แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติให้คุณวีระ สมความคิด ไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ในช่วงสายวันนี้ เพื่อกดดันให้ ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ตัดสินยกฟ้องคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความสูญเสียแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมทางเข้าออกรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551

เนื้อหาคำพิพากษาตอนหนึ่งระบุว่า การที่ผู้ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาโดยปิดล้อมประตูเข้าออกไว้ทุกด้าน ถือว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และ มิได้เป็นการชุมนุมที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ

แต่กลุ่มพันธมิตรฯไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลฎีกาฯ โดยอ้างว่ามีความคลาดเคลื่อนและขัดแย้งกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ระบุว่าการสลายการชุมนุมครั้งนั้นไม่เป็นไปตามหลักสากล รุนแรงเกินกว่าเหตุ และขัดแย้งกับมติของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ชี้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ

อันที่จริง โฆษกศาลปกครอง ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า คดีของศาลฎีกาฯเป็นคนละส่วนกับการพิจารณาคดีของศาลปกครอง คดีของศาลปกครองกลางเป็นกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี จ่ายค่าชดเชย แก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากการที่เจ้าหน้าที่ยิงปืนและแก๊สน้ำตาไปยังผู้ชุมนุม ไม่ปฏิบัติตามหลักสากลที่ต้องเริ่มจากมาตรการเบาไปหาหนัก ซึ่งก็มีหลายกรณีที่แม้ไม่มีความผิดอาญาแต่ยังต้องรับผิดทางแพ่ง ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในแต่ละคดี

ก่อนหน้านี้ ศาลอุทธรณ์ ก็มีคำพิพากษาคดีที่แกนนำพันธมิตรฯบุกยึดทำเนียบรัฐบาลในสมัยรัฐบาลคุณสมัคร สุนทรเวช (ซึ่งเหตุการณ์ต่อเนื่องลากยาวไปถึงรัฐบาลคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์) โดยตัดสินว่า แกนนำพันธมิตรฯกระทำผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์

...

อย่างไรก็ตาม เมื่อแกนนำพันธมิตรฯยังมีข้อกังขาต่อคำตัดสินของศาลฎีกาฯ และ ป.ป.ช.ก็มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ตามบทบัญญัติใหม่ของรัฐธรรมนูญใหม่ ผมก็อยากให้ ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์พิสูจน์กันให้สุดซอยไปเลย

รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะได้ไม่ต้องออกมาขู่มาปรามกลุ่มพันธมิตรฯไม่ให้ก่อม็อบเคลื่อนไหวทางการเมือง ฟังบ่อยเข้ายิ่งเอียน เอะอะก็อ้างคำสั่ง คสช. อ้างสถานการณ์พิเศษ ไปจำกัดเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

ยิ่งระยะนี้ดูเหมือนรัฐบาล คสช.พะวงเรื่องม็อบมาก โดยเฉพาะมวลชนเสื้อแดงที่จะมาฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าว ทำให้ คุณวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โดนตำรวจยัดข้อหายุยงปลุกปั่น ตามกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะเป็นคนแรกที่โพสต์บอกประชาชนสามารถเดินทางมาให้กำลังใจและร่วมฟังคำพิพากษาพร้อมกับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

อีกรายคือ คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ มือเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ถูก คสช.เล่นงานด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งที่แค่วิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นในมุมเศรษฐกิจ ก็ไม่รู้รัฐบาลคิดว่าชาวบ้านเชื่อ คุณพิชัย มากกว่า คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ หรือว่าที่แท้เศรษฐกิจปากท้องไม่ได้ดีจริง เลยต้องรีบยัดข้อหาปิดปาก

อาการอย่างนี้สะท้อนว่ารัฐบาลขาลง.

ลมกรด