จีนมีตำราพิชัยสงครามซุนวู ตำราเล่มนี้ในสมัยต่อมา สมัยขงเบ้ง เอามาพลิกแพลงให้ซับซ้อนแยบยลยิ่งขึ้น มีคนรวบรวมไว้ 40 กลยุทธ์
ผมยังพอจำได้ กลยุทธ์ที่ 40 กลยุทธ์สุดท้าย หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
จำได้อีก กลยุทธ์ที่ 1 สำนวนจีนว่า ล้อมพึงเปิดช่อง...ก็เข้าทำนองเดียวกับสำนวนไทย อย่าต้อนสุนัขจนตรอก
ข้อห้ามหนึ่งของซุนวู การทำสงครามอย่าเชื่อเรื่องหมอดู และดวงดาว ผมเคยอ่านพิชัยสงครามแบบไทย เรื่องฤกษ์ยาม เป็นเรื่องนำหน้า
ความจริงแล้วกลยุทธ์ในพิชัยสงคราม คนไทยโบราณก็เชี่ยวชาญ แอบสอนลูกหลานซ่อนไว้ในสำนวนต่างๆ
ส่วนใหญ่ใช้สัตว์เป็นตัวเดินเรื่อง เช่นสำนวน เสือสิ้นตวัก สุนัขจนตรอก
“กาญจนาคพันธุ์” อธิบายความหมายสำนวนนี้ว่า เมื่อจวนตัวหมดหนทาง ก็จำต้องทำอะไรลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เสือสิ้นตวัก ตวัก...มีลักษณะงองุ้มเหมือนเล็บ
สุนัขจนตรอก หมายถึงสุนัขวิ่งเข้าไปในตรอกตัน ไปต่อไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นเสือ หรือจะเป็นสุนัข ก็มักจะหันมาสู้เอาตัวรอด รวมความสำนวน เสือสิ้นตวัก สุนัขจนตรอก กลายเป็นสำนวนหมายความว่า เมื่อจวนตัวหมดหนทางก็จำต้องทำลงไป
แต่อาการกิริยาที่เสือหรือสุนัขสู้นั้น คนโบราณอธิบายได้ไม่ชัดเจนเท่าอาการของ “ไก่”
สำนวน สู้ยิบตา ที่คนรุ่นใหม่ใช้ เพี้ยนมาจากสำนวนเดิม สู้เย็บตา
สู้จนเย็บตา มีความหมายว่า สู้จนถึงที่สุด สู้อย่างไม่ย่อท้อ สู้ไม่มีถอย
มูลของสำนวนนี้ มาจากการพนันชนไก่
ในกฎหมายพระราชกำหนดใหม่ ออกในสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ.2343 มีความตอนหนึ่งว่า
“พระศรีวิโรจน์ราชเสรฐฐี” กราบบังคมทูลพระกรุณา นักเลงมีชื่อ ทุกวันนี้ชนไก่พนันกัน
เอามีดผูกเท้าให้ชนกันถึงแก่ชีวิตบ้าง บางทีเอามีดผ่าศีรษะไก่ไขโลหิตออกบ้าง บางทีแทงกันตาบอดทั้งสองข้าง เย็บตา ถ่วงหูไว้บ้าง
...
ให้น้ำหักปีกตะเกียบเสียบ้าง บางทีก็ใส่ยาเบื่อเมาให้กินบ้าง กลับชนะเป็นแพ้ คิดอุบายเอาแต่ทรัพย์เป็นอาณาประโยชน์ เกิดวิวาทกันเนืองๆ
การ “เย็บตา” ก็คือไก่ถูกแทงจนหน้าตาฉีกก็เย็บแล้วให้สู้อีก
คำว่า “เย็บตา” เลยกลายเป็นสำนวน เหตุการณ์เรื่องราว หรืออะไรๆก็ตามที่ยอมสู้อย่างเต็มที่ไม่มีถอย ก็พูดกันว่า “สู้จนเย็บตา”
การเมืองเมืองไทยช่วงเวลานี้ อยู่ในช่วงเวลา เสือสิ้นตวัก “สุนัขจนตรอก” ครับ ฝ่ายที่กุมอำนาจกำลังเดินเกมรุกไล่...ฝ่ายที่ไม่มีอำนาจ ก็กำลังหนี...จะใช้กลยุทธ์หนีแบบขงเบ้งหนีสุมาอี้ แล้วตีตลบถล่มสุมาอี้ขวัญหนีดีฝ่อ
หรือจะหนีไปในทางตัน...จนต้องหันมาสู้
ชาวบ้านอยู่ไกลศูนย์อำนาจอย่างผมไม่รู้หรอกครับ...ว่าเขาจะเล่นแบบไหน เล่นแบบปล่อยให้หนี ก็พอสบายใจ บ้านเมืองไม่บอบช้ำ แต่ถ้าเล่นแบบต้อนไปให้จนตรอก ฝ่ายหนีก็คงต้องสู้
เรื่องเจ็บตายเบื่อมากแค่ไหน ไม่อยากให้มีก็คงต้องมี
ผมไม่เคยเข้าสังเวียนชนไก่ นึกไม่ออก ไก่ที่สู้เต็มที่ สู้จนตาแตกเลือดท่วมหน้า...ถูกจับเย็บตาให้สู้ต่อเป็นไง
พอนึกได้แค่ภาพคน แล้วก็เป็นผู้หญิง ภาพผู้หญิงที่ถูกมัดมือชก น่าสงสาร การเมืองเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าย่ามใจสนุก
รุกไล่จนเกินไป เผื่อใจไว้ตอนเลือกตั้งบ้างก็แล้วกัน.
กิเลน ประลองเชิง