งานเลี้ยงโต๊ะจีนโต๊ะละ 3 ล้านบาท เพื่อระดมทุนเข้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 600 ล้านบาท กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะกลายเป็นข่าวว่ากระทรวงการคลังซื้อ 20 โต๊ะ เป็นเงิน 60 ล้านบาท ททท. 3 โต๊ะ 9 ล้านบาท แม้หน่วยงานรัฐทั้งสองจะปฏิเสธไม่เป็นความจริง แต่มีเสียงเรียกร้องให้ กกต.ตรวจสอบ

อดีตกรรมการ กกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า หากเป็นความจริงตามข่าว ถามว่ารัฐมนตรีใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้หน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจสนับสนุนค่าโต๊ะหรือไม่ หรือไปขอการสนับสนุนจากภาคเอกชน เช่นเดียวกับนางสมศรี สัตยธรรม อดีต กกต.ถามว่า 4 รัฐมนตรีมีการใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยระดมทุนให้พรรค ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายพรรคหรือไม่

กฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 73 ห้ามข้าราชการการเมืองใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เรี่ยไรหรือชักชวนให้บริจาคเงินให้พรรค หรือผู้สมัคร ส.ส. ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ส่วนหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจต้องห้ามเด็ดขาด ไม่ให้สนับสนุนด้านการเงินแก่พรรคใดๆ เพื่อให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า พรรคสามารถระดมทุนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ถ้ามีบุคคลใดบริจาคเกิน 1 แสนบาท ต้องรายงานนายทะเบียนพรรค คือเลขาธิการ กกต. และประกาศให้ประชาชนทราบภายใน 30 วัน การเลี้ยงโต๊ะจีนโต๊ะละ 3 ล้านบาท โต๊ะหนึ่งมี 10 ที่นั่ง แสดงว่า ผู้ที่เข้าร่วมงานต้องจ่ายรายละ 3 แสนบาท ต้องรายงาน กกต.

งานเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อระดมทุนเข้าพรรค พปชร.ครั้งนี้ นักการเมืองบางคนระบุว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ขณะที่รัฐมนตรีซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า คนส่วนหนึ่งกำลังจะอดตาย แต่มีงานเลี้ยงระดมทุนเข้าพรรค ผู้ร่วมงานต้องจ่ายหัวละ 3 แสนบาท เท่ากับว่าต้องซื้ออาหารถึงคำละ 3 พันบาท

...

ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมงานเลี้ยง ลักษณะนี้ จะต้องมีฐานะดี อาจเป็นนายทุนระดับใหญ่ อาจเป็นไปตามความเห็นของนักวิชาการหลายคนที่ชี้ให้เห็นว่าในกว่า 10 ปีที่ผ่านมามีการก่อตัวของกลุ่มทุนใหญ่ขึ้นประมาณ 10 กลุ่ม มีอิทธิพลครอบงำเศรษฐกิจสำคัญๆของประเทศ และพยายามเข้ามามีอำนาจทางการเมือง ใกล้ชิดกับการเมืองและการกำหนดนโยบายรัฐบาล

วิธีการหนึ่งที่อาจทำให้กลุ่มนายทุนใหญ่สามารถมีส่วนกำหนดนโยบาย ในการบริหารประเทศได้คือ การสนับสนุนด้านการเงินแก่พรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง นักวิชาการท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาล คสช.ทุ่มงบสนับสนุนโครงการของกลุ่มทุนใหญ่ถึง 5–6 ล้านล้านบาท แต่ทำไมไม่สนับสนุนธุรกิจที่เป็นหลักของประเทศ สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี.