ตำแหน่งประธานศาลฎีกาเป็นประมุขสถาบันยุติธรรมท่านผู้ใดได้ดำรงตำแหน่งประธาน ศาลฎีกาถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของตัวเองและวงศ์ตระกูล“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา การเลือกประธานศาลฎีกาจะยึดระบบอาวุโสเป็นสำคัญอดีตประธานศาลฎีกา (ย้อนหลังไป 6 คน) ล้วนมาจากข้าราชการตุลาการอาวุโสสูงสุดเรียงตามลำดับคิวเรียกว่า ขยับขึ้นตามคิว ไม่มีการแซงคิวเหมือนการแต่งตั้งข้าราช-การพลเรือนเรื่องของเรื่องคือ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน จะต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากอายุครบ 65 ปี ในวันที่ 30 กันยายนปีนี้จึงต้องมีการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาคนใหม่ทำหน้าที่แทน“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ถ้านับตามพรรษา “นายศิริชัย วัฒนโยธิน” ประธาน ศาลอุทธรณ์อาวุโสอันดับหนึ่ง ต้องจ่อคิวขึ้นเป็นประธานศาลฎีกาคนที่ 44 ของประเทศไทยแบเบอร์แต่ปรากฏว่า เบอร์ 44 ไม่แบเบอร์ อย่างที่คาดกันเพราะการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เพื่อพิจารณาแต่งตั้งประธานศาลฎีกาคนใหม่ ได้มีมติเอกฉันท์ “ไม่แต่งตั้ง นายศิริชัย” ผู้มีอาวุโสอันดับหนึ่งตามโผรายชื่อที่ คณะอนุ กก.ก.ต. เสนอให้พิจารณาเมื่อผู้มีอาวุโสอันดับหนึ่งไม่ผ่านไฟเขียว ก็คาดว่าจะถึงคิว นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ผู้มีอาวุโสอันดับ 2 ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขศาลสูงสุดคนที่ 44 ของประเทศไทยหรือจะเป็น นายธนกฤษ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกาอาวุโสอันดับ 3 ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่า การที่คณะกรรมการ ก.ต.มีมติเอกฉันท์ไม่แต่งตั้ง นายศิริชัย ตุลาการอาวุโสอันดับหนึ่งขึ้นเป็นประธานศาลฎีกาคนใหม่ไม่ว่าเกิดจากเหตุผลใดก็ตามย่อมเป็นเรื่องภายในของศาลยุติธรรมคนนอกไม่ควรจุ้นจ้านวิพากษ์วิจารณ์ให้ฟุ้งกระจายเพราะเมื่อที่ประชุม ก.ต.มีมติเห็นชอบให้ผู้หนึ่งผู้ใด แม้ไม่ใช่ผู้มีอาวุโสอันดับ หนึ่งขึ้นเป็นประมุขศาลยุติธรรม ก็ถือเป็นการแต่งตั้งที่ครบถ้วนทุกขั้นตอนแต่ถ้าไม่มีพลิกโผ หรือโผพลิกอีกต่อไป นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกาอาวุโสสูงสุดอันดับ 2 ซึ่งปัจจุบันอายุ 63 ปี จะดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนใหม่ต่อไปอีก 2 ปีเต็มสรุปย่อๆตามที่ฟังมา...ท่านว่าที่ประธานศาลฎีกาคนใหม่เป็นตุลาการชั้นผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาตัดสินอรรถคดีอย่างตรงไปตรงมาท่านได้ตัดสินคดีใหญ่ๆ คดีดังๆมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญาหรือคดีทางการเมือง“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่า ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือท่านผู้นี้เป็นเจ้าของสำนวนคดีโครงการรับจำนำข้าว และ 1 ใน 9 องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ราชการเกิดความเสียหายร้ายแรงแถมท่านยังเป็นหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา พิจารณาคดี อดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ถูกฟ้องเป็นจำเลย ข้อหาสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรอีกหนึ่งคดีเฉพาะแค่ 2 คดีก็มีอดีตนายกฯเป็นจำเลยตั้ง 3 คนธรรมดาซะที่ไหนล่ะคุณโยม.“แม่ลูกจันทร์”