ในยามหมกมุ่นวุ่นวายเรื่องเทพเจ้า ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม มาหยุดที่เล่ม เทวลีลา ที่ปานชลี สถิรศาสตร์ ศิลปินที่ปั้นดิน เป็นสารพันเทพเทพีได้งาม ปั้นคำได้ไม่แพ้กัน...ตั้งใจเขียนความรอบรู้ที่เธอได้มาจากหนังสือศิลปะนับเล่มไม่ถ้วนหนักเท่าโอ่ง ตลอด 20 ปี ลึกล้ำหลากหลาย...จนจินตนาการตามแทบไม่ทันท้ายเล่ม ปานชลี สถิรศาสตร์ สรุปว่าพระสุริยันในวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย อียิปต์ ชาวมายันในอเมริกากลางและใต้ สุเมรียน บาบิโลเนียน และอีกหลายชนชาติ เป็นเทพหรือเทพีที่ใหญ่ที่สุดมาก่อนแต่เดิมเป็นเจ้าแห่งแสงสว่าง สติปัญญา ศิลปะ ดนตรี กีฬา กสิกรรม วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การทำนาย ความรู้ทั้งมวลพระสุริยันเหมาหมดต่อมาถูกลดบทบาท จึงค่อยๆแบ่งหน้าที่ไปให้เทพองค์อื่นดาวอาทิตย์ เป็นตัวแทนของนักปราชญ์ ราชบัณฑิต ครู อาจารย์ ทหาร ผู้พิพากษา ข้าราชการ นักรัฐศาสตร์ นักปกครอง ผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เทพยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีรูปร่างที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีลักษณะที่เปี่ยมด้วยอำนาจน่าเกรงขาม เป็นเทพที่ได้รับการบวงสรวงเซ่นไหว้ ด้วยมนุษย์เกรงภัยของฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พายุ น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดและหวาดความเจ็บไข้ หวั่นความกลัวความตายเมื่ออารยธรรมซับซ้อนขึ้น มนุษย์จึงสร้างเทพที่เป็นอมตะ มีความงดงามอย่างที่ใฝ่ฝัน ขณะที่ตำนานเทพปกรณัม ก็สร้างมนุษย์ให้มีหน้าตาคล้ายเทพบุตรและนางฟ้ามนุษย์สร้างเทพ และเทพก็สร้างมนุษย์ สวรรค์มาก่อนโลก และโลกก็สร้างสวรรค์ เทพลิขิตชีวิตมนุษย์ มนุษย์ก็เขียนชะตาของเทพ มนุษย์ชั้นปกครองเป็นเทพเทียม ที่มีอำนาจราวเทพแท้ปานชลี สถิรศาสตร์ เล่าเรื่องสุริยเทพีของจีน...มีนามว่า ซีเหอ เป็นชายาของตี้จวิน เทพบิดรแห่งสวรรค์ฝั่งบูรพา มีโอรส 10 องค์ เป็นดวงสุริยาในรูปของสุริยปักษา เรียก กาสุริยะ 3 ขาแห่งสวรรค์ อาศัยอยู่ ณ ทะเลตะวันออกมีหน้าที่ผลัดกันบินรอบโลกวันละดวงโดยมีสุริยเทพี พระมารดาเป็นสารถีขับรถทรงเทียมม้ามังกรวันหนึ่งสุริยาทุกดวงรู้สึกเมื่อยล้า เบื่อจะทำงานตามลำพัง จึงพร้อมใจกันออกมาทั้งหมด ทำให้เกิดความร้อนระอุแผ่กระจายไปทั่วโลก น้ำเหือด ต้นไม้แห้งตาย มนุษย์ทนรังสีแห่งแสงสูรย์ 10ดวงไม่ไหวตัวแทนมนุษย์ จักรพรรดิเหยา อ้อนวอนตี้จวินเทพบิดรให้ช่วย เทพบิดาส่งเทพธนูโฮ่วหยี ไปขู่ว่าจะยิง พวกปักษาสุริยะหัวเราะเยาะ ไม่เชื่อว่าเทพบิดรกล้าฆ่าลูกตัวเองโฮ่วหยีทนไม่ไหว ยิงธนูสอยสุริยปักษาร่วงทีละดวงๆ พอดวงที่ 9 ร่วง จักรพรรดิเหยาก็รีบแจ้นออกมาห้ามว่า ถ้าสุริยปักษาร่วงทั้ง 10 ดวง โลกก็จะมืดมิดและหนาวเหน็บ มนุษย์ก็อยู่ไม่ได้เทพธนูโฮ่วหยีได้คิด จึงละเว้นดวงอาทิตย์ดวงที่ 10 ไว้ มนุษย์ในโลกจึงอยู่กันมาได้ถึงวันนี้ปานชลีจบเทพปกรณัมเรื่องนี้ว่า สุริยปักษาหนึ่งดวง ที่เคยบ่นว่าเบื่อ เคยทำงานวันเดียวพักเก้าวัน เป็นงานหนักและเหนื่อย จึงไม่ได้พักเลยแม้แต่วันเดียวผมอ่านเทวลีลาจบ ก็คิดต่อว่า เทพสร้างมนุษย์ มนุษย์สร้างเทพ มาแต่ดึกดำบรรพ์ จนถึงวันนี้ มนุษย์ก็ยังต้องเหนื่อยกับการสร้างเทพอยู่24 มีนาฯ...มนุษย์จะช่วยกันสร้างเทพองค์ใหม่ จะได้เทพมาคุ้มครองผองภัย หรือมาซ้ำเติมทุกข์ให้หนักกว่าเดิม มนุษย์ที่ฉลาดสามารถใช้ปัญญาเลือกได้ด้วยมือของตัวเอง.กิเลน ประลองเชิง