มะรืนนี้ 25 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะ “แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา” เป็นวันแรก ก่อนเข้าบริหารประเทศ นโยบายที่จะแถลงประกอบด้วย “นโยบายหลัก 12 ข้อ” และ “นโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน” รัฐบาลจะแจกให้สื่อมวลชนวันที่ 22 กรกฎาคม ผมเขียนบทความล่วงหน้า จึงยังไม่ได้เห็นนโยบายรัฐบาลฉบับจริงที่หนา 40 หน้า มีแต่ข้อมูลที่เป็นข่าวออกมาล่วงหน้า
ไปดู นโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน ที่นายกฯจะแถลงกันหน่อยครับ
1.แก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน 2.ปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 3.มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก 4.การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร 5.การพัฒนานวัตกรรมการยกระดับศักยภาพของแรงงาน 6.การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต 7.การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 8.แก้ไขปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ 9.แก้ไขปัญหายาเสพติดและความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 10.พัฒนาระบบการให้บริการประชาชน 11.สนับสนุนให้มีการศึกษาการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม 12.การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
มีเพียง 3-4 ข้อที่เข้าข่าย “เร่งด่วน” เช่น แก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร มาตรการรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และ การแก้ปัญหาภัยแล้ง นอกนั้นล้วนเป็น “เรื่องเก่า” ที่ รัฐบาล คสช. ทำมา 5 ปีแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน การแก้ปัญหายาเสพติด ฯลฯ
ที่แปลกใจก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ไม่พูดถึง นโยบายเร่งด่วนที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลหาเสียงไว้กับประชาชนเลย เช่น 12 นโยบายเร่งด่วนของพรรคพลังประชารัฐที่จะทำใน 1 ปี เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องคงไม่ได้ เพราะ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้กับประชาชนอย่างไร ท่านก็ต้องทำตามที่หาเสียงไว้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่นำนโยบายเร่งด่วนของพรรค 12 ข้อไปบรรจุไว้ในนโยบายเลย
...
ผมขอยกตัวอย่างมา ฟื้นความจำ ท่านไว้ตรงนี้ แต่ถ้ายังไม่แถลงต่อรัฐสภาอีกก็เป็นหน้าที่ของ พรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องถามในรัฐสภาให้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะทำตามคำพูดที่พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียงไว้กับประชาชนหรือไม่ หรือ “จะผิดคำพูดต่อประชาชน” หรือ “จะถอนคำพูด” เหมือนรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล
เช่น การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง 10% ทุกขั้นภาษี เพื่อลดภาระภาษีของประชาชน ปี 2561 รัฐเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 319,200 ล้านบาท จากผู้เสียภาษี 10-11 ล้านคน ถ้ารัฐบาลลดภาษีให้ 10% ตามที่หาเสียงไว้ ผู้เสียภาษี 10-11 ล้านคน จะมีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 31,900 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้เป็นอย่างดี
นโยบายมารดาประชารัฐ ใครตั้งครรภ์รัฐบาลแจกเงินให้ทันทีคนละ 3,000 บาทต่อเดือนจนคลอด และจ่ายค่าคลอดให้อีกคนละ 10,000 บาท รวมคนละ 37,000 บาท เมื่อเด็กเกิดมาแล้ว รัฐบาลจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้อีกเดือนละ 2,000 บาท ไปจนถึงอายุ 6 ขวบ เป็นเงิน 144,000 บาท เด็ก 1 คน ตั้งแต่ท้องจนเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ รัฐบาลจ่ายให้คนละ 181,000 บาท ปี 62 น่าจะมีเด็กใหม่ 7 แสนกว่าคนเท่าปีที่แล้ว รัฐบาลต้องจ่าย 126,700 ล้านบาท ยังมี เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุกกลุ่มอายุ จะเพิ่มเป็น 1,000 บาท เป็นต้น
แค่ 3 ข้อใน 12 ข้อที่รัฐบาลหาเสียงสัญญากับประชาชน จะทำภายใน 1 ปีที่ได้เป็นรัฐบาล แม้นายกฯจะไม่บรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาล แต่ผมก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไม่ผิดคำพูดที่รัฐบาลหาเสียงไว้กับประชาชนตั้งแต่วันแรกที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ยังมีเวลาคิดอีกหนึ่งคืนครับ ขอให้ทำอย่างที่พูดหาเสียงไว้เถิด อย่าเสียคนตั้งแต่วันแรกเลย แค่ภาพลักษณ์รัฐบาล ประชาชนก็ช้ำพออยู่แล้ว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”