ผลงานระดับมหากาพย์ ในแผ่นดิน จิ๋นซีฮ่องเต้ กว่าสองร้อยปี ก่อน ค.ศ.รวบรวม 7 รัฐจีน เป็นหนึ่งเดียว เปลี่ยนระบอบปกครอง จากระบบส่งลูกหลานไปกินเมือง เป็นจังหวัด สร้างกำแพงเมืองจีน เผาบัณฑิตกว่า 460 คน ด้วยหนังสือตำรา ฯลฯ
ประวัติจีน บันทึกไว้ด้วยความคารวะว่า มาจากอภิมหานายกหนึ่งเดียว ที่ชื่อหลี่ซือ
(10 ยอดผู้นำแผ่นดินจีน สุขสันต์ วิเวกเมธากร สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2521)
เกิดอำเภอซ่างไซ่ รัฐฉู่ สืบทอดบิดา เป็นเสมียนอำเภอ วันหนึ่งหลี่ซือเข้าส้วม เห็นหนูที่เคยวิ่งพลุกพล่าน ถูกสุนัขไล่กัดตาย เขาเก็บ ภาพของหนูที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดหัวซุกหัวซุน ไว้ในใจ
วันต่อมาไปเที่ยวหุบเขา จอหนูอีกพวก วิ่งกันเพ่นพ่าน หนูภูเขามีชีวิตสุขสำราญ ไม่มีวี่แววกลัวภัยสุนัขไล่กัด
ได้ความคิด ชีวิตคนก็เช่นกัน จะเลือกอยู่อย่างสุขสบาย หรือจะอยู่อย่างหวาดระแรง เกิดจากการเลือกที่อยู่ หลี่ซือ ตัดสินใจย้ายที่อยู่จากอำเภอบ้านนอก ไปอยู่ในเมืองใหญ่
ฝากตัวเป็นศิษย์ ซุ่นจื่อ เจ้าสำนักปรัชญาผู้ลือลั่น ยุคจั้นกว๋อตอนปลาย
หลัก “ซุ่นจื่อ” จิตใจมนุษย์ เหมือนน้ำตกตะกอนขุ่น ถ้าไม่มีอะไรไปกวน น้ำนั้นก็จะยังใส ธรรมชาติของคน มีสันดานโหดร้ายป่าเถื่อน จะต้องแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยการศึกษา
หลี่ซือเชื่อมั่นในวิธีการปกครองแบบกษัตริย์มีอำนาจเต็มที่ แต่ต้องเป็นกษัตริย์ ที่ดีมีคุณธรรม
จบการศึกษา หลี่ซือรับราชการ เขาคิดถึงเรื่องหนู และสรุปว่าจะไม่เลือกทางเดินของหนู เขาเลือกทางเดินของสุนัขผู้ฆ่าหนู มุ่งหน้าเข้ารัฐฉิน รับราชการเริ่มแต่ชั้นเสมียน จนได้เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หลี่ปู้เหว่ย
ผู้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอีกตำแหน่ง
การเมืองพลิกผัน หลี่ปู้เหว่ย รับพระราชทานจอกสุราพิษตาย หลี่ซืออยู่ในคิวต่อมาช่วงเวลาคับขัน หลี่ซือกล้าเขียนหนังสืองานถนัดถวายฉินอ๋องเจิ้ง
...
“กษัตริย์ที่ชาญฉลาด ย่อมเข้าใจในการฉวยโอกาสอย่างไม่ลังเล ผู้ประสบความยิ่งใหญ่ ย่อมรู้วิธีน้ำขึ้นให้รีบตัก คนต่ำทรามเหลวไหล มักผิดพลาดเสียโอกาสเพราะจิตใจโลเล”
รอดตายถูกเลือกใช้เป็นราชเลขาธิการ หลี่ซือก็เริ่มบทสุนัขล่าหนู
ตั้งองค์กรลับ ส่งจารชนกระจายทุกหัวระแหง กำจัดหนูทุกตัวที่เป็นขวากหนามแผ่นดิน กำหนดระบบการสอบสวนทั้งห้า ตอกเล็บ บีบขมับ รัดข้อเท้า ทุบด้วยกระบอง จี้ด้วยเหล็กเผาไฟบังคับให้สารภาพ
ไม่เว้นกระทั่งเพื่อนร่วมรุ่น ที่ชื่อ หันเฟยจื่อ
เพื่อนคนนี้เรียนมาด้วยกัน แต่เรียนเก่งกว่า ผลงานทำท่าจะล้ำหน้า หันเฟยจื่อเจอข้อหา เป็นลูกกษัตริย์รัฐหัน มาเป็นสายลับแคว้นฉิน เรื่องจบตรงหลี่ซือ ยื่นห่อยาพิษให้ ชื่อหันเฟยจื่อก็ถูกแทงบัญชีศูนย์
หลี่ซือเลื่อนเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปราบหกนครรัฐได้หมด อำนาจมากขึ้นก็ถูกครหา เป็นที่มาของการเผาตำรา ขุดหลุมเผา 460 บัณฑิต
เคยถูกใส่ไฟ แต่เอาชีวิตรอดและกลับมายิ่งใหญ่ได้ จนสิ้นแผ่นดินจิ๋นซีฮ่องเต้ หล่ีซือสมคบจ้าวเกา หัวหน้าขันที ปลอมราชโองการ ให้รัชทายาทและแม่ทัพใหญ่ฆ่าตัวตาย
กรรมทันตาขันทีเจ้าเกา สั่งจับหลี่ซือข้อหากบฏ หลังระบบสอบสวนทั้งห้า...เขาสารภาพ
เขารำพึงกับลูกชาย “ถ้าข้าไม่เลือกรับราชการจนเป็นใหญ่ วันนี้เราสองพ่อลูก คงเที่ยวสบายพาสุนัขไปล่าเนื้อในป่าเขา”...เป็นประโยคสุดท้าย ก่อนถูกประหารด้วยการสับเอวสองท่อนกลางตลาด
ใครอยากเป็นผู้นำ ประชาธิปไตย ก็เสนอตัวไปเถิด อย่าเลือกเป็นผู้นำเผด็จการเลย
เพราะฉากสุดท้ายของผู้นำเผด็จการ ในประวัติศาสตร์ น่าอเนจอนาถ...เหมือนๆหลี่ซือหลายคน.
กิเลน ประลองเชิง