การนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ใช้ชื่อ “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” คาดกันว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก หลังจากที่กลุ่มคนรุ่นใหม่นักศึกษาทุกสถานบันหมุนเวียนจัดแฟลชม็อบมาเป็นปี แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ จุดกระแสสร้างความตื่นรู้ เกิดแนวร่วมทั่วทุกหัวระแหง
ต้องยอมรับว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่งโยนลูกเข้าในสภาฯ เป็นผลมาจากแรงขับเคลื่อนของการชุมนุมนักศึกษาเป็นสำคัญ กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ซ่อนอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย” แม้กระทั่งมีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้ว แต่พรรคแกนนำรัฐบาลกับ ส.ว.บางส่วนก็ยังจะหาทางล้มญัตติให้ได้ เพื่อสืบทอดอำนาจให้ได้นานที่สุด ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ม็อบนักศึกษามีแนวร่วมมากขึ้นอีก
ตัวแทนผู้จัดชุมนุมเลือกใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่สัญลักษณ์ของขบวนการประชาธิปไตยมายาวนาน ถือเป็นป้อมปราการของประชาธิปไตย
มธ.เคยออกประกาศเรื่อง แนวทางการอนุญาตจัดชุมนุมทางการเมืองของนักศึกษาในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 3 ก.ย.63 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความรับผิดชอบ ภายในขอบเขตของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างตามระบอบประชาธิปไตย โดยควบคู่กับ การดูแลสวัสดิภาพความปลอดภัยของนักศึกษา และ หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง รวมทั้ง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่จะนำไปสู่การถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกำหนดแนวทางการขออนุญาตจัดชุมนุม 3 ข้อ
ตอนที่ผมเขียนต้นฉบับนี้ยังไม่มีความคืบหน้าว่า มธ.อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯใช้พื้นที่จัดชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.หรือยัง ซึ่งก่อนหน้านี้ มธ.ไม่อนุญาต โดยระบุเหตุผลเพียงสั้นๆว่ากลุ่มผู้จัดชุมนุมยังไม่ได้ดำเนินการตามประกาศฉบับวันที่ 3 ก.ย.63 ขณะที่ตัวแทนผู้จัดชุมนุมยืนยันว่าได้ดำเนินการตามประกาศดังกล่าวแล้ว แถมบอกถ้าผู้บริหาร มธ.ไม่ให้ใช้พื้นที่ ก็จะตัดโซ่พังประตูเข้าไปให้ได้
...
หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาหาทางออกร่วมกันได้ ประนีประนอมบนหลักการและเหตุผล ในเมื่อผู้บริหาร มธ.จะส่งเสริมเรื่องสิทธิเสรีภาพความรับผิดชอบ ต้องการดูแลความปลอดภัยของนักศึกษา และป้องกันไม่ให้ถูกดำเนินคดี ถ้ามีอะไรที่ผู้จัดชุมนุมยังกระทำไม่เข้าเงื่อนไข ก็ควรชี้แจงอธิบายความเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข ส่วนผู้ชุมนุมก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ และไม่ใช้ความรุนแรง
ผมอยากให้นักศึกษาผู้จัดการชุมนุมศึกษาแง่มุมข้อกฎหมายต่างๆเกี่ยวกับการจัดชุมนุมให้ลึกซึ้ง โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แม้การชุมนุมวันพรุ่งนี้เน้นพื้นที่ มธ.เป็นหลัก แต่อาจมีบางส่วนที่คาบเกี่ยวพื้นที่สาธารณะ และในอนาคตการชุมนุมคงจะขยายใหญ่ขึ้น ต้องใช้พื้นที่สาธารณะอยู่ดี ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีหลายจุดที่เป็นคุณประโยชน์ต่อผู้จัดการชุมนุม แต่ก็มีบางจุดที่เป็นข้อจำกัดเช่นกัน
เผด็จการมีทั้ง ปืน และ ผู้บังคับใช้กฎหมาย อยู่ในมือ หากผู้ชุมนุมเพลี่ยงพล้ำก็จะโดนตามสอยได้ง่ายๆ เหมือนอย่างที่แกนนำหลายคนถูกดำเนินคดีตามหลังอยู่ในช่วงนี้ จริงอยู่นักรบย่อมต้องมีแผล แต่บางแผลสามารถระวังป้องกันได้
ที่น่าห่วงอีกอย่างสำหรับการชุมนุมวันพรุ่งนี้คือ เรื่องความปลอดภัย เรื่องมือที่สาม ซึ่งถ้าคุมไม่ดี ดูแลไม่รัดกุม ก็มีสิทธิจะเกิดเหตุร้ายได้
คุณอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนแกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนว่า ผู้ชุมนุมไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่รัฐเองก็เช่นกัน คนที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายน่าจะเป็นคนที่อยากเปลี่ยนอำนาจรัฐ เปลี่ยนกลุ่ม เปลี่ยนคน ผู้ชุมนุมต้องระวังไม่เตะหมูเข้าปากหมา หรือให้การชุมนุมเป็นเพียงข้าเปลี่ยนนาย ช่วยกันทำให้การชุมนุมเรียบร้อยที่สุด ผลักประเด็นข้อเรียกร้องให้ชัดเจน
ก็ขอฝากเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและตำรวจต้องดูแลรักษาความปลอดภัยผู้ชุมนุมให้ดีที่สุด เด็กรุ่นใหม่คืออนาคตของชาติ อย่าให้เขาได้รับอันตรายเป็นอันขาด.
“ลมกรด”