กกต.เปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองไปจดแจ้งจองชื่อพรรคมา 1 สัปดาห์แล้ว แต่ละวันมีคนไปจดแจ้งราว 2-3 พรรค ยกเว้นวันแรก (2 มี.ค.) ที่คึกคักเป็นพิเศษ จดแจ้งกันถึง 42 พรรค แห่ไปรอคิวตั้งแต่ไก่โห่ บางคนไปนอนค้างคืนรอเพื่อให้ได้คิวแรก ถือเป็นสีสันทางการเมือง และสะท้อนอารมณ์คนไทยเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

ในบรรดาพรรคที่จดแจ้งตั้งใหม่มีไม่น้อยที่ประกาศตัวสนับสนุนบิ๊กตู่ คอการเมืองต่างรอดูว่าพรรคไหนที่บิ๊กตู่จะยินยอมให้เอาชื่อไปเสนอชิงตำแหน่งนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า? แต่เจ้าตัวยังไม่หงายไพ่ให้ดูง่ายๆ

หลังการประชุม ครม.สัญจรที่เพชรบุรี นักข่าวก็ถามบิ๊กตู่จะใช้หลักการอะไรพิจารณาเลือกพรรคที่สนับสนุนเป็นนายกฯ บิ๊กตู่ตอบว่า “วันนี้ยังไม่รู้ ต้องดูนโยบายแต่ละคนแต่ละพรรค ต้องคิดแบบประชาชน ต้องดูทั้งนโยบายพรรค คนที่อยู่ในพรรคเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม รอบรู้แค่ไหน การเป็นรัฐบาลไม่ใช่เป็นแค่ ส.ส.ที่ไปรับฟังเสียงจากชาวบ้านแล้วยื่นขออนุมัติโครงการจากรัฐบาล แต่ทุกคนต้องรู้ระบบงบประมาณว่าเงินจะมาจากไหน รายรับรายจ่ายมาจากไหน ไม่ใช่คิดแต่รายจ่ายอย่างเดียว ต้องหาเงินด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น”

หนำซ้ำบิ๊กตู่ยังฝากถึง พรรคการเมืองต่างๆ ด้วยว่า “เมื่อถึงเวลาจะเชิญตัวแทนพรรคมาพูดคุยถึงเรื่องการจัดทำงบประมาณและอื่นๆ เพื่อช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง การจะเข้ามาเป็นรัฐบาลต้องเข้าใจถึงระบบงบประมาณ การจัดทำแผนโครงการยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท ไม่ใช่เรียกมาคุยเพื่อกำหนดว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ แล้วกลับบ้าน ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อนว่าต้องทำอย่างไร ขอให้เตรียมการให้ดี”

การแสดงออกของบิ๊กตู่วันนี้เหมือนมั่นใจว่ากุมสภาพการเมืองได้อยู่หมัด รอแค่ โครงการไทยนิยมยั่งยืน ออกผลงานเป็นรูปธรรม มัดใจชาวบ้านได้ ถึงเวลานั้นก็คงได้เลือกตั้งซะที และไพ่ในมือของบิ๊กตู่ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นพรรคตั้งใหม่ ไม่แน่อาจเป็นพรรคเก่าก็ได้

...

ส่วนการตั้ง พรรค กปปส. ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการจดแจ้งหรือเปล่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค และจะมีแกนนำ กปปส.ที่เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนไหนบ้างที่กล้าเสี่ยงสอบตกย้ายมาอยู่พรรคใหม่ ซึ่งมีคนปรามาสว่าแม้แต่ที่สุราษฎร์ธานีต่อให้ น้องชาย ของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงสมัคร ส.ส. ก็ใช่ว่าจะชนะเลือกตั้ง

ผมเดาว่าถึงที่สุดแล้วพรรค กปปส.มีแน่ เพราะนักการเมืองที่มีคดีความจำเป็นต้องหาที่ยืน

ส่วนที่คุณสุเทพประกาศยืนยัน จะไม่ลงสมัครเลือกตั้ง และ จะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆอีก นั้น เป็นใครก็ต้องพูดอย่างงี้แหละ คลิปที่คุณสุเทพเคยลั่นสัจวาจาไว้มีว่อนโซเชียลมีเดีย ขืนบิดพลิ้วกลืนน้ำลายตัวเองคงยี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

ยุคนี้นักการเมืองใหญ่มีเยอะแยะที่สั่งการอยู่ข้างหลัง ไม่ได้ออกหน้ามาเล่นเอง พรรคขนาดกลางกับขนาดเล็กก็เห็นกันอยู่ หรือแม้กระทั่งคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เข้าประเทศไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยก็ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ส่วนพรรค กปปส. ถ้าจะหวังพึ่งบารมีคุณสุเทพ เห็นทีคงยากซักหน่อย เพราะกระแสปลุกม็อบกับคะแนนนิยมในการเลือกตั้งมันต่างกัน แกนนำ กปปส.ทั้งหลายเลยต้องบากหน้ากลับไปอยู่รังเก่า

พูดถึง กปปส.แล้วก็ไปดู นปช. ซะหน่อย มีข่าวว่า นปช.อาจจะตั้งพรรคเหมือนกัน คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ว่า การตั้งพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ นปช. และมั่นใจว่ามีความพร้อมไม่น้อยกว่าหลายกลุ่มที่ไปจดแจ้งในขณะนี้ หลักการเบื้องต้นของ นปช. คือ เป็นมิตรและเป็นแนวร่วมกับทุกกลุ่มทุกพรรคที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ไม่ยอมรับนายกฯคนนอกและการสืบทอดอำนาจ

แนวทางชัดเจน เล่นกับกระแสประชาธิปไตย เน้นจุดขายเรื่องเดียว

สำหรับผมสนับสนุนทั้ง กปปส. และ นปช.ให้ตั้งพรรค ดีกว่าไปเล่นการเมืองบนถนน.

ลมกรด