ผมเป็นแฟนของรายการ “หน้ากากนักร้อง” หรือ The Mask Singer ของเวิร์คพอยท์ คนหนึ่ง แม้จะไม่ถึงขนาดเป็น
แฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามดูกันทุกครั้งที่ออกอากาศทางช่อง 23 แต่ก็ตามดูบ่อยมาก เมื่อเทียบกับรายการอื่นๆ

จำได้ว่าเมื่อตอนที่หน้ากากนักร้องซีซั่นที่ 1 ฮิตมากๆนั้น ผมเคยหยิบมาเขียนถึงในคอลัมน์นี้ ยกให้เป็นปรากฏการณ์ที่คาดไม่ถึงอย่างหนึ่งของสังคมไทย และวงการบันเทิงไทย

โดยเฉพาะในรอบแชมป์ชนแชมป์ของซีซั่นแรก ระหว่าง หน้ากากทุเรียน กับ หน้ากากอีกาดำ ที่ทำเรตติ้งสูงเป็นประวัติการณ์ ถึง 13.37 ชนะการถ่ายทอดสดฟุตบอล ทีมช้างศึก ในวันเดียวกันชนิดขาดลอย

ผมก็เอามาเขียนแสดงความชื่นชม แต่ก็สะท้อนเสียงตำหนิของแฟนๆ เอาไว้ด้วย ที่ไม่ยอมเฉลยว่าหน้ากากทุเรียนที่ได้แชมป์คือใครในวันเดียวกัน จนโดนกล่าวหาว่าได้สปอนเซอร์เยอะเลย ต้องขยักไปเฉลยในสัปดาห์ต่อไป

หลังจากนั้นผมก็ตามดูต่อในซีซั่นที่ 2

จะด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบ ทั้งๆที่การจัดทำดนตรี การจัดฉาก และแสง สี เสียง ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เรตติ้งกลับตกอย่างน่าใจหาย

เปิดฉากวันแรกเมื่อ 6 เมษายน ได้มา 8 กว่าๆ ก็ถือว่าโอเค เพราะแม้จะลดลงมามากพอสมควร แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

วันที่สองซึ่งตรงกับ 13 เมษายน เหลือแค่ 6.7 ก็พอรับได้อีก แม้จะตกจากวันชิงแชมป์ซีซั่นแรกไปถึงครึ่งหนึ่ง ก็ยังโอเค เพราะเป็นวันสงกรานต์ คนไทยออกเดินทางไปทั่วประเทศ แถมบางคนก็ไปต่างประเทศ เรตติ้งทีวีน่าจะตกทุกช่อง

จากนั้นมาเรตติ้งก็อยู่ที่ 8 กว่าๆบ้าง 7 กว่าๆบ้าง ไม่กระเตื้องขึ้นเลย

ครั้นถึงเดือนกรกฎาคมใกล้จะชิงแชมป์ทุกขณะ เรตติ้งลงไปที่ 6 กว่าๆ และมี 5 กว่าๆอยู่หนหนึ่ง เล่นเอาแฟนๆใจหาย มีการตั้งกระทู้ในพันทิปว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน้ากากนักร้อง?

...

เรตติ้งแบบนี้จะมีซีซั่น 3 หรือไม่หนอ? กลายเป็นคำถามที่แฟนๆถกกันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์

ล่าสุดก่อนนัดชิงแชมป์ที่มีการถ่ายทอดสดไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม หรือพฤหัสบดีที่แล้ว เรตติ้งก็อยู่แค่ 6 กว่าๆเล็กน้อย ทำให้ต้องมาลุ้นกันว่าเรตติ้งของ “วันชิงแชมป์” ระหว่าง “หน้ากากเสือจากัวร์” กับ “หน้ากากซูโม่” จะออกมาเท่าไร?

ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ ผลยังไม่ออกมาครับ ก็เอาใจช่วยอยู่นี่แหละว่าจะกลับมาเป็นเลข 2 หลัก คืออย่างน้อยได้ 10 ขึ้นไปหรือไม่?

จนบัดนี้ก็ยังไม่มีนักวิเคราะห์คนไหนสามารถสรุปเหตุผลที่แท้จริงได้ว่า ทำไมรายการหน้ากากนักร้องที่ฮิตมากถึงคลายความฮิตลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้?

เพื่อนที่เป็นนักอ่านกำลังภายในบอกผมว่า ไม่ใช่อะไรหรอกซูม “สูงสุดคืนสู่สามัญน่ะ...อะไรที่มันสูงสุดคือพีคไปแล้วจะค่อยๆร่วงลงมา”

แต่ก็มีบางคนบอกว่า เป็นเพราะคนดูผิดหวังการตัดสินที่ค่อนข้าง ขัดสายตาและความรู้สึก...นักร้องที่คนดูทางบ้านชอบไม่ได้เข้ารอบในขณะที่คนเข้ารอบ แฟนๆทางบ้านไม่ชอบเท่าไรนัก

ทั้งหน้ากากซูโม่ และหน้ากากเสือจากัวร์ที่เข้ามาชิงในซีซั่นนี้ แม้ จะร้องดี แต่ก็ไม่ดึงดูดใจเท่า หน้ากากทุเรียน กับ หน้ากากอีกาดำของซีซั่น 1

เห็นได้จากการติดตามชมในยูทูบหลังออกอากาศแล้ว ยอดวิวของ หน้ากากทุเรียน แชมป์ซีซั่นก่อนเป็นร้อยล้านหลายเพลง ในขณะที่ของ หน้ากากซูโม่ แชมป์ซีซั่นนี้แค่ 4-5 ล้านวิวเท่านั้น ห่างกันลิบ

คนที่ได้รับการติดตามชมมากที่สุดของซีซั่นนี้กลายเป็น หน้ากากหอยนางรม ที่ร้องเพลง “ตราบธุลีดิน” ของ ปู่จ๋าน ลองไมค์ กับเพลง “หมดห่วง” ของ ศิริพร อยู่ยอด มีคนฟังกว่า 100 ล้านวิว เทียบรัศมีหน้ากากทุเรียนได้อย่างสมศักดิ์ศรี...ทว่าผ่านมาไม่ถึงรอบสุดท้าย

งานก็เลยกร่อยลง บางเสียงว่าอย่างนั้น

แต่จะด้วยอะไรก็ตามทีเถอะ ผมจะรู้สึกเสียดายมากถ้าจะไม่มีรายการ “หน้ากากนักร้อง 3” เกิดขึ้นอย่างที่แฟนๆหลายคนห่วง เพราะโดยส่วนตัวก็ได้อาศัยรายการนี้เป็นเพื่อนแก้เหงาเวลาอยู่คนเดียว จะเข้ายูทูบเปิดดูย้อนหลังอยู่บ่อยๆ

หรือจะหยุดสักพักหนึ่งไปหาเหตุหาผลที่แท้จริงกันเสียหน่อยว่า เพราะอะไรซีซั่น 2 ถึงไม่ประสบความสำเร็จ แล้วก็ค่อยๆหาทางปรับปรุงแก้ไข...จากนั้นก็รอให้คนไทยรู้สึกกระหายและคิดถึงเสียก่อน ...ค่อยกลับมาอีกที?

“ซูม”