น่าประหลาดใจในยุครัฐบาล คสช.ที่ประกาศให้การปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ แม้แต่รัฐธรรมนูญก็อ้างว่าเป็น “ฉบับปราบโกง” แต่ทำไมการโกงกินจึงยังเฟื่องฟู ซ้ำยังแพร่ระบาดถึงระดับรากหญ้า จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ ถึงกระทรวงศึกษาธิการ แม้จะเป็น ยุคประเทศไร้นักการเมืองที่เคยถูกตราหน้าเป็นคนโกงตัวพ่อ

รัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันแถลงว่า พบการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาอาชีพ ข้าราชการโอนเงินเข้าบัญชีคนอื่น ไม่ใช่เพิ่งจะทำกัน แต่งาบมาแล้วนับสิบปี ตั้งแต่ปี 2551 ถึง 2561 เป็นเงินกว่า 88 ล้านบาท กองทุนนี้มุ่งช่วยเหลือคนจน ส่วนหนึ่งเป็นทุนศึกษาเด็กหญิงที่ถูก “ตกเขียว” พ่อแม่รับเงินนายทุนมาและขายลูกสาวให้เมื่อโตขึ้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีข้าราชการเกี่ยวข้อง 5 ราย มีระดับซี 8 เป็นผู้รับผิดชอบมาโดยตลอด และยอมรับสารภาพว่าทำจริง แสดงว่ามีลักษณะตรงกันกับการงาบเงินคนไร้ที่พึ่ง คือการเบิกจ่ายเงินหละหลวม ข้าราชการระดับกลางมีอำนาจในการกำหนดว่าจะจ่ายเงินให้ใคร ไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด มีแต่ข้าราชการตรวจสอบกันเอง

แม้จะมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. แต่มักจะเข้ามาตรวจหลังจากที่ถูกร้องเรียน และ ป.ป.ท. ก็เป็นหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อยู่ใต้บังคับบัญชาของนักการเมือง ไม่เป็นอิสระแท้ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ก็ถูกสังคมมองด้วยความสงสัย ยังดำรงความเป็นอิสระหรือไม่ ถูกการเมืองแทรกแซงหรือไม่

อาจถือได้ว่าเป็นการโกงกินรูปแบบใหม่ เปลี่ยนจากการกินครั้งละร้อยล้าน พันล้าน ในยุคนักการเมือง มาเป็นการขูดเลือดคนจน คนไร้ที่พึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนเรียกว่า “คนอนาถา” โกงกินครั้งละพันสองพันบาท แต่เมื่อรวมแล้วกลายเป็นเงินก้อนโต ตัวอย่างเช่น งบสงเคราะห์คนจน ตั้งแต่ปี 2559 รวมเป็นเงินถึง 1.36 พันล้านบาท ไม่ทราบว่าถึงมือคนจนกี่บาท

...

การโกงกินเงินทุนการศึกษาคนจนมีมาแล้วนับสิบปี ทั้งในช่วงรัฐบาลเลือกตั้งและรัฐบาลรัฐประหาร ส่วนเงิน สงเคราะห์คนอนาถาเพิ่งจะมีการทุจริตในช่วงรัฐบาล คสช. เกิดขึ้นในช่วงที่ระบบการตรวจสอบอ่อนแอ ข้าราชการตรวจสอบกันเองเป็นส่วนใหญ่ กรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์คนอนาถาน่าจะเงียบเชียบไม่เป็นข่าว ถ้านักศึกษาฝึกงานไม่เปิดโปง

ในยุครัฐบาลที่ปกครองประเทศด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเป็นรัฐบาล ที่มาจากข้าราชการ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีข้าราชการ คนใดกล้าท้าทายอำนาจ งาบเงินช่วยเหลือคนอนาถา งาบทุนการศึกษาที่มีวัตถุประสงค์กันประเสริฐ เพื่ออุ้มเด็กหญิงให้พ้นจากนรก ผู้กล้าคือมนุษย์ที่ภาษาพระเรียกว่า “มนุสสเปโต” แปลตรงๆว่า “มนุษย์เปรต” ผู้หิวโซ.