กติกาสภาผู้แทนไทย...ครั้งล่า ส.ส.คนเก่าไป ส.ส.คนใหม่ก็มาแทน ผมไม่แน่ใจ ระหว่าง “มาดามเดีย” พลังประชารัฐ กับ “คุณตั๊น” ประชาธิปัตย์ สองท่านนี้ ใครได้ลำดับสุดท้าย ส.ส.คนที่ 500
แต่ลำดับหมายเลขนี้ ก็คงไม่ยืนยงคงที่ไปนานสักเท่าไหร่...เพราะถ้า ส.ส.ที่ได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออก หรือศาลท่านชี้คดี ส.ส.ในคิวข้อหามีหุ้นสื่อ...ลำดับ ส.ส.คนที่ 500 ต้องเปลี่ยนไปอีก
พอดีผมมีโจทย์ ให้ค้นเรื่องเทวดาฝรั่ง องค์ที่เป็นสมาชิกสภาโอลิมปัสองค์สุดท้าย ก็คงเข้าตำรา ส.ส.นิวเดม ที่กลายร่างเป็น ส.ส.ยังเดโมแครต หรือยุวชนประชาธิปัตย์ หรือทำนองนั้นนั่นแหละ
เทพองค์นี้ ชื่อโรมัน “แบกคัส” ชื่อกรีก “ ไดโอไนซัส” (Dionysus) นับถือกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น
เทพองค์นี้ มีที่มาซับซ้อน อ.สายสุวรรณ เล่าไว้ในหนังสือ เทวดาฝรั่ง กรีก-โรมัน (สำนักพิมพ์อมรินทร์ พิมพ์ครั้งที่ 17 พ.ศ.2561) ว่า เทพจูปิเตอร์ ผู้ยิ่งใหญ่ จำแลงแปลงร่างไปรักใคร่กับนางงามมนุษย์ ชื่อซิมิลี
สตรีหมายเลข 1 แห่งสวรรค์ พระชายาจูโนรู้ข่าว ก็แปลงร่างลงมาหลอกให้ซิมิลี ขอดู “องค์เทพจริง”
ทันทีที่เห็นแค่รังสี องค์จูปิเตอร์จริง ร่างนางซิมิลีก็ละลาย แต่ก่อนหายไปทั้งตัว เทพจูปิเตอร์ ฉวยทารกในท้อง...ออกมาเลี้ยงไว้ที่ต้นขา ครบทศมาส ก็มอบให้นางอัปสรพวกหนึ่งช่วยเลี้ยง
เติบโตเป็นหนุ่ม ก็ยังไม่ปรากฏ เทพไดโอไนซัส จะถูกใจเทวีบนฟ้า หรือนางงามมนุษย์คนไหน
โลกมนุษย์ตอนนั้น กษัตริย์ไมเนิส แห่งครีต รบชนะเอเธนส์ ทุก 7 ปีเอเธนส์ต้องส่งชายหนุ่มหญิงสาวพวกละ 7 คน ไปสังเวยไมเนอทอร์ อสูรร้ายครึ่งคนครึ่งวัว ซึ่งถูกขังไว้กลางเขาวงกตเกาะครีต
ปีนั้นธีเซียส เจ้าชายเอเธนส์ อาสาเป็นหนึ่งในบรรณาการ เมื่อไปถึงเมืองครีต พระธิดากษัตริย์ไมเนิส ชื่อ แอรีแอดนี เห็นหน้าเข้าก็หลงรัก ช่วยวางแผนให้เจ้าชายฆ่าอสูรตาย
...
แล้วแอรีแอดนี พร้อมด้วยพระขนิษฐา ก็ขอตามเจ้าชายกลับเอเธนส์ด้วย
ระหว่างการเดินทาง เจ้าชายเปลี่ยนใจไปหลงเสน่ห์พระขนิษฐา ปล่อยพระนางทิ้งไว้บนเกาะร้าง เทพไดโอไนซัส มาเจอก็หลงรัก ได้นางแอรีแอดนีเป็นชายา
ในฐานะชายา เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น ฐานะของนางแอรีแอดนีก็ถูกยก ได้เป็นเทวีแห่งเกาะครีต ถิ่นเกิดพระนางเอง
เรื่องราวต่อไปนี้ ผมใช้ข้อมูลจากหนังสือ “เทวลีลา” ที่อัญชลี สถิรศาสตร์ เขียน...เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น เคยถูกเทพีฮีเรอ สาปให้เป็นบ้า เตลิดเปิดเปิงเดินทางสะเปะสะปะไปทั่วโลก
เคราะห์ดี เทพอสุรี “รีอา” ผู้เป็นย่า (มารดาจูปิเตอร์) ช่วยฟื้นฟูวิทยายุทธ์ และสอนวิธีปลูกเหล้าองุ่น และทำเหล้าให้ นำไปเผยแพร่
เทพแห่งเหล้าองุ่น มักปรากฏองค์พร้อมกับขบวนหญิงชาวป่าที่กำลังเต้นระบำเพราะความมึนเมา รายรอบด้วยมนุษย์ครึ่งคนครึ่งแพะ “แซทเทอร์”
เมื่อลัทธิบูชาเทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นมาถึงกรีซ พวกพระก็พากันต่อต้าน ให้เหตุผลว่า คนขี้เมาทำให้สังคมไร้ระเบียบ แต่ภายหลังพวกพระเองก็กลับยอมรับ ให้เป็นเครื่องดื่มสำคัญในพิธีกรรมทั้งมวล
ไม่เพียงพวกพระจะชอบดื่ม ยังหมักกินเองและขายเอง
เหล้าองุ่น เป็นเรื่องดีเชิดหน้าชูตาในสังคม ฐานะของเทพไดโอไนซัส ก็ได้รับการยกย่องสูงขึ้น รวมฐานะเป็นโอรสเทพจูปิเตอร์ ก็ถูกสภาเทพโหวตเสียงให้ขึ้นไปสถิตในสภาโอลิมปัส
ไม่เพียงได้ลำดับ ส.ส.สภาโอลิมปัสองค์สุดท้าย ยังนับเป็นองค์สมาชิกสภาเทพที่มีอายุน้อยที่สุด เป็นความหวังใหม่ ที่สภาเทพรุ่นใหญ่จะเรียกคะแนนนิยมจากประชากรสวรรค์
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ การบูชาเทพไดโอไนซัส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น ซึ่งเคยมีเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ยังไม่จางคลายหายไปไหน วันนี้ก็ยังมีอยู่.
กิเลน ประลองเชิง