จากน้ำผึ้งเพียงหยดเดียว การชุมนุมต่อต้าน “ร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน” ของฮ่องกง ซึ่งอาจเปิดทางให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนได้ บานปลายไปสู่การขับไล่ นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ลามไปสู่ การเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ลามไปสู่ การเรียกร้องให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีน ผู้ประท้วงได้ชุมนุมต่อเนื่องนานถึง 11 สัปดาห์แล้ว ล่าสุดได้เข้ายึดสนามบินนานาชาติเช็กลับก๊อกฮ่องกงเลียนแบบม็อบไทย เพื่อปิดทางเข้าออกทางอากาศ ส่งผลให้ท่าอากาศยานฮ่องกงต้องสั่งปิดสนามบิน ยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกหลายร้อยเที่ยวบิน

สถานการณ์ม็อบฮ่องกงในเวลานี้เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติแล้ว

ล่าสุด โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ได้แถลงระบุว่า ผู้ประท้วงใช้อาวุธอันตรายมากโจมตีตำรวจ (ระเบิดขวด) ถือว่าเข้าข่าย “ลัทธิก่อการร้าย” ขณะเดียวกัน สื่อรัฐบาลจีน ได้ออกมาเตือนว่า ผู้ประท้วงในฮ่องกงกำลังหาเรื่องทำลายตัวเอง พร้อมกับปล่อยคลิปวิดีโอให้เห็นถึงรถยนต์หุ้มเกราะ ทหารจีนกำลังเคลื่อนกำลังไปชายแดนฮ่องกง ทำให้มีการวิตกว่า รัฐบาลจีนจะใช้กำลังทหารเข้าไปจัดการสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนกล่าวหาว่า สหรัฐฯแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง โดย นางหัว ซุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า สหรัฐฯควรยุติการแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงโดยทันที นักการเมืองและนักการทูตสหรัฐฯ ได้เข้าข้างกลุ่มก่อการจลาจลและกล่าวหารัฐบาลจีนอย่างไม่เป็นธรรม กำลังกระพือความรุนแรงและยั่วยุให้เกิดความไม่สงบ นางหัว ย้ำว่า ฮ่องกงเป็นของจีน กิจการของฮ่องกงถือเป็นกิจการภายในของจีน

ฟังแล้วก็น่าคิดครับ เมื่อกิจการในฮ่องกงถือเป็นกิจการภายในของจีน ถ้ารัฐบาลจีนส่งกำลังทหารเข้าปราบปรามผู้ประท้วง ก็ถือเป็นเรื่องภายในของจีนเหมือนกัน ทำให้ นายคริส แพทเทน อดีตผู้ว่าการฮ่องกงคนสุดท้ายของอังกฤษ ก่อนที่อังกฤษจะส่งคืนฮ่องกงให้กับจีน ออกมาเตือนว่า หากจีนเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง อาจจะเป็น “จุดเริ่มต้นความหายนะ” ของเกาะฮ่องกง พร้อมกับเตือน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่า ควรใช้สติปัญญาในการรวบรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียว

...

อังกฤษบีบเช่าฮ่องกงจากจีนมานานถึง 99 ปี และส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 เมื่อ 22 ปีก่อน การได้ลิ้มรสประชาธิปไตยตั้งแต่เกิดของคนฮ่องกงรุ่นใหม่ ทำให้ยากที่จะยอมรับการปกครองแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ ยิ่งในช่วงนี้สหรัฐฯมีข้อพิพาทสงครามการค้ากับจีน ย่อมเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะให้การสนับสนุนทางลับแก่ผู้ชุมนุม

แต่ถ้า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าไปปราบปรามผู้ชุมนุมในฮ่องกง ย่อมจะนำ “ความหายนะ” สู่ฮ่องกงอย่างแน่นอน

ฮ่องกงวันนี้มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ระดับโลก ใหญ่กว่าพื้นที่และจำนวนประชากรอันน้อยนิด ฮ่องกง ได้รับการจัดอันดับให้เป็น เขตเศรษฐกิจที่มีการค้าเสรีที่สุดในโลก เป็น ศูนย์กลางการเงินสำคัญของโลก รองจาก ลอนดอน นิวยอร์ก จากการจัดอันดับ World Freest Economy 2019 โดย สถาบันเฮอริเทจ ฟาวเดชัน สหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยกให้ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเสรีอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 โดยมีคะแนนสูงถึง 90.2 จาก 180 ประเทศทั่วโลก โดยมี ประเทศจีน อยู่ในอันดับที่ 100

เงินดอลลาร์ฮ่องกง ก็ออกโดย ธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลก 3 ธนาคาร ไม่ใช่ออกจากธนาคารกลาง อัตราดอกเบี้ยในฮ่องกง แต่ละธนาคารก็กำหนดกันเอง ไม่ต้องมี กนง. กำหนดแบบไทยเพื่อให้ตลาดแข่งขันกันเอง ตลาดหุ้นฮ่องกงก็ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก

ถ้า รัฐบาลจีน ส่งกำลังทหารเข้าไปสลายม็อบในฮ่องกง เศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ของฮ่องกงก็จะพังพินาศลงไปทันที เป็นสิ่งที่ ผู้นำจีน จะต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”