ช่วงที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงไทย อันเนื่องมาจากการจากไปอย่างไม่คาดฝันของศิลปินแห่งชาติ “สวลี ผกาพันธุ์” นั้น ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเขียนต้นฉบับล่วงหน้า จึงต้องเขียนถึงเรื่องทั่วไปที่ไม่เข้ากับเหตุการณ์ทิ้งไว้เพิ่งจะมีโอกาสเขียนถึง “ท่าน” ในวันนี้ แต่ก็คิดว่าคงจะไม่ล่าช้าจนเกินไปนัก เพราะอย่างน้อยก็ยังทันที่จะแจ้งให้ญาติมิตรและแฟนเพลงของท่านได้ทราบว่า ยังจะมีการสวดพระอภิธรรมศพท่านจนถึงพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) ณ ศาลาพระครูประจักษ์ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง จากนั้นก็จะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล 100 วันต่อไปผมขออนุญาตใช้คำสรรพนามแทน สวลี ผกาพันธุ์ ว่า “ท่าน” ในฐานะศิลปินอาวุโส อันเป็นที่นิยมชมชอบของคนอายุรุ่นผมและใกล้เคียง สมควรแก่การยกย่อง โดยใช้คำว่า “ท่าน” ในทุกประการโดยส่วนตัว ผมไม่เคยมีโอกาสได้พบเจอหรือพูดจากับท่านมาก่อนในชีวิตนี้ แม้ในช่วงหนึ่งของการเขียนหนังสือ ผมจะเคยได้รับมอบหมายให้เขียนคอลัมน์บันเทิงที่เกี่ยวกับเรื่องราวของภาพยนตร์และเพลงก็ตามที...ซึ่งก็เคยเขียนถึงภาพยนตร์และเพลงของท่านบ่อยๆครั้งโอกาสเดียวที่ผมเกือบได้พบท่านเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2558 นี่เอง เมื่อมีผู้ติดต่อมาขอให้ผมเขียนถึงคอนเสิร์ตการกุศลที่จะแสดง ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 7 รอบ หรือ 84 ปี สวลี ผกาพันธุ์ ซึ่งท่านจะร่วมร้องเพลงในรายการนี้ด้วยผู้ติดต่อมาแจ้งว่า ท่านจะมาขอพบและนำข้อมูลรายละเอียดมามอบให้ด้วยตนเอง ผมฟังแล้วก็ตกใจระคนเกรงใจ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่กว่าผมมากนัก และที่สำคัญท่านยังเป็นนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่ผมยกย่องมาโดยตลอด คงไม่เหมาะสมแน่นอนที่จะมาหาผมที่โรงพิมพ์จึงบอกกับผู้ติดต่อไปว่าขอให้ส่งแค่ข้อมูลการแสดงมาก็พอแล้ว ผมยินดีจะเขียนให้เต็มคอลัมน์ซอกแซกวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นคอลัมน์เชิงบันเทิงท่องเที่ยวสนุกสนาน และมีเนื้อหาที่ยาวพอสมควรเลยทีเดียวคณะผู้จัดงานจึงส่งข้อมูลมาให้และผมก็เขียนให้ในวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2558 ยังจำได้จนถึงวันนี้เสียดายที่ผมติดภารกิจสำคัญมิได้ไปชมงานแสดงของท่าน แต่ก็ทราบจากข่าวคราวภายหลังว่ามีแฟนเพลงไปให้กำลังใจท่านแน่นขนัด ทั้ง 2 รอบ และมีนักร้องระดับศิลปินแห่งชาติ และนักร้องอาวุโสที่เคยโด่งดังในอดีตไปร่วมร้องเพลงในรายการนี้ถึง 36 ท่านด้วยกันผมไม่ทราบว่าในปีต่อมาในเดือนสิงหาคม จะมีการจัดงานคอนเสิร์ตให้แก่สวลี ผกาพันธุ์อีกหรือไม่ แต่หลังจากนั้นมาประเทศไทยเราตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์อันเนื่องมาจากการสูญเสียที่ใหญ่หลวง เข้าใจว่าคงไม่มีการจัดงานคอนเสิร์ตใหญ่ๆแน่นอนส่วนในปีนี้ 2561 มีรายงานข่าวว่า สวลี ผกาพันธุ์ ในวัย 86 ปีเศษย่าง 87 ได้ไปร่วมร้องเพลงในงาน 236 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ที่ลานคนเมือง โดยร้องถึง 2 เพลง ได้แก่ “บ้านทรายทอง” และ “ใครหนอ” เมื่อวันที่ 24 เมษายนนี้เองไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่า อีกเพียง 7 วันต่อมา วันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 20.00 น. ท่านจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ดังข่าวและรายละเอียดที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับนำขึ้นพาดหัวหน้า 1 พร้อมๆกันในฐานะแฟนเพลงและแฟนภาพยนตร์ที่ติดตามท่านมาตั้งแต่เด็กจนเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ...นับตั้งแต่ดูภาพยนตร์เรื่อง “ดรรชนีนาง” ที่ท่านเป็นนางเอก มาจนถึงชอบเพลงที่ท่านร้อง จนถือเป็นเพลงประจำชีวิตของผม 2 เพลง ได้แก่ “ใครหนอ” และ “รักเธอเสมอ”ขอแสดงความเสียใจและความอาลัยอย่างยิ่งในการจากไปของท่าน แม้จะด้วยวัย 86 ปีแล้ว แต่เมื่อทราบว่าท่านยังแข็งแรงและร้องเพลงได้ดีมาก ก็ยิ่งรู้สึกเสียดาย และอาลัยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าปล. ผมเพิ่งเข้ายูทูบเพื่อเปิดฟังเพลง “ใครหนอ” และ “รักเธอเสมอ” ระลึกความหลัง ปรากฏว่ามีผู้นำคลิปเพลง “รักเธอเสมอ” ที่ทรงขับร้องโดย สมเด็จนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ท่านร้องไว้มาลงในยูทูบใกล้ๆกันด้วย ลองเปิดดูจึงทราบว่า เจ้านโรดม สีหนุ ทรงร้องเพลงไทยเพลงนี้ได้อย่างไพเราะมาก ทำให้อดคิดมิได้ว่า คงมิใช่คนไทยเท่านั้นหรอกที่ยัง “รักสวลีเสมอ” แม้คนกัมพูชาอีกไม่น้อยก็คงจะ “รักสวลีเสมอ” เช่นกัน.“ซูม”