“จาตุรนต์” กระทุ้ง ครม.เร่งชงเรื่อง กกต.จัดทำประชามติ คำถามที่ 1 ให้ประชาชนชี้ขาดเห็นด้วยหรือไม่จัดทำ รธน.ฉบับใหม่โดย ส.ส.ร.ขอประธานรัฐสภาชง ครม.หรือ กกต.ทำประชามติคำถามที่2 หลังรัฐสภาโหวตผ่านวาระ 3 ดักคอรัฐบาลยึดไทม์ไลน์เดิมยุบสภา 31 ม.ค.69 อย่าเล่นเกมหั่นสั้นลงทำแท้งกระบวนการประชามติ “นรเศรษฐ์” เตือนคิดให้ดีชิงยุบสภาฯ 12 ธ.ค. ชี้ ปชช.ไม่อยากเห็นเล่นการเมืองกันเกินเหตุ วิกฤติน้ำท่วมยังต้องการ รบ.อำนาจเต็มเยียวยาฟื้นฟู “พิพัฒน์” เมินโพลภาคใต้ ปชป.ตีตื้นแซง ภท.ลั่นยังมั่นใจอยู่ “เสี่ยเฮ้ง” ตีตราจองลงเขต1 นัด “แป๊ะ” เคลียร์โผจัดทัพ 10 เขตเมืองชลฯมท.ย้ายอีก 20 ตำแหน่ง ขยับรอง ผวจ.ขึ้นพรึ่บพ่อเมืองจากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุหากคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือรัฐสภา ส่งเรื่องการทำประชามติมายัง กกต.ช้ากว่าวันที่ 15 ธ.ค. อาจไม่สามารถจัดลงประชามติพร้อมวันเลือกตั้งได้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา เรียกร้องให้ ครม.เร่งมีมติจัดทำประชามติคำถามที่ 1 เร็วที่สุด ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)พท.จี้ส่งคำถามประชามติข้อ 1เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุหาก ครม.หรือรัฐสภาส่งเรื่องการทำประชามติมายัง กกต.ช้ากว่าวันที่ 15 ธ.ค. อาจไม่สามารถจัดลงประชามติพร้อมวันเลือกตั้งได้ ดูเหมือนมีความคลาดเคลื่อนในการคำนวณเวลาพอสมควร เพราะนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี คำนวณเส้นตายไว้ชัดเจนว่ากรอบเวลาจริงสิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. คำเตือน กกต. ทำให้ทุกฝ่ายต้องช่วยคิดจริงจัง จะเร่งรัดแต่ละขั้นตอนอย่างไรให้กระบวนการทั้งหมดเดินไปให้ทัน จัดทำประชามติ 2 คำถามวันเดียวกับวันเลือกตั้งได้ ตัวเลขวันที่ 15 ธ.ค.ความเป็นจริงจึงเหลือความหมายสำคัญประเด็นเดียวคือ ใช้เป็นหมุดหมายสำคัญทางการเมือง สำหรับช่องทางที่ ครม.จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นเอง ครม.มีมติได้ตั้งแต่ตอนนี้ ให้ กกต.จัดลงประชามติคำถาม ที่ 1 ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หาก ครม. กดปุ่มเรื่องนี้เร็วเท่าใด เวลาที่ กกต.จะเตรียมจัดประชามติจะมากขึ้น โอกาสทำให้ประชามติคำถามที่ 1 จัดพร้อมวันเลือกตั้งจะยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นบี้รัฐสภาเร่งเครื่องส่งคำถามที่ 2นายจาตุรนต์ระบุว่า ยังมีอีกหนึ่งช่องทางไปสู่การลงประชามติคำถามที่ 1 คือ ให้รัฐสภามีมติร้องขอจัดทำประชามติ ตามแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ช่องทางนี้ต้องรอพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไปถึงวาระ 3 ก่อน เมื่อรัฐสภาลงมติวาระ 3 เห็นชอบร่างแก้ไข และมีมติเห็นชอบร้องขอทำประชามติ คำถามที่ 1 ประธานรัฐสภาจะส่งเรื่องไปยัง ครม.เป็น 2 เรื่องพร้อมกันคือขอทำประชามติคำถามที่ 1 และขอจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ผ่านวาระ 3 เป็นคำถามที่ 2 กระบวนการนี้จะเกิดหลังวาระ 2 เสร็จสิ้นแล้ว 15 วัน หรือราววันที่ 26 ธ.ค. โดยสรุปสิ่งที่ต้องเดินหน้าได้แก่ 1.ครม.ควรเร่งมีมติจัดทำประชามติคำถามที่ 1 เร็วที่สุด 2.เมื่อรัฐสภาเห็นชอบวาระ 3 ประธานรัฐสภาต้องส่งเรื่องให้ ครม.หรือ กกต.จัดทำประชามติตามมาตรา 256(8) เป็นคำถามที่ 2 และ 3.รัฐสภาอาจใช้ช่องทางมติเสียงข้างมากร้องขอ ครม.จัดทำประชามติคำถามที่ 1 ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันรัฐสภาอย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้จะเกิดได้จริงต่อเมื่อการยุบสภาเป็นไปตามกำหนดเดิมคือวันที่ 31 ม.ค.69 ไม่ถูกเร่งให้สั้นลง ทำให้กระบวนการประชามติทั้ง 2 คำถามไม่เกิดขึ้นในวันเลือกตั้งสว.เตือนคิดให้ดีชิงยุบสภา 12 ธ.ค.เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. โฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา กล่าวถึงการส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้วุฒิสภาพิจารณาก่อนเปิดประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า ในการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) วันที่ 3 ธ.ค. จะเสนอให้จัดประชุมอธิบายเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ สว.เข้าใจ ก่อนเปิดประชุมวิสามัญฯ วาระ 2 วันที่ 10-11 ธ.ค. เพราะบางประเด็นมี สว.หลายคนเป็นห่วงอยู่ เชื่อว่าเนื้อหาแก้ไขเห็นพ้องต้องกันได้ คาดว่าวาระ 2 น่าจะผ่านได้ ส่วนกระแสข่าวนายกฯอาจยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. กระทบการแก้รัฐธรรมนูญ การยุบสภาอาจต้องคิดใหม่อีกทีปชช.ไม่อยากให้เล่นการเมืองเกินไป“ขณะนี้มีสถานการณ์น้ำท่วม ต้องการรัฐบาลมีอำนาจเต็มบริหารและเยียวยาความเสียหาย เป็นงานใหญ่ไม่ต่างจากผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปก่อน หากสถานการณ์ดีขึ้น นายกฯจะยุบสภาไม่สายเกินไป ประชาชนไม่อยากให้เอาการเมืองมาเล่นการเมืองกระทบความเสียหายและเยียวยาต่อประชาชน เมื่อถามว่า สว.อาจเล่นเกมวาระ 2 หรือ 3 ทำให้รัฐธรรมนูญไม่ผ่าน นายนรเศรษฐ์ตอบว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของ กมธ. อยากให้ประชาชนส่งเสียง อย่าให้การเล่นเกมการเมืองเป็นอุปสรรคการแก้ปัญหาให้ประชาชน ตอนนี้ส่งสัญญาณมากมายจะยุบสภา ประชาชนจับตาดู อาจสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนได้” นายนรเศรษฐ์กล่าว“พิพัฒน์” เมินโพล ปชป.แซง ภท.ภาคใต้เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กำกับดูแลพื้นที่ภาคใต้กล่าวถึงผลสำรวจนิด้าโพล คะแนนความนิยมของพรรค ภท.ในพื้นที่ภาคใต้ที่ลดลงว่าไม่เป็นไร ให้เป็นไปตามโพล ตอนนี้การแก้ปัญหาวิกฤติน่าเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า โพลก็ส่วนโพล เราไม่สนใจเรื่องโพลตอนนี้ ขอเอาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้ก่อน เมื่อถามว่ายังมั่นใจกระแสในพื้นที่ภาคใต้อยู่หรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า “ยังมั่นใจอยู่” เมื่อถามว่ากระแสของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เหมือนจะดึงให้คะแนนพรรค ปชป.เพิ่มขึ้นมากังวลหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า “ไม่ได้กังวลจริงๆ คนใต้ก็มีกระแสของพรรค ปชป.อยู่แล้ว ฉะนั้น โพลจะออกมาเป็นอย่างไรก็เรื่องของโพล พวกเรามีหน้าที่คือ ทำงานให้เต็มที่พอ”“เฮ้ง” จองเขต 1 นัด “แป๊ะ” เคลียร์จัดทัพนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สมาชิกพรรค ภท.กล่าวถึงการวางตัวผู้สมัครพื้นที่ จ.ชลบุรี ว่า ภายใน 1-2 วันนี้จะหารือกับนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มพลังชล เพื่อมาคุยกันทั้งจังหวัดว่าใครเหมาะสมพื้นที่ใดมากกว่า เรามาจากที่เดียวกันมาตลอดหลาย 10 ปี แต่เราอยู่คนละพรรค เราก็ต้องหารือร่วมกันในเรื่องความเป็นจริงว่าใครถนัดพื้นที่ไหน ในส่วนนี้มั่นใจได้ เมื่อถามว่าแนวโน้มเขต 1 เป็นอย่างไร นายสุชาติตอบว่า เคยเป็น สส.เขตนี้ 2 ครั้ง ก็แสดงเจตจำนงไว้ขออนุญาตลงเขตเดิม เพราะเป็นพื้นที่ที่ถนัด เมื่อถามว่านายสนธยาไม่ยอมปล่อยมือจากเขต 1 นายสุชาติตอบว่า “ไม่ๆ พี่แป๊ะคุยกับผมแล้ว ดูที่ความเหมาะสม ถ้าเป็นผมก็ต้องเหมาะสมสิ เพราะเป็นผู้แทนฯมาก่อน พี่แป๊ะสนธยากลัวว่าคนที่จะมาทำพื้นที่แล้วถ้าจะสู้เขาไม่ได้มากกว่า เรามองเป้าหมายผลลัพธ์มากกว่า เราต้องการให้ ภท.ใน จ.ชลบุรีเป็นหนึ่งเดียว ต้องการให้ได้เยอะที่สุด จริงๆ ภายใน 1-2 วันนี้ สำหรับ 10 เขตเลือกตั้ง จ.ชลบุรี คุยกันจบ นัดนายสนธยาอยู่”“ประภัตร” ร่วมเฟรม “อนุทิน–วราวุธ”เมื่อเวลา 21.50 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์ภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่เพิ่งเปิดตัวเตรียมร่วมงานพรรค ภท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าไปเมื่อเร็วๆนี้ คล้องแขนถ่ายภาพร่วมกับนายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี เลขาธิการ พรรค ชทพ. พร้อมข้อความว่ารักครับ และอิโมจิรูปหัวใจสีน้ำเงิน“มาร์ค” ยิ้มเรตติ้งขยับขอแข่งกับตัวเองวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวถึงกรณีผลสำรวจของนิด้าโพลที่ระบุว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้สนับสนุนพรรค ปชป. ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกฯว่า ขอบคุณ แต่ตนไม่ได้ยึดติดกับตัวเลขดังกล่าวมากนัก ทั้งนี้ ผลสำรวจสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และถือเป็นกำลังใจให้คณะทำงานเดินหน้าต่อไป ส่วนที่ผลสำรวจมีคะแนนนำห่างถึง 25.5% ยังไม่กล้าสรุปว่ามีนัยสำคัญทางการเมืองในขั้นนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา มุ่งเน้นการทำงานแข่งกับตัวเองมากกว่า เมื่อถามถึงกรณีนายกฯกล่าวว่า ไม่ได้มองนายอภิสิทธิ์เป็นคู่แข่งทางการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือการเร่งฟื้นฟูและเยียวยาประเทศ “ผมว่าท่านต้องเดินหน้าทำงาน ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการฟื้นฟูเยียวยาต่างๆ มาตรการทั้งหลายที่ออกมา พยายามตอบโจทย์ให้ครอบคลุม แต่เครื่องมืออาจยังมีจำกัดอยู่ เช่น อาจไปเน้นการให้สินเชื่อ ไม่นับในส่วนที่เป็นเยียวยา 9,000 บาท ความจริงแนวคิด เช่น คนละครึ่ง ใช้ได้กับทั้งภาคผู้ประกอบการ และภาคประชาชนที่จะทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องทำขณะนี้ เพื่อฟื้นฟูกลับคืนมา ตอนนี้ยังไม่ได้แข่งขันกันต้องช่วยกันทำงานทุกพรรคยันปลดล็อกขายเหล้าทันก่อนปีใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เคยมีมติให้ปลดล็อกเวลาจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ว่าขณะนี้กระบวนการรับฟังความเห็นที่กำหนดกรอบระยะเวลา 15 วันเสร็จสิ้นแล้ว เชื่อว่าจะสามารถประกาศ ใช้ได้ทันก่อนช่วงปีใหม่ขอให้ผู้ประกอบการสบายใจได้ เมื่อถามว่า ขณะนี้เกิดความเข้าใจผิดว่าสามารถขายได้ทุกร้านจะชี้แจงให้เกิดความเข้าใจอย่างไร นายโสภณกล่าวว่า ร้านที่จะขายได้เป็นร้านที่จดทะเบียน จะสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 14.00-17.00 น. ส่วนการนั่งดื่มสามารถทำได้จนถึง 01.00 น. ขณะที่ร้านขายของชำจะขายได้กรณีที่จดทะเบียนการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงจะเข้าข่ายการปลดล็อกเวลานี้มท.ย้ายบิ๊กลอตรอง ผวจ.ขึ้นพ่อเมืองน.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนัก นายกฯ แถลงภายหลังประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและเกษียณอายุราชการ 20 ตำแหน่ง คือ 1.นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ เป็นผู้ตรวจราชการ 2.น.ส.สุพัตรา คล้ายทิม รอง ผวจ.กำแพงเพชร เป็นผู้ตรวจราชการ 3.น.ส.วริษฐา สงวนเสริมศรี รอง ผวจ.ราชบุรี เป็น ผวจ.กาญจนบุรี 4.นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็น ผวจ.กาฬสินธุ์ 5.น.ส.ฉัตรประอร นิยม รอง ผวจ.ฉะเชิงเทรา เป็น ผวจ.ฉะเชิงเทรา 6.นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รอง ผวจ.นครนายก เป็น ผวจ.ชัยนาท 7.นายบุญช่วย หอมยามเย็น รอง ผวจ.ตาก เป็น ผวจ.นราธิวาส“สุรพล” ขยับขึ้นนั่งผู้ว่าฯบึงกาฬน.ส.อัยรินทร์กล่าวอีกว่า 8.นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็น ผวจ.บึงกาฬ 9.น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รอง ผวจ.พะเยา เป็น ผวจ.พะเยา 10.นายสุจินต์ วาจากิจ รอง ผวจ.พัทลุง เป็น ผวจ.พัทลุง 11.นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รอง ผวจ.นครสวรรค์ เป็น ผวจ.มหาสารคาม 12.นายก้องสกุล จันทราช รอง ผวจ.ยะลา เป็น ผวจ.ยะลา 13.นายราชัน มีน้อย รอง ผวจ.ระนอง เป็น ผวจ.ระนอง 14.นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รอง ผวจ.เชียงใหม่ เป็น ผวจ.ลพบุรี 15.นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รอง ผวจ.ลำพูน เป็น ผวจ.ลำพูน 16.นายคณิต คงช่วย รอง ผวจ.สตูล เป็น ผวจ.สตูล 17.นายอำนาจ เจริญศรี รอง ผวจ.สมุทรสาคร เป็น ผวจ.สมุทรสาคร 18.นายวราดิศร อ่อนนุช รอง ผวจ.สิงห์บุรี เป็น ผวจ.สิงห์บุรี 19.นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รอง ผวจ.สุรินทร์ เป็น ผวจ.สุรินทร์ 20.นายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน รอง ผวจ.อำนาจเจริญ เป็น ผวจ. อำนาจเจริญ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่