คนที่ไปเจอหมอภาคย์ โลหารชุน หมอหน่วยซีล เดินที่บิ๊กซีสะพานควาย อดใจไม่ไหว ผวาเข้าไปขอถ่ายรูป หมอก็ยิ้มให้ยอมถ่ายรูปด้วยหมอภาคย์ไม่มีข้อจำกัด อย่างหน่วยซีล อย่างเด็กๆ 13 หมูป่า...จะคุยกับจะให้สัมภาษณ์สื่อแขนงใดก็ได้หมอภาคย์เป็นหนึ่งทีมหน่วยซีล ที่แสดงความกล้าหาญ เกินผู้กล้าหาญสามัญธรรมดาฝรั่งนักดำถ้ำ ที่ดำไปเจอ 3 หมูป่าก่อนใคร เพิ่งให้สัมภาษณ์ นับถือหัวใจ “หน่วยซีลไทย” ที่บุกบั่นดั้นด้นเข้าไปช่วยเด็ก โดยอุปกรณ์เครื่องมือเซฟชีวิตตัวจริงมีไม่พอตอนหมอภาคย์ และหน่วยซีล เข้าไปถึงเด็กๆที่เนินนมสาวฝรั่งว่า ทั้งชุดที่ไปไม่มีถังอากาศสำรองเหลือไว้เลยพูดแบบไทย หน่วยซีลไทย ปฏิบัติการแบบ “ไปตายเอาดาบหน้า” ทุกคนฝรั่งยกย่องหน่วยซีลไทย หน่วยซีลไทยเองก็นับถือฝีมือฝรั่ง ต่างยกย่องกัน กระแสเห่อฝรั่งขึ้นสูงในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงจ้างแหม่มแอนนา...เป็นครูสอนพระโอรสพระธิดา ทรงนับหมอบรัดเล เป็นพระสหาย ทำหนังสือพิมพ์โจมตีฝรั่งที่เอาเปรียบไทย ถูกฟ้องไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย ทรงพระราชทานเงินช่วยแต่กระนั้น ก็ไม่ทรงเชื่อฝรั่ง จนถึงขนาดที่เรียกว่าเห่อฝรั่ง“นิทานมิบ” (สำนักพิมพ์พิมพ์คำ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2558) เรื่องที่ 26 อเนก นาวิกมูล เล่าว่า ยุคนั้นมีฝรั่งหลายคนมากราบบังคมทูลเสนอให้เดินสายโทรเลข ให้ทำรถไฟทรงฟังมากๆเข้าก็ทรงเบื่อหน่าย รำคาญพระราชหฤทัย ไม่ทรงเอาด้วยตรัสว่า คราวสร้างถนนเจริญกรุง เมื่อ พ.ศ.2405 ฝรั่งเข้าชื่อขอสร้างถนนดีๆสักสาย เอาไว้พอได้ขี่ม้ายืดเส้นยืดสาย ถนนสร้างเสร็จ รถม้ามีไม่กี่คัน คนเดินก็ไม่กี่คน ปล่อยหญ้าขึ้นรกไปหมด“นี่เป็นเพราะบ้านเมืองยังไม่เจริญขึ้นทันใจ”พระราชดำรัสนี้ ไม่ได้แสดงว่า ทรงไม่เห็นด้วยกับการสร้างถนน แต่ทรงชี้ว่า ฝืนสร้างก่อนเวลามันสมควร ถมเงินลงไปโดยใช่เหตุ ด้วยเหตุผลนี้ จึงทรงชะลอการสร้างโทรเลข และทางรถไฟเอาไว้ก่อนสมัยนั้นการส่งข่าวโทรเลขใดๆ ไทยต้องเขียนข้อความฝากเรือเล็กไปส่งเรือใหญ่ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเรือใหญ่จึงเอาข้อความไปตีโทรเลขต่อไปสิงคโปร์หรือฮ่องกงทรงเห็นว่า ใช้เรือเล็กส่งข้อความที่ปากน้ำ ไม่ได้เร็วไปกว่า การขึงสายจากกรุงเทพไปปากน้ำเท่าใดเหตุผลต่อมา การใช้ขึงสายโทรเลข ต้องใช้ทองแดงมาก พวกสูบฝิ่นกินเหล้าเมืองไทย แม้ตะปูตัวเดียวมันยังลักไปขาย ลองเจอลวดทองแดงเข้าก็จะไม่หวานปากไปหรอกหรืออีกเหตุผลที่ยังไม่สร้างทางรถไฟ ทรงเห็นว่ากรุงเทพฯอยู่ไกลภูเขามาก จะขนหินมาถมทำทางรถไฟก็ยากทรงปล่อยมุกประชด รอให้คนไทยปลูกต้นก้อนหินให้เป็นภูเขาใหญ่ จึงค่อยสร้างทางรถไฟ รอให้ปลูกต้นเหล็ก ต้นทองแดงให้เติบโตทั่วแผ่นดิน จึงค่อยทำสายโทรเลขเหตุผลที่ฝรั่งฟังแล้ว ทั้งขำและงง เอนก นาวิกมูล เล่าไว้ในนิทานมิบ เรื่องที่ 27 ว่า สมัยรัชกาลที่ 3 มีเรื่องเล่า มีความพยายามไปขุดหาแร่ทองแดงในที่มีน้ำร้อนผุด แต่เมื่อหาไม่ได้มีคำสั่งให้คนไปหาแร่ทองแดง ไปให้ “ยายแสม” คนรู้จักที่เกาะสีชัง ปลูกต้นทองแดงเอาไว้พอเข้าใจว่า เหตุผลที่รัชกาลที่ 4 ทรงอ้างประชด คงเอาเค้ามาจากเรื่องเล่าเรื่องนี้ถึงรัชกาลที่ 5 มีการสร้างทางรถไฟ ระบบโทรเลข สมัยนั้นถือว่า “ล้ำหน้า” กว่าหลายประเทศในเอเชียน่าเสียดาย ทั้งรถไฟ ทั้งโทรเลข...ในวันนี้ไทยเราล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านเพิ่งจะมีการเร่งเครื่อง ก็ในสมัย คสช. ทั้งรถไฟความเร็วสูง ทั้งระบบสื่อสาร 4.0 ตั้งใจทำกันไป คงคิดว่า รอต้นทองแดง ต้นภูเขาโตทั้งแผ่นดิน คงจะไม่ไหวเด็กๆ 13 หมูป่า ยังช่วยจากถ้ำน้ำลึกคดเคี้ยวมาได้ ผมหวังว่า คสช.คงไม่ติดถ้ำการเมืองไทยเสียเอง.กิเลน ประลองเชิง