ผ่านห้วงเวลาที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯแต่ยังไม่ถึงจุดร้อนที่สุดอากาศยังคงอบอ้าว เร้าไปกับอุณหภูมิระอุทางการเมือง โดยสถานการณ์ต่อเนื่องจากผลโพลสำรวจความเห็นประชาชนที่สะท้อนภาวะขาลงรัฐบาลทหาร คสช.ชาวบ้านไม่พอใจสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ พาลหงุดหงิดไปหมดบรรยากาศเข้าสู่โหมดห้วงท้ายเทอม ตามสภาพการณ์ที่ไม่แตกต่างจากรัฐบาลจากการเลือกตั้ง รัฐบาลทหารก็กำลังตกอยู่ในภาวะเผชิญแรงเสียดทานอาการเบื่อของผู้คนในสังคมที่เริ่มอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงและเหมือนจะยิ่งตอกย้ำ ท้าทายแรงเหวี่ยงของกระแสกับปฏิบัติการ “ดำลึกสุดเงียบ” คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ “Yuan Class S26T” ผลิตจากประเทศจีน ตั้งแต่การประชุม ครม.เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมาแต่เพิ่งโผล่เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์หลังจากนั้นอีกเกือบสัปดาห์แถมในจังหวะบังเอิญที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. มีภารกิจบินไปเยือนประเทศบาห์เรนอย่างเป็นทางการและเพื่อกระชับความสัมพันธ์มอบหมายให้ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว. กลาโหม รั้งตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีรับหน้าที่เป็นคนชี้แจง ตอบคำถามร้อนๆปมเรือดำน้ำโผล่เงียบตามฟอร์มหน่วย “ล่อเป้า” ตำบลกระสุนตกซึ่งจากรูปการณ์เบื้องต้น แค่อาการดำน้ำกันเงียบๆไม่มีการแถลงมติ ครม.อ้างเอกสารตีตราชั้นความลับ ทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนในสังคมเฝ้าจับตาอยู่ดูท่าทางลับๆล่อๆ ส่อแนวไม่ชอบมาพากลจากที่ประชาชนเฝ้าระแวงอยู่แล้ว แนวโน้มมันยิ่งกระตุกเครื่องหมายคำถามปมความโปร่งใสในโครงการเมกะโปรเจกต์มูลค่านับหมื่นล้านของกองทัพเรือคนส่วนใหญ่เชื่อไปเกินครึ่งแล้วว่ามีปมซ่อนอยู่ใต้น้ำแม้ พล.อ.ประวิตรจะยืนยันว่า การจัดซื้อโปร่งใส เป็นแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี มีการแถมอาวุธยุทโธปกรณ์ประกอบอย่างคุ้มค่าสมราคาเสียงแข็งพร้อมให้ตรวจสอบเต็มที่แต่ประเมินจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังอื้ออึงจากทุกทิศทุกทาง สื่อกระแสหลัก โลกโซเชียลมีเดีย นักการเมือง นักวิชาการ มีแต่เครื่องหมายคำถามซื้อเรือดำน้ำมาทำไมในยามบ้านเมืองอยู่ในสภาวะปัจจุบันโดยเฉพาะคนสำคัญอย่างอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้จังหวะเบิ้ล-บลัฟ คสช.ด้วยการโยนทุ่นนิ่มๆ รัฐบาลทหารควรต้องคำนึงถึงภาวะปากท้องประชาชนก่อนโครงการซื้ออาวุธซัดรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศมา 3 ปีแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จ ยังใช้งบประมาณซื้อเรือดำน้ำทำประเทศเป็นหนี้อีก 10 ปีเทียบกับโครงการจำนำข้าวยังช่วยชาวนาอ้าปากได้ยิงหมัดตรงเข้ากระโดงคาง“ยิ่งลักษณ์” ได้เหลี่ยมซัดลูกตามน้ำ ตามทิศทางของกระแสไหลมาในโทนเดียวกันสถานการณ์แรงกดดันตกอยู่กับ พล.อ.ประวิตรเต็มๆแถมบรรยากาศร้อนยังล้อไปกับกระแสข่าวลือที่ดังมาจากขุมอำนาจขั้วเดียวกันแต่คนละฝ่าย เครือข่ายสายพันธมิตรฯคนใกล้ชิดบ้านใหญ่ย่านเทเวศร์ ลุ้นให้โละ “บิ๊กป้อม” ออกจาก ครม.เรือดำน้ำโผล่มาล่อเป้า เร้าเงื่อนไขสถานการณ์วัดใจ พล.อ.ประยุทธ์จะเบรกภาวะขาลงทันหรือไม่พร้อมหรือยังที่จะขาด “พี่ใหญ่” เป็นตัวช่วยประคองอำนาจรัฐบาลทหาร คสช. โฟกัสเฉพาะพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ตกอยู่ในภาวะเผชิญแรงเสียดทานทั้งจากภายนอกและภายในฝ่ายที่ร่วมกันล้มระบอบทักษิณมาอาการ “สะท้านกระแส” อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงแนวร่วมถดถอย ต้นทุนศรัทธาน้อยลงอย่างน่าใจหายและเหมือนจะยิ่งช่วยเร่งดีกรี เร้าสถานการณ์ให้เลวร้ายลงเพราะอีกทางหนึ่งก็เป็นคิวเรียกแขกของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่เดินหน้าชงร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนฯใส่เกียร์ห้า เร่งเครื่องออกกฎหมายคุมสื่อแบบสุดกำลังท่ามกลางการเคลื่อนไหวขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนฯกว่า 30 องค์กร อาทิ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย รวมพลังคัดค้านต่อต้านร่างกฎหมายที่แฝงไปด้วยเหลี่ยมตีกรอบสื่อมวลชน ลดสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวเข้าทางฝ่ายถืออำนาจที่จะปิดหูปิดตา ปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนตามทิศทางของกระแสที่เข้มข้น แบบที่นายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประกาศนัดรวมพลคนข่าว สื่อมวลชนทุกแขนง ทุกสำนัก ให้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หยุดตีทะเบียนสื่อ หยุดครอบงำประชาชนดีเดย์วันที่ 1 พฤษภาคม ที่อาคารรัฐสภา วันที่ 2 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาลขณะที่กระแสในโลกโซเชียลมีเดีย นักข่าวนักวิชาการ นักการเมือง ประชาชนทั่วไป พร้อมใจกันเปลี่ยนโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กเป็นรูปการรณรงค์ต่อต้านกฎหมายอัปยศกระแสจุดติด แนวต้านกฎหมายคุมสื่อพรึบ รวมพลังกดดันวัดใจสัญญาณเตือน ไม่ใช่จะรวบหัว รวบหางกันง่ายๆที่แน่ๆจากเรือดำน้ำถึงกฎหมายคุมสื่อ รัฐบาลทหาร คสช.เปิดแนวรบท้าทายแรงเสียดทานสองปมใหญ่ที่ก่ออาการจุกสะสมในอารมณ์อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดเป็นเชิงออกตัวเกี่ยวกับ พ.ร.บ.มาตรฐานวิชาชีพสื่อ ยืนยันรัฐบาลจำเป็น เพราะหลายอย่างเป็นเรื่องกฎหมายและรัฐธรรมนูญกำหนดไว้อึกๆอักๆ แต่แปลความเป็นนัยว่าต้องเดินหน้าลุยไปตามธงที่ปักไว้แล้วแนวโน้มเดียวกับสถานการณ์เรือดำน้ำโผล่เงียบผ่าน ครม. พล.อ.ประยุทธ์ก็เงียบผิดสังเกต มีแต่ พล.อ.ประวิตรที่รับหน้าเสื่อชี้แจงคำถามนักข่าวแบบรายวันทั้งๆที่วันอนุมัติ “บิ๊กตู่” ก็นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุม ครม.โดยปรากฏการณ์มันก็ส่อภาวะ “น้ำท่วมปาก”พล.อ.ประยุทธ์น่าจะเลี่ยงการตอบคำถามยากๆ จากนักข่าวที่รุมซัก ไม่อยากให้เกิดภาพอาการหงุดหงิดนอตหลุดกับปมที่เคลียร์ลำบากเพราะนั่นจะยิ่งทำให้กระแสไหลลามลึกไปกันใหญ่แต่ทั้งหมดทั้งปวงจากปรากฏการณ์ของเรือดำน้ำตามด้วย พ.ร.บ.คุมสื่อ ปมร้อนเรียกแขกที่มาซ้ำภาวะรัฐบาลขาลงในห้วงท้ายเทอมจากคนที่ปากกล้า ท้าชน ตอบได้ทุกเรื่องกลายเป็นคนสงบปากสงบคำ ก้มหลบต่ำเห็นได้ชัดมันทำให้เกิดเครื่องหมายคำถาม ยามนี้ภาวะผู้นำ รัฏฐาธิปัตย์เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ยังมั่นอกมั่นใจอำนาจในมือเหมือนการรัฐประหารเงียบเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หรือไม่เพราะภาพของผู้นำลดความเข้มลงไปเยอะ.“ทีมการเมือง”