การหาเสียงเลือกตั้ง 24 กุมภา 62 เริ่มขึ้นแล้ว หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สั่งปลดล็อกทางการเมือง เมื่อ 11 ธันวาคม รุ่งขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับเป็นครั้งแรกที่บึงกาฬว่า “ผมมาวันนี้ ถ้าเป็นนักการเมืองเต็มตัว ผมจะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ เพราะผมบริหารประเทศ ถ้าเป็นนักการเมือง ก็ดีใจที่มีคนรักเยอะ แต่รู้ไหมผมเป็นทุกข์ แต่ผมยอมเป็นทุกข์ ยอมตายจากตรงนี้ เพราะคิดว่าทำไมเขาถึงมาหวังที่เรา เราจึงต้องทำความหวังให้เป็นความจริง จะหลอกลวงล่อลวงไม่ได้ แต่จะทำให้ดีขึ้น”
ถือเป็นการหาเสียงครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ นักการเมือง (เกือบเต็มตัว)
แม้โหร คมช. นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ จะอ้างนิมิตหลวงปู่ทำนายว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกฯต่อเนื่องไปอีก 2 สมัยไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่ เซียมซีหมายเลข 17 วัดโพธาราม อ.เมืองบึงกาฬ กลับทำนายว่า “คุณกำลังได้รับพลังแห่งธาตุไฟอย่างเต็มเปี่ยม ธาตุไฟช่วยเผาผลาญ สร้างความอบอุ่น แต่ก็ทำให้ร่างกายทรุดโทรมและเหนื่อยอ่อน นี่เป็นเวลาที่คุณควรได้ทบทวนชีวิต แล้วเลือกปรับสมดุลใหม่ให้ลงตัว”
แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ยอมตายเพื่อให้ประชาชนสมหวัง คงไม่มีอะไรหยุดยั้งความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเป็น นายกรัฐมนตรี สมัยต่อไปได้
วันนี้ การหาเสียงทางการเมือง ไม่ได้มีแค่ อำนาจรัฐ การขึ้นป้ายหาเสียง การปราศรัย การขึ้นรถแห่ การหาเสียงทางโซเชียลมีเดีย หรือ การใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โซเชียลมีเดียไปวิเคราะห์พฤติกรรม แล้วสร้างนโยบายที่โดนใจผู้เลือกตั้ง เหมือนกรณีการขโมยข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ Facebook กว่า 50 ล้านบัญชีในสหรัฐฯ ไปช่วย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงจนชนะการเลือกตั้งที่ยังเป็นคดีความ
เทคโนโลยีการหาเสียงที่เป็น อาวุธร้ายใหม่ทางการเมือง ที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้ มีการทดลองเลียนแบบ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา อดีตผู้นำสหรัฐฯ ด้วยการสร้างภาพและคำพูดใหม่จาก AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เหมือนโอบามาพูดเองไม่มีผิด
...
เทคโนโลยีใหม่นี้คือ Deep Fake หรือ Deepfake นวัตกรรมการหลอกลวงที่ลึกลํ้า ร้ายแรงยิ่งกว่า “ข่าวปลอม Fake News” ใน เฟซบุ๊ก และ กูเกิล เพราะ เป็นข่าวปลอมที่มาพร้อมภาพและเสียง ที่เกิดจากการสร้างของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เลียนแบบตั้งแต่ ท่าทาง นํ้าเสียง ท่วงทำนองการพูด การขยับตาขยับปาก แล้วนำข้อความที่เป็นเท็จไปใส่ลงไปเป็นคำพูด เหมือนเป็นคำพูดของเจ้าตัวโดยตรง
คนที่จะปวดหัวก็คือ กกต. คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ผมค้นข้อมูล Deepfake เพิ่มเติมก็พบว่าสถาบันวิจัยของ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (CMU) สหรัฐฯ ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถ สร้างนวัตกรรมการหลอกลวงที่ลึกลํ้า (Deepfake) แบบอัตโนมัติด้วยตัวเอง ด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การเรียนรู้ด้วยตัวเองของเครื่องจักร (Machine Learning) ซอฟต์แวร์นี้สามารถก๊อบปี้การแสดงออกของใบหน้าและวัตถุต่างๆในวิดีโอหนึ่ง แล้วนำไปสร้างเป็นข้อมูลใหม่ในอีกวิดีโอหนึ่ง เช่น การเปลี่ยนใบหน้า ของ บารัค โอบามา เป็น โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ การเปลี่ยนหน้าดาราดังลงในหนังโป๊ เป็นต้น
ระบบ Deepfake นี้สามารถเปลี่ยน ภาพยนตร์ขาวดำ เป็น ภาพยนตร์สี หรือ เปลี่ยนดอกพู่ระหง ให้กลายเป็น ดอกแดฟโฟดิล
ก็ได้
ที่น่ากลัวก็คือ CMU ได้สร้าง Deepfake ที่สามารถ เรียนรู้คู่ต่อสู้ แล้วสร้างภาพขึ้นมาหลอกคู่ต่อสู้ได้ด้วย คล้ายกับ ซอฟต์แวร์แปลภาษาด้วยปัญญาประดิษฐ์ แปล “ภาษาอังกฤษ” เป็น “ภาษาสเปน” แล้วแปลกลับมาเป็น “ภาษาอังกฤษ” อีกที ทำให้ระบบสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว ถ้ามีการนำมาใช้ในการเมืองไทยช่วงนี้ ก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างจาก “ข่าวปลอม” ที่มีอยู่มากมายในโซเชียลมีเดีย คนไทยเชื่อง่าย เสียด้วย.
“ลม เปลี่ยนทิศ”