เส้นทางการเมืองของ คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พรรคหัวหอกของฝ่ายก้าวหน้า พาไปสำรวจตัวตน แนวความคิด วิสัยทัศน์ ที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ นำพาพรรคไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2569กับตำแหน่ง ผู้ทรงอิทธิพลการเมือง ที่นิตยสาร TIME จัดลําดับ 100 Next ที่เพิ่งประกาศไป “คนที่ผมรู้สึกขอบคุณ ก็คือบุคคลรอบตัวผมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล จนถึงพรรคประชาชน ด้วยสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมา...ทุกคนที่ทําให้เราเดินทางร่วมกันถึงวันนี้ได้”คุณณัฐพงษ์ ย้อนถึงการเดินทางตั้งแต่วันแรกที่ลง สส.เขต ในนามพรรคอนาคตใหม่ “คุณพ่อเองก็ยังไม่ลงคะแนนให้ลูกชาย พรรคของลูกชายตัวเอง เพราะเจอการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ กลัวว่ากาอนาคตใหม่แล้วคะแนนจะตกนํ้า เพราะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว เลยกาให้กับพรรคเพื่อไทยแทน ณ ตอนนั้น” ตั้งแต่วันแรกที่มายื่นใบสมัคร ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นทั้งโชคชะตา และระบบการเมืองที่ยังไม่ดีพอ ถามตัวเองว่าวันนี้พร้อมไหม พร้อมนะครับ พร้อมทําหน้าที่ แล้วก็เชื่อในทีมงานทุกคน องค์ความรู้ของพรรคทุกคน ถ้าปี่กลองเลือกตั้งดังขึ้น จะเป็นหนึ่งในทีมงานที่ดีที่สุดเช่นกันณ วันที่ต้องตัดสินใจเลือก คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ พรรคประชาชนน่าจะเป็นพรรคแรกๆ ที่การตัดสินใจใหญ่ๆแบบนี้ มีการสอบถามสมาชิกพรรคที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงก่อน ผลตอบรับที่ได้สองหมื่นกว่าคน จากหนึ่งแสนคน เสียงส่วนใหญ่สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับผู้บริหาร และ สส.ที่ลงมติไป เพื่อเปิดประตูสู่การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดกับอีกเรื่องจาก สถานการณ์ไทย–กัมพูชา ทําให้กระแสชาตินิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่กลายเป็นเครื่องมือที่พรรคคู่แข่งหยิบขึ้นมาทําลายอีกพรรค หลัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยพูดคําว่า “ทหารมีไว้ทําไม รบกับใครก็ไม่ชนะ” แต่ ณัฐพงษ์ ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา พร้อมกับย้ำจุดยืนว่า “ทหารมีไว้เพื่อปกป้องประเทศ ไม่ได้มีไว้เพื่อปกครองประเทศ”เมื่อพิธีกรถามถึงแคมเปญการเลือกตั้ง 2569 หัวหน้าพรรคประชาชนขออุบไว้ก่อน รอปี่กลองเลือกตั้งดังถึงจะเปิดออกมา...นอกจากนโยบายที่จะมีการพัฒนาต่อยอดสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาปากท้องแล้ว ทีมบริหารที่ถ้าเปิดออกมา ทุกคนให้การยอมรับแน่นอน บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีความรู้ความสามารถในแต่ละวงการ มีทั้ง นักวิชาการ อาจารย์ อดีตข้าราชการ นักธุรกิจ ผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่ ถ้าในกรณีที่เราชนะการเลือกตั้งจนเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นี่คือโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี สำหรับแคนดิเดตนายกฯ จะมีมากกว่าหนึ่งคน คนที่ส่งไม่ใช่กล่องสุ่มแน่นอน ความหมายคือใครอันดับหนึ่ง อันดับสอง อันดับสาม ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องอยู่เบอร์หนึ่งอยู่แล้ว บางส่วนทาบทามแล้ว บางส่วนยังอยู่ระหว่างเจรจา ยังไม่อยากให้เป็นตัวเลขว่าครบสาม หรือไม่ครบสาม แต่มากกว่าหนึ่งตัวเลขเป้าหมาย เรามุ่งหวังจาก 14 ล้านเสียง ขยับมาเป็น 20 ล้านเสียง ประมาณครึ่งหนึ่งของคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด่านแรก ต้องยืนยันในหลักความชอบธรรมก่อน หากได้คะแนนเสียงจากประชาชนเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะปฏิเสธยากขึ้นที่การเลือกตั้งครั้งหน้า เราถูกกีดกันส่วนตัว ณ ตอนนี้ มองว่าสิ่งเดียวที่ขวางกั้นไม่ให้พรรคประชาชนบริหารประเทศในอนาคตได้ ก็คือการกระทําของพวกเราเอง พูดง่ายๆ “อย่าเอาปืนยิงเท้าตัวเอง” คือปัญหาด้านการสื่อสารของคนในพรรค ที่พูดออกไปแล้วทําให้เกิดความไม่สบายใจกับประชาชนบางส่วน เป็นสิ่งที่เราพูดคุยกัน พยายามปรับปรุงกระบวนการสื่อสารตลอดเชื่อว่าพรรคประชาชนในปัจจุบัน เราเริ่มกลมกล่อมมากขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น จากเดิมคนอาจมองว่าเราเป็นพรรคเด็กหัวร้อน พูดเชิงปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างเดียว มุ่งทําลายระบบเก่าอย่างเดียว แต่ตอนนี้ Core Value ตรงนั้น คุณค่าพื้นฐานเรายังอยู่ แต่การแสดงออกของเราจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้นส่วนเรื่อง มาตรา 112 พรรคยังมองว่ากฎหมายฉบับนี้มีปัญหาบางส่วนที่ยังต้องแก้ไข เช่น เรื่องโทษขั้นต่ำ เราทราบดีว่าการจะเสนอเรื่องนี้เป็นนโยบายรัฐบาล แทบจะปิดประตูไปแล้ว พรรคอื่นๆ ไม่น่ามีใครเอา แต่ไม่ได้หยุดขับเคลื่อนหรือรณรงค์ เพียงแต่ไม่เอามาเป็นเงื่อนไขใช้ฟอร์มรัฐบาลหากถามว่าถ้าวันนี้ไม่ได้เล่นการเมือง จะทําอะไร คงทําธุรกิจตัวเองต่อ เมื่อก่อนมีความฝันว่า อยากสร้างบริษัทหนึ่ง เป็น Google ประเทศไทย “ผมเองอยากจะได้รับการจดจำ ที่วันนี้เราอยู่ในฐานะนักการเมืองที่มีโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ อยากจะถูกจดจำว่า ผมเองคือคนหนึ่งที่สร้างระบบการเมืองที่ดีขึ้นให้กับประเทศได้”สําหรับผม Digital Government เป็นอดีตในโลกอนาคต แน่นอน สิ่งที่ไปไกลกว่านั้น เราอยากเปลี่ยน “รัฐกระดาษ” เป็น “รัฐแพลตฟอร์ม” สิ่งที่รัฐต้องทําคือต้องแปลงบริการของรัฐ ขึ้นไปอยู่ในโลกออนไลน์ ให้ประชาชนใช้งานโดยสะดวก ทําให้เป็น “รัฐแพลตฟอร์ม” ที่ประชาชนและทุกธุรกิจใช้ฟรี เพิ่มมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเชื่อว่ามันเป็นโลกในยุคถัดไป ที่มากกว่าคำว่า Digital Government คือเราต้องแปลงประเทศของเรา รัฐของเรา ให้เป็นรัฐแพลตฟอร์มให้ได้ติดตามได้ที่รายการ Thairath Front Page ทางช่อง YouTube ช่อง Thairath TV Original ออกอากาศเวลา 14.30 น. วันพุธที่ 5 พ.ย.นี้ และทุกวันพุธต้นเดือน.อ่านบทความ “Thairath Front Page” เพิ่มเติม