ในมงคล 38 ประการของพุทธศาสนา มงคลข้อที่ 3 คือ การบูชาสิ่งที่ควรบูชา
อะไรคือสิ่งที่ควรบูชา ถ้าเข้าไปในโบสถ์ ไหว้พระพุทธรูปแล้ว ก็ยังมีพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร สองอัครสาวกซ้ายขวา ให้ไหว้ด้วย
เข้าวัด อย่างวัดจีนของพุทธมหายาน ก็ต้องไหว้พระพุทธเจ้าหลายองค์ นอกจากพระศรีศากยมุนี พระพุทธเจ้าองค์เดียวกับของคนไทยเราแล้ว
ก็ต้องไหว้พระพุทธเจ้าประจำทิศอีกอย่างน้อยสี่ทิศ เช่นพระอมิตพุทธเจ้า ทิศหนึ่ง
แต่ถ้าเป็นคนที่ควรบูชา ที่เรียกว่า ปูชนียบุคคล คนไทยโบราณ สั่งสอนลูกหลานให้มั่นคงกับการไหว้ คนทั้งสี่ แม่ พ่อ พี่ และครู โคลงโลกนิติ แต่งในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ บทหนึ่ง ลองอ่านกันดู
คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา คุณบิดรดุจอา กาศกว้าง คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร...คุณแม่หนักเท่าแผ่นดิน คุณพ่อหนักเท่าแผ่นฟ้า คุณพี่หนักเท่าภูเขา และคุณครูหนักเท่าแม่น้ำใหญ่
เรื่องคุณของแม่ พ่อ และพี่ ถ้าเป็นสมัยนี้จะมากจะน้อย ผมว่าอยู่ที่ความผูกพัน ถ้ามีให้กันมาก ก็ต้องรักต้องแสดงความกตัญญูตอบแทนกันมาก
ครู ก็เหมือนกัน คนสมัยนี้กว่าจะเติบโตขึ้นมา มีครูสอนหลายคน แต่จะมีครูสักกี่คนที่ถูกจดจำ ตามไปกราบไหว้ทั้งในวันครูและวันอื่นๆ
วันมาฆบูชา วันเพ็ญเดือนสามที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน พระอรหันต์ 1,250 รูป ที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งสิ้น มากราบพระพุทธองค์กันพร้อมหน้า โดยมิได้นัดหมาย นี่ก็คือวันครู
คัมภีร์พุทธศาสนาบอกว่า การมาโดยไม่ได้นัดหมายเป็นเรื่องมหัศจรรย์
ผมจำได้ว่า วันเพ็ญเดือนสามเหมือนกัน พวกพราหมณ์เรียกวัน “ศิวราตรี” ศิษย์จะอยู่ไกลใกล้ต่างก็ต้องมาปรนนิบัติครู
ผมคิดเอาเอง 1,250 พระอรหันต์ในวันนั้น ก่อนบวชเป็นพราหมณ์ที่มากราบพระพุทธเจ้า มากันเพราะความเคยชินแต่ดั้งเดิม
...
การบูชาครู ความกตัญญูรู้คุณครู ถูกปลูกฝังมาแต่โบราณ แต่สมัยนี้ ความรู้สึกเหล่านี้ลดลงไป หลักการสอนสมัยใหม่ เอาเด็กเป็นศูนย์กลาง ครูจะสอนก็ต้องเข้าใจ เด็กอยากเรียนรู้อะไร ไม่ใช่อยากจะสอนอะไร เด็กก็ต้องฟัง
เรื่องสอนแล้ว เด็กไม่จำ แล้วกำราบด้วยไม้เรียว เลิกกันไปเลย
แต่ว่ากันโดยวิถีทางจิตใจ เด็กทั่วๆไปก็ยังเคารพครู เจอที่ไหน ก็ต้องเข้าไปไหว้ ไม่ใช่ต่างคนต่างเดินเมินหน้าใส่กัน ยกเว้นครูคนนั้นเป็นครูที่ไม่ดี เป็นครูที่ขาดศีลธรรม
ผมร่ายยาวมาเป็นนาน นึกถึงคดีครูจอมทรัพย์ครับ โถ...เจอคดีขับรถชนคน ติดคุกจนหลุดออกมาแล้ว ยังสร้างเรื่อง “ครูแพะ” จนถูกจับได้ว่า ที่จริงเป็น “ครูแกะ” ต้องเข้าคุกไปอีก
เรื่องที่น่าเสียใจต่อมา ก็คือต้นคิดตัวการสร้างเรื่อง “ครูแพะ” ก็เป็นครูระดับ ผอ. ที่ทำตัวเป็นขาใหญ่ ก็ต้องเข้าปิ้งไปตาม “เวรกรรม”
ยังไม่รวมคนที่เผลอตามกระแส บริจาคเงินช่วยครูจอมทรัพย์เป็นเงินนับล้าน
มาถึงเรื่องครูปรีชา ตัวการตกหวย 30 ล้าน...ผมมองตาเวลา ครูแกพูดกับนักข่าวไป ปั้นหน้ายิ้มไป แล้วก็ได้แต่ปลง...พอเรื่องจบลงเมื่อครูเข้าคุก แล้วหลุดคำว่า “เวรกรรมมีจริง” ออกมา
ถ้าครูปรีชาพูดจริง ก็ยังดีที่สำนึกผิดได้ ไม่ดึงดันดื้อตาใส เหมือนที่ทำมาเป็นแรมเดือน
ครูปรีชารู้หรือเปล่า ทุกครั้งที่ครูพูดออกทีวี ผมได้แต่ปลงว่า “นี่ครูนะ ครู”
ไม่กล้านึกต่อ เด็กในวันนี้จะเติบโตต่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างไร เมื่อได้ครูหัวใจโจร.
กิเลน ประลองเชิง