ยึดจากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของนายกลูกหนัง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เรื่องของการสรรหาเฮดโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งขอยุติบทบาทลาเก้าอี้ไปเพื่อรับผิดชอบความพ่ายแพ้ในศึกคัดบอลโลกของลูกทีมช้างศึก

สรุปว่าทุกอย่างต้องสะเด็ดน้ำ ได้กุนซือตรงตามสเปกที่ต้องการมากุมบังเหียนทีมบอลไทยไม่เกินสิ้นเดือนนี้

หลังจากที่ผ่านมาเรื่องของการคัดเลือกโค้ชใหม่ กลายเป็นประเด็นข่าว “โค้ชรายวัน” ให้สื่อเอาไปพาดหัวกันต่อเนื่องสนุกสนาน ทำเอาแฟนบอลพากันเคลิบเคลิ้ม วาดฝันถึงกุนซือระดับโลกคนโน้น คนนี้ ว่าจะเข้ามาพาทีมชาติไทยไปบอลโลกมันโน่นเลย!

ทั้งที่ในโลกแห่งความเป็นจริง โค้ชชื่อดังทั้งหลายที่เข้ามาอยู่ในลิสต์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ณ เวลานี้ ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอของบรรดาตัวแทน หรือเอเย่นต์ ที่มีส่วนในการรับประทานเปอร์เซ็นต์ของกุนซือเหล่านี้ ที่ต้องคอยสอดส่ายสายตาหางานใหม่ๆที่มีผลตอบแทนงดงามให้กับลูกค้าของเขาอยู่เสมอ

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ “ทีมฟุตบอลชาติไทย” ซึ่งเพิ่งอยู่ในสถานะไร้โค้ช จะเป็นแหล่งหางานที่ใหม่ของคนในอาชีพเหล่านี้เป็นธรรมดา

เอาเป็นว่าที่ผ่านมา มีอยู่ 3 โค้ชที่เดินทางมาพูดคุยกับนายกสมยศที่สมาคมฯอย่างจริงๆจังๆ ก็คือ “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย เรเน มูเลนสตีน ที่เคยเป็นมือขวา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในทีมแมนฯยูไนเต็ด และมิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ผู้พาทีมชาติกานาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ เป็นรายล่าสุด

ส่วนคนอื่นๆก็เป็นแค่เอเย่นต์ นายหน้า หรือไม่ก็ตัวแทนหางาน อย่างที่ผมบอกไป
และเชื่อขนมกินได้เลยว่าทุกรายเมื่อมาเจอนโยบาย “ทดลองงาน 8 นัด” ด้วยสัญญาระยะสั้นของสมาคมกีฬาฟุตบอลไทยเข้าแล้วล่ะก้อ

...

ร้อยทั้งร้อย ถ้าไม่สิ้นไร้ไม้ตอก หรือเป็นพวก “ร้อนเงิน” จริงๆ ก็คงไม่มีใครหลงมาเซ็นรับงานทำทีมชาติกับเราแน่

โดยเฉพาะกับประดากุนซือบิ๊กเนมทั้งหลาย ที่เรื่องของสัญญาต้องยิ่งกว่าเป๊ะ ยากที่จะให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบ หรือลองของ ลองวิชากันง่ายๆ เพราะมันเสียเครดิต เสียโปรไฟล์การทำงานของเขา

ยิ่งกับ “ทีมชาติไทย” ที่ปัจจุบัน “อันดับโลก” ยังสุดกู่ เขายิ่งหัวเราะก๊าก ว่าดีกรีระดับข้า กับแรงกิ้งฟีฟ่าของพวกเอ็ง จะให้มาให้ทดลองทำทีม ด้วยค่าจ้างจิ๊บจ๊อยเดือนละแค่ล้านสองล้าน

มันช่างเป็นเรื่องขำกลิ้งลิงกะหมาจริงๆครับท่าน...

อ้อ! แต่บางทีท่านนายกลูกหนังก็อาจรู้สึกแฮปปี้มีความสุข และพึงใจกับการที่ได้ยึดพื้นที่ข่าว “โค้ชรายวัน” แบบนี้ไปเรื่อยๆก็เป็นได้

อย่างน้อยมันก็ช่วยกลบกระแสข่าวด้านลบ ที่กำลังจะมาถึงในการประชุมใหญ่ปลายสัปดาห์หน้า

ได้เป็นอย่างดี...เลยทีเดียวเชียว!!!

บี บางปะกง