หลังจากยึดอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คสช.ประกาศเป้าหมายสำคัญหลายประการ รวมทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การสร้างความปรองดองในชาติ และการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ โดยให้การปฏิรูปการเมืองเป็นอันดับแรก และมีบทบังคับทั้งในรัฐธรรมนูญชั่วคราวและฉบับถาวร
รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นฉบับแรกที่มีบทบัญญัติว่าด้วยการปฏิรูปประเทศโดยตรง ให้รัฐบาลปฏิรูปประเทศในด้านสำคัญๆ เร่งด่วน อันได้แก่ การปฏิรูปการเมือง การ บริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การศึกษา และเศรษฐกิจในด้านการเมือง ต้องให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทาง การเมือง ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำไม่ว่าทางใด และเน้นเป็นพิเศษเรื่องพรรคการเมือง ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม อย่างแท้จริงในกิจกรรมของพรรค และให้มีกลไกแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี
รัฐธรรมนูญบังคับด้วยว่าจะต้องเริ่มปฏิรูปประเทศในแต่ละด้าน ภายในเวลา 1 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ คือ วันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นต้นมา บัดนี้เวลา ผ่านพ้นไปแล้วกว่า 4 ปี นับแต่เกิดรัฐประหารและกว่า 1 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ สำนักโพลน่าจะสำรวจความเห็นประชาชน ว่าปฏิรูปประเทศก้าวหน้าถึงไหน
ประชาชนอาจมีความเห็นต่างกัน บางส่วนอาจมองว่ากว่าสี่ปีภายใต้รัฐบาล คสช.การปฏิรูปประเทศก้าวหน้าไปมาก รวมทั้ง ด้านการเมือง แต่บางส่วนมองว่าเป็นสี่ปีเศษที่เสียเปล่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งใหม่ ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่ากลุ่มหรือพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลยังใช้วิธีการเดิมๆ ในการดูดผู้สมัคร ส.ส. และการบริหารประเทศ
...
หลายอย่างยังมีการเลียนแบบการเมืองน้ำเน่าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นความพยายามเอาเปรียบคู่แข่งในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง รัฐบาลยืนยันว่าไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มบอกเป็นนัยๆว่า ไม่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่ารัฐบาลชั่วคราว จะต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์การเลือกตั้ง
ไม่ทราบว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมืองหรือไม่ เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่นำประเทศถอยหลังกลับไปสู่ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ ซ้ำรอยรัฐธรรมนูญ 2521 เมื่อ 40 ปีก่อน อีกทั้งระบบการเลือกตั้งใหม่ ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มั่นคง แต่เชื่อว่าจะได้รัฐบาลผสมหลายพรรค เป็นรัฐบาลอ่อนแอและไร้ประสิทธิภาพ.