวโอทอปจะได้อะไร คำตอบคือได้เยอะมากในการพัฒนายกระดับตัวเองเพื่อให้มีโอกาสขายสินค้า ท่านจะได้รู้ว่าต้องพัฒนาและปรับตัวอย่างไรภายใต้โลกการค้าแห่งใหม่นี้ เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง ที่นี่คือเวทีหรือโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลายให้เรียนรู้ จะได้ลงสนามจริงระดับประเทศ การดูงานอบรมสัมมนาต้องมาดูของจริงที่นี่ สินค้าระดับโลกและระดับล่างอยู่รวมกันแบบมีสีสันไปด้วยกันได้สบาย...ความเป็นไทยขายได้ทั่วโลกทุกกาลสมัย”
ผู้ประกอบการและแฟนพันธุ์แท้โอทอปถ้าได้อ่านบทความนี้ก็คงอยากไปเมืองสุขสยามเร็วๆใช่ไหมครับ ส่วนตัวผมนั้นรีบหาเวลาไปดูของจริงให้เห็นกับตามาแล้ว ขอบอกเลยว่าอึ้งทึ่งตั้งแต่แว้บแรกที่เห็น จัดสถานที่ได้สวยงามมาก วางผังอย่างมีดีไซน์ ประดับตกแต่งงดงาม ชวนให้เดินชมไปเรื่อยๆด้วยความเพลิดเพลิน
เมืองสุขสยามแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน 4 ภาค สร้างบรรยากาศชูอัตลักษณ์ของแต่ละภาคได้เด่นชัด รวมถึงการแต่งกายของพนักงานที่สวมชุดพื้นถิ่นของตัวเอง จุดเด่นอีกอย่างคืออาหารที่นี่เน้นโชว์การปรุงสด (เสียอย่างเดียวมีที่นั่งรับประทานอาหารน้อยไปหน่อย)
เท่าที่ได้สอบถามพูดคุยกับร้านค้าหลายร้าน ทำให้รู้ว่าก่อนจะเข้ามาเปิดร้านที่นี่จะต้อง ผ่านการอบรมกลยุทธ์เทคนิคการขาย และจะมีการ วิเคราะห์ผลประกอบการทุกสัปดาห์ เพื่อให้รู้ว่าแต่ละร้านมีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน ทำไมร้านนี้ถึงขายดี ทำไมร้านนั้นลูกค้าน้อย
ทุกอาชีพทุกวงการต้องพัฒนาตัวเองตลอด ผมเชื่อว่าโอทอปที่สุขสยามจะเป็นแม่เหล็กดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างดี และเป็นต้นแบบเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชาวโอทอปทั่วประเทศครับ.
ลมกรด