“อนุทิน” ยกเลิกบินมาเลเซีย-เบรกทุกภารกิจ ปักหลักทำเนียบฯมอนิเตอร์แก้น้ำท่วมภาคใต้ ครม. ไฟเขียวเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 และ 3 หวั่นไม่ทันช่วงปีใหม่ ดันแก้ รธน.เสร็จตามไทม์ไลน์ “ไชยชนก” ปัดนายกฯส่งซิกขู่ พท. เสียงแข็งรัฐบาลพร้อมอภิปรายไม่มีกังวลศึกซักฟอก เชื่อยุบสภาฯเมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้นตามเอ็มโอเอ “เปรมศักดิ์” ชี้มีร่องรอยทำให้ประชาชนรู้สึก รธน.ปี 60 แก้ไม่ได้ ต้องรัฐประหาร สังหรณ์ใจล่มก่อนโหวตวาระ 3 กลุ่ม สว.สำรองร้อง สว.ทบทวนทูลเกล้าฯประธาน กกต.ใหม่ชี้การคัดเลือกมิชอบ ส่อรีบร้อนหวังล้มคดีฮั้ว สว.การแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดประตูไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันว่าจะประสบความสำเร็จตามที่พรรคประชาชน (ปชน.)และหลายฝ่ายคาดหวังหรือไม่ หรือจะล่มเพราะเกิดการยุบสภาฯไปก่อน ขณะที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เรียกสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 และวาระที่ 3“อนุทิน” มอบ “โสภณ” รณรงค์ริบบิ้นขาวเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุมนายอนุทินได้มอบหมายให้นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ ประชาสัมพันธ์รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวประจำปี 68 ที่นายอัครา พรหมเผ่า รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำศิลปินดาราเข้าติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวแก่นายโสภณและร่วมประชาสัมพันธ์โครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 ของกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากนายอนุทินติดภารกิจเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดภาคใต้ โดยการประชุม ครม.มีรัฐมนตรีลาประชุม 4 คน คือนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว. ศึกษาธิการ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวฯ และ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคมยกเลิกภารกิจมอนิเตอร์แก้น้ำท่วมใต้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนายอนุทิน ได้ยกเลิกวาระงานเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เวลา 13.00 น.มอบหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ทำหน้าที่แทน ส่วนกำหนดการเวลา 15.00 น. มอบหมายนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติ ครั้งที่ 16 ภายใต้หัวข้อ “SHAPE THE FUTURE OF CANCER CARE” ที่ห้องประชุมเมย์แฟร์ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ถนนราชปรารภ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยนายกฯประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งยกเลิกภารกิจงานต่างๆนอกทำเนียบรัฐบาล และภารกิจลงพื้นที่ต่างจังหวัดสุดสัปดาห์นี้ รวมถึงวันที่ 26 พ.ย.ยกเลิกเดินทางเยือนเมืองปูตราจายา และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อย่างเป็นทางการ เพื่ออยู่มอนิเตอร์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา ที่ทำเนียบรัฐบาลประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค.ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เรียกสมัยประชุมวิสามัญรัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ทั้งนี้เนื่องจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญกำหนดว่า หลังการพิจารณาในวาระที่ 2 แล้ว ต้องเว้นระยะเวลา 15 วัน จึงจะสามารถพิจารณาในวาระที่ 3 ได้ การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 ธ.ค. อาจจะไม่ทันช่วงปีใหม่ โดยที่ต้องเว้นวรรคไป 15 วัน จึงมีการขอร่าง พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสมัยวิสามัญ วันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อให้รัฐสภาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จทันตามไทม์ไลน์ที่กำหนดปัดขู่ พท.เชื่อยุบสภาเมื่อ MOA เสร็จเมื่อเวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ระบุให้รอดูสัญญาณวันที่ 12 ธ.ค. มีการตีความว่าอาจยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค.69 ว่าหากมองว่าเป็นเรื่องการขู่อภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย (พท.) ตนว่าไม่ใช่ คิดว่าเราพร้อมอภิปราย ส่วนตัวไม่มีอะไรกังวลต่อการซักฟอก และเชื่อว่านายกฯก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล จึงไม่ใช่ประกาศด้วยเหตุผลดังกล่าว แต่มุมมองของตนหากเราทำทุกอย่างเสร็จสิ้นภายใต้ MOA การคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้วสถานการณ์ปัจจุบันเราต้องเร่งทำทุกอย่างแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อน และท้ายที่สุดอำนาจอยู่ที่นายกฯ เมื่อถามว่าแบบนี้เป็นไปได้สูงที่จะยุบสภาวันที่ 31 ม.ค.69 ตามกรอบ MOA หรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งหมด แต่ถ้าจะยุบ เชื่อว่าเราต้องมั่นใจว่าทำตามกรอบ MOA และอยากคืนอำนาจให้กับประชาชนสว.สังหรณ์ใจแก้ รธน.ล่มก่อนวาระ 3ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวถึงการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า เนื้อหาที่พิจารณาในชั้น กมธ.พอไปได้ แต่จะไปได้สมบูรณ์แบบที่ตั้งธงกันไว้หรือไม่ต้องรอดูอีกที ยังมีข้อขัดแย้งใน กมธ.ไปคนละทาง ต้องสงวนความเห็นนำไปพิจารณาวาระ 2 จำนวนมาก เชื่อว่าวาระ 2 จะยืดเยื้อยาวนาน ต้องสู้กันระหว่างความเห็น กมธ.พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย กลุ่ม สว.เสียงส่วนใหญ่ที่เห็นไปทางเดียวกัน กับเสียง กมธ.พรรคเพื่อไทยที่เห็นต่าง ไม่รู้จะมีข้อยุติในวาระ 3 ได้หรือไม่ เป็นห่วงว่าเมื่อถึงที่สุดแล้ว สว.อาจลงมติให้ไม่ผ่านตามสัดส่วนที่รัฐธรรมนูญกำหนด และหลังพิจารณาวาระ 2 ต้องพักไว้ 15 วัน เป็นห้วงอันตรายสังหรณ์ใจอาจล่มก่อนวาระ 3 ได้ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่มีร่องรอยทำให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐธรรมนูญนี้แก้ไม่ได้ ต้องรัฐประหาร แต่อยากให้ผ่านไปได้ให้นำไปสู่การตั้งคำถามประชามติในประเด็นที่สอง เมื่อถามว่าประเด็นใดส่อว่า สว.อาจไม่ให้ความเห็นชอบ นพ.เปรมศักดิ์ตอบว่า เช่น คุณสมบัติผู้ทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 35 คน เกณฑ์การออกเสียงเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญที่ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญทำเสร็จ ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะใช้เกณฑ์ สว.เห็นชอบ 1 ใน 3 หรือไม่ เป็นต้นซัดเร่งเลือก ปธ.กกต.หวังล้มคดีฮั้ว สว.เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา กลุ่ม สว.สำรองนำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ยื่นหนังสือถึงนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ขอให้เลขาธิการสำนักงานวุฒิสภาทบทวนการนำชื่อนายณรงค์กลั่นวารินทร์ ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุม กกต.เป็นประธาน กกต.คนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ เนื่องจากมีขั้นตอนการเลือกไม่ถูกต้อง โดย นพ.เปรมศักด์กล่าวว่า การเลือกประธาน กกต.คนใหม่เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ไม่ถูกต้อง มี กกต. 2 คน คือนายณรงค์ รักร้อย และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ แม้ได้รับเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง กกต. แต่ยังไม่ได้รับโปรดเกล้าฯจึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุม กกต.เลือกนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ เป็นประธาน กกต.ได้ มี 2 ประเด็นน่าสงสัยเร่งรีบดำเนินการเพื่ออาศัยเสียง กกต.ชุดใหม่ คือ 1.คดีฮั้ว สว.ที่จะเข้าสู่ประชุม กกต.วันที่ 15 ธ.ค. หากเปลี่ยนแปลง กกต.ก่อนวันดังกล่าวจะเป็นเหตุให้พลิกคดีหรือไม่ เพราะสำนวนคดีก่อนหน้านี้แน่นหนาว่าทำความผิด แต่ถ้าเปลี่ยน กกต.อาจพลิกหรือเป่าคดีเป็นมวยล้มหรือไม่ 2.ให้ กกต.เตรียมพร้อมรับเลือกตั้ง หลังจากนายกฯเร่งระดม สส.เข้าพรรค เพราะนายกฯบอกพร้อมยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. การเลือกประธาน กกต.คนใหม่ เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ร้องต่อ ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ แต่ผู้ยื่นร้องต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงคือผู้ได้รับผลกระทบจากการเลือกประธาน กกต.คนใหม่จี้วุฒิสภาทบทวนนำขึ้นทูลเกล้าฯพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ขอให้ทบทวนการนำชื่อนายณรงค์ขึ้นทูลเกล้าฯเป็นประธาน กกต. เพราะดำเนินการไม่ถูกต้อง เนื่องจากการเลือกประธาน กกต. วันที่ 18 พ.ย. นายณรงค์ รักร้อยกับนายอนันต์ยังไม่สามารถทำหน้าที่ กกต.ได้ ในขณะนั้นนายอิทธิพร บุญประคอง ยังปฏิบัติหน้าที่ประธาน กกต.อยู่ ยังไม่พ้นวาระ กกต.ใหม่ทั้ง 2 คนยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ควรให้นายอิทธิพรพ้นตำแหน่งประธาน กกต.อย่างเป็นทางการก่อน ค่อยเลือกประธาน กกต.คนใหม่“นิกรเดช” เป็นเอกอัครราชทูตกรุงปารีสเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯแถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่ รมว.ต่างประเทศ เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง 9 ราย ดังนี้ 1.นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส 2.นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว 3. นายพิชิต บุญสุด เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก 4.นายศิระ สว่างศิลป์ เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ 5.นายทรงชัย ชัยปฏิยุทธ เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต รัฐคูเวต 6.นายมงคล วิศิษฏ์สตัมภ์ ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ 7.นายดามพ์ บุญธรรม ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา แคนาดา 8.นายพงศ์ปราชญ์ มากแจ้ง เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และ 9.นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ เป็นเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรี เบกาวัน เนการาบรูไนดารุสซาลามศาลยกฟ้อง “ชูวิทย์” ต้านกัญชาเสรี ภท.เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ 1225/2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มอบอำนาจให้นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯโจทก์ฟ้องว่าวันที่ 2 พ.ค.66 จำเลยบังอาจตั้งโต๊ะแถลงข่าวข้างเวทีปราศรัยชั่วคราว ณ ลานกีฬาแฟลตดินแดง ใช้โทรโข่งและแจกเสื้อให้แก่ประชาชน ได้จูงใจให้ประชาชนทั่วไปงดเว้นการลงคะแนนในการเลือก สส. สังกัดของโจทก์ โจมตีข้อความเท็จอันเป็นด้วยโทรโข่ง อาทิ เฮ้ย! ไม่จริง ไม่จริงอย่าไปฟัง ไอ้หนูโกหก อย่าไปฟัง ไอ้นโยบายบ้ากัญชาและมีป้ายไวนิล ข้อความอันเป็นเท็จศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเป็นประชาชนที่ให้ความสนใจ ปัญหาของเยาวชนไม่เห็นด้วยกับการปราศรัยนโยบายกัญชาเสรี ว่าเป็นสิ่งที่หลอกลวงประชาชน มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงได้ต่อต้านไม่ให้เลือกพรรคที่สนับสนุนการทำกัญชาเสรี จำเลยจึงแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตแม้ถ้อยคำโจมตีนโยบายของโจทก์จะร้ายแรงอยู่บ้างแต่ว่าโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะต้องยอมรับคำติชม ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ส่วนที่มีคำฟ้องตามกฎหมายว่า จำเลยทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง มาตรา 73 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใดๆ ศาลพิจารณาแล้ว ส่วนการที่จำเลยเดินหน้าแจกเสื้อ สติกเกอร์ เข็มกลัดต่อต้านนโยบายกัญชาเสรีเป็นการแจกโดยเปิดเผยไม่ได้ทุจริตในการเลือกตั้งเพียงแต่ต่อต้านนโยบายของพรรคโจทก์เท่านั้น และไม่ปรากฏว่าประชาชนจะเกิดความหวาดกลัวหรือมีความรู้สึกถูกบังคับขู่เข็ญให้เข้าใจ จำเลยจึงไม่มีความผิดในส่วนนี้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่