ถือเป็น “ช็อกซีนีมา” ของ กระบวนการยุติธรรมไทย เมื่อ สำนักข่าวอิศรา ถอดเทปบทสนทนาของ ตำรวจและอัยการ ใน คดีบอส ที่ระบุว่าเป็นหลักฐานที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ส่งให้ นายวิชา มหาคุณ ประธานสอบข้อเท็จจริงคดีนี้ ทำให้คนไทยได้รู้ความจริงอันสกปรกในกระบวนการยุติธรรมไทย ตำรวจสมคบคิดกับอัยการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงความเร็วรถและวันเวลาในคดี เพื่อช่วย นาย “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา อย่างที่ นายวิชา มหาคุณ ประธานสอบข้อเท็จจริงแถลง
ไม่มีใครคิดว่า ตำรวจ อัยการ ซึ่งเป็น กระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นของสังคมไทย จะเน่าเฟะขนาดนี้ แม้เงินซื้อกฎหมายและความยุติธรรมได้ แต่ก็หนี กฎแห่งกรรม ไม่พ้นนายวิชา มหาคุณ ประธานสอบข้อเท็จจริง ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ยืนยันว่า พ.ต.ท.ธนสิทธิ พยานผู้เชี่ยวชาญปากสำคัญที่ทำให้ นายเนตร นาคสุข สั่งไม่ฟ้องว่า เขาไม่ได้เปลี่ยนคำให้การจาก 177 กม./ชม. เป็น 79.22 กม./ชม. เขายืนยันว่าวันที่ 2 มี.ค.2559 ไม่ได้ไปให้ปากคำในคดีนี้ โดย พ.ต.ท.ธนสิทธิ บอกว่า พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อในขณะนั้น เป็นคนกำหนดขึ้นมา เพื่อให้สมเหตุสมผลในการใช้เวลาต่อจากวันที่ 26 ก.พ.2559 เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเลขการคำนวณความเร็วรถ
ประเด็นสำคัญเรื่องวันสอบสวนจากเทปที่ สำนักข่าวอิศรา ถอดออกมาพบว่า การประชุมของ ตำรวจ 4 ราย คนนอกอีก 2 ราย (รวม “อัยการ” ด้วย) ระบุว่า พล.ต.อ. ที่ร่วมประชุมได้บอกให้ผู้กำกับไปสอบเพิ่มเติม “เอาวันที่ให้มันต่างจะได้จบ” โดย อัยการ บอกว่า “เอาวันแรกเป็นวันที่ 26 ไปก่อน” อัยการคนนี้ดูจะมีบทบาทมากในการกำกับจุดที่สำคัญ
...
ผมจะสรุปเฉพาะสาระสำคัญ เพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆเท่านั้น เช่น เรื่องความเร็วรถ อัยการ ยังบอกในที่ประชุมว่า “อยากขอให้เป็น 79.22 ตามที่อาจารย์สายประสิทธิ์คำนวณ” แต่มี พ.ต.อ.ค้านว่า “คำนวณก็อาจจะได้สูงกว่านั้นนิดหน่อย แต่คงสูงถึง 100 กว่า” อัยการก็บอกว่า “เปล่า คือตามกฎหมายเนี่ย ห้ามขับเกิน 80 อยากจะขอความกรุณาให้มันอยู่ที่ range ตรงนั้น” พล.ต.ต.บอกว่า “อาจารย์คิดได้ 79.22” อัยการตอบว่า “ครับผม”
อัยการ พูดในที่ประชุมว่า “อันนี้ขอความกรุณาท่านผู้การ คือทางอัยการเค้าสั่งมาอย่างนี้ คือเค้าก็มองว่า เค้าจะช่วยนะ คือก็อยากให้เค้าสบายใจนิดนึง ใช่ไหมฮะ เวลาเค้าจะสั่ง คือที่เค้าสั่งมาเนี่ย เค้าตั้งใจจะช่วยเต็มที่ แล้วก็อยากจะขอความกรุณานะฮะ เรียนตรงๆเลยฮะ” พล.ต.ต.ก็ย้ำว่า “อาจารย์เค้ามีวิธีคิดได้ 79.22 เราไปลองดูว่า คิดตามเค้าได้หรือไม่” พ.ต.อ.คนหนึ่งกล่าวว่า “ผมมีความคิดขออนุญาตเสนอ ปกติผมจะใช้วิธีก็คือ ไอ้ 177 เป็นความเร็วสูงสุดที่ได้ คำนวณใหม่ได้ความเร็วขั้นต่ำ ถ้าจะไปบอกว่าไอ้ 177 นั่นผิดเสียเลยทีเดียว” พูดไม่ทันจบก็มีคำพูดของ พล.ต.อ. สวนขึ้นมาว่า “ก็ไม่ต้องไปบอกว่าผิดซิ เราใช้คำนวณกันคนละแบบ error จากการคำนวณ คำนวณทดแทน”
ก็เป็นบทสนทนาที่ทำให้เห็นหลักฐานการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในคดีนี้ 2 อย่าง คือ เปลี่ยนวันที่การลงบันทึกคำให้การเป็น 26 ก.พ.2559 และเปลี่ยนความเร็วจาก 177 กม./ชม. เป็น 79.22 กม./ชม. เพื่อไม่ให้เกิน 80 กม./ชม. ตามที่กฎหมายกำหนด ประชาชนอย่างเราๆท่านๆก็ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก ทำคดีกันอย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอ
การสอบข้อเท็จจริงในคดีทั้งหมด นายวิชา มหาคุณ ประธานสอบสวนฯ ได้ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมดแล้ว และแถลงกับสื่อวันที่ 1 กันยายนว่า เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับบุคคลและองค์กรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เอกสารที่สรุปให้กับสื่อมวลชนจะทำให้เห็นกระบวนการทั้งหมด แต่ตัวละครต่างๆจะขอใช้อักษรย่อพร้อมระบุตำแหน่งไว้ เป็นบุคคลที่คุณรู้ว่าเป็นใครเหมือน แฮรี่ พอตเตอร์ ซึ่งท่านสามารถไปสืบหาต่อได้
วันนี้ผ่านไป 10 วันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินใจเสียที ท่านจะยืนอยู่ข้างกฎหมายและความยุติธรรม หรือ จะยอมให้กระบวนการยุติธรรมถูกย่ำยีโดยคนในองค์กรของรัฐ นายกฯยิ่งตัดสินใจช้า ชื่อเสียงประเทศชาติยิ่งเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”