เห็นข่าว พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.สน.ประเวศ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก. น.4 เป็นเวลา 30 วัน พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง

ตามมาด้วยคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ร.ต.ต.สมปอง วงษ์ทิพย์ รอง สวป.สน.ประเวศ ข้อหาปล่อยให้ยาเสพติดประเภทกัญชาของกลางในคดีหายไป

ให้ พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน รอง ผบก.น.4 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ผู้บังคับบัญชาบกพร่องหรือปล่อยปละละเลย ปล่อยให้กัญชาของกลาง 76 กิโลกรัม ที่ สน.ประเวศส่งไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ส่งกลับมาเหลือเพียง 37 กิโลกรัม

กัญชาหายไป 39 กิโลกรัม

เป็นของกลางที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. จับกุม นายกันชัย ฤกษ์แสนสุข และ น.ส.สกาว ยันต์ไพร ผู้ต้องหาที่แอบอ้างใช้รูปหญิงสาวเป็นโปรไฟล์ปลอมจำหน่ายกัญชาแบบอัดแท่ง และกัญชาแบบออแกนิก ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่ากัญชาดิบแบบเก่าหลายเท่าตัว

ปล่อยขายให้กับลูกค้าทางไลน์ และกลุ่มลับในเฟซบุ๊ก จัดส่งสินค้าผ่านทางไปรษณีย์ไทย

นายกันชัยเกี่ยวข้องจำหน่ายยาเสพติดมากว่า 4-5 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 20 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ใช้มาตรการอายัดยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ขยายผลการจับกุมเครือข่ายจำหน่ายกัญชาทางไปรษณีย์ ยึดกัญชาอัดแท่งจำนวน 76 แท่ง แท่งละ 1 กิโลกรัม ที่ถูกซุกซ่อนภายในป่าใกล้แคมป์คนงานก่อสร้าง ซอยกาญจนาภิเษก 18 เขตสะพานสูง

หลังจับกุมได้มอบผู้ต้องหาและของกลางให้ สน.ประเวศ เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดี

แต่ของกลางที่ส่งไปตรวจหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นเรื่องที่

ผู้บังคับบัญชาของ สน.ประเวศ จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ บช.น.ต้นสังกัดต้องดำเนินคดีตำรวจทุกนายที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายของกลาง

...

ไม่ว่าของกลาง “กัญชาอัดแท่ง” สูญหายจะด้วยสาเหตุใด ต้องมีคนรับผิดชอบ

เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่คนไม่เชื่อมั่นตำรวจโรงพัก มีข่าวมานานทั้ง “อมของกลาง–ของกลางหาย”

เป็นความอัปยศตำรวจ

ผู้บังคับบัญชาของ บช.น. จะต้องมี “คำตอบ” ให้กับคนในสังคมที่สงสัยต้นตอของกลาง “กัญชาอัดแท่ง” หายไปได้อย่างไร ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กัญชาหลายกิโลกรัมที่อยู่ในมือตำรวจหายล่องหนได้ยังไง

ต้องดำเนินคดีกับตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และนายตำรวจที่เข้าข่ายปล่อยปละละเลย

ปล่อย “ตำรวจชั่ว” ลอยนวลไม่ได้.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th