ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ คุณทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทย 3 เดือนแรกของปี 2562 ว่า มีการขยายตัวเพียง 28% เป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 17 ไตรมาส หรือในรอบ 4 ปีกว่า นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2557 หลังจากที่ รัฐบาล คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาบริหารประเทศ คาดว่าจีดีพีในปี 2562 จะมีการขยายตัว 3.6% ในกรอบ 3.3-3.8% จากเดิม 3.8% โดยปรับลดจากกรอบครั้งก่อนระหว่าง 3.5-4.5% หรือ 4%

ตัวเลขจีดีพี 2.8% นี้ สภาพัฒน์ บอกว่า เติบโตน้อยกว่าที่คาดไว้มาก

สาเหตุที่จีดีพีไตรมาสแรกโตต่ำมาก คุณทศพร กล่าวว่า เป็นผลจากการลงทุนภาครัฐที่ยังทรงตัวเท่าเดิม (รัฐบาลเอาแต่แจกเงินคนจนและเกษตรกรแบบประชานิยม ซึ่งไม่แก้ปัญหา) การใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจก็ยังทรงตัวเท่าเดิม ปัจจัยเสี่ยงช่วงเลือกตั้ง ทำให้การตัดสินใจเชิงธุรกิจต้องรอความนิ่งจากการเมืองก่อน หากการเมืองนิ่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คิดว่าบรรยากาศต่างๆจะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง งบประมาณปี 63 ที่จะเข้าสู่กระบวนการรัฐสภา และประกาศใช้ในเดือนตุลาคม 2562

คุณทศพร กล่าวอีกว่า สภาพัฒน์เชื่อมั่นว่า เมื่อฟอร์มรัฐบาลเสร็จ ความนิ่งทางการเมืองจะเกิดขึ้น รัฐบาลปริ่มน้ำหรือไม่ปริ่มน้ำ ก็เป็นเรื่องที่ประเทศไทยเคยผ่านมาแล้วหลายครั้ง คิดว่าน่าจะสามารถบริหารนโยบายต่างๆไปได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบาย

คุณทศพร ตอกย้ำว่า ปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ คือ การส่งออก การท่องเที่ยว และ ความนิ่งทางการเมือง เพราะตัวเลขอื่นๆของไทยยังดีอยู่ ทั้ง เงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน การบริโภค การลงทุนภาคเอกชนที่ยังแข็งแกร่ง

ผมสรุปจากข้อมูลที่ คุณทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์แถลงก็คือ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังดีหมดแทบทุกตัว (ยกเว้นการส่งออก) ไม่ว่าจะเป็น อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนที่นิ่ง การบริโภคในประเทศของคนไทยที่ยังขยายตัวในเกณฑ์สูงถึงร้อยละ 4.6 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5.4 การลงทุนของภาคเอกชนก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี มีการขยายตัวร้อยละ 4.4 ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5.5 แต่ที่แย่ที่สุดก็คือการลงทุนภาครัฐที่ติดลบ 0.1% เอกชนบวกหมด มีแต่รัฐบาลที่ติดลบ

...

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ จุดอ่อนของเศรษฐกิจไทย ก็คือ รัฐบาล คสช. นั่นเอง

คุณทศพร มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังว่า มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก ถ้ารัฐบาลใหม่มีนโยบายที่ชัดเจน (ขนาดรัฐบาล คสช. มีอำนาจเด็ดขาดเพียงคนเดียวยังทำได้แค่นี้ แล้วรัฐบาลผสม 20 พรรคจะทำได้ดีกว่ารัฐบาล คสช.ได้อย่างไร) และปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง จะขึ้นอยู่กับ “การส่งออก” และ “การท่องเที่ยว” เพียงสองเครื่องยนต์เท่านั้น

คุณทศพร ระบุว่า การส่งออกปี 2562 จะต้องพลิกจากติดลบร้อยละ 4.9 ในรูปเงินยูเอส ติดลบร้อยละ 3.6 ในรูปเงินบาท ให้กลับมาขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ให้ได้ และ ขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้มีรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 2.21 ล้านบาท โดยรัฐต้องให้ความสำคัญดูแลเรื่อง ความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัย การฟื้นฟูภาพลักษณ์จากมลภาวะฝุ่นพิษ การอำนวยความสะดวก ลดความแออัด กระจายรายได้สู่เมืองรองและชุมชน หากปล่อยให้ “การส่งออก” และ “การท่องเที่ยว” ชะลอตัว จะมีผลย้อนกลับไปสู่ “รายได้ครัวเรือน” ที่อาจมีการใช้จ่ายต่ำกว่าที่คาด

ก็ฝากเป็นการบ้านนายกฯคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้ตรงนี้ครับ เป็นนายกรัฐมนตรีมานาน 5 ปีแล้ว น่าจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าคนอื่น.

“ลม เปลี่ยนทิศ”